ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bonbon cafe' ปิ๊งรักหนุ่มโฮสท์คลับ

    ลำดับตอนที่ #3 : [ตอนที่3] เคาท์เตอร์บาร์อันน่าสะพรึงกลัว

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 52


                แซนด์หยิบกระเป๋าเป้ สะพายขึ้นไหล่ ลุกขึ้นจับราวรถเมล์และเอื้อมมือไปกดออด  และกระโดดลงฟุตบาททันทีที่รถจอด ก่อนจะเดินปราดไปตามทาง  หลังจากทำงานมาได้หนึ่งสัปดาห์  เด็กหนุ่มคุ้นเคยกับสถานที่มากขึ้น และพอจะกะเวลาการเดินทางได้แล้ว   เขาแวะซื้อลาซาเปากับขนมจีบที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง  และตรงไปยังที่ทำงาน

                ประตูเหล็กม้วนแง้มอยู่ครึ่งหนึ่งเหมือนทุกวัน เด็กหนุ่มมุดเข้าไปและทำตัวลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้เขาไม่ชนกระจก  แซนด์ผลักประตูเข้าไปและพบว่าเชษฐ์ยืนอยู่

                พี่ฟ้าล่ะครับ?

                เขาถามอย่างแปลกใจ เพราะทุกวันฟ้าจะอยู่ที่ร้านคนเดียว แต่วันนี้กลับกลายเป็นหนุ่มสวมแว่นคนนี้อยู่แทน

                พี่ฟ้าไปธุระ  คงมาเย็นๆ หน่อย

                เชษฐ์ว่า  แซนด์เงยหน้าดูนาฬิกาแขวนผนังในร้านซึ่งบอกเวลาสี่โมง ไอ้เย็นๆ ที่ว่าของเชษฐ์นี่มันจะกี่โมงกันนะ

                พี่ทานอะไรหรือยัง?

                เด็กหนุ่มเอ่ยถาม  อีกฝ่ายส่ายหน้า

                ยัง เพิ่งมาถึงน่ะ  จะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวออกไปซื้อให้

                ซื้อมาแล้วล่ะครับ แต่ว่าวันนี้พี่ไม่พาปิ่นโตหรอ?

                แซนด์ถาม เพราะโดนปกติเชษฐ์จะพกปิ่นโตมาด้วยเสมอ เรียกว่าเป็นที่ฝากท้องของเหล่าน้องๆ เลยทีเดียว

                แม่พี่ไม่อยู่บ้านน่ะ

                เขาว่า  แซนด์มองดูใบหน้าเงียบขรึมและดวงตาที่ดูสงบๆ ภายใต้แว่นตากรอบทองหน้าเตอะ พลางคิดว่าทำไมผู้ชายแบบนี้ถึงได้มาทำงานเป็นโฮสท์กันนะ

                พี่เอาซาลาเปารึเปล่า

                เด็กหนุ่มถาม พลางยื่นถุงซาลาเปาให้ เชษฐ์ส่ายหน้า

                ซาลาเปาเซเว่น?

                เขาถาม  แซนด์พยักหน้า และนึกว่าเชษฐ์อาจจะไม่ค่อยชอบ

                งั้นเอามาลูกนึง

                อีกฝ่ายว่า และยื่นมือมา  แซนด์ส่งให้เขาอย่างงงๆ  แล้วตอนแรกส่ายหน้าทำไมเนี่ย

                ทำไมพี่ถึงมาทำงานที่นี่ล่ะครับ?

                เด็กหนุ่มเอ่ยถาม  และเป่าซาลาเปาที่ถูกอุ่นจนร้อนลวกปาก

                พี่สาวพี่เป็นเพื่อนกับพี่ฟ้า

                เชษฐ์ตอบ หลังจากพยายามจะกลืนซาลาเปาร้อนที่เขากัดลงไป  ใบหน้าของเขาเลยกลายเป็นสีแดง  แซนด์จึงก้มหน้าก้มตาเป่าซาลาเปาของเขาต่อ และคิดว่าคราวต่อไปน่าจะไม่ต้องอุ่น

                แล้วก่อนหน้านี้พี่ทำงานอะไรอ่ะ?

                แซนด์ถามต่อ  และลองดึงเนื้อซาลาเปาออกมาลองกินนิดหนึ่ง

                ออกแบบเว็บไซต์

                เชษฐ์ว่า ในที่สุดเขาก็ยอมจะเป่าซาลาเปาร้อนๆ นั้น

                แต่ทะเลาะกับเจ้านาย ก็เลยออก

                ง่ะ

                คิดว่าหน้าแบบพี่น่าจะไปเป็นพวกพนักงานบริษัทหรืออะไรแบบนั้นล่ะสิ

                อีกฝ่ายถามกลับอย่างรู้ทัน แซนด์พยักหน้า

                จริงๆ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตแบบนั้นแหละ แต่เจ้านายไม่ได้เรื่องสักคน

                แซนด์ยิ้มแห้งๆ  เขาพยายามจะไม่คิดว่า ที่ไม่ได้เรื่องเป็นตัวเชษฐ์หรือเจ้านายกันแน่  หนุ่มวัยยี่สิบห้าถอนหายใจยาว และกัดซาลาเปาเข้าไปอีกคำหนึ่ง

                ไปซื้อมาเพิ่มดีกว่า

                เขาว่า เมื่อกินหมดลูกแล้ว  แซนด์รีบยื่นที่เหลือให้

                ไม่เป็นไร พี่ไปซื้อเองดีกว่า

                เชษฐ์โบกมือ และทำท่าจะเดินออกไป

                ฝากร้านด้วย!!”

