ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ภายในใจแท้จริง
    ตอนที่15
    ขายหนุ่มรูปร่างสง่างามในชุดสูท  กำลังทำงานอย่างหนักในบริษัทที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งใหม่  บริษัทซึ่งในอดีตเคยเป็นคู่แข่งของเขา  ร่างกายที่ซูบผอมจากอาการป่วยที่เพิ่งผ่านไปยังคงไม่ต่างจากเดิม  กลับจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก  เนื่องจากวันๆเอาแต่ตรากตรำทำงาน  จนลืมทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง  ก็ดีอยู่แล้ว  อยากลืมนักนี่  อยากลืมใครบางคน  อยากลืมความเจ็บปวดทรมานต่างๆที่ได้รับ
    “ดื่มกาแฟก่อนสิคะ”
    เลขาชงกาแฟมาให้เขา  หลังจากเห็นเขาง่วนอยู่กับแฟ้มเอกสารที่กองเป็นภูเขาเลากา  เลขาของเขาก็พลอยยุ่งไปด้วย  เนื่องจากต้องคอยพิมพ์เอกสารโน่น  หาเอกสารนี่  จัดแฟ้มต่างๆให้เขา  จนสามทุ่มกว่า  จึงเสร็จสิ้นงาน
    “ไปทานข้าวกันไหมคุณเลขา  มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”
    “ค่ะ”
    เธอตอบรับพร้อมกับหันมาส่งยิ้มหวาน  การประสานสายตากันทำให้พิพัฒน์ตะลึงงัน  ใช่ ..วันนี้  เขาทำงานกับเลขาคนนี้ทั้งวัน  แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้มองหน้า  หรือแม้แต่ได้ยินเสียงเธอเล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทของเขาเลย  การหันมาสบสายตากันอย่างจังในตอนนี้  จึงทำให้เขาได้มองหน้าเธออย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก 
    ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนความรู้สึกของเขาได้อีกแล้ว  พิพัฒน์ค่อยๆก้าวเข้าไปหาเธอเหมือนคนยังไม่ตื่นจากฝัน  บรรจงสวมกอดเธออย่างช้าๆ  แต่แนบแน่นและมั่นคงที่สุด  ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกจากปาก  มีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองเท่านั้น
    “คุณหายไปไหนมา  รู้ไหมผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน”  พิพัฒน์เอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ  หลังจากพอระงับความปลื้มปิติตื้นตันใจได้บ้างแล้ว”
    “รู้สิคะ  รู้ได้จากทั้งหน้าตา  ทั้งรูปร่าง  ซูบผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว”  มือเรียวบางประคองใบหน้าซูบซีดไร้สีเลือดนั้นไว้อย่างห่วงใย
    “ยังดีนะที่คุณมาทัน  พอที่จะเห็นผมยังมีลมหายใจอยู่”
    “ห้ามพูดอย่างนี้นะคะ  ยังไงคุณก็จะต้องมีลมหายใจอยู่ตลอดไป”
    “คุณหายไปไหนมา  ตอนแรกผมนึกว่าคุณ .”  เขาค้างคำพูดไว้แค่นั้น
    “ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ  เพียงแต่วันนั้น  ฉันเสียใจมาก  จนอยากจะไปให้ไกลๆ  ฉันก็เลยไปพักผ่อนที่หัวหิน 2-3อาทิตย์  พอสบายใจแล้วก็กลับมา”
พิมพ์ปรีดาเล่าจบแล้วก็แกล้งแซวเล่นๆว่า
    “คุณสนใจด้วยเหรอคะ  ว่าคนที่คุณเกลียดชังจะเป็นตายร้ายดียังไง”
    หน้าของเขาเศร้าลงทันที
    “ไม่ใช่แค่สนใจนะครับ  แต่คนๆนี้พร้อมเจ็บแทน  ตายแทนคุณได้”
    “คุณไม่เกลียดฉันแล้วเหรอคะ”
    “ผมไม่เคยบอกว่าเกลียดคุณ  และไม่เคยเกลียดคุณเลย  แต่ผมเองมีทิฐิมานะมากเกินไป  เจ้าคิดเจ้าแค้นมากเกินไป  ก็เลยแสดงท่าทีแบบนั้นกับคุณ  ผมขอโทษนะครับ”
    “ฉันเองก็ทำร้ายจิตใจคุณ  สมควรที่จะให้คุณปฏิบัติกับฉันแบบนั้นอยู่แล้ว”
    “ผมเองต่างหากที่ไม่เชื่อใจคุณ  ไม่เชื่อว่าคุณถูกบังคับให้ทำ  แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า  ทรัพย์สินเงินทองมันไม่มีอะไรกับผมเลย  ความรักต่างหากเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  ถ้าขาดคุณไป  ผมก็เหมือนตายทั้งเป็น”
    “การให้อภัยด้วยค่ะ  สิ่งนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย  ขอบคุณมากนะคะ  ที่คุณมอบสองสิ่งนี้ให้กับฉัน  ขอบคุณที่รักฉัน  และให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำกับคุณไว้”
    สำหรับคำว่า  “รักแท้”  ไม่มีคำว่าให้อภัยกันไม่ได้หรอก
