ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เธอหายไปไหน
ตอนที่๒
    ท่ามกลางความมืดสนิท  พิพัฒน์ลืมตาขึ้นช้าๆ  แสงสว่างสาดเข้าสู่ดวงตา  ภาพที่เคยพร่าเลือน  ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นเป็นลำดับ
    “ตื่นแล้วเหรอลูก  รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”  มารดาหันมาถามเขา  ก่อนจะใช้มือแตะบนหน้าผากของลูกชาย
    “ครับ  ผมมึนๆจังเลย  มองอะไรไม่ค่อยชัดด้วย”
    “คงยังไม่ทันปรับตัวมั้งลูก  ก็ลูกเพิ่งผ่าตัดตามาไม่ทันถึงสองอาทิตย์  ต้องพักฟื้นเยอะๆนะ  นี่ลูกก็มีไข้นิดหน่อยด้วย  รู้ตัวหรือเปล่า”
    “แม่ไม่เห็นจริงๆเหรอครับ  ผู้หญิงคนที่พาผมมาส่งโรงพยาบาล”
    “ไม่เห็นจริงๆจ้ะ  ลูกถามเป็นครั้งที่ร้อยแล้วนะ  ยังไงแม่ก็ให้คนออกตามหาแล้ว  พอได้ข่าวจะรีบมาบอกทันทีเลย  ตอนนี้พักผ่อนซะก่อนเถอะจ้ะ”  เขาจึงหลับตาลง
    ทันทีที่มารดาออกจากห้อง  พิพัฒน์ลืมตาขึ้นทันที  เขามองออกไปนอกหน้าต่าง  สิ่งที่เห็นเบื้องหน้า  ไม่ใช่ทะเลอย่างที่เคยเห็น  แต่เป็นสวนหย่อมบริเวณกว้างขวางภายในบ้านของเขาเอง  พิพัฒน์กลับมาอยู่ในบ้านของเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว  หลังจากฟื้นจากการฝ่าตัด  เขาก็ถูกนำตัวมาพักฟื้นที่บ้าน  พร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหายที่มาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย  แต่เขากลับยังไม่ได้เห็นหน้า  คนที่เขาอยากพบสุดหัวใจเลย
            ..
    “เป็นอะไรไปคะคุณ”  คุณนวลจิต  มารดาของพิพัฒน์หันมาถามสามี  หลังจากเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเขา
    “บริษัทของเรายอดขายตกต่ำมาก  ตอนนี้กำลังเร่งประชุมหาทางแก้ไขกันอยู่”  คุณนวลจิตประคองสามีให้นั่งลงบนโซฟา  พลางส่งน้ำเย็นให้ดื่ม
    “อย่าคิดมากเลยค่ะคุณ  ตอนนี้เราเพิ่งได้ตาพัฒน์กลับมานะคะ”
    “จริงสินะ”  พิพิธยิ้มออกมาได้  “ตั้งแต่เขาหายไป  วันที่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ  เราก็ไม่ได้พบเขามาเป็นเดือนเลย”
    “ค่ะ  ตอนนี้เขาก็กับมาแล้ว  แต่ท่าทางเปลี่ยนไป  ดูเหม่อๆยังไงชอบกล  แล้วยังชอบถามถึงผู้หญิงที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลอะไรนี่แหละค่ะ”
    “ไม่เป็นไรหรอก  สักพักเขาก็ลืมไปเอง  พอเขาหายดีแล้ว  ผมจะให้เขามาช่วยงานบริษัท”
            .
