ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Winner iKON BIGBANG] SF All x Jinwoo

    ลำดับตอนที่ #11 : >> Paradise Part 2 (One x Jinwoo)

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 58


    CR.SQW



    Paring : One (Jaewon) x Jinwoo

    Warning

    II


    PARADISE

    -------------------------------------------------------------------------------











              กลิ่นอับที่ราวกับฝังลึกกับสถานที่แห่งนี้เป็นตัวช่วยอย่างดีในการปลุกคนที่ถูกฤทธิ์ของยานอนหลับให้ได้สติขึ้นมาหลังจากที่ผ่านไปนานหลายชั่วโมง เรียวคิ้วขมวดแน่นพยายามปรือตาลืมขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะเริ่มรู้สึกแสบตาจากแสงไฟที่ดูเหมือนว่าจะสว่างจ้าเหลือเกิน จะพลิกตัวหนีจากความรำคาญยังทำไม่ได้อีก






              เขาขยับตัวไม่ได้!!!







              “อึก”


              ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ แต่สติที่กลับมาครบถ้วนนั้นรับรู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในสภาพแบบไหน และนึกย้อนกลับไปที่ความทรงจำสุดท้ายที่ถูกใครบางคนทำให้หมดสติไป ในที่สุดก็ต้องหยุดฝืนตัวเจ็บเลิกพยายามแก้เชือกเส้นใหญ่ที่มัดมือมัดเท้าตัวเองอยู่ นัยน์ตาที่เริ่มปรับภาพตรงหน้าได้แล้วค่อยๆ ไล่สายตาจากปลายเท้าของคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปตรงหน้าขึ้นไปยังใบหน้านิ่งที่ไร้การปกปิดใดๆ


              ดวงตาที่ยากลำบากในการเปิดมันขึ้นตอนแรกกลับเบิกโพล่งขึ้น



       



               “จ...แจวอน”






              “หึ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

             





              รอยยิ้มแสยะที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจออีก

        





              ร่างของจินอูเริ่มสั่นขึ้นมา พยายามกดก้อนบางอย่างที่มันจุกอยู่ตรงหน้าอก สายตาล่อกแล่กมองไปรอบๆ ก็พบว่าเป็นสถานที่คุ้นเคยแต่กลับมีความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะกลับไปมองเจ้าของรอยยิ้มที่ลุกขึ้นแล้วค่อยๆ เดินเข้ามา ลมหายใจเริ่มติดขัดจนเหมือนกับมีบางอย่างมาบีบรัดที่ลำคอ




              “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าจะหนีไป...อย่าให้ฉันได้เจอนายอีก...ใช่รึเปล่า คิมจินอู

             








              กลิ่นบุหรี่นี้?


              กลิ่นของแจวอน
        

              ทำไมเขาถึงไม่นึกเอะใจเลยนะ


              ถ้าเอะใจได้มากกว่านั้น


              เขาก็คงจะหนีพ้นอีกครั้ง









              ใบหน้าถูกดันขึ้นอย่างแรงให้เชิดขึ้นไปสบกับดวงตาแสนร้ายกาจ ก่อนที่ขอบดวงตาจะร้อนผ่าว ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่รื้นขึ้นจนไหลร่วงออกจากดวงตาทั้งสองข้างได้...มือคู่นี้...จนตอนนี้ก็ยังเยียบเย็นสำหรับจินอูเสมอ ใบหน้าคมที่มีไรหนวดประปรายค่อยๆ ก้มลงใกล้ สายตาทั้งคู่เปรียบเหมือนถูกสะกดเอาไว้อีกครั้ง


              “โชคดีที่มีคำสั่งห้ามฆ่าเด็ดขาด นายถึงได้มีโอกาสมานั่งคุยกับฉันแบบนี้ยังไงล่ะ ดีใจไหม?”


              “...”


