ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Contrast | 2th ; Kim Himchan
Contrast
| 2th ; Kim Himchan
pairing : Junhong x Daehyun (Lodae)
rated : ??
note : . . . ขุ่นพี่ชานคนสำคัญเปิดตัวแล้วค่ะ LOL วันนี้เราแต่งถึงแค่นี้จริงๆ 55555 5555
คิม ฮิมชานเป็นใคร?
ถ้าให้ตอบในลักษณะทางร่างกายรูปร่างภายนอกแล้วคิมฮิมชานก็เป็นคนหน้าดีที่ถูกจัดไว้อยู่ในชนิดหน้าตาดีจัด ความสูง
ไล่เลี่ยกัน มีผิวขาว ฐานะทางครอบครัวก็ดี .. แต่ถ้าหากถามถึงวงศาตระกูลญาติแล้ว ..
คิมฮิมชานเป็นพี่ชายของชเวจุนฮง
.. อ่อไม่ใช่พี่ชายแท้ๆหรอกแค่ถูกเก็บมาเลี้ยงหน่ะ
แดฮยอนกับพี่ฮิมชานก็ถือว่าสนิทในระดับหนึ่ง ไม่ได้รับรู้เรื่องของกันและกันในทุกๆเรื่อง ไม่ได้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารกัน
ทุกทาง เวลาฮิมชานมีปัญหาก็ไมได้มาปรึกษาแดฮยอนเป็นคนแรกๆเท่าไหร่ แดฮยอนก็เช่นเดียวกัน ถึงจะสนิทกันแค่ไหน
ก็ตามแต่ ทั้งตัวแดฮยอนเองและตัวของฮิมชานก็ต้องเว้นช่องว่างระยะห่างทั้งคู่เอาไว้ เพราะคำว่าความลับมันยังคงค้ำคอคน
ทั้งคู่ ไม่ให้มีวันได้เข้าใกล้กันเกินเส้นสีแดงๆที่ขีดคั่นอยู่
แน่นอนว่าฮิมชานรู้เรื่อง ‘ความลับ’ นั้นดี .. ดีพอๆกับตัวแดฮยอนเลยด้วยซ้ำ
แต่แดฮยอนเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่า‘ความลับ’ล่าสุดที่เขาเพิ่งรู้มาได้ไม่นานนี้ฮิมชานเองจะรู้ด้วยหรือเปล่า ความคิดแปด
สิบเปอร์เซ็นต์ในใจของเขาขอฟันธงไว้ว่าพี่ฮิมชานยังไม่รู้ และยังคงจะไม่รู้จนกว่าเขาหรือใครคนนั้นเป็นคนเอ่ยปากบอกไป ไม่
หรอก แดฮยอนจะไม่ยอมให้คนคนนั้นเป็นคนเอ่ยความลับนั่นก่อนแน่ๆ ขอเขาเป็นคนเลวในสายตาจุนฮงก็พอ อย่าให้เขา
ต้องกลายเป็นคนเลวในสายตาของพี่ฮิมชานอีกคนไปด้วยเลย
แดฮยอนยอมรับว่าเขายังกลัว กลัวที่จะเสียพี่ฮิมชานที่อยู่ข้างๆกันมาตลอด ทุกครั้งที่แดฮยอนท้อพี่ฮิมชานก็มักยื่นมือมาช่วย
เหลือเสมอๆ แทบทุกวันนี้ที่เขายังดูแลแม่ที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้ก็เพราะเงินที่พี่ฮิมชานส่งมาให้ ถึงแม้ว่าตอนแรกแด
ฮยอนจะพร่ำพูดกับตัวเองเสมอว่าถ้าขาดพี่ฮิมชานไปชีวิตเขาคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ แต่ตอนนี้เขาเองก็คงต้องหัดทำใจยอมรับวันที่
ใกล้มาถึง ทุกอย่างนั้นมันขึ้นอยู่กับพี่ฮิมชานว่าถ้ารับรู้ความลับแล้วจะยังอยู่ฝั่งเขาต่ออีกหรือไม่ ทุกอย่างระหว่างเขากับพี่ฮิม
ชานต่อจากนี้ คิดอยู่กับการตัดสินใจของคิมฮิมชานคนเดียว
แต่ก็ต้องอาศัยความใจดีของใครคนนั้นด้วย
‘แดฮยอน แดฮยอนได้ยินหรือเปล่า? พี่ฮิมชานเองนะ เย็นนี้พี่จะกลับบ้านหลังใหญ่แล้ว เอ่อ..ถ้าว่างก็มานัดเจอกันวันเสาร์นี้
หน่อยมั้ย? ถ้าสะดวกเมื่อไหร่ช่วยโทรกลับหน่อยนะ’
ตื้ด
เสียงจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติเงียบลงไปแล้ว แน่นอนว่าเสียงของฮิมชานที่ดังอยู่ในนั้นก็เงียบลงไปด้วย ดูจากเวลาที่ฝาก
