คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [ตอนที่5] คู่กัด
เสียงฟ้าร้อง และเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาทำให้แซนด์ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบใต้ชายคา เขาเพิ่งลงจากรถเมล์ และฝนก็ตกพอดี เด็กหนุ่มนึกเสียใจที่เขาลืมหยิบร่มออกมา เขาเร่งก้าวไปตามพื้นฟุตบาทบริเวณที่มีชายคาคุ้มหัวเพื่อไปให้ถึงร้าน
ฝนสาดลงมาราวกับเทน้ำ แซนด์วิ่งไปถึงร้านในสภาพเปียกไปครึ่งตัว ขณะที่ยืนหอบแฮ่กๆ อยู่นั้น ร่างสูงโย่งก็วิ่งเข้ามา
“จะตกก็ไม่มีบอกล่วงหน้าเลย”
ฟิวพูด ตัวเปียกมะล่อกมะแลก เขาใช้มือปัดผมสีน้ำตาลที่เปียกน้ำจนปิดหน้าออก และยืนหอบหายใจเช่นกัน สงสัยว่าหมอนี่จะวิ่งฝ่าฝนมาโต้งๆ โดยไม่เข้าใต้ชายคาแน่ๆ
“ถ้ายังไม่เข้าไปในร้านก็หลีก”
เสียงเรียบๆ ของใครบางคนดังขึ้น สไตล์การพูดดุๆ แบบนี้คงมีคนเดียวเท่านั้น ฮงเดินเข้ามาพร้อมกับร่มสีฟ้า ทำให้เขาดูมีการเตรียมตัวที่สุดในหมู่คนทั้งหมดที่มายืนออกันหน้าร้าน
“ขอเวลาหายใจหน่อยสิ”
ฟิวว่า และหันไปมองฮง
“อื้อหือ คุณชายพกร่ม”
“ดีกว่าโง่ไม่พกมาแล้วกัน”
อีกฝ่ายว่า พลางหุบร่ม แซนด์กลืนน้ำลาย ตกลงฮงหลอกด่าเขาด้วยรึเปล่าเนี่ย แล้วก็เหมือนแกล้ง อยู่ๆ ลมก็พัดแรงขึ้นจนฝนสาดเข้ามาในชายคา
“เท่านี้ก็เปียกเท่ากันแล้ว”
ฟิวว่า และหัวเราะ ฮงยกมือขึ้นเช็ดหน้าที่เปียกไปครึ่งหนึ่ง และเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้าออก หนุ่มหน้าตี๋ไม่ตอบโต้ เขาหันหน้าและมุดเข้าไปในร้าน
โป๊ก!!
เสียงชนดังขึ้น เพราะประตูเหล็กม้วนที่แง้มอยู่น้อยกว่าทุกวัน สงสัยพี่ฟ้าเองก็คงรู้ว่าฝนจะตกล่ะมั้ง ฟิวหัวเราะก๊ากและมุดตามเข้าไป
โป๊ก!!!
เสียงโขกดังกว่าอย่างเห็นได้ชัด แซนด์กลืนน้ำลาย และมุดตามเข้าไปโดยพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด ตอนนี้ทั้งสามคนแออัดกันอยู่ในช่องว่างแคบๆ ของประตูเหล็กและประตูร้าน
“เปิดประตูสิ”
ฟิวว่า เมื่อเห็นฮงยังยืนนิ่ง เจ้าหนุ่มหน้าตี๋ยกมือเช็ดน้ำบนหน้าอีกรอบ และส่งเสียงตอบเรียบๆ
“มันล็อก..”
“เฮ้ย จริง?”
ฟิวถามอย่างไม่เชื่อ และพยายามเบียดตัวไปลองเปิด
“บอกว่าล็อกก็ล็อกสิ”
ฮงพูดอย่างรำคาญ แซนด์รู้สึกถึงเม็ดฝนที่สาดมากระทบขา อีกสองคนคงรู้สึกเหมือนกัน ทั้งสามจึงยังต้องยืนเบียดกันต่อในช่องแคบๆ
“สงสัยพี่ฟ้าไปข้างนอก”
ฟิวเอ่ย หลังจากดันทุกรังเบียดไปลองเปิดประตูจนได้ ฮงหน้าหงิก ตอนที่ร่างสูงเบียดกลับเข้ามา
“จะไปนานรึเปล่าเนี่ย”
แซนด์ว่า ขาเริ่มเปียกจนรู้สึกได้ถึงน้ำที่ท่วมอยู่ในรองเท้าผ้าใบ ฟิวสั่นหัว
“ไม่รู้ ทำไมถึงไม่ไปเวลาอื่นเนี่ย ดันไม่อยู่ตอนฝนตกพอดี”
หนุ่มผิวสีแทนบ่น
“นายหุบปากสักวินาทีไม่เป็นหรือไง”
ฮงพูดสวนขึ้นมา ทำเอาแซนด์สยองวูบ เกือบลืมไปเลยว่าสองคนนี้ไม่ค่อยถูกกัน
“พูดมากแล้วมันไปหนักส่วนไหนของนายหรือไง”
ฟิวตอบโต้ทันที
“มันน่ารำคาญ”
ฮงว่า ฟิวทำเสียงฮึดฮัด
“ไม่อยากฟังก็เอามืออุดหูไปสิ ก็คนจะพูด เออ แซนด์ ซื้อไรมากินรึเปล่าวันนี้”
ฟิวหันมาหาพวก แซนด์ส่ายหน้า