                เสียงโครมทำให้คำพูดชะงัก และประตูกระจกก็ถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างสูงใหญ่ผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลที่กำลังเอามือลูบศีรษะป้อยๆ

                ชนทุกทีสิน่ะ  หวัดดีครับพี่เชษฐ์  ทายซิวันนี้ผมซื้ออะไรมา...

                ผู้ที่เปิดประตูเข้ามาคือฟิวนั่นเอง ผู้ทำสถิติชนประตูเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ร้าน  น่าจะมีใครที่เตือนให้ฟ้าเลื่อนประตูเข้ามาหน่อย ก่อนที่จะโดนหมอนี่ชนจนพัง

                ซาลาเปา..

                เชษฐ์ว่า และยกมือขึ้นขยับแว่น  ฟิวทำหน้าสงสัย

                พี่รู้ได้ไง?

                ไอ้ลูกขาวๆ ในถุงเนี่ย มันคงทายเป็นส้มตำปูม้าไม่ได้หรอกฟิว

                อีกฝ่ายว่า ฟิวยักไหล่

                เวลาพี่เล่นมุขอะไรเนี่ย ช่วยทำหน้าให้เข้ากันทีเหอะ ผมจะได้รู้ว่าขำได้

                เชษฐ์ทำหน้าตาย และพูดต่อ

                แซนด์ก็เพิ่งซื้อมา นี่พวกนายนัดกันรึเปล่า?

                ฟิวทำหน้าเหวอ  หันไปมองหน้าแซนด์  เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงัก

                จริงอ่ะ  ผมเจอร้านรถเข็นตอนออกมาจากหอพอดีเลยซื้อมา อร่อยนะพี่  มีขนมจีบด้วย

                ซื้อมาเหมือนกัน

                แซนด์ว่า พลางยกถุงให้ดู  ฟิวทำหน้าอย่างไม่ยอมแพ้

                มีก๋วยเตี๋ยวหลอด กับบ๊ะจ่างด้วย

                เขาว่า  เชษฐ์หลับตา

                ตกลงว่านายเหมามายกร้านเลยใช่ไหม?

                ฟิวยักไหล่

                ซื้อมาพอกินแล้วกัน  พี่ฟ้าอ่ะ?

                ไปธุระ เย็นๆ คงมา

                เชษฐ์ตอบ  ฟิวหันไปมองนาฬิกาเช่นกัน

                ไอ้เย็นๆ เนี่ย คงไม่ใช่ตอนร้านเลิกหรอกนะ

                ไม่รู้สิ

                อีกฝ่ายทำหน้าไม่เดือดร้อน  ฟิวถอนหายใจ และเดินไปหาแซนด์

                เอาจานมาใส่รวมกันดีกว่า

                เขาว่า  แซนด์พยักหน้า

                ขึ้นไปกินกันข้างบนเลย  เอากุญแจไปไข

                เชษฐ์กล่าว และโยนพวงกุญแจให้ฮง

                แล้วพี่อ่ะ?

                เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถาม หลังจากรับกุญแจแล้ว

                ว่าจะอยู่เฝ้าหน้าร้าน เผื่อมีอะไร  เอาไว้ให้พี่สองลูกก็พอ

                ไส้ครีมใช่แมะ

                ฟิวถามอย่างรู้ใจ และหยิบถุงซาลาเปาถุงหนึ่งออกมา

                พี่กินไม่พอหรอกสองลูก  แถมให้สี่เลย  เอาให้หน้าเป็นซาลาเปา

                อืมๆ วางไว้ตรงนั้นแหละ

                เชษฐ์รีบตัดบท  ฟิววางซาลาเปาและถือถุงเดินขึ้นไปชั้นบน โดยมีแซนด์เดินตามไป

               

                พี่เชษฐ์เขาทำงานที่นี่นานแล้วหรอ?

                แซนด์ถาม ขณะที่เทขนมจีบรวมกัน  ฟิวพยักหน้า

                อืม  ก็มาหลังฉันไม่กี่อาทิตย์  เห็นว่าทะเลาะกับเจ้านายมั้ง ตอนแรกก็คิดว่าจะอยู่ได้ไม่นานเหมือนกันแหละ ก็เห็นเงียบๆ ขรึมๆ อย่างนั้น

                เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขาเดินไปหยิบจานอีกใบมาใส่ซาลาเปา

                นายชอบกินขนมจีบซาลาเปาหรือไง?

                ฟิวถาม เขาวางซาลาเปาลงไปทั้งถุง และดึงมันออกมาลูกหนึ่ง

                เปล่า แต่มันกินง่ายดีน่ะ

                แซนด์ว่า อีกฝ่ายพยักหน้า

                อืม  จริงๆ พี่เชษฐ์แกก็มีเรื่องฮาๆ อยู่  ประเภทตลกแบบไม่รู้จะขำดีมั๊ยล่ะมั้ง

                ฟิวเริ่ม เขากัดซาลาเปาเข้าไปคำหนึ่งและพูดต่อ

                อย่างถ้าถามแกว่าจะเอามั๊ย แกจะส่ายหัวก่อน แล้วค่อยถามว่าอะไร  บางทีก็เล่นมุขที่ไม่รู้ว่าตกลงว่ากะตลกหรือว่าจริงจังกันแน่

                แซนด์พยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที  ฟิวกลืนซาลาเปาลงคอ และเดินไปหยิบน้ำ

                แต่ลูกค้าก็ติดพี่เขาเยอะล่ะ  เห็นว่าอยู่แล้วเหมือนพี่ชาย ก็คงแบบนั้นนั่นแหละ

                อือ

                เสียงประตูเปิดผลัวะ ก้องเดินเข้ามาโดยมีฮงเดินตามหลัง

                วันซาลาเปาเดย์หรือไง

                ชายหนุ่มพูดอย่างร่าเริง วันนี้เขาแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมออกไปจนถึงหน้าอก  และห้อยสร้อยคอเส้นหนังมาหลายเส้น  พาลให้คิดถึงนายแบบนิตยาสารชาวเกย์

