ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จะเกลียดเธอดีไหม(นะ)

    ลำดับตอนที่ #9 : คนใจแข็ง

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 47


    “พรุ่งนี้ไปกระบี่กันไหมลูก”

    บิดาของพิมพ์ปรีดาชวนบุตรสาว

        “กระบี่เหรอคะ”  เธอทวนคำอย่างเลื่อนลอย  พลางนึกถึงความทรงจำต่างๆในอดีต  “กระบี่”คำนี้ช่างมีความหมายกับเธอเหลือเกิน  สถานที่แห่งความทรงจำ  ที่เริ่มต้นด้วยการก่อเกิดมิตรภาพ  ความรัก  ความสุข  แต่ลงเอยด้วยความทุกข์  ความเจ็บปวดทรมานและน้ำตา  บิดาคงสังเกตปฏิกิริยาของบุตรสาว  จึงได้ระงับคำถามไว้ก่อน  ลุกขึ้นมาประคองบุตรสาวไปนอน

        “ไปนอนเถอะ  ลูกดูเพลียมาก  คงจะทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวัน”

        พิมพ์ปรีดาเพิ่งรู้สึกตัวได้  เธอสบตาสายตาอันอบอุ่นที่ส่งมาจากบิดา  รอยยิ้มอย่างฝืนที่สุดผุดขึ้นมาที่ริมฝีปากของเธอ  ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

        “ค่ะ  พ่อ”

        พิมพ์ปรีดาทิ้งตัวลงบนเตียง  หลับตาลงช้าๆ  ก่อนจะปล่อยความคิดของเธอให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล  คิดถึงอดีต  ปัจจุบัน  และอนาคต  เหมือนฉากละครที่วนเวียนสลับไปมา  บางครั้ง  เธอเองก็อยากจะเป็นผู้กำกับละครเรื่องนี้ด้วยตนเอง  อยากให้ตอนจบงดงามอย่างที่เธอวาดไว้  แต่มันช่างยากเหลือเกิน  เพราะในความเป็นจริงแล้ว  บิดาและบริษัทพาวเวอร์ จำกัดต่างหาก  ที่เป็นหนทางเดินในชีวิตของเธอ  ไม่ใช่ร้านกาแฟเล็กๆริมถนนร้านนั้น  ไม่ใช่บ้านพักอันอบอุ่นริมหาด……ไม่ใช่เลย

        “นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวครับพี่”

        “ไม่มีอะไรหรอก  พี่แค่นอนไม่ค่อยหลับ”

        “ก็นั่นแหละครับ  พี่มีเรื่องกลุ้มใจอะไร  บอกผมได้  แต่ผมก็พอจะรู้นะครับว่าพี่กำลังกลุ้มใจเรื่องอะไร”

        “ทำเป็นรู้ดี  ไหนลองว่ามาซิ”

        “เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมครับ”

        “คนไหน”

        “โธ่พี่  อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย  ก็คนที่ออกจากร้านเป็นคนสุดท้ายไงครรับ”

        “ไม่มีอะไรนี่  พี่ก็แค่ไปปลุกเขา  เพราะเห็นเขาหลับไปก็เท่านั้น”

        “ไม่จริงหรอกครับ  ผมเห็นแววตาพี่กับเขา  ก็พอจะเดาออกนะว่าอะไรเป็นอะไร  โกรธกันไปก็เท่านั้น  ปรับความเข้าใจกันซะดีกว่า  จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์ทั้ง2ฝ่าย”

        “เธอไม่รู้อะไรหรอก เขาทำในสิ่งที่พี่ยากจะอภัยให้”

        “สำหรับคำว่า ความรัก  มันไม่มีคำว่าอภัยกันไม่ได้หรอกครับ  ลองคิดทบทวนดูให้ดี  ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป”

        เด็กหนุ่มคนนั้นเอ่ยทิ้งท้ายไว้  ก่อนจะเข้าไปนอน  ทำให้พิพัฒน์ต้องคิดหนัก  แต่สุดท้าย  เขาก็ได้แต่รำพึงกับตัวเองว่า

        “ถึงผมจะรักคุณมากแค่ไหน  แต่ผมก็ไม่ควรลืมว่าผมต้องรักพ่อแม่ผมเหมือนกัน  คุณทำให้ครอบครัวผมพังพินาศ  พ่อแม่ผมต้องทำงานหนัก  ทุกสิ่งทุกอย่างต้องนับหนึ่งใหม่  แต่ความครัวกลับร่ำรวยขึ้นหลายเท่าจากการโกงคนอื่น  ผมคงให้อภัยคุณไม่ได้  ผมคงไม่ได้คิดผิดใช่ไหม”

    …………………………………………………………………………………………………….

        ร่างสูงระหงเยื้องย่างลงมาจากบันไดชั้นบน  พบว่าบิดากำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโต๊ะอาหาร  มือหนึ่งกางหนังสือพิมพ์  อีกมือถือถ้วยกาแฟ  อันเป็นภาพที่หล่อนเห็นจนชินตา  มาดนักธุรกิจใหญ่  ที่ทุกวินาทีของชีวิตเป็นเงินเป็นทองไปหมด

        “วันนี้ไม่ไปกระบี่เหรอคะ  คุณพ่อ”

        บิดาวางถ้วยกาแฟและหนังสือพิมพ์ลง  เบือนหน้ามาทางเจ้าของเสียงนั้น

        “พ่อนึกว่าลูกไม่อยากไป  เอ้อ!  วันนี้ไปทานข้าวกลางวันข้างนอกกันสักมื้อดีไหม”

        “เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ”  เธอโค้งตัวลงอย่างงดงาม  ก่อนจะมานั่งลงข้างๆบิดา  สาวใช้ตักข้าวต้มปลาร้อนๆให้เธอ  พิมพ์ปรีดาลงมือทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย  อีกทางหนึ่ง ไข่เจียวสองฟองถูกโยนลงในกระทะอย่างรีบเร่ง  ชายหนุ่มหน้าคมเข้ม  สวมผ้ากันเปื้อน  อยู่ในมาดพ่อครัวเต็มตัว  กำลังกระวีกระวาดเตรียมอาหารเช้าให้กับตนเองและลูกจ้างอีกคน  ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพื่อนของเขา

        “จัดร้านเสร็จแล้วครับ”  ลูกจ้างคนนั้นชะโงกหน้าเข้ามาบอก

        “ดีมากโป้ง  มากินข้าวเช้ากัน  จะได้รีบไปเปิดร้าน  เดี๋ยวลูกค้าก็คงมากันแล้ว”

        “ขอบคุณครับ”

        เด็กหนุ่มนั่งลง  และทานอาหารทันทีอย่างรีบเร่ง  ตามแบบฉบับของคนทำงานแข่งกับเวลา  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามบุคคลที่นั่งอยู่ตรงข้ามว่า

        “พี่คิดได้หรือยังครับ  เรื่องที่ผมบอกเมื่อคืน”

        ฝ่ายที่ถูกถามดูจะชะงักเล็กน้อย  แต่ก็พยักหน้ารับ  ก่อนจะทานอาหารต่อไปโดยไม่สนใจอะไรอีก”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×