ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( B.A.P ) Contrast ; Lodae

    ลำดับตอนที่ #7 : Contrast | 6th ; Dead?

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 56


    △ C R A Z E  ˊ

     

     


     

    Contrast
    | 6th ; Dead?

    pairing : Junhong x Daehyun (Lodae)
    rated : ??

    note :  ชื่อตัวละครเสิร์ชกูเกิ้ลแล้วเอาเลยค่ะ ไม่มีไตร่ตรอง .. คำผิดยังไม่ได้ตรวจ .. ฮี่ๆ ใกล้จบแล้วน้า จะเอาสเปความคิดของคุณนายชเวมั้ย? ... อ่า .... อย่าเพิ่งร้องไห้กันนะคะ(คนแต่งร้องไห้คนเดียวป่ะว่ะ OTL) เราว่าเราไม่ได้แต่งต่อแปบเดียวเองนะ... มานั่งดูอีกที เห้ยเกือบสิบวัน .... 






     

      ความเย็นวาบที่แล่นริ้วเข้ามาในร่างกายพร้อมกับอาการเจ็บแปลบขึ้นมาตรงช่วงอกทำแดฮยอนหยุดหายใจ เขาไม่รู้ว่าความ
    เจ็บที่แท้จริงนั่นมันเกิดจากตรงส่วนไหนของหน้าอก เพราะความชาวาบและความเจ็บจนจุกที่ถาโถมเข้าใส่ร่างกายนั้นมันเจ็บ
    ปวดจนเขาพูดไม่ออก ร่างกายของเขากระตุกเกร็งทันทีที่ความชาวาบนั้นหายไป หลังจากนี้สักสิบวินาที เขากำลังจะจำไม่ได้ว่า
    ตัวเองอยู่ที่ไหน หลังจากนี้สักสิบเอ็ดวินาที เขากำลังจะลืมไปว่าตัวเองโดนทำร้ายเพราะเรื่องอะไร หลังจากนี้เขากำลังจะลืมไป
    ว่าเขาเคยเจ็บปวดอยู่ตรงไหน และหลังจากนี้อีกสักยี่สิบวินาที เขากำลังจะลืมว่าตัวเองเป็นใคร หลังจากนี้และไม่รู้ว่าจะตลอด
    ไปหรือเปล่าที่เขากำลังจะไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ ทั้งๆที่เมื่อสามสิบนาทีก่อนเขายังเป็นคนเข้มแข็งอยู่แท้ๆ

     

    เจ็บเหมือนกันแหะ เจ็บเกือบจะเทียบเท่าที่เคยเจ็บมาตลอดชีวิตแล้วล่ะ

     

      ประสาทการรับรู้ทางหูของเขามันดับวูบไปแล้ว แต่ประสาทการมองเห็นของเขายังใช้งานได้อยู่ถึงแม้จะเลือนราง เขามองเห็น
    พี่ฮิมชานตะโกนโวยวายพร้อมกับวิ่งมาทางเขา เขาที่ตอนนี้ทรุดลงไปกองกับพื้นราวกับขยะไร้ค่า ภาพทุกอย่างที่มองเห็นมัน
    ชักช้าไปหมดราวกับถูกกดให้เล่นแบบสโลว์อย่างไรอย่างนั้น ทัศนะวิสัยของเขาถูกบดบังด้วยความร้อนชื้นที่ขอบตา

     

    อ่า ... กลับมาร้องไห้ได้แล้วสินะจองแดฮยอน

     

      แรงของเขาแทบไม่มีเหลือ แต่ก็มากพอที่จะยกยิ้มเพียงนิดให้กับคนที่กำลังล้อมรอบกายเขาอยู่ ดวงตาเขามองเห็นแม่ของเขา
    ยองแจ พี่ฮิมชาน และคุณชายชเว..

     


    แต่ก็น่าดีใจที่เขาจะไม่ได้มองเห็นจุนฮงในวินาทีสุดท้ายของชีวิต เขาจะได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับเสียที

     


    ชีวิตหลังความตายมันเป็นยังไงนะ? สวยหรูเหมือนที่เคยนึกฝันว่าอยากไปตั้งแต่สมัยที่หมดหนทางหรือเปล่า?

     

     

     

    สามสิบนาทีก่อน

     

     

    จริงหรอครับคุณพ่อ...ผมเป็นพี่ชายแท้ๆของจองแดฮยอนอย่างนั้นหรอ?”

     

      แดฮยอนหันไปมองคนที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาในโกดังลับประจำตระกูลชเวในเวลาที่ออกจะช้าเกินความคาดหมายของแดฮยอนไป
    สักหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงแล้วคิมฮิมชานก็ได้รับรู้ความจริงอีกข้อหนึ่งที่เจ้าตัวสมควรจะได้รับรู้มาตั้งแต่เกิดเสียสักที

     

    “ถามอย่างกับว่า..ถ้าฉันบอกอะไรแกไป แกก็คงเชื่อใจฉันอย่างนั้นสิ?”