“ไม่อ่ะ ก็ฝนมันตก แวะซื้อไม่ทัน”
“แถวหอที่นายอยู่ไม่มีอะไรขายเลยหรือไง”
“ตอนกลางวันไม่ค่อยมีหรอก หายาก”
เด็กหนุ่มตอบ และคิดว่าน้ำกำลังจะท่วมขา
“ดูกันดานจัง งั้นวันนี้ก็ขาดคนหิ้วของกินไปคนนึงอ่ะดิ”
“ฮงน่าจะเอามานะ”
แซนด์ตั้งข้อสังเกต เพราะบางทีเขาก็เห็นฮงถืออะไรติดไม้ติดมือมาเหมือนกัน แม้จะนานๆ หนก็เถอะ
“ไอ้ตี๋นี่ไม่เอามาหรอก ต้องรอพี่เชษฐ์โทรไปสั่ง”
“งั้นอย่ากินแล้วกัน”
เสียงฮงพึมพำ
“เอามาหรือไง”
ฟิวถามกลับ ฮงยักไหล่
“ไม่ได้เอามาเผื่อนาย”
เขาว่า หนุ่มร่างสูงทำเสียงขึ้นจมูก
“งั้นก็อย่ามากินของฉันแล้วกัน”
แซนด์ภาวนาให้ทั้งคู่อย่าถึงขั้นวางมวยกัน แค่ติดอยู่ในที่แคบๆ แบบนี้ก็แย่พอแล้ว ถ้าสองหน่อดันทะเลาะกันอีก คงดูไม่จืดแน่ๆ
ฟ้ากลับมาตอนฝนซา เจ้าหล่อนทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นสามหนุ่มยืนเบียดกันอยู่หน้าร้าน ดูเหมือนไม่รู้ว่าจะขำหรือจะสงสารดี ทั้งหมดเดินเข้ามาในร้านพร้อมด้วยน้ำเปียกเป็นทางหลังจากฟ้าเปิดประตูให้
“เปียกเป็นลูกหมา”
เธอว่า และไล่ทั้งหมดขึ้นไปข้างบน
“อาบน้ำเลยไป๊ เดี๋ยวขึ้นไปเอาผ้าเช็ดตัวให้”
สามคนหันมามองหน้ากัน
“ใครจะอาบก่อน”
ฟิวถามขึ้นคนแรก แซนด์มองหน้าทั้งสอง
“ข้างบนมีอีกห้องนี่”
“ด้านบนน้ำไม่ไหล”
ฮงตอบ ทั้งสามคนมองหน้ากันอีกครั้ง
“โอน้อยออกแล้วกัน”
ฟิวว่า และเสียงฟ้าก็แทรกขึ้น
“โอ๊ย อาบๆ มันไปพร้อมกันเลย จะอะไรนักหนาเนี่ย เป็นเด็กแย่งของเล่นหรือไง?”
“ให้อาบรวมกันเลยเรอะ!!”
เสียงฮงกับฟิวดังขึ้นพร้อมกัน ฟ้ามองหน้าเหมือนจะถามว่ามันแปลกมากหรือไง
“แล้วพวกเธอจะเกี่ยงกันแล้วยืนให้พื้นเปียกงี้หรอ เข้าไปสามคนเลยนั่นแหละ จะอายอะไร ตอนเรียนรอดอก็อาบรวมไม่ใช่หรือไง”
“แต่ว่า...”
ฮงทำท่าจะเถียง แต่โดนแย่งพูดไปก่อน
“ไม่แต่... ผู้หญิงยังอาบด้วยกันได้เลย เดี๋ยวพี่ขึ้นไปหาผ้าเช็ดตัวมาให้ ถ้าลงมาใครยังยืนอยู่ล่ะก็... จะให้ถูพื้นไปทั้งอาทิตย์”
ฟ้าพูด และเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้สามหนุ่มยืนมองหน้ากัน
“อาบก็อาบ”
ฟิวว่า และเดินเข้าห้องน้ำ
“ใครไม่มาจู๋เล็ก”
ร่างสูงว่า ทำเอาอีกสองคนหันขวับไปทันที และรีบเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ
แซนด์เอาเสื้อผ้าที่เปียกพาดเข้ากับราวพาดผ้าในห้องน้ำ พอเดินเข้ามาสามคนพร้อมกันแล้ว ห้องน้ำยิ่งแคบเข้าไปอีก ฮงเดินเข้ามาพาดด้วย เสื้อผ้าของเขาเปียกน้อยที่สุด ฟิวถอดเสร็จคนสุดท้าย เพราะเสื้อเขาเปียกกว่าคนอื่น และพาดมันลงบนเสื้อของฮงพอดี
“เฮ้ย นายพาดทับเสื้อฉัน”
ฮงโวยวาย และดึงเสื้อฟิวออก
“โอ๊ย ก็เปียกเหมือนกันนั่นแหละ”
“ของฉันไม่เปียก”
หนุ่มหน้าตี๋เถียง และเอาเสื้อเปียกๆ นั่นพาดทับเสื้อแซนด์แทน แซนด์กระพริบตาปริบๆ และปลอบใจตัวเองว่าเสื้อเขาก็คงเปียกพอๆ กับเสื้อฟิวนั่นแหละ
ฮงเบียดคนทั้งคู่ออกไปเปิดฝักบัว แซนด์พยายามจะนึกว่ามันก็เหมือนกับที่เรียนรอดอนั่นแหละ แต่ว่าตอนนั้นมันยังมีกางเกงในให้ใส่ตอนอาบน้ำนี่นา
“ห้ามดู”
ฮงส่งเสียงดุ ขณะเดินเข้าไปใต้ฝักบัว ฟิวยักไหล่
“ทำไม ของนายเล็กหรือไง?”