              “หึ พูดอะไรหน่อยสิ เก่งนักไม่ใช่เหรอ”


              แจวอนบีบคางจินอูแน่นพลางแค่นหัวเราะ จนจินอูถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ใบหน้าของแจวอนเริ่มรางเลือน เพราะดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ถึงแม้มันจะแย่งกันไหลร่วงลงไป แต่มันก็รื้นขึ้นมาแทนที่ของเก่าเสมอ



             


              เขาไม่อยากที่จะร้องไห้ตอนนี้เลย


              ไม่อยากจะให้คนตรงหน้าเห็นสิ่งนี้


              แต่กลับควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง


              แม้แต่หัวใจที่เต้นแรงจนเจ็บ








              “ฉันเจ็บ แจวอน”








              ที่พูดออกไปนี่ก็ไม่รู้ว่าพูดเพราะรู้สึกเจ็บตรงไหนกันแน่


              แค่อยากให้แจวอนปล่อยเขาไปสักที


              แต่คงจะยากขึ้นกว่าเดิม





              “เจ็บเหรอ...ไม่หรอก...นายไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บเจียนตายเลยด้วยซ้ำ!”


              “งั้นก็ฆ่าฉันซะสิ!”


              “หึ พยายามจะหนีฉันอีกแล้วเหรอ นั่นถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาดมากในเวลาแบบนี้นะ ในเวลาที่ถูกมัดมือมัดเท้าจนไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองได้แบบนี้น่ะ”


              “ฆ่าฉัน แจวอน”


              “เกลียดฉันมากขนาดนั้นสินะ อยู่มองหน้าฉันต่ออีกหน่อยสิ นายจะได้เข้าใจถึงการอยู่กับสิ่งที่รังเกียจสุดหัวใจยังไงล่ะ คิมจินอู”



              มือใหญ่ออกแรงบีบที่มากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะส่งริมฝีปากมาแบ่งปันความเจ็บปวดอย่างรุนแรงให้  แจวอนบดเบียดมันลงไปอย่างรวดเร็วและไม่ปราณีในการแย่งชิงห้วงลมหายใจของจินอูมา จนต่างคนต่างรับรู้ได้ถึงรสชาติฝาดเฝื่อนจากภายในโพรงปากที่แยกไม่ออกว่ามันมาจากใครกันน่...จนหัวสมองเริ่มขาวโพลน...


              “อึก”



              จินอูรู้สึกโล่งที่ขึ้นที่แจวอนยอมถอนริมฝีปากออกไปในเพียงเสี้ยววินาทีที่จะช่วงชิงลมหายใจสุดท้ายของเขาไปได้เพียงรสจูบที่ทรมานและยาวนาน


              “นายมันขยะ จินอู”


              ไม่รู้ว่ามันเป็นคำตัดพ้อของแจวอนรึเปล่า แต่คนที่ถูกด่าว่าแบบนั้นกลับได้ยินมันชัดเจน สายตามองตามคนที่เดินออกไป แล้วละไปมองรอบๆ ห้องอีกครั้ง



              ...ที่นี่ไม่มีใครนอกจากเขาและแจวอน จากห้องที่เคยสะอาดเพราะได้รับการดูแลทุกวัน ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องที่ไม่น่าพิสมัยที่จะอาศัยอยู่...





              มันเปลี่ยนไปเยอะมาก


              จากตอนที่เขาเคยอยู่


              แต่ถึงที่นี่มันจะอยู่ในสภาพที่ดี


              เขาก็ไม่อยากอยู่แม้สักวินาทีเดียว!





              มือสองข้างเริ่มขยับไปมาอีกครั้งโดยเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดใดๆ ที่เกิดจากแรงเสียดสี พยายามทำให้เชือกคลายตัวออก แต่แจวอนก็คือแจวอน คนที่รู้จักเขาดีมากที่สุด วิธีการมัดเชือกมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เขาจะแก้ออกไปเพียงไม่กี่วินาที ซ้ำบาดแผลที่เกิดขึ้นรอบข้อมือก็ช่วยส่งผลให้เรี่ยวแรงเริ่มหายไปอย่างไม่รู้ตัว
        


              “ถ้าจะให้หลุดจากเชือกนั่นก็มีแค่ทางเดียว...ตัดมือตัดขาของนายไง สนใจไหม” น้ำเสียงนิ่งๆ ที่ดังมาพร้อมเจ้าของเสียงที่ในมือถือกล่องข้าวมาด้วย แจวอนโยนกล่องโฟมนั้นลงบนโต๊ะไม้ผุๆ ที่อยู่ข้างเขา ทำให้เห็นว่าบนโต๊ะนั่นเต็มไปด้วยรูปแอบถ่ายในเวลาต่างๆ


