ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่9
    ตอนที่9
เสียงประกาศจากไมค์บนเวที  คงไม่ดังพอที่จะให้ปาณรวัฐได้ยิน  ดังนั้น  จอร์จจึงต้องมาตามเขาเข้าไปในงาน
    “นายยังมีงานที่ต้องทำนะ  พิธีกรเขาเชิญขึ้นไปอธิบายภาพที่นายได้รับบนเวทีด้วย  แล้วไหนคุณปราลีล่ะ”
    “คงจะอยู่ในห้องมั้ง  ขาเขาบาดเจ็บ”
    “ล่าสมบัติอะไรกันรุนแรงขนาดนี้  งั้นนายคงต้องฉายเดี่ยวแล้วล่ะ”  จอร์จพูดพลางเดินนำเข้าไปในงาน
    ปาณรวัฐเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆ  ท่าทางงามสง่า  ต้องตาหญิงสาวหลายคนที่กำลังรอฟังอยู่เบื้องล่าง  ดวงตาที่ฉายแววเศร้าสร้อย  ยิ่งเสริมความเด่นบนใบหน้าคมให้น่ามองไปอีกแบบ  เขาโชว์แผ่นกระดาษสองแผ่นซึ่งต่อเป็นรูปหัวใจเพียงครึ่งดวง    อีกสองแผ่นวางอยู่ข้างตัว  เนื่องจากมือแค่สองมือถือไม่พอ  แล้วเราก็เริ่มอธิบายความหมายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง
    “รูปที่เห็นอยู่นี้  คือรูปหัวใจครับ  บางท่านอาจจะมองไม่ค่อยออก  เพราะมันมีอยู่แค่ครึ่งเดียว  เหมือนกับใจผมซึ่งตอนนี้มีอยู่ครึ่งดวง  กำลังรอใครสักคนมาเติมเต็มอยู่”
    เสียงปรบมือโห่ร้องชอบใจดังมาจากผู้ชม  บางคนถึงกับส่งเสียงแซวว่า
    “แล้วคนที่ไปด้วยกันล่ะ  ช่วยเติมใจให้ไม่ได้เหรอ”
    ปาณรวัฐหันไปทางต้นเสียงนั้น  แล้วกล่าวตอบ
    “ตอนแรกผมก็คิดว่าได้  แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า  เธอคงจะอยากไปเติมใจให้คนอื่นมากกว่า  ภาพหัวใจที่ควรจะครบสมบูรณ์  ควรจะมาจากจิตใจของคน2คนที่รวมกัน  ก็เลยต้องเหลือแค่ครึ่งเดียว  เพราะว่าผม.....ผม....รู้สึกดีๆกับเธอแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง
    สิ้นเสียงพูด  เขาก็เดินลงจากเวที  หายลับไปอีกทาง  คนที่เขากำลังพูดถึง  นอนสลบไสลด้วยความเหน็ดเหนื่อยบนที่พัก  ไม่มีโอกาสมารับรู้ความในใจของเขาเลย
    อากาศยามเช้าสดใสอีกเช่นเคย  วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่ายแล้ว  หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย  นักเรียนทุกคนจึงมารวมตัวกันในห้องโถงซึ่งบัดนี้สะอาดเรียบร้อย  ไม่เหลือร่องรอยของการจัดงานเมื่อคืน  เช้านี้  จะมีกิจกรรมสนุกๆ  เช่น  การเล่นเกม  ร้องเพลง  เต้น  ซึ่งจะจัดในบริเวณนี้  ทุกคนจึงไม่ต้องออกเดินทางสมบุกสมบันในป่าดังเช่นเมื่อวาน
