ความรักสองอาทิตย์
เดือนกุมภาพันธ์
วันจันทร์
บิ๊ก : เอิน มีคนฝากหมูปิ้งมาให้แก
วันอังคาร
บิ๊ก : เอิน มีคนฝากไอศกรีมรสสตรอเบอรี่มาให้แก
วันพุธ
บิ๊ก : เอิน มีคนฝากซาลาเปาใส้หวานมาให้แก
วันพฤหัส
บิ๊ก : เอิน มีคนฝากเค้กช็อกโกแลตมาให้แก
วันศุกร์
บิ๊ก : เอิน มีคนฝากไข่ปิ้งจิ้มน้ำปลามาให้แก
อาทิตย์ถัดมา
ทุกอย่างเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว
สองอาทิตย์มาแล้วที่มีบุคคลลึกลับฝากของมาให้เอิน เขาพยายามถามบิ๊กเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่นำของกินเหล่านี้มาส่งถึงมือเขาทุกเที่ยง แต่บิ๊กก็ได้เพียงส่ายหน้าพร้อมกับตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ”
“สงสัยต้องมีสาวมาแอบชอบแกแน่ๆ” นี่คือข้อสันนิษฐานของ”ป้อง “เพื่อนสนิทอีกคนของเอินนั่นเอง
“แต่ต่อไปนี้ ก็คงจะไม่มีของพวกนี้มาอีกแล้วล่ะ เพราะพรุ่งนี้เราก็ปิดเทอมกันแล้ว โถ สาวคนนั้นคงจะเสียดายแย่แน่เลย เพราะเพิ่งส่งของกินสื่อรักมาให้แกได้แค่สองอาทิตย์เท่านั้นเอง” ไอ้ป้องยังไม่วายแหย่เพื่อนเล่น
“คนที่เสียดายน่าจะเป็นไอ้เอินมากกว่า เพราะมันต้องอดกินของฟรีไปตั้งเดือนนึง” บิ๊กเข้ามาสำทับด้วยอีกคน
“พอๆกันทีเถอะพวกแก สอบเสร็จทั้งทีไปฉลองกันดีกว่า” แล้วสามหนุ่ม(แต่ไม่ใช่ดีทูบีนะจ๊ะ) ก็ออกไปเดินเล่นกันตามศูนย์การค้า
เกือบเดือนผ่านไป เป็นเวลาที่เอินรู้สึกเบื่อมากกกกกกกก เพราะต้องนอนอยู่บ้านทั้งวัน ไม่มีอะไรทำ เพื่อนสนิทสองคนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัว ส่วนเขาเองต้องจับเจ่าอยู่คนเดียวเพราะพ่อแม่ไปทำงานที่ต่างประเทศ ปีหนึ่งจะกลับมาเยี่ยมเขาที่นี่สักหน คิดถึงสมัยยังเป็นเด็ก ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า เวลากลับจากทำงานพ่อกับแม่มักจะซื้อขนมของโปรดมาฝากเขาอยู่เสมอ ใช่แล้ว ขนมของโปรด พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร เขาก็อดคิดถึงบุคคลลึกลับที่ฝากขนมมาให้เขาไม่ได้ เพราะของที่อย่างที่เธอ(เอินคิดว่าคงเป็นผู้หญิง)ฝากมาให้ล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น เหมือนเธอจะรู้ใจเขาทุกอย่าง ชักอย่างรู้จักแล้วสิ เปิดเทอมนี้ต้องสืบให้ได้ว่าเธอเป็นใคร อันดับแรก ต้องลองเค้นความลับจากไอ้บิ๊กดูก่อน
“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดเอิน เขาต้องลุกไปรับอย่างเสียไม่ได้
“ไอ้บิ๊กเหรอวะ ทำไมแกเพิ่งโทรมาป่านนี้ รู้ไหมฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว”
“เออ ทำไงได้ ก็ฉันเพิ่งกลับมาถึงนี่ วันพรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกันไหม เดี๋ยวชวนไอ้ป้องไปด้วย”
“แกจะบ้าเหรอ มะรืนนี้จะเปิดเทอมอยู่แล้ว”
“เอาเถอะ แกเตรียมตัวไว้ละกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปรับแกเอง”
ก็วันสุดท้ายนี้แหละ นี่เอินจะได้ทำอะไรสนุกๆบ้าง เขาเล่นน้ำทะเลจนตัวดำปี๋ ย่างบาร์บิคิวกินกัน จนตะวันโพล้เพล้ก็ลงไปแช่น้ำต่ออีกรอบ
ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วบริเวณ จนเขาแทบไม่เห็นอะไรเลย ไอ้บิ๊กกับไอ้ป้องมันหายไปไหนกันนะ เอินคิดในใจ พยายามตามหาจนทั่ว แต่ไม่พบใคร พวกแกไปไหนกันหมด เอินตะโกนเรียก แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือความเงียบ เอินวิ่งพล่านไปหมด ในใจเริ่มกลัว นี่เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วไอ้สองคนนั่นล่ะ หรือว่ากลับไปกันหมดแล้วทิ้งเขาอยู่คนเดียว โอ๊ย ทำไงดี ทั้งกลัว ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ใครก็ได้หาอะไรมาให้กินหน่อย อะไรก็ได้ จะวิ่งไม่ไหวอยู่แล้ว เอ๊ะ กลิ่นอะไร หอมจัง ใช่หมูปิ้งหรือเปล่านะ ต้องใช่แน่ๆเลย แล้วเอินก็วิ่งตามกลิ่นนั้นไป แสงอะไรน่ะ แสบตาไปหมด นั่นใครน่ะ ใช่ไอบิ๊กหรือเปล่า ไม่ใช่นี่ ไอบิ๊กมันผมสั้น แต่นี่ใคร ผมยาวเฟื้อยถึงหลังเลย หรือว่า ผี!!
