ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( B.A.P ) Contrast ; Lodae

    ลำดับตอนที่ #2 : Contrast | 1th ; Say hi

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 56


     

     

     
          

    Contrast
    | 1th ; Say hi

     

    pairing : Junhong x Daehyun (Lodae)
    rated : ??
    note : . . . จุนฮงโผล่มาแล้ว XD

     

     









       รู้สึกแปลกๆ..

     

     แปลกตั้งแต่เมื่อเช้า ทั้งๆที่เงยหน้ามองท้องฟ้าวันนี้ดูจะสว่างสดใสกว่าปกติและแดฮยอนคิดว่าคงดูสดใสตลอดวัน แต่ไม่รู้
    ทำไมเหมือนกันพอคล้อยบ่ายกลับสาดฝนแรงกระหน่ำราวกับพายุเข้าเสียได้

     




     เหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด..

     

     เมื่อวันนั้น...

     

     เด็กหนุ่มตัวเล็กก้มมองเจ้าสิ่งมีชีวิตที่นอนหายใจรวยรินอยู่กองผ้าตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ ดวงตาใสแป๋วสังเกตุมองตั้งแต่
    เจ้าสิ่งมีชีวิตนั่นนอนขยับไปมาจนกระทั่งดวงตาเล็กๆของมันลืมตาดูโลก

     

     เจ้าแมวน้อยตื่นแล้วสินะ

     

     แดฮยอนเอื้อมมือออกไปหมายหวังไว้ว่าจะอุ้มมัน แต่ข้อมือเล็กนั้นก็ต้องชะงักเมื่อมีหยดน้ำใสหยดลงบนมือ ก่อนจะตามด้วย
    หยาดฝนเม็ดอื่นๆที่ค่อยๆทยอยตกลงมา

     

     “หลบฝนกันก่อนนะแมวน้อย”

     

      ก้มหน้าลงพูดกับเจ้าสิ่งมีชีวิตในมือแล้ววิ่งหน้าตั้งฝ่าฝนไปหาที่กำบังตรงเครื่องเล่นของสนามเด็กเล่น เด็กหนุ่มล้วงมือไป
    หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าก่อนจะเลือกเอามันมาพันรอบๆตัวของเจ้าแมวน้อยเอาไว้ เพื่อเพิ่มความอบอุ่น เจ้าแมวน้อยตัว
    เล็กก็ขยับตัวบนตักเพื่อหาท่าทีที่มั่นเหมาะ ก่อนจะตัดสินใจหลับตาพริ้มลงบนตักคู่นั้น

     

     “น่ารักจังเลย”

     


      อาจเป็นเพราะแดฮยอนไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอะไรเป็นจริงเป็นจังสักที คราวนี้พอมีเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆบนตักก็
    ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ทั้งเกาคางให้จนเจ้าแมวนั่นหลับตาพริ้ม ทั้งคอยเพิ่มไออุ่นอยู่ไม่ค่อยห่าง ในใจก็ภาวนาแค่ว่า
    อย่าให้ฝนหยุดตกไวๆเลยด้วยเถิด

     


     เพราะเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาที่ตรงนี้อีกแล้วก็ได้

     

     “ตามหาตั้งนานมาอยู่ที่นี่เอง จองแดฮยอน


     น้ำเสียงอบอุ่นคุ้นหูพร้อมกับเงาที่ทาบทับลงมาทำให้แดฮยอนต้องเงยหน้ามองบุคคลปริศนาที่มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็
    ไม่รู้

     



     ใครคนนั้น

     

    “..ฮยอน”


    “....”


    “แดฮยอน”


    “....”


