ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( B.A.P ) Contrast ; Lodae

    ลำดับตอนที่ #5 : Contrast | 4th ; Selfish

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 56


        
        
     
       

     

       

     

    Contrast
    | 4th ;
    selfish

    pairing : Junhong x Daehyun (Lodae)
    rated : ??

    note : ไม่มีอะไรจะให้....เอารูปอีดิทจูนงมั้ยคะเย้ .. ขออภัยในความล่าช้านะคะ ;A; มัวแต่ไปวาดรูป + เขียนช็อทฟิคจนลืมไปแล้วว่าเรายังไม่ได้อัพคอนทราสต์ สวัสดี ......  

     

     

     

     

     ฮิมชานเปรยตามองปริมาณอาหารรสชั้นเลิศที่แม่ครัวประจำตระกูลบรรจงคัดสรรมาอย่างดีในแต่ละมื้อบนจานของคนเป็น
    น้อง เนื้อหมูคุณภาพเยี่ยมที่ถูกปรุงสุกจนหอมอบอวลถูกตักกัดกินไปเพียงหนึ่งในหกของจำนวนชิ้นทั้งหมด ถึงแม้ในเวลาปกติ
    แล้ว จุนฮงมักจะทานอาหารเหลืออยู่เต็มจานเสมอ แต่ในเวลานี้ฮิมชานรู้ดีว่ามันแปลก เพราะนอกจากเนื้อหมูแล้ว จุนฮงเองก็
    ไม่ได้แม้แต่จะแตะอะไรอีกเลย

     

     โกรธเขาสินะ

     

     คงเพราะถูกแนะหมายให้ต้องดูแลน้องและคอยสั่งสอนน้องให้เดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องมาตลอด ฮิมชานจึงกลายเป็น
    บุคคลสำคัญต่อการใช้ชีวิตของน้องชายจอมรั้นคนนี้ไปเสียแล้ว อย่างน้อยจุนฮงก็ดีอย่างนึงที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของเขามา
    ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่อย่างนั้น นอกจากจะไม่ฟังคำสอนอะไรเขาสักอย่างยังพาลไปทำร้ายคนอื่นซึ่งๆ
    หน้า สมดั่งคำพูดของเหล่าแม่บ้านที่พูดขานกันตั้งแต่เด็กว่า แดฮยอนสามารถทำให้จุนฮงโกรธจนเลือดขึ้นหน้าได้เพียงแค่อีก
    ฝ่ายกระพริบตา ฮิมชานรู้อย่างนั้นดี และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เมื่อกลางวันนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกแน่นอน ไม่มีวันอย่าง
    แน่นอน

     

     “ทำไมไม่พูดคุยกันด้วยเหตุผล”

     

     เสียงเรียบๆของใครอีกคนที่ยังมีตัวตนอยู่ในห้องอาหารประจำตระกูลเอ่ยขึ้น คุณชายชเวผู้มีศักดิ์เป็นบิดาของทั้งสองสลับ
    มองหน้าทั้งคู่ มือเรียวยาวนั้นเอื้อมไปหยิบแก้วชาอังกฤษร้อนหอมกรุ่นขึ้นมาจิบเพียงเบาๆก่อนจะวางลงกับจานรองแก้วและ
    หันมาให้ความสนใจกับลูกชายทั้งสองของท่านต่อ

     

     “ฮิมชาน ทำไมไม่พูดกับน้องดีๆ?”

