ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( B.A.P ) Contrast ; Lodae

    ลำดับตอนที่ #3 : Contrast | 2th ; Kim Himchan

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 56










     

    Contrast

    | 2th ; Kim Himchan

    pairing : Junhong x Daehyun (Lodae)

    rated : ??

    note : . . . ขุ่นพี่ชานคนสำคัญเปิดตัวแล้วค่ะ LOL วันนี้เราแต่งถึงแค่นี้จริงๆ 55555 5555

     

     

     

     







    คิม ฮิมชานเป็นใคร?

     

     ถ้าให้ตอบในลักษณะทางร่างกายรูปร่างภายนอกแล้วคิมฮิมชานก็เป็นคนหน้าดีที่ถูกจัดไว้อยู่ในชนิดหน้าตาดีจัด ความสูง
    ไล่เลี่ยกัน มีผิวขาว ฐานะทางครอบครัวก็ดี .. แต่ถ้าหากถามถึงวงศาตระกูลญาติแล้ว ..

     




    คิมฮิมชานเป็นพี่ชายของชเวจุนฮง


    .. อ่อไม่ใช่พี่ชายแท้ๆหรอกแค่ถูกเก็บมาเลี้ยงหน่ะ

     






     แดฮยอนกับพี่ฮิมชานก็ถือว่าสนิทในระดับหนึ่ง ไม่ได้รับรู้เรื่องของกันและกันในทุกๆเรื่อง ไม่ได้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารกัน
    ทุกทาง เวลาฮิมชานมีปัญหาก็ไมได้มาปรึกษาแดฮยอนเป็นคนแรกๆเท่าไหร่ แดฮยอนก็เช่นเดียวกัน ถึงจะสนิทกันแค่ไหน
    ก็ตามแต่ ทั้งตัวแดฮยอนเองและตัวของฮิมชานก็ต้องเว้นช่องว่างระยะห่างทั้งคู่เอาไว้ เพราะคำว่าความลับมันยังคงค้ำคอคน
    ทั้งคู่ ไม่ให้มีวันได้เข้าใกล้กันเกินเส้นสีแดงๆที่ขีดคั่นอยู่

     

     


     แน่นอนว่าฮิมชานรู้เรื่อง ความลับ นั้นดี .. ดีพอๆกับตัวแดฮยอนเลยด้วยซ้ำ

     



     แต่แดฮยอนเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่าความลับล่าสุดที่เขาเพิ่งรู้มาได้ไม่นานนี้ฮิมชานเองจะรู้ด้วยหรือเปล่า ความคิดแปด
    สิบเปอร์เซ็นต์ในใจของเขาขอฟันธงไว้ว่าพี่ฮิมชานยังไม่รู้ และยังคงจะไม่รู้จนกว่าเขาหรือใครคนนั้นเป็นคนเอ่ยปากบอกไป ไม่
    หรอก แดฮยอนจะไม่ยอมให้คนคนนั้นเป็นคนเอ่ยความลับนั่นก่อนแน่ๆ ขอเขาเป็นคนเลวในสายตาจุนฮงก็พอ อย่าให้เขา
    ต้องกลายเป็นคนเลวในสายตาของพี่ฮิมชานอีกคนไปด้วยเลย



     แดฮยอนยอมรับว่าเขายังกลัว กลัวที่จะเสียพี่ฮิมชานที่อยู่ข้างๆกันมาตลอด ทุกครั้งที่แดฮยอนท้อพี่ฮิมชานก็มักยื่นมือมาช่วย
    เหลือเสมอๆ แทบทุกวันนี้ที่เขายังดูแลแม่ที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้ก็เพราะเงินที่พี่ฮิมชานส่งมาให้ ถึงแม้ว่าตอนแรกแด
    ฮยอนจะพร่ำพูดกับตัวเองเสมอว่าถ้าขาดพี่ฮิมชานไปชีวิตเขาคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ แต่ตอนนี้เขาเองก็คงต้องหัดทำใจยอมรับวันที่
    ใกล้มาถึง ทุกอย่างนั้นมันขึ้นอยู่กับพี่ฮิมชานว่าถ้ารับรู้ความลับแล้วจะยังอยู่ฝั่งเขาต่ออีกหรือไม่ ทุกอย่างระหว่างเขากับพี่ฮิม
    ชานต่อจากนี้ คิดอยู่กับการตัดสินใจของคิมฮิมชานคนเดียว

     