ข้อความเอาไว้ก็คงตอนที่เขายังยืนตากฝนอยู่ที่มหาลัย ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบงัน เหลือเพียงเสียงหายใจแผ่วเบาของแด
ฮยอนที่นั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้องรับแขก มือสองมือถูกประสานกันไว้เป็นกำปั้นขนาดย่อมๆ ที่แดฮยอนเลือกจะใช้เอามารอง
คางตัวเองยามที่คิดมากแบบนี้
ใจหนึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าฮิมชานสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานเลยทำให้รู้สึกว่าอยู่กับพี่ฮิม
ชานก็ไม่ค่อยปลอดภัยเลยสักนิด กลับทำให้รู้สึกว่ายิ่งใกล้กับพี่ฮิมชานยิ่งรู้สึกห่างเหินกันไปเรื่อยๆ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากพุ่งถลา
เข้าไปบอกความลับอีกอย่างให้ฮิมชานให้ได้รับรู้ความจริงข้อนั้น แต่ถ้าหากเขาทำแบบนั้นและขืนพี่ฮิมชานได้ไปโวยวายใส่
ใครคนนั้นขึ้นมา คนที่จะมีปัญหามันไม่ใช่แค่พี่ฮิมชาน ตัวเขาเอง และใครคนนั้นอีกคน เพราะจุนฮงจะเป็นคนที่ได้รับผลกระ
ทบเรื่องนี้
มากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ฝั่งไหน แต่ก็มีเจตนาเดียวกันที่เก็บความลับนี้เอาไว้กับตัว เพื่อที่จะไม่ให้จุนฮงจะต้องเจ็บ ไม่ให้จุนฮงต้อง
ทรมาน และไม่อยากให้จุนฮงต้องมาข้องเกี่ยวอะไรกับเรื่องเลวๆแบบนี้
หากจุนฮงจะมองแดฮยอนเลวก็ไม่เป็นไร..เพราะยังไงนั่นก็หมายความว่าจุนฮงยังคงไม่รับรู้ความจริง
แดฮยอนไม่เคยเสียใจสักนิดถ้าจุนฮงจะมองเขาเป็นขยะไร้ค่า จะมองเขาเป็นคนใจร้ายไส้ระกำ เป็นคนเลวที่ไม่มีใครอยากจะ
คบ เป็นคนที่จุนฮงไม่อยากจะมองเห็นแม้แค่ปลายเท้า เป็นคนที่จุนฮงไม่อยากได้ยินเสียง เป็นคนที่จุนฮงลืมไปว่าเคยมีตัวตน
อยู่บนโลกนี้
ต่อให้มันทรมาณใจของแดฮยอนแค่ไหนเขาก็ต้องนิ่งเฉย เขารู้ดีว่าทำไมจุนฮงถึงมองเขาแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายมี
ความรู้สึกดีๆแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้กับจุนฮงก็ตามทีเถอะ การตัดสินใจทำให้จุนฮงเกลียดขี้หน้าเขาตั้งแต่ตอนนี้ก็เป็นสิ่ง
ที่ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยพี่ฮิมชานก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้คนหนึ่งล่ะนะ
แดฮยอนตัดสินใจที่จะนัดพบกับฮิมชานที่ร้านอาหารใกล้ๆหอพัก อย่างน้อยถ้าพี่ฮิมชานไปโวยวายและคนคนนั้นยังมีหัวจิต
หัวใจเป็นห่วงจุนฮง เรื่องที่เขาจะเล่าให้พี่ฮิมชานฟังก็คงไม่มีทางไประแคะระคายหูของจุนฮงเป็นแน่แท้
ดีล่ะ เขาจะทำ
แดฮยอนกดโทรศัพท์ข้างหน้าตัวเองด้วยเลขหมายสิบหลักที่คุ้นเคย เขานำโทรศัพท์จ่อไว้ข้างหู รอเพียงครู่อึดใจเสียงที่ไม่
ได้ยินเป็นเวลานานก็ทักทายขึ้นก่อน
“สวัสดีแดฮยอน”
แดฮยอนยิ้มให้โทรศัพท์ถึงแม้รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเห็นแน่นอน เขารู้สึกดีเวลาพี่ฮิมชานมักจะใช้โทนเสียงอบอุ่นและ
เป็นห่วงเขาเสมอเวลาคุยกับเขา ต่างครั้งก็ต้องเผลอใจไม่ให้เข้าใกล้เส้นสีแดงเท่าไหร่
“สวัสดีครับ วันพรุ่งนี้พี่ฮิมชานว่างหรือเปล่า?”
