คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [ตอนที่4] วิกฤติกล่องเปล่า
“และผู้ครองแชมป์กล่องเปล่าของเรา น้องแซนด์”
ทุกคนปรบมือแปะๆ ให้ขณะที่เด็กหนุ่มนัยน์ตาใสหัวเราะแหะๆ เอามือปิดฝากล่องทิปว่างเปล่าของตัวเอง ฟ้าขมวดคิ้ว
“ว่างมาสองอาทิตย์แล้วมันน่าดีใจตรงไหนห๊ะ!!”
หญิงสาวว่า แซนด์ยิ้มแห้งๆ
“ก็ไม่เป็นเป็นไรเลยนี่ครับ”
“เป็นสิ!!”
เจ้าหล่อนแหว
“พี่ไม่ได้จ้างเธอมาเดินบิล ล้างจาน เก็บโต๊ะนะ ทำอะไรที่มันเรียกเรทติ้งหน่อยได้ไหมเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมถึงไม่มีใครเรียกเธอไปนั่งบ้าง”
“เพราะเจ้าแซนด์มันดูเหมือนบ๋อยมากกว่าโฮสท์ล่ะมั้งพี่”
ฟิวออกความเห็น ก้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“เหมือนลูกหม้อพี่ฟ้า”
หญิงสาวทำหน้าย่น กวาดตามองเด็กหนุ่มเจ้าของฉายากล่องเปล่าขึ้นๆ ลงๆ และรู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
“จะว่าไปก็เหมือนบ๋อยจริงๆ ไอ้หน้าบื้อๆ กับทรงผมนึกไม่ออกเนี่ย”
หล่อนว่า และพูดต่อ
“พี่ว่าเธอต้องไปตัดผมให้มันดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้หน่อย”
“อยากลองไว้ผมยาวบ้างอ่ะครับ”
แซนด์ออกความเห็น ฟ้าหันควับมามองทันที
“เป็นเด็กหัวเกรียนเก็บกดหรือไง เดี๋ยวจับกร้อนทรงลานบินเลยนี่”
แซนด์ทำหน้าแหย ขณะที่เชษฐ์พูดขึ้น
“เจ้าตัวไม่อยากตัดก็ไม่เห็นจะต้องบังคับนี่ครับพี่”
หญิงสาวถอนหายใจ
“พี่ไม่ได้อยากบังคับหรอกนะ ขนาดแว่นเธอพี่ยังไม่บังคับให้เปลี่ยนเลย แต่ว่าเจ้านี่”
ฟ้าชี้ไปที่แซนด์ และเลยไปที่กล่อง
“กล่องว่าง... พี่รับเด็กใหม่มานี่คือต้องการลูกค้าเพิ่มด้วย ไอ้กล่องว่างนี่มันหมายความว่าไม่มีลูกค้าเพิ่ม แล้วจะจ้างมาทำพระแสงอะไร เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้”
หล่อนมองหน้าแซนด์อย่างจงใจออกคำสั่ง
“มาให้ไว พี่จะพาเธอไปจัดการตัวเอง”
“เอาจริงดิครับ?”
แซนด์ถามอย่างไม่เชื่อ เขาหันไปมองเชษฐ์เพื่อหาคนช่วย เชษฐ์มองหน้าเขา
“มันก็ถูกของพี่ฟ้านะ”
หนุ่มสวมแว่นว่า แซนด์ครางฮือ
“เป็นอันว่าตกลง พรุ่งนี้วันศุกร์เธอว่างครึ่งวันบ่ายนี่ มาไวๆ เลยนะ จะได้กลับมาทันเปิดร้าน”
“ครับๆ”
หนุ่มน้อยพยักหน้าอย่างขัดไม่ได้ พลางนึกว่าเขาจะโดนพาไปปู้ยี่ปู้ยำที่ไหนรึเปล่าหนอ..
-------------------------------------------
“โอ้ มาแล้ว”
ฟ้าอุทานเมื่อได้ยินเสียงหัวโขก แซนด์เปิดประตูเข้ามาและลูบหัวป้อยๆ เพราะมัวแต่คิดว่าจะโดนพาไปไหนรึเปล่า ก็เลยหลบพลาด เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปในร้าน และเห็นฟ้านั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ กับผู้ชายผมซอยสั้นอีกคนหนึ่ง ที่ดูจากข้างหลังก็พอจะอนุมานได้ว่าไม่ใช่ชายแท้แน่ๆ
“เด็กคนนี้หรอ?”