    แต่ก็ต้องอาศัยความใจดีของใครคนนั้นด้วย

     



     แดฮยอน แดฮยอนได้ยินหรือเปล่า? พี่ฮิมชานเองนะ เย็นนี้พี่จะกลับบ้านหลังใหญ่แล้ว เอ่อ..ถ้าว่างก็มานัดเจอกันวันเสาร์นี้
    หน่อยมั้ย? ถ้าสะดวกเมื่อไหร่ช่วยโทรกลับหน่อยนะ

     


    ตื้ด



     

     เสียงจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติเงียบลงไปแล้ว แน่นอนว่าเสียงของฮิมชานที่ดังอยู่ในนั้นก็เงียบลงไปด้วย ดูจากเวลาที่ฝาก
    ข้อความเอาไว้ก็คงตอนที่เขายังยืนตากฝนอยู่ที่มหาลัย ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบงัน เหลือเพียงเสียงหายใจแผ่วเบาของแด
    ฮยอนที่นั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้องรับแขก มือสองมือถูกประสานกันไว้เป็นกำปั้นขนาดย่อมๆ ที่แดฮยอนเลือกจะใช้เอามารอง
    คางตัวเองยามที่คิดมากแบบนี้



     

     ใจหนึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าฮิมชานสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานเลยทำให้รู้สึกว่าอยู่กับพี่ฮิม
    ชานก็ไม่ค่อยปลอดภัยเลยสักนิด กลับทำให้รู้สึกว่ายิ่งใกล้กับพี่ฮิมชานยิ่งรู้สึกห่างเหินกันไปเรื่อยๆ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากพุ่งถลา
    เข้าไปบอกความลับอีกอย่างให้ฮิมชานให้ได้รับรู้ความจริงข้อนั้น แต่ถ้าหากเขาทำแบบนั้นและขืนพี่ฮิมชานได้ไปโวยวายใส่
    ใครคนนั้นขึ้นมา คนที่จะมีปัญหามันไม่ใช่แค่พี่ฮิมชาน ตัวเขาเอง และใครคนนั้นอีกคน เพราะจุนฮงจะเป็นคนที่ได้รับผลกระ
    ทบเรื่องนี้

     

     มากที่สุด

     

     

    ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ฝั่งไหน แต่ก็มีเจตนาเดียวกันที่เก็บความลับนี้เอาไว้กับตัว เพื่อที่จะไม่ให้จุนฮงจะต้องเจ็บ ไม่ให้จุนฮงต้อง
    ทรมาน และไม่อยากให้จุนฮงต้องมาข้องเกี่ยวอะไรกับเรื่องเลวๆแบบนี้

     

     

    หากจุนฮงจะมองแดฮยอนเลวก็ไม่เป็นไร..เพราะยังไงนั่นก็หมายความว่าจุนฮงยังคงไม่รับรู้ความจริง

     

     

    แดฮยอนไม่เคยเสียใจสักนิดถ้าจุนฮงจะมองเขาเป็นขยะไร้ค่า จะมองเขาเป็นคนใจร้ายไส้ระกำ เป็นคนเลวที่ไม่มีใครอยากจะ
    คบ เป็นคนที่จุนฮงไม่อยากจะมองเห็นแม้แค่ปลายเท้า เป็นคนที่จุนฮงไม่อยากได้ยินเสียง เป็นคนที่จุนฮงลืมไปว่าเคยมีตัวตน
    อยู่บนโลกนี้


     ต่อให้มันทรมาณใจของแดฮยอนแค่ไหนเขาก็ต้องนิ่งเฉย เขารู้ดีว่าทำไมจุนฮงถึงมองเขาแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายมี
    ความรู้สึกดีๆแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้กับจุนฮงก็ตามทีเถอะ การตัดสินใจทำให้จุนฮงเกลียดขี้หน้าเขาตั้งแต่ตอนนี้ก็เป็นสิ่ง
    ที่ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยพี่ฮิมชานก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้คนหนึ่งล่ะนะ

     

     แดฮยอนตัดสินใจที่จะนัดพบกับฮิมชานที่ร้านอาหารใกล้ๆหอพัก อย่างน้อยถ้าพี่ฮิมชานไปโวยวายและคนคนนั้นยังมีหัวจิต
    หัวใจเป็นห่วงจุนฮง เรื่องที่เขาจะเล่าให้พี่ฮิมชานฟังก็คงไม่มีทางไประแคะระคายหูของจุนฮงเป็นแน่แท้