“พี่เพิ่งกลับมาก็จะให้ออกเที่ยวเลยงั้นหรอ? ไม่ให้พี่พักบ้างหรือไงหืม?”
ถึงแม้ไม่ได้เจอกันนาน มีไม่กี่ครั้งในรอบหลายปีที่ได้คุยกัน ฮิมชานก็มักจะเล่นตลกกับแดฮยอนเสมอ เหมือนเป็นการลดระยะ
ห่างระหว่างคนสองคนไปในตัว แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน
“ผมก็กะจะพาไปเที่ยวสักหน่อย เห็นพี่ขลุกอยู่กับสาวๆตั้งนาน ว่ายังไงครับว่างหรือเปล่า?”
“อืม.. กี่โมงล่ะ?”
แดฮยอนหันไปมองนาฬิกาข้างผนัง นิ้วชี้ไล่นับตัวเลขเรียงกัน เขานับหนึ่งถึงห้าในใจ ..ห้าชั่วโมงก็พอแล้วมั้ง?
“สิบโมงดีมั้ยครับ ว่างหรือเปล่า? พอดีผมต้องทำงานตอนบ่ายสามโมงหน่ะ”
“สิบโมงก็ได้นะ เห็นจุนฮงบอกพรุ่งนี้จะไปข้างนอกตอนเก้าโมงมั้ง คงออกมาได้ง่ายอยู่แหละ”
ถึงแม้ในใจของเขาเรียกร้องอยากให้เอ่ยปากถามออกไปว่าจุนฮงจะออกไปไหน สิ่งที่แดฮยอนมีสิทธิ์ทำได้ก็แค่เพียง
“ครับ สิบโมงเจอกันที่ร้านเดิมนะ” หวังว่าการนัดเจอพี่ฮิมชานคราวนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ดี
หรือบางทีมันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิดเอาไว้?
ก็เป็นอย่างที่คาด.. ยองแจโผล่มาที่ห้องเขาตั้งตั่งไม่เจ็ดโมงพร้อมข้าวของพะรุงพะรังที่เจ้าตัวหอบเอามาจากห้องของตัวเอง
คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีปัญหาอะไรกับฮโยซองมาแน่ๆ ถึงได้ระเห็จตัวเองมานอนที่ห้องของเขา แดฮยอนที่เพิ่งตื่นไม่ค่อยได้สติ
เทาไหร่ก็ทำได้แค่เพียงเดินไปเปิดห้องรับแขกที่ไม่กว้างเท่าไหร่ให้อีกคนได้เอาของไปเก็บ ยองแจก็เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ
ทะเลาะกับแฟนคนไหนก็ต้องย้ายตัวเองมานอนที่ห้องของแดฮยอนตลอด
ก็กลัวผู้หญิงพวกนั้นมาทำลายข้าวของห้องฉันนี่
คำกล่าวอ้างง่ายๆที่แดฮยอนเลือกที่จะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เขารู้ดีว่าผู้หญิงแต่ละคนของยองแจมีแต่คนประเภทหึงหวงรุนแรงทั้ง
นั้น หากไม่พอใจอะไร ห้องของยองแจก็ยังเคยเละมาแล้วต่อหน้าต่อตา ยังดีที่สาวเจ้าพวกนั้นยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของแดฮยอน เวลายองแจระเห็จย้ายรากฐานมาอยู่ที่ห้องของเขาทีไรก็ไม่เคยคิดจะมาตามให้เสียเวลา
“ใกล้เลิกกันแล้วสินะ?”
