คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Event 15 : บุกโลกมนุษย์ : บ้านใหม่หลังที่สาม[ปิดท้าย]
ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองคาราคุระ
ควับๆ
“เอ่อ….”
ชายร่างมหึมา (น่าคิดเหมือนกันว่าพาตัวเองเข้าไปอยู่ในร้านมินิมาร์ทแห่งนี้ได้ยังไง) ผมทรงสีชมพูอ่อนในชุดไปรเวทเรียบๆ เอ่ยเสียงเบาด้วยความรู้สึกหนักใจกับการกระทำของคนที่มาด้วยกัน
ฟวบๆ
“ฮ…ฮิโยริ นี่มัน…ออกจะเยอะไปนะขรั่บ”
“มันเรื่องของข้า!!!”
สาวเตี้ยแบนซึน [แอ๊ก //ไรท์เตอร์โดนฮิโยริถีบ]ในชุดวอร์มสีแดงกับทรงผมทวินเทลตวาดใส่เสียงแหลม
“แต่…พวกเราแค่มาซื้อมื้อเย็น…กับของใช้เด็กเล็กเท่านั้นนะขรั่บ”
“แล้วเจ้ารู้เหรอว่าเลี้ยงเด็กมันต้องใช้อะไรบ้างห๊ะ!!! ฮัตจ์!”
“กะ…..ก็ ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยมี - -……”
ฮัตจ์เอ่ยอย่างจนใจ และจำยอมให้เด็กสาวช้อปปิ้งมาราธอนต่อโดยไม่ปริปากเสนอความคิดเห็นอะไรอีก
“ทั้งหมดนี่เท่าไหร่!”
พนักงานแคชเชียร์ถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจที่เห็นคุณลูกค้าตัวเล็กทุ่มสินค้ากองเท่าภูเขาใส่หน้า เมื่อหายอึ้งแล้ว พนักงานดวงตกจึงรีบคิดเงินอย่างรวดเร็ว
ฮัตจ์ลอบถอนใจน้อยๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วเดินตามฮิโยริไปที่แคชเชียร์
Event 15 : บุกโลกมนุษย์ : บ้านใหม่หลังที่สาม[ปิดท้าย]
โกดังเก่าๆ แถวชานเมืองคาราคุระ : รังไวเซิร์ด
“ให้สองคนนั้นไปซื้อของจะได้เรื่องเร้อ”
ยามาโดรุ ริสะพูดขึ้นลอยๆ ขณะที่ตายังอ่านหนังสือฆ่าเวลาของเจ้าตัว ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง
“แหงอยู่แล้ว ไม่ไหวหรอก”
หัวหน้ากลุ่มไวเซิร์ด ฮิราโกะ ชินจิ ตอบอย่างไม่คิด
“ทีแท้ก็อยากแกล้งฮิโยรินนี่เอง ว่าแต่ เคนเซย์ ให้ชั้นเค้าไปดูหน้าหนูน้อยหน่อยนะ นะๆๆ”
มาชิโระพูดพลางดีดตัวขึ้นมาจากที่นั่งแล้ววิ่งไปก่อกวนรอบๆ ตัวเคนเซย์ที่กำลังอ่านจดหมายที่พึ่งได้รับซ้ำไปมา พออ่านจบหนึ่งครั้งก็ถอนหายใจแล้วก็เริ่มต้นอ่านใหม่อย่างไม่เชื่อสายตา เพื่อหยุดวงจรการอ่าน เลิฟที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ขัดขามาชิโระให้ล้มลงก่อน(เพราะรู้สึกเวียนหัวแทนเคนเซย์) แล้วพูดขึ้น
“สรุปแล้วเด็กนั่นเป็นใครกันแน่”
“ยมทูตน่ะ” ขินจิตอบแทน
“เอ๋! เดี๋ยวนื้เด็กเกิดมาก็เป็นยมทูตเลยหรอ ฝึกใช้ดาบฟันวิญญาณตั้งแต่อยู่ในท้องแม่รึไง” มาชิโระโพล่งขึ้นมา
