ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KNB All x Kuroko Project] Treasure

    ลำดับตอนที่ #8 : Pass 4 - He Might Not Be A Decent One

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 66


    Pass 4

    ‘He Might Not Be A Decent One’

     

    ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ตอนนี้สมาชิกชมรมบาสเซย์รินก็ได้เดินทางมาถึงโรงเรียนไคโจวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แค่มองจากภายนอกก็รู้แล้วว่าใหญ่กว่าเซย์รินสองถึงสามเท่า สมแล้วที่เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง

    “โอ้ ใหญ่เป็นบ้าเลยแหะ เขาแบ่งพื้นที่ส่วนของชมรมกีฬาไว้เพียบเลย”

    ไม่ใช่แค่โดดเด่นเรื่องบาสเก็ตบอล ชมรมกีฬาอื่นๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็ยังคงมีนักเรียนมาทำกิจกรรมชมรมกันค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร พวกปี 2 ยังคงดูชิวๆ อยู่ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขานัดซ้อมแข่งนอกสถานที่ ต่างจากพวกปี 1 ที่ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเสือป่าของทีมอย่างคางามิ สภาพของเขาเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน

    “คางามิคุง ตาของคุณดูแปลกผิดปกตินะคะ”

    “หุบปาก ก็แค่...เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลย”

    ‘ใครจะกล้าบอกว่ามัวแต่คิดจะเอาชนะเจ้าบ้าคิเสะนั่นจนนอนไม่หลับทั้งคืนล่ะ’

    ทาคาระยืนมองคางามิบ่นงึมงำๆ อะไรสักอย่างอยู่ข้างๆ ไม่ใช่แค่สภาพเหมือนคนอดหลับอดนอนเท่านั้น แต่เจ้าตัวยังปล่อยรังสีที่เหมือนเตรียมพร้อมออกรบไม่หยุด แค่มองทาคาระก็พอจะเดาออกว่าเจ้าตัวคงตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้ประลองฝีมือกับคิเสะหลังจากที่ได้ดวลกันแบบ 1 ต่อ 1 ไปแล้ว

    “นายเป็นเด็กประถมที่ไปทัศนศึกษาครั้งแรกรึไง?”

    นิจิมุระที่ยืนอยู่ข้างๆ ทาคาระที่เห็นสภาพของคางามิแล้วอดที่จะพูดออกมาไม่ได้

    “คุโรโกจิ!!! วันนี้ก็ฝากด้วยล่ะ!”

    หมับ!

    “คิเสะ!!”

    เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก แม้กระทั่งนิจิมุระที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ คิเสะก็โผล่ออกมาจากไหนก็ไม่มีใครทราบ เจ้าตัวกระโจนเข้าไปกอดทาคาระในทันที ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเจอหน้ากันไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แต่คิเสะทำราวกับว่าไม่ได้เจอทาคาระมาเป็นสิบปี

    “ผมคิดถึงคุโรโกจิมากๆ เลยรู้ไหม ผมตื่นเต้นมากเลยนะที่จะได้เล่นบาสกับคุณอีกครั้ง(ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละทีมก็เถอะ)”

    “...คิเสะคุง”

    “ไคโจวใหญ่มาก ผมกลัวคุโรโกจิหลงเลยอาสามานำทางไปโรงยิมให้”

    “ฉันว่าคุณปล่อยก่อนเถอะค่ะ”

    พอหันไปทางเซย์รินที่เหลือคิเสะก็พบว่าไม่ใช่เพียงแค่นิจิมุระเท่านั้นที่ส่งสายตาข่มขู่มาให้ เขาจึงต้องจำใจปล่อยทาคาระและเปลี่ยนไปเป็นเดินจับมือแทน ในระหว่างทางเดินไปที่โรงยิมคิเสะก็พยายามชวนทาคาระคุยไปเรื่อย ส่วนใหญ่จะเป็นการตัดพ้อที่โดนอีกฝ่ายปฏิเสธไปเมื่อคราวก่อน

