คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : >> Paradise Part 2 (One x Jinwoo)
Paring : One (Jaewon) x Jinwoo
Warning
II
PARADISE
-------------------------------------------------------------------------------
กลิ่นอับที่ราวกับฝังลึกกับสถานที่แห่งนี้เป็นตัวช่วยอย่างดีในการปลุกคนที่ถูกฤทธิ์ของยานอนหลับให้ได้สติขึ้นมาหลังจากที่ผ่านไปนานหลายชั่วโมง เรียวคิ้วขมวดแน่นพยายามปรือตาลืมขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะเริ่มรู้สึกแสบตาจากแสงไฟที่ดูเหมือนว่าจะสว่างจ้าเหลือเกิน จะพลิกตัวหนีจากความรำคาญยังทำไม่ได้อีก
เขาขยับตัวไม่ได้!!!
“อึก”
ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ แต่สติที่กลับมาครบถ้วนนั้นรับรู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในสภาพแบบไหน และนึกย้อนกลับไปที่ความทรงจำสุดท้ายที่ถูกใครบางคนทำให้หมดสติไป ในที่สุดก็ต้องหยุดฝืนตัวเจ็บเลิกพยายามแก้เชือกเส้นใหญ่ที่มัดมือมัดเท้าตัวเองอยู่ นัยน์ตาที่เริ่มปรับภาพตรงหน้าได้แล้วค่อยๆ ไล่สายตาจากปลายเท้าของคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปตรงหน้าขึ้นไปยังใบหน้านิ่งที่ไร้การปกปิดใดๆ
ดวงตาที่ยากลำบากในการเปิดมันขึ้นตอนแรกกลับเบิกโพล่งขึ้น
“จ...แจวอน”
“หึ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
รอยยิ้มแสยะที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจออีก
ร่างของจินอูเริ่มสั่นขึ้นมา พยายามกดก้อนบางอย่างที่มันจุกอยู่ตรงหน้าอก สายตาล่อกแล่กมองไปรอบๆ ก็พบว่าเป็นสถานที่คุ้นเคยแต่กลับมีความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะกลับไปมองเจ้าของรอยยิ้มที่ลุกขึ้นแล้วค่อยๆ เดินเข้ามา ลมหายใจเริ่มติดขัดจนเหมือนกับมีบางอย่างมาบีบรัดที่ลำคอ
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าจะหนีไป...อย่าให้ฉันได้เจอนายอีก...ใช่รึเปล่า คิมจินอู”
กลิ่นบุหรี่นี้?
กลิ่นของแจวอน
ทำไมเขาถึงไม่นึกเอะใจเลยนะ
ถ้าเอะใจได้มากกว่านั้น
เขาก็คงจะหนีพ้นอีกครั้ง
ใบหน้าถูกดันขึ้นอย่างแรงให้เชิดขึ้นไปสบกับดวงตาแสนร้ายกาจ ก่อนที่ขอบดวงตาจะร้อนผ่าว ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่รื้นขึ้นจนไหลร่วงออกจากดวงตาทั้งสองข้างได้...มือคู่นี้...จนตอนนี้ก็ยังเยียบเย็นสำหรับจินอูเสมอ ใบหน้าคมที่มีไรหนวดประปรายค่อยๆ ก้มลงใกล้ สายตาทั้งคู่เปรียบเหมือนถูกสะกดเอาไว้อีกครั้ง
“โชคดีที่มีคำสั่งห้ามฆ่าเด็ดขาด นายถึงได้มีโอกาสมานั่งคุยกับฉันแบบนี้ยังไงล่ะ ดีใจไหม?”
“...”
