ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( B.A.P) Memories . | SF&OS

    ลำดับตอนที่ #2 : 2nd Wind : (Lodae) (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 56





    Wind(sequel of Camera)

    Pairing : junhong/daehyun (Lodae)

    Rated : pg 13

    Note : ใครขอภาคต่อ สารภาพมาให้หมดเลยนะ 555555555555555+ มันคนละฟีลกับคาเมร่าจนสงสัยว่านี่คนแต่งคนเดียวกันหรือเปล่า... มีคำหยาบประปรายจ้า♥









     

      จุนฮงมองภาพดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ดวงอาทิตย์กลมโตส่องแสงสีทองอมส้มนวลไปทั่วทุกแห่ง ลมทะเลที่ถูกพัดมาจาก
    ริมฝั่ง ทำให้ได้รับกลิ่นไอของทะเลมากยิ่งขึ้น อากาศเริ่มหนาวลงจากเมื่อชั่วโมงที่แล้วบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่
    อบอุ่นพอให้รู้สึกเย็นสบาย ให้ตัวเขาได้รู้สึกสัมผัสบรรยากาศของการที่ได้ขึ้นชื่อว่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ท้องฟ้าเริ่มจะมืด
    ลงบ้างแล้วก็ตาม แต่จุนฮงก็ยังนั่งมองดวงอาทิตย์จากระเบียงห้องตรงนี้ รอเวลาให้แสงสีส้มนวลนั้นหายไปจนหมด เหลือ
    เพียงท้องฟ้าสีดำ แสงจากดาวดวงเล็กๆ แสงสีนวลจากดวงจันทร์ และแสงไฟจากสถานที่ต่างๆสอดส่องผ่านลงมา 

     

     ปูซาน

     เมืองท่าที่สำคัญอันดับหนึ่งแห่งเกาหลี สถานที่ที่จุนฮงตัดสินใจเลือกที่จะถ่ายทำมิวสิควีดีโอส่งอาจารย์เพื่อเป็นงานชิ้น
    สุดท้ายก่อนเรียนจบ ถึงแม้ในรายชื่อให้เลือกสถานที่นั้นจะมีมากมาย สุดท้ายความเห็นส่วนใหญ่ของคนในกลุ่มก็ตกลงปลงใจ
    จะเลือกถ่ายทำกันที่ปูซาน สาเหตุหลักๆก็เพราะเมื่อถ่ายทำเอ็มวีจบแล้ว สามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ที่เหลือในการท่องเที่ยว
    สถานที่ต่างๆมากมายในเมืองท่าแห่งนี้

     จุนฮงเองก็เลือกจะไปปูซานเหมือนกัน คงเป็นเพราะว่าเขาไมได้ไปทะเลมานานพอสมควร อยากจะหาที่ผ่อนคลายอารมณ์
    หลังจากสะสมมาเกือบสีปี่บ้าง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่จุนฮงไม่สามารถปฏิเสธใจตัวเองได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่เขาอยากมา
    เยือนที่นี่ ..บ้านเกิดของใครบางคน

     

    จอง แดฮยอน

    สบายดีหรือเปล่านะ?

     


     ตอนนี้การถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพื่อส่งอาจารย์นั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวอีกห้าวัน
    ก่อนจะต้องกลับไปเตรียมตัวสอบปลายภาคที่จะถึง ป่านนี้เพื่อนๆบางคนคงเลือกที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านของตัวเองตาม
    ประสาวัยรุ่นขี้เกียจ ส่วนบางส่วนก็เลือกที่จะใช้เวลาวันหยุดอันแสนคุ้มค่ากับที่ปูซานแห่งนี้ต่อไป จุนฮงเองที่ต้องเดินทางแยก
    กันมากับเพื่อนๆเพราะมีแก็งค์เกรียนๆอาสาจะมาส่งอย่างพี่ยงกุกก็เลยเลือกที่จะพักผ่อนต่อ สาเหตุแรกคือยงกุกเป็นคนอาสา
    มาขับรถเพื่อที่จะได้เที่ยวต่างจังหวัดไปในตัวกับเพื่อนๆอย่างพี่ฮิมชาน จงออบ และยองแจ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็คือจุนฮงยัง
    อยากจะลองตามหาใครคนหนึ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว รู้แค่เพียงว่าอีกฝ่ายยังมีตัวตนและยืนอยู่บน
    ผืนแผ่นดินแผ่นเดียวกัน