    “จองแดฮยอน”

     


     เสียงเรียกที่ข้างๆหูทำเอาแดฮยอนที่เผลอคิดย้อนไปวันเวลาเก่าๆได้เรียกสติกลับมาในเวลาปัจจุบันอีกครั้ง เขาหันไปมองยอง
    แจที่ตอนนี้มายืนอยู่ข้างๆแล้วเรียบร้อย

     

     “ขอโทษ..ก็เห็นเหม่อเลยเรียกดู ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตกใจนะ”


     พอได้รับแววตานิ่งๆเรียบๆจากเพื่อนสนิทอย่างแดฮยอนก็ทำเอายองแจรู้สึกผิดอยู่บ้างเหมือนกัน ต่อให้แดฮยอนจะเป็นคน
    เงียบหรือคนนิ่งแค่ไหน มันก็จะมีไม่กี่ครั้งนักหรอกที่แววตาของแดฮยอนจะเรียบนิ่งขนาดนี้ และถ้าให้ยองแจเลือกระหว่าง
    แดฮยอนไม่ตอบอะไรกับการได้รับสายตาแบบนี้ เขาก็คงจะต้องเลือกข้อแดฮยอนไม่ตอบอะไรอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่ต้อง
    ทบทวนให้มากความ

     


     เพราะการที่ยองแจจะสามารถรับความรู้สึกของแดฮยอนได้ ก็ได้แค่อ่านจากแววตาเพียงเท่านั้น

     

     “อืม ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษเหมือนกันนะ”


     บางครั้งการมองหน้ายองแจนานๆ หรือได้ยินเสียงที่เจือไปด้วยความรู้สึกผิดของยองแจก็ทำให้แดฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเอง
    เป็นคนใจร้าย ใจร้ายที่ไม่ยอมเปิดรับให้ยองแจได้รับรู้ถึงตัวตนที่ปิดกั้นไว้ข้างในสักที ใจร้ายที่ให้ความหวังกับยองแจด้วยการ
    เรียกว่า’เพื่อนสนิทแต่ก็ไม่เคยเปิดรับยองแจให้เข้ามาถึงความคิดข้างในใจเลยแม้แต่น้อย

     

     “ไม่เห็นต้องขอโทษเลย แล้วจะกลับหอเลยหรือเปล่า?”


     แดฮยอนก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง ตอนนี้ใกล้จะบ่ายสามโมงเต็มที วันนี้ไม่มีเวรที่จะต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้าน ตอน
    แรกก็กะว่ารอให้ฝนซาเหมือนตอนนี้แล้วค่อยกลับ แต่ความรู้สึกแปลกๆกลับทำให้แดฮยอนรู้สึกยังอยากอยู่ตรงนี้ต่อ ราวกับมี
    ใครกระซิบผ่านสายลมที่พัดผ่านหน้าไปเมื่อสักครู่นี้ว่าให้อยู่ตรงนี้ก่อน...

     

     ชเว จุนฮง

     

     แดฮยอนกัดริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองเมื่อพบกับบัตรประจำตัวของใครบางคนตกอยู่ตรงหน้า ชื่อและนามสกุลที่ถูกเน้น
    เอาไว้กลับเด่นขึ้นมาจากตัวอักษรทั้งหมดทั้งมวลในใบบัตรประจำตัวนั้น แถมพร้อมด้วยรูปใบหน้าของใครบางคน หากจะ
    ปฏิเสธเสียว่าไม่รู้จัก..ก็คงไม่ได้ แต่ถ้าหากจะถามว่ารู้จักกันแค่ไหน..

     

    ให้ตอบได้แค่เขารู้ความลับบางอย่างที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ก็พอ

     

     

     

     

    และความลับนั้นมันคงจะไม่ดีแน่ถ้าหากถูกแพร่งพรายออกไปจนถึงหูของชเวจุนฮง




     ถึงแม้ทั้งความรู้สึกในใจและสมองจะสั่งการให้เดินหนีไปแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แดฮยอนก็ทำไม่ได้ ขาทั้งสองข้าง
    เหมือนถูกตรึงให้ยืนอยู่ตรงที่นั้น ถึงแม้เจ้าของบัตรใบนี้จะไม่ได้โผล่หน้ามา แต่ก็ทำให้แดฮยอนรู้สึกหัวใจเต้นสั่นระรัวในอก
    แบบแปลกๆ

     

      ถ้าเลือกที่จะทำตัวเป็นคนดีในตอนนี้...ความลับที่เก็บเอาไว้มานานคงต้องมีโอกาสได้แพร่งพรายออกไปแน่ๆ

     


     “เอ บัตรประจำตัวใครล่ะเนี่ย?”