    ถึงปราลีจะมีเอริค  หนุ่มซึ่งบรรดาสาวๆโหวตให้ว่าหล่อที่สุดในค่าย  มาตามประจบเอาไม่ห่าง  แต่สายตาของเธอก็ยังอดมองหาบุคคลอีกคนไม่ได้  เขาหายหน้าไปตั้งแต่เมื่อคืน  ตั้งแต่ตอนที่เธอบอกให้เขาไปพักผ่อนนั่นแหละ  ตอนเช้าก็ไม่ลงมาทานอาหารเช้ากับคนอื่นๆ  เอ๊ะ!หรือว่าเขาจะไม่สบาย  ปราลีนึกเป็นห่วงไปเรื่อย  โดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่า  คิ้วทั้งสองของเธอเริ่มขมวดเข้าหากัน
    “หาใครอยู่ครับ  ปราลี”  เอริคเอียงหน้ามาถามอย่างสงสัย
    “ปล่าวค่ะ”  ถึงเธอจะตอบเช่นกัน  แต่สายตาของเธอก็ยังเหลือบมองไปทางโน้นทางนี้บ่อยๆ  ไม่จดจ่ออยู่กับเกมทายคำ  ซึ่งเธอกำลังเล่นกับเอริคอยู่ตอนนี้
    “ถ้าคนที่คนคุณกำลังมองหา  คือคนที่คุณอยู่ด้วยเมื่องาน  เขากลับไปแล้วล่ะครับ”
    “เมื่อไหร่คะ  ทำไมไม่บอกฉันก่อน”
    “ตั้งแต่เมื่อคืนน่ะครับ  อยู่ๆก็ขอตัวกลับตั้งแต่งานยังไม่เลิกด้วยซ้ำ”
    คิ้วของปราลีขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม  ความเป็นห่วงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความน้อยอกน้อยใจ  เขาเป็นบัดดี้ของเธอแท้ๆเลย  จะกลับก็ไม่เห็นบอกอะไรสักคำ  เธอไม่สำคัญในสายตาเขาเลยใช่มั้ย  แต่อีกเสียงหนึ่งก็ถามขึ้นในใจ  แล้วเธออยากสำคัญขนาดไหนในสายตาเขาล่ะ
    เช้าวันใหม่มาเยือน  แสงสีทองของดวงอาทิตย์จับใบหน้านวลผ่องของปราลีจนกลายเป็นสีจัด  เหงื่อเกาะพราวที่หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง  แต่เท้าทั้งสองของเธอก็ยังไม่หยุดวิ่ง  วันแรกของสัปดาห์  ก็มาเรียนสายซะแล้ว  จนกระทั่งผ่านบอร์ดในห้องโถงซึ่งมีคนมุงดูเต็มไปหมด  ด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็น  เธอจึงแทรกตัวเข้าไประหว่างกลุ่มคนเหล่านั้น  ภาพความประทับใจจากค่ายEng  พร้อมทั้งคำแซวติดหราอยู่บนนั้น
    “มีแฟนก็ไม่บอกกันบ้างเลยนะยาปา”
    เสียงแจ้วๆของกุ๊กไก่ดังมาจากด้านซ้ายของบอร์ด  ปราลีหันมองตามเสียง  ก็เห็นเจ้าหล่อนยืนยิ้มอย่างเบิกบานพลางชี้มือไปยังภาพถ่าย  ปราลีเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็ต้องผงะ  ภาพเธอกับเอริคในอิริยาบถต่างๆ4-5ภาพ  มองแล้วก็ชวนให้รู้สึกว่าเธอสนิทกับเอริคไม่น้อยทีเดียว
    “มันก็แค่...............................”