“ใหญ่กว่าของนายแล้วกัน”
ฮงพูด และถลึงตามองอีกฝ่าย
“งั้นหรอ แต่ดูแล้วก็ไม่เห็นจะใหญ่กว่าตรงไหน”
แซนด์เดินไปแถวๆ อ่างล้างมือ และเอื้อมมือไปหยิบขันที่อยู่ในถังน้ำข้างๆ กรณีนี้เขาบังของตัวเองเอาไว้น่าจะดีกว่า แล้วเสียงเคาะประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น
“พี่ฟ้าเอาผ้าเช็ดตัวมาให้แน่ แซนด์ไปหยิบมาที”
ฟิวว่า ขณะพยายามจะเบียดฮงเข้าไปอาบน้ำบ้าง แซนด์เดินไปเปิดประตู
“เฮ้ย แง้มนิดเดียวก็พอ”
เสียงฟ้าโวยวาย แซนด์รีบปิดประตูทันที ก่อนจะแง้มประตูใหม่ และยื่นแค่มือออกไปรับผ้าเช็ดตัวเข้ามา หันกลับไปอีกทีเห็นสองคนกำลังแย่งฝักบัวกันอยู่
“จริงๆ ผลัดกันอาบก็ได้”
เด็กหนุ่มพยายามช่วยแยกคู่ ด้วยกลัวว่าสองคนจะจบศึกแย่งฝักบัวลงด้วยกำปั้น
“แล้วใครจะอาบก่อน”
ฟิวถาม แซนด์มองหน้าทั้งคู่
“ผมก็ได้ ก็ผมยังไม่ได้อาบเลยนี่”
สองหนุ่มเงียบไปพักหนึ่ง และส่งฝักบัวให้แซนด์
“ไอ้ขันน้ำน่ะ วางก็ได้นะ”
ฮงพูด แซนด์หัวเราะแหะๆ
“ของผมไม่ใหญ่หรอกนะ”
เขาว่า ฮงยกมือกุมหัว
“ไม่ได้อยากดู แต่มันช้า มีสองมือจะได้รีบๆ อาบ”
แซนด์จึงเอาขันน้ำไปเก็บ และเอาฝักบัวราดหัว เขาเห็นสองคนยืนรออย่างตั้งใจ
“อย่ายืนกดดันกันอย่างนั้นสิครับ”
เขาว่า แต่พอเห็นสายตาของฮงที่มองมาก็ทำให้ต้องรีบหันหลังกลับไปอาบทันที
หลังจากฝ่าวิกฤตฝักบัวมาได้ สามหนุ่มก็เจอปัญหาใหม่ เมื่อพบว่ามีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“พี่ฟ้าไม่มีผ้าเช็ดตัวแล้วหรอ?”
ฟิวตะโกนถาม เสียงฟ้าดังลอดเข้ามา
“อีกฝืนนึงพี่ใช้”
“อ่อ”
หนุ่มผิวสีแทนว่า และหันไปมองแซนด์
“ให้ไอ่เปี๊ยกนี่ใช้ก่อนแล้วกัน สงสาร”
ฮงพยักหน้า นานๆ คู่นี้จะมีความเห็นตรงกัน แซนด์รับผ้าเช็ดตัวมาและนึกในใจว่า ไอ้คำว่าเปี๊ยกนี่ เรียกเปรียบเทียบอะไรรึเปล่านะ....
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบ
“เอ้อ เปิดที พี่เอาเสื้อมาให้เปลี่ยน ถ้าแก้ผ้ากันอยู่ก็แง้มๆ พอนะ ไม่ต้องเปิดโชว์”
“ครับๆ”
แซนด์ว่า นึกอายนิดๆ ก่อนจะแง้มประตูเอื้อมมือไปเอาเสื้อ
“ทำอะไรกันตั้งนาน”
หญิงสาวบ่น เมื่อทั้งสามออกมาจากห้องน้ำแล้ว แซนด์รู้สึกข้างล่างโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก เขาหันไปมองหน้าฮงที่ยิ่งกว่าบอกบุญไม่รับ
“เสื้อเปียกอ่ะ ทิ้งไว้ในห้องน้ำนั่นแหละ เดี๋ยวส่งซักให้ แล้วฮงเป็นอะไร ทำไมทำหน้างั้น”
“อ่อ คือกางเกงในมันเปียก”
ฟิวช่วยตอบแทนให้ ฟ้าขมวดคิ้วทันที
“นี่พวกเธออาบน้ำไม่ถอดกางเกงในหรือไง”
สามคนสั่นศีรษะพร้อมกัน
“ไอ้ฟิวมันเอาเสื้อเปียกวางทับ เลยเปียกหมด”
ฮงตอบในที่สุด
“เวรกรรม”
ฟ้าอุทานออกมา และหันไปมองสามคนอีกรอบ
“แล้วตกลงนี่ใส่กางเกงในกันรึเปล่าเนี่ย?”
สามคนส่ายหน้าพร้อมกันอีกครั้ง
“ออกไปซื้อเซเว่นไป!!”
หญิงสาวเอ่ยปากไล่ สามคนมองหน้ากัน
“เซเว่นมีกางเกงในด้วยหรอพี่”
“มีสิ”
“แล้วถ้าไม่มีล่ะ?”
ฟิวถามย้อน ฟ้าทำหน้าเหมือนโลกจะแตก
“ถ้าไม่มีก็ยืนกันทั้งโล่งๆ แบบนั้นแหละ!!”
หล่อนว่า และไล่ให้ทั้งสามคนออกไป
“ออกไปซื้อด้วยกันเลย เดี๋ยวเกี่ยงกันอีก!!”