                ก้องลากเก้าอี้เข้ามานั่งร่วมวง  ขณะที่ฮงนั่งลงข้างๆ แซนด์

                วันนี้เจอไอ้ฮงที่ห้าง เลยรับมันมาด้วย

                ก้องเริ่มเล่า เขาจิ้มขนมจีบขึ้นมากิน

                เลยซวยเช็ดเลย  คนที่นั่นดันคิดว่าเป็นคู่เกย์กัน

                แซนด์ยกมือขึ้นปิดปาก ในขณะที่ฟิวเกือบจะสำลักน้ำ

                คู่เกย์? นายสองคนเนี่ยนะ

                หนุ่มผิวสีแทนถามอย่างไม่เชื่อ ฮงขมวดคิ้ว

                ก็ฉันเดินอยู่ กำลังจะเรียกแท๊กซี่  แล้วก้องมันก็ขับรถผ่านมาพอดี เลยเรียกให้ขึ้นรถ

                เออ ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก นึกว่ามันจะได้ไม่ต้องเสียค่ารถ  พอมันขึ้นรถ ก็เห็นผู้หญิงแถวนั้นสะกิดกัน ตอนแรกก็คิดว่าสงสัยเพราะรถสวย แล้วก็นึกได้ว่า ตรูเหมือนพวกเสี่ยออฟเด็กเลยนี่หว่า..

                ก้องคราง  ฮงทำหน้าหงิก  เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแลคสีดำของนักศึกษา  มันก็ชวนให้คิดเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ

                ไม่ไปเดินแถวนั้นสักพักดีกว่า

                หนุ่มหน้าตี๋บ่น และจิ้มขนมจีบเข้าไป

                ตอนแรกก็ว่าจะขำอยู่หรอก แต่พอคิดว่าต้องเป็นคู่เกย์กับไอ้ฮงแล้วก็นึกสงสารอ่ะ

                ฟิวว่า  เล่นเอาแซนด์เสียวสันหลังวาบ

                เอาแล้วไง หมาในปากไอ้ฟิวทำงาน

                ก้องว่า

                ไม่โดนบ้างก็ดีไปนะ

                ฮงพูดเรียบๆ  เขากินขนมจีบอีกลูกและพูดต่อ

                ตกลงวันนี้พี่ฟ้าจะมากี่โมง?

                ทุกคนส่ายหน้า

                ไอ้เย็นๆ ที่ว่าของพี่ฟ้าเนี่ยนะ  ปกติจะมาตอนร้านเลิกทุกที

                ก้องว่า ฟิวพยักหน้า

                สงสัยไปงานแฟชั่นมั้ง

                ฟิวเสริมขึ้น และพูดต่อ

                นึกภาพพี่แกแต่งตัวแบบพวกนางแบบไม่ออกเลย ใส่กระโปรงสั้นหรือว่าเสื้อสายเดี่ยวอะไรพวกนี้

                พี่ฟ้าแกอาจจะไม่ได้แต่งตัวอย่างนั้นก็ได้ ก็แกเป็นดีไซน์เนอร์ ไม่ใช่นางแบบสักหน่อย

                ก้องช่วยแก้ให้  แซนด์จิ้มขนมจีบขึ้นมากินข้าง ขณะฟังทั้งหมดสนทนา

                ยังไงก็เหอะ  ถ้าร้านเปิดแล้วพี่ฟ้ายังไม่มา ใครจะอยู่บาร์?

                ไม่ใช่ฉันแน่

                ฟิวส่ายหัวดิกๆ รีบปฏิเสธคนแรก ฮงหันไปทางก้อง

                ไม่ต้องหันมาทางฉันเลย

                ก้องรีบพูด

                ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน

                คราวที่แล้วผมยืนแทนไปหนนึงแล้ว

                ฮงพูดบ้าง  ทั้งหมดหันไปทางแซนด์

                ผมหรอ?

                เด็กหนุ่มว่า มองหน้าคนทั้งหมดอย่างงงๆ

                แต่ผมผสมเครื่องดื่มไม่เป็นเลยนะ

                สามสหายถอนหายใจพร้อมกัน

                ก็นั่นแหละ ถึงอยากให้เธอไปยืนแทน แต่ก็ได้แค่อยากน่ะ  สงสัยต้องไปขอร้องพี่เชษฐ์

                ก้องว่า  อีกสองคนพยักหน้า

                ทำไมอ่ะครับ  ที่บาร์มันแย่มากเลยหรอ?

                แซนด์ถามอย่างสงสัย  เท่าที่เขาอยู่มาสัปดาห์หนึ่ง งานที่นั่นก็ดูจะไม่ได้หนักอะไรนี่นา แค่ผสมเครื่องดื่ม คุยกับลูกค้า ไม่ต้องเช็ดโต๊ะหรือเดินบิลสักหน่อย  เครื่องคิดเงินก็เป็นระบบอัตโนมัติ

                แย่สุดๆ มีแต่พี่ฟ้าเท่านั้นที่รับมือไหว

                ฟิวว่า และทำหน้าสยอง

                ไปยืนแทนรอบเดียวหลอนไปสิบวัน

                เจ้าหนุ่มผิวสีแทนว่าต่อ และแกะบ๊ะจ่าง  หมอนี่กินได้จุสมกับขนาดตัวจริงๆ

                แต่ว่า พี่เชษฐ์แกจะยอมยืนหรอ  ไม่สิ แกจะยืนได้หรอ?

