ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Winner iKON BIGBANG] SF All x Jinwoo

    ลำดับตอนที่ #12 : >> Paradise Part 3 (One x Jinwoo)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 58


    CR.SQW



    Paring : One (Jaewon) x Jinwoo

    Warning

    III


    PARADISE

    -------------------------------------------------------------------------------










              สายตาตาล่อกแล่กที่กวาดมองไปรอบๆ ความวุ่นวายจากผู้คน เสียงดนตรีจังหวะหนัก เสียงพูดคุย กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งควันบุหรี่ ทำให้เจ้าของสายตาไม่นิ่งนั้นจมอยู่กับความคิดของตัวเอง โดยที่ไม่รู้ว่าใครอีกคนกำลังจับสังเกตพฤติกรรมอยู่ข้างๆ


              “แล้วจะเอายังไงดีวะ ไอ้ห่าอูซองก็ตายไปแล้ว แล้วแม่งก็เสือกทิ้งเรื่องใหญ่เอาไว้อีก ใครฆ่าแม่งก็ไม่รู้อีก ชีวิตมันอะไรจะเฮงซวยขนาดนั้น” หนึ่งในกลุ่มเหล้าตรงหน้าพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่เบาสักเท่าไหร่ เพราะต้องแข่งกับเสียงเพลง แต่ถึงแม้บทสนทนาที่กำลังถูกเปิดใหม่จะเป็นเรื่องแย่ๆ แต่ก็ไม่มีใครจะหวาดกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน


              ในเมื่อสถานที่แห่งนี้มันก็มีแต่คนแบบพวกเขาไงล่ะ


              “มันทิ้งยาไว้ให้ใครวะ อย่าให้กูรู้นะ กูเป่าทิ้งแน่ แล้วมึงล่ะไอ้วัน ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเหรอ” ดูเหมือนว่าคำถามนั้นจะเรียกความสนใจของคนสองคนให้หันไปมองได้


              คนหนึ่งที่เป็นคนถูกถาม
              อีกคนหนึ่งก็ขึ้นชื่อว่าคนรักของคนถูกถาม


              “ไม่รู้” แจวอนตอนส่งๆ ไปพลางยกมือขึ้นสูบบุหรี่ที่คีบไว้นานแล้ว ดวงตาก็มองกลับไปยังคนนั่งข้างๆ ที่เลื่อนสายตามองทุกคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มและมาหยุดอยู่ที่ตัวเขาเอง ก่อนจะตวัดสายตาไปยังคนที่พูดขึ้นต่อมาอีก


              “พวกไอ้กวังมินก็หายหัวไปเลย กูว่าพวกมันน่าสงสัยที่สุด”


              “มึงรู้บ้างไหมจินอู”


              “รู้อะไรล่ะ” แววตาของจินอูแข็งกร้าวขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวเมื่อถูกจี้ถาม แต่คนอื่นก็ไม่มีทางได้ทันสังเกตหรอก ในเมื่อที่ๆ พวกเขานั่งชุมนุมอยู่มันไม่ได้สว่างเท่าไหร่ แต่มันก็เพียงแค่ชั่วครู่


              “มึงเป็นเพื่อนมันนี่จินอู หึหึ เพื่อนรักด้วย ใช่ไหม? วัน”


              จินอูเหลือบตามองคนข้างๆ ที่สูบบุหรี่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร แต่จินอูรู้ดีว่าท่าทางนิ่งๆ แบบนั้น...อาจจะระเบิดออกมาในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ได้ ถ้าหากว่าคนพวกนี้ยังพูดถึงเรื่องกวังมินไม่รู้จักหยุด


              กวังมินกลายเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา


              น่ารังเกียจ ที่คนพวกนี้รู้ดี แต่ก็ยังจะจุดระเบิดแจวอนให้กลายเป็นเรื่องพูดคุยต่อไปได้อีกในอนาคต


              “ขอตัว”


              จินอูตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อตัดบทสนทนาและมันก็ถึงเวลาสำหรับอะไรบางอย่างที่เขาต้องไปทำ แต่กลับถูกมือใหญ่เย็นคว้ารั้งเอาไว้


              “จะไปไหน”


              “ห้องน้ำ เดี๋ยวมา”


              “แม่งหนีตลอดอ่ะ ยิ่งไอ้วันมันหึงเลือดขึ้นหน้าก็แสดงว่ามันยิ่งรักมึงนะโว้ย” เสียงหนึ่งตะโกนจากกลุ่มตามจินอูไปก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะครึกครื้น คนที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มได้แต่ยกมือขึ้นโบกในอากาศเพื่อตัดรำคาญ