      คุณชายชเวเอ่ยเสียงเรียบ ความเจ็บปวดภายในแววตานั้นฉายออกมาจนเห็นได้เด่นชัด มีไม่กี่เวลานักหรอกที่คุณชายชเวจะ
    อ่อนแอจนยอมให้ใครต่อใครเข้ามารับรู้ถึงความรู้สึกภายในใจของเขาได้ แน่นอนว่าเวลานี้แหละคือเวลาที่อ่อนแอที่สุดของคุณ
    ชายชเว

     

    “ทำไมคุณพ่อไม่บอกผม!! ทำไมต้องปิดบัง!!”

      จากที่คาดเดาสถานการณ์ พี่ฮิมชานเริ่มจะควบคุมตัวเองขึ้นไม่ได้ทุกขณะ ชายหนุ่มเดินตรงปรี่ขึ้นมากระชากคอเสื้อคนเป็น
    พ่อก่อนจะใช้ดวงตาสีช็อกโกแล็ตที่น่าหลงใหลและอยากจะลองค้นหาจ้องกลับไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ฝ่ามือที่
    กุมปกเสื้อนั้นกำลังจะขยับไปกุมลำคอของอีกฝ่ายทันที

     

    “ปล่อย...ปล่อยเขาเถอะครับพี่ฮิมชาน”

      แดฮยอนที่เริ่มหวั่นเกรงว่าตัวละครสำคัญในละครชีวิตของเขาอยู่ในขีดอันตรายก็รีบเอ่ยเตือนทันที เวลาพี่ฮิมชานโกรธและ
    ขาดสติมันน่ากลัวยิ่งกว่ายามที่แดฮยอนต้องยืนอยู่ริมดาดฟ้าพร้อมที่จะกระโดดปลิดชีวิตตัวเอง เพราะเวลาพี่ฮิมชานโกรธ
    การฆ่าใครหลายคนด้วยมือเปล่าก็ไม่ใช่เรื่องยากและไกลตัว

     

    แดฮยอนก็แค่ไม่อยากเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาอีกแล้วก็เท่านั้น

     

      พี่ฮิมชานยอมปล่อยมือออกจากลำคอของคุณชายชเวแล้ว ฝ่ามือทีแดฮยอนคิดว่ามันอบอุ่นที่สุดยามที่เขาต้องการใครสักคน
    ถูกยกขึ้นมาเสยผมตัวเองอย่างลวกๆราวกับอยากสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ฮิมชานเดินใกล้ขีดเส้นนั้นมากเกินไปแล้ว เขา
    เกือบไปแล้ว เกือบฆ่าพ่อแท้ๆของตัวเองไปเสียแล้ว..

     

    พ่อแท้ๆ....?

     

     

    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...?”

     

      ชเวจุนฮงที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาเดินเข้ามาในโกดังแห่งนี้เอ่ยถามขึ้น ถ้าพี่ฮิมชานเป็นพี่แท้ๆของจอง
    แดฮยอน คนๆนั้นมีความสัมพันธ์กับครอบครัวของเขามากกว่าคนรู้จักงั้นหรือ? แล้วจองแดฮยอนเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรถึง
    กลายเป็นแขกคนสำคัญดั่งที่คุณพ่อบอกเขาเอาไว้ผ่านปลายสายโทรศัพท์ว่าแขกคนสำคัญที่สุดในตระกูลของเขากำลังจะ
    มา? แขกคนสำคัญที่ทำให้จองแดฮยอนต้องกลายเป็นคนเย็นชาใส่เขา .. แขกคนสำคัญที่ว่าก็คือตัวจองแดฮยอนเองอย่างนั้น
    หรอ?

     

    ทำไมในเวลานี้ชเวจุนฮงที่รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนโง่ โง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง..

     

    “แกไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แค่รับฟังและพยายามรับมันให้ได้ก็พอ”

     

    “แล้วผมไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยหรือไง!!?

     

    “จะทำอะไรฉัน ....ฉะ....ฉันกลัวแล้ว..... อยะ.......อย่าเข้ามานะ!!!!!”

