ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จะเกลียดเธอดีไหม(นะ)

    ลำดับตอนที่ #4 : ความจริงบางอย่าง

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 47


    ตอนที่๔

        ภายในร้านกาแฟที่หรูหรา  พิพัฒน์กำลังนั่งรอพบแขกคนสำคัญ  รองประธานบริษัท พาวเวอร์ จำกัด  และเท่าที่สืบทราบมา  ผู้ดำรงตำแหน่งนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของบริษัท  พิพัฒน์ดูนาฬิกาเป็นครั้งที่สอง  หลังจากมานั่งรอ  อีกสามนาทีจะถึงเวลานัดหมาย  เขาจึงจัดเครื่องแต่งกาย  ขยับไทด์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

        หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง  สวมชุดทำงานสีครีม  ท่าทางสง่างามราวกับนางพญาหงส์  เดินตรงมาทางโต๊ะของพิพัฒน์ด้วยความมั่นใจ  ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเขา

        “สวัสดีค่ะ  คุณพิพัฒน์”   เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวผู้นั้นอย่างชัดเจน  พิพัฒน์ถึงกับตะลึงพรึงเพริด  

        “สวัสดีครับ  คุณ………”  

        “ดิฉันชื่อชนิดาค่ะ  เห็นว่าทำงานอยู่ในวงการธุรกิจเหมือนกัน  ก็อยากจะทำความรู้จักไว้บ้างน่ะค่ะ”

        “ครับ”  

        “คุณพิพัฒน์สั่งอะไรทานหรือยังคะ”

        “ยังเลยครับ  เชิญคุณชนิดาสั่งก่อน”

        “ขอสลัดผัก กับ น้ำส้มค่ะ”  เธอหันไปบอกกับบริกร

        “ผมขอเป็นสเต็กละกันครับ”  เขาหันสั่งอาหารเช่นกัน  ก่อนจะหันมาแซวเธอเล่นๆว่า

        “นึกว่าคุณชนิดาชอบทานเหมือนผมซะอีก”

        “อะไรคะ”

        “ก็สเต็กไงครับ”

        “แหม  คุณพิพัฒน์คะ”  เธอหัวเราะอย่างมีจริต  “คนเรามันเปลี่ยนกันได้  บางอย่างที่เคยชอบ  ตอนนี้อาจะเบื่อแล้ว”

        “งั้นเหรอครับ  ไม่เหมือนผมนะ  ผมชอบอะไรแล้วมักจะชอบจริงจัง  ไม่โลเล เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ”

    พิพัฒน์จงใจแขวะ  แต่เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

        “แม้ว่าของที่คุณชอบ  มันจะเปลี่ยนเป็นรสขมงั้นเหรอคะ”

        “ของบางอย่าง  มันไม่มีทางเปลี่ยนกันง่ายๆ  ถึงเราจะปรุงแต่งรสชาติยังไง  เนื้อแท้ของมันก็ยังมีรสเดิม สิ่งที่เราได้ลิ้มรส  ก็แค่เครื่องปรุงภายนอกที่ต้องการปกปิดรสเดิมเท่านั้นเอง”

        เธอยิ้มอย่างมีนัยกับคำพูดของพิพัฒน์  แต่ก็แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน  ขณะที่สีหน้าของพิพัฒน์เริ่มเข้มขึ้น  ในใจเขาเดือดปุดๆแล้ว

        “คุณพิพัฒน์อย่างจริงจังมากนักซีคะ  เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก”

        บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ  ทั้งคู่จึงต้องยุติการสนทนาและลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าของตนเอง  ไม่มีการสนทนาใดๆอีกจนกระทั่งทั้งสองฝ่ายรวบช้อน

        “มื้อนี้  ดิฉันเป็นเจ้ามือนะคะ  เพราะเป็นฝ่ายเชิญคุณมา”

        “ตกลงครับ  แล้ววันหลังผมจะขอเป็นเจ้ามือบ้าง”

    เขาเน้นคำว่า “วันหลัง”อย่างชัดเจน

        “ได้ค่ะ”

                ………………………………………….

        “เป็นอะไรไปคะ  คุณพิพัฒน์”  พิมพ์ปรีดาเอ่ยทัก  เมื่อเห็นเขาฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะทำงาน “ตอนแรกนึกว่าคุณจะไม่เข้ามาแล้วซะอีก  เห็นมีนัดกับแขกคนสำคัญ”

        พิพัฒน์เงยหน้าขึ้น “ต้องมาสิ  วันนี้ผมนัดคุณไว้นะ”

        “จริงสิคะ”  เธอเพิ่งนึกได้  “แล้วเจ้านายมีอะไรจะปรึกษาฉันเหรอคะ”

        “ตอนแรกก็มี  แต่ตอนนี้ไม่แล้ว  คุณช่วยออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”

        “ไปไหนคะ”

        “ตามมา  เดี๋ยวก็รู้เองแหละ”

        ภายในผับ  พิพัฒน์เอาแต่นั่งดื่มเบียร์  พิมพ์ปรีดาห้ามเท่าไหร่  เขาก็ไม่ฟัง  เธอเองสงสัยและอยากถามให้รู้เรื่อง  แต่ก็ไม่กล้า  เพราะท่าทางเขาดูหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  จะเป็นเพราะนัดเมื่อตอนเย็นกับแขกคนสำคัญหรือเปล่าก็สุดที่จะเดา  เธอจึงรอให้เขาดื่มจนเมาหลับไป  แล้วจึงพาเขาไปส่งที่บ้าน

        ในวันรุ่งขึ้น  ที่ทำงาน

        “มีโทรศัพท์ถึงคุณพิพัฒน์ค่ะ  จะให้โอนเข้ามาเลยไหมคะ”

        “ครับ”

        “พัฒน์คะ  เมื่อวานทำไมคุณไม่ไปตามนัดล่ะ”  เสียงหวานใสออดอ้อนมาตามสาย

        “นัดอะไร”

        “ก็นัดทานอาหารของเราไงคะ  ดอกหญ้าไปรอคุณตั้งนาน”

        “จำเป็นด้วยเหรอคะ  ในเมื่อคุณเบื่อผมแล้ว”

        “ไม่ได้เบื่อนะคะ  วันนั้นดอกหญ้าแค่ล้อคุณเล่นเท่านั้นเอง”

        “ทำไมคุณไม่บอกก่อน  ว่าคุณเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท พาวเวอร์ จำกัด”

        “คุณไม่เคยถามดอกหญ้าเลยนี่คะ  ไม่เอาน่าพัฒน์  อย่าอารมณ์เสียสิคะ เที่ยงนี้เราไปหาอะไรทานกันดีกว่า”

        “เห็นทีต้องขอตัวละ  เพราะผมนัดเพื่อนไว้”  พิพัฒน์แกล้งปด  เพราะยังน้อยใจเรื่องที่เธอพูดกับเขาเมื่อวาน

        “งั้นเหรอคะ  แต่ว่าพัฒน์ห้ามลืมสัญญานะว่าจะเลี้ยงข้าวดอกหญ้า”

        “แน่นอนครับ  ผมไม่ลืมหรอก”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×