ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : การจากไปของเธอ
ตอนที่14
“โรงแรมที่คุณเข้าไปพัก  เกิดไฟไหม้ครับ  เจ้าหน้าที่ไปพบคุณสลบอยู่ในห้อง”  พิพัฒน์ใจหายวูบ  พยายามจับต้นชนปลายกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา  แต่แล้วเขาก็นึกถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้
    “ดอกหญ้าล่ะครับ  อยู่ไหน  เอ่อ .ผมหมายถึงคุณพิมพ์ปรีดา  คนที่พักอยู่ห้องข้างๆผม  ตอนนี้เธอรักษาตัวอยู่ห้องไหนครับหมอ”
    “ใจเย็นๆก่อนนะครับ  ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนมากๆ  แล้วคุณจะได้เจอเธออีกไม่นาน  ถ้าเธอ .”
    “อะไรครับหมอ”
    “ถ้าเธอรอดชีวิตมาได้  หมอเองไม่แน่ใจว่ามีชื่อผู้หญิงคนนี้อยู่ในรายชื่อผู้รอดชีวิตหรือเปล่า  รอไว้หมอจะให้คนไปถามที่เคาเตอร์ดูแล้วกันครับ”
    หน้าของพิพัฒน์ซีดลงทันที  เธอต้องรอด ต้องรอดอย่างแน่นอน  ในใจเขาภาวนาได้เพียงเท่านั้น  พิพัฒน์ไม่อาจพักผ่อนได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว  และในตอนนั้นเอง  เธอก็ทำให้เขาได้เข้าใจอย่างถ่องแท้  ว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดในชีวิตเขา
    หลังจากสบโอกาส  พิพัฒน์ค่อยๆย่องออกจากห้องพักรักษาตัว  ไปสอบถามที่หน้าเคาเตอร์
    “มีผู้หญิงที่ชื่อ  พิมพ์ปรีดา  วัฒนาชัย  เข้ารับการรักษาที่นี่ไหมครับ”
    “กรุณารอสักครู่นะคะ”
    หัวใจของพิพัฒน์เต้นแรงขึ้นทุกที  ขณะกำลังรอพยาบาลคีย์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์  เสียงสวดมนต์ภาวนาดังกึกก้องในใจเขา  ต้องมีสิ  ต้องมีผู้หญิงที่ชื่อพิมพ์ปรีดาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่นี่
    “อะไรนะครับ”  พิพัฒน์ถามซ้ำ  เพราะมัวแต่สนใจเสียงสวดมนต์ของตัวเอง  มากกว่าคำตอบของพยาบาล
    “ไม่มีค่ะ”  คราวนี้เขาได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ  เสียงนั้นดูเหมือนจะทะลุไปทั่วทุกโสตประสาทของเขา  ทำให้เกิดอาการมึนชาชั่วขณะ  ขาแข็งแรงทั้งสองข้างที่เคยรองรับน้ำหนักอย่างมั่นคง  ทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง  ลำตัวที่เคยตั้งตรงอย่างงามสง่า  บัดนี้กลับต้องใช้เสาเป็นที่ยึดเหนี่ยวดันไว้ไม่ให้ล้มพังพาบกับพื้น  สติเตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหน  พยาบาลและหมอเจ้าของไข้เห็นเข้าพอดี  จึงช่วยกันประคองกับไปที่ห้อง
    การนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำต้องยืดออกไปอีก  เนื่องจากจิตใจผู้ป่วยกำลังอ่อนแออย่างมาก  แม้จะพยายามปลอบสักเท่าไหร่  แต่ดูเหมือนจะไม่มีผล  ดวงตาขอบคล้ำแสดงว่าผ่านการอดนอนมาหลายวัน  ยังไม่มีวี่แววว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้  จวบจนได้ยินคำว่า
    “คุณพิมพ์ปรีดาฝากของบางอย่างมาให้คุณ”
    เจ้าของใบหน้าซีดเซียวและรูปร่างผอมโซ  หันไปทางต้นเสียงทันที  ทนายรูปร่างอ้วนกลม  ส่งแผ่นกระดาษใบหนึ่งให้เขา
    “ใบหุ้นจำนวนสองล้านหุ้น  หุ้นละร้อยบาท  รวมมูลค่า  สองร้อยล้านบาท  คือหุ้นทั้งหมดที่เธอมีในบริษัทพาวเวอร์จำกัด  และเธอก็ยกให้คุณ  ต่อไปนี้  คุณเองก็มีหน้าที่เป็นกรรมการบริหารคนหนึ่งของบริษัท  คุณควรรีบไปใช้สิทธิ์โดยเร็วที่สุด”
    “ผมไม่ต้องการ  คุณเอากลับไปเถอะ”
    “แต่สิ่งนี้คุณพิมพ์ปรีดาตั้งใจมอบให้คุณจริงๆ  ไม่ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม  เธอก็ตั้งใจจะยกหุ้นทั้งหมดนี้ให้คุณอยู่แล้ว”
    “ทำไม”  พิพัฒน์แกล้งถาม  ทั้งๆที่รู้คำตอบดีกว่าใครเพื่อน
    “ผมเองก็ไม่ทราบหรอก  แต่เธอก็ยืนยันหนักแน่นของเธอเช่นนั้น  คุณไม่ควรจะทำให้เธอผิดหวังนะ”  ทนายพูดจบก็ออกจากห้องไป  ทิ้งให้พิพัฒน์นั่งคิด  ว่าจะจัดการกับชีวิตอย่างไรต่อไป
“โรงแรมที่คุณเข้าไปพัก  เกิดไฟไหม้ครับ  เจ้าหน้าที่ไปพบคุณสลบอยู่ในห้อง”  พิพัฒน์ใจหายวูบ  พยายามจับต้นชนปลายกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา  แต่แล้วเขาก็นึกถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้
    “ดอกหญ้าล่ะครับ  อยู่ไหน  เอ่อ .ผมหมายถึงคุณพิมพ์ปรีดา  คนที่พักอยู่ห้องข้างๆผม  ตอนนี้เธอรักษาตัวอยู่ห้องไหนครับหมอ”
    “ใจเย็นๆก่อนนะครับ  ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนมากๆ  แล้วคุณจะได้เจอเธออีกไม่นาน  ถ้าเธอ .”