     

     

    “อยากเป็นไข้เลือดออกนัก มึงก็ไปนั่งอยู่ในฟาร์มเลี้ยงยุงซะเซ่”

     

    สึด เสียบรรยากาศหมด

     จุนฮงหันกลับไปมองเพื่อนสนิทตัวเองที่กำลังเดินหยิบนู่นหยิบนี่ทั่วห้องของเขา เอ่อ..จะพูดว่าห้องของเขาก็ไม่ถูกสิ ที่นี่เป็น
    บ้านพักตากอากาศที่มาเช่ากันอยู่เฉยๆ ส่วนเขากับเจ้าจงออบก็เป็นรูมเมทกัน งั้นเรียกว่าข้าวของของเขาคงจะดีกว่า

    “เป็นห่วงกูหรือไง”

    จงออบที่หาของที่ต้องการจะหาตั้งแต่แรกได้ก็เดินมาชี้หน้าคาดโทษเพื่อนรักพร้อมส่งทิ้งประโยคสุดท้ายที่ทำเอาชเวจุนฮง
    รู้สึกอบอุ่นซาบซ่านไปทั่วหัวใจ

    “เปล่า กูกลัวตอนกูนอนแล้วยุงจะกัดกูตาย”




    ดี ขอให้คืนนี้ยุงมาสร้างรังไว้ที่หัวนอนมึง...

     

     ข่าวดีของเช้าวันนี้คือพี่ยงกุกอนุญาตให้ทุกคนเดินทางเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวได้ตามใจชอบ เรียกง่ายๆก็คือปล่อยตาม
    ยถากรรม ใครคิดจะอยากไปไหนก็ไปถ้ามีปัญหาเดินไป หรือใครจะเสียเงินจ้างแท็กซี่ก็เชิญ ส่วนจุนฮงที่ไม่มีที่จะไปเหมือน
    ใครคนอื่นเขา ก็เลยลงเอยวันทั้งวันของวันนี้ด้วยการเดินเลียบริมฝั่งชายหาดไปเรื่อยๆ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็พัก ไม่ได้คิดจะ
    วางแผนไปไหนมาไหนอยู่แล้วแค่ต้องการความสงบร่มรื่น

     

     จุนฮง

     เสียงแผ่วเบาที่ราวเหมือนกับกระซิบพัดผ่านมาพร้อมกับลมทะเลทำเอาจุนฮงรู้สึกโหวงๆตรงช่วงท้องแปลกๆ ถ้าเขาไม่ได้หู
    ฝาดหรือหูแว่วไปเองเสียงที่ได้ยินเมื่อกี๊เหมือนเสียงของพี่แดฮยอน..เสียงนั้นแผ่วเบาเหมือนกับสายลม

     

    พะพะพี่แดฮยอน!!?

     

     จุนฮงรีบหันขวับมองซ้ายมองขวาสังเกตสิ่งรอบตัวทันทีเมื่อคิดอย่างนั้นจบ เขาสังเกตแม้กระทั่งผู้หญิงเสื้อสีแดงกางเกงดำ
    กำลังกินแฮมเบอร์เกอร์ ผู้ชายใส่แว่นกำลังนั่งกดโทรศัพท์ นกที่กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า และน้องหมาที่กำลังแทะเท้าเขาอยู่
    อย่างเมามันส์ น้องหมา? .. หมาใครว่ะ
    ?

     

     เขาเลยรีบหนีบคอเจ้าหมาน้อยที่ตอนนี้ดูทำท่ากำลังแผลงฤทธิ์ใช้อุ้งเท้าน้อยๆนั่นพร้อมกับเล็กยาวๆแหลมคมขวนแขนเขาไป
    มา จริงๆแล้วจุนฮงเองก็เกือบจะคิดว่ามันเป็นหมาธรรมดานะ นี่สงสัยคงเป็นหมาสายพันธุ์แมว นิสัยไม่ได้ต่างอะไรกับแมวที่
    เขาเคยเลี้ยงเมื่อตอนเด็กเลยจริงๆ

     

     “จุนฮง!!”