เจ้าหนุ่มนั่นว่า คงอายุไม่น่าจะเกินสามสิบ ผิวขาว สวมเสื้อโปโลเข้ารูปลายขวางขาวดำ กับกางเกงยีนส์ขาเดปสีดำ ตัดกับรองเท้าหนังขาวปลอด แซนด์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ ในขณะที่ทางนั้นกวาดตาขึ้นๆ ลงๆ
“หน้าตาก็ไม่ได้แย่หรอก แต่ทรงผมเห่ยสะบัดอย่างที่เธอว่าจริงๆ”
ทางนั้นสรุป แซนด์นึกค้านว่าทรงผมฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับเขานัก
“ก็นั่นแหละ”
ฟ้าว่า และกวักมือเรียกแซนด์ที่ยังยืนอย่างลังเลอยู่
“มานี่ๆ นี่พี่รุต เป็นช่างตัดผม”
“เขาเรียกแฮร์สไตลิชย่ะ”
รุตว่า ฟ้าเบ้ปาก
“ก็ช่างตัดผมนั่นแหละ”
หล่อนไม่ยอมแพ้และพูดต่อ
“ตอนแรกพี่ว่าจะพาไปร้าน แต่คิดอีกที ตัดที่นี่ดีกว่า พอดีว่าตานี่ก็ว่างพอดี”
“จริงๆ ก็อยากจะมาเที่ยวร้านเธอสักหนเหมือนกันแหละ แต่ทำไมพอได้มาถึงได้เป็นตอนร้านยังไม่เปิดนะ”
“เอาน่า”
ฟ้าว่า
“จะอยู่ต่อจนเปิดร้านก็ได้นะ”
“ตอนเย็นมีงานน่ะสิ”
ทางนั้นว่า และหันมามองแซนด์อีกครั้ง
“หน้ารูปไข่แบบนี้น่ะ ตัดไว้จอนให้มันลงมาบังๆ หน้าไว้หน่อยก็ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นหัวไข่ต้ม เธอว่าไง?”
“ตามใจเหอะ เอาให้ดีกว่าทรงยุ้งข้าวตอนนี้แล้วกัน”
ฟ้าว่า แซนด์ขมวดคิ้วกับคำเปรียบเทียบที่ได้ยิน ฟ้าเรียกเขาได้เดินตามรุตขึ้นไปชั้นสอง
“โอเคมั๊ย?”
รุตส่งเสียงถามขึ้น เมื่อแซนด์เดินไปส่องกระจกในห้องน้ำ ฟ้าเปลี่ยนสภาพห้อง”สุมหัว” ให้กลายเป็นที่ตัดผม เด็กหนุ่มนึกสงสัยว่าแล้วเดี๋ยวใครจะเป็นคนเก็บกวาด เขามองดูสภาพตัวเองในกระจก ผมที่เคยยาวอยู่ตอนนี้ถูกตัดให้สั้นลง และแต่งให้ตั้งนิดๆ รุตเหลือจอนไว้ปิดหน้าเขาหน่อยๆ อย่างที่บอกเอาไว้ตอนแรกจริงๆ
“ก็ดีครับ”
แซนด์ตอบ แม้จะรู้สึกเสียดายผมนิดๆ แต่มันก็ทำให้รู้สึกหัวโล่งดี
“พี่ตัดข้างหน้ายาวเกินรึเปล่า”
รุตเดินเข้ามาถาม แซนด์ยิ้ม
“ไม่ล่ะครับ พอดีแล้ว”
หนุ่มแฮร์สไตลิชมองหน้าเขา และเอามือลูบคาง
“ถ้าย้อมผมเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ หน่อยน่าจะดี”
“ไอ้สีที่ว่าเนี่ย เด็กในร้านฉันมีคนนึงแล้ว”
เสียงฟ้าพูดแทรกเข้ามา
“อ่ะหรอ เสียดายแหะ งั้นทำไฮไลท์”
“ก็มีแล้วเหมือนกัน”
“โอ๊ย ทำๆ ไปเหอะน่า ทำสีแล้วจะได้ดูน่ารักขึ้น”
รุตโวย ฟ้าก้าวเข้ามาในห้อง ในมือมีเสื้อผ้าพาดอยู่
“จ้าๆ แต่วันนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ ไว้วันอื่นแล้วกัน ไหนดูหน่อย”
เธอว่า และแทรกเข้ามาในห้องน้ำ
“อืม ใช้ได้ๆ เอ้อ เธอมีปัญหาอะไรกับขนหน้าแข้งตัวเองรึเปล่า?”
คำถามของฟ้าทำให้แซนด์ขมวดคิ้วทันที ขณะที่รุตร้องขึ้น
“นี่จะจับแวกซ์ขนด้วยหรือไง เธอจะเอาเด็กนี่ไปทำอะไรเนี่ย?!!”
“จริงๆ ก็ไม่มีหรอกครับ”
แซนด์พูดและมองดูคนทั้งคู่ที่ยืนขวางประตูห้องน้ำอยู่
“ผมออกจากห้องน้ำได้แล้วยังอ่ะ?”
เขาถาม ฟ้าเลยเปิดทางให้
“ไอ้ที่ว่าไม่มีเนี่ย แปลว่าให้แวกซ์ได้ใช่ไหม?”
หล่อนถามต่อ แซนด์ส่ายหน้าทันที
“พี่จะเอาขนหน้าแข้งผมไปทำอะไรง่ะ?”
ฟ้าถลึงตาใส่เขา
“ไม่ได้จะเอาขนหน้าแข้งย่ะ แค่จะเอามันออกจากขาเธอน่ะ”
แซนด์มองหน้าฟ้าอย่างหวาดๆ
“พี่จะเอามันออกทำไม จะพาผมไปทำอะไรหรอ?”
“ไม่ได้เอาไปขายบาร์เกย์แล้วกัน แล้วตกลงแว๊กซ์ได้รึเปล่า?”