     

     แดฮยอนชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงของยองแจที่ทักอยู่ข้างๆ เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าคนดีอย่างยองแจคงไม่ปล่อยให้สิ่งของ
    พวกนี้หลุดรอดออกไป แต่ถ้าหากเขามีโอกาสได้เห็นแก่ตัวอีกสักครั้งเขาคงรีบลากยองแจออกมาจากที่ตรงนั้น ไม่ให้ยองแจได้
    เห็น ไม่ให้ยองแจได้รู้จัก ไม่ให้ยองแจต้องไปเข้าพัวพันกับคนคนนั้น

     

     ไม่ให้เขาต้องกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจอีกครั้ง

     


    ชเว จุนฮงงั้นหรอ?”

     

     ราวกับทุกอย่างบนโลกนี้ของแดฮยอนหยุดหมุนเมื่อยองแจเลือกที่จะอ่านชื่อและนามสกุลของเจ้าของบัตรนั้นอย่างช้าๆ แดฮ
    ยอนรู้สึกเหมือนลำคอถูกสาดด้วยน้ำร้อน มันร้อนเสียจนเหมือนโดนแผดเผา เขาพูดอะไรไม่ออก ขาสองขาที่กำลังจะก้าวต้อง
    ชะงักงัน หัวใจเหมือนหยุดเต้น ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนถาโถมเข้าใส่เขา เขารู้สึกเหมือนคนไม่มีแรง แต่เขากลับไม่รู้สึกว่าอยาก
    ร้องไห้ หรือโวยวายเสียงดังให้ความรู้สึกบ้าๆนี่หลุดออกไปเสียที

     

     บางทีที่ไม่อยากร้องไห้ .. เพราะเขารู้ตัวดีว่าอยากร้องแค่ไหนก็คงร้องไม่ได้อีกแล้วล่ะมั้ง

     

     


    “แดฮยอนอย่าเพิ่งกลับหอก่อนได้มั้ย? เอาบัตรนักศึกษาไปคืนเขาก่อนได้มั้ย?”

     

     ยองแจจับข้อมือเพื่อนที่กำลังจะเดินหนีให้หยุด อะไรบางอย่างในจิตใจทำให้เขาตัดสินใจที่จะเดินไปอีกทาง และไม่ลืมที่จะ
    พาแดฮยอนเดินไปด้วย ไปหาชเว จุนฮง รุ่นน้องคนรู้จักและค่อนข้างสนิทกัน

     

     ถึงแม้เขาจะสามารถสะบัดข้อมือที่ถูกจับกุมนี้ให้ออกได้อย่างง่ายดาย แต่แดฮยอนรู้สึกว่าเขาอยากลองไปพบเจอกับจุนฮงดู
    อีกสักครั้ง ลองไปโผล่ให้หมอนั้นเห็นหน้าสักหน่อยว่ายังอยู่ดีสบายดีและยังไม่ตาย เขาอยากจะลองไปมองหน้าอีกฝ่ายดูว่า
    ตอนนี้โตขึ้นขนาดไหนแล้ว แล้วเขาเองก็อยากพิสูจน์ด้วยว่ายองแจจะสามารถยืนข้างเขาและปกป้องตัวเขาได้จริงๆตามที่เจ้า
    ตัวพูดหรือไม่

     

     

     

     พอเดินทั่วตึกต่างๆเพื่อตามหาจุนฮงตามที่นั่งประจำของเจ้าตัวเท่าที่ยองแจพอจะจำได้ แต่กลับไม่เห็นคนที่ชื่อว่าจุนฮงเลย
    แม้แต่นิด หรือแม้กระทั่งตามถามผู้หญิงที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของจุนฮงกี่คนต่อกี่คนก็ตอบว่าไม่รู้

     

     คนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเก่าของจุนฮงก็มีไม่มากเท่าไหร่นักหรอก.. แค่ตามไล่ถามทีละคนถ้าใช้เวลาอย่างน้อยสามนาที ยูยองแจก็
    เสียเวลาไปเกือบจะชั่วโมงครึ่ง เสียเวลายิ่งกว่าเดินตามหาทั่วมหาวิทยาลัยเสียอีก


