ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่10
ตอนที่10
    ในคาบคณิตศาสตร์  ปราลีเลือกนั่งตรงที่ประจำ  ข้างๆกุ๊กไก่  เธอเหลือบไปมองที่นั่งข้างหน้าสองที่ซึ่งยังว่างอยู่  เขายังไม่เดินเข้ามา  แล้ววันนี้  เขาจะควงใครมาหนอ  จะมีโอกาสบ้างไหมที่เป็นเธอ  ได้นั่งข้างๆเขา  ความคิดปราลีสะดุดลงเมื่อมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา  ปาณรวัฐนี่เอง  เขาเดินเข้ามาคนเดียว  ค่อยโล่งอกหน่อย  เมื่อเขาเดินมาถึงที่นั่งก็วางกระเป๋าหนังสือสีดำลงบนเก้าอี้  ปราลียิ้มให้เขา  ปาณรวัฐแค่เพียงเหลือบมองหน่อยเดียวเท่านั้น  ไม่ได้มีการยิ้มตอบ  ทักทาย  หรือพูดจากวนประสาทดังเช่นเคย  เขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างหน้าเธอราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ปราลีหน้าเสีย  และสงสัยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่
    เวลาผ่านไปร่วมสัปดาห์  ปาณรวัฐยังคงปฏิบัติกับเธอเช่นเดิม  ไม่มองหน้า  ไม่พูดจา  ไม่ยิ้ม  เมื่อปราลีคุยด้วย  เขาก็ทำท่าทางเย็นชาใส่  จนความสงสัยแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจ  เสียใจ  ปราลีผู้ร่าเริงและปากกล้า  กลับกลายเป็นคนที่เงียบขรึม  เศร้าสร้อย  และยากที่จะค้นหารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ  อยากปล่อยใจให้รักเขาเองทำไม  พอเขาไม่รัก  ตัวเองก็ต้องมาเจ็บปวด  เสียใจ  แอบร้องไห้ทุกวัน  สมน้ำหน้าตัวเองแล้วล่ะ  ยัยปราลี!!
    ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น  แต่การที่เอริคมาตามรับตามส่งปราลีทุกวัน  ก็ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจเช่นกัน  ทุกครั้งที่เห็นแววตาจริงใจของเขา  ปราลีก็อดสงสารไม่ได้  เขาคงรู้สึกเหมือนที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้  การรักคนที่เขาไม่รักเรามันเจ็บปวดนะ  แต่การได้ไปไหนมาไหนกับเอริคบ้าง  ทำให้ค่อยคลายเศร้าเรื่องเจ้าชายคนดีของเธอ  ที่กลับเปลี่ยนแปลงไปเป็นซาตานในชั่วข้ามคืน
    ร้านไอติมเล็กๆ  ตกแต่งอย่างน่ารักอยู่ข้างโรงเรียน  เป็นสถานที่พบปะชุมนุมของเด็กๆโรงเรียนนี้  ทุกเย็น  จะมีนักเรียนหลายสิบคน  แออัดเข้ามาซึมซับบรรยากาศอันน่าหลงใหล  แต่วันนี้  ในร้านมีอะไรตื่นเต้นอย่างหนึ่ง  คือ  มีหนุ่มหล่อนามว่า เอริค  เข้ามานั่งกินไอติมกับคู่ควงของเขาคือ  ปราลี  ทุกคนในร้านต่างแอบมองคู่รักคู่นี้อย่างอิจฉา  โดยไม่รู้ว่าปราลีอึดอัดมากแค่ไหนที่รู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมาที่เธอตลอดเวลา  เอริคดูจะเข้าใจกับสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี  เขาจึงรอเวลาอีกหน่อย  รอให้บรรยากาศเป็นใจพอที่จะสารภาพรักกับเธอ
    สายฝนที่โปรยละอองลงมา  ช่วยเสริมสร้างความโรแมนติกให้มากขึ้นอีก  ผู้คนในร้านเริ่มซาลงแล้ว  เอริคล้วงกระเป๋ากำตลับกำมะหยี่สีแดงไว้แน่น  สูดหายใจลึกก่อนจะพูดคำที่เตรียมท่องมาทั้งคืน
    “ปราลีครับ”
    “อะไรคะ”
    “เอ่อ.....ผม........”