รุตทำหน้าเบ้ พึมพัมขึ้นมา
“ร้านแล้วร้านหล่อนมันไม่ใช่บาร์เกย์หรือไง”
“ไม่ใช่ย่ะ”
อีกฝ่ายหันมาตอบทันที ในขณะที่แซนด์ส่ายหัวดิก
“ไม่ได้หรอกครับพี่”
ฟ้าทำหน้าครุ่นคิด
“ก็พอเข้าใจเรื่องขนหน้าแข้งของเด็กผู้ชายหรอกนะ ถ้าไม่อยากแวกซ์มากไม่ต้องก็ได้”
“คือไม่ใช่แบบนั้นหรอกพี่”
แซนด์พูดต่อ ทำหน้าปั้นยาก
“คือว่าผมไม่มีขนหน้าแข้ง”
“หา?!”
รุตกับฟ้าอุทานพร้อมกัน เด็กหนุ่มทำหน้าน่าสงสาร
“มันไม่มีง่ะ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน”
เขาพูดราวกับว่ามันเป็นปมด้อย ฟ้ายิ้มอย่างดีใจ
“งั้นดีเลย เอาเสื้อผ้าไปลองเปลี่ยน”
หล่อนว่า และโยนเสื้อผ้าให้แซนด์ เด็กหนุ่มรับมันและมองกลับไปอย่างงงๆ
“ตอนนี้เลยหรอ?”
ฟ้าพยักหน้า
“จะได้รู้เลยว่าโอเครึเปล่า”
แซนด์พยักหน้าและเดินเข้าห้องน้ำ
“ว่าง่ายดีนะ เด็กเนี่ย”
รุตว่า ฟ้าพยักหน้า
“มั้ง ก็ยังไม่เห็นพยศเลย”
รุตหัวเราะ
“เด็กนี่สเป๊กเธอรึเปล่าเนี่ย ดูทุ่มทุนสร้างจัง”
“ไม่ใช่ย่ะ”
ฟ้าว่า คิ้วขมวดขึ้นมาทันที
“ตั้งแต่ทำงานมาเจ้านี่ยังหาลูกค้าเข้าร้านไม่ได้เลย ถ้าไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น ฉันก็จ้างฟรีน่ะสิ”
“อ๋อ ที่แท้งก”
อีกฝ่ายสรุป ฟ้าทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าจะรับคำพูดนั้นไว้ดีรึเปล่า สักพักแซนด์ก็เปิดประตูออกมา
“พี่เอาชุดอะไรมาให้ผมใส่เนี่ย”
เด็กหนุ่มโอด ฟ้ากวักมือให้เขาออกมายืนข้างนอก
“ตาย คิดอะไรของเธอเนี่ยฟ้า”
รุตว่า เมื่อแซนด์เดินออกมาแล้ว ฟ้าอมยิ้ม
“ดูดีกว่าที่พี่คิดไว้เยอะเลย”
แซนด์มองหน้าฟ้า ก้มลงดูตัวเอง จริงๆ ชุดที่ฟ้าเอามาให้ก็ไม่ได้ประหลาดอะไรมาก เป็นชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดา แขนสั้น มีหูกระต่าย กับกางเกงเอี๋ยมสีดำ ติดแต่ว่ามันเป็นเอี๊ยมขาสั้นนี่แหละ
“อื้อหือ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ”
รุตว่า แซนด์หน้าหงิกทันที
“ทำไมขาสั้นอ่ะครับ”
เขาถาม ฟ้ายักไหล่
“เอาน่า ไปกวาดเศษผมก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
แซนด์เบ้ปาก และเดินไปหยิบไม้กวาด
“น้ำลายยืดแล้วฟ้า”
รุตสะกิด เมื่อเห็นว่าสาวเจ้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“น่ารักใช่ไหมล่ะ”
ฟ้าว่า มองดูแซนด์ที่กำลังกวาดเศษผมตัวเอง
“จ้ะๆ สเป๊กเธอจริงๆ ด้วย”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง”
หญิงสาวเถียง พลางถอนหายใจ
“ถ้ามันเวิร์คก็ดีหรอก”
เธอว่า รุตเลิกคิ้ว
“จะให้ใส่แบบนั้นออกไปรับแขกหรอ ก็ไม่เลวหรอกนะ แต่จะเรียกลูกค้าสาวหรือชายมาล่ะนั่น”
“แบบไหนก็ได้น่ะ ให้มีเงินจ่ายก็พอ”
ฟ้าสรุป อีกฝ่ายยักไหล่
“แล้วเจ้าตัวจะยอมใส่หรอ ตะกี้ทำหน้าเหมือนไม่เต็มใจยังไงๆ”
ฟ้ายกมือขึ้นกอดอก
“คงต้องบังคับ ไม่ได้อยากจะทำนักหรอกนะ แต่ถ้ากล่องว่างอีกก็นะ...”
“ปากไม่ตรงกับใจเลย ทำไมไม่บอกเด็กไปตรงๆ ล่ะว่า พี่ฟ้าอยากให้ใส่ น่ารักดี”
“พูดแบบนั้นมันคงยอมอยู่หรอก เผลอๆ จะหนีเตลิดน่ะสิ”
รุตหัวเราะ
“อยากรู้จริงว่าถ้าเด็กนั่นไม่ยอมใส่เธอจะทำหน้ายังไง”
เขาว่า และเดินไปหาแซนด์ ฟ้าทำท่าจะอ้าปากห้าม แต่ก็ไม่ทัน
“นี่ เธอน่ะ พี่ฟ้าแกบอกว่าจะให้ใส่ชุดนี้ไปทำงาน”
“เอาจริงดิครับ?”