    “อะไรครับหมอ”
    “ถ้าเธอรอดชีวิตมาได้  หมอเองไม่แน่ใจว่ามีชื่อผู้หญิงคนนี้อยู่ในรายชื่อผู้รอดชีวิตหรือเปล่า  รอไว้หมอจะให้คนไปถามที่เคาเตอร์ดูแล้วกันครับ”
    หน้าของพิพัฒน์ซีดลงทันที  เธอต้องรอด ต้องรอดอย่างแน่นอน  ในใจเขาภาวนาได้เพียงเท่านั้น  พิพัฒน์ไม่อาจพักผ่อนได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว  และในตอนนั้นเอง  เธอก็ทำให้เขาได้เข้าใจอย่างถ่องแท้  ว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดในชีวิตเขา
    หลังจากสบโอกาส  พิพัฒน์ค่อยๆย่องออกจากห้องพักรักษาตัว  ไปสอบถามที่หน้าเคาเตอร์
    “มีผู้หญิงที่ชื่อ  พิมพ์ปรีดา  วัฒนาชัย  เข้ารับการรักษาที่นี่ไหมครับ”
    “กรุณารอสักครู่นะคะ”
    หัวใจของพิพัฒน์เต้นแรงขึ้นทุกที  ขณะกำลังรอพยาบาลคีย์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์  เสียงสวดมนต์ภาวนาดังกึกก้องในใจเขา  ต้องมีสิ  ต้องมีผู้หญิงที่ชื่อพิมพ์ปรีดาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่นี่
    “อะไรนะครับ”  พิพัฒน์ถามซ้ำ  เพราะมัวแต่สนใจเสียงสวดมนต์ของตัวเอง  มากกว่าคำตอบของพยาบาล
    “ไม่มีค่ะ”  คราวนี้เขาได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ  เสียงนั้นดูเหมือนจะทะลุไปทั่วทุกโสตประสาทของเขา  ทำให้เกิดอาการมึนชาชั่วขณะ  ขาแข็งแรงทั้งสองข้างที่เคยรองรับน้ำหนักอย่างมั่นคง  ทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง  ลำตัวที่เคยตั้งตรงอย่างงามสง่า  บัดนี้กลับต้องใช้เสาเป็นที่ยึดเหนี่ยวดันไว้ไม่ให้ล้มพังพาบกับพื้น  สติเตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหน  พยาบาลและหมอเจ้าของไข้เห็นเข้าพอดี  จึงช่วยกันประคองกับไปที่ห้อง
    การนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำต้องยืดออกไปอีก  เนื่องจากจิตใจผู้ป่วยกำลังอ่อนแออย่างมาก  แม้จะพยายามปลอบสักเท่าไหร่  แต่ดูเหมือนจะไม่มีผล  ดวงตาขอบคล้ำแสดงว่าผ่านการอดนอนมาหลายวัน  ยังไม่มีวี่แววว่าจะเรียกสติกลับคืนมาได้  จวบจนได้ยินคำว่า
    “คุณพิมพ์ปรีดาฝากของบางอย่างมาให้คุณ”
    เจ้าของใบหน้าซีดเซียวและรูปร่างผอมโซ  หันไปทางต้นเสียงทันที  ทนายรูปร่างอ้วนกลม  ส่งแผ่นกระดาษใบหนึ่งให้เขา
    “ใบหุ้นจำนวนสองล้านหุ้น  หุ้นละร้อยบาท  รวมมูลค่า  สองร้อยล้านบาท  คือหุ้นทั้งหมดที่เธอมีในบริษัทพาวเวอร์จำกัด  และเธอก็ยกให้คุณ  ต่อไปนี้  คุณเองก็มีหน้าที่เป็นกรรมการบริหารคนหนึ่งของบริษัท  คุณควรรีบไปใช้สิทธิ์โดยเร็วที่สุด”
    “ผมไม่ต้องการ  คุณเอากลับไปเถอะ”
    “แต่สิ่งนี้คุณพิมพ์ปรีดาตั้งใจมอบให้คุณจริงๆ  ไม่ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม  เธอก็ตั้งใจจะยกหุ้นทั้งหมดนี้ให้คุณอยู่แล้ว”
    “ทำไม”  พิพัฒน์แกล้งถาม  ทั้งๆที่รู้คำตอบดีกว่าใครเพื่อน
    “ผมเองก็ไม่ทราบหรอก  แต่เธอก็ยืนยันหนักแน่นของเธอเช่นนั้น  คุณไม่ควรจะทำให้เธอผิดหวังนะ”  ทนายพูดจบก็ออกจากห้องไป  ทิ้งให้พิพัฒน์นั่งคิด  ว่าจะจัดการกับชีวิตอย่างไรต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น