     

     ทีนี้ไม่ใช่เพียงแค่เสียงกระซิบที่พัดผ่านมากับสายลม แต่ชเวจุนฮงคนนี้สามารถสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นในน้ำเสียงสิบแปด
    หลอดนั่น แถมคราวนี้..มันเหมือนจะเป็นเสียงของพี่แดฮยอนตัวจริงเสียงจริงเสียด้วย

     

     แล้วพี่แดฮยอนก็ยืนอยู่ตรงนั้น... กำลังเดินมาทางเขา หรือบางทีชเวจุนฮงอาจจะฝันไปเองจริงๆก็ได้ พี่แดฮยอนอาจจะไม่มี
    ตัวตน สิ่งที่เขาเห็นอาจจะเป็นเพียงจินตนาการที่สร้างขึ้นโดยสายลม

     

     “ไอ่หมาเวรจุนฮง!”

    เฮือก..

     จุนฮงตกใจเหมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะ เขารีบปล่อยเจ้าน้องหมาในมือลงพื้นอย่างลืมไปว่ามันไม่ใช่ความสูงเล่นๆเลย คนที่
    กำลังเดินมาทางเขาจึงรีบเอามือไปรองรับเจ้าน้องหมาที่เกือบกลายเป็นเพียงซากศพอันน่าสงสารจากการกระทำโดยไร้สติ
    แต่เมื่อกี๊อะไรกันนะ ไอ่หมาเวรจุนฮงนั่นหน่ะ

     

    “บอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับคนอื่น! เดี๋ยวก็ปล่อยให้หิวข้าวตายแม่ง”

     จองแดฮยอนที่ดูสูงขึ้นนิดหน่อยเพียงเซ็นต์นึงและผิวที่ดูคล้ำขึ้นกำลังใช้มือคู่นั้นที่จุนฮงจำได้ดีว่าเคยหลอกจับไปแล้วกี่ครั้ง
    กระหน่ำตีเบาๆไปที่เจ้าหมาน้อยขนสีน้ำตาลปุกปุยที่ดูอุดมสมบูรณ์ ส่วนเจ้าหมาตัวแสบก็ได้แต่ร้องแหง่วๆประสาหมาแรก
    เกิดไม่กี่เดือน แต่จุนฮงไม่สนหรอกว่าหมาตัวนั้นจะเกิดมากี่วันกี่เดือนกี่ปีกี่โมง .. ตอนนี้พี่แดฮยอนยืนอยู่ข้างหน้าเขาตรงนี้
    ในที่ที่เขาสามารถเอื้อมมือไปสัมผัสได้ .. พี่แดฮยอน

     

    “ป่ะจุนฮง ไปกินข้าวกัน”

     จุนฮงที่เห็นคนที่เขาตามหามาเป็นเวลาสี่ปีกำลังจะเดินจับไปไม่ทันได้ไตร่ตรองคิดอะไร มือข้างซ้ายก็รีบคว้าหมับเข้าให้ที่ต้น
    แขนของอีกฝ่าย ชิท...เดจาวูโคตรๆ พี่แดฮยอนที่ดูคล้ำกว่าเดิมไปนิดหน่อยตวัดหางตามามองหน้าเขา ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือน
    เหตุการณ์วันแรกที่เราได้เจอกันไม่มีผิด แตกต่างตรงที่ว่าคราวนี้เราไม่มีประตูหน้าต่างและผนังข้างห้องเป็นแบคกราวน์ เขา
    ไม่มีไอ่เจ้าจงออบมาขัดขวาง และเขากับพี่แดฮยอนก็ไมได้เจอกันครั้งแรกด้วย..

     

    “พะ...พี่แดฮยอน”

     

    “....”

     

    “....”

     

    “อะไรของนายน่ะ?”

     น้ำเสียงแหลมที่แปลกกว่าผู้ชายทั่วไปทำเอาใจของจุนฮงกระตุกวูบ เขาไม่ได้ยินเสียงนี้มาจะสี่ปีอยู่แล้วตั้งแต่วันที่พี่แดฮยอน
    กลับมาปูซาน ยอมรับเลยว่าเขาคิดถึงเสียงนี้มากขนาดไหนแต่เขาคิดถึงเจ้าของเสียงมากกว่าหลายเท่า

     

    “ก็..ก็พี่ชวนผมไปกินข้าว”

     จุนฮงเอ่ยอย่างตะกุกตะกักเพราะเขารู้สึกได้ถึงความประหม่า เขาเองก็แทบไม่ได้คุยกับพี่แดฮยอนมาตั้งหลายปี แถมครั้ง
    สุดท้ายที่ได้คุยกันเขาก็เป็นฝ่ายพูดคนเดียวอีก ยิ่งเป็นคำพูดคำสุดท้ายที่เขาให้ก่อนที่เราจะไมได้เจอกันนั่นอีก แค่คิด..จุน
    ฮงก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าหนีไปไหนจะแย่

     

    “เห? กินข้าว? เมื่อไหร่?”

