ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic bleach] Jamakke no Shinigami

    ลำดับตอนที่ #19 : Event 15 : บุกโลกมนุษย์ : บ้านใหม่หลังที่สาม[ปิดท้าย]

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 55


    ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองคาราคุระ

     

    ควับๆ

    “เอ่อ….

     

    ชายร่างมหึมา (น่าคิดเหมือนกันว่าพาตัวเองเข้าไปอยู่ในร้านมินิมาร์ทแห่งนี้ได้ยังไง) ผมทรงสีชมพูอ่อนในชุดไปรเวทเรียบๆ เอ่ยเสียงเบาด้วยความรู้สึกหนักใจกับการกระทำของคนที่มาด้วยกัน

    ฟวบๆ

    “ฮฮิโยริ นี่มันออกจะเยอะไปนะขรั่บ”

    “มันเรื่องของข้า!!!

    สาวเตี้ยแบนซึน [แอ๊ก //ไรท์เตอร์โดนฮิโยริถีบ]ในชุดวอร์มสีแดงกับทรงผมทวินเทลตวาดใส่เสียงแหลม

    “แต่พวกเราแค่มาซื้อมื้อเย็นกับของใช้เด็กเล็กเท่านั้นนะขรั่บ”

    “แล้วเจ้ารู้เหรอว่าเลี้ยงเด็กมันต้องใช้อะไรบ้างห๊ะ!!! ฮัตจ์!

    “กะ…..ก็ ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยมี - -……

    ฮัตจ์เอ่ยอย่างจนใจ และจำยอมให้เด็กสาวช้อปปิ้งมาราธอนต่อโดยไม่ปริปากเสนอความคิดเห็นอะไรอีก

     

    “ทั้งหมดนี่เท่าไหร่!

    พนักงานแคชเชียร์ถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจที่เห็นคุณลูกค้าตัวเล็กทุ่มสินค้ากองเท่าภูเขาใส่หน้า เมื่อหายอึ้งแล้ว พนักงานดวงตกจึงรีบคิดเงินอย่างรวดเร็ว

     

    ฮัตจ์ลอบถอนใจน้อยๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วเดินตามฮิโยริไปที่แคชเชียร์

     

    Event 15 : บุกโลกมนุษย์ : บ้านใหม่หลังที่สาม[ปิดท้าย]

     

    โกดังเก่าๆ แถวชานเมืองคาราคุระ : รังไวเซิร์ด

     

    “ให้สองคนนั้นไปซื้อของจะได้เรื่องเร้อ”

    ยามาโดรุ ริสะพูดขึ้นลอยๆ ขณะที่ตายังอ่านหนังสือฆ่าเวลาของเจ้าตัว ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง

    “แหงอยู่แล้ว ไม่ไหวหรอก”

    หัวหน้ากลุ่มไวเซิร์ด ฮิราโกะ ชินจิ ตอบอย่างไม่คิด

     

    “ทีแท้ก็อยากแกล้งฮิโยรินนี่เอง ว่าแต่ เคนเซย์ ให้ชั้นเค้าไปดูหน้าหนูน้อยหน่อยนะ นะๆๆ”

    มาชิโระพูดพลางดีดตัวขึ้นมาจากที่นั่งแล้ววิ่งไปก่อกวนรอบๆ ตัวเคนเซย์ที่กำลังอ่านจดหมายที่พึ่งได้รับซ้ำไปมา พออ่านจบหนึ่งครั้งก็ถอนหายใจแล้วก็เริ่มต้นอ่านใหม่อย่างไม่เชื่อสายตา เพื่อหยุดวงจรการอ่าน  เลิฟที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ขัดขามาชิโระให้ล้มลงก่อน(เพราะรู้สึกเวียนหัวแทนเคนเซย์) แล้วพูดขึ้น

    “สรุปแล้วเด็กนั่นเป็นใครกันแน่”

    “ยมทูตน่ะ” ขินจิตอบแทน

    “เอ๋! เดี๋ยวนื้เด็กเกิดมาก็เป็นยมทูตเลยหรอ ฝึกใช้ดาบฟันวิญญาณตั้งแต่อยู่ในท้องแม่รึไง” มาชิโระโพล่งขึ้นมา

    “ใช่ที่ไหนเล่า ยมทูตคนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนเรานี่แหละ แต่โดนลอบทำร้ายเอา ดูเหมือนยังมีอีกสองคน แต่ถูกส่งไปที่อื่น”