      จู่ๆเสียงสั่นและหวาดกลัวของหญิงสาวคนนึงก็ดังขึ้นจากทางข้างหลังตู้คอนเทนเนอร์ในโกดังที่ถูกตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง
    ของคุณชายชเวทำลายบรรยากาศมาคุของพ่อลูกได้ในทันที และสามารถเรียกความสนใจของคนทั้งโกดังให้หันตามไปยัง
    ที่มาของเสียงโดยไม่ต้องเอ่ยขึ้นซ้ำสอง น้ำเสียงที่คุณชายชเวโหยหามานานเหลือเกิน.. น้ำเสียงที่แดฮยอนมั่นใจว่าเขาไม่มีวัน
    ลืม น้ำเสียงที่คอยกล่อมให้เขานอนหลับทุกคืนทุกวันตั้งแต่เด็กๆ น้ำเสียงหวานๆที่ฟังกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ น้ำเสียงนุ่มๆที่ชอบ
    ร้องเพลงยามอารมณ์ดีและแดฮยอนก็มักจะแอบฟังอยู่เสมอ น้ำเสียงที่เขามักจะได้ยินเวลาไปเยี่ยมอีกฝ่ายที่โรงพยาบาล แม่
    ของเขา

     

    “แม่!!!”

      ต่อให้ไม่มีใบหน้าหรือสิ่งของแสดงตัวตนของการมีอยู่ในโกดังของแม่เขา แดฮยอนก็มั่นใจทันทีว่าคนใจร้ายและหยาบช้าคน
    นั้นอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก แอบซ่อนตัวอยู่หลังเงามืดตลอดเวลา ฟังทุกความหวาดกลัวและความกล้าหาญของเขาและยิ้มเยาะ
    เย้ยหยันให้กับตัวเอง เขามั่นใจว่าคนคนนั้นรับรู้อยู่ตั้งแต่แรกว่าความลับกำลังจะถูกเปิดเผยขึ้น ถึงได้กล้าเสี่ยงลักพาตัวแม่ของ
    เขาออกจากโรงพยาบาลด้วยไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม เพื่อมาเป็นข้อต่อกรสำคัญที่รู้ว่าต่อให้เขาต้องฆ่าตัวตายเขาก็จะยอม

     

    “ฉลาดจังนะเด็กน้อย ได้ยินแค่เสียงก็บอกได้แล้วว่าเป็นตัวละครตัวไหน”

      น้ำเสียงที่ใครๆก็คิดว่าหวานและไพเราะจับใจเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างของใครบางคนที่กำลังเดินออกมาจากความมืด ต่อให้น้ำ
    เสียงนั้นจะน่าฟังและช่างหยดย้อยราวกับน้ำผึ้งเดือนห้ามากแค่ไหนแดฮยอนก็ไม่อยากจะฟัง เขารังเกียจและไม่อยากเข้าใกล้
    แค่คิดว่าตัวเองตอนนี้กำลังยืนอยู่ในวงโคจรและตกเป็นเบี้ยล่างของคนคนนี้ก็อยากจะเอาปืนมายิงสมองตัวเองแทบจะแย่

     

    “แม่............”

      คราวนี้ไม่ใช่แดฮยอนที่เอ่ยเรียกคนเป็นมารดา กลับกลายเป็นชเวจุนฮงเสียเองที่ต้องเอ่ยเสียงหลงเมื่อพบกับใบหน้าที่คุ้นเคย
    และคอยปลอบประโลมเขาอยู่ไม่ห่างตั้งแต่ยามเป็นเด็กเดินออกมาพร้อมกับอาวุธปืนในมือและรอยยิ้มเยาะหยันร้ายที่เขาไม่
    เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้

     

      นี่สินะจุดไต้ตำตอและของใกล้ตัวของจริง

     

    “ฮือ...ฉันกลัวแล้ว มะ......ไม่เอาแล้ว......ฉะ.......ฉันยอมแล้ว”

      เสียงสั่นๆอย่างหวาดกลัวของหญิงสาวที่ดังขึ้นในตอนแรกดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของเธอและชายคนหนึ่งที่
    กำลังลากให้เธอเดินออกมาจากมุมมืดข้างหลังนั่นพร้อมกัน โดยไม่สนว่าหญิงสาวมีอายุนั้นจะเจ็บปวดรวดร้าวมากแค่ไหน รื
    จะโดนเหล็กหรืออะไรต่อมีอะไรขูดเข้ากับผิวหนังเนียนนั่นบ้าง

     

    มุนจงออบ..

     

     

     

    สวะ

     

      เขาเหมือนโดนตีแสกหน้าเข้าจังๆ เมื่อรู้ว่าลูกน้องคนสำคัญในมือของคุณนายคนนั้นจะเป็นถึงคุณหมอที่เขาไว้ใจที่สุดในการ
    ให้ดูแลคุณแม่ของเขาจากการเป็นโรคประสาท จงออบเป็นคนที่เข้าไว้ใจที่สุดในโรงพยาบาล เป็นคนที่แม่เขารักราวกับลูกแท้ๆ
    อีกคนที่คลอดตามกันออกมา จงออบเป็นคนที่ใสซื่อ ว่าง่าย ใจดี และเคร่งครัดในกฎระเบียบ เป็นลูกในฝันที่แม่ของเขาอยาก
    จะมี และแดฮยอนก็อยากจะให้เป็นน้องชายแท้ๆของเขาเสียจริง

     