     

     เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายนิ่งเงียบ คุณชายใหญ่ของบ้านจึงเปลี่ยนประเด็นเป้าหมายพุ่งตรงไปที่คนเป็นพี่โตทันที ฮิมชานที่มัวแต่
    จ้องคนเป็นน้องที่นั่งฝ่ายตรงข้ามจึงละสายตาไปตอบคำถามของคนที่เขาให้ความเคารพและอบรมเลี้ยงดูสั่งสอนมาตั้งแต่
    เล็กๆ

     

     “จุนฮงเป็นฝ่ายไม่มีเหตุผลก่อนครับ”

     

     คำตอบที่ถูกปล่อยออกจากปากของฮิมชานทำให้คุณชายใหญ่ต้องหรี่ตาลงพิจารณามองคนเป็นลูก เขาค่อยๆพยักหน้าขึ้นลง
    เป็นเชิงเข้าใจ ก่อนที่จะเริ่มไกล่เกลี่ยให้สถานการณ์ตึงเครียดด้วยประโยคสามัญธรรมดา แต่ถ้าหากว่าสามารถจุดชนวน
    ระเบิดในตัวฮิมชานให้ประทุขึ้นมาอีกรอบได้ดี

     

    “ลูกเป็นพี่ จุนฮงเขาอายุน้อยกว่า เขาอาจจะไม่รู้เท่าทัน มันเป็นธรรมดา”

     

     จากเดิมแววตาที่เคยนอบน้อมอ่อนยวบยามและยอมศิโรราบให้กับคุณชายชเวเริ่มแข็งกร้าวขึ้น ฮิมชานตวัดสายตามองคน
    ก่อเหตุที่เอาแต่มองแจกันตรงกลางโต๊ะอย่างไม่คิดจะสบสายตาใครทั้งสิ้น จุนฮงก็เป็นแบบนี้ ผิดอะไรก็ไม่ยอมรับผิดสักที

     

    “ถ้าการที่จุนฮงจะพุ่งเข้าไปสาดน้ำใส่หน้าแดฮยอนทั้งๆที่แดฮยอนยังนั่งคุยกับผมอยู่ดีๆเขาเรียกการไม่รู้เท่าทัน”

     

    “....”

     

    “ถ้าเป็นอย่างนั้น ตามที่คุณพ่อพูดจริง ผมก็ไม่อยากจะเสียเวลามาพร่ำสอนน้องอีกต่อไปแล้วครับ ผมขอตัว”

     

     ฮิมชานเอ่ยตอบ แววตาคู่นั้นมั่นคงไม่ไหวเอน เขาแสยะยิ้มอย่างสมเพช ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดันเก้าอี้ที่ขยับจนหลังแนบชิดให้
    ออกไป ก้มลงโค้งหัวให้คนมีศักดิ์เป็นบิดาเล็กน้อย แล้วเดินออกจากห้องทาอาหารไปโดยไม่คิดจะปรายตามองบุคคลที่ก่อ
    เหตุครั้งนี้เลยสักนิด


     ฝ่ายคุณชายชเวที่เห็นว่าฮิมชานได้เดินพ้นออกจากเขตที่สามารถจะได้ยินเสียงจากภายในห้องทานอาหารห้องนี้แล้วก็เอื้อม
    ไปหยิบชาในแก้วที่เริ่มเย็นลงเล็กน้อยมาจิบอีกครั้ง พลางมองปฏิกิริยาตอบรับของจุนฮงคนติดพี่ชายด้วยความนึกสนุก อยาก
    รู้นักว่าจุนฮงจะรู้สึกยังไง ที่สุดท้ายผลกระทำทั้งหมดก็ย้อนกลับมาทำตัวเองเจ็บช้ำที่สุด

     

     “พ่อเคยบอกแล้วใช่มั้ย?”

     

     “....”

     

     “ทำร้ายอะไรคนอื่นเอาไว้ สุดท้ายความเจ็บที่ใจเราได้รับกลับมาจะกลายเป็นสองเท่าที่เราให้เขาไปน่ะ”

     

     “....”

     

     “เข้าใจที่พ่อพูดใช่มั้ย ชเว จุนฮง?”