     แต่แล้วแรงกระตุกที่ปลายชายเสื้อต้องทำให้ยองแจหันไปมองตามสายตาของแดฮยอน ชเว จุนฮงยืนประชันหน้าอยู่กับสาว
    สวยระดับต้นๆของมหาวิทยาลัย เจ้าเด็กนั่นอยู่ในชุดที่ค่อนข้างหลุดลุ่ย ส่วนสาวเจ้าคนนั้นก็ยืนหน้าแดงเขินอายอยู่ชิดผนัง

     

     แดฮยอนไม่ได้คิดไปเองหรอกว่าเมื่อกี้นี้จุนฮงตั้งใจจูบสาวคนนั้นต่อหน้าเขา..แถมเป็นจูบที่ร้อนแรงเสียด้วยสิ

     

     ยองแจที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเดินตรงไปหารุ่นน้อง เขายิ้มแย้มทักทายอารมณ์ดี โดยที่ไม่ลืมทักทายรุ่นพี่สาวสวยคนที่ยืนอยู่ข้าง
    จุนฮงในขนาดนี้ด้วย

     

     “ตามหานายนานเลยจุนฮง อ่ะนี่ บัตรประจำตัว ทำตกไว้หน่ะ”


     ยองแจยื่นบัตรประจำตัวของอีกฝ่ายออกไปให้ เขาเหลือบมองแดฮยอนที่มัวแต่เสสายตาหลุบลงข้างล่าง พอยองแจเงยหน้า
    มองจุนฮง เจ้าเด็กนั่นก็เอาแต่จ้องแดฮยอนด้วยแววตาแปลกๆ

     

     จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ จะว่าอาลัยอาวรณ์ก็ไม่เชิง

     


     “เอ่อ..นี่เพื่อนพี่เอง แดฮยอน แดฮยอนนี่ ชเว จุนฮงนะ น้องรหัสของฮโยซองอ่ะ”

     

     แดฮยอนเลือกการตัดสินใจครั้งสุดท้ายสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้ามองใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งๆที่เขาทำใจและ
    หัดแข็งใจไว้ตั้งนานแล้วแท้ๆ แต่พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยอะไรหลายอย่างแบบนั้น เขาก็ต้องยอมอ่อนข้ออยู่ดี

     

     สายตาที่เต็มไปด้วยอะไรหลายอย่างของชเวจุนฮงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะอ่านออก จองแดฮยอนรู้จักข้อนั้นดี หากได้ขึ้นชื่อว่า
    สายตาของชเว จุนฮงแล้วนั้น ต่อให้สนิทกันแค่ไหนแต่ถ้าไม่รู้ถึงเนื้อในจริงมันคงเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากและชวนให้พลัด
    หลงตกลงไปได้อย่างง่ายๆ แต่ถ้าหากได้ลองรู้จักไปถึงเนื้อในเข้าไปแล้วนั้น ต่อให้มองด้วยสายตาแบบไหนก็ทำเอากลัวจน
    หวั่นไหวได้ไม่ยากเหมือนกัน .. แล้วถ้าถามอีกครั้งว่าแดฮยอนรู้จักและสนิทกับจุนฮงแค่ไหน..

     

    เขาอ่านสายตาของจุนฮงออกแต่ไม่เคยเข้าถึงจิตใจและต่อให้มองด้วยสายตาแบบไหน

     

     

     

     

     

     จุนฮงก็เป็นแค่เด็กไร้เดียงสาคนนึงที่อยากจะเอาชนะและไม่เคยปล่อยอะไรไปง่ายๆก็เท่านั้น


    และแดฮยอนก็เคยเกือบจะหลุดจากวงโคจรชีวิตของคนที่ชื่อจุนฮงไปบ้างแล้วเหมือนกัน

     

     

     

    ก็แค่เคยเกือบหน่ะ...

     

     

     แต่ก็นะ ทำไมเขาถึงจะดูไม่ออกถึงแววตาอยากเอาชนะ แววตาอยากชนะฉันนั้นมันเผยออกมามากเกินไปนะจุนฮงอา.. นาย
    ก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างจากฉันไปหมดแล้วตลอดทั้งชีวิตนี้ แล้วยังต้องการอะไรอีกงั้นหรอ?