                ฮงว่า  ก้องยักไหล่

                ไม่ถามไม่รู้  ถ้าพี่ฟ้าไม่ได้สั่งว่าให้ใครยืนก็บอกว่าให้แกนั่นแหละยืน ก็แกยังไม่เคยอยู่บาร์เลยนี่

                ขอให้พี่ฟ้าไม่ได้สั่งว่าให้ใครยืนก็แล้วกัน สาธุ

                ฟิวว่า และยกมือปลกๆ  แซนด์มองและคิดว่าช่างไม่เข้ากับหน้าตานั่นจริงๆ เลย

                ยังมีซาลาเปาเหลืออีกรึเปล่า?

                เชษฐ์โผล่เข้ามาหลังจากบทสนทนาจบลงไปไม่นานนัก

                เหลืออีกสอง แต่เป็นไส้หมูนะพี่

                ฟิวว่า  เชษฐ์พยักหน้า

                ไส้หมูก็ได้

                หนุ่มสวมแว่นเดินเข้ามาร่วมวง  ก้องขยับที่ให้

                คุณชาญมาแล้วหรอ?

                เขาถาม  อีกฝ่ายพยักหน้า

                ผมไปเข้าห้องน้ำนะ

                ฮงว่า และผละออกไป  ก้องมองตาม

                หนีไปล่ะ

                เขาพึมพัม และหันไปมองหน้าฟิว  ทางนั้นพยักหน้าเป็นเชิงให้สัญญาณ

                เอ้อ พี่เชษฐ์  ถ้าพี่ฟ้ายังไม่มาตอนร้านเปิด  ใครจะยืนที่บาร์?

                หนุ่มผมสองสีถาม  และเกือบจะกลั้นใจ เมื่อเห็นใบหน้าเงียบๆ นั้นเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

                ก็พี่ไง

                จริงดิ?

                สองหนุ่มที่เหลืออุทานพร้อมกัน  เชษฐ์พยักหน้าอย่างงงๆ

                ก็พวกนายเคยยืนกันแล้ว รอบนี้พี่ยืนให้ก็ได้  มีอะไรรึ?

                ฟิวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยความดีใจ ขณะที่ก้องจับไหล่เชษฐ์

                ขอบคุณมากครับพี่เชษฐ์  บุญคุณนี้พวกผมจะไม่ลืมเลย

                แซนด์เกือบจะสำลักออกมา  ที่บาร์มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมสามคนนี่ถึงได้ไม่อยากจะยืนกันนัก

                ไม่เป็นไร

                เชษฐ์ว่า และแกะมือของก้องออกอย่างสุภาพ  ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือ ไม่รู้ว่าเช็ดรอยซาลาเปา หรือรอยมือของทางนั้นกันแน่

                ก็พี่ฟ้าไม่ได้สั่งไว้ว่าใคร  เดี๋ยวใครว่างลงไปช่วยพี่ยกเก้าอี้หน่อยสิ

                เขาว่า และก็หันไปทางก้อง

                นายก็ได้ จะได้ไปยืนหน้าร้านด้วยเลย

                อืม

                ก้องรับปาก และลุกออกไป

                สองคนนี่ก็เก็บจานไปล้างแล้วกัน

                เขาว่า และลุกจากไป  แซนด์กับฟิวมองหน้ากัน

                หวังว่าคงไม่ต้องล้างตอนเลิกร้านด้วยหรอกนะ

                ฟิวว่า แซนด์พยักหน้าทันที

     

    ------------------------------------------

                ร้านเปิดมาได้สองชั่วโมงแล้ว และยังไม่เห็นวี่แววของฟ้า  ท่าทางเย็นๆ ของคุณเธอจะเป็นแบบที่ก้องว่าจริงๆ  เชษฐ์ยืนตรงเคาท์เตอร์บาร์แทนฟ้าอย่างที่บอก  และแซนด์ก็ยังมองไม่เห็นว่ามีอะไรน่ากลัว

                แซนด์หยิบขวดใส่น้ำพันช์ให้พี่หน่อย

                เชษฐ์ว่า ขณะหยิบเชกเกอร์ขึ้นมาเขย่า  การผสมเครื่องดื่มของพ่อหนุ่มแว่นคนนี้ก็คล่องแคล่วดี  แล้วก็ยังไม่มีลูกค้าคนไหนเดินมาโวยวายว่าผสมผิดเลยสักคน  แซนด์หยิบขวดที่ว่าส่งให้เขา  และรับใบออร์เดอร์จากก้อง  ขณะที่เพิ่งเดินเอาใบสั่งอาหารไปเสียบที่แท่น เสียงโทรศัพท์ของร้านก็ดังขึ้น

                สวัสดีครับ บงบงคาเฟ่ครับ

                นั่นใคร แซนด์หรอ

                เสียงฟ้าดังขึ้น  แซนด์เผลอพยักหน้า

                ครับ

                เอ้อ  โทษที พอดีพี่ออกมาธุระแล้วยาวไปหน่อย

                หล่อนเริ่มอารัมพบท แซนด์ได้ยินเสียงหนวกหูแทรกเข้ามา เหมือนว่าอีกฝั่งอยู่ใจกลางกลุ่มคนหรืออะไรสักอย่าง

                คงไปถึงร้านดึก  เอ้อ พี่ลืมบอกเชษฐ์ไปว่าให้ฮงยืนบาร์ ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปทัน

                พี่เชษฐ์ยืนแล้วล่ะครับ

                แซนด์ตอบ  และได้ยินเสียงอุทานจากปลายสาย

                จริงง่ะ ตายตายๆๆ  แล้วเป็นไงมั่ง  มีใครตายรึยัง?

                เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว

                ไม่มีใครตายครับพี่ ก็ปกติดี

                หรอ

                ทางนั้นส่งเสียงกลับมาอย่างไม่ค่อยเชื่อ

                อืมๆ เข้าใจล่ะ แล้วพี่จะรีบๆ กลับแล้วกัน

                หล่อนว่า และวางสาย  ทิ้งความสงสัยไว้ให้ผู้รับสาย

                คนอื่นกลัวเคาท์เตอร์บาร์ แต่ฟ้าดันกลัวเชษฐ์ที่ยืนเคาท์เตอร์บาร์  แล้วตกลงอะไรกันแน่ที่น่ากลัว

                ต๊าย วันนี้น้องแว่นของเรามายืนเคาท์เตอร์บาร์หรือเนี่ย

                เสียงดัดจริตแหบห้าวราวควายออกลูกดังขึ้น ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร ต้องเป็นเจ๊กระเทยที่แซนด์ไม่เคยคิดอยากจะมองหน้าคนนั้นแน่ๆ

                เจ๊คนนี้มาที่ร้านทุกวัน และนั่งตรงที่เดิมประจำทุกวันด้วย ดูเหมือนจะเป็นขาประจำของฟ้าแบบสุดๆ  ท่าทางว่าเจ้าของร้านคนนี้จะมีเสน่ห์กับคนแปลกๆ

                จะรับอะไรครับ

                เชษฐ์ถาม ขณะหันไปส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้าหญิงอีกคน

                เหมือนเดิม  โอ๊ย ลืมไป เธอไม่ใช่ฟ้า

                หล่อนว่า และนั่งนึก

                เอาเป็นเหล้าผลไม้รวมแล้วกัน

                เชษฐ์พยักหน้า  และหยิบส่วนผสมขึ้นมา

                พี่คะ ขอน้ำฝรั่งด้วยค่ะ

                อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นสาววัยใสในชุดกระโปรงน่ารักสีเขียว หล่อนนั่งลงตรงเก้าอี้กลางเคาท์เตอร์พอดี และเอามือเท้าคาง

                ยังไม่เคยคุยกับพี่เลย พี่ชื่ออะไรหรอคะ?

                เชษฐ์

                คนถูกถามกล่าว เขาเงยหน้าขึ้นมองหล่อน  หญิงสาวยิ้มให้เขา

                เอาแขนเท้าโต๊ะไม่สุภาพนะครับ

                ชายหนุ่มกลาวต่อ หญิงสาวหุบยิ้มทันที

                ขอโทษค่ะ

                หล่อนว่า และชักแขนลงไป  แซนด์กลืนน้ำลายเฮือก ขณะกำลังคิดว่าพูดกับลูกค้าแบบนี้ได้ด้วยหรอ ฮงก็เดินเอาเมนูมาส่ง

                เอาไปส่งโต๊ะหก

                เชษฐ์เอ่ยขึ้นต่อและวางเครื่องดื่มสองแก้วลงในถาด เด็กหนุ่มยกมันและเดินออกไปอย่างกระฉับกระเฉง  พลางนึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง

                น้องแว่นนี่ดูท่าเจ้าระเบียบนะ

                เจ๊กระเทยพูด ขณะรับเหล้าผลไม้ที่เชษฐ์ยื่นให้

                ชื่อเชษฐ์ครับ

                หนุ่มสวมแว่นว่า  และหันไปทำงานต่อ

                แล้วพี่..เอ้อ ชอบผู้หญิงแบบไหนอ่ะคะ

                หญิงสาวชุดเขียวถามต่อ เธอยังไม่ได้น้ำฝรั่ง

                ชอบผู้หญิงเรียบร้อยครับ

                เชษฐ์ว่า และส่งน้ำฝรั่งให้หล่อน

                อุย..

                เจ๊กระเทยส่งเสียง  พลางมองหนุ่มแว่นที่มีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนกำลังทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มากกว่ากำลังเป็นบาร์เทนเดอร์

                พี่ชอบทานเครื่องดื่มอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ อย่างพวกกาแฟ หรือโค๊ก อะไรแบบนี้น่ะค่ะ

                สาวชุดเขียวยังใจกล้าถามต่อ เชษฐ์หันไปรับออเดอร์จากก้อง และก้มหน้าก้มตาตอบ

                น้ำเปล่าครับ  ผมไม่ทานกาแฟ

                แล้วโค๊กล่ะคะ

                ไม่ทานเหมือนกัน

                หญิงสาวเงียบไปพักหนึ่ง

                แล้วชอบทานอาหารอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ

                เชษฐ์ส่ายหน้าแทนคำตอบ เขายกมือขึ้นสั่นกระดิ่ง  ฮงวิ่งมารับถาดเครื่องดื่ม

                เอ้อ .... งั้น ถ้าจะขอเบอร์โทรศัพท์พี่ จะได้รึเปล่าคะ?

                ยังจะอยากคุยต่ออีกหรอเนี่ย

                เสียงเจ๊กระเทยพึมพำดังขึ้น

                เอาไปทำอะไรหรอครับ? ขอหวย?

                เขาพูดหน้าตาย จนอีกฝ่ายไม่รู้ว่าควรจะตลกดีไหม หญิงสาวทำหน้าปั้นยาก

                ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

                หล่อนว่า  เชษฐ์เงียบ และยื่นนิ้วเปียกๆ เขียนตัวเลขลงบนโต๊ะ

                รับปรึกษาเรื่องออกแบบเว็บไซต์และสิ่งพิมพ์นะครับ

                หนุ่มสวมแว่นว่า  หญิงสาวยิ้มอย่างดีใจ และเอากระดาษขึ้นมาจด

                ถ้าไม่มีธุระไม่ต้องโทรมานะครับ ผมไม่ชอบคุยโทรศัพท์

                ค่ะๆ

                เจ้าหล่อนว่า  จังหวะเดียวที่อีกเสียงดังขึ้นพอดี

                ฟ้า วันนี้ที่บ้านพี่เกิดเรื่องใหญ่

                หญิงวัยราวๆ สามสิบนางหนึ่ง โผล่พร่วดเข้ามานั่งแปะลงข้างๆ สาวชุดเขียว ทับรอยเลอะน้ำที่เขียนไว้พอดี

                อ๊ะ ฟ้าไม่อยู่หรอ?

