ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic bleach] Bad Day (UnohanaX???)

    ลำดับตอนที่ #2 : [End Event] : Bad Day [2/2] จบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 803
      18
      30 ธ.ค. 55

    “ข้าจะจัดการเอง ไม่จำเป็นต้องยืมมือท่านหรอกค่ะ”

    ดวงตาของชายชราประกาบลุกวาวน้อยๆ เหมือนเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจ - -“ แต่ก็ไม่วายถามย้ำสองสามครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะขอตัวลาหัวหน้าหน่วยสี่อย่างรวดเร็ว

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ขณะรอชาที่พึ่งชงให้หายร้อน หัวหน้าหน่วยสี่ก็หย่อนตัวนั่งพัก หลังจากเก็นริวไซออกไปยังพอมีเวลาพักสั้นๆ ก่อนจะออกไปตรวจคนไข้ต่อ  แต่ช่วงเวลาอันน้อยนิดนี้ เธอก็ไม่ลืมครุ่นคิดเรื่องหาคู่ไปงานเต้นรำที่หัวหน้าใหญ่ฝากฝังเธอเอาไว้

    ซึ่งงานใหญ่ขนาดนั้น ชายที่จะมาเป็นคู่ควงเธอ อย่างน้อย อยู่ในระดับเดียวกันกับเธอก็ยังดี

    ระดับเดียวกัน = ระดับหัวหน้าหน่วยด้วยกัน

    ตัวเลือกของเธอจึงเหลือไม่มากนัก = =

    วิเคราะห์เป็นคนๆ ไป ก่อนอื่น

    ตัดคนประหลาดกับเป็นพิษเป็นภัยต่อบ้านเมืองอย่างซาราคิ กับคุโรซึจิทิ้งไปซะ = =” ก็จะเหลือ

    หน่วย 1 หัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะ = พูดเป็นเล่น เดี๋ยวก็ได้หาว่าข้ารังแกผู้สูงวัยพอดี

    หน่วย 2 หัวหน้าซุยฟง = ผู้หญิงด้วยกันรึ ถ้าให้ข้าฝักใฝ่ในทางนี้(?) ขออยู่กับอิซาเนะจังดีกว่า แถมหัวหน้าก็ห้ามซะด้วย

    หน่วย 6 หัวหน้าคุจิกิ เบียคุยะ = เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ตระกูลขุนนางใหญ่ 

    หน่วย 7 หัวหน้าโคมามูระ = ข้าแพ้ขนสัตว์ - -

    หน่วย 8 หัวหน้าเคียวราคุ  = หน้าหม้อขนาดนั้น คงโดนข้าฟาดกลางงานแน่

    หน่วย 10หัวหน้าฮิตสึกายะ  = ที่โลกมนุษย์เรียกว่าอะไรนะ โชตะค่อน?

    หน่วย 13หัวหน้าอุคิทาเกะ = เปอร์เซ็นต์ที่จะได้ไปร่วมงานน้อยมาก อาการกำเริบช่วงสิ้นปีทุกที - -

    ดังนั้น ตัวเลือกที่เข้าท่าสุดขณะนี้ >>>> คุจิกิ เบียคุยะ =เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และฐานะทางสังคม !

    ทว่าเวลาพักของเธอของหยุดลงด้วยการขัดจังหวะ

    “หัวหน้าคะ”

     

    อุโนะฮานะถอนหายใจยาว สงครามน้ำลายกับหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะยังไม่พอ วันนี้ยังต้องเจออะไรอีกนะ

     

    “เกิดเรื่องวิวาทระหว่างหน่วยสิบเอ็ดกับหน่วยหก แต่คราวนี้หัวหน้าของทั้งสองหน่วยก็มาฉะกันเองด้วยค่ะ”

    “หืม หัวหน้าซาราคิกับหัวหน้าคุจิกิน่ะรึ

    “ค่ะ บาดเจ็บหนักเลย

    ประโยคที่อิซาเนะเอ่ยถัดมาไม่ได้เข้าหูหัวหน้าของเธอเลยแม้แต่น้อย

    หัวหน้าคุจิกิ!

    หัวหน้าคุจิกิ!

    ถ้าชวนหัวหน้าคุจิกิได้ละก็….

    …………..ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาในชุดสูทสีดำยืนควงแขนกับอุโนะฮานะเข้าไปในงาน ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของแม่ยกน้อยใหญ่…..