      ไม่คิดเหมือนกันว่าจะโดนหักหลัง ถ้าเพียงแค่รู้และเอะใจสักนิดว่าการที่จงออบมาเมตตาแม่ของเขาจนเกินหน้าเกินตาคนอื่น
    นั่นจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ มันช่างมองง่ายแต่แดฮยอนก็ดันเหลิงจนเผลอไว้ใจไปแล้ว ความเชื่อใจและไว้ใจสำหรับเขามันเรียก
    กลับคืนได้ยาก แดฮยอนรู้ดี แต่ในเวลานี้มุนจงออบไม่ต้องเอ่ยปากขอโทษอะไรทั้งนั้น เพราะคำขอโทษเป็นพันๆครั้งเขาก็ไม่มี
    วันให้อภัย

     

    ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตจงออบก็ไม่มีวัน ชีวิตแม่เขามีค่ามากกว่ามันตั้งเยอะ!!

     

     

    “ปล่อยแม่ฉัน!! ก็บอกให้ปล่อยไงวะ!!!”

      แดฮยอนเอ่ยตะโกนทันทีแล้วรีบวิ่งปรี่ไปหมายว่าจะปกป้องมารดาของตนออกจากเงื้อมมือมัจจุราชที่พร้อมปลิดชีวิตแม่ของ
    เขาได้ทุกเมื่อที่เหนี่ยวไกปืนอีกกระบอกที่อยู่ในมือของมัน แดฮยอนหวาดกลัวกลัวว่าจะเสียแม่ของเขาไปอีกคน เหมือนกับที่
    เสียพ่อของเขาไปอีกคน เพียงแต่ทว่าพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้..

     

    ในนามพ่อของคนอื่น

     

    “เฮ้ๆ อย่าเพิ่งใจร้อน กลับไปเล่าบทละครย้อนหลังก่อนสิจ้ะเด็กน้อย”

      น้ำเสียงแกมดุที่อีกฝ่ายพลุนพลันเล่นเกินบทที่เธอวางไว้ ปลายกระบอกปืนถูกเล็งจ่อหัวของอีกฝ่ายทันทีที่เดินเข้ามาใกล้และ
    มากพอที่เธอจะปลิดชีวิตของเด็กนั่นด้วยการเหนี่ยวไปเพียงครั้งเดียว ไม่หรอก บทละครมันยังไม่จบ คิดอยากจะเปิดเผยเรื่อง
    ราวนักก็ต้องเปิด ไม่มีซ้ำสอง แค่ต้องรับผลกรรมที่ตามมาได้ก็เท่านั้น

     

    ง่ายๆแค่นี้ ทำไมเด็กน้อยโง่นี่ถึงยังดื้อดึ้งไม่ทำตามกันอีกล่ะน้า~

     

    “เอาสิ ถ้าเธอไม่เล่าตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาแก้ตัวอะไรกับจุนฮงทั้งนั้น ฉันไม่รับปากนะว่าเรื่องที่ฉันเล่ามันจะเป็นความจริง
    ทั้งหมดหรือเปล่า เผลอๆจากคนที่ควรโดนเกลียดอย่างฉันอาจจะโดนยกย่องให้เป็นคนดีไปเลยก็ได้นะ”

     

    “ต้องการอะไร?”

     

    “ก็แค่บอกความจริง...เธอก็รู้อยู่แล้วนิว่ายังไง มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอยู่ดี”

     

     

      แดฮยอนกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อยั้งคิด เขาควรจะยอมรับผลกรรมที่ตามมาหรือเปล่านะ? แดฮยอนรู้ดีว่าข้อแลกเปลี่ยนครั้งนี้
    ไม่ใช่เงินตรา เป็นแค่ความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เจ็บเจียนตายที่ต้องมีใครสักคนลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

     

    ความลับที่ถูกแลกด้วยชีวิต ไม่ว่าเขาจะเป็นคนเปิดเผยเอง หรือใครคนนั้น..

     

     

    “จุนฮงฟังนะ เพราะเรื่องที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้.. คือความจริงที่นายไม่เคยรับรู้”

     

    “.....”

     

    “ต่อให้มันเลวร้ายและทำลายจิตใจนายมากก็ตาม นายต้องยอมรับและผ่านมันไปให้ได้”

     

    “.....”