     ดวงตากลมโตนั่นโพลงขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ พี่แดฮยอนเวลาอยู่ที่นี่ดูท่าทางจะแตกต่างกับเวลาอยู่ที่โซลอย่างเห็นได้ชัด
    ทั้งน้ำเสียง ทั้งกริยาท่าทางก็ดูเป็นตัวเองมากขึ้น ทั้งภาษาที่ใช้ สีผิวที่คล้ำลงแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเห็นได้เด่นชัด แต่ความสดใสในแววตาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนี่สิ.

     

    “ก็เมื่อกี๊พี่พูดว่าป่ะจุนฮง ไปกินข้าวกันไม่ใช่หรอ?”

     จู่ๆเจ้าหมาน้อยในมือของพี่แดฮญอนก็รีบผงกหัวหยกๆแล้วส่งเสียงเห่าเบาๆส่งลิ้นเล็กๆออกมาทักทายคุณอากาศเล่นซะ
    อย่างนั้น ส่วนฝ่ายเจ้าของน้องหมาที่เพิ่งรู้เรื่องก็ยืนหัวเราะไปกลั้นหัวเราะไป .. อย่าบอกนะว่า

     

    “เจ้าหมานี้มันชื่อจุนฮงว่ะ ขอโทษทีนะ ชเว จุนฮง

     จุนฮงรู้สึกหน้าชานิดๆกับประโยคเมื่อกี๊ ถ้าสมมติว่าเขาไมได้คิดมากไปเองจริงๆ..เขาเองก็คงได้ยินเสียงเน้นย้ำหนักๆราวกับ
    จงใจแกล้งของแดฮยอนว่าชเวจุนฮงกับจุนฮงหมาน้อยหน่ะไม่เหมือนกันนะ

     

    “งั้นผมไปบ้านพี่ด้วยเหมือนกัน เจ้าหมานี่ทำผมเลือดออก”

     พูดเสร็จก็ยื่นแขนอีกข้างให้คนอายุมากกว่าดู เลือดสีแดงสดไหลซิบๆออกมาตามบาดแผลแนวทางประมาณหนึ่งนิ้ว จริงๆ
    เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับแผลแค่นี้หรอก แต่ถ้ามีโอกาสมาแล้วการจะปล่อยให้ผ่านเลยไปคงยากน่าดู

     

    “เออ มาก็มา อย่าหลงทางล่ะกัน ขี้เกียจเลี้ยงหมาสองตัว”

     แดฮยอนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง จุนฮงที่ดูเหมือนเพิ่งได้ของเล่นใหม่ก็รีบวิ่งแจ้นตามไปทันที

     

    หวังว่าเขากำลังไม่ได้ฝันไปนะ หรือจริงๆแล้วพี่แดฮยอนเองก็ไม่ได้มีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก?

     

     

     “แดฮยอนพาใครมาหน่ะ?”

     เสียงทักที่ดังมาจากในบ้านทำเอาจุนฮงสะดุ้ง ลมเย็นๆที่พัดผ่านตัวทำเอารู้สึกขนลุกแบบแปลกๆ จริงๆแล้วนี่ก็เพิ่งจะหกโมง
    เย็นกว่าๆ บรรยากาศกลับมืดมิดน่ากลัว มีเพียงแสงไฟสลัวๆกับพี่แดฮยอนที่ยืนนำหน้าเขาอยู่เท่านั้น สิ่งของแวดล้อมรอบข้าง
    แลดูน่ากลัวกว่าที่เคยเป็น ผู้คนที่จุนฮงคิดว่าน่าจะจ้อกแจ้กจอแจกลับหายเงียบ มีเพียงเสียงจักจั่นเรไรร้องระหึ่ม ถ้าเขาไมได้
    ฝันก็คงอาจจะกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกองถ่ายหนังผี ... ชิบหายแล้วไง

     