    “คุณพัฒน์คะ  มีจดหมายถึงคุณค่ะ”  สาวใช้นำจดหมายฉบับหนึ่งมาส่งให้เขา  พัฒน์เปิดออกอ่าน
   
    ถึงพัฒน์ที่รัก
    พัฒน์คะ  ขอโทษนะคะที่ต้องผิดสัญญากับคุณ  ดอกหญ้าไม่ได้เป็นคนแรกที่คุณเห็นตอนคุณฟื้นขึ้นมา  แต่ยังไงเราก็ต้องได้พบกันค่ะ  รออีก ๑๐ วันนะคะ
                                                                                                      ดอกหญ้า
           
    “แต่งตัวหล่อเชียวนะลูกพ่อ”  คุณพิพิธแซวลูกชาย  ตอนเห็นเขาใส่สูท  ดูภูมิฐาน  เมื่อจะไปทำงานวันแรก
    “พร้อมแล้วครับพ่อ”  สองพ่อลูกโอบไหล่กันเดินไปขึ้นรถเบนซ์คันหรู  ก่อนจะบึ่งรถออกไป
    “ไม่น่าเชื่อว่าจะหายเร็วขนาดนี้  เมื่อวานยังนอนซมอยู่เลย”  คุณนวลจิตหันไปปรารภกับสาวใช้  ขณะมองรถแล่นออกจากบ้าน
    “ทำไมยอดขายตกขนาดนี้ล่ะครับพ่อ” พิพัฒน์ถาม  ขณะเปิดดูแฟ้มของบริษัท
    “ตอนนี้มีบริษัทมาเปิดตลาดแข่งกับเรา  เขาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มันแปลกตาขึ้น  ก็เลยเป็นที่นิยมของวัยรุ่น”
    “งั้นเราก็ต้องออกแบบสินค้าตัวใหม่มาแข่งกับเขา”
    “ถูกต้องแล้ว  และพ่อก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งมาแนะนำให้ลูกรู้จัก  นี่คุณพิมพ์ปรีดา  เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และจบปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจด้วยนะ  นี่พิพัฒน์ลูกชายผม  ดำรงตำแหน่งเผู้จัดการและรองประธานบริษัท
    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
    “เช่นกันครับ”  แล้วทั้งสองก็จับมือกันเขย่าเบาๆ
    พิพัฒน์กับพิมพ์ปรีดาทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน  จนผู้เป็นบิดาเอ่ยปากชมในความไฟแรงของลูกชาย
    “พรุ่งนี้ผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบใหม่  จะออกสู่ตลาดแล้วนะคะ” พิมพ์ปรีดาเอ่ยขึ้นกับพิพัฒน์
    “ครับ”
    “ขอตัวกลับก่อนนะคะ  อ้อ เมื่อสักครู่ท่านประธานเรียกหาคุณค่ะ”
            .
    “ตาพัฒน์  มาแล้วเหรอ  วันนี้พ่อจะพาไปฉลองหน่อย  เห็นทำงานเหนื่อยมาหลายวันแล้ว”
    “ฉลองอะไรกันครับ  รอดูผลวันพรุ่งนี้ก่อนดีกว่า”
    “พ่อเชื่อมือพัฒน์น่า  แถมยังมีคนเก่งๆอย่างพิมพ์ปรีดาอีก  อ้าว  เค้าหายไปไหนแล้วล่ะ”
    “กลับไปแล้วครับ”
    “ไม่เป็นไร  งั้นเราไปฉลองกันสองคน  ที่ไหนดีลูก”
    “ไม่ทราบสิครับ  แต่ผมอยากทานต้มยำแซบๆ  ไม่ได้ทานมานานแล้ว”
    “งั้นไปร้านเจ้าประจำกันดีกว่า”
    ภายในร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ยามเย็นแสงตะวันส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายสีส้มแดง  สองพ่อลูกสั่งอาหารเมนูประจำที่มาทานกันบ่อยๆ