-----------------------------
“ไง ได้ข่าวว่าวันนี้เป็นลูกหมาตกน้ำกันหรอ”
ก้องเอ่ยปากทัก เขาเพิ่งมาถึงร้านก่อนจะเปิดไม่กี่นาที หลังเชษฐ์ไม่นานนัก แซนด์พยักหน้า
“บ้านพี่ฝนตกหนักมาก เลยรอให้ซาก่อน”
เชษฐ์ว่า เขาเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว และกำลังเดินไปเรียกเก้าอี้ให้เข้าที่
“จริงๆ ก็เห็นอยู่ว่ามืดฝน ก็เลยกะว่ารอให้ตกให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมา”
ก้องพูดต่อ และหยิบขนมปังกรอบส่งให้แซนด์
“สรุปว่าร้านเรามีมนุษย์มดดำสองคน ที่รู้ว่าฝนจะตกตอนไหน”
ฟ้าว่า หล่อนกำลังเตรียมของที่บาร์ ก้องทำหน้าย่น
“ทำไมพูดแล้วนึกถึงมดดำที่เป็ยเกย์ฟ่ะ”
หนุ่มผมสองสีรำพึง แซนด์รับขนมปังกรอบมากัด และนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ฟิวกับฮงนี่ไม่ถูกกันนานแล้วหรอครับ?”
“ตั้งแต่เข้ามาทำงานก็เห็นมันกัดกันแง่งๆ แล้วล่ะ”
ก้องว่า หยิบขนมปังกรอบชิ้นสุดท้ายมากัด และพูดต่อ
“รู้สึกว่าตอนที่สองคนนั่นเจอกันวันแรก ฮงมันเกิดไปพูดอะไรไม่เข้าหูฟิวเข้า ทำนองว่าโง่หรืออะไรแบบนั้นล่ะมั้ง”
แซนด์นึกถึงตอนที่ติดฝนอยู่ใต้ชายคาทันที
“ฮงน่ะ เห็นมันเงียบๆ แบบนั้นเหอะ จริงๆ เป็นพวกหมาฝังลึกเข้าไปในปาก บทจะปล่อยหมาออกมาทีนี่ กัดคนตายทั้งซอย”
“ขนาดนั้นเลยนะครับ”
ก้องพยักหน้าหงึกหงัก และหันไปมองทั้งคู่กัดที่แยกกันเช็ดกระจกหน้าร้านที่ทำเปียกเอาไว้
“แต่จริงๆ แล้วบางเรื่องสองคนนั่นก็เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยล่ะ ว่าแต่ทำไมเธอถึงไม่ไปช่วยเช็ดกระจกด้วยล่ะ”
ก้องถามอย่างสงสัย แซนด์หัวเราะแหะๆ
“ผมทำอย่างอื่นไปแล้วน่ะ”
เด็กหนุ่มตอบ และภาวนาให้อีกฝ่ายไม่ถามต่อว่าไปทำอะไร เขาถูกฟิวกับฮงใช้ให้ออกไปหาซื้อกางเกงใน แลกกับไม่ต้องเช็ดกระจก ดูเหมือนก้องจะไม่ได้ติดใจอะไรมาก หนุ่มเจ้าสำอางเดินเอาซองขนมปังไปทิ้ง และแวะคุยกับฟ้าที่เคาท์เตอร์บาร์
วันนี้ลูกค้าบางตากว่าปกติ คงเป็นเพราะฝนที่ยังคงตกลงมาเรื่อยๆ แม้จะไม่แรงเท่าช่วงกลางวัน แต่ก็ทำให้ผู้คนไม่อยากออกจากบ้านเท่าไหร่นัก แซนด์ยืนหาว ขณะมองดูก้องเปลี่ยนโต๊ะ แม้ว่าจะมีลูกค้าน้อย แต่หนุ่มผมสองสีคนที่ก็ยังได้รับความนิยมมากที่สุด ท่าทางเขาจะเกิดมาเพื่อทำอาชีพแบบนี้จริงๆ
“พี่ฟ้าบอกว่า ถ้าจะยืนหาวล่ะก็เอามือปิดปากบ้าง เดี๋ยวลูกค้ายิ่งหด”
ฟิวที่เพิ่งเอาถาดเครื่องดื่มไปส่งลูกค้าแวะเดินมาบอก แซนด์รีบพยักหน้าหงึกหงัก และไม่กล้าหาวอีก เขาเห็นฮงเดินนำลูกค้าผู้ชายกลุ่มหนึ่งไปที่โต๊ะ แซนด์นึกแปลกใจที่เห็นฮงมีลูกค้าผู้ชาย แถมยังดูเป็นพวกเด็กวัยรุ่นสุดเฮี้ยวอีกด้วย แล้วความสนใจของเขาก็ถูกเปลี่ยน เมื่อเสียงกระดิ่งเรียกให้ไปรับอาหารจากครัวดังขึ้น
ฮงวางเมนูลงตรงหน้าลูกค้า มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ลูกค้ากลุ่มนี้เดินเข้ามาตอนที่เขายืนหน้าร้านพอดี
“ที่นี่มีอะไรแรงๆ บ้างม่ะ?”