    “พาหมามาทำแผลอ่ะแม่”

     พี่แดฮยอนตะโกนกลับก่อนจะผลักประตูรั้วไม้นั่นส่งเสียงดังเอี้ยดอาดทำเอาจุนฮงขยลุกซู่.. นี่ถามจริงมองเห็นกันหรือไงบ้าน
    ช่องถึงไม่เปิดไฟกันเนี่ย พอจุนฮงจะก้าวเท้าเข้าเขตรั้วบ้านเท่านั้น แรงลมที่พัดมาอย่างแรงทำเอาใบไม้ต้นไม้เสียดสีกัน
    จิ้งหรีดเรไรยิ่งส่งเสียงร้องกระหึ่ม ซาวน์ดครบแบคกราวน์ครบขนาดนี้ชเวจุนฮงถ่ายหนังผีได้เลยนะ

     

    “เข้ามาสิ หรืออยากเป็นโรคไข้เลือดออก?”

     จุนฮงที่มัวแต่สนใจแต่บรรยากาศรอบข้างต้องค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาในอาณาเขตบ้านอย่างกล้าๆกลัวๆ แขนทั้งสองข้างถูกยก
    ขึ้นมาลูบกันและกันโดยไม่ตั้งใจ บรรยากาศบ้านของพี่แดฮยอนช่างดูมืดมิด เสียงเมื่อยามที่เท้าเขากระทบกับพื้นไม้เอี้ยด
    อ้าดก็ขนลุกซู่อีกครั้ง ข้างในบ้านมืดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงของอะไรสักนิด จุนฮงที่หันซ้ายหันขวาช้าๆเพื่อพยายามกวาด
    สายตาเก็บรายละเอียดการใช้ชีวิตของพี่แดฮยอนให้มากที่สุด แต่แล้วหัวใจของเขาก็ต้องตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อพบกับ
    ดวงตาสีขาวโพลนเกลือกกลอกไปมาตรงกลางบ้าน
    !!!!

     

     

     

     

    ไอ่ชิบหาย!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    “แม่!  ทำไมไม่เปิดไฟ!”

     

    พรึ่บ!!

     

     ฉับพลัน แสงสว่างก็กระจายไปทั่วทั้งบ้าน หัวใจที่ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มของจุนฮงก็ย้อนกลับมาที่ตำแหน่งเดิมมทำเอาแทบ
    หายใจไม่ทัน ดวงตาที่เห็นในความมืดมิดนั้นคือดวงตาของผู้หญิงสูงอายุท่านหนึ่งที่นั่งรออยู่โต๊ะทานข้าวกลางบ้าน ป้า แก่
    แล้วเล่นอะไรไม่รู้เรื่องว่ะ

     

    แต่เดี๋ยว นั่นแม่พี่แดฮยอน...จุนฮงจะไม่ว่า จุนฮงจะไม่นินทา จุนฮงจะเป็นลูกเขยที่ดีครับ

     

     

     ถือว่าเป็นโชคดีของชเวจุนฮงที่ได้มานั่งทานข้าวเย็นกับว่าที่ครอบครัวในอนาคตถึงขั้นนี้ เท่าที่รู้มาคร่าวๆว่าครอบครัวของพี่
    แดฮยอนยังอยู่ดีครบทุกคน แค่พ่อของพี่แดฮยอนไปอยู่ดูแลบ้านพักกับพี่ชายและลูกสะใภ้ ส่วนพี่แดฮยอนก็ได้แต่วาดภาพ
    ถ่ายรูป โปรโมทบ้านพักตากอากาศผ่านทางอินเตอร์เน็ตอยู่ที่บ้านหลังนี้กับคุณมารดาอันเป็นที่รัก

     

    นี่แหละครับครอบครัวในฝันที่จุนฮงใฝ่หา

     

     

     

     

     

    “ยิ้มไร กินเยอะไปและแกอ่ะ”

     จุนฮงที่เอาแต่ยิ้มแฉ่งมองภาพในอนาคตของตัวเองวนลอยไปมาก็มีความสุข ต้องแทบสำลักข่าวเมื่อจู่ๆช้อนที่เคยเป็นของ
    แดฮยอนและมีข้าวกับแกงเผ็ดในนั้นเต็มๆถูกยัดเข้าปากโดยไม่ทันตั้งใจ

     