              การหึงไม่ใช่ว่าไม่อยากจะได้จากคนรัก ใช่ การหึงคือการแสดงว่ารักอย่างหนึ่ง

              แต่สำหรับแจวอน ให้ฝ่ายนั้นอยู่ห่างไกลจากคำคำนั้นจะดีกว่า หากไม่อยากให้เกิดโศกนาฏกรรมในที่สุด


              จินอูที่เดินทางห้องน้ำกลับเลือกที่จะเดินผ่านห้องน้ำแล้วเดินไปทางด้านหลังของผับแทน ดวงตาที่เคยส่ายสอดส่องไปมาถูกกลับมาใช้อีกครั้ง เมื่อมือแตะประตูหลังร้าน ใบหน้าซีดสีเล็กน้อยหันกลับไปมองด้านหลังว่าจะไม่มีใครโผล่มา มือถึงได้ค่อยๆ เปิดออกไป เมื่อด้านนอกว่างเปล่าเช่นกันถึงได้พุ่งตัวออกไป


              “กวังมิน” เสียงเรียกชื่อแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ


              เจ้าของชื่อผุดตัวลุกขึ้นจากข้างกองขยะของผับ เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่ตามหาอยู่ถึงได้รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหา สีหน้ากังวลที่ถูกฉาบมานานก็ปรากฏขึ้น


              กวังมินยกมือข้างนึงขึ้นประคองใบหน้าขาวซีด


              “ขอโทษ กูโทษนะจินอู”


              คนถูกขอโทษส่ายหน้าไปมาย้ำๆ


              “มึงต้องหนีไปให้ได้นะกวังมิน” มือหยิบซองยาจากในกระเป๋ายัดใส่มือเพื่อนตรงหน้า มือที่กุมกันแน่นทำให้ต่างคนต่างน้ำตาไหลออกมา “มึงต้องหนีรอดให้ได้นะ”


              ยาของอูซองที่ถูกกวังมินฆ่าตาย อยู่ในบ้านของเขากับแจวอนได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ยาตัวอย่างเม็ดเล็กเจ้าปัญหาที่ทำให้คนในองค์กรของพวกเขาไม่พอใจ


              กวังมินกำลังทรยศคนในองค์กร เอายาตัวอย่างไปให้กับคนอีกกลุ่ม

              ถึงแม้จะทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่...แต่กวังมินก็คือเพื่อนคนที่เขารักมากที่สุด


              “กูขอโทษจินอู...” ร่างของจินอูถูกดึงเข้าไปกอด กวังมินลูบผมเบา “...กูขอโทษ...ที่อยู่ข้างมึงตลอดไปไม่ได้อย่างที่สัญญาในตอนนั้น กูขอโทษ”


              “ไม่หรอก มึงรีบไปเถอะ ก่อนที่จะมีใครมาเห็น” จินอูดันตัวกวังมินออก มองเห็นใบหน้าและสายตาที่สื่อออกมาว่าขอโทษเขาสุดหัวใจ


              แต่...



             

              ปัง!!!!







              มือเล็กปิดน้ำจากฝักบัวหลังจากที่ได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้นในหัว ริมฝีปากถูกเม้มแน่นอีกครั้ง ราวกับกลั้นความรู้สึกบางอย่างที่จุกอยู่และพยายามกลืนมันลงไป


              เกลียด


             

              จินอูออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ได้มาจากคนที่จินอูเองก็ไม่รู้จักคนนั้น หลังจากที่เขาพยายามจะหนีแล้วถูกแจวอนจับตัวไว้ได้ เสียงหัวเราะราวกับเป็นเรื่องขบขันก็ดังออกมาจากปากผู้ชายคนนั้น ก่อนจะพูดฝากฝังเขาไว้กับแจวอนแล้วเดินออกไปอย่างคนอารมณ์ดี ส่วนจินอูถูกแจวอนถากถางอีกเล็กน้อยแล้วจับโยนเข้าห้องน้ำ


              เมื่อความทรงจำเก่าไหลย้อนกลับเข้ามา จินอูก็แทบไม่อยากจะมองหน้าเจ้าของบ้าน ไม่อยากจะกวาดสายตามองหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่มันยังคงเหมือนเดิม


              “อย่าลีลา เดินมานั่งนี่”