แซนด์หันมาถามอย่างไม่เชื่อ เขาเทเศษผมลงในถังขยะ รุตพยักหน้า
“มันจะเหมือนเด็กมัธยมหัวเกรียนอ่ะสิครับ”
เด็กหนุ่มว่าต่อ และมองดูกางเกงขาสั้น อีกฝ่ายอุทานอย่างไม่เชื่อหู
“ตกลงกลัวจะเหมือนเด็กมัธยม?”
“ครับ”
แซนด์พยักหน้า รุตเอามือลูบคาง มองเด็กหนุ่มตรงหน้าขึ้นๆ ลงๆ
“ถ้าบอกว่าไม่เหมือนเด็กมัธยมก็ไม่เป็นไรหรอ?”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ ปกติก็ใส่ขาสั้นอยู่บ้าน”
“อืม..”
รุตลูบคาง
“เลยอดแกล้งฟ้าเลย”
เขาว่า และเดินกลับไป แซนด์มองตามอย่างงงๆ
“ตกลงวันนี้ใส่ชุดนี้ทำงานนะจ้ะ”
ฟ้าว่า เมื่อแซนด์เดินเข้ามา
“ก็ได้ครับ”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ฟ้ายื่นถุงเท้าสีขาวอีกคู่หนึ่งให้
“วันนี้ไม่ต้องมายืนที่บาร์นะ ไปยืนรับลูกค้าหน้าร้าน พยายามทำให้กล่องไม่ว่างเข้าล่ะ”
แซนด์หัวเราะแหะๆ และเดินออกไป
“ฟ้านี่ชอบแกล้งเด็ก ระวังจะบาปเอานะ”
รุตว่า ฟ้ายักไหล่
“ไม่หรอกมั้ง อย่ามาพูดให้ฉันรู้สึกผิดสิ ก็ดูเต็มใจดีนี่นา”
----------------------------------
“สรุปวันนี้ให้แซนด์ยืนหน้าร้านทั้งชุดอย่างนั้นหรอครับพี่ฟ้า?”
เชษฐ์เอ่ยถามขึ้น ฟ้าพยักหน้า ชายหนุ่มยืนพิงเคาท์เตอร์และมองออกไป กำลังจะได้เวลาเปิดร้านแล้ว เชษฐ์รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล
“ชุดเหมือนเด็กส่งจดหมาย”
เขาตั้งข้อสังเกต เสียงฟ้าดังอู้อี้ขึ้นจากใต้เคาท์เตอร์
“เด็กส่งจดหมายบ้านเธอเป็นแบบนี้หรือไง”
“ก็อารมณ์มันให้นี่ครับ”
หนุ่มสวมแว่นกล่าว แซนด์ยืนอยู่ตรงประตู้หน้าร้าน พร้อมกับสมุดเมนู เขารู้สึกประหม่านิดหน่อยเมื่อพบว่าใส่ชุดผิดชาวบ้านอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตามที่น่าจะเครียดว่าคือถ้าเกิดว่าลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านเพราะเขาขึ้นมาล่ะ เด็กหนุ่มไม่กล้าคิดต่อ เขามองออกไปที่กระจก และขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ไอ้แผ่นป้ายหน้าร้านนี่อะไรหรือ”
เขาเอ่ยถาม ฮงซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดจึงช่วยตอบให้
“กฏร้าน ไว้ให้ลูกค้าอ่าน”
“หรอ..”
แซนด์พูด และนึกได้ว่าเขายังไม่รู้เลยว่าไอ้กฎที่ว่านี่เป็นยังไง ตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีป้ายนี่อยู่ มัวแต่ก้มหลบทุกวัน
“ขอออกไปอ่านแป๊บนึงได้รึเปล่า”
เขาว่า เสียงฮงตอบกลับมา
“ได้”
เด็กหนุ่มจึงเปิดประตูออกไปนอกร้าน ในป้ายนั้นมีข้อความเขียนไว้ว่า
“ถึงว่าที่ลูกค้าทุกท่าน หากสนใจจะเข้าร้าน กรุณาปฏิบัติตามกฎข้างล่างนี้
1. ห้ามซื้อบริการแทงเพศกับพนักงาน เพราะเราไม่ขายเรื่องแบบนั้น
2. ห้ามแต๊ะอั๋งร่างกายพนักงาน ไม่งั้นจะถูกเชิญออก
3. ห้ามจ่ายเงินให้กับพนักงานโดยตรงนอกจากค่าอาหารและเครื่องดื่ม หากพอใจจะให้เงินกำลังใจพนักงานคนใด กรุณาหยอดในกล่องที่จัดไว้ให้
4. ร้านนี้ไม่ใช่บาร์เกย์ แต่ยินดีต้อนรับทุกเพศ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Bonbon Café”
“แซนด์มันออกไปยืนข้างนอกทำไมน่ะ”
เสียงฟ้าตะโกนถามขึ้น
“ไปอ่านป้าย”
ฮงตอบ เสียงฟิวดังตามขึ้นมา
“ตกลงมันยังไม่เคยอ่านจริงๆ หรอเนี่ย”
เสียงฟ้าดังตามมาติดๆ
“เออ ยังไงก็บอกว่าอย่าลืมเรียกลูกค้าแล้วกัน”
ฮงพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนหาว
“คงไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอกมั้งพี่”
เชษฐ์ว่า และสะกิดฟ้า
“น้องเป็นพนักงานที่นี่หรอครับ?”