“ใช่ที่ไหนเล่า ยมทูตคนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนเรานี่แหละ แต่โดนลอบทำร้ายเอา …ดูเหมือนยังมีอีกสองคน แต่ถูกส่งไปที่อื่น”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นลายมือของหัวหน้าอุโนะฮานะละก็” เคนเซย์ที่พึ่งมีบทพูด เริ่มกำหมัดแน่น เพราะตอนมีตะกร้าเด็กมาวางใหม่ๆ ทุกคนในกลุ่มต่างช่วยกันกล่าวหาว่าเป็นลูกของเคนเซย์แอบไปมีไว้ ถึงบอกว่าเป็นการล้อเล่นเอาในตอนหลัง ก็ทำให้อดีตหัวหน้าผู้นี้เสียหายทางจิตใจไปมากทีเดียว
“โรสออกมาแล้ว” เลิฟพูดขึ้นทันที่ที่ชายหนุ่มผมยาวสีบลอนด์ท่าทางเหมือนคาสโนว่าหน่อยๆ เดินออกมาจากห้อง
“ลูกของข้ากับเคนเซย์เป็นไงบ้าง ^[]^” มาชิโระร้องถามขึ้นโดยมีเคนเซย์โวยวายอยู่เบื้องหลัง
“หลับปุ๋ยไปแล้ว ชั้นก็เลยออกมา ว่าแต่จดหมายนั่น มาจากหัวหน้าอุโนะฮานะแน่นะ”
ไม่มีใครสนใจตอบคำถามของโรส มีเพียงแต่สายตาที่จ้องมองมาที่เค้าอย่างมีเลศนัย แม้แต่ริสะยังต้องปิดหนังสือลง
“คุณชายอย่างเจ้า ไม่ยักรู้ว่าเลี้ยงเด็กเป็นด้วย”
“เลี้ยงอย่างอื่นก็ได้นะ” โรสพูดพลางหลิ่วตาให้ริสะที่รีบเชิดกลับใส่เค้าแทบจะทันควัน
“ใครสอนเจ้ากันนะ… แอบไปมีลับๆ รึเปล่าเนี่ย” ชินจิพูดทีเล่นทีจริง
อืม….ใครสอนเรานะ ……พอโรสคิด ก็นึกถึงใบหน้าหญิงสูงวัย ผมเผ้ามัดมวยรวบเรียบร้อย และรอยตีนกาหลายสิบริ้วรอบดวงตา และหน้าบอกบุญไม่รับ กำลังตวาดใส่เค้าซึ่งเป็นหัวหน้าเธอในสมัยก่อน
นึกถึงยัยเหี่ยวนั่นก็สยองแล้ว บรื๋อออ……..
“เปล่าหรอก” พอนิ่งอยู่นาน โรสก็ตอบชินจิสั้นๆ แล้วก็ขอตัวไปพัก เหล่าพวกพ้องที่สังเกตเห็นสีหน้าตอนที่โรสนึกถึงอดีตเมื่อครู่ ก็เลิกสนใจแล้วแยกกลับไปประจำที่ของตน
โครม!!!
“โอ้ว กลับมากันแล้ว แอ๊ฟ!!!” พูดยังไม่ทันจบประโยค ใบหน้าของชินจิก็หยุบเข้าไปตามแรงถีบของฮิโยริ
“ถ้ายังไม่กลับมาจะเห็นข้ามั้ยล่ะ เจ้าเซ่อ! แล้วให้ข้าเห็นตัวเด็กได้รึยัง ห๊ะ!!!”
“เจ้าได้เห็นจนเบื่อเลยล่ะ” เลิฟเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอากระดานขึ้นมา ชี้ให้ฮิโยริดู
“เพราะต่อไปเป็นเวรของเจ้า ที่จะต้องดูแลเด็กคนนี้”
=[]=!!!
ขณะที่ฮิโยริกำลังชาร์จพลังงานเพื่อเตรียมปฏิเสธสุดชีวิต ชินจิก็เดินมาจับไหล่เบาๆ พร้อมกับพูด
“งานนี้ หัวหน้าอุโนะฮานะขอร้องมาเองเชียวนะ”
เด็กสาวที่กำลังควันออกหูก็นิ่งกึกในบัดดล
“ตะ…แต่”
“เฮ้อๆ ฮิโยริ หัวหน้าอุโนะฮานะเป็นผู้มีพระคุณของเจ้าเชียวนะ จะไม่ยอมตอบแทนบุญคุณกันหน่อยเหรอ….
เจ้าเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เดี๋ยวสิ! ใครว่าข้าจะไม่…”
“…แต่จะว่าไปแล้ว งานแบบนี้มันก็เหมือนแกล้งเจ้าชัดๆ งั้นเปลี่ยนตารางนั่นซะ เดี๋ยวข้าทำแทน” ไม่พูดเปล่า ชินจิเดินตรงไปที่เลิฟแล้วแย่งกระดานมา
“เจ้าบ้าชินจิ! ฟังข้าก่อนเซ่!”