     


     ดีล่ะ เขาจะทำ

     


      แดฮยอนกดโทรศัพท์ข้างหน้าตัวเองด้วยเลขหมายสิบหลักที่คุ้นเคย เขานำโทรศัพท์จ่อไว้ข้างหู รอเพียงครู่อึดใจเสียงที่ไม่
    ได้ยินเป็นเวลานานก็ทักทายขึ้นก่อน

     

     “สวัสดีแดฮยอน”


     แดฮยอนยิ้มให้โทรศัพท์ถึงแม้รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเห็นแน่นอน เขารู้สึกดีเวลาพี่ฮิมชานมักจะใช้โทนเสียงอบอุ่นและ
    เป็นห่วงเขาเสมอเวลาคุยกับเขา ต่างครั้งก็ต้องเผลอใจไม่ให้เข้าใกล้เส้นสีแดงเท่าไหร่

     

     “สวัสดีครับ วันพรุ่งนี้พี่ฮิมชานว่างหรือเปล่า?”


     “พี่เพิ่งกลับมาก็จะให้ออกเที่ยวเลยงั้นหรอ? ไม่ให้พี่พักบ้างหรือไงหืม?”

     

     ถึงแม้ไม่ได้เจอกันนาน มีไม่กี่ครั้งในรอบหลายปีที่ได้คุยกัน ฮิมชานก็มักจะเล่นตลกกับแดฮยอนเสมอ เหมือนเป็นการลดระยะ
    ห่างระหว่างคนสองคนไปในตัว แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน

     

     “ผมก็กะจะพาไปเที่ยวสักหน่อย เห็นพี่ขลุกอยู่กับสาวๆตั้งนาน ว่ายังไงครับว่างหรือเปล่า?”

     

     “อืม.. กี่โมงล่ะ?”


     แดฮยอนหันไปมองนาฬิกาข้างผนัง นิ้วชี้ไล่นับตัวเลขเรียงกัน เขานับหนึ่งถึงห้าในใจ ..ห้าชั่วโมงก็พอแล้วมั้ง?


    “สิบโมงดีมั้ยครับ ว่างหรือเปล่า? พอดีผมต้องทำงานตอนบ่ายสามโมงหน่ะ”

     

    “สิบโมงก็ได้นะ เห็นจุนฮงบอกพรุ่งนี้จะไปข้างนอกตอนเก้าโมงมั้ง คงออกมาได้ง่ายอยู่แหละ”

     

    ถึงแม้ในใจของเขาเรียกร้องอยากให้เอ่ยปากถามออกไปว่าจุนฮงจะออกไปไหน สิ่งที่แดฮยอนมีสิทธิ์ทำได้ก็แค่เพียง

     

    “ครับ สิบโมงเจอกันที่ร้านเดิมนะ” หวังว่าการนัดเจอพี่ฮิมชานคราวนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ดี

     

     

     

    หรือบางทีมันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิดเอาไว้?

     

     

     ก็เป็นอย่างที่คาด.. ยองแจโผล่มาที่ห้องเขาตั้งตั่งไม่เจ็ดโมงพร้อมข้าวของพะรุงพะรังที่เจ้าตัวหอบเอามาจากห้องของตัวเอง
    คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีปัญหาอะไรกับฮโยซองมาแน่ๆ ถึงได้ระเห็จตัวเองมานอนที่ห้องของเขา แดฮยอนที่เพิ่งตื่นไม่ค่อยได้สติ
    เทาไหร่ก็ทำได้แค่เพียงเดินไปเปิดห้องรับแขกที่ไม่กว้างเท่าไหร่ให้อีกคนได้เอาของไปเก็บ ยองแจก็เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ
    ทะเลาะกับแฟนคนไหนก็ต้องย้ายตัวเองมานอนที่ห้องของแดฮยอนตลอด

     

     ก็กลัวผู้หญิงพวกนั้นมาทำลายข้าวของห้องฉันนี่

     

     คำกล่าวอ้างง่ายๆที่แดฮยอนเลือกที่จะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เขารู้ดีว่าผู้หญิงแต่ละคนของยองแจมีแต่คนประเภทหึงหวงรุนแรงทั้ง
    นั้น หากไม่พอใจอะไร ห้องของยองแจก็ยังเคยเละมาแล้วต่อหน้าต่อตา ยังดีที่สาวเจ้าพวกนั้นยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของแดฮยอน เวลายองแจระเห็จย้ายรากฐานมาอยู่ที่ห้องของเขาทีไรก็ไม่เคยคิดจะมาตามให้เสียเวลา

     

    “ใกล้เลิกกันแล้วสินะ?”