              สุดท้ายก็ต้องเลื่อนสายตาไปมองคนที่เรียกตัวเองเสียงแข็งอยู่บนเตียง โดยที่ขาไม่ได้ขยับก้าวไปตามคำสั่งที่ได้รับมา สายตาของเขาพวกเขาที่ยังคงร่องรอยความเกลียดชังต่อกัน...ผ่านไปไม่รู้แล้วกี่นาที


              สุดท้ายเป็นฝ่ายแจวอนเองที่หัวเสียลุกมากระชากข้อมือที่เป็นแผลของจินอู แล้วเหวี่ยงลงเตียงใหญ่อย่างแรงจนความจุกตีขึ้นท้อง แต่ก็กัดฟันอดทนไม่แสดงออกทางสีหน้า ก่อนจะถูกกระชากให้ลุกขึ้นนั่ง มือข้างหนึ่งกำข้อมือเล็กไว้ อีกข้างก็เปิดกล่องทำแผลออก


              “ไม่ต้อง!”


              จินอูพยายามชักมือหนี แต่แจวอนก็กระชากให้ข้อมือเลยออกไปนอกเตียงนอน และบีบให้อีกฝ่ายอยู่นิ่งๆ ก่อนจะเปิดขวดแอลกอฮอล์เช็ดแผลด้วยมือเดียวอย่างชำนาญ จากนั้นก็เทราดลงมาที่แผลบนข้อมือของจินอู ฟันขาวรีบขบกัดลงบนริมฝีปากช้ำๆ เพื่อระงับความแสบที่ตีขึ้นมา เมื่อเสร็จข้างนี้แล้วแจวอนทำเช่นเดิมกับข้อมืออีกข้าง และข้อเท้าอีกสองข้างของจินอู


              ดวงตากลมมองอีกคนใส่ยาแล้วพันผ้าพันแผลไปเงียบๆ โดยที่ต่างคนไร้ซึ่งคำพูดใดๆ จนมือเผลอกำเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว แจวอนที่กำลังใส่ยาที่ข้อมืออีกข้างอยู่ชะงักไป เงยหน้ามองอีกคน...ที่ใบหน้ามีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาเป็นทาง แจวอนจ้องดวงตาคู่นั้นอีกพักใหญ่กว่าจะกลับไปใส่ยาและพันผ้าพันแผลให้แผลที่เหลือจนเสร็จ



              แจวอนทิ้งจินอูไว้ตรงนั้น คว้าซองบุหรี่ไปนั่งตรงโซฟาเก่า หยิบออกมาหนึ่งม้วน จุดไฟ สูบควันเหล่านั้นให้ไปบั่นทอนการทำงานของปอด แล้วปล่อยควันที่อัดแน่นอยู่ภายในออกมา


              จินอูมองเบื้องหลังของแจวอนที่ตอนนี้เห็นมันได้อย่างชัดเจน หลุบตาลงมองผ้าพันแผลที่อยู่ตามข้อมือข้อเท้าของตัวเองก็ต้องยกขาชันเข่าขึ้นฝั่งใบหน้าและน้ำตาลงไปในนั้น





              ปัง!!!!


              ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างของเพื่อนรักชะงักงันแล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น เหนือสิ่งอื่นใดนั้น รอยสีแดงที่ผุดขึ้นมาจากหน้าอกเพียงชั่วพริบตาหลังจากที่ได้ยินเสียงดังลั่นคล้ายเสียงปืน


              “ก...กวังมิน”


              เสียงสั่นดังขึ้นกับร่างกายที่ทำอะไรไม่ถูก จินอูไม่กล้าหันหลังกลับไปมองว่าใครเป็นคนทำ


              กลัว


              กลัวว่าจะเป็นแจวอน


              “กูบอกมึงหลายครั้งแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามาอยู่ใกล้จินอูอีก...นี่คือรางวัลที่มึงไม่เคยฟังคำพูดของกูเลย”


              แจวอน



              “ก...ก...กวังมิน” ร่างที่จะทรุดลงไปหาเพื่อนถูกกระชากให้เซเข้าไปหาคนกระชากอย่างแรง


              “จ...จิน...อ...อ”



              ปัง!!!!



              “กวังมิน!!!!!!!!!!!”





             


              “ฮึก!!”


              ปัง!!