     

     จุนฮงไม่ตอบอะไรแต่ทว่ากลับลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินออกจากห้องทานอาหารไปด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่ไหวติงต่อ
    เสียงของแม่บ้านที่ซุบซิบนินทากัน หรือแม้แต่สายตางุนงงของเหล่าผู้คนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านตามนิสัยจน
    เคยตัว

     

     

     

     

     สองขาพานำร่างของจุนฮงตรงดิ่งไปยังห้องนอนส่วนตัวของเขาข้างบน ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักออกเพียงเบาๆแต่ก็สามารถ
    แยกตัวออกจากกันจนจุนฮงเดินลอดผ่านได้ เขาใช้มือข้างขวาดันประตูอีกฝั่ง ส่วนอีกฝั่งก็ใช้หลังของเขาดันจนประตูปิด
    กระทบกันเสียงดังแกรก

     

     ชายหนุ่มผมสีเทาอมควันบุหรี่ลากพาตัวเองไปนั่งอยู่บนเตียงนุ่มขนาดคิงไซส์ที่ถูกทำความสะอาดทุกๆวันด้วยฝีมือแม่บ้าน
    จนผ้านวมผืนหนาสีขาวนั้นดูสะอาดเอี่ยมอ่อง  แววตาที่เคยเรียบเฉยบัดนี้กลับมีน้ำใสๆคลอเอ่ออยู่รอบๆดวงตาจนรู้สึกร้อน
    ผ่าว

     

     จุนฮงไม่รู้ว่าเขานั่งสงบสติอารมณ์อยู่อย่างนั้นไปนานเท่าไหร่ สุดท้ายอารมณ์ทั้งหมดที่อดกลั้นเอาไว้ตั้งแต่กลับบ้านมาก็ขาด
    ผึ่งภายในชั่วพริบตา มือเรียวยาวนั่นตะปบปัดกรอบรูปไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆมือจนตกลงพื้น เศษแก้วตกกระจายเกลื่อนกลาดไป
    ทั่ว เสียงยามเมื่อแก้วจากกรอบรูปกระทบกับพื้นแตกนั่นดังมากพอจะทำให้คนที่อยู่ห้องข้างๆได้ยิน เขาแสยะยิ้มให้กับความ
    โง่เขลาของตัวเองที่สุดท้ายก็ดันทำตามอารมณ์พลุ่งพล่านตามประสาวัยรุ่นอีกจนได้

     

     คงเป็นเพราะขนาดรูปในกรอบนั่นเล็กกว่ากรอบไม้ จึงทำให้เมื่อยามที่กระจกที่กันไว้ไม่ให้หลุดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆรูปถ่าย
    เมื่อสมัยก่อนจึงหลุดออกมาจากกรอบด้วยเช่นกัน กระดาษใบขนาดเท่าสองนิ้วที่ถูกแอบซ่อนไว้หลังรูปภาพใบนั้นโผล่แง้ม
    ออกมาเล็กน้อยจากรูปภาพที่ทับกระดาษส่วนปลายอยู่ ตัวอักษรที่ถูกเขียนไว้ด้วยดินสอสีเทียนสีแดงขนาดใหญ่อ่านจับใจ
    ความได้กลายๆว่า

     

    “ผมเกลียดพี่”

     

      จุนฮงไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนมันไว้หลังรูปภาพใบนั้นเพื่อที่จะต้องการลืมมันและหลอกตัวเองแต่ตัดใจไม่ได้เสียที หากแต่ทว่าเขา
    ซ่อนมันเพื่อต้องการจะเน้นย้ำว่าเขายังคงเกลียดแดฮยอนตลอดเวลา เกลียดมาตั้งแต่เด็ก และจะเกลียดจองแดฮยอนอยู่
    อย่างนั้นตลอดไป จนกว่าจะมีวันใดที่แดฮยอนได้ออกไปจากชีวิตเขาอย่างไม่มีวันกลับมา

     

     

     

     “ใช้อารมณ์มาก่อนเหตุผลอีกแล้ว...สินะ?”