     

    “เชื่อฉันนะ”

     

    ผมเชื่อพี่มาตลอดทั้งชีวิต....พี่แดฮยอน

     

     

     

      ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนแล้วและแดฮยอนก็ควรจะเข้านอนตามประสาเด็กห้าขวบที่ต้องมีกฎเหล็กประจำตัวว่าต้องเข้า
    นอนเวลาเท่าไหร่ เด็กน้อยดวงตาใสแป๋วกลับไม่รู้สึกง่วงอย่างที่เคย ลางสังหรณ์อะไรบางอย่างกำลังบอกเขาว่าเขาไม่ควรที่
    หลับและควรจะอยู่เป็นพยานสำคัญในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของตระกูลของเขา ถึงวันนี้จะเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง แต่
    แดฮยอนกลับรู้สึกว่ามันหดหู่มากกว่าทุกๆวัน เมฆสีขาวยามกลางคืนเพียงบางเบาแต่สามารถกลบรัศมีของดวงจันทร์ได้จน
    หมด ถึงจะเป็นเด็กแต่แดฮยอนก็รู้ว่ามันผิดปกติกับที่เคย

     

      ยิ่งสายตาเวลาที่แม่ของเขาและพ่อของเขาจ้องตากันและรีบละสายตาจากอีกฝ่ายราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางสิ่งก็ยิ่งทำ
    ให้แดฮยอนมั่นใจว่าเขากำลังถูกปิดบังอะไรบางอย่างที่เขาไม่ชอบใจ เขาไม่ชอบให้มีความลับ ถึงแม้จะเป็นเด็กแต่เขาก็ไม่
    อยากให้ครอบครัวต้องแตกระแหงเหมือนครอบครัวของพี่ยงกุก มันดูโหดร้ายและทารุณเกินไปเกินที่เขาจะรับไหว ถึงแม้จะไม่
    ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่แดฮยอนก็ยังอยากจะมีชีวิตในครอบครัวที่สดใสเหมือนใครๆเขาก็เท่านั้นเอง

     

      เสียงจานแก้วตกกระทบกับพื้นห้องทำเอาแดฮยอนสะดุ้งจนตัวโหยง เด็กชายร่างเล็กรีบวิ่งหลุนๆไปยงที่มาของเสียงก่อนจะ
    พบกับเศษแก้วตกกระจายมากมาย เด็กหนุ่มยืนเกาะมุมผนังตรงนั้นเพราะไม่อยากเดินใกล้เศษแก้วเพราะกลัวจะได้รับ
    อันตราย แม่ของเขาดูท่าจะมีอาการตกใจมากพอๆกับพ่อของเขา แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นเพราะเพียงเหตุผลแก้วแตก แต่เป็นเพราะ
    หญิงสาวท่าทางใจร้ายราวกับแม่มดในนิทานที่ยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน เสื้อขนสัตว์ที่ฟูฟ่องจนแดฮยอนนึกขันในท่าทางการ
    แต่งตัว ริมฝีปากสีแดงสดที่ถูกแต้มด้วยแท่งสีๆที่แดฮยอนมักเห็นแม่ใช้บ่อยๆยามออกไปไหนเพื่อเพิ่มความสวย แต่พอมาอยู่
    ประดับบนปากของใครคนนั้นแดฮยอนกลับรู้สึกว่ามันน่ากลัวจนนึกตลกไปถึงแม่มดในนิทาน

     

      น่ากลัวแต่ก็ขบขัน...

     

      “ฉันมาทวงสัญญา”

     

      น้ำเสียงหวานๆที่แดฮยอนได้ยินนั้นเอ่ยช้าๆราวกับเน้นย้ำให้อีกฝ่ายที่ต้องการจะสื่อสารกันนั้นเข้าใจ เด็กน้อยในชุดนอนโดรา
    เอม่อนสีฟ้าสดใสขมวดคิ้ววุ่นกับข้อความที่น่าสงสัยในประโยคข้างต้น คุณแม่มักจะเอ่ยชมเขาเสมอๆว่าเขานั้นคิดมากเกินเด็ก
    เกินไป แดฮยอนเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวนักจนกระทั่งวันนี้

     

     

    “สัญญาที่ว่า..ไม่ว่าชาตินี้พี่จะหนีฉันไปอยู่กับอีตัวไหน”

     

    “ฉันก็จะมารับพี่ไปอยู่กับฉันตลอดทั้งชีวิต”

     

    “ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของใครอีกคนก็ตาม”

     

    “เข้าใจใช่มั้ย? สัญญาที่ฉันว่าในงานแต่งงานโสโครกของพี่หน่ะ”

     

      แม่มดคนนั้นพูดออกมาอย่างมั่นใจราวกับเป็นผู้กำกับละคร ละครเรื่องนี้กำลังจะฉายและหญิงสาวก็รู้เรื่องราวนั้นดี เธอเลือก
    วันไม่ผิดนักหรอก เพราะเธอรู้ว่าวันนี้มันวันอะไร

     

    วันเกิดของดวงใจของคนที่เธอรัก..

     

    วันเกิดไอ่เด็กนรกนั่น!!

     

      “เธอคิดจะทำอะไรหน่ะ!! ไหนเธอบอกจะมาสะสางความแค้นเก่าไงล่ะ!?”