    ขายหนุ่มรูปร่างสง่างามในชุดสูท  กำลังทำงานอย่างหนักในบริษัทที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งใหม่  บริษัทซึ่งในอดีตเคยเป็นคู่แข่งของเขา  ร่างกายที่ซูบผอมจากอาการป่วยที่เพิ่งผ่านไปยังคงไม่ต่างจากเดิม  กลับจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก  เนื่องจากวันๆเอาแต่ตรากตรำทำงาน  จนลืมทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง  ก็ดีอยู่แล้ว  อยากลืมนักนี่  อยากลืมใครบางคน  อยากลืมความเจ็บปวดทรมานต่างๆที่ได้รับ
    “ดื่มกาแฟก่อนสิคะ”
    เลขาชงกาแฟมาให้เขา  หลังจากเห็นเขาง่วนอยู่กับแฟ้มเอกสารที่กองเป็นภูเขาเลากา  เลขาของเขาก็พลอยยุ่งไปด้วย  เนื่องจากต้องคอยพิมพ์เอกสารโน่น  หาเอกสารนี่  จัดแฟ้มต่างๆให้เขา  จนสามทุ่มกว่า  จึงเสร็จสิ้นงาน
    “ไปทานข้าวกันไหมคุณเลขา  มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”
    “ค่ะ”
    เธอตอบรับพร้อมกับหันมาส่งยิ้มหวาน  การประสานสายตากันทำให้พิพัฒน์ตะลึงงัน  ใช่ ..วันนี้  เขาทำงานกับเลขาคนนี้ทั้งวัน  แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้มองหน้า  หรือแม้แต่ได้ยินเสียงเธอเล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทของเขาเลย  การหันมาสบสายตากันอย่างจังในตอนนี้  จึงทำให้เขาได้มองหน้าเธออย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก 
    ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนความรู้สึกของเขาได้อีกแล้ว  พิพัฒน์ค่อยๆก้าวเข้าไปหาเธอเหมือนคนยังไม่ตื่นจากฝัน  บรรจงสวมกอดเธออย่างช้าๆ  แต่แนบแน่นและมั่นคงที่สุด  ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกจากปาก  มีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองเท่านั้น
    “คุณหายไปไหนมา  รู้ไหมผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน”  พิพัฒน์เอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ  หลังจากพอระงับความปลื้มปิติตื้นตันใจได้บ้างแล้ว”
    “รู้สิคะ  รู้ได้จากทั้งหน้าตา  ทั้งรูปร่าง  ซูบผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว”  มือเรียวบางประคองใบหน้าซูบซีดไร้สีเลือดนั้นไว้อย่างห่วงใย
    “ยังดีนะที่คุณมาทัน  พอที่จะเห็นผมยังมีลมหายใจอยู่”
    “ห้ามพูดอย่างนี้นะคะ  ยังไงคุณก็จะต้องมีลมหายใจอยู่ตลอดไป”
    “คุณหายไปไหนมา  ตอนแรกผมนึกว่าคุณ .”  เขาค้างคำพูดไว้แค่นั้น
    “ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ  เพียงแต่วันนั้น  ฉันเสียใจมาก  จนอยากจะไปให้ไกลๆ  ฉันก็เลยไปพักผ่อนที่หัวหิน 2-3อาทิตย์  พอสบายใจแล้วก็กลับมา”
พิมพ์ปรีดาเล่าจบแล้วก็แกล้งแซวเล่นๆว่า
    “คุณสนใจด้วยเหรอคะ  ว่าคนที่คุณเกลียดชังจะเป็นตายร้ายดียังไง”
    หน้าของเขาเศร้าลงทันที
    “ไม่ใช่แค่สนใจนะครับ  แต่คนๆนี้พร้อมเจ็บแทน  ตายแทนคุณได้”
    “คุณไม่เกลียดฉันแล้วเหรอคะ”
    “ผมไม่เคยบอกว่าเกลียดคุณ  และไม่เคยเกลียดคุณเลย  แต่ผมเองมีทิฐิมานะมากเกินไป  เจ้าคิดเจ้าแค้นมากเกินไป  ก็เลยแสดงท่าทีแบบนั้นกับคุณ  ผมขอโทษนะครับ”
    “ฉันเองก็ทำร้ายจิตใจคุณ  สมควรที่จะให้คุณปฏิบัติกับฉันแบบนั้นอยู่แล้ว”
    “ผมเองต่างหากที่ไม่เชื่อใจคุณ  ไม่เชื่อว่าคุณถูกบังคับให้ทำ  แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า  ทรัพย์สินเงินทองมันไม่มีอะไรกับผมเลย  ความรักต่างหากเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  ถ้าขาดคุณไป  ผมก็เหมือนตายทั้งเป็น”
    “การให้อภัยด้วยค่ะ  สิ่งนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย  ขอบคุณมากนะคะ  ที่คุณมอบสองสิ่งนี้ให้กับฉัน  ขอบคุณที่รักฉัน  และให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำกับคุณไว้”
    สำหรับคำว่า  “รักแท้”  ไม่มีคำว่าให้อภัยกันไม่ได้หรอก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น