“หึ พูดอะไรหน่อยสิ เก่งนักไม่ใช่เหรอ”
แจวอนบีบคางจินอูแน่นพลางแค่นหัวเราะ จนจินอูถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ใบหน้าของแจวอนเริ่มรางเลือน เพราะดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ถึงแม้มันจะแย่งกันไหลร่วงลงไป แต่มันก็รื้นขึ้นมาแทนที่ของเก่าเสมอ
เขาไม่อยากที่จะร้องไห้ตอนนี้เลย
ไม่อยากจะให้คนตรงหน้าเห็นสิ่งนี้
แต่กลับควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
แม้แต่หัวใจที่เต้นแรงจนเจ็บ
“ฉันเจ็บ แจวอน”
ที่พูดออกไปนี่ก็ไม่รู้ว่าพูดเพราะรู้สึกเจ็บตรงไหนกันแน่
แค่อยากให้แจวอนปล่อยเขาไปสักที
แต่คงจะยากขึ้นกว่าเดิม
“เจ็บเหรอ...ไม่หรอก...นายไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บเจียนตายเลยด้วยซ้ำ!”
“งั้นก็ฆ่าฉันซะสิ!”
“หึ พยายามจะหนีฉันอีกแล้วเหรอ นั่นถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาดมากในเวลาแบบนี้นะ ในเวลาที่ถูกมัดมือมัดเท้าจนไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองได้แบบนี้น่ะ”
“ฆ่าฉัน แจวอน”
“เกลียดฉันมากขนาดนั้นสินะ อยู่มองหน้าฉันต่ออีกหน่อยสิ นายจะได้เข้าใจถึงการอยู่กับสิ่งที่รังเกียจสุดหัวใจยังไงล่ะ คิมจินอู”
มือใหญ่ออกแรงบีบที่มากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะส่งริมฝีปากมาแบ่งปันความเจ็บปวดอย่างรุนแรงให้ แจวอนบดเบียดมันลงไปอย่างรวดเร็วและไม่ปราณีในการแย่งชิงห้วงลมหายใจของจินอูมา จนต่างคนต่างรับรู้ได้ถึงรสชาติฝาดเฝื่อนจากภายในโพรงปากที่แยกไม่ออกว่ามันมาจากใครกันน่...จนหัวสมองเริ่มขาวโพลน...
“อึก”
จินอูรู้สึกโล่งที่ขึ้นที่แจวอนยอมถอนริมฝีปากออกไปในเพียงเสี้ยววินาทีที่จะช่วงชิงลมหายใจสุดท้ายของเขาไปได้เพียงรสจูบที่ทรมานและยาวนาน
“นายมันขยะ จินอู”
ไม่รู้ว่ามันเป็นคำตัดพ้อของแจวอนรึเปล่า แต่คนที่ถูกด่าว่าแบบนั้นกลับได้ยินมันชัดเจน สายตามองตามคนที่เดินออกไป แล้วละไปมองรอบๆ ห้องอีกครั้ง
...ที่นี่ไม่มีใครนอกจากเขาและแจวอน จากห้องที่เคยสะอาดเพราะได้รับการดูแลทุกวัน ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องที่ไม่น่าพิสมัยที่จะอาศัยอยู่...
มันเปลี่ยนไปเยอะมาก
จากตอนที่เขาเคยอยู่
แต่ถึงที่นี่มันจะอยู่ในสภาพที่ดี
เขาก็ไม่อยากอยู่แม้สักวินาทีเดียว!