      น้ำเสียงอ่อนโยนของคนที่คุ้นหูของเด็กน้อยดังขึ้นขัด แดฮยอนเพิ่งสังเกตเห็นถึงผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวคนนั้น
    และถ้าความทรงจำในวัยเด็กของเขาไม่มีผิด ชายคนนี้เป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าปากซอยที่เขาเคยเตะบอลเข้าไปใน
    เขตบ้านและชายคนนั้นก็ยื่นมันกลับมาให้เขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและอ่อนโยน

     

      พ่อของพี่ฮิมชานและจุนฮง เด็กน้อยสองคนในบ้านหลังใหญ่ที่เขาไปเล่นด้วยบ่อยๆ คุณชายชเว..

     

    “หุบปากไป! คุณมันไร้ประโยชน์ ฉันก็แต่งงานกับคุณเพื่อฮุบสมบัติเท่านั้นแหละ!”

     

      จู่ๆหญิงสาวคนนั้นก็หันปลายกระบอกอะไรสักอย่างที่แดฮยอนคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นในหนังอยู่บ่อยๆ ยามที่ตัวร้าย
    มักจะใช้เพื่อฆ่าพระเอก

     

    อาวุธอันตรายที่ปลิดชีวิตคนให้ตายได้แค่เพียงลมหายใจเดียว.. ปืน

     

     “จำเอาไว้! ชั่วชีวิตนี้ฉันรักแค่พี่ชุนฮวาเท่านั้น!!”

     

    ปัง!!

     

      และลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคุณชายชเวก็หมดไปเพียงลูกกระสุนและเสียงดังๆเพียงนัดเดียวเท่านั้น คุณชายชเวลมฟุบ
    ลงไปก้องกับพื้นต่อหน้าต่อตาของเด็กน้อย ดวงตากลมๆนั่นรื้นชื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ น้ำตาหยาดใสไหลลงมาอย่างไม่มี
    ทีท่าว่าจะหยุด เด็กน้อยข่มใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงดัง เพราะนั่นอาจจะทำให้คนใจอำมหิตคนนั้นรู้ได้ว่าเขายังไม่นอน

     

      คุณชายชเวหมดลมหายใจแล้ว..

     

     “ทีนี้ก็เลือกมา ระหว่างให้ฉันฆ่ายัยโสโครกนี่พร้อมลูกนรกของมัน หรือพี่จะใช้ชีวิตอยู่กับฉัน?”

     

     “กงจูใจเย็นๆนะ ค่อยๆพูดค่อยๆจา..ปัญหามันจะได้ไม่เกิดนะ”

      น้ำเสียงสั่นๆของพ่อเขาทำให้เด็กน้อยรับรู้ได้ทันทีว่าพ่อของเขากำลังตกอยู่ใสถานการณ์หวาดกลัว จริงๆแล้วถ้าใครตกอยู่ใน
    สถานการณ์นี้จะหวาดกลัวก็ไม่ใช่เรื่องผิด โดยเฉพาะแม่ของเขา แสงไฟที่สาดส่องลงมาทำให้แดฮยอนเห็นหยดน้ำตาที่ไหล
    ลงอาบแก้มของคนเป็นแม่ เด็กน้อยที่หวาดกลัวและตกใจจึงรีบปรี่วิ่งเข้าไปกอดเข้าที่ขาของคนเป็นแม่ และพยามจะเอื้อมฝ่า
    มือเล็กๆของตนเองหวังที่จะเช็ดหยดน้ำตาให้แม่ของตน ไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้ แม่ของเขาสวยงามเกินกกว่าจะพูดได้ยามที่
    แม่ยิ้ม เขาแค่อยากเห็นแม่ยิ้ม ไม่อยากให้แม่ร้องไห้..

     

    “ดี อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็ดี แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะจ้ะเด็กนรก ถือว่าซากศพพวกนี้และการตายไปของแกจะเป็นของขวัญชิ้น
    สุดท้ายที่แกจะได้รับบนโลกใบนี้นะ”

      พอได้มาอยู่ใกล้ แดฮยอนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าซาตานคนไหนๆ ยิ่งหันไปเห็นสภาพของคุณชายชเวที่เคยหล่อ
    เหลาแต่เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงไหลเป็นวงกว้างก็ทำเอาเด็กน้อยสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและผวามากขึ้นกว่าเดิมในทันที
    แดฮยอนหวาดกลัวมากขึ้นไปกว่าเดิมจนแทบจะหยุดหายใจเมื่อปลายกระบอกที่เคยปลิดชีวิตของคุณชายชเวนั้นถูกจ่อเข้า
    แนบกับหน้าผากของเขา ไม่มีช่องว่างใดๆระหว่างปลายกระบอกนั้นและผิวหนังของเขา มันถูกแนบชิดจนแดฮยอนรู้สึกได้ถึง
    ความเย็นเหยียบ

     

    แกร๊ก..