    แต่ก่อนที่เอริคจะได้ทันพูดอะไร  เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหวะ  หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ  เอริคก็หันมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงแสดงความเสียดาย  ว่าเขาต้องรีบไปทำงานด่วน  ปราลียิ้มรับอย่างเข้าใจ  และบอกว่าเธอกลับเองได้
    ออกมายืนรอหน้าร้าน  หวังว่าคงมีแท็กซี่สักคันผ่านมา  แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แวว  ปราลีถอนหายใจเฮือกใหญ่  ท้องฟ้าสีเทาเข้มไม่มีทีท่าว่าจะหยุดโปรยหยาดฝนลงมาเลย
    คู่รักคู่หนึ่งพากันกางร่มเดินมารอรถที่ตึกฝั่งตรงข้าม  มองคนรักจู๋จี๋กันเธอเองก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้  แต่พอเห็นหน้าฝ่ายชายชัดเจนขึ้น  ก็ทำเอาปราลียืนตะลึงไปชั่วขณะ  ใช่น่ะสิ  เขานั่นเอง.....นายปาณรวัฐ  คนที่เธอเอาแต่เฝ้าหลงใหลอยู่แทบทุกลมหายใจ  กลับมายืนคุยสนิทสนมกับผู้หญิงซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จัก  กางร่มคันเดียวกันท่ามกลางสายฝนยามเย็นกับคนรัก  คงจะมีความสุขมิใช่น้อย  เท้าของปราลีพาตัวเธอเดินไปอีกทางโดยอัตโนมัติ  ก่อนที่เขาจะทันเห็นหยดน้ำใสๆที่อาบสองข้างแก้มเธอ 
    สอนให้ฉันเกลียดเธอหน่อยได้ไหม 
    ต้องทำอย่างไรเมื่อเธอไม่รักกัน
    ใจเธอที่เปลี่ยนง่ายๆแบบนั้น
    ช่วยบอกให้ฉันรู้ที
    สอนให้ฉันเกลียดคำว่ารัก
    เพราะรักใช่ไหมถึงต้องเป็นอย่างนี้
    สอนให้ฉันลืมเธอได้สักที
    ฉันขอเธอเท่านี้จริงๆ
    (เพลงสอน  ร้องโดยโมเม)
   
    น้ำตาของปราลีไหลรินลงมาแข่งกับสายฝน  เท้าของเธอก้าวต่อไปเรื่อยๆโดยสมองไม่ทันสั่งการด้วยซ้ำ  ตอนนี้ปราลีไม่สามารถควบคุมสติและร่างกายเธอได้อีกต่อไป  ไม่เห็นแม้กระทั่งรถยนต์ที่กำลังแล่นมาด้วยความเร็ว  เพราะเธอใจลอยเดินมาหยุดอยู่กลางถนนโดยไม่รู้ตัว
    ในคาบคณิตศาสตร์  ปราลีเลือกนั่งตรงที่ประจำ  ข้างๆกุ๊กไก่  เธอเหลือบไปมองที่นั่งข้างหน้าสองที่ซึ่งยังว่างอยู่  เขายังไม่เดินเข้ามา  แล้ววันนี้  เขาจะควงใครมาหนอ  จะมีโอกาสบ้างไหมที่เป็นเธอ  ได้นั่งข้างๆเขา  ความคิดปราลีสะดุดลงเมื่อมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา  ปาณรวัฐนี่เอง  เขาเดินเข้ามาคนเดียว  ค่อยโล่งอกหน่อย  เมื่อเขาเดินมาถึงที่นั่งก็วางกระเป๋าหนังสือสีดำลงบนเก้าอี้  ปราลียิ้มให้เขา  ปาณรวัฐแค่เพียงเหลือบมองหน่อยเดียวเท่านั้น  ไม่ได้มีการยิ้มตอบ  ทักทาย  หรือพูดจากวนประสาทดังเช่นเคย  เขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างหน้าเธอราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ปราลีหน้าเสีย  และสงสัยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่
    เวลาผ่านไปร่วมสัปดาห์  ปาณรวัฐยังคงปฏิบัติกับเธอเช่นเดิม  ไม่มองหน้า  ไม่พูดจา  ไม่ยิ้ม  เมื่อปราลีคุยด้วย  เขาก็ทำท่าทางเย็นชาใส่  จนความสงสัยแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจ  เสียใจ  ปราลีผู้ร่าเริงและปากกล้า  กลับกลายเป็นคนที่เงียบขรึม  เศร้าสร้อย  และยากที่จะค้นหารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ  อยากปล่อยใจให้รักเขาเองทำไม  พอเขาไม่รัก  ตัวเองก็ต้องมาเจ็บปวด  เสียใจ  แอบร้องไห้ทุกวัน  สมน้ำหน้าตัวเองแล้วล่ะ  ยัยปราลี!!
    ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น  แต่การที่เอริคมาตามรับตามส่งปราลีทุกวัน  ก็ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจเช่นกัน  ทุกครั้งที่เห็นแววตาจริงใจของเขา  ปราลีก็อดสงสารไม่ได้  เขาคงรู้สึกเหมือนที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้  การรักคนที่เขาไม่รักเรามันเจ็บปวดนะ  แต่การได้ไปไหนมาไหนกับเอริคบ้าง  ทำให้ค่อยคลายเศร้าเรื่องเจ้าชายคนดีของเธอ  ที่กลับเปลี่ยนแปลงไปเป็นซาตานในชั่วข้ามคืน
    ร้านไอติมเล็กๆ  ตกแต่งอย่างน่ารักอยู่ข้างโรงเรียน  เป็นสถานที่พบปะชุมนุมของเด็กๆโรงเรียนนี้  ทุกเย็น  จะมีนักเรียนหลายสิบคน  แออัดเข้ามาซึมซับบรรยากาศอันน่าหลงใหล  แต่วันนี้  ในร้านมีอะไรตื่นเต้นอย่างหนึ่ง  คือ  มีหนุ่มหล่อนามว่า เอริค  เข้ามานั่งกินไอติมกับคู่ควงของเขาคือ  ปราลี  ทุกคนในร้านต่างแอบมองคู่รักคู่นี้อย่างอิจฉา  โดยไม่รู้ว่าปราลีอึดอัดมากแค่ไหนที่รู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมาที่เธอตลอดเวลา  เอริคดูจะเข้าใจกับสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี  เขาจึงรอเวลาอีกหน่อย  รอให้บรรยากาศเป็นใจพอที่จะสารภาพรักกับเธอ
    สายฝนที่โปรยละอองลงมา  ช่วยเสริมสร้างความโรแมนติกให้มากขึ้นอีก  ผู้คนในร้านเริ่มซาลงแล้ว  เอริคล้วงกระเป๋ากำตลับกำมะหยี่สีแดงไว้แน่น  สูดหายใจลึกก่อนจะพูดคำที่เตรียมท่องมาทั้งคืน
    “ปราลีครับ”
    “อะไรคะ”
    “เอ่อ.....ผม........”
    แต่ก่อนที่เอริคจะได้ทันพูดอะไร  เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหวะ  หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ  เอริคก็หันมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงแสดงความเสียดาย  ว่าเขาต้องรีบไปทำงานด่วน  ปราลียิ้มรับอย่างเข้าใจ  และบอกว่าเธอกลับเองได้
    ออกมายืนรอหน้าร้าน  หวังว่าคงมีแท็กซี่สักคันผ่านมา  แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แวว  ปราลีถอนหายใจเฮือกใหญ่  ท้องฟ้าสีเทาเข้มไม่มีทีท่าว่าจะหยุดโปรยหยาดฝนลงมาเลย
    คู่รักคู่หนึ่งพากันกางร่มเดินมารอรถที่ตึกฝั่งตรงข้าม  มองคนรักจู๋จี๋กันเธอเองก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้  แต่พอเห็นหน้าฝ่ายชายชัดเจนขึ้น  ก็ทำเอาปราลียืนตะลึงไปชั่วขณะ  ใช่น่ะสิ  เขานั่นเอง.....นายปาณรวัฐ  คนที่เธอเอาแต่เฝ้าหลงใหลอยู่แทบทุกลมหายใจ  กลับมายืนคุยสนิทสนมกับผู้หญิงซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จัก  กางร่มคันเดียวกันท่ามกลางสายฝนยามเย็นกับคนรัก  คงจะมีความสุขมิใช่น้อย  เท้าของปราลีพาตัวเธอเดินไปอีกทางโดยอัตโนมัติ  ก่อนที่เขาจะทันเห็นหยดน้ำใสๆที่อาบสองข้างแก้มเธอ 
    สอนให้ฉันเกลียดเธอหน่อยได้ไหม 
    ต้องทำอย่างไรเมื่อเธอไม่รักกัน
    ใจเธอที่เปลี่ยนง่ายๆแบบนั้น
    ช่วยบอกให้ฉันรู้ที
    สอนให้ฉันเกลียดคำว่ารัก
    เพราะรักใช่ไหมถึงต้องเป็นอย่างนี้
    สอนให้ฉันลืมเธอได้สักที
    ฉันขอเธอเท่านี้จริงๆ
    (เพลงสอน  ร้องโดยโมเม)
   
    น้ำตาของปราลีไหลรินลงมาแข่งกับสายฝน  เท้าของเธอก้าวต่อไปเรื่อยๆโดยสมองไม่ทันสั่งการด้วยซ้ำ  ตอนนี้ปราลีไม่สามารถควบคุมสติและร่างกายเธอได้อีกต่อไป  ไม่เห็นแม้กระทั่งรถยนต์ที่กำลังแล่นมาด้วยความเร็ว  เพราะเธอใจลอยเดินมาหยุดอยู่กลางถนนโดยไม่รู้ตัว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น