    “ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นลายมือของหัวหน้าอุโนะฮานะละก็” เคนเซย์ที่พึ่งมีบทพูด เริ่มกำหมัดแน่น เพราะตอนมีตะกร้าเด็กมาวางใหม่ๆ ทุกคนในกลุ่มต่างช่วยกันกล่าวหาว่าเป็นลูกของเคนเซย์แอบไปมีไว้ ถึงบอกว่าเป็นการล้อเล่นเอาในตอนหลัง ก็ทำให้อดีตหัวหน้าผู้นี้เสียหายทางจิตใจไปมากทีเดียว

     

    “โรสออกมาแล้ว” เลิฟพูดขึ้นทันที่ที่ชายหนุ่มผมยาวสีบลอนด์ท่าทางเหมือนคาสโนว่าหน่อยๆ เดินออกมาจากห้อง

    “ลูกของข้ากับเคนเซย์เป็นไงบ้าง ^[]^” มาชิโระร้องถามขึ้นโดยมีเคนเซย์โวยวายอยู่เบื้องหลัง

     “หลับปุ๋ยไปแล้ว ชั้นก็เลยออกมา ว่าแต่จดหมายนั่น มาจากหัวหน้าอุโนะฮานะแน่นะ”

    ไม่มีใครสนใจตอบคำถามของโรส มีเพียงแต่สายตาที่จ้องมองมาที่เค้าอย่างมีเลศนัย แม้แต่ริสะยังต้องปิดหนังสือลง

    “คุณชายอย่างเจ้า ไม่ยักรู้ว่าเลี้ยงเด็กเป็นด้วย”

    “เลี้ยงอย่างอื่นก็ได้นะ” โรสพูดพลางหลิ่วตาให้ริสะที่รีบเชิดกลับใส่เค้าแทบจะทันควัน

    “ใครสอนเจ้ากันนะ แอบไปมีลับๆ รึเปล่าเนี่ย” ชินจิพูดทีเล่นทีจริง

     

    อืม….ใครสอนเรานะ ……พอโรสคิด ก็นึกถึงใบหน้าหญิงสูงวัย ผมเผ้ามัดมวยรวบเรียบร้อย และรอยตีนกาหลายสิบริ้วรอบดวงตา และหน้าบอกบุญไม่รับ กำลังตวาดใส่เค้าซึ่งเป็นหัวหน้าเธอในสมัยก่อน

    นึกถึงยัยเหี่ยวนั่นก็สยองแล้ว บรื๋อออ……..

     

     

    “เปล่าหรอก” พอนิ่งอยู่นาน โรสก็ตอบชินจิสั้นๆ แล้วก็ขอตัวไปพัก เหล่าพวกพ้องที่สังเกตเห็นสีหน้าตอนที่โรสนึกถึงอดีตเมื่อครู่ ก็เลิกสนใจแล้วแยกกลับไปประจำที่ของตน

     

    โครม!!!

    “โอ้ว กลับมากันแล้ว แอ๊ฟ!!!” พูดยังไม่ทันจบประโยค ใบหน้าของชินจิก็หยุบเข้าไปตามแรงถีบของฮิโยริ

    “ถ้ายังไม่กลับมาจะเห็นข้ามั้ยล่ะ เจ้าเซ่อ! แล้วให้ข้าเห็นตัวเด็กได้รึยัง ห๊ะ!!!

    “เจ้าได้เห็นจนเบื่อเลยล่ะ” เลิฟเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอากระดานขึ้นมา ชี้ให้ฮิโยริดู

    “เพราะต่อไปเป็นเวรของเจ้า ที่จะต้องดูแลเด็กคนนี้”

     

    =[]=!!!

     

    ขณะที่ฮิโยริกำลังชาร์จพลังงานเพื่อเตรียมปฏิเสธสุดชีวิต ชินจิก็เดินมาจับไหล่เบาๆ พร้อมกับพูด

    “งานนี้ หัวหน้าอุโนะฮานะขอร้องมาเองเชียวนะ”

    เด็กสาวที่กำลังควันออกหูก็นิ่งกึกในบัดดล

    “ตะแต่”

     

    “เฮ้อๆ ฮิโยริ หัวหน้าอุโนะฮานะเป็นผู้มีพระคุณของเจ้าเชียวนะ จะไม่ยอมตอบแทนบุญคุณกันหน่อยเหรอ….

    เจ้าเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

     

    “เดี๋ยวสิ! ใครว่าข้าจะไม่

     

    แต่จะว่าไปแล้ว งานแบบนี้มันก็เหมือนแกล้งเจ้าชัดๆ งั้นเปลี่ยนตารางนั่นซะ เดี๋ยวข้าทำแทน” ไม่พูดเปล่า ชินจิเดินตรงไปที่เลิฟแล้วแย่งกระดานมา

     

     “เจ้าบ้าชินจิ! ฟังข้าก่อนเซ่!