    “แค่กๆ แค่กๆ เล่นอะไรเนี่ยพี่ ผม แค่กๆ กินเผ็ดไม่ได้นะ แค่กๆ”

     ทั้งจะร้องไห้ทั้งสำลักข้าวทั้งเผ็ดทำเอาคนแกล้งแทบกุมท้องกลั้นหัวเราะไว้ไม่ทัน คนเป็นแม่ก็รีบยกแก้วน้ำใกล้ๆกันส่งพลาง
    ลูบหลังให้จุนฮงไปที

     

    “แกล้งอะไรน้อง นิสัยไม่ดีเลยนะเรา”

     คนเป็นแม่เอ็ดลูกชายหัวแสบของตนเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเก็บจานข้าวที่กินกันเสร็จเรียบร้อยเพื่อนำไปล้าง พอแดฮยอนอาสา
    จะช่วยทำความสะอาดก็โดนไล่มาทำแผลให้เจ้าเด็กแสบที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งเกือบสี่ปี แดฮยอนยอมรับว่ารู้สึกตกใจอย่าง
    มากที่ได้เห็นหน้าเจ้าเด็กนี่ใกล้ๆ เจ้าเด็กโย่งที่แต่ก่อนก็ต้องยอมรับว่าสูงมากพอสมควร พอโตขึ้นแล้วความสูงก็เพิ่มขึ้นอีก
    อย่างเห็นได้ชัด เนื้อตัวดูเปล่งปลั่งมีออร่าจนแดฮยอนแทบจะเทียบไม่ติด แต่แดฮยอนก็ต้องยอมรับล่ะนะว่าสิ่งเดียวที่ไม่เคย
    เปลี่ยนไป คือแววตาขี้เล่นอันสุกใสนั่น

     

    “นั่งนิ่งๆจะเช็ดแผลให้”

     แดฮยอนที่จัดแจงให้อีกฝ่ายนั่งท่าที่สามารถทำแผลได้สบายๆแล้วก็ยกมือข้างที่ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ลหมายว่าจะลงไปป้าย
    ทำความสะอาดความสกปรกที่เกาะติดอยู่ตามซอกเล็บของเจ้าจุนฮงไม่ให้แผลของชเวจุนฮงต้องติดเชื้อ ก็ต้องชะงักกลางคัน
    เมื่อจู่ๆเสียงดังแหลมหูที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

     

     

     

     

     

     

    “น้าแดฮยอน!!!!!!!! ทรัมซี่อยากได้แฟน!!!!!!!!!!!!”

    ไอ่เด็กแฮ่ด*..

     

     

     

     

    แดฮยอนจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะหันไปมองหลานสาวคนเป็นลูกของพี่ชายตัวดีที่ฝากเขาเลี้ยงเอาไว้ยามที่เจ้าตัวต้องรับแขก
    วิ่งดุกดิกส่งเสียงลั่นบ้านไปทั่ว ประเด็นไมได้อยู่ที่เสียงของเจ้าเด็กนี่แสบหูมากแค่ไหน หรือเสียงที่เจ้าเด็กแสบนี่จะดังลั่นบ้าน
    มากสักเท่าไหร่ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ทิศทางการวิ่งของเด็กแฮ่ดนี่ตรงไปที่ ชเวจุนฮง

     

     สูงยังไม่ถึงเอวเขาริอาจจะมาเป็นแฟน ขอถรุ้ย ลูกใครหลานใครเดี๋ยวพ่อจับเตะ

     

     

     แดฮยอนรีบคีบแขนของเจ้าเด็กอยากสวยก่อนวัยให้อยู่ห่างๆไอ่เด็กยักษ์นี่ จริงๆไม่ได้มีเหตุผลอะไรนักหรอกก็แค่กลัวเจ้าเด็ก
    นี่ล้มทับเจ้าทรัมซี่แล้วจะหายใจไม่ออก เขาเองก็ยังไม่อยากให้หลานแฮ่ดๆนี่ตายไปเหมือนกัน เดี๋ยวเหงาตายอีกอย่างเขาอาจ
    จะโดนทั้งครอบครัวรุมประชาทัณฑ์ฆ่าได้ โทษฐานไม่ดูแลหลานสาวในไส้ตัวเองให้ดีๆ

    แต่ดูเหมือนจุนฮงมันจะไม่คิดอย่างนั้นนะ

     

     

    “หึงผมหรอ?”