              จินอูที่เผลอหลุดเสียงสะอื้นออกมาสะดุ้งสุดตัว เมื่อเสียงปิดประตูเรียกให้กลับเข้าสู่ความเป็นจริง สายตามองตรงไปยังที่ที่เจ้าของบ้านนั่งอยู่



              แจวอนหายไปแล้ว

              หายไปจากโซฟาแล้ว

              หายไปเลยได้ก็ดี

              หายไปจากชีวิตเขาได้ยิ่งดี




              “ฮึก ฉันเกลียดนาย จองแจวอน”








              เป็นเวลาหลายชั่วโมงกว่าที่แจวอนจะสงบสติตัวเองได้แล้วเดินเข้ามาด้านใน เสียงสะอื้นหายไปแล้วแต่คนที่ยังก้มหน้าลงกับเข่ายังอยู่บนเตียงนอนของเขาเหมือนเดิม


              จินอูเผลอหลับไปแล้ว


              แจวอนเดินมาหยุดอยู่ใกล้กับร่างตรงหน้า มือไม่รักดีที่ยื่นออกมาปัดปอยผมเกี่ยวคล้องใบหู นัยน์ตาที่กวาดมองทั่วใบหน้าซีดค่อยๆ เลื่อนลงมายังข้อมือและข้อเท้าซึ่งถูกพันผ้าสีขาวไปอยู่



              “ฉันก็เกลียดนายเหมือนกัน จินอู...ทั้งๆ ที่ฉันรักนายมากขนาดนั้น”




              “ฉันคือฝันร้ายของนาย...นายก็คือฝันร้ายของฉัน”






              “ทิ้งฉันไปทำไม”









              สิ้นคำตัดพ้อกับตัวเองคำสุดท้าย แจวอนดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม หายใจเข้าเพื่อเตือนให้ตัวเองเลิกฟุ้งซ่านกับเรื่องที่ผ่านมาเกือบ 6 ปีแล้ว



              ยื่นมือออกไปอีกครั้งแล้วค่อยๆ ดึงตัวคนที่นั่งกอดเข่าอยู่เอนลงไปแผ่บนเตียง แต่แล้วมือของคนที่รู้สึกตัวตื่นเอื้อมมาจับข้อมือของแจวอนไว้ให้หยุดทุกการกระทำ พร้อมกับเปิดดวงตาออกมองคนที่อยู่เหนือตัวเอง



              “อย่าทำแบบนี้”


              “...”


              “อย่าทำเหมือนว่าไม่ได้เกลียดฉัน”


              “...”


              “...”


              “บอกตัวนายเองเถอะ”


              จินอูปล่อยมือจากแจวอนพร้อมทั้งหันหน้าหนีไปอีกทาง เมื่อรู้สึกว่าหากตัวเองมองใบหน้าและสายตานั้นอีกนิดน้ำตาก็จะไหลออกมาอีก ฟันขาวขบกัดลงริมฝีปากอีกครั้ง...



              แจวอนก้าวขึ้นคร่อมร่างจินอูที่นอนอยู่


              ใบหน้าซีดสีหันกลับมามองด้วยความตกใจ ข้อมือสองข้างถูกกดไว้ข้างศีรษะ


              แววตาแข็งกร้าวในครั้งแรกที่ได้เห็น...หายไปที่ไหนแล้ว


              จองแจวอน




              ใบหน้า ลมหายใจอุ่น ริมฝีปาก ค่อยๆ กดลงมาทาบทับริมฝีปากบางช้ำที่แม้แต่เจ้าของก็ไม่มีได้หันหน้าหนีรสจูบนี้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดลงอีกครั้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดิมแต่มันกลับเจ็บไปหมด เจ็บเหมือนจะตาย จินอูเหมือนหายใจไม่ออก เมื่อริมฝีปากของแจวอนละเลียดไปมาบนริมฝีปากของตัวเองที่โต้ตอบกลับไปไม่ต่างกัน รสจูบเนิ่นนานจนละริมฝีปากออกและจูบซับรอยแผลบนปากที่จินอูใช้กัดมันยามต้องระงับน้ำตา


              จินอูเปิดเปลือกตามองแจวอน ก่อนจะปิดลงอีกครั้งเมื่อฝ่ายด้านบนโน้มใบหน้าลงกดจูบพร้อมสอดลิ้นชื้นเข้าไปพร้อมความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคย


              ความรู้สึกนี้ เตียงนี้ มือคู่นี้ ริมฝีปากนี้ และผู้ชายคนนี้


              ลิ้นเล็กตอบกลับไปตามความคุ้นเคย เกี่ยวกระหวัดอ้อยอิ่งอย่างที่เคยทำ


              “ถ้านายเกลียดฉัน...แล้วจะร้องไห้ทำไม”