    ฮิโยริร้องลั่นพลางพุ่งตัวไปที่ชินจิ ขณะที่ลำแขนผอมบางเงื้อขึ้นเตรียมจะชก ชินจิก็ตั้งท่าพร้อมหลบ

    ฟิ้ว!

    โครม!

     

    แผ่นไม้อัปโชคปลิวหลุดออกจากมือชินจิลอยหวือไปตกอยู่หน้าฮัตจ์ แต่ดูเหมือนจะไม่สาแก่ใจนัก ร่างในชุดวอร์มเลยกระโดดไปกระทืบซ้ำ พอแน่ใจว่ากระดานไม้ที่กำหนดตารางเลี้ยงดูสมาชิกใหม่ได้แหลกเป็นชิ้นๆ  แล้ว ก็หันกลับมาตวาดใส่เหล่าไวเซิร์ดที่นั่งอยู่

    “เด็กคนนั้นข้าจะเป็นคนดูแลเอง! พวกเจ้าห้ามมายุ่งเชียวนะ!

    “เจ้าคนเดียวจะเลี้ยงไหวรึขรั่บ? ฮัจต์ที่เงียบอยู่นาน เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง

    “ข้าไม่เหมือนกับเจ้าเซ่อชินจิ ที่ทำอะไรไม่เป็นหรอก ขอตัวล่ะ!” ฮิโยริตัดบท แล้วหิ้วของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเดินหายลับไปจากสายตาของทุกคน

     

    “มันจะดีแน่เร้อชินจิ” ริสะถาม

    “หืม ข้ายังไม่บอกอีกเรอะว่าเด็กนั่นคือใคร”   

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    ปัง!

     

    “เจ้าบ้าชินจิ ดูถูกกันชัดๆ”

     

    ฮิโยริพูดพลางโยนของลงโครมใหญ่ แล้วทรุดตัวลงนั่งขัดสมาสอยู่ข้างๆ

    “แล้วทำไมต้องมาเลี้ยงในที่ตากผ้าด้วยนะ” เด็กสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะมองไปรอบห้อง ซึ่งเป็นห้องร้างอีกหนึ่งห้องในโกดัง แล้วก็มีราวตากผ้ากับเสื้อผ้ากินเนื้อที่ราว 1 ใน ใกล้ๆ กันนั้นก็มีฟูกนอนขนาดเล็กปูอยู่

    “นอนอยู่นั่นเองสินะ เจ้าเด็กบ้า จะแกล้งให้หนำใจ” ฮิโยริสบถ พลางลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ ใกล้พอจนสังเกตได้ว่า

     

    ……….ที่นอนนั้นว่างเปล่า

     

     

    !!!

     

    ไม่มีแม้แต่เวลาให้ตกใจ เมื่อไวเซิร์ดสาวรับรู้ถึงแรงดังวิญญาณด้านหลังตน ฉับพลัน เงาสีดำพุ่งเข้ามาประชิดตัว หญิงสาวรีบตั้งการ์ดขึ้นได้ทันท่วงที ด้วยประสบการณ์วิวาทที่สั่งสมมานาน - -“ มือสองข้างของฮิโยริจึงเข้าจับเงานั้นเพื่อทุ่มลงพื้น

    !!!

    แต่ทุกสิ่งกลับตาลปัตร เมื่อความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ท้องของหญิงสาวแล่นไปทั่วร่าง ทำให้การเคลื่อนไหวเสียจังหวะ ส่งผลให้ร่างของฮิโยริลงไปนอนกับพื้นแทน โดยมีเงาปริศนาขึ้นค่อมเธออยู่

     

     “ไหนเจ้าว่าจะแกล้งใคร ห๊ะ”

    เสียงทุ้มห้าวกระซิบข้างๆ หู เมื่อร่างเล็กเหลียวมองตามเสียงก็ถึงกับเบิกตากว้าง

     

     

    “หืม ข้ายังไม่บอกอีกเรอะว่าเด็กนั่นคือใคร”  

    ยังไม่ได้บอก(เฟ้ย!) ทุกคนคิด

     

    อดีตรองหัวหน้าน่วยสิบสองเริ่มออกแรงดิ้นพร้อมกับส่งเสียงร้อง แต่ก็โดนชายหนุ่มเจ้าของเสียงจัดแจงใช้เข่ากดขาเล็กๆ ทั้งสองข้าง ใช้มือชวารวบแขนเรียวบางไว้เหนือหัว ส่วนมือที่เหลือใช้อุดปากร่างที่นอนอยู่

     

    “ก็หมอนั่นไง”

     

     

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ รองหัวหน้าซากุรางิ ไม่สิ อดีตรองหัวหน้า

     

    “เพื่อนร่วมงานของฮิโยรินเมื่อตอนร้อยปีก่อนนู้น”

     

    “อึ๊ก..อื้อ..!