หนึ่งในนั่นเอ่ยขึ้นโดยที่ยังไม่ได้เปิดเมนู ฮงส่ายหน้า
“ร้านนี้ไม่ขายเหล้าหรือไง”
“ขาย แต่ไม่มีแบบที่คุณว่า”
“มีแต่เหล้าต๊อกหรือไง”
เจ้าหนุ่มย้อมผมสีทองพูด และหันไปหัวเราะกับเพื่อนอีกสามคน
“กรุณาเปิดสั่งจากเมนู”
ฮงตอบ เจ้าหนุ่มหัวทองที่ดูจะเป็นหัวโจกของกลุ่มเหล่ตามองเขานิดหนึ่ง และเปิดเมนู
“เออ เอาวอดก้ามา”
เขาสั่ง ฮงทำท่าจะอ้าปาก แต่ก็เปลี่ยนเป็นเงียบเอาไว้ ครั้นจะถามไอ้พวกเด็กนี่ว่าเคยดื่มมาก่อนรึเปล่าคงได้รับคำตอบที่ชวนฝ่าเท้าขยับ
“อย่างอื่นล่ะครับ”
หนุ่มหน้าตี๋ถาม สี่หนุ่มช่วยกันเปิดเมนูอีกรอบ
“เอาเบค่อนรมควันอบชีส กับน่องไก่ราดซอสต้นตำหรับ”
“อย่างอื่นล่ะครับ?”
ฮงถาม และมองหน้าที่เหลืออีกสองคน ทั้งคู่ยักไหล่
“เอามาลองแค่นี้ก่อนแล้วกัน ก็แค่หลบฝน”
เจ้าหนุ่มหัวสีแดงอีกคนหนึ่งว่า หนุ่มหน้าตี๋พยักหน้าและเดินออกไป
“โห..ใครสั่งวอดก้าเนี่ย?”
ฟ้าถามทันทีที่เห็นใบรายการ เนื่องจากลูกค้าน้อย เครื่องดื่มที่สั่งมาจึงแทบจะได้ในทันทีทุกคน ฮงยักไหล่ และพยักเพยิดให้ผู้เป็นเจ้าของร้านดู
“อ้อ... ไอ้พวกป่วนเมืองหนีน้ำท่วม”
ฟ้าว่า เทวอดก้าลงในแก้ว และส่งให้ฮง
“ฝากบอกด้วยว่า ห้ามอ๊วกในร้านฉัน”
หนุ่มหน้าตี๋หัวเราะเหอะๆ แล้วเดินออกไป วางแก้ววอดก้าลงตรงหน้ากลุ่มลูกค้า เจ้าหนุ่มหัวสีทองหยิบแก้วขึ้นมาก่อนและหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสามคน
“รวดเดียว”
เขาว่า อีกคนทำตาถลน
“เฮ้ย นี่มันวอดก้านะเว่ย”
“มันก็เหมือนๆ กับเตกีล่านั่นแหละ”
เจ้าหัวทองว่า ที่เหลือจึงก้มลงมองแก้วใบเล็กๆ ที่บรรจุของเหลวใสเหมือนน้ำเปล่าเอาไว้ข้างใน บางคนหยิบมันขึ้นมาดม และเบือนหน้าหนี
“ใครไม่หมด อ่อน”
คนเริ่มว่า และนับหนึ่งถึงสาม คนที่ดมทำท่าไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ก็กลั้นใจยกขึ้นซดในวินาทีสุดท้าย
เสียงไอแค่กๆ ตามมาไม่นานนัก ฮงอมยิ้ม เมื่อเห็นสองในสามสำลัก
“ยิ้มไร? พวกแกก็ด้วย อ่อนกันจริง”
เจ้าหนุ่มผมทองถาม แม้จะไม่สำลักแต่ฤทธิ์วอดก้าทำให้หน้าของเขาแดงเถือก ความรู้สึกเหมือนกันกลืนไฟเข้าไปเลยทีเดียว
“เปล่า”
หนุ่มหน้าตี๋ว่า เขาตัดสินใจเก็บคำพูดที่ว่า “หัวเราะพวกโง่อยู่ไง” เอาไว้ในปาก เพราะถึงยังไงพวกนี้ก็เป็นลูกค้า ต่อให้ทำตัวงี่เง่าขนาดไหนก็คงต้องเก็บคำด่าเอาไว้ในใจ
“แล้วยังยืนอยู่ทำไม ว่างนักหรือไง”
หนุ่มผมสีทองเจ้าเดิมถาม หน้ายังแดงด้วยฤทธิ์เหล้า ส่วนอีกสองคนที่เหลือที่เพิ่งหยุดสำลัก นั้นชวนให้กลัวว่าจะอ๊วกคาร้านอย่างที่พี่ฟ้าว่ารึเปล่า
“ครับ”
ฮงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขากำลังคิดว่าดูไอ้เด็กพวกนี้ทำตัวโง่ๆ ก็คงสนุกดี ยังมีเวลาอีกสักพักกว่าอาหารจะมา
“หรอ จะว่าไปหน้าตานายนี่ดูกวนตีนนะเนี่ย ไอ้ตาตี่ๆ นั่นน่ะ เห็นแล้วอยากเตะให้คว่ำ”
เจ้าหนุ่มหัวทองว่า และหันไปถามเพื่อน
“พวกแกว่าไง เห็นแล้วนึกคันตีนกันมั่งแมะ?”
คนหนึ่งทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันว่าหน้าตามันก็ดีอยู่หรอกนะ เสียที่ว่าหน้ากวนตีนนี่แหละ”
เขาว่า ทั้งหมดหัวเราะครืน ฮงยืนเงียบ พยายามไม่ให้ปลายเท้าของเขาแกว่งไปโดนปากลูกค้าสี่คนนั่น
“แล้วนี่จะยืนจ้องกันไปอีกนานป่าว อยากโดนตีนหรือไง?”
