คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
“สิบห้า”
“...”
“เฮ้ย สิบห้า”
“....”
“หมายเลขสิบห้า !!!!” เสียงตะโกนเรียนผม
“ห๊ะ” ผมทำหน้างง
“เป็นไรของมึงเนี่ย เห็นเหม่อตั้งแต่เย็นล่ะ”
“ป่าวพี่ ผมแค่คิดไรเรื่องเปื่อย” ว่าแล้วผมก็หยิบบุหรี่ยี่ห่อดังมาลบความเครียด
ในหัวผมมีแต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้น คนที่ผมฝันถึงเธอทุกคืน ผู้หญิงที่ผมเคยทำผิดกับเธอมหันต์ ผมอยากจะขอแก้ตัวกับเธอสักครั้งแม้ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเธอจะลืมผมไปหรือยัง หรือเธออาจจะไม่เคยมีผมอยู่ในความทรงจำเลย ผมคอยหาโอกาสไปเจอกับเธอ เธอที่ผมเคย.....
“พี่ ผมถามอะไรหน่อยได้สิ ทำไมเราถึงต้องทำ” ผมว่าแล้วก็บี้บุหรี่แล้วทิ้งลงพื้น
“มันเป็นโชคชะตามั้ง ฮ่าๆๆๆ” หมายเลขยี่สิบหัวเราะราวกับไม่ได้จริงจังกับคำตอบ
เราได้รับคำสั่งจากนายใหญ่ให้ทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ โดยพวกเราเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเป้าหมายมันคืออะไร ทำถึงไหนถึงจะเรียกว่าสำเร็จภารกิจ แต่เราก็ต้องทำเพราะมันคือหน้าที่
แก๊งของเราเป็นแก๊งที่ใหญ่มาก ใหญ่จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร รู้แค่เราต้องทำตามคำสั่งของนายใหญ่ ผมถูกเลี้ยงมาโดยนายใหญ่ ตั้งแต่จำความได้ผมไม่เคยรู้เลยว่าพ่อกับแม่ผมคือใคร นายใหญ่เป็นพ่อบุญธรรมของผม ผมโตมากับคำว่าอดทน นายใหญ่ฝึกให้ผมต่อสู้ ฝึกให้เข้มแข็งและฝึกให้ผมเลือดเย็น ผมถือเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ดีมาก ผมได้รับคำสั่งให้สังหารนักธุรกิจรายใหญ่ตอนอายุ 15 ปี แม้ผมจะอยากทำมันหรือไม่ผมก็ต้องทำเพราะผมต้องตอบแทนหนี้บุญคุณของนายใหญ่
เหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอคือใคร วันที่ผมได้รับคำสั่งให้ดับชีวิตนักธุรกิจรายใหญ่ที่ชื่อมิสเตอร์เรียล ผมสุ่มอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้บริเวณที่รถมิสเตอร์เรียลจอดอยู่ เราได้เบาะแสมาว่ามิสเตอร์เรียลจะทำการส่งของบางอย่างซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไรกับนายทุนชื่อดัง ผมไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำผิดกฎหมายกัยหรือเปล่า แต่ผมแค่ทำตามคำสั่ง มิสเตอร์เรียลยืนกอดออกข้างชิงช้าเหล็กสีฟ้า ผมเล็งปืนไปที่บริเวณท้ายทอยของมิสเตอร์เรียล นิ้วชี้เลื่อนเข้ามาที่ไกปืน ผมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ พร้อมคิดดังๆ ในใจว่านี่เราต้องทำจริงๆใช่มั้ย ผมตัดสินใจจะเหนี่ยวไก แต่ทันใดนั้นผมได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
‘ปะป๊า... ไกวชิงช้าให้หนูหน่อยสิคะ’ สายตาผมมองไปที่หญิงสาวที่ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ที่ผมเธอติดกิ๊บสีฟ้า เด็กหญิงอายุประมาณ 12 พูดกับมิสเตอร์เรียลอย่างไร้เดียงสา
‘เนญ่าของป๊าโตเป็นสาวสวยแล้วนะ ต่อไปนี้ก็จะมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบลูกสาวป๊า เฮ้อออ แบบนี้เนญ่าจะทิ้งป๊าไปอยู่กับแฟนรึป่าวน๊า’ ว่าแล้วมิสเตอรเรียลก็เดินเข้าไปกอดลูกสาว