     คำถามที่ถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ้มทำเอาแดฮยอนรู้สึกอยากจะเทขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลราดแผลนั่นให้รู้แล้วรู้รอด ไม่
    แน่อาจจะสาดยาแดงซ้ำกลับ หรือไม่ก็ปล่อยให้บาดทะยักแดกตายแม่ง บาดทะยักจากหมาที่ชื่อจุนฮงไงเก๋ดี ติดเชื้อ
    บาดทะยักจากหมาชื่อเดียวกันหน่ะ

     

    “กลับบ้านแกไปเลยไป่”

     พูดเสร็จแล้วก็วางชุดอุปกรณ์รักษาแผลไว้ข้างๆนั่นแหละ พลางดันตัวของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะดันให้เดินไปตรง
    ประตูหน้าบ้าน กวนประสาทนักก็ปล่อยให้เป็นแผลแม่ง

     

    “แหน่ะไม่ตอบ แสดงว่าหึงผมหล่ะสิ อีกอย่างรู้นะว่าคิดถึง ตั้งชื่อลูกหมาเหมือนผมด้วย”

    แดฮยอนยิ้มเหยาะให้กับความคิดเด็กๆของเด็กที่ไม่ยอมโต เขาเขกหัวอีกฝ่ายไปแรงๆก่อนจะแอบต่อยท้องเบาๆไปทีนึง

     

    “ทรัมซี่ตั้งชื่อตั้งหาก ยัยเด็กนั่นอยากได้แฟนชื่อจุนฮงอ่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

    ไอ่เชร็ค...

     

     นินทาเรื่องผู้ชายหน่อยไม่ได้เลย เจ้าตัวพร้อมสายตาวิ้งค์ๆตามประสาเด็กผู้สดใสต่อโลกก็โผล่มาเกาะหนึบเข้าที่ขาของชเว
    จุนฮง ดุท่างเจ้านั่นคงตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งเรื่องเหตุผลของการตั้งชื่อเจ้าลูกหมาที่เก็บมาเลี้ยงตัวนั้น กับทั้งการปรากฏ
    ตัวกะทันหันของเจ้าเด็กทรัมซี่

     

     

    คิดหรอว่ายัยทรัมซี่จะอ่อนต่อโลก หึ.. ไม่หรอก ยัยนี่สมองปาเข้าไปสามสิบแล้วล่ะ

     

    “น้าแดฮยอน!! ทำไมไม่บอกว่ามีรุ่นน้องหล่อแบบนี้อ่ะ!!! ทรัมซี่จะเป็นแฟน!!! พี่ชายชื่ออะไรคะ?”

     พูดตะโกนใส่หน้าน้าชายตัวเองปาวๆ เสร็จแล้วก็หันไปเอาหน้าไถกับขาของเจ้าเด็กยักษ์นั่น จริงๆแล้วแดฮยอนก็อยากจะคีบ
    คอเจ้าเด็กนี่ออกมาอยู่หรอกนะ พอเห็นปฏิกิริยาของชเวจุนฮงแล้วก็..ปล่อยไว้แบบนี้แหละ

     

    “พี่ช่วยผมหน่อย....เอ่อ พี่ชื่อชเวจุนฮงจ้ะ”

     พูดเสร็จแล้วก็พยายามแกะแขนปลาหมึกนั่นออกอย่างเก้ๆกังๆ คงเพราะความสูงที่ห่างกันมาก และขนาดตัวเจ้าเด็กยักษ์
    ชเวจุนฮงคงไม่กล้าจะทำแรงๆเพราะกลัวเจ้าเด็กแฮ่ดนั่นเป็นอะไรไปสะก่อน ฝ่ายแดฮยอนที่ดูเหมือนจะชอบใจก็ยืนกอดอก
    เอียงพิงขอบประตูหน้าบ้านมองฉากตรงหน้าอย่างนึกสนุก

     

    “กรี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ชื่อเหมือนแฟนในฝันหนูเลยค่ะ!!! พี่ค่ะเป็นแฟนกับหนูเถอะ”

     กรีดร้องให้พอหนำใจแล้วก็ทำท่าจะกระโดดกอดจุนฮงที่ส่วนสูงของตัวเองยังอยู่ไม่ถึงเอวของเขา หนอย ไอ่เด็กแก่แดดนี่ เอา
    จุนฮงที่เป็นลูกหมาไปเป็นแฟนก่อนมั้ยหะ?