              นี่ไม่ใช่ฝีมือของการถ่ายรูปของแจวอนแน่นอน เพราะอีกฝ่ายไม่ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว คงเป็นเรื่องจริงที่แจวอนถูกใช้งานจากบอส รวมถึงคำสั่งห้ามฆ่านั่นก็คงจะเป็นเรื่องจริง และเมื่อคิดไปถึงเรื่องตอนที่ไปพาตัวเขามาที่นี่โดยไม่มีบาดแผลใดๆ กลับมาจากคนของมินโฮ...ก็สมกับที่เป็นจองแจวอนแล้วล่ะ


              จินอูเลื่อนสายตาจากกองรูปภาพไปมองแจวอนที่ลากเก้าอี้เข้ามาใกล้ และหยุดมันตรงหน้าเขาที่ห่างเพียงแค่นิดเดียวแล้วนั่งลง มือเอื้อมไปหยิบกล่องโฟมนั่นขึ้นมาเปิดออก จินอูมองดูการกระทำของแจวอนเงียบๆ แล้วฝ่ายนั้นก็เป็นคนที่ตักข้าวเต็มช้อนมาจ่อที่ปากของเขา


              “คิดว่าฉันจะแก้มัดให้นายกินข้าวด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ นายมันไม่ได้น่าไว้ใจขนาดนั้น กินเข้าไป ก่อนที่นายจะไม่ได้กินอะไรอีกเลย”


              แจวอนพยายามเปิดปากเขาด้วยการยัดช้อนที่มีข้าวพูนเต็มเข้ามา จนในที่สุดก็ต้องเปิดรับมันเข้าไป แล้วสำลักจนไอออกมา






              ไร้ซึ่งการหยิบยื่นน้ำมาให้


              มันก็สมควรที่จะเป็นอย่างนั้น






              แจวอนยังคงตักข้าวมาให้จินอูเรื่อยๆ ปราศจากการพูดจาถากถาง ปราศจากเสียงต่อล้อต่อเถียงอย่างที่เป็นมา ราวกับต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดตัวเอง...จนข้าวหมดกล่อง


              “ก็ดูเหมือนยังอยากมีชีวิตอยู่นี่ หึ”





              เพียงเท่านั้นก็เก็บทุกอย่างแล้วเดินจากไป




              แต่เพียงแค่จินอูขยับมืออีกเพื่อที่จะพยายามแก้เชือกที่แสนอึดอัดออก แจวอนก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมขวดน้ำในมือ นัยน์ตาที่บางครั้งก็นิ่งและแข็งกร้าวกลับมองมาด้วยความสมเพช บีบคางจินอูให้เปิดปากออกแล้วกรอกน้ำลงไป แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่วิธีการดื่มน้ำของจินอู ผลลัพธ์ที่ได้คือสำลึกน้ำจนเกือบขาดอากาศหายใจ


              “แค่กๆๆๆ”


              “เข้าใกล้ความตายหลายครั้งเลยนะวันนี้”


              แล้วแจวอนก็เดินกลับไปอีกครั้ง ทิ้งให้คนที่สำลักน้ำไอไม่หยุดอยู่อย่างนั้น พลางนึกไปถึงคนรักปัจจุบันของตัวเองที่ยังคงเงียบข่าว


              “แค่กๆ ซงมินโฮ ถ้านายไม่มาช่วยฉัน ครั้งนี้...ก็ปล่อยให้ฉันตายไปเถอะ”



             

              ทั้งๆ ที่เคยลืมความรู้สึกพวกนี้ได้แล้วแท้ๆ


              ทำไมเขาต้องกลับมาเจออะไรกับเรื่องพวกนี้อีก










              โครม!!!!!
             


              “กูบอกแล้วใช่ไหม ถ้าพวกมึงหาไม่เจอก็ไม่ต้องกลับมา!!!!!!”


              พลั่ก!!!!!! โครม!!!!!!