ถามเพื่อนไปอย่างนั้นก่อนจะยื่นแก้วน้ำเย็นๆให้ ยองแจยิ้มร่ารับมาด้วยความเต็มใจ เวลาอยู่ที่ห้องของแดฮยอนที่ไรอีกฝ่าย
จะใจดีและคอยดูแลเขาเสมอ ถึงบางครั้งจะรู้สึกรบกวนไปบ้าง แต่บางปัญหามันก็ต้องแก้กันแบบนี้ถึงจะหาย
“ก็เกือบแล้วล่ะ สงสัยฉันคงต้องคบกับผู้ชายแล้วมั้งคราวหน้า?”
พูดไปก็กลั้วหัวเราะไป แต่สายตาของยองแจก็เอาแต่กวาดมองปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะนิ่งเงียบ เงียบเกินไป
ชอบเป็นแบบนี้อีกแล้วแหะ
“หรอ .. อืมก็ดีนะ ผู้ชายบางคนก็น่ารักไม่เรื่องมากดี”
ไหล่ของยองแจตกลู่ลงเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบจากแดฮยอนเป็นในอีกความหมายหนึ่ง เขาถอนหายใจกับตัวเองแล้วก็เลือก
ที่จะปั้นหน้ายิ้มต่อไป เขาก็ไม่ได้น้อยใจอะไรอีกฝ่ายขนาดนั้น แค่รู้สึก..ก็แค่บางครั้งรู้สึกต้องการความเอาใจใส่จากแดฮยอน
บ้างก็เท่านั้น
“วันนี้จะไปไหนขอไปด้วยได้มั้ย?”
แดฮยอนชะงักก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ ยองแจรู้ได้ไงว่าเขาจะไปไหน? ..
“ก็วันนี้มีไปทำงานพาร์ทไทม์ไม่ใช่หรอ? เราไม่อยากอยู่ห้องคนเดียวอ่ะ กลัวฮโยซองมาอาละวาด”
สุดท้ายแดฮยอนก็ต้องมาโดยที่มียูยองแจคอยติดสอบห้อยตามมาด้วย โชคดีเข้าข้างอีกครั้งเมื่อสถานที่นัดอยู่ใกล้ย่านการ
ค้า แดฮยอนก็เลยฝากให้ยองแจไปซื้อของให้ตามลิสท์ที่จดเอาไว้ ซึ่งอาจจะใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมงสามชั่วโมงก็คงแล้ว
แต่จำนวนคน แดฮยอนก็ได้แค่ภาวนาให้คนเยอะๆจนยองแจแทบไม่ขยับไปไหนได้ก็พอ
พอเดินเข้ามาในร้านประจำที่ไม่ได้เข้ามาตั้งแต่แยกกันกับพี่ฮิมชานครั้งนั้น พอนับคร่าวๆเอาแบบไม่ละเอียดก็เกือบจะสามปี
แล้ว พนักงานบางส่วนในร้านยังจำเขาได้ดีและบางส่วนก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย แดฮยอนขอเป็นฝ่ายคิด
เองว่าทางร้านคงได้กำไรไม่มากก็มากกว่าที่คิดไว้ เพราะร้านถูกปรับแต่งปรับเปลี่ยนต่างไปอย่างเห็นได้ชัด โทนสีในร้านถูก
เลือกใช้ให้ดูหรูหราขึ้น .. แต่มีสิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยนไป ใครบางคนนั่งอยู่ตรงนั้น
พี่ฮิมชานกำลังนั่งมองวิวออกไปข้างนอกที่โต๊ะตัวเดิมมุมเดิมๆที่พวกเขาสองคนนัดกันมาบ่อยๆ
ก็นะ...ย้อนเวลาดี
“สวัสดีครับ”
แดฮยอนเดินตรงรี่ไปที่โต๊ะคุ้นเคย เขาเขยิบเก้าอี้ออกก่อนจะหย่อนตัวเองลงไปนั่ง ประจันหน้ากับคิมฮิมชาน .. อ่า เวลาเกือบ
สามปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันก็คงต้องยอมรับว่าพี่ฮิมชานดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่าเก่า อาจจะเพราะได้ไปเยือนเมืองหนาว ผิวของ
พี่เขาจึงดูชุ่มชื่นและขาวสว่างเสมอ ผมหน้าม้าที่เคยเอาตกลงมาก็ถูกเซ็ทผมปัดขึ้นทำให้หล่อในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าหากแดฮ
ยอนเป็นผู้หญิงก็คงมีหวังได้เพ้อฝันถึงพี่ฮิมชานให้ตายกันไปข้างแน่ๆ
พี่ฮิมชานแต่งต่างกับจองแดฮยอนชะมัด.. แดฮยอนที่ต้องออกแดดไปทำงานส่งของบ่อยๆ ผิวเลยไมได้ขาวอย่างที่ใครๆเป็น
อาจจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ที่มีส่วนเอี่ยวด้วย ผิวที่ได้จึงออกแนวค่อนข้างคล้ำ สภาพผมที่แม้แต่ออกไปไหนมาไหนก็ไม่เคย
แม้แต่จะดูแล แตกต่างกับคิมฮิมชานจริงๆนั่นแหละ
“แดฮยอนไม่ได้เจอกันนาน เมื่อไหร่จะโตเนี่ย?”