     

     น้ำเสียงเรียบๆของคนเป็นพี่ที่คุ้นเคยหูจุนฮงเป็นอย่างดีอย่างฮิมชานดังขึ้นที่ตรงขอบประตูห้อง จุนฮงที่มัวแต่มองเศษซาก
    กรอบไม้ราคาแพงที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆต้องหันกลับไปมอง จุนฮงรู้สึกได้ถึงความพร่ามัวในการมองเห็น และอุณหภูมิที่
    ขอบตาเริ่มสูงขึ้นจนถึงขั้นร้อนผ่าว จุนฮงรู้สึกอ่อนแอและย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง น้ำตาที่ไหลลงมาทันทีที่เขาขยับเปลือก
    ตาลงเพียงเล็กน้อย

     

     

     สุดท้าย ชเวจุนฮงแม่งก็ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

     

    “ผมมันเลวมากใช่มั้ย?”

     

     คำถามพร้อมน้ำเสียงสั่นๆของจุนฮงเอ่ยถามคนเป็นพี่ที่ยังยืนกอดอกมองจุนฮงอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ละสายตาและไม่ไหวติง ฮิม
    ชานไม่ตอบอะไรยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น มองดูการกระทำที่คนเป็นน้องของเขาไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ

     

     

    “ผมมันเลวมากใช่มั้ย? ถึงไม่มีใครรักผม..”

     

    “.....”

     

    “มีแต่คนรังเกียจผม ทำไมหรอครับ?”

     

    “......”

     

    “ผมก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนนึงที่หัวรั้น ทำไมต้องมารังเกียจผม ผมไปทำอะไรให้!!!”

     

    “……”

     

    “ผมมันน่ารังเกียจหรอ หรือผมเป็นโรคร้าย? ใครๆก็ไม่อยากจะมายุ่งกับผม!!”

     

    “….”

     

    พี่ก็คงคิดว่าผมน่ารังเกียจสินะ!! ผมมันเด็กเอาแต่ใจ คิดจะทำอะไรก็ทำเพราะอารมณ์”

     

    “.....”

     

    “พี่คิดว่าผมเป็นเด็กแบบนั้นใช่ป่ะ!!? ผมถามก็ตอบดิ!!!!!! ทำไมพี่ไม่ตอบว่ะ!!!!!?”

     


     จุนฮงเดินตรงมากระชากปกเสื้อเชิ้ตคนเป็นพี่ทันทีที่ประโยคคำถามนั้นเสร็จ ดวงตาแข็งกร้าวและดุดันคู่นั้นของจุนฮงกลับมี
    น้ำใสๆคลออยู่ที่เบ้าตา ในเวลานี้จุนฮงรู้สึกเจ็บปวดที่สุดแล้ว ต่อให้เป็นใครหน้าไหนมารังเกียจเขาเขาก็จะไม่สนใจ ทำไมต้อง
    เป็นพี่ฮิมชานคนที่เขาไว้ใจตลอดมา ทำไมพี่ฮิมชานต้องมองเขาเป็นเด็กไร้ค่าที่วันๆใช้แต่อารมณ์ ทำไมทุกๆคนต้องรังเกียจ
    เขา เขาไปทำอะไรกับทุกคนไว้หรือยังไง ทำไมทุกคนไม่รังเกียจเดียดฉันท์จองแดฮยอนคนที่เลวกว่าเขาตั้งหลายเท่า ทำไม
    จุนฮงถึงต้องเป็นฝ่ายผิดแต่เพียงผู้เดียว!!?

     

     

     

     ชเวจุนฮงก็เป็นคนมีหัวใจ!!

     

     ฮิมชานที่จู่ๆก็โดนกระชากคอเสื้อกลับสบตาตอบสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของคนเป็นน้องอย่างไม่ยี่หระ มือข้างซ้ายที่ว่าง
    อยู่เอื้อมไปตบหลังจุนฮงสองสามครั้ง จนเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มปล่อยมืออกจากเสื้อเชิ้ตจึงโอบกอดอีกคนไว้หลวมๆแล้วตบหลังให้
    กำลังใจเบาๆ

     