              “ออกไปตามหาสิวะ!!!!!!” เสียงคำรามของมินโฮดังลั่นจนคนในปกครองสามสี่คนที่ยืนก้มหน้ารายงานความคืบหน้าในการตามหาคนรักของนายใหญ่ต้องพากันรีบหันหลังกลับวิ่งออกไป พร้อมกับปิดประตูห้องลงอย่างรวดเร็ว สภาพห้องตอนนี้กระจายไปด้วยข้าวของและเอกสารปลิวว่อน


              “มึงห้ามมีความคิดที่จะไม่ไปเซ็นสัญญาวันมะรืนเพื่อแลกกับตัวจินอูเด็ดขาดนะ ซงมินโฮ” ฮยอนแทที่มองดูเพื่อนลงอารมณ์ใส่ลูกน้องด้วยท่าทีเฉยเมยเหมือนเป็นเรื่องปกติก็พูดออกมา หลังจากที่เพื่อนรักลงแรงทุบโต๊ะทำงานของตัวเองไปปึกใหญ่


              “ถ้าค้นหาตัวจินอูไม่เจอ กู...”


              “มึงห้ามพูดเด็ดขาดว่ามึงจะทำแน่”


              “กูจะทำ!!! จินอูคือชีวิตของกู!!!!”
        

              “มึงอย่าโง่ไปหน่อยเลย! ถ้ามึงถอนตัวออกจากแก๊งเพราะคนแค่คนเดียว มันจะไม่ใช่แค่เงินที่มึงจะไม่ได้ แม้แต่วิญญาณมึงก็จะไม่มีทางได้เอาไปเสพสุขกับจินอูอีกแน่!!!!”


              “มึงก็หาให้เจอสิวะ!!! แก๊งนี้ใหญ่นักไม่ใช่เหรอ!!! ทำไมยังหาไม่เจออีก!!!!”


              “นี่มันยัง 24 ชั่วโมงเลยนะ”


              “แล้วทำไมต้องรอให้เวลามันเดินไปขนาดนั้นด้วยวะ!!!!!”
        

              “กูว่ามึงใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าไหม กูว่ามึงรู้จักจินอูดีว่าจินอูฉลาดแค่ไหน เผลอๆ กูว่าในเวลานี้จินอูอาจจะฉลาดและมีสติมากกว่ามึงด้วยซ้ำ” ฮยอนแทมองมินโฮด้วยแววตาสมเพชที่ในหัวตอนนี้ถูกความตื่นตระหนกครอบงำไว้หมด จนมองไม่เห็นอะไรและพาลทำให้คิดอะไรตื่นๆ ออกมาอีกด้วย


              มินโฮทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ของตัวเอง รู้สึกหมดแรงไปซะดื้อๆ แทนที่จะพูดออกไปว่าเสร็จงานแล้วจะรีบไปรับ เขาน่าจะละจากงานแล้วรีบไปรับจินอูมากกว่า เขาน่าจะทำแบบนั้น


              “กูเชื่อยังไงจินอูก็จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”









              ความเงียบงันเข้าปกคลุมที่แห่งนี้เช่นทุกวัน ทั้งๆ ที่มีผู้ร่วมใช้อากาศหายใจในห้องเดียวกันด้วยอีกหนึ่งคนแท้ๆ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
        


              แจวอนนอนมองคนสิ้นฤทธิ์อยู่บนเตียงด้านหลังของจินอู ทั้งมือและขาสองข้างที่คอยขยับบิดไปมาอยู่ร่วมสองชั่วโมงก็นิ่งไป เลือดสีเข้มที่ไหลตัดกับสีผิวหยดลงบนพื้นช่วยเคลือบรอยเลือดเก่าที่แห้งกรังไว้ เขารู้ว่าจินอูยังไม่หลับแม้ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะไม่ไหวติ่งแล้ว


              แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาก็จะไม่สามารถนอนหลับได้ในคืนนี้เช่นกัน เพราะคนอย่างจินอู...ไม่ควรไว้ใจอีกเป็นครั้งที่สองจะดีกว่า







              ความสว่างเข้ามาแทนที่ความมืดมิด แจวอนตัดสินใจลุกขึ้นไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเมื่อจินอูยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิมทั้งคืน จนกระทั่งเดินออกมาอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีที่จะขยับตัว แจวอนรีบใส่เสื้อผ้าซึ่งขณะนั้นมีอีกหนึ่งคนเปิดประตูห้องและเข้ามาได้อย่างง่ายดาย