     

    “สวัสดีครับ”


    “มาทำไม”

     

     เป็นแดฮยอนเองที่เลือกจะทักทายอีกฝ่าย เขายิ้มมุมปากทันทีเมื่อคำที่ได้รับกลับมามันไม่ใช่คำทักทายอย่างที่ควรจะเป็น น้ำ
    เสียงของจุนฮงก็เหมือนเดิม คงเป็นเพราะไม่ว่าเวลาไหนๆที่อีกฝ่ายต้องการเอ่ยปากพูดกับเขา น้ำเสียงและอารมณ์ของชเว
    จุนฮงมักจะเกรี้ยวโกรธอยู่เสมอ แดฮยอนรู้และเขาเองก็ไม่ชินกับน้ำเสียงปกติๆของจุนฮงเสียแล้วด้วยสิ

     


    “ยองแจ กลับกันเถอะ”

     

     เขาเลือกที่จะเดินหนีอีกฝ่ายแล้วหันไปกุมข้อมือของยองแจที่ยืนนิ่งอยู่นานสองนานให้เดินออกไปจากที่ตรงนี้ด้วยกันแทน
    เขายอมรับว่าใจเขายังไม่แข็งพอ ถึงแม้น้ำตาไม่ไหลแต่หัวใจกลับบีบรัดแน่นเสียจนหายใจไม่ออก ยอมรับว่าที่เดินหนีนี้คือ
    เพราะเขากำลังอ่อนแอ อ่อนแอมากเกินที่จะไปกล้าสู้หน้าชเวจุนฮง แค่จะให้สู้หน้าอีกสักห้าวินาทีเขาเองยังทำไม่ได้เลย

     

     แต่แล้วสองขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่มือที่เคยจับข้อมือเพื่อนกลับถูกสะบัดออกกลายเป็นใครอีกคนมาบีบข้อมือของเขาแทน
    แรงบีบของมันยังเจ็บไม่เท่าแรงบีบในหัวใจของเขาเลยสักนิด ถึงฝนจะหยุดตกไปนานแล้ว ยังไงเขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นจาก
    ฝ่ามือนั่นอยู่ดี .. รู้สึกได้ไปจนถึงความเย็นชาในหัวใจของชเวจุนฮงเองด้วยซ้ำ

     

     

     “คิดว่าโผล่หน้ามาให้ผมเห็นแล้วจะหายไปง่ายๆหรือไง?”



     จุนฮงเองพยายามลดระดับเสียงของตัวเองให้ลดลงเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีคนสนใจเรื่องราวของเขามากขึ้น แรกเริ่มเดิมทีแค่เขากับ
    ผู้หญิงคนนั้นเดินข้างกันก็เป็นจุดสนใจมากพอแล้ว แล้วยิ่งเขามากระชากข้อมือของคนที่ไม่มีใครคบอยากแดฮยอน มันก็
    กลายเป็นจุดสนใจไปโดยปริยาย

     

     

    “สำคัญตัวเองมากไปหน่อยมั้ง?”


    “....”


    “คิดว่าพี่จะมีค่าพอให้ผมตามรังควาญหรอ ฝันไปเถอะ!”


    “...”

    “เลิกทำตัวแบบนี้สักทีเหอะ ผมละขยะแขยงคนพรรค์นี้แบบพี่จะบ้า!!"


     

    สุดท้ายก็เป็นจุนฮงเองที่ยอมปล่อยข้อมือข้อนั่น เขาไม่เคยอารมณ์ขึ้นใส่ใครหรือโวยวายใส่ใครถึงขั้นนี้ ยกเว้นอยู่คนคน
    เดียว... จองแดฮยอน

     

     

     

     

    “นี่ไง แค่นายคิดอยากจะปล่อยฉันนายก็ปล่อยเองได้”


    “......”