              แจวอนเอ่ยกระซิบข้างหูหลังจากผละริมฝีปากออก แล้วริมฝีปากนั้นก็กดลงที่ต้นคอ ร่างจินอูสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนถูกของร้อนนาบลงไป มือสองข้างที่แจวอนยังกักกันไว้กำแน่น ใบหน้าเบี่ยงเอนไปตามริมฝีปากของแจวอนที่พรมจูบลงไป ทั้งลิ้นร้อนและฟันที่ขบกัดเบาๆ ส่งแรงให้จินอูปล่อยเสียงครางออกมา มือของแจวอนละออกมาลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องก่อนจะเลิกเสื้อขึ้นพร้อมกับดึงตัวจินอูให้ขึ้นจากเตียงเล็กน้อยเพื่อถอดมันออกไปพ้นทาง


              และแล้วพวกเขาก็ปล่อยตัวเองไปกับอีกความรู้สึกที่ถูกกด ถูกฉาบไว้ด้วยความเกลียดชัง


              ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง





             



              ควันสีขุ่นลอยละล่องออกมาจากริมฝีปากช้ำก่อนจะกลืนหายไปกับความมืดมิด...ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะมืดลงได้ไม่นาน และมันก็ทำให้แจวอนนึกขึ้นได้ว่าทั้งเขาและคนที่นอนหลับไปบนเตียงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ใบหน้าหันกลับไปมองจินอูจากโซฟา แล้วก็ต้องหันกลับมาสูดควันเข้าปอดอีกครั้งใหญ่


              แจวอนเริ่มคิดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้ และวันมะรืน สิ่งที่เขารู้สึกว่าอยู่ดีๆ มันกลับกลายมาเป็นเรื่องที่ทำให้เขาคิดไม่ตกเกี่ยวกับมัน เขาควรที่จะจัดการเรื่องทุกอย่างยังไง เขาควรที่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง แม้แต่บุหรี่ทั้งซองมันก็ไม่สามารถช่วยทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้


              ดวงตาเปิดขึ้นมาในความมืดหลังจากที่ผล็อยหลับไปหลังจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองหลับไปได้ไม่นานเลยจริงๆ เพราะที่ข้างกายตรงนี้ยังว่างเปล่า แต่บนร่างกายเขาก็ดูเหมือนว่าจะถูกทำความสะอาดและเสื้อผ้าก็ถูกสวมอยู่บนร่างกาย พอคิดไปถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ต้องคิดย้อนไปถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น...


              เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องมันแปรเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง


              ต้องทำยังไงอีก


              จะหนีได้ยังไงอีก


              ในเมื่อกลิ่นของแจวอนเด่นชัดในความทรงจำอีกครั้งแบบนี้


              จินอูหลับตาลง ก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง รู้สึกมึนหัวอยู่ไม่น้อยเลยไม่ได้ขยับร่างกายใดๆ อีก แต่ก็ทำให้คนที่ชาชินกับความเงียบอย่างแจวอนซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวเก่าหันหน้ากลับมามอง


              “หิวรึเปล่า”
     


              น้ำเสียงเรียบๆ ไม่มีแววเข็งขึง หรือโอนอ่อน เรียกให้จินอูเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งเพื่อมองแจวอน สุดท้ายก็พยักหน้าให้พร้อมเสียงตอบรับในลำคอ


              แจวอนลุกขึ้นไปเปิดไฟ หิวถุงกล่องข้าวที่เพิ่งออกไปซื้อเพราะหัวตื้อคิดอะไรไม่ออกเมื่อครู่เดินมาที่เตียงนอน แจวอนยื่นกล่องข้าวให้อีกคนรับไป แล้วก็เปิดของตัวเองกินไปพร้อมๆ กัน


              “7 ครั้ง”


              “...”


              “7 ครั้งที่นายพยายามหนีไปจากฉัน”


              “...”


              “และครั้งที่ 8 นายก็ทำสำเร็จ”


              “...”


              “6 ปีหลังจากนั้น เมื่อวานนี้นายก็พยายามจะหนีจากฉันไปอีก”


              “แล้วนายรู้ตัวไหม ว่าภายใน 7 ครั้งที่ฉันพยายามจะหนีไป นายทำอะไรกับฉันไว้บ้าง”


              “หึ รู้สิ”


              “ถ้านั่นคือคำตอบ...นายก็ไม่มีสิทธิมาเกลียดฉัน”


              “แล้วนายรู้ไหม ว่าฉันเกลียดการอยู่คนเดียวมากแค่ไหน รู้ไหมว่าฉันทุกข์ทรมานมากแค่ไหน”


              “...”