    ปราลีกำลังจะแก้ตัวกับเพื่อนสาว  แต่สายพลันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเพิ่งผละจากบอร์ดไป  ทำให้คำพูดของหล่อนขาดหายไป  เขาจะเห็นภาพเราไหม  เขาจะคิดยังไง  เขาจะเข้าใจผิดหรือเปล่า  เราควรอธิบายให้เขาฟังดีไหม  แต่คำถามมากมายภายในใจของปราลี  ก็ล้วนหาคำตอบไม่ได้ทั้งสิ้น
เสียงประกาศจากไมค์บนเวที  คงไม่ดังพอที่จะให้ปาณรวัฐได้ยิน  ดังนั้น  จอร์จจึงต้องมาตามเขาเข้าไปในงาน
    “นายยังมีงานที่ต้องทำนะ  พิธีกรเขาเชิญขึ้นไปอธิบายภาพที่นายได้รับบนเวทีด้วย  แล้วไหนคุณปราลีล่ะ”
    “คงจะอยู่ในห้องมั้ง  ขาเขาบาดเจ็บ”
    “ล่าสมบัติอะไรกันรุนแรงขนาดนี้  งั้นนายคงต้องฉายเดี่ยวแล้วล่ะ”  จอร์จพูดพลางเดินนำเข้าไปในงาน
    ปาณรวัฐเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆ  ท่าทางงามสง่า  ต้องตาหญิงสาวหลายคนที่กำลังรอฟังอยู่เบื้องล่าง  ดวงตาที่ฉายแววเศร้าสร้อย  ยิ่งเสริมความเด่นบนใบหน้าคมให้น่ามองไปอีกแบบ  เขาโชว์แผ่นกระดาษสองแผ่นซึ่งต่อเป็นรูปหัวใจเพียงครึ่งดวง    อีกสองแผ่นวางอยู่ข้างตัว  เนื่องจากมือแค่สองมือถือไม่พอ  แล้วเราก็เริ่มอธิบายความหมายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง
    “รูปที่เห็นอยู่นี้  คือรูปหัวใจครับ  บางท่านอาจจะมองไม่ค่อยออก  เพราะมันมีอยู่แค่ครึ่งเดียว  เหมือนกับใจผมซึ่งตอนนี้มีอยู่ครึ่งดวง  กำลังรอใครสักคนมาเติมเต็มอยู่”
    เสียงปรบมือโห่ร้องชอบใจดังมาจากผู้ชม  บางคนถึงกับส่งเสียงแซวว่า
    “แล้วคนที่ไปด้วยกันล่ะ  ช่วยเติมใจให้ไม่ได้เหรอ”
    ปาณรวัฐหันไปทางต้นเสียงนั้น  แล้วกล่าวตอบ
    “ตอนแรกผมก็คิดว่าได้  แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า  เธอคงจะอยากไปเติมใจให้คนอื่นมากกว่า  ภาพหัวใจที่ควรจะครบสมบูรณ์  ควรจะมาจากจิตใจของคน2คนที่รวมกัน  ก็เลยต้องเหลือแค่ครึ่งเดียว  เพราะว่าผม.....ผม....รู้สึกดีๆกับเธอแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง
    สิ้นเสียงพูด  เขาก็เดินลงจากเวที  หายลับไปอีกทาง  คนที่เขากำลังพูดถึง  นอนสลบไสลด้วยความเหน็ดเหนื่อยบนที่พัก  ไม่มีโอกาสมารับรู้ความในใจของเขาเลย
    อากาศยามเช้าสดใสอีกเช่นเคย  วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่ายแล้ว  หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย  นักเรียนทุกคนจึงมารวมตัวกันในห้องโถงซึ่งบัดนี้สะอาดเรียบร้อย  ไม่เหลือร่องรอยของการจัดงานเมื่อคืน  เช้านี้  จะมีกิจกรรมสนุกๆ  เช่น  การเล่นเกม  ร้องเพลง  เต้น  ซึ่งจะจัดในบริเวณนี้  ทุกคนจึงไม่ต้องออกเดินทางสมบุกสมบันในป่าดังเช่นเมื่อวาน