    “ไม่เห็นต้องโง่ ให้ใครบางคนมาสอนให้ปล่อยหรอกนะ”

     

    แดฮยอนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วหันไปจับข้อมือเพื่อนของตัวเองที่ต้องยืนนิ่งค้างอย่างงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขา
    เองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อหน้ายองแจบ่อยนักหรอก ถึงแม้ว่าจะสามารถเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ
    ตรงเป๊ะเหมือนในครั้งนี้ก็ตามทีเถอะ

     

    ถึงจะเลวแค่ไหนแดฮยอนก็ยังไม่กล้าทำร้ายยูยองแจคนที่รักเขามากกว่าเพื่อนอยู่ดี

     

     

     

     

    คิดว่าโผล่หน้ามาให้ผมเห็นแล้วจะหายไปง่ายๆหรือไง?


    แล้วนายเคยคิดบ้างไหมกว่าฉันจะโผล่มาให้เห็นนายได้ฉันต้องพยายามมากแค่ไหน?

     

     

    สำคัญตัวเองมากไปหน่อยมั้ง?


    ฉันเองก็ไม่คงทะนงตัวขนาดนั้นถ้านายไม่ให้ท้ายใช่มั้ยล่ะ?

     

     

    คิดว่าพี่จะมีค่าพอให้ผมตามรังควาญหรอ ฝันไปเถอะ!


    แล้วนายคิดว่าฉันมีค่ามากแค่ไหนสำหรับนายกันล่ะ ถึงได้ลดตัวลงมาพูดจากับฉันแบบนี้?

     

     

    เลิกทำตัวแบบนี้สักที ผมล่ะขยะแขยงคนพรรค์นี้แบบพี่จะบ้า!!


    แล้วนายเคยรู้บ้างไหม ว่าฉันเองก็ขยะแขยงคนพรรค์ฉันไม่มากไม่น้อยไปกว่านายเลย จุนฮงอา....

     

     

     

     

     

    สุดท้ายเขาก็สามารถเดาการดำเนินของมันได้อย่างแม่นยำ...


    จุนฮงไม่เคยโตพอ และคงจะยังไม่โตพอต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรับรู้ความจริง

     

     

     

     

     

    “นายรู้จักกับจุนฮงมาก่อนงั้นหรอ?”

     

    คำถามสั้นๆง่ายของยองแจที่ดูเหมือนจะค้างคาใจชายหนุ่มมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ขนาดเคยคบกันมา จนยองแจขึ้นชื่อว่าสนิทกับ
    แดฮยอนมากในระดับนึง  ก็ยังไม่เคยเจอแดฮยอนในลักษณะกริยาแบบนั้น คำพูดแบบนั้น

     

     แล้วไหนจะยังสายตาแบบนั้นที่ใช้มองจุนฮงอีก

     

     

     

     

     

     

     

    “ก็แค่คนที่เคยรู้จัก”

     

     ถ้ายูยองแจเลือกที่จะโกหกแดฮยอนมามากมายเพื่อให้แดฮยอนสบายใจแล้วนั้น เขาเองก็เลือกที่จะโกหกยูยองแจเพื่อให้อีก
    ฝ่ายสบายใจและจะได้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความลับบ้าๆนี่อีก

     

     ขอให้ความลับนี้ตายไปกับเขาก็พอ ทรมานแค่เขาก็พอ อึดอัดแค่เขาก็พอ รังเกียจจองแดฮยอนแค่เขาก็พอ


    ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากความลับนั้น ให้มันมีผลกับเขาแค่คนเดียวก็เกินพอ ...

     

     

     

     

     

    ความลับก็คือความลับ นายคงไม่มีวันรับรู้หรอกใช่ไหม?

     

     

     

     

     

      

    T B C

    ------------------------------------------

     

    ฟังเหมือนปมมันเยอะ แต่แค่ให้จองแดสมรศรีเปิดเผยปมเรื่องก็จบแล้วค่ะ  LOL
    #บ้าจริงนั่นก็จบเลยสิ่
    คริคริ ..  แต่ตอนเปิดดันไปพูดเรื่องเอกลักษณ์ ทั้งๆที่ไม่ได้เน้นแท้ๆ โถ่
    ข้าน้อยผิดไปแล้ว ;_;) /ยื่นคอให้สับ/ 

     
    △ C R A Z E  ˊ    
        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×