    “คุโรโกจิรู้ไหมว่าตั้งแต่ที่คุณปฏิเสธผมคราวก่อนผมนอนร้องไห้ทุกคืนเลยนะ ฮือ”

    “…”

    “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธผมเลยสักคน”

    “...ช่วยหยุดพูดเรื่องชวนเข้าใจผิดนี่สักทีเถอะค่ะ”

    “แต่ก็นั่นแหละ ตั้งแต่คุโรโกจิพูดกับผมเมื่อคราวก่อน ผมเลยรู้สึกสนใจนิดหน่อย”

    ไม่ต้องบอกทุกคนก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่คิเสะพูดด้วยคือคางามิซึ่งอยู่ด้านหลังของพวกเขาอีกที คำพูดที่ราวกับจะเปิดสงครามประสาทของคิเสะทำให้คนอื่นๆ เงียบเสียงลงในทันที ถึงภาพลักษณ์และอุปนิสัยของคิเสะที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าเจ้าตัวเหมือนลูกหมาหรือไม่ก็โกลเด้น ทว่าคนในทีมบาสเทย์โควจะรู้ดีเลยว่าคิเสะนะเสือซ่อนเล็บดีๆ นี่เอง

    “ผมไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับชื่อเสียงของ ‘ทีมแห่งปาฏิหาริย์’ หรอกนะ แต่ถ้าคุณอยากที่จะแข่งขนาดนั้น แม้กระทั่งคนอย่างผมก็คงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้”

    “…”

    “โทษทีนะ แต่ผมจำเป็นที่จะต้องล้มคุณให้ได้จริงๆ และเมื่อถึงตอนนั้นผมจะพาทาคาระ(รวมถึงรุ่นพี่นิจิมุระ)ย้ายมาอยู่ที่ไคโจว”

    “…หึหึ แน่นอนอยู่แล้ว”

    ปึก!

    “โอ๊ย! คุโรโกจิผมเจ็บนะ!”

    อาศัยช่วงทีเผลอทาคาระกระแทกศอกใส่ท้องของคิเสะเต็มแรง เป็นผลทำให้นายแบบสุดหล่อแทบล้มทั้งยืน คนที่เหลือไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือหัวเราะก่อนดี แต่พอเห็นสีหน้าที่อึมครึมของทาคาระแล้วพวกเขาเลยเลือกที่จะไม่พูดหรือส่งเสียงใดๆ ออกมา

    “คิเสะคุง ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าจะไม่ย้ายไปอยู่ไคโจว”

    “ถ้าคุโรโกจิมั่นใจขนาดนั้นมาพนันกับผมไหมล่ะครับ!?”

    “…”

    “!!?”

    “เฮ้!?”

    หลังจากลุกขึ้นมาตั้งหลักได้ คิเสะก็ไม่มีสีหน้าขี้เล่นเหมือนปกติอีกแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอย่างมาก

    “...นายหมายความว่ายังไง?” นิจิมุระ

    “…” ทาคาระ

    “มาพนันกันไหมล่ะครับ? ถ้าผมชนะทั้งทาคาระและรุ่นพี่นิจิมุระจะต้องย้ายมาไคโจว”

    “!!!”

    พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าจากนัดซ้อมแข่งธรรมดาทั่วๆ ไปกำลังกลายเป็นเกมส์ที่ต้องเดิมพันด้วยสมาชิกใหม่ของเซย์รินสองคน คางามิที่ได้ยินดังนั้นก็กัดฟันด้วยความโมโห ทว่าทาคาระกลับยกมือขึ้นมาห้ามก่อนที่คู่หูคนใหม่ของเธอจะกระโจนเข้าไปชกหน้าคิเสะ

    “แล้วถ้าพวกเราชนะล่ะคะ?”

    “...ไม่มีทาง!”