เสียงทักทำให้แซนด์สะดุ้ง เขากำลังคิดว่าถ้าเขาเป็นคนเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ จะแวะเข้ามาร้านนี้รึเปล่านะ ดูแล้วก็น่าจะมีแต่ลูกค้าผู้หญิง
“ครับ”
เด็กหนุ่มตอบ และหันกลับไป พบว่าผู้มาทักเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ตัวสูงกว่าเขานิดหน่อย ท่าทางจะเป็นคนที่ตั้งใจจะมาเที่ยวกลางคืนแถวนี้
“คืนละเท่าไหร่ครับ หรือว่าชั่วคราว”
คำถามที่ตามมาทำให้แซนด์ชะงัก เขาถอยหลังนิดหนึ่งและบอกตัวเองว่าใจเย็นไว้
“ไม่ได้ขายครับพี่ อ่านป้ายแล้วกัน”
เขาว่า และผลุบกลับเข้ามาในร้านทันที ฟ้าส่งเสียงถามด้วยความสงสัย
“แล้วนั่นทำไมทิ้งลูกค้าไว้นอกร้าน”
แซนด์หันมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ก็เขาถามว่าคืนละเท่าไหร่?”
“เวร”
ฟ้าอุทาน และโบกมือเป็นเชิงว่าอย่าคิดมาก
“ไม่เป็นไรๆ อย่าออกไปยืนนอกร้านอีกแล้วกัน”
หล่อนว่า แซนด์พยักหน้า และต้องกลืนน้ำลายทันที เมื่อหนุ่มเจ้าเก่าโผล่หน้าเข้ามาในร้าน
“โทษทีนะ พี่เข้าใจผิด”
เขาว่า และยิ้มให้แซนด์ เด็กหนุ่มยิ้มแหย่ๆ
“เมนูนี่ ต้องดูที่น้องหรือมีที่โต๊ะครับ”
ชายหนุ่มถามต่อ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่ง ดูเหมือนแซนด์จะสะดุ้งนิดหน่อย เขาหันหน้าไปมองฮง หนุ่มหน้าตี๋ยักไหล่ เด็กหนุ่มจึงกลืนน้ำลายอีกรอบ
“เดี๋ยวพาไปที่โต๊ะนะครับ”
เขาว่า และเดินนำไปที่โต๊ะที่ใกล้กับบาร์มากที่สุด เผื่อว่าจะได้ร้องขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที หากมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น แซนด์วางเมนูลงบนโต๊ะ หลังจากเลื่อนเก้าอี้ให้ลูกค้ารายแรกของเขานั่งแล้ว
“แบบนี้ก็ได้แต่ดูเฉยๆ สิเนี่ย”
หนุ่มเจ้ารำพึง ขณะมองเรียวขาขาวๆ ของเด็กหนุ่มทื่ยืนรอเมนูอยู่ แซนด์หัวเราะแหะๆ
“จะรับเป็นเครื่องดื่มอะไรก่อนดีครับ”
เขาว่า ภาวนาอย่าให้ทางโน้นเล่นมุขอะไรแบบที่ก้องโดน เพราะถ้าผู้ชายด้วยกันเล่นมันก็ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่แล้ว
“เอาตัวนี้แล้วกัน”
อีกฝ่ายว่า และบอกรายการที่สั่งให้ฟัง เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจที่ทางนั้นสั่งอาหารด้วยวิธีธรรมดาสุดๆ เขารีบจดรายการ และเดินไปวางออร์เดอร์ แต่โดนเจ้าหนุ่มยื่นแขนมาขวางเอาไว้
“เดี๋ยวกลับมานั่งคุยกันหน่อยสิครับ”
แซนด์พยักหน้าหงึกๆ ด้วยหวังว่าจะทำให้ฝ่ายนั้นปล่อยตัวเขาไปโดยไว เมื่อหลุดไปได้ เด็กหนุ่มตรงไปยังบาร์ทันที
“ได้ลูกค้าแล้วนี่”
ฟ้าว่า แซนด์ทำหน้าเหมือนอมเม่น
“น่ากลัวออกครับ”
หญิงสาวเลยเอื้อมมือมาตบไหล่
“อย่าคิดมากน่า ลูกค้าอ่านป้ายแล้ว ก็แปลว่ารับได้แหละ เธอก็ทำให้เต็มที่แล้วกัน”
แซนด์พยักหน้าอย่างฝืนเต็มที่ เขาเอาใบออร์เดอร์ไปวาง และเดินกลับไปที่โต๊ะ
“น้องชื่ออะไรครับ”
ฝ่ายโน้นเปิดฉากถามทันทีที่เด็กหนุ่มนั่งลงฝั่งตรงข้าม แซนด์นึกดีใจที่เก้าอี้เป็นแบบแยก ถ้าเป็นเก้าอี้คู่เขาคงต้องประสาทเสียกว่านี้แน่ๆ
“แซนด์ครับ”
เด็กหนุ่มตอบ ทางนั้นยิ้มให้
“พี่ชื่อภพนะครับ ไม่ทราบว่าทำงานที่นี่นานรึยังเอ่ย?”