“คุณคะ คุณ เป็นอะไรหรือเปล่า” เอินรู้สึกเหมือนโดนเขย่า แล้วเขาก็ลืมตาขึ้นมา
“เฮ้อ โล่งไปที นึกว่าตายซะแล้ว” คนที่อยู่ตรงหน้าเอินตอนนี้ คือสาวน้อยหน้าจิ้มลิ้ม ผิวสีออกคล้ำเหมือนชาวเล ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง เธอกำลังส่งยิ้มปนขำให้เอินอยู่
เอินเหลือบมองไปยังมือข้างหนึ่งของเธอ หมูปิ้งสองไม้กับข้าวเหนียวน่ากินมาก เขาหิวจนตาลายแล้ว
“หิวเหรอ กินซิ “ เธอส่งหมูปิ้งนั้นให้เอิน เอินเกรงใจนิดหน่อยแต่ก็รับมากินด้วยความหิว
“คุณชอบกินหมูปิ้งเหรอ” เอินถามในขณะที่ยังเคี้ยวหมูอยู่เต็มปาก
เธอเพียงแต่พยักหน้าช้าๆ แล้วก็แอบขำกับอาการของเอิน ตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว เสียงตะโกนจากบิ๊กดังมาแต่ไกล
“เอิน แกอยู่ไหน ตอบด้วย”
“อยู่นี่โว้ย” เอินหันไปหาบิ๊ก ที่กำลังเดินลงมาริมหาด
“เออ มานั่งกินหมูปิ้งสบายใจเชียวนะ คนเขาตามหากันแทบแย่ กลับได้แล้ว”
“ก็ได้ “เอินตอบ พลางหันไปลาสาวผมยาวที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาเมื่อครู่ แต่เธอหายไปแล้ว หายไปไหนนะ ไวยังกับปรอท เอินคิดในใจ
วันเปิดเทอมใหม่ เพื่อนทุกคนหน้าตาสดใสอิ่มเอิบ เพราะเพิ่งได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งอาจารย์ก็ยังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ คาบเช้าหมดไปอย่างรวดเร็ว
เอินลงไปกินข้าวกลางวันกับบิ๊กและป้อง
“โทษที ฉันลืมของ เดี๋ยวตามไปละกัน”
“เออ เร็วๆเข้าล่ะไอเอิน”
เอินรีบรุดไปหยิบมือถือที่ลืมไว้บนห้อง แล้วรีบตรงไปยังโรงอาหาร ระหว่างทางไปโรงอาหาร ที่สนามหญ้า
“ไอศกรีมรสสตรอเบอรี่” เอินพึมพำอย่างงงๆ พลางมองคนที่ส่งไอศกรีมแท่งนั้นให้เขา เอินยิ่งงงหนักเข้าไปอีก เพราะคนคนนั้น คือผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาที่ทะเล เธอยิ้มให้เอิน เที่ยงวันนั้น เอินจึงตัดสินใจนั่งทานไอศกรีมรสสตรอเบอรี่กับเธอสองต่อสอง ที่ม้าหินอ่อนริมสนามหญ้านั่นเอง
“เธอเรียนที่นี่เหรอ” เอินถาม
เธอพยักหน้า
“เธอชื่ออะไร” เอินถาม
เธอยิ้ม แต่ไม่ตอบ
ต่อจากนั้น ไม่ว่าเอินจะชวนคุยอะไร เธอก็ได้แต่ยิ้ม พยักหน้า ส่ายหน้า แล้วก็ฟัง เอินเล่าเรื่องครอบครัวเขา เรื่องเพื่อนสนิท แล้วก็ทุกเรื่องที่เขาพอจะนึกออก จากนั้น เธอกับเขาก็แยกกันไป เมื่อสัญญาณบอกว่าหมดเวลาพักกลางวัน
เธอเป็นใครกันนะ เอินคิดในใจ เธอจะใช่คนที่ส่งของกินให้เราเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนหรือเปล่า แล้วทำไมไม่ถามล่ะ ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องถามให้ได้ กว่าเอินจะหลับในคืนนั้น ก็เป็นเวลาตีสองพอดี
เที่ยงวันต่อมา เธอก็มารอเอินที่ม้าหินอ่อนตัวเดิม พร้อมด้วยซาลาเปาใส้หวานสองใบ แน่นอน วันนี้เป็นวันพุธ
“เธอชอบกินซาลาเปาใส้หวานเหรอ” เอินถาม