     ถามเพื่อนไปอย่างนั้นก่อนจะยื่นแก้วน้ำเย็นๆให้ ยองแจยิ้มร่ารับมาด้วยความเต็มใจ เวลาอยู่ที่ห้องของแดฮยอนที่ไรอีกฝ่าย
    จะใจดีและคอยดูแลเขาเสมอ ถึงบางครั้งจะรู้สึกรบกวนไปบ้าง แต่บางปัญหามันก็ต้องแก้กันแบบนี้ถึงจะหาย

     

     “ก็เกือบแล้วล่ะ สงสัยฉันคงต้องคบกับผู้ชายแล้วมั้งคราวหน้า?”


    พูดไปก็กลั้วหัวเราะไป แต่สายตาของยองแจก็เอาแต่กวาดมองปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะนิ่งเงียบ เงียบเกินไป

     


    ชอบเป็นแบบนี้อีกแล้วแหะ

     

    “หรอ .. อืมก็ดีนะ ผู้ชายบางคนก็น่ารักไม่เรื่องมากดี”


     ไหล่ของยองแจตกลู่ลงเล็กน้อยเมื่อได้รับคำตอบจากแดฮยอนเป็นในอีกความหมายหนึ่ง เขาถอนหายใจกับตัวเองแล้วก็เลือก
    ที่จะปั้นหน้ายิ้มต่อไป เขาก็ไม่ได้น้อยใจอะไรอีกฝ่ายขนาดนั้น แค่รู้สึก..ก็แค่บางครั้งรู้สึกต้องการความเอาใจใส่จากแดฮยอน
    บ้างก็เท่านั้น

     

    “วันนี้จะไปไหนขอไปด้วยได้มั้ย?”


    แดฮยอนชะงักก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ ยองแจรู้ได้ไงว่าเขาจะไปไหน? ..



    “ก็วันนี้มีไปทำงานพาร์ทไทม์ไม่ใช่หรอ? เราไม่อยากอยู่ห้องคนเดียวอ่ะ กลัวฮโยซองมาอาละวาด”

     

     

     

     สุดท้ายแดฮยอนก็ต้องมาโดยที่มียูยองแจคอยติดสอบห้อยตามมาด้วย โชคดีเข้าข้างอีกครั้งเมื่อสถานที่นัดอยู่ใกล้ย่านการ
    ค้า แดฮยอนก็เลยฝากให้ยองแจไปซื้อของให้ตามลิสท์ที่จดเอาไว้ ซึ่งอาจจะใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมงสามชั่วโมงก็คงแล้ว
    แต่จำนวนคน แดฮยอนก็ได้แค่ภาวนาให้คนเยอะๆจนยองแจแทบไม่ขยับไปไหนได้ก็พอ


     พอเดินเข้ามาในร้านประจำที่ไม่ได้เข้ามาตั้งแต่แยกกันกับพี่ฮิมชานครั้งนั้น พอนับคร่าวๆเอาแบบไม่ละเอียดก็เกือบจะสามปี
    แล้ว พนักงานบางส่วนในร้านยังจำเขาได้ดีและบางส่วนก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย แดฮยอนขอเป็นฝ่ายคิด
    เองว่าทางร้านคงได้กำไรไม่มากก็มากกว่าที่คิดไว้ เพราะร้านถูกปรับแต่งปรับเปลี่ยนต่างไปอย่างเห็นได้ชัด โทนสีในร้านถูก
    เลือกใช้ให้ดูหรูหราขึ้น .. แต่มีสิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยนไป ใครบางคนนั่งอยู่ตรงนั้น

     

     พี่ฮิมชานกำลังนั่งมองวิวออกไปข้างนอกที่โต๊ะตัวเดิมมุมเดิมๆที่พวกเขาสองคนนัดกันมาบ่อยๆ

     

     

     ก็นะ...ย้อนเวลาดี

     




     “สวัสดีครับ”