มือสองข้างเริ่มขยับไปมาอีกครั้งโดยเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดใดๆ ที่เกิดจากแรงเสียดสี พยายามทำให้เชือกคลายตัวออก แต่แจวอนก็คือแจวอน คนที่รู้จักเขาดีมากที่สุด วิธีการมัดเชือกมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เขาจะแก้ออกไปเพียงไม่กี่วินาที ซ้ำบาดแผลที่เกิดขึ้นรอบข้อมือก็ช่วยส่งผลให้เรี่ยวแรงเริ่มหายไปอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าจะให้หลุดจากเชือกนั่นก็มีแค่ทางเดียว...ตัดมือตัดขาของนายไง สนใจไหม” น้ำเสียงนิ่งๆ ที่ดังมาพร้อมเจ้าของเสียงที่ในมือถือกล่องข้าวมาด้วย แจวอนโยนกล่องโฟมนั้นลงบนโต๊ะไม้ผุๆ ที่อยู่ข้างเขา ทำให้เห็นว่าบนโต๊ะนั่นเต็มไปด้วยรูปแอบถ่ายในเวลาต่างๆ
นี่ไม่ใช่ฝีมือของการถ่ายรูปของแจวอนแน่นอน เพราะอีกฝ่ายไม่ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว คงเป็นเรื่องจริงที่แจวอนถูกใช้งานจากบอส รวมถึงคำสั่งห้ามฆ่านั่นก็คงจะเป็นเรื่องจริง และเมื่อคิดไปถึงเรื่องตอนที่ไปพาตัวเขามาที่นี่โดยไม่มีบาดแผลใดๆ กลับมาจากคนของมินโฮ...ก็สมกับที่เป็นจองแจวอนแล้วล่ะ
จินอูเลื่อนสายตาจากกองรูปภาพไปมองแจวอนที่ลากเก้าอี้เข้ามาใกล้ และหยุดมันตรงหน้าเขาที่ห่างเพียงแค่นิดเดียวแล้วนั่งลง มือเอื้อมไปหยิบกล่องโฟมนั่นขึ้นมาเปิดออก จินอูมองดูการกระทำของแจวอนเงียบๆ แล้วฝ่ายนั้นก็เป็นคนที่ตักข้าวเต็มช้อนมาจ่อที่ปากของเขา
“คิดว่าฉันจะแก้มัดให้นายกินข้าวด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ นายมันไม่ได้น่าไว้ใจขนาดนั้น กินเข้าไป ก่อนที่นายจะไม่ได้กินอะไรอีกเลย”
แจวอนพยายามเปิดปากเขาด้วยการยัดช้อนที่มีข้าวพูนเต็มเข้ามา จนในที่สุดก็ต้องเปิดรับมันเข้าไป แล้วสำลักจนไอออกมา
ไร้ซึ่งการหยิบยื่นน้ำมาให้
มันก็สมควรที่จะเป็นอย่างนั้น
แจวอนยังคงตักข้าวมาให้จินอูเรื่อยๆ ปราศจากการพูดจาถากถาง ปราศจากเสียงต่อล้อต่อเถียงอย่างที่เป็นมา ราวกับต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดตัวเอง...จนข้าวหมดกล่อง
“ก็ดูเหมือนยังอยากมีชีวิตอยู่นี่ หึ”
เพียงเท่านั้นก็เก็บทุกอย่างแล้วเดินจากไป
แต่เพียงแค่จินอูขยับมืออีกเพื่อที่จะพยายามแก้เชือกที่แสนอึดอัดออก แจวอนก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมขวดน้ำในมือ นัยน์ตาที่บางครั้งก็นิ่งและแข็งกร้าวกลับมองมาด้วยความสมเพช บีบคางจินอูให้เปิดปากออกแล้วกรอกน้ำลงไป แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่วิธีการดื่มน้ำของจินอู ผลลัพธ์ที่ได้คือสำลึกน้ำจนเกือบขาดอากาศหายใจ
“แค่กๆๆๆ”
“เข้าใกล้ความตายหลายครั้งเลยนะวันนี้”
แล้วแจวอนก็เดินกลับไปอีกครั้ง ทิ้งให้คนที่สำลักน้ำไอไม่หยุดอยู่อย่างนั้น พลางนึกไปถึงคนรักปัจจุบันของตัวเองที่ยังคงเงียบข่าว
“แค่กๆ ซงมินโฮ ถ้านายไม่มาช่วยฉัน ครั้งนี้...ก็ปล่อยให้ฉันตายไปเถอะ”
ทั้งๆ ที่เคยลืมความรู้สึกพวกนี้ได้แล้วแท้ๆ
ทำไมเขาต้องกลับมาเจออะไรกับเรื่องพวกนี้อีก
โครม!!!!!
“กูบอกแล้วใช่ไหม ถ้าพวกมึงหาไม่เจอก็ไม่ต้องกลับมา!!!!!!”
พลั่ก!!!!!! โครม!!!!!!