     

    “ไม่ได้หรอกนะ เอ่อคือ..”

     

    “ทำไมล่ะค่ะ ทรัมซี่ไม่สวยหรอ?”

     พูดไปก็ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาอยู่ในนั้นไปให้เล่นเอาจุนองกลืนน้ำลายดังอึ้ก นิสัยแบบนี้แหละน้า .. แดฮยอนก็มัวแต่
    หัวเราะจนไม่สนใจอีกคนว่าจะตกที่นั่งตระกำลำบากมากแค่ไหน

     

    ไม่สน ช่วงนี้แดฮยอนสะใจว่ะ โฮะๆ

     

     

    “เอ่อคือ...”

     

    “เป็นแค่แฟนกับทรัมซี่วันเดียวก็ไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ?”

    พูดไปน้ำตาก็จะไหลไป ราวกับแสดงละครหลังข่าว นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้ากับหลานนะ ได้มีตบกะโหลกกันไปข้าง..

     

    “ก็ได้ครับ พี่เป็นแฟนกับทรัมซี่วันนึงก็ได้”

     

    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จริงหรอคะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     เจ้าเด็กน้อยที่สมองเป็นใหญ่พอได้ยินคำตอบที่ถูกใจก็รีบกระหน่ำจูบที่ขาของจุนฮงก่อนจะโดนลากตัวไปอีกทางโดยฝีมือของ
    คนเป็นมารดาของแดฮยอน ท่าทางจะดีใจมากจนไม่ได้ยินคำที่พูดว่าวันนึงเลยล่ะมั้งนั่น

     

    “อย่าลืมล่ะตั้งวันนึงแหน่ะ กลับบ้านไปได้แล้วแกหน่ะ”

     ชี้หน้าคาดโทษอีกฝ่ายพลางดันตัวอีกคนออกเมื่อเห็นว่าทำท่าทางจะเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง จุนฮงก็ได้แต่เดินหันหลัง
    กลับคอตกเดินเตะหินเตะทรายข้างทางไปเรื่อย พอครั้นจะหันไปปิดประตูรั้วบ้านของพี่แดฮยอน โลกทั้งใบที่ดูมืดมนก็พลัน
    สว่างใสทันที

     

     

    “จะให้ไปส่งเป็นของขวัญปลอบใจป่ะล่ะ?”

     

     

     

    มาขนาดนี้คิดว่าชเวจุนฮงจะปฏิเสธหรือยังไงกันครับ?

     

     

     

     

     

    สายลมที่พัดผ่านตัวเราตลอดเวลาแค่เราไม่สังเกตเห็นมัน

    จะว่าไปชเวจุนฮงก็ไมได้โกหก จองแดฮยอน อยู่ข้างๆจุนฮงตลอดเวลา

    แค่จุนฮงอาจจะมองไม่เห็นจากที่ไกลๆ

    “ก็พี่แดฮยอนเป็นสายลมของผมนิ





     E N D (สักทีเถ่อะ me/กราบ)




    จบแล้ว เย่.. นี่แต่งกดดันตัวเองเพราะคำขอที่ว่าค้างเลยนะแง ;A;
    ใครเขย่าคอเราหัวหลุด เราอุตส่าห์ให้จบแฮปปี้ๆแล้วนะ คริ
    เอาเป็นว่า จินตนาการต่อกันเองดีมั้ย ..... เราบอกแล้วว่าตอนนี้มันคนละฟีลและไม่มีอะไรเลย 
    5555555555555555555555555555555555+
    #ถ้าให้เราแต่งต่อมันคงเป็นฟิคยาวไม่ใช่ฟิคสั้นแล้วล่ะแงงงงง 
    สุดท้าย ขอบคุณทุกคำขอที่ให้แต่งต่อนะคะ♥ เพราะทุกคนเลยมีตอนี้ขึ้นมาค่ะ 

    เด็กแฮ่ดคือ .. เด็กแร_นั่นเอง .. 
    /ลืมคอนทราสต์กันไปแล้วล่ะสิ้ ชิ
    สายลมเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ฟ่ะ ...

    ปล. พี่ฝอยสวยใสไร้ไอดีคงไม่กล้าแบนเจ้าของฟิคหรอกค่ะใช่มั้ยคะ *-* 
    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×