ฮิโยริร้องลั่นพลางพุ่งตัวไปที่ชินจิ ขณะที่ลำแขนผอมบางเงื้อขึ้นเตรียมจะชก ชินจิก็ตั้งท่าพร้อมหลบ
ฟิ้ว!
โครม!
แผ่นไม้อัปโชคปลิวหลุดออกจากมือชินจิลอยหวือไปตกอยู่หน้าฮัตจ์ แต่ดูเหมือนจะไม่สาแก่ใจนัก ร่างในชุดวอร์มเลยกระโดดไปกระทืบซ้ำ พอแน่ใจว่ากระดานไม้ที่กำหนดตารางเลี้ยงดูสมาชิกใหม่ได้แหลกเป็นชิ้นๆ แล้ว ก็หันกลับมาตวาดใส่เหล่าไวเซิร์ดที่นั่งอยู่
“เด็กคนนั้นข้าจะเป็นคนดูแลเอง! พวกเจ้าห้ามมายุ่งเชียวนะ!”
“เจ้าคนเดียวจะเลี้ยงไหวรึขรั่บ?” ฮัจต์ที่เงียบอยู่นาน เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่เหมือนกับเจ้าเซ่อชินจิ ที่ทำอะไรไม่เป็นหรอก ขอตัวล่ะ!” ฮิโยริตัดบท แล้วหิ้วของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเดินหายลับไปจากสายตาของทุกคน
“มันจะดีแน่เร้อชินจิ” ริสะถาม
“หืม… ข้ายังไม่บอกอีกเรอะว่าเด็กนั่นคือใคร”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปัง!
“เจ้าบ้าชินจิ ดูถูกกันชัดๆ”
ฮิโยริพูดพลางโยนของลงโครมใหญ่ แล้วทรุดตัวลงนั่งขัดสมาสอยู่ข้างๆ
“แล้วทำไมต้องมาเลี้ยงในที่ตากผ้าด้วยนะ” เด็กสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะมองไปรอบห้อง ซึ่งเป็นห้องร้างอีกหนึ่งห้องในโกดัง แล้วก็มีราวตากผ้ากับเสื้อผ้ากินเนื้อที่ราว 1 ใน 3 ใกล้ๆ กันนั้นก็มีฟูกนอนขนาดเล็กปูอยู่
“นอนอยู่นั่นเองสินะ เจ้าเด็กบ้า จะแกล้งให้หนำใจ” ฮิโยริสบถ พลางลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ ใกล้พอจนสังเกตได้ว่า
……….ที่นอนนั้นว่างเปล่า
!!!
ไม่มีแม้แต่เวลาให้ตกใจ เมื่อไวเซิร์ดสาวรับรู้ถึงแรงดังวิญญาณด้านหลังตน ฉับพลัน เงาสีดำพุ่งเข้ามาประชิดตัว หญิงสาวรีบตั้งการ์ดขึ้นได้ทันท่วงที ด้วยประสบการณ์วิวาทที่สั่งสมมานาน - -“ มือสองข้างของฮิโยริจึงเข้าจับเงานั้นเพื่อทุ่มลงพื้น
!!!
แต่ทุกสิ่งกลับตาลปัตร เมื่อความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ท้องของหญิงสาวแล่นไปทั่วร่าง ทำให้การเคลื่อนไหวเสียจังหวะ ส่งผลให้ร่างของฮิโยริลงไปนอนกับพื้นแทน โดยมีเงาปริศนาขึ้นค่อมเธออยู่
“ไหน…เจ้าว่าจะแกล้งใคร ห๊ะ”
เสียงทุ้มห้าวกระซิบข้างๆ หู เมื่อร่างเล็กเหลียวมองตามเสียงก็ถึงกับเบิกตากว้าง
“หืม… ข้ายังไม่บอกอีกเรอะว่าเด็กนั่นคือใคร”
ยังไม่ได้บอก(เฟ้ย!) ทุกคนคิด
อดีตรองหัวหน้าน่วยสิบสองเริ่มออกแรงดิ้นพร้อมกับส่งเสียงร้อง แต่ก็โดนชายหนุ่มเจ้าของเสียงจัดแจงใช้เข่ากดขาเล็กๆ ทั้งสองข้าง ใช้มือชวารวบแขนเรียวบางไว้เหนือหัว ส่วนมือที่เหลือใช้อุดปากร่างที่นอนอยู่
“ก็หมอนั่นไง”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ รองหัวหน้าซากุรางิ ไม่สิ อดีตรองหัวหน้า…”
“เพื่อนร่วมงานของฮิโยรินเมื่อตอนร้อยปีก่อนนู้น”
“อึ๊ก..อื้อ..!”