     แดฮยอนเดินตรงรี่ไปที่โต๊ะคุ้นเคย เขาเขยิบเก้าอี้ออกก่อนจะหย่อนตัวเองลงไปนั่ง ประจันหน้ากับคิมฮิมชาน .. อ่า เวลาเกือบ
    สามปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันก็คงต้องยอมรับว่าพี่ฮิมชานดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่าเก่า อาจจะเพราะได้ไปเยือนเมืองหนาว ผิวของ
    พี่เขาจึงดูชุ่มชื่นและขาวสว่างเสมอ ผมหน้าม้าที่เคยเอาตกลงมาก็ถูกเซ็ทผมปัดขึ้นทำให้หล่อในอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าหากแดฮ
    ยอนเป็นผู้หญิงก็คงมีหวังได้เพ้อฝันถึงพี่ฮิมชานให้ตายกันไปข้างแน่ๆ


     พี่ฮิมชานแต่งต่างกับจองแดฮยอนชะมัด.. แดฮยอนที่ต้องออกแดดไปทำงานส่งของบ่อยๆ ผิวเลยไมได้ขาวอย่างที่ใครๆเป็น
    อาจจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ที่มีส่วนเอี่ยวด้วย ผิวที่ได้จึงออกแนวค่อนข้างคล้ำ สภาพผมที่แม้แต่ออกไปไหนมาไหนก็ไม่เคย
    แม้แต่จะดูแล แตกต่างกับคิมฮิมชานจริงๆนั่นแหละ

     

    “แดฮยอนไม่ได้เจอกันนาน เมื่อไหร่จะโตเนี่ย?”


    “ฮ่าๆ ผมก็โตแล้วนะครับ ไปอยู่กับสาวๆมานานเป็นยังไงบ้างครับ?”

     


     บางทีการอยู่กับใครบางคนที่เราไว้ใจ และรู้สึกอุ่นใจก็ทำให้แดฮยอนรู้สึกปล่อยวางลงไปบ้าง พอเวลาอยู่กับพี่ฮิมชานแล้วแด
    ฮยอนเหมือนได้อยู่ใกล้กับคนที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง และฮิมชานเองก็ดูจะเป็นที่พึ่งได้ในบางเรื่องเสียด้วย จึงค่อนข้างไม่
    แปลกที่เขาเองอาจจะดูกลายเป็นคนร่าเริงเมื่ออยู่กับพี่ฮิมชาน

     

    “ก็นะ แต่ละคนก็สมคำร่ำลือ แต่เจ้าชู้ชะมัดยาก กลับมาคราวนี้เพราะพี่อกหักเลยเชียวนะ”


    “พี่เป็นคนทำเขาอกหักมากกว่ามั้งครับ? ฮ่าๆ”

     

    “พี่ก็ไม่ขนาดนั้นนะ ว่าแต่พี่ไม่อยู่จุนฮงทำอะไรเรามั่งหรือเปล่า?”


     คำถามที่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ทั้งคนพูดและคนฟังได้อย่างแทบจะในทันทีถูกยกออกมาพูดเปรยๆ แดฮยอนเองก็ไม่นึกโทษ
    ฮิมชานหรอกที่ยกคำถามนั่นออกมาทำลายบรรยากาศให้ดูเคร่งเครียดแบบนี้ ถ้าหากเป็นเขาเขาคงไม่เสียเวลา และคงจะ
    เลือกถามคำถามนี้ไปตั้งแต่เจอหน้ากันแล้ว

     

    “...”


    “ว่าไงล่ะหืม?”

     

     คิมฮิมชานเอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟอุ่นตรงหน้าขึ้นมาจิบพลางมองหน้าคู่สนทนาไปด้วย แดฮยอนดูเข้มแข็งขึ้นมากกว่าที่
    เขาเคยคิดไว้ เจ้านี่ไม่ได้มีอาการผอมลงอย่างที่ฮิมชานคาดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย แถมไม่ได้มีอาการฟูมฟายเหมือนครั้งก่อนๆ
    ที่เคยนัดเจอกันอีกแล้ว ดวงตากลมโตนั่นเสหลบสายตาของเขาเพื่อคิดถึงอะไรบางอย่าง ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าเรื่องอะไร ชเว จุน
    ฮง
    ยังไงล่ะ

     

     

     

    “...ก็แล้วแต่ทางไหนนะครับ”


     น้ำเสียงสั่นๆที่อีกฝ่ายใช้สนทนาทำเอาคิมฮิมชานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่หนิ ปกติกว่าจะพูดเรื่องของจุนฮงได้แดฮยอนจะต้อง
    ใช้เวลาในการห้ามใจของตัวเองและห้ามน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลนานกว่านี้นิ หรือบางทีตลอดเวลาสามปีที่ไม่ได้พบกัน แดฮ
    ยอนคงจะคิดอะไรบางอย่างได้แล้วจริงๆ