    ถึงปราลีจะมีเอริค  หนุ่มซึ่งบรรดาสาวๆโหวตให้ว่าหล่อที่สุดในค่าย  มาตามประจบเอาไม่ห่าง  แต่สายตาของเธอก็ยังอดมองหาบุคคลอีกคนไม่ได้  เขาหายหน้าไปตั้งแต่เมื่อคืน  ตั้งแต่ตอนที่เธอบอกให้เขาไปพักผ่อนนั่นแหละ  ตอนเช้าก็ไม่ลงมาทานอาหารเช้ากับคนอื่นๆ  เอ๊ะ!หรือว่าเขาจะไม่สบาย  ปราลีนึกเป็นห่วงไปเรื่อย  โดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่า  คิ้วทั้งสองของเธอเริ่มขมวดเข้าหากัน
    “หาใครอยู่ครับ  ปราลี”  เอริคเอียงหน้ามาถามอย่างสงสัย
    “ปล่าวค่ะ”  ถึงเธอจะตอบเช่นกัน  แต่สายตาของเธอก็ยังเหลือบมองไปทางโน้นทางนี้บ่อยๆ  ไม่จดจ่ออยู่กับเกมทายคำ  ซึ่งเธอกำลังเล่นกับเอริคอยู่ตอนนี้
    “ถ้าคนที่คนคุณกำลังมองหา  คือคนที่คุณอยู่ด้วยเมื่องาน  เขากลับไปแล้วล่ะครับ”
    “เมื่อไหร่คะ  ทำไมไม่บอกฉันก่อน”
    “ตั้งแต่เมื่อคืนน่ะครับ  อยู่ๆก็ขอตัวกลับตั้งแต่งานยังไม่เลิกด้วยซ้ำ”
    คิ้วของปราลีขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม  ความเป็นห่วงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความน้อยอกน้อยใจ  เขาเป็นบัดดี้ของเธอแท้ๆเลย  จะกลับก็ไม่เห็นบอกอะไรสักคำ  เธอไม่สำคัญในสายตาเขาเลยใช่มั้ย  แต่อีกเสียงหนึ่งก็ถามขึ้นในใจ  แล้วเธออยากสำคัญขนาดไหนในสายตาเขาล่ะ
    เช้าวันใหม่มาเยือน  แสงสีทองของดวงอาทิตย์จับใบหน้านวลผ่องของปราลีจนกลายเป็นสีจัด  เหงื่อเกาะพราวที่หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง  แต่เท้าทั้งสองของเธอก็ยังไม่หยุดวิ่ง  วันแรกของสัปดาห์  ก็มาเรียนสายซะแล้ว  จนกระทั่งผ่านบอร์ดในห้องโถงซึ่งมีคนมุงดูเต็มไปหมด  ด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็น  เธอจึงแทรกตัวเข้าไประหว่างกลุ่มคนเหล่านั้น  ภาพความประทับใจจากค่ายEng  พร้อมทั้งคำแซวติดหราอยู่บนนั้น
    “มีแฟนก็ไม่บอกกันบ้างเลยนะยาปา”
    เสียงแจ้วๆของกุ๊กไก่ดังมาจากด้านซ้ายของบอร์ด  ปราลีหันมองตามเสียง  ก็เห็นเจ้าหล่อนยืนยิ้มอย่างเบิกบานพลางชี้มือไปยังภาพถ่าย  ปราลีเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็ต้องผงะ  ภาพเธอกับเอริคในอิริยาบถต่างๆ4-5ภาพ  มองแล้วก็ชวนให้รู้สึกว่าเธอสนิทกับเอริคไม่น้อยทีเดียว
    “มันก็แค่...............................”
    ปราลีกำลังจะแก้ตัวกับเพื่อนสาว  แต่สายพลันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเพิ่งผละจากบอร์ดไป  ทำให้คำพูดของหล่อนขาดหายไป  เขาจะเห็นภาพเราไหม  เขาจะคิดยังไง  เขาจะเข้าใจผิดหรือเปล่า  เราควรอธิบายให้เขาฟังดีไหม  แต่คำถามมากมายภายในใจของปราลี  ก็ล้วนหาคำตอบไม่ได้ทั้งสิ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น