‘ญ่าไม่ทิ้งป๊า ญ่าจะอยู่กับป๊า และญ่าก็จะไม่มีแฟนด้วย ดีมั้ยคะป๊า ฮิฮิ’ เด็กหญิงพูดแล้วก็หัวเราะอย่างร่าเริง รอยยิ้มนั้นทำให้ผมลืมภารกิจที่ต้องทำ ผมลดปืนลง ผมไม่กล้าพอที่จะพรากชีวิตพ่อลูกคู่นั้น
ปั้งงงงงงง !! ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ชายร่างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าล้มลงนอนจมกองเลือด เด็กหญิงที่อยู่ข้างเขาหันมาเรียกชายที่นอนแน่นิ่ง เด็กหญิงเขย่าร่างนั้นพร้อมกับตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อให้ตื่นพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เธอร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดแต่ผู้เป็นพ่อกับไม่ตอบสนอง ผมยืนอึ้งอยู่สักพัก ด้วยความสงสารก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเธอ แต่ก็ถูกหมายเลขห้ารั้งไว้
‘อย่า....’ หมายเลขห้าห้ามผมพร้อมส่ายหน้าช้าๆ
‘แต่เราจะทิ้งเธอไว้แบบนี้หรอ’ ผมทำหน้าสงสัย
โคร่มมมม !!!! ในขณะที่ผมกำลังตกกับหมายเลขห้าว่าจะเอาไงกับเด็กหญิงดี ก็ได้ยินเสียงรถชนจึงหันไปดู ปรากฏว่าเป็นรถเก๋งสีแดงวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ผมมองเห็นร่างหนึ่งนอนอยู่บนถนน ที่น่าตกใจคือ ร่างนั้นคือเด็กหญิงที่เป็นลูกสาวของมิสเตอร์เรียล ซึ่งตอนนี้ร่างเธอนอนแน่นิ่งเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อ ผมจึงตัดสินใจรีบวิ่งไปหาร่างเล็กนั้นโดยไม่สนใจหมายเลขห้า มือน้อยนั้นเต็มไปด้วยแผล เธอไม่รู้สึกตัว แต่ยังหายใจอยู่ผมจึงรีบอุ้มเธอไปหาหมายเลขห้า และพาเธอกลับไปที่บ้านพัก
‘เธอไม่เป็นไรมาก แต่สมองได้รับการกระทบกระเทือนนิดหน่อย คงต้องดูอาการต่อไปนะครับ’ หมอประจำแก๊งได้รักษาเด็กหญิงไว้ทัน โชคดีที่เธอไม่เป็นไรมาก
‘ขอบคุณครับ’ เสร็จแล้วหมอก็ออกจากห้องไป เหลือแค่ผมที่นั่งอยู่ข้างเตียงเด็กหญิงคนนั้น ผมมองเธอด้วยสายตาที่เศร้า เพราะผมสงสารเธอที่ต้องเห็นพ่อตายต่อหน้าต่อตา
‘เธอเป็นไงบ้าง’ เสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างหลังผม ใช่แล้วครับเสียงของนายใหญ่ ความจริงแล้วนายใหญ่ไม่ใช่คนที่โหดร้ายอะไรนัก ท่านเป็นคนที่อบอุ่น เลี้ยงผมมาเหมือนลูกจริงๆ แต่นายใหญ่จะสอนเสมอว่าอย่าให้ความอ่อนแอมาทำลายตัวเอง
‘พ่อครับ ผมสงสารเธอ พ่อจะทำยังไงกับเธอครับ จะส่งเธอกลับบ้านรึป่าว’
‘คงต้องดูอาการก่อน ถ้าเธอดีขึ้นพ่ออาจจะส่งเธอกลับบ้าน’ นายใหญ่ว่าแล้วก็เดินเข้ามาลูบหัวเด็กหญิงเบาๆ
‘พ่อครับ ผมไม่ได้ฆ่ามิสเตอร์เรียล’ ผมก้มหน้าสารภาพผิดกับนายใหญ่
‘พ่อรู้ แกไม่ทำหรอก มิสเตอร์เรียลคงถึงคาดเองแหละ’ นายใหญ่พูดเหมือนไม่ได้ตั้งใจส่งผมกับหมายเลยห้าไปฆ่ามิสเตอร์เรียล
‘แล้วพ่อให้พวกเราไป....’
‘ไว้สักวันแกจะรู้เอง พ่อไปประชุมก่อนนะกลับดึกหน่อย ไม่ต้องรอทานข้าวนะ” ว่าแล้วนายใหญ่ก็เดินออกไป
ผมไม่รู้จะช่วยเธอยังไง ผมนั่งมองร่างเด็กหญิงที่นอนนิ่ง ร่างกายเต็มไปด้วยสายระโยงระยางผมสงสารเธอเหลือเกิน ขอให้เธออย่าเป็นอะไรมากเลย ผมได้แต่คิดถึงเหตุการณ์ตอนที่มิสเตอร์เรียลถูกยิง ผมไม่ได้ยิงเขา หมายเลขห้าก็ไม่ได้ยิง แล้วใครล่ะที่เป็นคนฆ่ามิสเตอร์เรียล เรื่องนี้ทำให้ผมเป็นกังวลมาก เหตุการณ์วันนี้คงทำให้ผมฝันร้ายไปอีกนาน
ความคิดเห็น