“ลำดับ 3 หน่วยที่ 12 …..ในจดหมายไม่ยักบอกชื่อเต็ม” เคนเซย์เสริมขึ้น
“เจ้ามีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ ที่จะไม่ขัดขืนข้า”
“1 ถ้าขืนยังออกแรงอย่างนี้ แผลที่หัวหน้าอุโนะฮานะพยายามรักษานักหนา ได้เปิดแน่”
“2 เพราะเจ้าเข้ามาไวเกินเหตุ ข้าเลยยังไม่ได้หาเสื้อผ้าใส่”
“3 เป็นผลจากข้อ 2 ถ้าขืนเจ้าเสียงดังจนคนอื่นมาเห็นพวกเราตอนนี้เข้าละก็ คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายหรอกนะว่าจะเป็นยังไง…”
ตอนแรก มีหรือว่าฮิโยริจะยอม แต่พอรับรู้ได้ว่าร่างที่ค่อมเธออยู่นั้นเปลือยเปล่า (แถมสายตาเธอก็เผลอมองเสียจนทั่ว) บวกกับจินตนาการตามข้อสุดท้ายที่ชายหนุ่มบอก ทำเอาสาวแก่นแก้วแห่งกลุ่มไวเซิร์ดทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนหลับตาปี๋
“สัญญานะว่า ถ้าข้าปล่อยเจ้าจะไม่โวยวายเสียงดัง”
ฮิโยริรีบพยักหน้ารับ
“ดีมาก”
ร่างสูงตอบสั้นๆ ก่อนจะผละตัวออกเพื่อลุกขึ้นยืน แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวตรงดิ่งไปทางราวตากผ้า
“ผ่านไปร้อยปี…พูดง่ายขึ้นเยอะเลยนิ…อ๊อก!!!”
พอมั่นใจว่าอีกฝ่ายได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ฮิโยริเลยสบโอกาสเอาตัวพุ่งชนใส่พร้อมกับใช้ศอกถองไปที่กลางลำตัวนั้นจนล้มคว่ำไปทั้งคู่ หญิงสาวไม่อยากเสียท่าอีกเป็นครั้งที่สอง จึงรีบตะเกียกตะกายขึ้นมานั่งทับอีกฝ่ายไว้
“จ…เจ้าผิด…คำพูด…อึก..” เพราะมือเล็กที่ที่เริ่มต้นบีบคอของเขาอยู่ ทำให้ชายหนุ่มพูดอย่างยากเย็น
“ข้าแค่สัญญาว่าจะไม่ส่งเสียงดัง ไม่ได้สัญญาว่าห้ามฆ่าเจ้าซักหน่อย อากอน” แม้จะพยายามพูดเสียงเบาที่สุด แต่หญิงสาวไม่คิดจะข่มสีหน้าอาฆาตแค้นเรื่องที่เขาบังอาจทำกับเธอเมื่อครู่ได้เลย
“เฮอะ นั่นสินะ” อากอนทิ้งมือทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัว นอนแผ่หลาอย่างจำยอม ทำเอาฝ่ายที่นับทับอยู่เริ่มลังเล แต่ก็ไม่ได้ทำให้แรงที่บีบคออยู่ลดลง
“..ขะ..ข้าน่ะ…อยู่ในเหตุการณ์เอง…เชียว….นะ”
“…ย่อม…รู้เรื่องที่เกิด…ดี..ที่สุด”
“..แน่นอนว่า…รู้ดี…รู้จริง…กว่าพวก…ที่อยู่ข้างนอก…”
ฮิโยริได้ฟังก็หูผึ่ง จึงรีบคลายมือออกทันที
“แค่กๆ… แต่ถ้าเจ้าไม่อยากฟังเรื่องทั้งหมด ข้าก็เกรงใจจะเล่า”
“ไม่ๆ ข้าจะฟังๆ รีบเล่ามาเดี๋ยวนี้นะเจ้าบ้า!”
อากอนพลันถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮิโยริฟัง
+++++++++++++++++++++++++++++++
เริ่มกระจายบทจวนจะเละแล้ว -w-"
เพื่อให้ตัวละครไม่สำคัญมีบท เพราะงั้น ช่างมัน - -v
ว่าแต่...รีดเดอร์อยู่ไหน ยู้ฮู.....
เงียบ... สงสัยไม่ช๊อต =w="
ความคิดเห็น