    “พ่อขอเข้าห้องน้ำสักประเดี๋ยวนะ  สงสัยข้าศึกจู่โจม  ถ้าอาหารมาก็ลงมือก่อนได้เลย  ไม่ต้องรอพ่อ”  ท่านประธานว่าแล้วก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที
    ไวน์แก้วหนึ่งถูกส่งมาให้เขา
    “ผมไม่ได้สั่งไวน์ครับ”
    “ถึงจะไม่ได้สั่ง  ก็ให้เกียรติดื่มสักหน่อยได้ไหมคะ”
    พิพัฒน์หันไปมองตามเสียง  สาวสวยในชุดแซกสีน้ำตาลอ่อนกำลังยื่นแก้วไวน์มาให้เขา  พิพัฒน์ทำท่าจะปฏิเสธ  แต่สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็น แหวน
    ท่ามกลางความมืดสนิท  พิพัฒน์ลืมตาขึ้นช้าๆ  แสงสว่างสาดเข้าสู่ดวงตา  ภาพที่เคยพร่าเลือน  ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นเป็นลำดับ
    “ตื่นแล้วเหรอลูก  รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”  มารดาหันมาถามเขา  ก่อนจะใช้มือแตะบนหน้าผากของลูกชาย
    “ครับ  ผมมึนๆจังเลย  มองอะไรไม่ค่อยชัดด้วย”
    “คงยังไม่ทันปรับตัวมั้งลูก  ก็ลูกเพิ่งผ่าตัดตามาไม่ทันถึงสองอาทิตย์  ต้องพักฟื้นเยอะๆนะ  นี่ลูกก็มีไข้นิดหน่อยด้วย  รู้ตัวหรือเปล่า”
    “แม่ไม่เห็นจริงๆเหรอครับ  ผู้หญิงคนที่พาผมมาส่งโรงพยาบาล”
    “ไม่เห็นจริงๆจ้ะ  ลูกถามเป็นครั้งที่ร้อยแล้วนะ  ยังไงแม่ก็ให้คนออกตามหาแล้ว  พอได้ข่าวจะรีบมาบอกทันทีเลย  ตอนนี้พักผ่อนซะก่อนเถอะจ้ะ”  เขาจึงหลับตาลง
    ทันทีที่มารดาออกจากห้อง  พิพัฒน์ลืมตาขึ้นทันที  เขามองออกไปนอกหน้าต่าง  สิ่งที่เห็นเบื้องหน้า  ไม่ใช่ทะเลอย่างที่เคยเห็น  แต่เป็นสวนหย่อมบริเวณกว้างขวางภายในบ้านของเขาเอง  พิพัฒน์กลับมาอยู่ในบ้านของเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว  หลังจากฟื้นจากการฝ่าตัด  เขาก็ถูกนำตัวมาพักฟื้นที่บ้าน  พร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหายที่มาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย  แต่เขากลับยังไม่ได้เห็นหน้า  คนที่เขาอยากพบสุดหัวใจเลย
            ..
    “เป็นอะไรไปคะคุณ”  คุณนวลจิต  มารดาของพิพัฒน์หันมาถามสามี  หลังจากเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเขา
    “บริษัทของเรายอดขายตกต่ำมาก  ตอนนี้กำลังเร่งประชุมหาทางแก้ไขกันอยู่”  คุณนวลจิตประคองสามีให้นั่งลงบนโซฟา  พลางส่งน้ำเย็นให้ดื่ม
    “อย่าคิดมากเลยค่ะคุณ  ตอนนี้เราเพิ่งได้ตาพัฒน์กลับมานะคะ”
    “จริงสินะ”  พิพิธยิ้มออกมาได้  “ตั้งแต่เขาหายไป  วันที่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ  เราก็ไม่ได้พบเขามาเป็นเดือนเลย”
    “ค่ะ  ตอนนี้เขาก็กับมาแล้ว  แต่ท่าทางเปลี่ยนไป  ดูเหม่อๆยังไงชอบกล  แล้วยังชอบถามถึงผู้หญิงที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลอะไรนี่แหละค่ะ”
    “ไม่เป็นไรหรอก  สักพักเขาก็ลืมไปเอง  พอเขาหายดีแล้ว  ผมจะให้เขามาช่วยงานบริษัท”
            .