“ฮ่าๆ ผมก็โตแล้วนะครับ ไปอยู่กับสาวๆมานานเป็นยังไงบ้างครับ?”
บางทีการอยู่กับใครบางคนที่เราไว้ใจ และรู้สึกอุ่นใจก็ทำให้แดฮยอนรู้สึกปล่อยวางลงไปบ้าง พอเวลาอยู่กับพี่ฮิมชานแล้วแด
ฮยอนเหมือนได้อยู่ใกล้กับคนที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง และฮิมชานเองก็ดูจะเป็นที่พึ่งได้ในบางเรื่องเสียด้วย จึงค่อนข้างไม่
แปลกที่เขาเองอาจจะดูกลายเป็นคนร่าเริงเมื่ออยู่กับพี่ฮิมชาน
“ก็นะ แต่ละคนก็สมคำร่ำลือ แต่เจ้าชู้ชะมัดยาก กลับมาคราวนี้เพราะพี่อกหักเลยเชียวนะ”
“พี่เป็นคนทำเขาอกหักมากกว่ามั้งครับ? ฮ่าๆ”
“พี่ก็ไม่ขนาดนั้นนะ ว่าแต่พี่ไม่อยู่จุนฮงทำอะไรเรามั่งหรือเปล่า?”
คำถามที่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ทั้งคนพูดและคนฟังได้อย่างแทบจะในทันทีถูกยกออกมาพูดเปรยๆ แดฮยอนเองก็ไม่นึกโทษ
ฮิมชานหรอกที่ยกคำถามนั่นออกมาทำลายบรรยากาศให้ดูเคร่งเครียดแบบนี้ ถ้าหากเป็นเขาเขาคงไม่เสียเวลา และคงจะ
เลือกถามคำถามนี้ไปตั้งแต่เจอหน้ากันแล้ว
“...”
“ว่าไงล่ะหืม?”
คิมฮิมชานเอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟอุ่นตรงหน้าขึ้นมาจิบพลางมองหน้าคู่สนทนาไปด้วย แดฮยอนดูเข้มแข็งขึ้นมากกว่าที่
เขาเคยคิดไว้ เจ้านี่ไม่ได้มีอาการผอมลงอย่างที่ฮิมชานคาดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย แถมไม่ได้มีอาการฟูมฟายเหมือนครั้งก่อนๆ
ที่เคยนัดเจอกันอีกแล้ว ดวงตากลมโตนั่นเสหลบสายตาของเขาเพื่อคิดถึงอะไรบางอย่าง ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าเรื่องอะไร ชเว จุน
ฮงยังไงล่ะ
“...ก็แล้วแต่ทางไหนนะครับ”
น้ำเสียงสั่นๆที่อีกฝ่ายใช้สนทนาทำเอาคิมฮิมชานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่หนิ ปกติกว่าจะพูดเรื่องของจุนฮงได้แดฮยอนจะต้อง
ใช้เวลาในการห้ามใจของตัวเองและห้ามน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลนานกว่านี้นิ หรือบางทีตลอดเวลาสามปีที่ไม่ได้พบกัน แดฮ
ยอนคงจะคิดอะไรบางอย่างได้แล้วจริงๆ
“พี่หมายถึงทั้งสองทาง”
แดฮยอนต้องเสสายตามองออกไปข้างนอกอีกครั้งเมื่อเงยหน้าแล้วพบกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของพี่ฮิมชาน ทั้งๆที่เตรียมตัวมา
กับคำถามเหล่านี้มาอย่างดีแล้วแท้ๆ ทำไมแค่เปลี่ยนประโยคคนพูดเป็นคิมฮิมชานไม่ใช่ตัวเขาเองมันถึงได้ดูบาดหัวใจจน
แสบไปขนาดนี้นะ
“ก็ถ้าทางร่างกาย...เราไม่ได้เจอกันเลยตลอดเวลาสามปีเหมือนที่พี่ฮิมชานเคยอยากให้เป็นครับจนกระทั่งเมื่อวาน”
“...”