                หล่อนกล่าว และปัดน้ำออกจากมือ

                เดี๋ยวผมเช็ดโต๊ะให้นะครับ

                แซนด์ว่า และหยิบผ้าขึ้นเช็ดรอยเลอะที่โต๊ะออกทันที สาวชุดเขียวกระพริบตาปริบๆ เพราะหล่อนยังจดไม่เสร็จ

                ฟ้าไม่อยู่ มีเจ้าแว่นนี่อยู่แทน

                เจ๊กระเทยช่วยตอบให้  หญิงนางนั้นขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ

                ไม่อยู่อีกแล้วหรอ?

                เธอพึมพำ  ขณะที่เชษฐ์พูดเรียบๆ

                ผมชื่อเชษฐ์ครับ

                เอ้อๆ รู้แล้วๆ

                หญิงวัยสามสิบว่า

                น้องแว่นที่หน้าเหมือนเซลล์ขายยา  วันนี้ที่บ้านพี่น่ะหมามันออกลูก

                เธอพูดต่อเชษฐ์ขยับแว่นนิดหนึ่ง  ได้ยินเสียงเจ๊กระเทยหัวเราะ

                จะรับเครื่องดื่มอะไรครับ

                เชษฐ์ถาม

                เอาไอ้น้ำพันช์ผสมเตกีล่านิดๆ  มะนาวหน่อยๆ  อย่าให้ขมกับเปรี้ยวมากนะ

                เธอว่า

                จะผสมเองไหมครับ

                อุย..

                เจ๊กระเทยอุทานรอบสอง  แซนด์เองก็เกือบจะอุทานออกไปเหมือนกัน

                ผสมไม่เป็นหรอ? งั้น เอาน้ำอะไรก็ได้

                ผสมได้ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกปากรึเปล่า

                เชษฐ์ตอบ หญิงสาวโบกมือ

                ผสมมาเหอะ ไม่เอาขมๆ เปรี้ยวๆ ก็พอ

                งั้นผสมเองนะครับ

                เธอถอนหายใจ

                เอาแค่น้ำพันช์ก็พอแล้วกันอย่างนั้น  โอ๊ย จริงๆ เลยน๊า  วันนี้น่ะ อีเบิ้มที่บ้านพี่มันตกลูกพอดี

                เจ้าหล่อนยังไม่ยอมเสียจังหวะการเล่าเรื่อง

                ออกมาตั้งแปดตัว ร้องงี๊ดๆ กันให้ดังทั้งบ้าน

                แล้วทำไมไม่ทำหมันล่ะครับ

                เชษฐ์ถาม เขาส่งน้ำพันช์ให้หล่อน และหยิบรายการเครื่องดื่มที่ก้องเพิ่งเอามาให้ขึ้นมาดู

                พี่เพาะหมาขาย

                หล่อนตอบ และจิบพันช์

                งั้นก็ไม่เห็นจะต้องบ่นเลยนี่ครับ

                หนุ่มสวมแว่นว่า  หยิบเชกเกอร์ขึ้นมาเขย่า

                ก็เสียงมันน่ารำคาญน่ะสิ

                หล่อนว่า

                พี่ว่าจะยกให้ใครไปบ้าง ขี้เกียจขายล่ะ ตั้งแปดตัว  ว่าจะมาถามฟ้าว่าจะเอามั๊ย?

                ไว้ถามตอนพี่เขากลับมาแล้วกันครับ

                อีกฝ่ายตอบ  หญิงสาวย่นคิ้ว

                แล้วเธอล่ะตาแว่น ไม่สนใจสักตัวหรือไง

                ผมไม่ชอบหมา

                เขาตอบเรียบๆ

                พันธุ์อะไรหรือครับ?

                แซนด์ถามขึ้น อย่างไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่ เขาเพิ่งหันหน้ากลับมาจากส่งเมนูให้ครัว

                โกลเด้น  น่ารักนะ  อยากได้รึเปล่า?

                หอพักผมไม่ให้เลี้ยงสัตว์น่ะครับ  แต่ว่าโกลเด้นน่ารักดี

                เอาไปส่งโต๊ะแปด

                เชษฐ์พูดแทรก และยื่นถาดใส่เครื่องดื่มให้แซนด์  เด็กหนุ่มเดินถือถาดออกไป  เมื่อกลับมาอีกที หญิงสาวชุดเขียวก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนหญิงวัยสามสิบที่เพิ่งมาใหม่กำลังนั่งหน้าเซ็งอย่างเห็นได้ชัด  เคาท์เตอร์บาร์เงียบกว่าทุกวันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆ ที่ปกติตอนนี้จะคนเยอะเป็นพิเศษ  แซนด์สังเกตว่าลูกค้าเริ่มย้ายไปนั่งตรงโต๊ะกันมากกว่า  เสียงเรียกให้ส่งเครื่องดื่มจากเชษฐ์ทำให้แซนด์ต้องเดินออกไปอีกครั้ง  เขาสวนกับฟิว

                เกิดอะไรขึ้นอ่ะแซนด์ ทำไมลูกค้าที่นั่งบาร์ประจำย้ายมานั่งโต๊ะ?