เธอพยักหน้า น่าแปลก เธอกับเอินชอบกินอาหารเหมือนกันทุกอย่าง และเอินก็คงไม่แปลกใจเลย ถ้าวันพรุ่งนี้ เธอจะยืนรอเขาพร้อมทั้งเค้กช็อกโกแลตสองชิ้น
“ประมาณเดือนกว่าๆมาแล้ว มีคนส่งของกินมาให้ฉันทุกวันเลย ใช่เธอหรือเปล่า” สำหรับคำตอบ ก็ยังคงเป็นรอยยิ้มของเธอ เวลาเธอยิ้ม แปลว่าเธอไม่อยากตอบ หรือเธออายที่จะตอบกันแน่ เอินก็สุดที่จะรู้
เอินยังคงมานั่งกินอาหารเที่ยงที่เธอนำมาเผื่อเขาทุกวัน ความผูกพันก่อตัวขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นความคิดถึง ห่วงใย ห่วงหา และความรัก แม้ว่าเอินจะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน แต่เอินก็ยังเป็นสุขทุกครั้ง เมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเธอ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก สองอาทิตย์แล้วที่เขารู้จักเธอ เอินคิดว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เขาจะบอกความในใจให้เธอรู้
“วันจันทร์ มาเจอฉันที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนนะ”
เอินนัดเธอ การจะสารภาพรัก ต้องอาศัยความโรแมนติกหน่อย เอินจะพาเธอไปนั่งร้านอาหารบรรยากาศดีๆสักร้านหนึ่งแถวนี้
เอินพยายามหาของขวัญมามอบให้เธอในวันที่โรแมนติกเช่นนี้ แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังคิดไม่ออก ว่าอะไรที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบของเอินได้
วันจันทร์(วันนัดสำคัญ)
“ไอเอิน แกหอบของกินมาทำไมตั้งเยอะตั้งแยะวะ” ไอป้องถาม ใช่แล้ว ของขวัญที่เหมาะที่สุดสำหรับเธอก็คือของกินที่เธอชอบทั้งหมดนั่นแหละ หมูปิ้ง ไอศกรีมรสตรอเบอรี่ ซาลาเปาใส้หมู เค้กช็อกโกแลต และไข่ปิ้ง เพราะของเหล่านี้ทำให้เขาและเธอได้รู้จักกัน และ
รักกัน เอินหันกลับไปมองไอป้อง แล้วยิ้ม เหมือนกับเวลาเธอยิ้มให้เขา ตอนที่เธอไม่อยากตอบคำถามเขานั่นหละ
เวลาเย็น เอินมานั่งรอที่ป้ายรถเมล์ กะว่าจะมาก่อนเธอสักครึ่งชม เพื่อซักซ้อมคำพูดต่างๆที่จะพูดกับเธอ (เป็นรอบที่50)
ตะวันคล้อยต่ำลงทุกที เอินมองซ้ายมองขวาอย่างกระวนกระวาย ทำไมเธอยังไม่มาสักที เอินรอเธออยู่ตรงนั้น ชั่วโมงแล้ว ชั่วโมงเล่า จนในที่สุด
..
ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษเขียนเรียงความ มองสบตาเพื่อนๆในชั้นที่กำลังรอฟังตอนจบของประสบการณ์ชีวิตรักของผมอย่างใจจดใจจ่อในชั่วโมงภาษาไทย ผมเป็นคนสุดท้ายที่ถูกเลือกให้ออกมายืนอ่านเรียงความเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ผมเลือกที่จะเขียนเรื่องผมกับเธอ แต่ผมยังไม่ได้แต่งตอนจบของเรื่องนี้ไว้เลย เพราะทุกวันนี้ ผมก็ยังรอเธออยู่
“จนในที่สุด อะไรล่ะ” เพื่อนคนหนึ่งในชั้นตะโกนถามขึ้นมาหลังจากเห็นผมเงียบไปนาน
“จนในที่สุด จนในที่สุด
..”