     

    “ลำดับ 3 หน่วยที่ 12 …..ในจดหมายไม่ยักบอกชื่อเต็ม” เคนเซย์เสริมขึ้น

     

     

    “เจ้ามีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ ที่จะไม่ขัดขืนข้า”

    1 ถ้าขืนยังออกแรงอย่างนี้ แผลที่หัวหน้าอุโนะฮานะพยายามรักษานักหนา ได้เปิดแน่”

    2 เพราะเจ้าเข้ามาไวเกินเหตุ ข้าเลยยังไม่ได้หาเสื้อผ้าใส่”

    3 เป็นผลจากข้อ 2 ถ้าขืนเจ้าเสียงดังจนคนอื่นมาเห็นพวกเราตอนนี้เข้าละก็ คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายหรอกนะว่าจะเป็นยังไง

     

    ตอนแรก มีหรือว่าฮิโยริจะยอม แต่พอรับรู้ได้ว่าร่างที่ค่อมเธออยู่นั้นเปลือยเปล่า (แถมสายตาเธอก็เผลอมองเสียจนทั่ว) บวกกับจินตนาการตามข้อสุดท้ายที่ชายหนุ่มบอก ทำเอาสาวแก่นแก้วแห่งกลุ่มไวเซิร์ดทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนหลับตาปี๋

    “สัญญานะว่า ถ้าข้าปล่อยเจ้าจะไม่โวยวายเสียงดัง”

    ฮิโยริรีบพยักหน้ารับ

    “ดีมาก”

    ร่างสูงตอบสั้นๆ ก่อนจะผละตัวออกเพื่อลุกขึ้นยืน แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวตรงดิ่งไปทางราวตากผ้า  

     

    “ผ่านไปร้อยปีพูดง่ายขึ้นเยอะเลยนิอ๊อก!!!

     

    พอมั่นใจว่าอีกฝ่ายได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ฮิโยริเลยสบโอกาสเอาตัวพุ่งชนใส่พร้อมกับใช้ศอกถองไปที่กลางลำตัวนั้นจนล้มคว่ำไปทั้งคู่  หญิงสาวไม่อยากเสียท่าอีกเป็นครั้งที่สอง จึงรีบตะเกียกตะกายขึ้นมานั่งทับอีกฝ่ายไว้

     

    “จเจ้าผิดคำพูดอึก..” เพราะมือเล็กที่ที่เริ่มต้นบีบคอของเขาอยู่ ทำให้ชายหนุ่มพูดอย่างยากเย็น

    “ข้าแค่สัญญาว่าจะไม่ส่งเสียงดัง ไม่ได้สัญญาว่าห้ามฆ่าเจ้าซักหน่อย อากอน” แม้จะพยายามพูดเสียงเบาที่สุด แต่หญิงสาวไม่คิดจะข่มสีหน้าอาฆาตแค้นเรื่องที่เขาบังอาจทำกับเธอเมื่อครู่ได้เลย

    “เฮอะ นั่นสินะ” อากอนทิ้งมือทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัว นอนแผ่หลาอย่างจำยอม ทำเอาฝ่ายที่นับทับอยู่เริ่มลังเล แต่ก็ไม่ได้ทำให้แรงที่บีบคออยู่ลดลง

    ..ขะ..ข้าน่ะอยู่ในเหตุการณ์เองเชียว….นะ”

    ย่อมรู้เรื่องที่เกิดดี..ที่สุด”

    ..แน่นอนว่ารู้ดีรู้จริงกว่าพวกที่อยู่ข้างนอก

    ฮิโยริได้ฟังก็หูผึ่ง จึงรีบคลายมือออกทันที

    “แค่กๆ แต่ถ้าเจ้าไม่อยากฟังเรื่องทั้งหมด ข้าก็เกรงใจจะเล่า” 

    “ไม่ๆ ข้าจะฟังๆ รีบเล่ามาเดี๋ยวนี้นะเจ้าบ้า!

     

    อากอนพลันถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮิโยริฟัง


    +++++++++++++++++++++++++++++++

    เริ่มกระจายบทจวนจะเละแล้ว -w-"
    เพื่อให้ตัวละครไม่สำคัญมีบท เพราะงั้น ช่างมัน - -v

    ว่าแต่...รีดเดอร์อยู่ไหน ยู้ฮู.....
    เงียบ... สงสัยไม่ช๊อต =w="

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×