“เพิ่งทำครับ”
“แล้วสนใจจะลองทำงานอื่นไหมครับ อย่างเป็นนายแบบอะไรงี้”
แซนด์รีบส่ายหน้าทันที
“ใจคอจะไม่สนใจถามรายละเอียดหน่อยหรอครับ?”
ทางนั้นตื้อ แซนด์ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ดีกว่าครับ”
เขาตอบ และภาวนาให้อาหารมาไวๆ ภพขยับเก้าอี้มาใกล้ และจงใจจ้องมาที่แซนด์อย่างพินิจพิเคราะห์
“มีแฟนรึยังครับเนี่ย?”
แซนด์ส่ายหัว ภพขมวดคิ้ว
“น้องไม่ค่อยพูดเลยนะครับ”
“ผมคงตื่นเต้นมั้งครับ”
แซนด์ว่า และคิดว่าเขากำลังตื่นเต้นจริงๆ ปนเครียดและสยองขวัญด้วย ภพยิ้ม
“ก็เพิ่งมาทำงานนี่ครับ พี่เป็นลูกค้าคนแรกรึเปล่า?”
“ก็คงประมาณนั้นมั้ง”
แซนด์ว่า และพยายามไม่มองหน้าอีกฝ่าย เขารู้ว่ามันเสียมารยาท แต่กลัวว่าจะถูกจ้องแบบเมื่อกี้อีก
“น้องอายุเท่าไหร่แล้วครับเนี่ย?”
“ยี่สิบครับ”
หนุ่มหน้าละอ่อนตอบ เริ่มคิดว่าเมื่อไหร่จะมีใครเอาอาหารมาส่งสักทีนะ แล้วทำไมเขาต้องมานั่งคุยกับไอ้เกย์นี่ด้วย และคืนนี้กล่องของเขาจะมีใครหยอดไหม
“พี่ทำงานเป็นแมวมองหรือครับ”
จู่ๆ เด็กหนุ่มผู้เอาแต่ปฏิเสธมาโดยตลอดก็เริ่มบทสนทนาขึ้น อีกฝ่ายพยักหน้า
“ครับ หาน้องๆ ไปถ่ายแบบนิตยาสารแฟชั่นสำหรับผู้ชายน่ะ สนใจหรือ?”
แซนด์ยิ้ม
“ไม่ไหวล่ะครับพี่ ผมผอมแห้งขนาดนี้”
“ไม่ผอมมากหรอกครับ หุ่นกำลังดี ขาก็สวย ตรงนั้นก็ใช้ได้”
แซนด์หัวเราะและเลือกจะเก็บคำถามที่ว่าไอ้ตรงนั้นน่ะตรงไหนเอาไว้ในปาก เขาเปลี่ยนเรื่องคุย
“พี่มาแถวนี้บ่อยรึเปล่าครับ”
“ก็พอสมควรนะ”
ทางนั้นทำท่าครุ่นคิด
“จริงๆ เห็นร้านนานแล้วล่ะ แต่คิดว่าบริการแต่ผู้หญิง ก็เลยไม่ได้สนใจ พอดีวันนี้ผ่านมาเห็นน้องยืนอยู่ เลยเกิดอยากเข้าขึ้นมา พี่ขอโทษตอนแรกด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
แซนด์โบกมือ ฟิวเดินเอาถาดเครื่องดื่มมาส่งพอดี แซนด์หันไปมองเขาและส่งสายตาอ้อนวอน เจ้าหนุ่มผิวสีแทนได้แต่อมยิ้มให้ ก่อนจะเดินจากไปทันทีที่ส่งเครื่องดื่มเสร็จ ภพเลื่อนแก้วเครื่องดื่มให้เขาแก้วหนึ่ง แซนด์มองหน้าเขาอย่างงงๆ
“ของน้อง พี่สั่งมาเผื่อ”
“แต่ว่าผม”
แซนด์ทำท่าปฏิเสธ ทำให้ทางนั้นขมวดคิ้ว
“ไม่ได้ห้ามกินอาหารของลูกค้าไม่ใช่หรือไง พี่ไม่ใส่ยาหรอก”
แซนด์เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะก้มลงดูดน้ำอย่างพอเป็นมารยาท
“แซนด์”
เสียงเรียกจากอีกฝ่ายทำให้เด็กหนุ่มต้องเหลือบตาขึ้นมอง และเงยหน้าขึ้น
“โทษที ไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะหรอก แต่อยากเห็นหน้าตอนกำลังดูดน้ำ ทำตาน่ารักดีนะ”
เด็กหนุ่มเกิดอาหารสำลักน้ำขึ้นมากะทันหันทันที จนทางโน้นต้องลุกขึ้นมาช่วยลูบหลัง
“ไม่เป็นไร”
แซนด์ว่า และรีบปัดมือนั้นออก เพราะมันจะยิ่งทำให้เขาสำลักมากกว่าเดิม
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
เขาพูด หลังจากหายสำลัก ภพโบกมืออย่างไม่ถือ แซนด์รู้สึกว่าตัวเองกำลังแย่ หูอื้อ แสบจมูก แถมน้ำตาไหล เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา
“คืนนี้เลิกงานดึกรึเปล่า?”