“เปล่าครับ”
ฮงว่า และคิดว่าเขาอาจจะต้องรีบไปจากตรงนี้ ก่อนจะคุมสติไม่อยู่
“ดูดิ ขนาดพูดครับแล้วยังดูกวนตีนเลยว่ะ”
อีกคนหนึ่งพูด ท่าทางจะเริ่มเมาได้ที่
“นี่พี่ ที่นี่เอาให้เอาตีนลูบหน้าบ๋อยได้ป่าว?”
ฮงส่ายหน้า
“ถ้าอยากมีเรื่องกันทำไมไม่รอหลังร้านเลิกล่ะ”
“เฮ้ยยย รอเลิกร้านจะไปสนุกอะไร ซัดกันตรงนี้เลยดีกว่าม่ะ? พวกแกว่ามันจะกล้ารึเปล่า?”
หนุ่มหัวทองว่า และเตะเข้าที่หน้าแข้งฮงทีหนึ่ง คราวนี้หนุ่มหน้าตี๋คิดว่ามันควรจะพอกันที เขาเตะสวนกลับไป
“โอ๊ย เตะจริงนี่หว่า”
ทางนั้นโวยวาย อีกฝ่ายยักไหล่ และก่อนที่อะไรมันจะแย่ไปกว่านั้น ฟิวก็โผล่เข้ามาพอดี
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ”
หนุ่มผิวสีแทนกล่าวอย่างอารมณ์ดีและวางจานอาหารลงตรงหน้ากลุ่มลูกค้าหนุ่ม โดยทำเหมือนไม่เห็นฮงยืนอยู่ด้วย
“เออ ดีเลย”
ทางนั้นว่า หันไปมองหน้าฟิว
“เจ้าของร้านนายอยู่ไหน?”
เจ้าฟิวทำหน้าแปลกใจ
“มีอะไรหรอครับ”
“เจ้าหมอนี่มันเตะฉัน”
ฟิวหันไปมองหน้าฮง และหันกลับมาใหม่
“ถึงหน้าตาเจ้านี่มันจะกวนตีน แต่ก็ไม่เคยทำร้ายลูกค้านะครับ”
“ก็เมื่อกี้มันเพิ่งเตะหน้าแข้งฉัน ไม่เชื่อถามพวกนี้ดูสิ”
เจ้าหนุ่มว่า พวกเพื่อนที่เหลือพยักหน้าพร้อมกันทันที ฟิวหันกลับไปมองฮง เจ้าตัวยกมือขึ้นเกาหัวอย่างรำคาญ
“ก็ทางโน้นเตะมาก่อน”
ฟิวพยักหน้าอย่างเขาใจ และหันกลับไปหาลูกค้าใหม่
“ก็อย่างนั้นแหละ แล้วก็แล้วกันไปเหอะนะ พวกนายก็เมาแล้ว เดี๋ยวหายเมาก็หายโกรธเองแหละ”
“เอ๊ะ!! พวกนายนี่กวนส้นนะเนี่ย เจ้าของร้านอยู่ไหนว่ะ ไม่รู้จักสอนมารยาทบ๋อย”
เจ้าหนุ่มเริ่มโวย ท่าทางวอดก้าจะออกฤทธิ์มากกว่าที่คิดไว้ล่ะมั้ง สองหนุ่มหันหน้าไปมองซึ่งกันและกัน
“เจ้าของร้านก็คงพูดแบบเดียวกับพี่แหละ”
ฟิวเอ่ย เจ้าหนุ่มทุบโต๊ะอย่างหงุดหงิดทันที
“ไม่ได้ให้มาตอบแทนเว่ย พวกแกไม่รู้จักคำว่าลูกค้าคือพระเจ้าหรือไง”
เขาตะคอกถาม
“ไอ้ที่พี่ฟ้าพูดทุกวัน ว่าไงนะ”
ฮงว่า หันไปทางฟิว หนุ่มร่างสูงยักไหล่
“อีแบบนี้โยนได้ไหม?”
เขาถามเพื่อน ฮงยักไหล่
“ถามพี่ฟ้าดิ”
“เฮ้ย ให้ไปเรียกเจ้าของร้าน ไม่ใช่ให้พวกแกมาเถียงกันเอง”
ไอ้หนุ่มหัวทองว่า และตบโต๊ะอย่างโมโห อีกสามคนเลยตบด้วย คงเป็นพฤติกรรมเมาหมู่
“มีแมลงสาบอยู่บนโต๊ะหรือคะ คุณลูกค้า”
เสียงฟ้าดังขึ้น พร้อมกับโผล่เข้ามากลางวงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฟิวกับฮงมองหน้ากัน ขณะที่กำลังคิดว่าจะถามดีรึเปล่า คนที่โต๊ะก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“อีกระเทยนี่เป็นใคร?!”
“ซวยแล้วไง..”