    หัวหน้าอุโนะฮานะแอบยิ้มที่มุมปากเบาๆ  ให้กับจินตนาการสุดบรรเจิดของเธอ พร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างกระตือรือร้น

     

    “นำทางข้าไปหาหัวหน้าคุจิกิทีสิ อิซาเนะ”

    “เอ่อ คนที่บาดเจ็บไม่ใช่หัวหน้าคุจิกิหรอกค่ะ”

     

    เพล้งๆ [เสียงมโนภาพของใครบางคนแตกกระจาย]

     

    “ตอนทั้งคู่สู้กัน หัวหน้าคุจิกิก็บังไคใส่เอาๆ อีกฝ่ายที่มาหาเรื่องเขาก่อนเลยแพ้ยับเลยค่ะ”

     

    ได้ยินดังนั้นหัวหน้าหน่วยสี่ทรุดตัวกลับลงไปนั่งที่อย่างเก่า

     

    งั้น คนที่จะต้องรักษาก็คือ

     

    โครม! คราม!

    กรี๊ดดดดด!!! ว๊ากกกก!!!

    “ท..ท่านหัวหน้า  กรุณารอข้างนอกก่อน แว๊ก!

    เสียงดังโวกเวกโวยวายบวกกับเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังไล่เข้ามาเรื่อยๆ รับการมาเยือนของตัวซวย เอ้ย หัวหน้าหน่วยที่สิบเอ็ดซาราคิ เคนปาจิ พอใกล้ถึงที่หมาย นอกจากจะไม่เคาะไถ่ถามตามมารยาท ยังโผงผางเปิดประตูเข้ามาแรงเสียจนบานพับแทบปลิว

    “ห หวา

    อิซาเนะที่อยู่ใกล้สุดยังถอยหลังครูดติดกำแพง จะไม่ให้ตกใจได้เช่นไรเมื่อสารรูปผู้ที่บุกมาดูไม่จืด ช่วงบนที่ควรจะเป็นชุดเครื่องแบบของยมทูตบัดนี้ เปลือยเปล่า ไม่เหลืออะไร [คาดว่าคงเกะกะตอนสู้เลยฉีกออก] โชว์ให้เห็นสัดส่วนของชายชาตรีที่ขณะนี้อุดมไปด้วยแผลเหวอะหวะ

    “นี่! พวกเจ้า รีบมารักษาให้ข้าไวๆ เข้าสิ   ….หือ!

    ผู้มาใหม่ยังแอบสะดุ้งเฮือกกับรังสีอัมหิตที่หญิงสูงวัย (ชิ้ง//writerโดนฆ่าด้วยหางตา) แผ่ออกมาทั่วห้อง 

    “พูดถึงก็มาพอดี …..หัวหน้าซาราคิ เชิญตามข้ามาเลยค่ะ”

    แม้น้ำเสียงจะดัดให้ราบเรียบยังไง บนใบหน้างามยังคงแฝงไปด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง = =*

    “อิซาเนะ ที่เหลือฝากจัดการด้วยนะ”

    อุโนะฮานะออกคำสั่งทิ้งทวนก่อนที่จะเดินพุ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว จนคนข้างหลังที่ต้องตามเธอไปแทบจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อให้ทัน

    “ค่ะ.. ……จะไหวมั้ยนะหัวหน้าอุโนะฮานะ ไม่สิ..จะรอดไหมนะหัวหน้าซาราคิ ;w;

     

    หลังจากทั้งคู่เดินวนไปมาในที่ทำการได้สักพัก ก็หาห้องว่างๆ เจอ อุโนะฮานะจึงหลีกทางให้เคนปาจิเข้าไปก่อนแล้วตนจึงตามเข้าไปพร้อมกับปิดประตูห้อง

    ภายในห้องไม่มีอะไรมากนักนอกจากเตียงผู้ป่วยหนึ่งเตียงกับม้านั่งตัวหนึ่ง หัวหน้าหน่วยสี่พับแขนเสื้อคลุมตัวเองขึ้นเตรียมพร้อมแล้วเหล่ตาไปทางคนไข้ของเธอให้นั่งลงกับม้านั่งนั่นซะ

     

    “ทำไมข้าต้องนั่งด้วย”

     

     “นั่งลงค่ะ ข้าจะได้เริ่มการรักษา”

    เธอเริ่มรักษาความเป็นมิตรในน้ำเสียงไม่ได้แล้วสิ = =

    มีหรือว่าคนหัวแข็งดื้อด้านอย่างซาราคิ เคนปาจิจะยอมทำตามคำใส่ใครง่ายๆ แต่การหาเรื่องผู้ที่กำลังจะรักษาแผลให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องฉลาด จึงจำยอมโดยไม่ต่อปากต่อคำอีก