ภพถามอีก แซนด์พยักหน้า
“อืม งั้นพอจะว่างวันไหนบ้างล่ะ อยากออกไปเที่ยวกับพี่ไหม?”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมคงรบกวนมากกว่า”
เขาว่า และจามออกมาฟืดใหญ่ เกือบเอามือปิดปากไม่ทัน
“ขอโทษครับ”
แซนด์รีบพูด ภพหยิบทิชชู่ส่งให้เขา เด็กหนุ่มรับมาและคิดว่าเขาซวยฟรีแน่ๆ เละเทะขนาดนี้สงสัยจะปิ๋วทิป
“อาหารได้แล้วครับ”
เจ้าหนุ่มผิวสีแทนโผล่เข้ามาพร้อมกับถาดอาหารพอดี แซนด์นึกสงสัยว่าวันนี้ฟิวไม่ได้ถูกเรียกไปนั่งหรือว่าเขานั่งนานเกินไปกันแน่ เด็กหนุ่มมองหน้าเพื่อนร่วมงานราวกับจะถามว่าที่ทำอยู่นี่ดีรึเปล่า
“ผมต้องไปแล้วล่ะครับ ทานอาหารให้อร่อยนะครับ”
แซนด์กล่าวอำลาลูกค้ารายแรกของวันนี้ ภพทำท่าเหมือนจะอ้าปากท้วง แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นโบกมือให้แทน
“ขอบคุณที่มานั่งเป็นเพื่อนนะ”
เขาว่า แซนด์เดินปราดไปที่บาร์ทันที
“ต๊ายยย วันนี้น้องบ๋อยตัดผมทรงหัวฟางออกแล้วหรือจ๊ะ”
เสียงราวฟ้าผ่าที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันลืมดังขึ้น เจ๊กระเทยเจ้าเดิมเข้าประจำที่แล้ว เด็กหนุ่มยิ้มแห้งๆ
“แถมแต่งตัวซ่ะน่ารักเชียว นี่กะเอาไว้เรียกแขกหรอฟ้า”
หล่อนถามต่อ ฟ้าพยักหน้า และหันไปหาแซนด์
“ไปยืนหน้าร้าน วันนี้พี่ไม่เอาบ๋อย”
แซนด์มองฟ้าตาค้าง และพยักหน้าหงึกๆ วิ่งกลับไปยืนหน้าร้านต่อ
“ว่าง่ายหยั่งกะลูกหมา”
เจ๊กระเทยว่า และหันไปหาฟ้า
“เข้าใจหาชุดล่อเสือล่อตะเข้ดีนะ”
ฟ้าเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“เด็กผู้ชาย คิดอะไรมาก”
“ต๊าย หยั่งกะหล่อนไม่คิด หาชุดมาให้น้องใช่ไหมเนี่ย ตอนสัมภาษณ์ขอดูขาด้วยหรอ”
“ไม่ทำขนาดนั้นหรอก”
ฟ้าว่า และส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้าอีกคน
“ตอนแรกก็ว่าจะจับแว๊กซ์ขนอยู่หรอก แต่เจ้านี่ดันขาสวยเชียว เลยรอดไป”
“รอดหรือเข้าปากเสือกันแน่ยะ”
อีกฝ่ายแหย่ ฟ้ายักไหล่อย่างไม่แยแส
“เรียกลูกค้าได้แล้วกันล่ะน่า”
“จ้า แม่คนขี้งก เข้าใจหาเด็กมาหลายแนวนะเนี่ยเธอ”
ฟ้าอมยิ้ม และสั่นกระดิ่งเรียกคนมายกถาดเครื่องดื่ม
---------------------------------------------
“ตาเธอแล้วแซนด์”
ฟ้าว่า หลังจากที่ฮงแลกเหรียญไปเรียบร้อยแล้ว แซนด์เดินไปที่โต๊ะ หยิบกุญแจออกมา และทำท่าว่าจะไข แล้วก็เปลี่ยนใจยกกล่องขึ้นเขย่าแทน เขาได้ยินเสียงเหรียญป๊องแป๊งอยู่ข้างใน
“ไม่เหรียญห้าก็เหรียญสิบ”
ฟ้าว่า แซนด์ยิ้ม
“อย่างน้อยก็ไม่กล่องเปล่าล่ะครับ”
เด็กหนุ่มกล่าว ฟ้าถอนหายใจ
“เป็นพวกพอเพียงหรือไงเธอเนี่ย ฟังเสียงก็คงมีสักสามสี่เหรียญหรอก”
“เอาน่าพี่ ยังดีกว่ากล่องเปล่า”
ฟิวช่วยสนับสนุน แซนด์ไขกุญแจ ใจนึงก็นึกใจเสียอยู่นิดหน่อย ไอ้ที่ทำๆ ไปเนี่ยจะได้มาแต่เหรียญหรอกหรือ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจ อย่างน้อยก็ยังมีเหรียญ
เหรียญและแบงค์หลายใบหล่นลงมาบนโต๊ะ เหมือนจะเป็นสีเขียวเสียส่วนใหญ่ มีเหรียญสิบอยู่สี่เหรียญเหมือนฟ้าว่า
“มีสีม่วงด้วย”
ฟิวว่า แซนด์หยิบมันขึ้นมาและเห็นว่ามีกระดาษเสียบติดอยู่ เขาแกะมันออกมาอ่าน
“ถึงน้องแซนด์
ขอโทษจริงๆ เรื่องที่พี่ทักตอนแรก แต่ว่าน้องน่ารักมากจนพี่เกือบจะทนไม่ไหว ว่างๆ พี่จะแวะมาหาอีก ปล.พี่แนบเบอร์โทรเอาไว้ เผื่อว่าน้องเปลี่ยนใจอยากออกไปเดทกับพี่บ้าง
พี่ภพ”
“เขียนว่าอะไรอ่ะ?”