“ออกไปตามหาสิวะ!!!!!!” เสียงคำรามของมินโฮดังลั่นจนคนในปกครองสามสี่คนที่ยืนก้มหน้ารายงานความคืบหน้าในการตามหาคนรักของนายใหญ่ต้องพากันรีบหันหลังกลับวิ่งออกไป พร้อมกับปิดประตูห้องลงอย่างรวดเร็ว สภาพห้องตอนนี้กระจายไปด้วยข้าวของและเอกสารปลิวว่อน
“มึงห้ามมีความคิดที่จะไม่ไปเซ็นสัญญาวันมะรืนเพื่อแลกกับตัวจินอูเด็ดขาดนะ ซงมินโฮ” ฮยอนแทที่มองดูเพื่อนลงอารมณ์ใส่ลูกน้องด้วยท่าทีเฉยเมยเหมือนเป็นเรื่องปกติก็พูดออกมา หลังจากที่เพื่อนรักลงแรงทุบโต๊ะทำงานของตัวเองไปปึกใหญ่
“ถ้าค้นหาตัวจินอูไม่เจอ กู...”
“มึงห้ามพูดเด็ดขาดว่ามึงจะทำแน่”
“กูจะทำ!!! จินอูคือชีวิตของกู!!!!”
“มึงอย่าโง่ไปหน่อยเลย! ถ้ามึงถอนตัวออกจากแก๊งเพราะคนแค่คนเดียว มันจะไม่ใช่แค่เงินที่มึงจะไม่ได้ แม้แต่วิญญาณมึงก็จะไม่มีทางได้เอาไปเสพสุขกับจินอูอีกแน่!!!!”
“มึงก็หาให้เจอสิวะ!!! แก๊งนี้ใหญ่นักไม่ใช่เหรอ!!! ทำไมยังหาไม่เจออีก!!!!”
“นี่มันยัง 24 ชั่วโมงเลยนะ”
“แล้วทำไมต้องรอให้เวลามันเดินไปขนาดนั้นด้วยวะ!!!!!”
“กูว่ามึงใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าไหม กูว่ามึงรู้จักจินอูดีว่าจินอูฉลาดแค่ไหน เผลอๆ กูว่าในเวลานี้จินอูอาจจะฉลาดและมีสติมากกว่ามึงด้วยซ้ำ” ฮยอนแทมองมินโฮด้วยแววตาสมเพชที่ในหัวตอนนี้ถูกความตื่นตระหนกครอบงำไว้หมด จนมองไม่เห็นอะไรและพาลทำให้คิดอะไรตื่นๆ ออกมาอีกด้วย
มินโฮทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ของตัวเอง รู้สึกหมดแรงไปซะดื้อๆ แทนที่จะพูดออกไปว่าเสร็จงานแล้วจะรีบไปรับ เขาน่าจะละจากงานแล้วรีบไปรับจินอูมากกว่า เขาน่าจะทำแบบนั้น
“กูเชื่อยังไงจินอูก็จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
ความเงียบงันเข้าปกคลุมที่แห่งนี้เช่นทุกวัน ทั้งๆ ที่มีผู้ร่วมใช้อากาศหายใจในห้องเดียวกันด้วยอีกหนึ่งคนแท้ๆ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แจวอนนอนมองคนสิ้นฤทธิ์อยู่บนเตียงด้านหลังของจินอู ทั้งมือและขาสองข้างที่คอยขยับบิดไปมาอยู่ร่วมสองชั่วโมงก็นิ่งไป เลือดสีเข้มที่ไหลตัดกับสีผิวหยดลงบนพื้นช่วยเคลือบรอยเลือดเก่าที่แห้งกรังไว้ เขารู้ว่าจินอูยังไม่หลับแม้ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะไม่ไหวติ่งแล้ว
แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาก็จะไม่สามารถนอนหลับได้ในคืนนี้เช่นกัน เพราะคนอย่างจินอู...ไม่ควรไว้ใจอีกเป็นครั้งที่สองจะดีกว่า
ความสว่างเข้ามาแทนที่ความมืดมิด แจวอนตัดสินใจลุกขึ้นไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเมื่อจินอูยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิมทั้งคืน จนกระทั่งเดินออกมาอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีที่จะขยับตัว แจวอนรีบใส่เสื้อผ้าซึ่งขณะนั้นมีอีกหนึ่งคนเปิดประตูห้องและเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
แจวอนถึงได้เห็นจินอูขยับตัว
“กูเอาข้าวกับเสื้อผ้ามาให้ตัวประก...โอ้โห่ มึงนี่ ทำไมไม่ดูแลเขาให้ดีๆ วะ” ฮันบยอลเห็นสภาพของจินอูก็อดไม่ได้ที่จะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็พบรอยเลือดไหลเป็นทางเปรอะอยู่บนรองเท้า
“ถึงเป็นตัวประกันก็ต้องเอาไปคืนเจ้าของนะเว้ย”
“มึงหุบปากมั่งเหอะ” แจวอนมองตาขวางใส่ ฮันบยอลจิ๊ปากแล้วเดินไปนั่งยองๆ ตรงหน้าจินอูที่สภาพตอนนี้ดูไม่ได้ ไม่ใช่แค่ข้อมือหรือข้อเท้า แต่ใบหน้าก็ยังดูซีดเซียว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความถือตัว
“พรุ่งนี้ซงมินโฮจะต้องยกเลิกการเซ็นสัญญารวมตัวกับซอแท เพื่อแลกกับตัวนาย นายคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ คิมจินอู”
“...”