    อาจเป็นเพราะโทสะเมื่อครู่บังตาอุโนะฮานะอยู่ เลยพึ่งสังเกตได้ว่าร่างสูงใหญ่ที่เดินตามเธอมาได้รับบาดเจ็บหนักไม่เบา ตามเนื้อตัวกว่า 80% เป็นรอยคมดาบ(คนอื่นเขารู้กันหมดแล้ว แต่ป้าพึ่งรู้สึกตัว) กระจายไปทั่วตัว แล้วยังมีแผลฉกรรจ์ประมาณ 4-5 แห่งที่เลือดยังไหลซิบๆ  แต่แผลที่น่าเป็นห่วงสุดคือ รอยฟันกลางอกที่ปากแผลลึกและใหญ่เอาเรื่อง

    หัวหน้าหน่วยพยาบาลอังฝ่ามือไว้เหนือบาดแผล เกิดแสงสีเขียวเรืองรองแผ่ออกมาทำให้เลือดหยุดไหลและปากแผลเริ่มปิด จนสีหน้าของหัวหน้าหน่วยสิบเอ็ดเริ่มดีขึ้นมาเล็กน้อย  ทว่า

     “ชิ! เจ็บใจชะมัดเจ้าเบียคุยะ คราวหน้าข้าไม่พลาดแน่”

    ….- -  *

    ถ้าไม่ใช่เพราะฝากดาบมินาซึกิไว้กับอิซาเนะ เธอคงใช้มันเฉาะกระบานคนไข้ปากไม่อยู่สุขนี้ไปแล้ว - -

    “เฮ้ๆ รักษาด้วยวิถีมารเรอะ ไม่มีวิธีอื่นแล้วรึไง”

    “คนที่เก่งแต่รบราฆ่าฟันอย่างท่านไม่มีสิทธิ์มาข้องใจศาสตร์แห่งการรักษาของหน่วยสี่เราหรอกนะคะ”

    คำตอบชัดเจนและเฉียบขาด ทำให้คนถามไม่กล้าพูดอะไรต่อไปอีกพักใหญ่ - -

     

    ผ่านไปสามชั่วโมง….

    การรักษายังคงต่อเนื่องไม่หยุด อุโนะฮานะก็ก้มๆ เงยๆ ไปรักษาแผลที่แผ่นหลังบ้าง หัวไหล่บ้าง ต้นคอ ด้านข้าง ข้างซ้าย ข้างขวา เดินวนไปมา ทำเอาคนที่นั่งอยู่เฉยๆ อดบ่นไม่ได้

    “นี่ เจ้าทำข้าเวียนหัวไปหมดแล้วนะ”

     

     “ข้าให้เวลาท่านพักสายตา 5 นาที”

    อุโนะฮานะพูดขณะผละมือออกมาพักฟื้นพลัง จังหวะที่ก้าวถอยออกมา พื้นดินที่หญิงสาวยืนอยู่เริ่มโครงเครง

    นี่ข้าหน้ามืดรึนี่

    ก่อนหน้านี้เธอใช้พลังรักษายมทูตหน่วยสิบสามราวสองสามกองที่กลับมาจากสู้กับฮอลโลว์ ไหนจะรักษาหน่วยสิบสองที่ถูกพิษเกือบยกหน่วยอีก เธอจึงตะหนักได้ว่าร่างกายของตัวเองใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว

    “ฮึ! สีหน้าดูไม่ดี พลัง.ใกล้หมดแล้วสิท่า” เคนปาจิแค่นเสียงถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นว่าใบหน้าสวยเริ่มหมองลงเล็กน้อย

    เปรี๊ยะๆ

    ปรอทความอดทนอดกลั้นของหัวหน้าหน่วยพยาบาลเริ่มร้าวเล็กน้อย - -* อุโนะฮานะจึงได้แต่บอกกับตัวเองให้ใจเย็นเข้าไว้

     

    1 ชั่วโมงครึ่งผ่านไป

     

    เคนปาจิลุกยืนขึ้น พลันสำรวจบาดแผลของตนที่บัดนี้ปิดสนิทและหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับสภาพเละเทะเมื่อครู่เป็นเรื่องโกหก

     “ข้ารักษาเสร็จแล้ว ….เชิญท่านออกไปได้”

    อุโนะฮานะพูดในขณะที่ยืนหันหลังให้ เพื่อปิดบังสีหน้าและท่าทางที่เหนื่อยอ่อนของตนไว้

    ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ครู่ก่อนจะเริ่มก้าวเดิน แต่แทนที่จะไปที่ประตูกลับเดินมาทางหัวหน้าสาวซะนี่

    “ข้าบอกว่ารักษาเสร็จแล้วไงล่ะคะ” ด้วยความล้าบวกกับอารมณ์ที่เก็บไว้ตั้งแต่เรื่องเก็นริวไซ (นั่นเก็บแล้วใช่มั้ย //writer)  ทำให้หญิงสาวเผลอปล่อยแรงดันวิญญาณออกมาเพื่อขับไล่อีกฝ่าย

     

    หมับ!

     

    !!!!!!!!!!

    อุโนะฮานะหารู้ไม่ว่าเคนปาจิไม่ได้สะทกสะท้านต่อแรงดันวิญญาณของตนเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มจึงเข้าประชิดตัวเธอได้ใกล้ขนาดนี้ ครั้นจะหันหลังไปตอบโต้ก็ไม่ทันเสียแล้ว รู้ตัวอีกทีไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกชายหนุ่มคว้าหมับเข้าให้

     

      “อ๊ะ!

    หัวหน้าสาวอุทานออกมาอย่างลืมตัว เพราะมือหนาที่จับไหล่เธออยู่ ใช้หัวแม่มือกดจุดบนแผ่นหลังอย่างแรง เชื่อว่ามีผลอะไรสักอย่างต่อเส้นประสาท ทำให้ร่างบางเซไปพิงกับเคนปาจิที่คอยรับอยู่พอดี

     

    ถึงร่างกายจะโดนกดจุดหยุดการเคลื่อนไหวไว้ชั่วคราว แต่หัวหน้าหน่วยสี่ยังไม่หมดเขี้ยวเล็บ ขณะที่ผลของการกดจุดยังทำงานไม่เต็มที่ อุโนะฮานะรีบฟาดมือใส่เคนปาจิเต็มแรง

    หวืด..

    นอกจากเคนปาจิจะหลบการโจมตีได้แล้ว ยังจับเธอนั่งลงที่ขอบเตียงนอนในห้องอีก

    “อยู่นิ่งๆ ซะ” ชายหนุ่มสั่งสั้นๆ พลางปีนขึ้นมาบนเตียง นั่นก็มากพอที่จะทำให้สติของอุโนะฮานะขาดผึง

     

    ……กล้าทำกับข้าถึงขนาดนี้ ……….

    ……..ซาราคิ เคนปาจิ ..โทษของเจ้ามีสถานเดียว….

    ………..คือ ตาย!!!

     

    แต่แล้ว….

     

    “อ๊า!

    เสียงร้องที่แทบจะเป็นเสียงคราง ทำเอาหญิงสาวแทบอยากกัดลิ้นตัวเอง แถมโทสะที่มีเมื่อครู่ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ….เคนปาจิทำอะไรกับเธอกันแน่นะ

     

    “เส้นตึงเอามากๆ เลยนะเจ้าเนี่ย”

    หัวหน้าหน่วยสิบเอ็ดบ่นน้อยๆ ขณะใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดที่ต้นคอแล้วไล่ลงไปถึงกลางหลัง เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่อ่อนล้าคลายตัวและช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น เรียกสั้นๆ ว่า นวด นั่นเอง  และคงไม่ใช่นวดธรรมดาๆ แน่ เพราะเคนปาจินวดตัวหญิงสาวสบายเสียจนร่างบางต้องเม้มปากตัวเองไม่ให้เผลอส่งเสียงอะไรออกมาอีก

     

    “เป็นยังไงล่ะ เคลิ้มเชียวนะ นี่ข้าไม่ได้เป็นแต่การฆ่าฟันอย่างเดียวหรอก รู้ไว้ซะ”

    อุโนะฮานะก้มหน้าลงเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย อีกทั้งเพื่อซ่อนสีหน้าที่แดงระเรื่อหลังจากโดนชายหนุ่มแซว ขณะนี้เคนปาจิเปลี่ยนจากนวดคลายเส้นที่หลังมาเป็นนวดไหล่ ทั้งที่มือใหญ่นั้นหยาบกร้านแต่กลับนวดได้อย่างนุ่มนวล ขณะเดียวกันก็คอยระวังไม่ให้ถูกเนื้อต้องตัวหัวหน้าสาวเกินไปด้วย

     