“แต่ถ้าทางจิตใจ...ก็อย่างที่รู้ๆกัน ว่ามันตลอดเวลา”
แดฮยอนที่เสสายตามองออกไปข้างนอกหันมายิ้มให้ คนที่นั่งตรงข้ามตัวเองทันทีที่พูดจบ จริงๆแล้วเขาเองก็รู้ว่าพี่ฮิมชานคิด
จะถามว่าอะไร และรู้ด้วยว่าพี่ฮิมชานยังไงเขาก็รู้คำตอบอยู่แล้ว พี่เขาก็แค่อยากพิสูจน์ด้วยตัวเองก็เท่านั้น
“นายโตขึ้นแล้วหนิ ดีใจด้วยนะ”
ฮิมชานเอื้อมมือไปขยี้หัวคนที่อายุน้อยกว่าอย่างเอ็นดู จริงๆแล้วถ้ามี่ความลับ เรื่องราวบ้าๆนั่นไม่เกิด บางทีเขากับแดฮยอน
อาจจะไม่ใช่แค่พี่น้องกันเฉยๆก็ได้ ก็บางทีหน่ะ
อย่างน้อยก็ขึ้นชื่อว่าบางที .. บางทีก็ไม่ใช่ฝันนี่หน่า?
“เรามาคุยเรื่องของเราดีกว่าครับ”
“??”
“คือความลับอีกอย่าง...”
“เดี๋ยวนี้คนตระกูลผมกล้าลดตัวลงต่ำคุยกับคนประเภทนี้แล้วหรอครับเนี้ย?”
เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคน พร้อมกับเสียงปรบมือเป็นจังหวะเน้นหนักแบบที่ใครบางคนชอบทำดังขึ้นจากข้างหลัง
แดฮยอนที่กำลังจะพูดกับฮิมชานก็รีบหันขวับทันทีเมื่อประโยคนั้นจบ เจ้าของประโยคเสียดสีที่ว่าส่งรอยยิ้มหวานมาให้ แต่
ดวงตาสีช็อกโกแล็ตคู่นั้นกลับทำให้แดฮยอนรู้สึกเหมือนโดนแผดเผาอยู่กลางอากาศ..
โหดร้ายกับฉันเหลือเกินนะ
ชเว จุนฮง..
ฉันเลือกเป็นคนเลวในสายตาของเธอตอนนี้
ดีกว่าวันพรุ่งนี้เราสองคนจะไม่มีทางได้เจอกันอีก ตลอดกาล..
T B C
-----------------------------------------
ขุ่นพี่ดูหล่อ หล่อแบบหล่อ หล่อแบบพระเอกยังอาย หล่อคือหล่อ... เอาเถอะ 555555555
เย็นนี้แต่งถึงแค่นี้จริงๆค่ะ คือมันสั้นนะ อยากร้องไห้อ่ะแง ;_;)
ที่ตอนนี้มันดูป่วงๆเพราะพึ่งแต่งฟิคหลุดโลกมาเค่อะ ..
ถ้าพรุ่งนี้อะไรยังไง..อาจจะขนช็อทฟิคในคลังออกมาให้อ่านนะคะ ♥
เย็นนี้แต่งถึงแค่นี้จริงๆค่ะ คือมันสั้นนะ อยากร้องไห้อ่ะแง ;_;)
ที่ตอนนี้มันดูป่วงๆเพราะพึ่งแต่งฟิคหลุดโลกมาเค่อะ ..
ถ้าพรุ่งนี้อะไรยังไง..อาจจะขนช็อทฟิคในคลังออกมาให้อ่านนะคะ ♥
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น