    “คุณพัฒน์คะ  มีจดหมายถึงคุณค่ะ”  สาวใช้นำจดหมายฉบับหนึ่งมาส่งให้เขา  พัฒน์เปิดออกอ่าน
   
    ถึงพัฒน์ที่รัก
    พัฒน์คะ  ขอโทษนะคะที่ต้องผิดสัญญากับคุณ  ดอกหญ้าไม่ได้เป็นคนแรกที่คุณเห็นตอนคุณฟื้นขึ้นมา  แต่ยังไงเราก็ต้องได้พบกันค่ะ  รออีก ๑๐ วันนะคะ
                                                                                                      ดอกหญ้า
           
    “แต่งตัวหล่อเชียวนะลูกพ่อ”  คุณพิพิธแซวลูกชาย  ตอนเห็นเขาใส่สูท  ดูภูมิฐาน  เมื่อจะไปทำงานวันแรก
    “พร้อมแล้วครับพ่อ”  สองพ่อลูกโอบไหล่กันเดินไปขึ้นรถเบนซ์คันหรู  ก่อนจะบึ่งรถออกไป
    “ไม่น่าเชื่อว่าจะหายเร็วขนาดนี้  เมื่อวานยังนอนซมอยู่เลย”  คุณนวลจิตหันไปปรารภกับสาวใช้  ขณะมองรถแล่นออกจากบ้าน
    “ทำไมยอดขายตกขนาดนี้ล่ะครับพ่อ” พิพัฒน์ถาม  ขณะเปิดดูแฟ้มของบริษัท
    “ตอนนี้มีบริษัทมาเปิดตลาดแข่งกับเรา  เขาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มันแปลกตาขึ้น  ก็เลยเป็นที่นิยมของวัยรุ่น”
    “งั้นเราก็ต้องออกแบบสินค้าตัวใหม่มาแข่งกับเขา”
    “ถูกต้องแล้ว  และพ่อก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งมาแนะนำให้ลูกรู้จัก  นี่คุณพิมพ์ปรีดา  เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และจบปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจด้วยนะ  นี่พิพัฒน์ลูกชายผม  ดำรงตำแหน่งเผู้จัดการและรองประธานบริษัท
    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
    “เช่นกันครับ”  แล้วทั้งสองก็จับมือกันเขย่าเบาๆ
    พิพัฒน์กับพิมพ์ปรีดาทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน  จนผู้เป็นบิดาเอ่ยปากชมในความไฟแรงของลูกชาย
    “พรุ่งนี้ผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบใหม่  จะออกสู่ตลาดแล้วนะคะ” พิมพ์ปรีดาเอ่ยขึ้นกับพิพัฒน์
    “ครับ”
    “ขอตัวกลับก่อนนะคะ  อ้อ เมื่อสักครู่ท่านประธานเรียกหาคุณค่ะ”
            .
    “ตาพัฒน์  มาแล้วเหรอ  วันนี้พ่อจะพาไปฉลองหน่อย  เห็นทำงานเหนื่อยมาหลายวันแล้ว”
    “ฉลองอะไรกันครับ  รอดูผลวันพรุ่งนี้ก่อนดีกว่า”
    “พ่อเชื่อมือพัฒน์น่า  แถมยังมีคนเก่งๆอย่างพิมพ์ปรีดาอีก  อ้าว  เค้าหายไปไหนแล้วล่ะ”
    “กลับไปแล้วครับ”
    “ไม่เป็นไร  งั้นเราไปฉลองกันสองคน  ที่ไหนดีลูก”
    “ไม่ทราบสิครับ  แต่ผมอยากทานต้มยำแซบๆ  ไม่ได้ทานมานานแล้ว”
    “งั้นไปร้านเจ้าประจำกันดีกว่า”
    ภายในร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ยามเย็นแสงตะวันส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายสีส้มแดง  สองพ่อลูกสั่งอาหารเมนูประจำที่มาทานกันบ่อยๆ
    “พ่อขอเข้าห้องน้ำสักประเดี๋ยวนะ  สงสัยข้าศึกจู่โจม  ถ้าอาหารมาก็ลงมือก่อนได้เลย  ไม่ต้องรอพ่อ”  ท่านประธานว่าแล้วก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที
    ไวน์แก้วหนึ่งถูกส่งมาให้เขา
    “ผมไม่ได้สั่งไวน์ครับ”
    “ถึงจะไม่ได้สั่ง  ก็ให้เกียรติดื่มสักหน่อยได้ไหมคะ”
    พิพัฒน์หันไปมองตามเสียง  สาวสวยในชุดแซกสีน้ำตาลอ่อนกำลังยื่นแก้วไวน์มาให้เขา  พิพัฒน์ทำท่าจะปฏิเสธ  แต่สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็น แหวน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น