    อุโนะฮานะปล่อยให้อีกฝ่ายนวดไปซักพัก ก็ถามขึ้นมาอย่างอดสงสัยไม่ได้

    “ทำไมหัวหน้าซาราคิถึงได้ ….เชี่ยวชาญขนาดนี้”

    “เฮอะ! ไม่ได้เชี่ยวชนเชี่ยวชาญอะไร ข้าก็แค่..” เคนปาจิเล่าย้อนไปให้ฟังว่า สมัยที่เค้ายังอยู่เขตคุซาจิชิ เวลาปวดเมื่อยตัวหลังการต่อสู้ เขาจะแวะเข้าไปในร้านยาร้านหนึ่งแล้วบังคับให้เถ้าแก่นวดกดจุดให้โดยไม่คิดเงิน พอเคนปาจิแวะไปบ่อยๆ เข้า ชาวบ้านเลยไม่กล้าเข้าไปซื้อ เถ้าแก่เลยขอร้องไม่ให้เขากลับไปที่นั่นอีกแลกกับการสอนวิชาให้

    แต่ข้าพึ่งนวดให้คนอื่นเป็นครั้งแรกนี่แหล่ะ”

    ครั้งแรก?!

    …………..ไม่น่าเชื่อเลยว่าชายคนนี้จะ…….

    และแล้วห้วงความคิดของอุโนฮานะก็ถูกขัดขึ้น เมื่อมือหนาอ้อมมาข้างหน้าเตรียมจะแก้เปียของเธอออก

    “หยุดนะ!

    อุโนะฮานะร้องห้ามพร้อมกับผลุดลุกยืนขึ้น  บรรยากาศใกล้ชิดเมื่อครู่จึงหยุดลง

     

    “เรื่องเมื่อครู่….ขอบคุณเจ้ามาก แต่ว่า

    “อย่าเข้าใจผิด”

    เคนปาจิขัดขึ้น

    “ที่ข้าทำไป..ก็เพื่อจะได้ไม่เป็นหนี้บุญคุณกับเจ้า วันหน้า.. ถ้าข้ากับเจ้าต้องห้ำหั่นกันเอง ข้าจะได้ฟาดฟันเจ้าอย่างไม่ลังเล”

    ………แถมหน่วยของข้าเองก็เป็นภาระหน่วยเจ้าอยู่บ่อยๆ อีกต่างหาก

    “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก”  เคนปาจิพูดจบพร้อมกับยืนขึ้นตาม เตรียมจะเดินออกจากห้อง

     

    “เดี๋ยวก่อน”

    เสียงหวานร้องห้ามอีกครั้ง

    “เมื่อกี้เจ้าพึ่งจะไล่ให้ออกไปไม่ใช่รึไง” เคนปาจิพูดพลางแยกเขี้ยวใส่ แต่ก็หยุดยืนฟังแต่โดยดี

    “ท่านบอกว่าทดแทนบุญคุณสินะ ทว่าแค่นวดสองสามที จะทัดเทียมกับที่ข้าใช้พลังรักษาบาดแผลให้ท่าน ข้ารับไม่ได้หรอกค่ะ”

    ดวงตาที่ไม่มีที่คาดตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ร่างสูงจึงหันกลับไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง

    “จะบอกว่าที่ข้าทำมันยังไม่พอสินะ”

    เคนปาจิพูดพลางสาวเท้าไปหาอีกฝ่ายทีละน้อย จนกระทั่งระยะห่างของทั้งคู่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ

     

    “แล้วเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรให้เจ้าล่ะ ….อุโนะฮานะ”

    ถึงเคนปาจิไม่ได้พูดดังมากนักแต่น้ำเสียงนั้นอันตรายเอาเรื่อง แถมเจ้าตัวยังยืนชิดกับอุโนะฮานะเสียจนปลายจมูกของร่างเล็กจะชนกับแผ่นอกเปลือยเปล่านั่นอยู่แล้ว

    “อยากให้ท่าน

     

    อุโนะฮานะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเคนปาจิ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    ….มาเป็นคู่เต้นรำของข้า

    ….ได้หรือไม่?








    ++++++++++++++
    TO เด็กหญิงฟันเหล็ก ขอบคุณที่แอดfavครับ แต่ดันจบแล้วซะนี่ QAQ 
    ตั้งใจให้เป็น short fic ไปมาๆ แบ่งเป็นสามตอนยังได้เบย =w="
    ติดตามชะตากรรมของป้าต่อในเรื่องหน้าเน้อ >w<

    Next to >>> งานปีใหม่ของโซลโซไซตี้





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×