              “นายรู้ นายถึงได้ทำสินะ...ฉันไม่มีสิทธิเกลียดนายเลยเหรอ”



              จินอูกำช้อนแน่น ก่อนจะตักเนื้อหมูในกล่องอาหารของตัวเองไปใส่ในกล่องอาหารตรงหน้า แจวอนเหลือบมองจินอูที่กินข้าวต่อไปเงียบๆ


              “ถ้ามันจะมีครั้งที่ 10 ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี...คิมจินอู”


              นี่เป็นสิ่งเดียวที่แจวอนเอาแต่คิดซ้ำไปซ้ำมา

              และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าจินอูคิดจะทำอะไรอีก

              เขารู้แค่ว่า เขาคงจะทนไม่ได้ กับเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ



              หลังจากกินข้าวเสร็จจินอูก็ลุกเดินไปทำล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนกลับมาไล่สายตากับหนังสือที่ตั้งเรียงกันอยู่บนชั้นปลายเตียงนอนระหว่างที่แจวอนหายไปเก็บของ จินอูกวาดสายตามายังมุมๆ หนึ่งที่เขาเคยวางหนังสือที่ตัวเองชอบอ่านเอาไว้ใกล้ๆ มือ เพื่อที่จะกลิ้งบนที่นอนมาหยิบได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้มันกลับหายไปแล้ว


              “ไม่มีสิ่งที่กำลังหาอยู่หรอก”


              จินอูเบนสายตาออกจากมุมนั้น แสร้งว่าไม่ได้หาอะไรอย่างที่อีกฝ่ายพูด ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งขัดสมาธิกลางเตียงนอนมองแจวอนเดินไปเดินมาทำธุระของตัวเอง อยู่ในชุดแบบนี้แล้วเจ้าของบ้านก็คงไม่จับตัวเขาไปนั่งที่เก้าอี้เอามือมัดไพร่หลัง แล้วก็มัดขาเขาหรอกใช่ไหม


              จนแจวอนมองมาที่เขาครู่หนึ่ง แล้วก็ปิดไฟให้ทั้งห้องมืดลง


              “ง่วงแล้วก็นอนไปสิ ไม่ต้องมามอง” แจวอนว่าใส่ขณะเดินมาหยุดที่หน้าจินอู คนถูกไล่ให้นอนล้มตัวลงด้านที่ติดกำแพงอย่างเคยชิน พร้อมกับหันหลังให้จึงไม่เห็นรอยยิ้มที่คลี่ออกมาของแจวอน จากนั้นเจ้าของเตียงถึงได้นอนลงบนพื้นที่ที่เหลืออยู่


              คนนอนหงายเหลือบตาไปมองคนหันหลังใส่ มือยื่นออกไปก่อนความยั้งคิด ดึงต้นแขนจินอูให้หันหน้ามาก่อนดึงเข้าหาตัว แจวอนรู้ว่าจินอูยังไม่ได้เข้าสู่ห้วงนิทรา และพออีกฝ่ายไม่มีมีท่าทีดึงดันหรือพูดอะไรออกมา ความหนักอกที่มันมีอยู่กลับจางหายไป


             


             

              นี่อาจจะเป็นคืนแรกในรอบ 6 ปีที่เขานอนหลับได้สนิท





















    ----------------------------------------------------------------------------------


    ยังไม่จบง่า ตอนแรกกะว่าจะให้มีสัก 3 ตอน ปรากฏจบไม่ลง

    และคิดว่าถ้าแต่งให้จบรวดเดียวคงจะได้รอกันอีกนานแน่

    ช่วงนี้ม.เปิดเรียนแล้ว แต่จะพยายามหาเวลาว่างให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้

    มาแต่งออลจีนูให้ต่อนะคะ

    รีดเดอร์ก็อย่าลืม #sfออลจีนู น้า


    สารภาพ : ที่จริงความตั้งใจแรกในการแต่งเรื่องนี้คือเอ็นซีวอนอูค่ะ แบบ smut นะ

    แต่แต่งๆ แล้วผลปรากฏออกมาเป็นแบบนี้ตามเนื้อเรื่องค่ะ

    สองคนนี้เค้ากำลังสับสนและเศร้านิดหน่อย เราเลยไม่อยากแต่งให้จบเพราะไม่อยากให้รูปฟิคเสีย

    จินตนาการต่อเอาได้เนาะว่าแจวอนจะอ่อนโยนกับจีนูแค่ไหน 5555555








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×