ฟิวยกมือขึ้นลูบหน้า ขณะที่ฮงยกมือขึ้นเกาหัว
“ว่าใครเป็นกระเทยหรอคะ”
ฟ้าพูดทั้งๆ ที่ยิ้มอยู่
“ว่าแกนั่นแหละ เป็นกระเทยก็หลบไปดิว่ะ จะคุยกับเจ้าของร้าน”
“พวกนายรู้รึเปล่าว่าพ่อพวกเราเป็นใคร”
อีกสองคนที่เหลือว่า ฟ้ายักไหล่
“ไม่รู้หรอกค่ะ น้องเอาสูจิบัตรมาให้พี่สิคะ จะได้พากลับไปส่งบ้านถูก”
“อีนี่กวนตีน!! เดี๋ยวตบคว่ำ”
ไอ้หนุ่มผมสีแดงลุกพร่วดขึ้น ทำท่าจะตบจริงๆ ฟ้ายกถาดที่หยิบติดมือขึ้นมา และเคาะลงไปบนศีรษะที่มีผมแดงๆ นั่น เสียงเคร้งๆ เหมือนเสียงตลกคาเฟ่ดังขึ้นสี่ครั้ง เมื่อหญิงสาวเคาะครบสี่คน
“เฮ้ย นี่เล่นเคาะหัวกันเลยหรอ”
ที่เหลือว่า และลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
“แซนด์ ลูกค้าจะกลับแล้ว คิดเงินโต๊ะนี้หน่อยซิ”
หญิงสาวออกคำสั่ง เด็กหนุ่มวิ่งปรี๊ดเข้ามาทันที
“พันสองครับ”
หนุ่มหน้าละอ่อนว่า ทางนั้นโวยวายขึ้นทันที
“ค่าอะไรว่ะ ตั้งพันสอง”
“ค่าทำขวัญ”
ฟ้าพูด และยื่นสมุดบิลลงตรงหน้า
“จะจ่ายหรือไม่จ่าย”
“ไม่จ่ายเว่ย เคาะหัวพวกข้าแล้วยังจะมาคิดเงินอีกหรอ”
“ชักดาบนี่”
แซนด์ว่า หนึ่งในนั้นถลึงตามองแซนด์ทันที
“นี่คิดว่าเอากระเทยกับเด็กอ่อนมาแล้วจะชนะงั้นหรอ”
ฟ้าถอนหายใจยาว
“ฟิว ฮง พาลูกค้าไปทำให้สร่างเมาหน่อยซิ”
“ได้ครับพี่”
สองหนุ่มว่า หันไปหาลูกค้า
“พวกนายอยากมีเรื่องหรือไง!!”
ทางนั้นถาม พร้อมอาละวาดเต็มที่ สองหนุ่มส่ายหน้า และยื่นมือออกไปกระชากคอเสื้อทั้งสี่ออกมาจากโต๊ะ
“ไหนบอกไม่อยากมีเรื่องไง!!”
หนุ่มผมสีทองตะคอก พยายามแกะมือออก ฮงถอนหายใจ และออกแรงบิดคอเสื้ออีกฝ่ายเพิ่มขึ้น เสียงสำลักดังค่อก เมื่อกำปั้นเข้าไปนวดคลึงลูกกระเดือก ตามด้วยเสียงไอไม่เป็นภาษา
“เออ ใช้ได้”
ฟิวว่า และหันไปมองอีกสองคนที่เหลือในมือ ที่ส่ายหน้าทันที ทั้งคู่ก็ลากคอแก๊งเด็กหนุ่มไปหลังร้าน แซนด์เดินมาถามฟ้าที่กลับมาที่เคาท์เตอร์
“พาไปตื๊บหรือพี่?”
ฟ้าส่ายหน้า
“ร้านพี่ไม่ทำอะไรเถื่อนๆ งั้นหรอก ก็แค่พาไปทำให้สร่างเมาน่ะ”
“สร่างจริงๆ นะย่ะ เจ๊เคยเห็นมาแล้ว”
เสียงเจ๊กระเทยเสริมขึ้น ขนาดวันฝนตกก็ยังไม่พลาด สมเป็นขาประจำจริงๆ แซนด์พยายามเงี่ยหูฟังว่ามีเสียงอะไรน่ากลัวเกิดขึ้นที่หลังร้านรึเปล่า อีกสิบนาทีต่อมาสองหนุ่มพาลูกค้ากลับมาในสภาพสงบเรียบร้อย ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่แซนด์รู้สึกเหมือนกับว่าผมของลูกค้าบางคนมีน้ำหยด
หลังจากคุยกันพักหนึ่ง ตามด้วยการยกมือขอโทษขอโพยของทั้งสี่คน ฮงก็เดินกลับมาพร้อมกับเงินค่าอาหาร
“อย่าลืมไปส่งลูกค้านะฮง”
ฟ้าว่า หนุ่มหน้าตี๋พยักหน้า
“โทรเรียกให้พ่อมารับแล้วล่ะครับ”
เขากล่าวและเดินออกไป
“แซนด์เอานี่ไปส่งให้ลูกค้าที ทุกโต๊ะเลยนะ หมดแล้วมาเอาเพิ่ม”
ฟ้าพูด และวางแก้วคอกเทลเล็กๆ ลงบนถาด แซนด์มองหน้าหล่อนอย่างงงๆ
“บอกลูกค้าขออภัยที่ทำให้เสียบรรยากาศ ก็แค่เด็กๆ ไปถอนพิษเหล้า”
เด็กหนุ่มพยักหน้า และยกถาดออกไป เขานึกสงสัยว่าไอ้พันสองที่คิดเงินไปเนี่ย เอามาจ่ายค่าน้ำทำขวัญพวกนี้สินะ
--------------------------------------------
“คราวนี้จับกดในชักโครกอีกหรอ?”
ก้องที่ยืนล้างจานอยู่ถามทันทีที่เห็นฟิวเดินเข้ามา
“เปล่า ถังน้ำ”
ฟิวว่า ก้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ว้าว ลดดีกรีความโหดลงหรือไง”
“เปลืองน้ำตายชัก”
ฮงที่เดินตามเข้ามาพูด เชษฐ์ที่ยืนล้างจานกับก้องถอนหายใจ
“พี่ว่าชักโครกมันก็ประหยัดน้ำอยู่หรอกนะฮง แต่ว่ามันอาจจะสกปรกไป..”