“ได้ยินมาว่าซงมินโฮรักนายมากนี่” สิ้นคำพูดก็ปรายตาไปมองเจ้าของบ้านที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลังจินอู ก่อนจะแค่นหัวเราะ
“...”
“เอาเป็นว่าเรื่องพรุ่งนี้ก็ส่วนเรื่องพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้ามันไม่ทำตามข้อตกลงก็แค่ฆ่านายเท่านั้น ตอนนี้นายก็ยังเป็นตัวประกันที่เราต้องดูแลให้ดีอยู่” ว่าไปก็เดินไปปลดเชือกที่มัดมือขาวพาดไว้ด้านหลัง ก่อนจะเดินอ้อมกลับมาแก้เชือกที่มัดข้อเท้าเอาไว้
“กูว่ามึงควรที่จะรีบทำแผลให้เขานะ ก่อนที่มันจะติดเชื้อโรคไปมากกว่านี้จนต้องตัดแขนตัดขาทิ้ง” เมื่อแก้เชือกให้คนนั่งนิ่งอยู่เรียบร้อยก็ลุกเดินถอยหลังไปยืนมองปฏิกิริยาของจินอูและแจวอนห่างๆ
ถึงอย่างนั้นคนที่สิ้นฤทธิ์ไปแล้วกลับกัดฟันลุกขึ้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้าประตูบ้าน
หมับ!!!
แจวอนวิ่งมากระชากข้อมือของจินอูอย่างแรง จนคนที่ขาอ่อนแรงเกือบทรุดตัวลงไป แต่คนกระชากก็รับไว้ได้ทัน จินอูหอบหายใจหนักอยู่ในอ้อมแขนของอีกคนพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ปากถูกฟันกัดเพื่อให้ตัวเองอดทนจนเลือดไหลออกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
“สำหรับนาย...ตัดแขนตัดขาไปเลยน่าจะดีที่สุดนะ”
---------------------------------------------------------------------
มาลงแล้วค่า อาจจะไม่เหมือนกับที่รีดเดอร์วาดภาพไว้กัน 5555
แต่เราตั้งใจแต่งเลยน้า หัวมุนกับพล็อตเรื่องนี้มาก
ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้น และรอพาร์ทต่อไปด้วยนะคะ อาจจะเป็นพาร์ทจบ
และวันนี้ 20150808 เห็นว่าจีพัลทีมขนลูกทีมไปคอนเอพิคไฮ ของเฮียโบล
มีทั้งมิ ดัพ น้องวัน รวมถึงสมาชิกวินเนอร์ แต่!!!!
คิมจินอูติดถ่ายละคร!!!!!! กรี๊ดดดดดดดด
นี่น้ำตาแทบไหล คือแบบ...ทำไมต้องถ่ายวันนี้อ่ะจินอู
อยากให้จินอูเจอกับน้องวันอ่า ฮือออออ #หัวใจขี้ชิปแตกสลาย
นี่เลยรีบมาลงฟิควอนอู เพื่อดับความโศกาในใจ T^T
ความคิดเห็น