    “มันก็ไม่แน่หรอกนะคิเสะ”

    นิจิมุระก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆ ทาคาระเพื่อแสดงตัวอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่ใช่กัปตันทีมบาสของเทย์โควแล้ว แต่นั้นก็ไม่ทำให้นายแบบหนุ่มรู้สึกกลัวคนตรงหน้าน้อยลงเลยสักนิด จนคิเสะอดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองคิดผิดที่เผลอพลั้งปากไปท้าพนันอีกฝ่ายเข้า

    “ไหนลองบอกมาสิว่าถ้าพวกเราชนะแล้วจะได้อะไร?”

     

    “อา...ถึงแล้ว”

    “...เดี๋ยวนะ”

    “หือ?”

    ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินมาถึงโรงยิม ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปก็พบว่าสนามถูกจัดเตรียมเอาไว้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งก็มีนักกีฬาบาสคนอื่นๆ ของไคโจวกำลังฝึกซ้อมกันอยู่ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเซย์รินอย่างมาก

    “...จะให้พวกเราเล่นครึ่งสนามเหรอ”

    “ทำไมพวกเขากำลังฝึกอยู่ที่สนามอีกฝั่ง?”

    “เดี๋ยวสิ อันนั้นไม่ใช่ว่าพังไปแล้วเหรอ”

    ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสนามที่ให้ใช้ได้แค่ครึ่งนึงเท่านั้น แต่อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้กลับดูเก่าซะจนสามารถผุพังลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ไอดะก็ยังพยายามใจดีสู้เสือปั้นหน้ายิ้มและเดินเข้าไปทักทายโค้ชของไคโจว ถึงแม้ว่าตอนนี้ภายในใจของเธอเริ่มจะมีน้ำโหนิดๆ

    “อ้าว มากันแล้วเหรอ ยินดีที่ได้พบนะ วันนี้เราจะเล่นแค่ครึ่งสนามฝั่งนี้ พวกเธอคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”

    ‘...หมายความว่ายังไงนะ!? ถามแบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆ!’

    “…ยินดีที่ได้พบเช่นกันค่ะ เออ ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ?”

    “ก็อย่างที่เธอเห็น วันนี้เป็นเพียงการแข่งอุ่นเครื่องของพวกเราเท่านั้น ส่วนสมาชิกที่ไม่ได้ลงเล่นก็ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรถ้าจะปล่อยให้นั่งดูเฉยๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาฉันเลยให้พวกเขาซ้อมกันตามปกติ”

    “…”

    “และถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการแข่งอุ่นเครื่อง แต่พวกเขาก็เป็นถึงนักกีฬาตัวจริงของพวกเรา ระวังลูกชู้ตสามแต้มของพวกเขาด้วยล่ะ”

    ตอนนี้กลายเป็นว่าไม่ใช่เพียงไอดะเท่านั้นที่โกรธจนควันแทบจะออกหู สมาชิกในทีมเซย์รินคนอื่นๆ มองไปที่โค้ชของอีกฝ่ายอย่างโมโหไม่ต่างไปจากโค้ชของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคางามิที่พร้อมจะกระโดดเข้าไปงับหัวอีกฝ่ายทันที

    ‘เจ้าพวกนี้กำลังหยามพวกเรา หรือพูดอีกอย่างก็คือพวกเราก็แค่ ‘คู่ซ้อมในเวลาว่าง’ เท่านั้น’

    และเหมือนว่าโค้ชของไคโจว ‘ทาเคอุจิ เก็นตะ’ จะไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองจะต้องเผชิญในเวลาต่อมา เพราะพอเขาหันมาเห็นคิเสะกำลังเปลี่ยนไปใส่เสื้อบาสก็รีบห้ามเอาไว้ทันที และยังพูดประโยคที่ทำเอาเซย์รินอารมณ์เดือดมากยิ่งขึ้นไปอีก

    “...หืม? นายเปลี่ยนเสื้อทำไม? คิเสะครั้งนี้นายไม่ต้องลงเล่น!”

    “เอ๋?”