              แจวอนถึงได้เห็นจินอูขยับตัว


              “กูเอาข้าวกับเสื้อผ้ามาให้ตัวประก...โอ้โห่ มึงนี่ ทำไมไม่ดูแลเขาให้ดีๆ วะ” ฮันบยอลเห็นสภาพของจินอูก็อดไม่ได้ที่จะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็พบรอยเลือดไหลเป็นทางเปรอะอยู่บนรองเท้า


              “ถึงเป็นตัวประกันก็ต้องเอาไปคืนเจ้าของนะเว้ย”


              “มึงหุบปากมั่งเหอะ” แจวอนมองตาขวางใส่ ฮันบยอลจิ๊ปากแล้วเดินไปนั่งยองๆ ตรงหน้าจินอูที่สภาพตอนนี้ดูไม่ได้ ไม่ใช่แค่ข้อมือหรือข้อเท้า แต่ใบหน้าก็ยังดูซีดเซียว




              แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความถือตัว





              “พรุ่งนี้ซงมินโฮจะต้องยกเลิกการเซ็นสัญญารวมตัวกับซอแท เพื่อแลกกับตัวนาย นายคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ คิมจินอู”


              “...”


              “ได้ยินมาว่าซงมินโฮรักนายมากนี่” สิ้นคำพูดก็ปรายตาไปมองเจ้าของบ้านที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลังจินอู ก่อนจะแค่นหัวเราะ


              “...”


              “เอาเป็นว่าเรื่องพรุ่งนี้ก็ส่วนเรื่องพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้ามันไม่ทำตามข้อตกลงก็แค่ฆ่านายเท่านั้น ตอนนี้นายก็ยังเป็นตัวประกันที่เราต้องดูแลให้ดีอยู่” ว่าไปก็เดินไปปลดเชือกที่มัดมือขาวพาดไว้ด้านหลัง ก่อนจะเดินอ้อมกลับมาแก้เชือกที่มัดข้อเท้าเอาไว้


              “กูว่ามึงควรที่จะรีบทำแผลให้เขานะ ก่อนที่มันจะติดเชื้อโรคไปมากกว่านี้จนต้องตัดแขนตัดขาทิ้ง” เมื่อแก้เชือกให้คนนั่งนิ่งอยู่เรียบร้อยก็ลุกเดินถอยหลังไปยืนมองปฏิกิริยาของจินอูและแจวอนห่างๆ


              ถึงอย่างนั้นคนที่สิ้นฤทธิ์ไปแล้วกลับกัดฟันลุกขึ้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้าประตูบ้าน


              หมับ!!!


              แจวอนวิ่งมากระชากข้อมือของจินอูอย่างแรง จนคนที่ขาอ่อนแรงเกือบทรุดตัวลงไป แต่คนกระชากก็รับไว้ได้ทัน จินอูหอบหายใจหนักอยู่ในอ้อมแขนของอีกคนพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ปากถูกฟันกัดเพื่อให้ตัวเองอดทนจนเลือดไหลออกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว







              “สำหรับนาย...ตัดแขนตัดขาไปเลยน่าจะดีที่สุดนะ”






















    ---------------------------------------------------------------------


    มาลงแล้วค่า อาจจะไม่เหมือนกับที่รีดเดอร์วาดภาพไว้กัน 5555

    แต่เราตั้งใจแต่งเลยน้า หัวมุนกับพล็อตเรื่องนี้มาก

    ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้น และรอพาร์ทต่อไปด้วยนะคะ อาจจะเป็นพาร์ทจบ


    และวันนี้ 20150808 เห็นว่าจีพัลทีมขนลูกทีมไปคอนเอพิคไฮ ของเฮียโบล

    มีทั้งมิ ดัพ น้องวัน  รวมถึงสมาชิกวินเนอร์ แต่!!!!
    คิมจินอูติดถ่ายละคร!!!!!! กรี๊ดดดดดดดด

    นี่น้ำตาแทบไหล คือแบบ...ทำไมต้องถ่ายวันนี้อ่ะจินอู

    อยากให้จินอูเจอกับน้องวันอ่า ฮือออออ #หัวใจขี้ชิปแตกสลาย

    นี่เลยรีบมาลงฟิควอนอู เพื่อดับความโศกาในใจ T^T







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×