     จุนฮงก็เป็นเพียงเด็กที่ต้องการความรักเหมือนใครๆ โดยเฉพาะยิ่งกับคนไว้ใจแล้วความต้องการความรักจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นจน
    สามารถรู้สึกได้ แต่ความไว้ใจของจุนฮงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะได้รับ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ แต่กับแด
    ฮยอนที่จุนฮงเองก็ไว้ใจมากพอๆกันกับฮิมชานในสมัยก่อนกลับไม่ให้ในสิ่งที่จุนฮงต้องการอย่างความรู้สึกดีๆที่เรียกว่าความ
    รักได้ จุนฮงจึงไม่ผิดที่อาจจะรู้สึกเกลียดชังคนที่สามารถหักหลังเขาได้โดยไม่บอกเหตุผลสักคำว่าทำไมแค่ความรักถึงมอบให้
    กันไม่ได้


     แต่จุนฮงอาจจะผิดที่ตรงว่าจุนฮงเลือกที่จะทำร้ายแดฮยอนเพื่อความสะใจของตัวเอง โดยลืมไปว่าสุดท้ายผลที่ได้รับกลับมา
    คือจุนฮงไม่เคยมีความสุข ทุกครั้งที่ทำเป็นแสยะยิ้มพึงใจ แต่ภายในใจของจุนฮงกลับรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงนับพันๆเล่ม ฮิม
    ชานรู้ดีว่าจุนฮงรู้สึกยังไง ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลซึ่งกันและกัน เมื่ออีกฝ่ายต้องการความรัก แต่อีกฝ่ายไม่
    สามารถให้ได้ตามต้องการได้ มันต้องมีใครสักคนที่เข้าไปไกล่เกลี่ย

     

     

     แน่นอนว่าฮิมชานเองก็เลือกที่จะเป็นคนๆนั้นเอง

     

     

     แต่แดฮยอนเองก็ไม่ผิดที่ไม่สามารถให้ความรักอย่างน้อยก็แค่พี่ชายให้กับจุนฮงได้ แดฮยอนเป็นคนมีเหตุผล และเหตุผลที่ว่า
    ฮิมชานเองก็รู้ดีเสียด้วย ความลับอันน่าขยะแขยงนั่น ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากความโลภ ความอยากได้ของมนุษย์ ความ
    ต้องการอันน่ารังเกียจ ความเห็นแก่ตัว และเหตุผลสำคัญที่สุดคือความรัก

     

     

     

     

     

     

     ความรักทำให้เราสามารถกล้าทำได้ในสิ่งที่แย่ๆเพื่อมัน ...

     

    แต่สุดท้ายแล้วความสุขทั้งหมดที่ได้รับ มันก็เอาไปเองคนเดียว...

     

     

     

     

    ความรักแสนเลวและจอมปลอมนั่น

     

     

     

    น่าขยะแขยงสิ้นดี

     

     

     

     คนอายุมากกว่าเริ่มตบหลังคนเป็นน้องก่อนจะยกยิ้มเย็นที่มุมปากพลางนึกถึงสิ่งที่ตนเองรับรู้ สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดกับชเวจุนฮง
    สิ่งที่คนอย่างเขาและน้องชายของเขาไม่ควรเข้ามาเกี่ยวรวมไปถึงแดฮยอนด้วย สิ่งที่คนเลวๆทำเอาไว้แวไม่ยอมสะสาง สิ่งที่
    เป็นตัวบงการเรื่องทั้งหมดนี้...

     

     

    “นายรู้ไหมอะไรคือสิ่งที่ผิดสำหรับเรื่องนี้?”

     

    “....”

     

    “คือสิ่งที่นายกำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมานี่ไงล่ะ”

     

    “....”

     

    “ความรักไง”

     

    ความรักเลวๆ ที่คนอย่างฮิมชานไม่มีวันอยากครอบครอง

     

    ไม่มีวัน!!