     

      เด็กน้อยได้ยินเสียงของแม่ตนร่ำไห้หนักขึ้นกว่าเดิมมากพร้อมแรงกอดที่ถูกถาโถมมา หยดน้ำตาของแม่เขาไหลเป็นทางเปียก
    เต็มชุดนอนของเขา จากที่เขาเคยกอดขาคนเป็นแม่เอาไว้ก็ถูกรวบไปกอดเสียเอง เด็กน้อยยอมรับว่าดวงใจของเขานั้นเต้นแรง
    มากจนหายใจไม่ออก เขากำลังจะตาย..

     

    “ฉันยอมแล้ว!! ฉันไปกับเธอ แต่อย่าทำอะไรลูกฉันและมยอนฮวาเลยนะ ฉันขอละ”

      พ่อของเขาทรุดลงและคุกเข่าอ้อนวอน ผู้หญิงซาตานคนนั้นยิ้มเยาะฉลองให้กับชัยชนะของตน วันนี้เธอได้ทั้งคนที่เธอรัก
    กำจัดเสี้ยมหนาม และกำลังจะมีชีวิตที่เธอคาดฝันเอาไว้

     

    “หึ..ได้สิ”

     

    “.....”

     

    “แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสำหรับชีวิตเด็กนรกนี่..”

     

    “.....”

     

    “เผาบ้านพวกมันและศพตาแก่นี่ทิ้ง! เธอและลูกนรกของเธอต้องย้ายไปอยู่ในป่า ถ้าฉันได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง รับรองว่าชีวิต
    ของเธอมันจะเลวร้ายยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น”

     

    “....”

     

    “และแน่นอนว่า หลังจากนี้เธอจะไม่มีสิทธิ์จากโลกนี้ไปต่อให้จะอยากตายมากแค่ไหน นอกจากฉันจะเป็นคนยื่นความตายให้
    เธอเท่านั้น”

     

    “.....”

     

    “จำใส่กะโหลกเอาไว้นะ เธอและลูกของเธอมันไร้ค่า และนี่คือผลกรรม ที่เธอแย่งคนของฉันไป”

     

    “.....”

     

    “ส่วนพี่ ก็ต้องเปลี่ยนใช้ชื่อเป็นคุณชายชเว ชุนฮวา เป็นสามีของฉันตลอดไป”

     

      แดฮยอนไม่รับรู้อะไรหลังจากนั้น รู้แค่เพียงว่าปลายกระบอกปืนที่จ่อหน้าผากเข้าอยู่มันหายไปแล้ว สักพักจู่ๆเขาก็มายืนอยู่
    ตรงข้างนอกอาณาเขตบ้านพร้อมกับแม่ของเขาที่อยู่ข้างๆกันและเขาก็กำลังยืนดูอยู่นอกริมรั้ว ดูบ้านที่รักของเขาถูกเผาต่อหน้า
    ต่อตา บ้านที่เคยเป็นบ้านแห่งความรัก คราบน้ำตา เสียงหัวเราะ และอะไรอีกมากมายอยู่ในกองเพลิงที่ร้อนระอุ รถคันโตสีดำ
    ของผู้หญิงใจร้ายที่ขโมยพ่อเขาไปนั้นออกไปแล้ว แดฮยอนไม่อยากวิ่งตาม เขากลัว กลัวกระบอกปืนนั่นเหลือเกิน เด็กน้อยถูก
    ดึงเข้าไปแนบอก หยาดน้ำตาของแม่เขาไหลออกมาไม่หยุดอีกแล้ว ..

     

     

      “ให้แม่แลกชีวิตของแม่กับแดฮยอน ... แม่ก็ยอม จำเอาไว้นะ แดฮยอนคือสิ่งล้ำค่าของแม่เสมอ”

     

     

     

     

     

    เรื่องราวเลวร้ายจบลงแล้ว..

     

      จุนฮงยืนฟังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมันจบ ยืนรับเรื่องราวอันโหดร้ายที่แดฮยอนต้องแบกรับเอาไว้มาตั้งแต่เด็กด้วยใบหน้าที่เต็ม
    ไปด้วยน้ำตาได้อย่างไรก็ไม่รู้ แค่คิดว่าที่ผ่านมาชีวิตของแดฮยอนโหดร้ายมากขนาดไหน การต้องอยู่บนโลกใบหนึ่งที่ถูกตีตรา
    ว่าตนเองไร้ค่าตั้งแต่อายุยังน้อย วันที่พ่อแท้ๆของเขาจากไปคือวันที่เขานอนหลับฝันดีอยู่ที่บ้าน วันที่ทำลายจิตใจของแดฮยอน
    จนป่นปี้กลับกลายเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าพี่แดฮยอนตกอยู่ในสถานการ์ณที่เลวร้ายมากแค่ไหน การ
    ที่ต้องใช้ชีวิตพร้อมหยาดน้ำตาไปวันๆ เขาไม่เคยรับรู้ และเขาก็กลั่นแกล้งอีกฝ่ายมาตลอด แค่ความรังเกียจที่จุนฮงเคยมอบให้
    ก็ทำเอาเขารู้สึกผิดอย่างไม่รู้จะให้อภัยตัวเองได้หรือเปล่า