ฟิวถาม พลางชะโงกหน้ามา แซนด์รีบพับกระดาษเก็บทันที
“อย่าดูดีกว่า”
หนุ่มสิบเก้าย่างยี่สิบว่า และรู้สึกอยากปากระดาษนั่นไปให้พ้นๆ ฟิวทำหน้าผิดหวัง
“ไม่ดูก็ได้”
เขาว่า แซนด์รู้สึกเหมือนว่าทำผิด แต่ว่าขืนให้ดูสงสัยถูกหัวเราะ
“เบอร์โทรลูกค้ามั้งฟิว”
ฟ้าช่วยตอบให้ และเสริมต่อ
“สงสัยจะไม่ใช่ผู้หญิงด้วย ไม่งั้นคงให้ดูไปแล้ว”
“ฮื่อ.. พี่ฟ้าก็รู้นี่”
แซนด์คราง และเห็นว่าพวกที่เหลือแอบหัวเราะ
“ตกลงได้เท่าไหร่”
ฟ้ากระตุ้น เมื่อเห็นว่าแซนด์ทำท่าจะงอนเรื่องที่ปูดความลับ เด็กหนุ่มจึงหันกลับไปนับเหรียญกับแบงค์ย่อย
“พันสองกับอีกห้าบาท”
เขาว่า และยื่นแบงค์ยี่สิบให้ฟ้าปึกหนึ่ง
“ขอแลกสี่ร้อยครับ”
“ได้ พัฒนาๆ จากกล่องเปล่าเป็นพันสอง แสดงว่าแบบนี้ใช้ได้”
แซนด์ยิ้มแห้งๆ ยกมือเกาหัว
“พรุ่งนี้ไม่ใส่ชุดนี้ได้ไหมอ่ะพี่”
เขาว่าขณะยื่นมือออกไปรับแบงค์แลก หญิงสาวขมวดคิ้ว
“ทำไม?”
“ก็...”
แชนด์หยุดไปพักหนึ่ง ก่อนจะพร่างพรูออกมา
“ก็ลูกค้าผมมีแต่ผู้ชายอ่ะพี่ ขืนพรุ่งนี้เป็นแบบนี้อีก ผมเป็นบ้าแน่ๆ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที เจ้าตัวทำหน้าหงิก
“ไม่ตลกนะครับ ถ้าอยากให้ผมใส่ต่อ ทุกคนก็น่าจะมาใส่ด้วย”
“ไม่เอาอ่ะ ขนหน้าแข้งฉันเยอะ”
ฟิวว่า
“ฉันอายุเยอะแล้ว ใส่ขาสั้นไม่ไหวแน่”
ก้องบอก
“ขาฉันใหญ่”
ฮงตอบสั้นๆ
“แซนด์คงไม่รวมพี่ด้วยมั้ง”
เชษฐ์เอ่ยมาเป็นคนสุดท้าย ฟ้าหัวเราะ แซนด์แบะปาก เงยหน้ามองฟ้าอย่างขอความเห็นใจ
“ไม่ใส่ไม่ได้หรอครับพี่?”
เด็กหนุ่มถามเสียงอ้อน ฟ้ามองหน้าเขาและทำคิ้วย่น
“แล้วถ้าเกิดกล่องเปล่าอีกจะทำยังไง”
หล่อนว่า แซนด์ทำตาปริบๆ
“พี่ฟ้าอ่ะ แกล้งผม”
เด็กหนุ่มคราง และยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก
“ไม่ต้องใส่ไม่ได้หรอครับ นะ ก็ตัดผมแล้วอ่ะ นะคร๊าบ”
ฟ้าทำหน้าเหมือนเห็นผี หล่อนโบกมือไหล่
“ไอ้เด็กนี่ ทำไมไม่อ้อนลูกค้าแบบนี้บ้างเนี่ย”
“พี่ฟ้าอ่า”
“ไม่พี่ฟ้าแล้ว”
หญิงสาวตัดบท และหันไปขอความช่วยเหลือ
“เอาไอ้เด็กขี้อ้อนนี่ออกไปที จริงๆ น๊า ถ้าอ้อนลูกค้าแบบนี้ก็คงได้หลายอยู่หรอก”
“ลูกค้าผู้ชายใครมันจะอ้อนลงล่ะครับพี่”
ฟิวตั้งข้อสังเกตอย่างขำๆ แซนด์พยักหน้าหงึกๆ ทันที ฟ้าโบกมือไล่
“โอ๊ย ทีแบบนี้ล่ะสนับสนุนกันดีเชียว เออ ยังไงก็ตามใจแล้วกัน แต่ถ้ากล่องเปล่าอีกนะ จะให้ใส่แขนกุด!!”
“คร๊าบบ”
แซนด์รับปาก ยังไงก็ได้ให้เขาไม่ต้องเผชิญลูกค้าแบบวันนี้ก็พอ
แล้วไอ้กระดาษในมือนี่ คงต้องหาที่ทิ้งให้พ้นสายตาเจ้าพวกนี้เสียหน่อย
----------------------------------------
ความคิดเห็น