     

     

     

     

     

     

     เสียงบรรเลงเพลงดนตรีคลาสสิคเบาๆถูกเปิดขึ้นภายในหองโถงทำงานยักษ์ใหญ่ของคุณชายเชว ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำยืน
    ก้มหัวน้อมคารวะท่านเจ้านายที่นั่งมองโหลปลาทองตรงหน้าอย่างให้ความสนใจ มือใหญ่ของคุณชายชเวเอื้อมไปคว้าโหล
    อาหารที่อยู่ใกล้ๆมาโปรยให้ปลาทองที่อยู่ในโหลได้กินกัน เขายกยิ้มบางเมื่อเห็นว่าเจ้าปลาทองสัตว์เลี้ยงคั่นเวลาเริ่มจะ
    ตะครุบหาของกินที่เขาหย่อนเอาไว้แล้ว ช่างโง่เขลาในการตะครุบเหยื่อเสียจริง ช่างเป็นปลาทองที่น่าสมเพชในการใช้ชีวิต



     “ปลาทองนี่ดีเนอะ”

     

    ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ดวงตาคู่นั้นฉายแววความสงสัยอย่างปิดไม่มิด คุณชายชเวหัวเราะ
    ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดเพลงที่อยู่บนรีโมตเครื่องเล่นเพลงใกล้ๆกัน ปิดเครื่องเสียงที่อาจทำให้การสนทนาบิดเบือนได้

     

    “มันจำอะไรได้แปบๆก็ลืม ไม่เหมือนคนหรอก แค้นฝังใจอะไรก็จำ”

     

    “...”

     

    “นายคิดว่าอดีตของนายน่าพอใจมากมั้ย?”

     

     คำถามสั้นๆที่ไม่น่าออกจากปากของคุณชายชเวถูกยกออกมาถาม คนเป็นเลขาธิการส่วนตัวก็ได้แต่ย้อนวันวานไปเมื่อสมัยตอนยังเด็กที่เขาถูกเลี้ยงมาแบบลูกเด็กเหลือขอ สุดท้ายก็กลายเป็นทาสของยาเสพติดในไม่กี่ปีต่อมา แต่ไม่นานมานี้ก็เพิ่งได้
    รับการบำบัดจนหายขาด จนได้มาพบมาเจอกับคุณท่านก็เหมือนได้เจอโลกใบใหม่ทั้งใบ

     

    “ไม่ครับ”


     น้ำเสียงโทนทุ้มที่ตอบออกมาทำเอานายท่านยกยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาเอียงหน้ามองอีกฝ่ายที่อยู่กับเขามานานถึงสามปี ทำไมเขาถึงจะไม่รู้เบื้องลึกของประวัติเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้

     

    “นายรู้อะไรไหม? อดีตเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้หรอก”

     

    “....”

     

    “เลือกที่จะอยู่กับความทุกข์ทรมาณแต่สุขสบายอย่างในปัจจุบัน”

     

    “.....”

     

    “ดีกว่าต้องมานั่งทรมาณกับอดีตที่จะดึงเราลงต่ำเรื่อยๆนะ”

     

    “....”

     

    “คนเราต้องเลือกเห็นแก่ตัวเพื่อความสุขบางสักครั้งก็ดี”

     

    พูดเสร็จก็ลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องโดยไม่วายที่จะไม่ลืมตบบ่าเป็นกำลังใจให้เลขาธิการหนุ่มที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี

     

     

    ความเห็นแก่ตัวงั้นหรอ?

     

     

     

    หึ..น่าขยะแขยงสิ้นดี

     

     ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเจ้านายของตนเดินลับออกจากห้องไป ใช้มือข้างขวาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากในกระเป๋า
    ก่อนจะใช้ปัดตรงที่ที่นายท่านเคยประทับรอยมือแสดงกำลังใจเอาไว้ราวกับเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ  พอเช็ดเสร็จเลขาหนุ่มก็รีบ
    เดินไปหย่อนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นลงไปในถังขยะ รอการทิ้งไปอย่างไม่มีวันกลับ

     

     

     


    คนเห็นแก่ตัว ... ยังไงก็เลว

     

     