     

    “พี่หมายถึงทั้งสองทาง”


     แดฮยอนต้องเสสายตามองออกไปข้างนอกอีกครั้งเมื่อเงยหน้าแล้วพบกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของพี่ฮิมชาน ทั้งๆที่เตรียมตัวมา
    กับคำถามเหล่านี้มาอย่างดีแล้วแท้ๆ ทำไมแค่เปลี่ยนประโยคคนพูดเป็นคิมฮิมชานไม่ใช่ตัวเขาเองมันถึงได้ดูบาดหัวใจจน
    แสบไปขนาดนี้นะ

     

    “ก็ถ้าทางร่างกาย...เราไม่ได้เจอกันเลยตลอดเวลาสามปีเหมือนที่พี่ฮิมชานเคยอยากให้เป็นครับจนกระทั่งเมื่อวาน”


    “...”


    “แต่ถ้าทางจิตใจ...ก็อย่างที่รู้ๆกัน ว่ามันตลอดเวลา

     

     แดฮยอนที่เสสายตามองออกไปข้างนอกหันมายิ้มให้ คนที่นั่งตรงข้ามตัวเองทันทีที่พูดจบ จริงๆแล้วเขาเองก็รู้ว่าพี่ฮิมชานคิด
    จะถามว่าอะไร และรู้ด้วยว่าพี่ฮิมชานยังไงเขาก็รู้คำตอบอยู่แล้ว พี่เขาก็แค่อยากพิสูจน์ด้วยตัวเองก็เท่านั้น

     

    “นายโตขึ้นแล้วหนิ ดีใจด้วยนะ”


     ฮิมชานเอื้อมมือไปขยี้หัวคนที่อายุน้อยกว่าอย่างเอ็นดู จริงๆแล้วถ้ามี่ความลับ เรื่องราวบ้าๆนั่นไม่เกิด บางทีเขากับแดฮยอน
    อาจจะไม่ใช่แค่พี่น้องกันเฉยๆก็ได้ ก็บางทีหน่ะ

     

     

     

    อย่างน้อยก็ขึ้นชื่อว่าบางที .. บางทีก็ไม่ใช่ฝันนี่หน่า?

     

     

     

    “เรามาคุยเรื่องของเราดีกว่าครับ”


    “??”


    “คือความลับอีกอย่าง...”

     

     

    “เดี๋ยวนี้คนตระกูลผมกล้าลดตัวลงต่ำคุยกับคนประเภทนี้แล้วหรอครับเนี้ย?”


     เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคน พร้อมกับเสียงปรบมือเป็นจังหวะเน้นหนักแบบที่ใครบางคนชอบทำดังขึ้นจากข้างหลัง
    แดฮยอนที่กำลังจะพูดกับฮิมชานก็รีบหันขวับทันทีเมื่อประโยคนั้นจบ เจ้าของประโยคเสียดสีที่ว่าส่งรอยยิ้มหวานมาให้ แต่
    ดวงตาสีช็อกโกแล็ตคู่นั้นกลับทำให้แดฮยอนรู้สึกเหมือนโดนแผดเผาอยู่กลางอากาศ..

     

     

     

    โหดร้ายกับฉันเหลือเกินนะ

     

     

     

     

     

     

    ชเว จุนฮง..

     

     

     

     

     

    ฉันเลือกเป็นคนเลวในสายตาของเธอตอนนี้


    ดีกว่าวันพรุ่งนี้เราสองคนจะไม่มีทางได้เจอกันอีก ตลอดกาล..













    T B C
    -----------------------------------------



     
    ขุ่นพี่ดูหล่อ หล่อแบบหล่อ หล่อแบบพระเอกยังอาย หล่อคือหล่อ... เอาเถอะ 555555555
    เย็นนี้แต่งถึงแค่นี้จริงๆค่ะ คือมันสั้นนะ อยากร้องไห้อ่ะแง ;_;)
    ที่ตอนนี้มันดูป่วงๆเพราะพึ่งแต่งฟิคหลุดโลกมาเค่อะ .. 
    ถ้าพรุ่งนี้อะไรยังไง..อาจจะขนช็อทฟิคในคลังออกมาให้อ่านนะคะ ♥

     

    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×