     

      จุนฮงทำร้ายคนที่เขารัก...ทำร้ายมาตลอด

     

      “ละครเรื่องนี้มันยังไม่จบ”

      น้ำเสียงของคนที่เป็นมารดาแท้ๆทำเอาจุนฮงอยากจะอ้วก เขาไม่เคยรังเกียจเสียงนี้มาเลยตั้งแต่เล็กๆ แต่ในเวลานี้เขากลับ
    รู้สึกอยากจะปิดหู ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น

     

    “เธอต้องเลือกแล้วนะเด็กน้อย.. ว่าจะให้ฉันไว้ชีวิตใคร”

     

    “......”

     

    “อืม...จะให้ฉันยิ่งยายแก่ที่สติฟั่นเฟือน หรือจะให้ยิ่งเด็กที่ใช้ชีวิตโสโครกรกโลกไปวันๆดีนะ?”

     

      อาวุธปืนถูกควงเล่นๆราวกับของปลอมทำเอาแดฮยอนใจกระตุกวูบ เขาคงต้องยอมรับว่าเขายังไม่เคยเลิกกลัวอาวุธอันนี้ได้
    เลยสักที มันเคยปลิดชีวิตคนมาต่อหน้าต่อตาและเคยถูกใช้ขู่เขาเอาไว้เมื่อตอนเด็กๆ นั่นคงเป็นเหตุผลมากพอที่เขาจะเกรง
    กลัวและไม่อยากเข้าใกล้ .. แต่ในเวลานี้เขาต้องเลือกว่าจะใช้มันทำร้ายใคร

     

    แน่นอนว่าต้องเป็นตัวเขาเอง..

     

    “ยิงผม..แล้วปล่อยแม่ผมไป ให้ท่านไปใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้”

     

     

      สิ้นสุดคำพูดสุดท้าย หญิงสาวก็ไม่คิดไตร่ตรองทันที เธอหันปลายกระบอกปืนและเหนี่ยวไปที่ตรงหัวใจของเด็กหนุ่มอันเป็น
    ที่รักของจุนฮง เธอรู้ดี เธออยากจะกำจัดเจ้าเด็กนี้ใจแทบจะขาด เพราะเด็กนี่อยู่ ทั้งสามีของเธอ ทั้งลูกของเธอก็จะหลงมันหัว
    ปักหัวปำ เธอจะไม่เหลือใครเพราะเด็กนรกนี่

     

     

     ตายๆไปสะก็ดี หนามเสี้ยมสุดท้ายในชีวิตฉัน

     

     

      จุนฮงยังยืนอยู่ตรงนั้น..ยืนมองพี่แดฮยอนล้มฟุบลงไปกับพื้นพร้อมเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากบาดแผล เขาไม่กล้าเดิน
    เข้าไปแม้แต่จะมองหน้า เขากลัว เขารู้สึกผิด เขาเสียใจ เขาไม่กล้า เขาขี้ขลาด .. เขามันเลว

     

     เขากลัวว่าพี่แดฮยอนจะจากเขาไปตลอดชีวิตอย่างไม่มีวันหวนกลับ ..

     

     

    เขากลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของพี่แดฮยอนตอนนี้ คนที่จะตายทั้งเป็นมันคือเขา...

     

     

     

     

     

    ยังไม่พร้อม...

     

     

     

    ชีวิตที่ไม่มีลมหายใจ หรือจะให้ตายทั้งเป็น?

     


     

    T B C
    -----------------------------------------

           

     

    คาแร็คเตอร์ไม่เด๊ดนะ.. มันมิใช่พล็อต... หึ ..... จุนฮงยังเจ็บกว่านี้ได้อีกนิด

    แค่นั้นแหละ ... แต่คุณนายชเวไมร้ายจังว่ะคะ 55555555+ (แต่งเองจะร้องไห้เอง OTL)

    เอาล่ะ ใกล้จบแล้วค่ะ สู้ๆ มันยังหน่วงไม่พอเพราะรีบแต่งจะไปทำธุระ

    อีกตอนเดียว สู้ๆ สู้ค่ะ มุนจงออบร้ายมั่ก .. โผล่มาร้ายกว่าทุกคน 5555 5+

    ฝากฟลิอิมพริทรีย์ด้วยนะคะ ฟิคเกรียนๆหน่ะ ... เอาไว้อ่านเวลาว่างนะ ♥

    ขอให้เอนจอยและซึมซับทุกตัวอักษรทั้ง 4000 กว่าคำในรอบนี้นะคะ เลิฟ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×