“ก็ล้างสะอาดนะ”
หนุ่มหน้าตี๋ยังไม่ยอมแพ้ จนฟิวต้องพูดแทรก
“คราวนี้ผมเลยให้ถอดเสื้อออก จะได้ไม่เลอะเทอะมาก ดูไม่รู้เลยใช่ไหมล่ะ”
“จะดีมากถ้าหัดเช็ดหัวให้แห้งกว่านี้นะ”
ฟ้าก้าวเข้ามาร่วมวง
“แห้งกว่านี้ก็นานสิครับพี่ ตั้งสี่คน”
ฟิวว่า หญิงสาวยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“พ่อเขาเพิ่งโทรมาขอโทษเมื่อกี้ ถามใหญ่เลยว่าทำยังไงลูกชายเขาถึงได้ดูสงบเสงี่ยมขึ้นจนผิดหูผิดตา นี่ถามจริง พวกนายเอาลูกค้ากดน้ำจริงๆ หรอ?”
ฟิวกับฮงหันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะคิกคัก
“ปิดเป็นความลับรู้กันสองคนอีกแล้วสิ”
ฟ้าว่า สองหนุ่มยักไหล่
“ แหม...ทีพี่ฟ้ายังเล่นเอาถาดเคาะหัวลูกค้าแบบนั้นในร้าน มันไม่เรียกวิธีถอนพิษเหล้าหรอกนะพี่”
หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ตลกคาเฟ่ก็มีออกบ่อย ช่างมันเถอะ เสร็จแล้วอย่าลืมออกไปไขกล่อง วันนี้คงได้ไม่เยอะหรอกมั้ง แต่อาจจะได้ค่าวีรกรรม”
หล่อนทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป
“ตกลงเอาลูกค้ากดน้ำจริงหรอ?”
แซนด์ถามอย่างสงสัย ฟิวอมยิ้ม
“อยากรู้จริงอ่ะ?”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ร่างสูงเลยกวักมือเรียก
“จะหาสมาชิกเข้าแก๊งค์หรือไง”
ก้องแซว และได้ยินเสียงเชษฐ์ถอนหายใจตามมาติดๆ
“เอียงหูมา”
ฟิวว่า และก้มลงกระซิบกระซาบ แซนด์ทำตาโต
“จริงดิ?”
เด็กหนุ่มถามอย่างไม่เชื่อ หลังจากฟังจบ
“รอบหน้ากว่าจะลองทำวิธีใหม่ๆ ดูบ้าง ก็บอกแล้ว พ่อฮงมันเป็นมาเฟียฮ่องกง”
ฮงหันขวับมาทันที
“ถ้าพ่อฉันเป็นมาเฟียนะ พ่อนายคงเป็นพวก ก็อดฟาเธอร์”
“โห... ฟังดูยิ่งใหญ่นะ ฉันจะถือว่านายชมแล้วกัน”
ฟิวว่า และทำหน้ายียวนกวนประสาท ก้องที่เพิ่งล้างจานเสร็จรีบออกมาห้ามศึก
“พอๆ พวกนายนี่จะเข้ากันได้ดีเฉพาะตอนมีเรื่องหรือไง พอจบแล้วก็ฟัดกันอีก”
“ก็พ่อมันเป็นมาเฟีย”
สองคนพูดพร้อมกัน แซนด์มองทั้งคู่ แล้วก็นึกถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้
“ตะกี้พี่ฟ้าบอกว่าพ่อเด็กพวกนั้นโทรมาขอโทษ ตกลงรู้จักกันหรอ”
สี่คนส่ายหน้าพร้อมกัน
“ไม่มั้ง แต่ถ้าเป็นพวกขาใหญ่แถวนี้คงรู้จักพี่ฟ้าดี”
ก้องว่า หันไปมองเชษฐ์
“อืม คงเป็นลูกใครแถวนี้ล่ะมั้ง”
หนุ่มแว่นว่า และพูดต่อ
“คนรู้จักพี่ฟ้าเยอะน่ะ”
“โดยเฉพาะพวกมาเฟีย”
ก้องว่า แซนด์หันไปมองฮงกับฟิว
“เฮ้ย ไม่ใช่ฉัน”
สองคนปฏิเสธพร้อมกัน
“พี่ฟ้าแกเป็นมาเฟียหรอครับ?”
แซนด์ถามหน้าซื่อ เชษฐ์ส่ายหน้า
“พี่ฟ้าแกดูเหมือนแบบนั้นหรือไง พี่ฟ้าก็พี่ฟ้านั่นแหละ”
แซนด์พยักหน้าหงึกหงัก ตกลงพี่ฟ้าเป็นใครกันนะ ไอ้คำขวัญร้านที่พูดทุกวันว่าลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าถ้างี่เง่าก็จับโยนออกไปซ่ะ คงจะไม่ได้พูดเล่นๆ ซ่ะแล้ว แล้วยังเจ้าสองคนนี่อีก
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นมาเฟีย”
ฟิวว่า เมื่อเห็นสายตาของแซนด์ที่มองมา
“ไอ้ฮงต่างหาก”
เขาโบ้ยต่อ ทำเอาทางนั้นย่นคิ้วทันที
“แกนั่นแหละ”
เขาว่า
“เออ เป็นมันทั้งคู่นั่นแหละ”
เสียงฟ้าแว่วเข้ามา
“จะไขมั๊ยกล่องอ่ะ ถ้าไม่จะได้ทุบเอาเข้ากองกลาง”
“ไขคร๊าบ”
ฟิวว่า และวิ่งออกไป แซนด์วิ่งตามไป สงสัยว่าพี่ฟ้านี่แหละที่เป็นหัวหน้ามาเฟีย
------------------------------------------
ความคิดเห็น