                แซนด์หัวเราะแห้งๆ

                ฟิวต้องไปดูเองง่ะ

                เขาว่า และเห็นฟิวทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะเดินจากไป  แซนด์ยกถาดเครื่องดื่มไปวางที่โต๊ะซึ่งก้องนั่งอยู่ และถูกถามด้วยคำถามคล้ายๆ กัน

                มีอะไรที่บาร์หรอ  ทำไมลูกค้าดูแตกฮือแบบนั้น

                แซนด์ได้แต่หัวเราะ เขาเริ่มรู้แล้วว่าทำไมพี่ฟ้าถึงได้อุทานออกมาแบบนั้น  แม้แต่ฮงก็ยังมีสีหน้าแปลกใจ

                พี่เชษฐ์ทำยังไงให้ลูกค้าเงียบน่ะ

                เขาถาม  แซนด์อมยิ้ม  และภาวนาอย่าให้หนุ่มหน้าตี๋คนนี้เลียนแบบ

               

                กลับมาแล้วว

                ฟ้าโผล่เข้ามาตอนอีกห้านาทีจะห้าทุ่ม ในชุดเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีขาวคาดแถบดำ และกางเกงยีนส์ยืดสีน้ำเงินเข้ม  ผมรวบเรียบร้อย และดูเป็นสาวทำงานเท่ๆ ดี  เจ้าหล่อนแวะทักทายลูกค้าและแวบไปหลังร้าน และกลับออกมาอีกห้านาทีให้หลังในชุดบาร์เทนเดอร์

                โทษทีนะเชษฐ์ พี่คิดว่าจะกลับทัน

                หล่อนปราดเข้าไปที่บาร์และกล่าวขอโทษขอโพยทันที

                ไม่เป็นไรหรอกครับ

                หนุ่มสวมแว่นว่า และยิ้มให้หล่อน  ฟ้าพยักหน้าหงึกหงัก กวาดตามองลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ที่บาร์

                เชษฐ์ไปช่วยคนอื่นได้แล้วล่ะ เดี๋ยวพี่ทำต่อเอง

                ครับ

                หนุ่มสวมแว่นพยักหน้า  และเดินออกไปอย่างว่าง่าย

                ต๊าย นางฟ้ามาโปรด

                เจ๊กระเทยส่งเสียงขึ้นทันที  เจ้าหล่อนนั่งได้นานทนทานจริงๆ ขณะที่ลูกค้าคนอื่นทยอยหนีไปเกือบหมดแล้ว

                โดนอะไรกันบ้างล่ะ?

                ฟ้าว่า  และหยิบเมนูที่เสียบอยู่ขึ้นมาอ่านพลางๆ

                เด็กเธอพูดจาอย่างกะหุ่นยนต์  พี่ว่าจะมาเล่าเรื่องหมาให้เธอฟัง เจอน้องแว่นเข้าไป แทบจะกลับบ้านไปกอดน้องหมา

                สาวสามสิบเจ้าของน้องหมาแปดตัวก็ยังอยู่ ท่าทางเธอจะอยู่คุยเรื่องลูกหมากับฟ้าให้ได้จริงๆ

                เบิ้มมันออกลูกล่ะรึ?

                ฟ้าถาม และเริ่มผสมเครื่องดื่ม

                ขอโทษเรื่องเชษฐ์ด้วยนะพี่ คือหนูคิดว่าจะกลับมาทัน จริงๆ แล้วเค้าก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เป็นพวกพูดตรงไปหน่อย

                ตรงมากกกกกกกกกกกก เลยล่ะ

                เจ๊กระเทยลากเสียง  ฟ้าย่นคิ้วและยิ้มอย่างรู้สึกผิด

                ให้น้องฮงมายืนยังดีกว่าอีก  เด็กนั่นแค่ขี้อาย  แกล้งสนุกดี

                สาวสามสิบว่า

                อืม คือลืมบอกไปว่าให้ใครยืน  ฟ้าขอโทษจริงๆ นะคะ นี่ยังไม่มีใครโดนไล่ใช่ไหมคะ?

                หล่อนถาม  สาวสามสิบส่ายหน้า

                ยังหรอก  ถึงไม่ไล่ก็เหมือนไล่แหละ แหม.. พูดจาซ่ะ ตร๊งตรง  พี่นะ เดาไม่ออกเลยว่าตกลงแล้วน้องแกพูดจริงหรือพูดเล่น หรือว่าเล่นมุข

                ก็หน้าตายซ่ะขนาดนั้นนี่นา

                เสียงที่ฟังทีไรก็ชวนให้นึกไปถึงความถึกเอ่ยสนับสนุน

                นั่นก็ดีแล้วนะคะ  ฟ้าล่ะกลัวว่าแกจะออกปากไล่ใครไปจริงๆ แบบที่ว่า ถ้าไม่พอใจก็กลับไปเลยครับ อะไรเทือกนั้น

                มีแต่บอกให้ผสมเหล้าเองน่ะ

                หญิงวัยสามสิบบอก ฟ้าหัวเราะแห้งๆ

                พี่ก็พอเข้าใจหรอกนะว่า น้องแกหวังดีว่าจะได้ถูกใจ  แต่ว่าวิธีการพูดนี่ไม่ไหวจริงๆ "

                ไว้ฟ้าจะพยายามบอกให้นะคะ  อ้อ แล้วอีเบิ้มบ้านพี่เป็นไงบ้างคะ

                หญิงสาวว่า  แล้วทางนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องลูกหมาแปดตัวอีกรอบ

     

    --------------------------------------------

                ฉันรู้แล้วว่าทำไมลูกค้าถึงได้เงียบกันนักเมื่อวานนี้

                ฟิวเอ่ยขึ้น หลังจากหิ้วถังน้ำเช็ดกระจกไปเก็บ

                เพราะเจอกับวิธีการพูดแบบสุดกู่ของพี่แกกับหน้าตายๆ ที่ไม่รู้ว่าจะตลกหรืออะไรนั่นแน่ๆ

                หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งกล่าวต่ออย่างภาคภูมิใจ

                พอนายพูดแบบนั้นแล้วนึกภาพตามออกเลยแหะ

                ก้องว่า เขาเพิ่งยกเก้าอี้ตัวสุดท้ายลงมาวางข้างโต๊ะ

                ฉันน่าจะลองบ้าง เวลาที่ต้องไปยืนบาร์

                พี่ว่าเธอจะถูกลูกค้าด่าแทน

                ฟ้าพูดแทรก และเสริมต่อ

                อย่าได้คิดริอาจไปเลียนแบบเชียว  เพราะหน้าตาเธอมันชักชวนให้คนคิดว่าหาเรื่องมากกว่าพูดตรง

                ฮงเบ้ปาก ขณะที่ฟิวหัวเราะ

                ว่าแต่วันนี้พี่เชษฐ์ไม่มาหรือครับ  ปกติเห็นมาเร็ว

                แซนด์พูดขึ้นบ้าง นึกสงสารฮงที่ถูกว่าแบบนั้น แต่ก็เห็นด้วยกับฟ้าว่าหน้าตาเจ้าหมอนี่มันดูหาเรื่องมากกว่าจริงๆ

                งอนรึเปล่า? แต่เมื่อวานก็ไม่เห็นพี่พูดอะไรกับพี่เชษฐ์นี่

                ฟิวว่า ฟ้ายักไหล่

                เชษฐ์ไม่คิดอะไรหรอก แต่เห็นว่าทำงานยังไม่เสร็จ อาจจะเข้ามาช้าหน่อย เอ้า พวกนายก็เตรียมตัวได้แล้ว

                หล่อนว่า และไล่ให้ทุกคนไปประจำที่

                เชษฐ์มาหลังร้านเปิดสักสิบห้านาที พร้อมกับซองกระดาษ  เขาแต่งตัวและลงมาประจำที่ด้านล่าง  แซนด์มองดูกลุ่มลูกค้าที่หนุ่มสวมแว่นไปนั่งด้วยแล้วนึกอยากไปนั่งด้วย เขาอยากรู้ว่าเวลาอยู่กับลูกค้าตามโต๊ะ เชษฐ์พูดจาแบบไหน คงจะแบบที่พูดกับพวกน้องๆ ที่ร้านล่ะมั้ง

                โอ๊ย ฟ้า วันนี้พี่มีเซอร์ไพรส์

                สาวสามสิบรายเดียวกับเมื่อวาน  แวะมาที่บาร์ในตอนเกือบๆ สามทุ่ม วันนี้บาร์กลับมาคนแน่นเหมือนเดิม ฟ้ากำลังวุ่นกับการผสมเครื่องดื่มและ ฟังลูกค้าอีกคนปรับทุกข์

                อะไรหรอคะพี่

                หล่อนถาม  สาวเจ้าหยิบซองกระดาษขึ้นมา

                บอกไปแล้วจะอึ้ง น้องแว่นเมื่อวานทำมาให้  เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสุนัข น่ารักไหมล่ะ

                ฟ้ามองมันแวบๆ และพูดขึ้น

                ว่าล่ะ

                หล่อนว่า  หญิงวัยสามสิบเก็บมันลงในซอง

                จะว่าไปเจ้าหนุ่มนี่ก็น่ารักดีนะ เขาคุยกับพี่ว่าน่าจะลองทำเว็บไซต์เกี่ยวกับลูกสุนัข แลกเปลี่ยนพูดคุย หรือว่าจำหน่ายอะไรแบบนี้  พี่ว่าจะลองคุยรายละเอียดกับเขาหน่อย

                ก็ดีนะคะพี่  เชษฐ์เขาฝีมือดีอยู่เรื่องนี้

                จ้ะ พี่ก็ว่างั้นแหละ

                แล้วพี่จะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ เหมือนเดิม?

                ฟ้าถามต่อ หญิงสาวพยักหน้า         

                อื้อ  เอาไปส่งที่โต๊ะแหละ เดี๋ยวพี่ให้เชษฐ์มาเดินเมนูให้

                ค่ะ

                ฟ้าว่า และสาวเจ้าก็เดินออกไป

                เจ้าเชษฐ์ใช้ร้านฉันหาลูกค้าอีกแล้ว

                หล่อนเปรย  แซนด์ยิ้ม ขณะส่งแก้วคอกเทลให้หล่อน

                ก็ดีไม่ใช่หรอครับพี่ ท่าทางลูกค้าจะแฮปปี้

                อืม ก็ดีอยู่หรอก  เจ้านั่นได้ทิปมากก็เพราะเรื่องนี้ด้วยมั้ง  จริงๆ ก็ไม่ได้แย่อะไรมาก แต่ให้ยืนบาร์ไม่ได้เด็ดขาด  มีหวังลูกค้าหายเกลี้ยงแน่ๆ

                เด็กหนุ่มหัวเราะ ฟ้าถลึงตามองเขา

                ได้ทีขำใหญ่เชียวนะ  เธอเองว่างๆ ก็มาเรียนผสมพวกนี้บ้างก็ได้ จะได้เอาไว้ยืนแทนเวลาฉุกเฉิน

                หล่อนว่า และหันไปรับออร์เดอร์กับลูกค้าอีกคน ก่อนจะหันไปปลอบใจหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังคร่ำครวญเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียซ้ำซาก

                แซนด์อ้าปากค้าง  มองดูลูกค้ารอบๆ เคาท์เตอร์ และกลืนน้ำลาย

                เขาเริ่มรู้แล้วว่าทำไมคนอื่นถึงได้ไม่อยากทำหน้าที่นี้กันนัก

     

    ---------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×