“จนในที่สุด เธอก็กลับมา” ทุกคนหันไปทางต้นเสียง สาวสวยผิวคล้ำ ผมยาวถึงกลางหลัง และรอยยิ้มที่ทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่มอง เธอยืนพิงประตูหน้าชั้นเรียน
“ขอบคุณครับที่ช่วยแต่งตอนจบให้ผม” ผมหันไปบอกเธอ แล้วหันมาเผชิญกับสายตา
งงงวยของเพื่อนๆในชั้น
“ใช่แล้วครับ จนในที่สุด เธอก็กลับมา” เพื่อนๆปรบมือเสียงดังให้กับเรียงความชิ้นนี้ของผม แต่มันคงไม่ดังเท่าเสียงเต้นของหัวใจผมในตอนนี้ เธอกลับมาแล้ว หลังจากผมรอเธอมานานถึง2ปีกับ2อาทิตย์
เรานั่งกันอยู่บนม้าหินอ่อนตัวเดิม ผมจับมือเธอไว้ และรวบรวมความกล้าเพื่อบอกความรู้สึกต่อเธอ
“ฉันรักเธอ” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เรารู้จักกันมา ที่ผมเห็นน้ำตาของเธอ ความปลื้มปิติทำให้น้ำตาผมแทบจะไหลออกมาด้วย วันนี้เป็นวันที่ประทับใจที่สุดของเรา เธอก้มหน้าลงเช็ดน้ำตา ผมยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู
“ขอโทษ” นี่เป็นประโยคแรกที่เธอพูด หลังจากได้ยินคำรักจากผม
“ไม่เป็นไร ยังไงวันนี้เราก็เจอกันแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงอะไรที่ผ่านมาอีกแล้วล่ะ”
เธอเงยหน้าขึ้นมองผม แววตาของเธอทำให้ผมตกใจ มันเศร้า
.เศร้ามาก ไม่เหมือนคนที่เพิ่งได้ยินคำบอกรัก
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“เรื่องอะไร” ผมใจหายวูบ เธอกำลังจะบอกอะไรกับผมกันแน่
“ฉันไม่ได้รักเธอเลย ของที่ฉันฝากไปทั้งหมด ฉันตั้งใจจะฝากให้บิ๊ก แต่บิ๊กเขากลับเอาไปให้เธอ”
[b]“งั้นคนที่เธอรัก ก็คือ
บิ๊ก”[b] ผมพูดด้วยเสียงเบาหวิว จิตใจมันเจ็บปวดเหลือเกิน
“ใช่ ฉันเพิ่งมารู้ความจริงว่าบิ๊กเขาเอาของไปให้เธอ ตอนที่ฉันตามเขาไปทะเล เขาบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับเขาซะ แล้วให้หันไปชอบเธอ เขาบอกว่า คนที่ชอบอะไรเหมือนกัน น่าจะเข้ากันได้ดีกว่า”
“แล้วคุณก็มาหาผม” ผมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกเธอเพื่อเพิ่มความห่างเหิน
เธอพยักหน้า
“พอฉันได้รู้จักเธอ ฉันก็รู้ว่าเธอเป็นคนดี ทำให้ฉันมีความสุขได้ เรายังชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ฉันคิดว่าเราน่าจะลงเอยด้วยความรักได้ แต่ฉันก็รู้ว่าฉันคิดผิด
เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันนะเอิน”
“แล้วคุณกลับมาทำไมอีก”
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้เธอรอน่ะสิ รอด้วยความทรมาน รอด้วยความสงสัย ฉันไม่อยากให้คนที่มอบความสุขและความรู้สึกดีๆให้ฉันต้องทนกับความเจ็บปวดเหล่านี้”
“คุณก็เลยกลับมา เพื่อที่จะบอกว่า คุณไม่ได้รักผมเลยน่ะเหรอ”
เธอพยักหน้า
“แล้วก็อยากขอบคุณเธอนะเอิน ตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่ฉันอยู่กับเธอ ฉันมีความสุขมาก”
นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิต ที่เธอพูด พูด แล้วก็พูด โดยที่ผมเป็นฝ่ายรับฟัง เธอพูดจบเธอก็เดินจากไป หายลับไปในกลุ่มนักเรียนหลายร้อยที่กำลังจะกลับบ้านในตอนเลิกเรียน ผมหยิบกระดาษเขียนเรียงความออกมาจากกระเป๋านักเรียน เขียนประโยคสุดท้ายของเรื่องนี้ลงไป
“จนในที่สุด เธอก็กลับมา และบอกกับเอินว่า เธอไม่เคยรักเอินเลย แล้วเธอก็จากไป
.จากไปชั่วนิรันดร์”
ผมพับกระดาษเขียนเรียงความลงกระเป๋า ตอนนี้เรียงความของผม คงต้องปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ซะที (หมูปิ้งที่เธอนำมาฝากยังอร่อยเหมือนเดิม) ผมคงคิดถึงเธอมากเลย
[b]เฮ้อ!! เศร้าจัง[b]
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น