    “ถึงแม้ในโรงเรียนเราจะรวบรวมคนเก่งๆ มาจากม.ต้นหลายๆ ที่ก็เถอะ แต่กับนายมันคนละระดับกันเลย”

    “เดี๋ยวสิครับโค้ช หยุดพูดเถอะครับ”

    “แค่เราเอาตัวจริงลงเล่นก็ไม่ค่อยแฟร์อยู่แล้ว ถ้าขืนนายลงเล่นด้วยมันก็ไม่ใช่การแข่งขันน่ะสิ”

    มาจนถึงตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่เซย์รินเท่านั้นที่เดือดกับคำพูดของทาเคอุจิ ทางฝั่งนักกีฬาไคโจวเองก็อยากจะหาอะไรมาอุดปากโค้ชตัวเองซะให้รู้แล้วรู้รอด พวกเขารู้ดีว่าโค้ชทาเคอุจิเป็นคนที่ปากเสียและพูดจาขวานผ่าซาก แต่พวกเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าพวกเขายื่นมือหรือเอ่ยแย้งไปจะกลายเป็นการหักหน้าโค้ชตัวเองแทน คิเสะจึงอาสาไปไกล่เกลี่ยเซย์รินแทนเอง ซึ่งไม่แน่ใจว่าไปไกล่เกลี่ยให้มันดีขึ้นหรือเป็นการราดน้ำมันบนกองไฟกันแน่

    “ขอโทษจริงๆ นะ แต่ไม่ต้องห่วง เขาแค่ให้ผมเป็นตัวสำรองเท่านั้น”

    “…”

    “ถ้าคุณล้มความมั่นใจของเขาลงได้ ผมเองก็อาจจะได้ลงเล่น มันอาจจะฟังดูแย่ไปบ้าง...”

    “…”

    “แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำให้ผมลงแข่งเกมส์นี้ได้ ผมว่าคุณไม่มีทางเอาชนะ ‘ทีมแห่งปาฏิหาริย์’ ที่เหลือได้”

    ‘และพวกคุณก็ไม่คู่ควรที่จะมีทาคาระ(และรุ่นพี่นิจิมุระ)อยู่ในทีมเลยสักนิด’ คิเสะคิด

    “อ๋อ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นที่พวกเราพนันกันเอาไว้จะทำยังไงต่อดีล่ะครับ”

    “!!!”

    “เฮ้! โรงเรียนเซย์ริน! เดี๋ยวฉันจะพาไปที่ห้องล็อกเกอร์”

    ในระหว่างที่ทาเคอุจิบอกทางไปห้องล็อกเกอร์ให้กับเซย์ริน ทาคาระอาศัยจังหวะนี้หันไปพูดอะไรบางอย่างกับคิเสะก่อนที่จะเดินตามคนอื่นๆ ไป เธอเองก็รู้สึกโมโหอย่างมากกับท่าทีของโค้ชไคโจวและคิเสะที่มีต่อพวกเธอ

    “คิเสะคุง”

    “…”

    “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พวกเราจะไม่ทำให้คุณต้องรอนานขนาดนั้น”

    เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ไอดะหันไปพูดกับทาเคอุจิเช่นกัน

    “เออ...ขอโทษนะคะ แต่ฉันคิดว่าการแข่งครั้งนี้...”

    “…”

    “พวกคุณ/นายไม่จำเป็นจะต้องออมมือเลยสักนิด”

    ไอดะ นิจิมุระ ทาคาระ และคางามิพูดขึ้นพร้อมกัน สร้างความประหลาดใจให้กับไคโจวไม่ใช่น้อย นั้นทำให้ทาเคอุจิเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมานิดหน่อยที่โดนทางเซย์รินพูดจายอกย้อนแบบนี้ ส่วนคิเสะก็ยิ้มออกมาอย่างถูกใจ

    “ว่าไงนะ?”

    “ก็ตามนั้นแหละค่ะ”

    “ดี งั้นมาเริ่มแข่งกันเลย นัดซ่อมแข่งระหว่างโรงเรียนเซย์รินและโรงเรียนไคโจว!”