    เลวยังไงก็เลวอยู่อย่างนั้นแหละ...คุณชายชเว

     

     

     

     

     แดฮยอนที่เพิ่งกลับจากทำงานยามบ่ายกับยองแจเดินเรียบทางเดินมาเรื่อยจนมาหยุดอยู่หน้าโรงพยาบาลที่คุ้นเคย สองมือ
    หอบของพะรุงพะรังพอๆกับยองแจที่ช่วยอาสาถือของให้ เขาไมได้เยี่ยมแม่มาเกือบจะอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว ไม่รู้ป่านนี้จะบ่น
    คิดถึงเขามากขนาดไหน หรือไม่แน่อาจจะเผลอๆมีเพื่อนใหม่ไปแล้วก็ได้

     

     พอคิดถึงแม่แล้วแดฮยอนกลับรู้สึกแปลกๆผิดปกติ จริงๆแล้วถ้าหากพูดถึงแม่แดฮยอนจะยิ้มร่าเริงมีความสุขไม่เหมือนแด
    ฮยอนที่เคยเป็น แต่คราวนี้ระหว่างทางที่ขึ้นลิฟต์เขากลับรู้สึกแปลกเหมือนไม่ได้มีความดีใจที่เจอแม่เลยสักนิด ..ทำไมกันนะ

     

     พอเลขหน้าปัดลิฟต์บอกว่าถึงชั้นจุดหมายที่แม่แดฮยอนพักอยู่แล้ว แดฮยอนก็เดินก้าวออกมาพร้อมทักทายคุณพยาบาลที่
    วันนี้แลดูหลบหน้าเขาแปลกๆไม่ยอมทักทายกันเหมือนเคย

     





    “เอ่อคือ....”


     คุณพยาบาลที่ยืนเฝ้าเวรอยู่เค้าท์เตอร์คนไข้เริ่มพูดจาติดอ่างทันทีที่แดฮยอนเดินเข้าไปทัก ยองแจที่รู้สึกไม่ดีจึงรีบพูดตัดบท
    แดฮยอนทันที


    “พวกเรามาหาคุณนายจองที่พักอยู่ห้อง 706 ครับ”

     

     คุณพยาบาลดูหน้าซีดกว่าที่เคย เธอรีบสูดหายใจเข้าออกลึกๆก่อนจะช้อนตามองหน้าแดฮยอนที่กำลังเหมือนจ้องจับผิดอยู่
    ยังไงอย่างนั้น

     





    “คือคุณจองเขา.....”

     

    “...”

     

    “เขาหายตัวไปตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ”

     

     

    “!!!!!”

     

     



    ความเห็นแก่ตัว ที่ไม่มีวันได้ครอบครอง    

     

        
     
     
     
    T B C
    -----------------------------------------
          

     
    เราว่ามันต้องมีคนลืมเรื่องนี้อ่ะน้อยใจ 5555555 5+
    เรารีบปั่นมาเลยแปลกๆนะ ขอโทษจริงค่ะ สำหรับตอนที่ยืดเยื้อมาท้งหมด คริคริ
    คราวนี้เลยเน้นแต่บทสนทนาเลย อห 555555555555555555
    มันมาถึงจุดพีคของเรื่องแล้ว อะไรๆก็ดำเนินตามที่เราวางพล็อตมั่วๆไว้แล้ว
    จูนงน่าสงสารจะตายเราบอกแล้ว จูนงแค่ไม่รู้เท่าทันคนเห็นแก่ตัวเอง
    อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน อย่าคิดสิ่งที่คุณคิดว่าถุกจะเป็นสิ่งที่ถูกเสมอไป
    เรื่องนี้ร้ายได้มากกว่าที่คุณคิด(หราาาาาาาาาาาาาาาาาาา)

    สุดท้ายนี้ใครลืมคอนทราสต์เรางอนจริงนะ 55555555555+
    เลิฟค่ะ *รีบปั่นมาถวายพี่พรสวรรค์*





     
    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×