    หลังจากที่เซย์รินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็วอร์มอัพกันนิดหน่อยก่อนที่จะลงสนามเพื่อเริ่มการแข่งขัน โดยผู้เล่นที่เซย์รินส่งลงสนามมีทาคาระ คางามิ ฮิวงะ อิซึกิ และมิโตเบะ และด้วยความจืดจางของทาคาระทำให้ผู้ตัดสินมองไม่เห็นว่าเธอยืนอยู่ในสนามด้วย เขาจึงเข้าใจผิดคิดว่าผู้เล่นคนที่ 5 ของเซย์รินยังไม่ได้ลงสนาม

    “เออ เกมส์จะเริ่มแล้วนะ เซย์รินช่วยไปตามผู้เล่นคนที่ 5 ให้มาเร็วๆ หน่อยจะได้ไหม?”

    “...เออ ครบ 5 คนแล้วนะคะ”

    “...เฮ้ย!!?”

    “หวา!!”

    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่!!?”

    “ผะ...ผะ...ผู้หญิง!!!”

    “นักบาสผู้หญิง! ถามจริง!?”

    “โผล่มาจากไหน!?”

    “ส่งผู้หญิงลงเล่นตั้งแต่เริ่มเกมส์เลยเนี่ยนะ!?”

    “ไม่ใช่ผู้จัดการอีกคนหรอกเหรอ!?”

    ไม่ใช่แค่อีกฝั่งของสนามเท่านั้นที่ตกใจ เพราะขนาดนักกีฬาของไคโจวที่อยู่ในสนามเดียวกันยังอดที่จะตกใจทาคาระไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรกว่ามีผู้หญิงคนอื่นนอกจากไอดะอยู่ด้วย โดยเฉพาะกัปตันทีมอย่าง ‘คาซามัตสึ ยูกิโอะ’ ซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามกันกับทาคาระ

    ‘ผะ...ผะ...ผู้หญิง! ก่อนหน้านี้ฉันไม่เห็นเธอเลย ’

    ‘แน่ใจนะว่าเป็นนักกีฬาบาสจริงๆ แบบนี้คนที่พวกเราจะต้องจับตาดูจริงๆ คงมีแค่เบอร์ 10’

    ‘ไม่ใช่ว่าเธอเป็นผู้จัดการอีกคนเหรอ!?’

    ‘ผู้หญิงในทีมบาสชายเนี่ยนะ!? เล่นบาสเป็นรึเปล่าเนี่ย!?’

    ‘นี่มันหยามกันชัดๆ’

    “โธ่เอ๋ย คุยโม้ชัดๆ ฉันนึกว่าพวกเขาจะให้คนที่ดูมีฝีมือกว่านี้ลงเล่นซะอีก ผู้หญิงเนี่ยนะ?”

    ทันทีที่ทาเคอุจิเห็นว่าผู้เล่นคนที่ 5 ของเซย์รินคือทาคาระก็อดไม่ได้ที่จะค่อนแคะ เพราะเขาคิดว่าการที่อีกฝ่ายส่งผู้หญิงที่รูปร่างอ่อนแอลงเล่นก็ไม่ต่างกับอีกฝ่ายหยามหน้าไคโจวอย่างแรง ซึ่งต่างจากคิเสะที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาไม่ค่อยพอใจอย่างมากที่โค้ชพูดดูถูกฝีมือของทาคาระ และเขาก็มั่นใจว่าทันทีที่เกมส์เริ่มอีกฝ่ายจะต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นไปจนหมด

    “...ผมว่าคุณไม่ควรสบประมาทเธอนะครับ”

    “…”

    “ถึงแม้ว่าคุโรโกจิจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร”

    ผิดกับโค้ชของเซย์ริน ไอดะกำลังนั่งวิเคราะห์ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอยู่ ซึ่งผลที่ได้ทำเอาเธอรู้สึกกังวลอย่างมาก

    “…ให้ตายสิ”

    “มีอะไรรึเปล่าครับโค้ช?”

    ‘หืมมม!? เดี๋ยวนะ…แบบนี้แย่แน่ๆ บางทีเราอาจเสียเปรียบเรื่องกายภาพ สถานะด้านศักยภาพของพวกเขาสูงมาก ถึงแม้ว่าฉันจะมองไม่ค่อยชัดเพราะใส่เสื้อผ้าอยู่ก็เถอะ บอกตรงๆ นี่มันระดับทีมชาติชัดๆ ทางด้านเรามีคางามิคุงกับคุโรโกะอยู่ก็จริง แต่พวกเราจะชนะพวกเขาได้จริงๆ งั้นเหรอ!?’

    ในช่วงที่ไม่มีใครสังเกตทาคาระก็ส่งสัญญาณบางอย่างให้คางามิ มีเพียงนิจิมุระซึ่งนั่งอยู่ข้างสนามเท่านั้นที่เห็น และทันทีที่เกมส์เริ่มกัปตันของไคโจวก็เป็นฝ่ายได้ลูกมาไว้ในครอบครองก่อน

    “เอาล่ะ! เริ่มเก็บแต้มกันแลย! ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง!”

    พลั่ก

    “อะ...อะไรเนี่ย!!?”

    เพราะความประมาททำให้ทาคาระสามารถชิงบอลมาจากคาซามัตสึได้ พอหันมาเขาก็พบกับทาคาระที่กำลังเลี้ยงลูกไปยังอีกฝั่งของสนาม ด้วยอารามตกใจทำให้ไม่มีใครวิ่งตามไปสกัด

    ‘มาจากไหนกัน!!?’

    แต่เพียงไม่นานคาซามัตสึก็วิ่งตามทาคาระทัน เจ้าตัวเตรียมเข้าประกบเพื่อทำการชิงลูก

    ‘เดี๋ยวนะ พอลองสังเกตดีๆ ผู้หญิงคนนี้วิ่งช้ามาก!!’

    “อ๊ะ!?”

    ทาคาระอาศัยจังหวะที่คาซามัตสึเผลอส่งลูกลอดระหว่างขาอีกฝ่ายส่งไปให้คางามิ พอได้ลูกมาคางามิก็รีบกระโดดขึ้นไปดังก์ทำคะแนนให้กับทีมทันที

    ‘รับไปซะ!!’

    “!!!!!!!”

    แต่เพราะใส่แรงมากจนเกินไปบวกกับแป้นบาสที่เก่ามากแล้วทำให้ห่วงบาสหลุดติดมือคางามิลงมาด้วย สร้างความแตกตื่นไปทั้งโรงยิมในทันที รวมถึงทีมเซย์รินเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

    “โอะ?...โอ้?”

    “เอ๋!!?”

    “เขาทำแป้นบาสพัง!!?”

    “แป้นบาสหักเลย”

    “แบบนี้ไม่ปกติแล้ว”

    ส่วนตัวต้นเหตุอย่างคางามิและผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างทาคาระกลับไม่ดูสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด คางามิหยิบห่วงบาสขึ้นมาแล้วเทียบกับหน้าของตัวเอง ก่อนที่จะเอาไปเทียบกับขนาดของใบหน้าทาคาระต่อ

    “อะไรกันเนี่ย? ดูนี่สิคุโรโกะ ขนาดมันใหญ่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก”

    “…”

    “โห มันใหญ่กว่าหน้าของฉันหรือของเธอซะอีกนะเนี่ย”

    “…ฉันว่าเราควรขอโทษก่อนนะคะ”

    ทั้งสองหันหน้าไปทางที่ที่โค้ชและนักกีฬาคนอื่นๆ ของไคโจวยืนอยู่ ถึงจะบอกว่าขอโทษแต่ทว่าสีหน้าของทั้งสองกลับไม่มีความสำนึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด โดยเฉพาะคางามิที่เอาห่วงบาสมาควงที่นิ้วชี้เล่นราวกับกำลังจะกวนประสาทพวกไคโจวให้อารมณ์เสียมากยิ่งขี้น

    “ขอโทษนะคะ ดูเหมือนว่าเราจะทำมันพังซะแล้ว คุณจะว่าอะไรไหมถ้าพวกเราจะขอใช้สนามอีกฝั่ง?”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×