ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic bleach] Jamakke no Shinigami

    ลำดับตอนที่ #14 : Event 10 : [เตรียมการ] บุกโลกมนุษย์

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 55


      หึๆ ใกล้จะพ้นสงกรานต์ สองแก้มเข้มๆ ยังไม่เปื้อนแป้งซักเม็ด QAQ ยังรอใครสักคนมาปะแป้งให้อยู่นะขรั่บ -///-

    ยังไงก็เดินทางไปไหนมาไหนขอให้ปลอกภัย ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพเน้อ


    +++++++++++++

    ชายเสื้อคลุมหัวหน้าหน่วยโบกสะบัดตามการเคลื่อนไหวฝีเท้าของหัวหน้าหน่วยผู้หนึ่งที่บัดนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ  แต่ต้องเป็นอันหยุดกระทันหันเพราะมีบุคคลในชุดหัวหน้าหน่วยเช่นกันมายืนขวางทางเอาไว้

     “หัวหน้าซุยฟง ดีใจที่ได้เจอกันนะ แต่ว่า ข้ากำลังรีบ….

    “ข้ารู้นะว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ที่หน่วย 12 เป็นฝีมือท่าน!

    หัวหน้าหน่วย 2 ซุยฟง พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาอีกฝ่าย[แสร้ง]มองหน้าตนด้วยสีหน้างุนงง  แต่เจ้าตัวยังคงพูดต่อ

    “ข้าแอบลอบเข้าไปในกองวิทยาการพอดีตอนที่เกิดเรื่อง ข้าก็เห็นมินาซึกิกำลังบินโปรยผงสีดำจนเกิดหมอกนั่นเข้า!

    “แล้วเจ้าอ้วนโอมาเอดะก็สารภาพแล้ว[หลังจากโดนอัดชุดใหญ่เพื่อเค้นความจริง]ว่ายาประหลาดนั่นก็ได้มาจากท่าน!” 

    “แน่นอนว่าข้ายังไม่แจ้งเรื่องนี้ให้หัวหน้าคนอื่นทราบ ข้าเลยมาดักรอท่านก่อน”

    “แล้วพอจะบอกได้หรือไม่ …..ว่าท่านกำลังวางแผนอะไรไว้กันแน่ หัวหน้าอุโนะฮานะ!

     

    สาวผมเปียผู้ถูกเรียกชื่อซะเสียงดัง คลี่ยิ้มบางๆ

    “แหม….. ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องมากขนาดนี้คงปล่อยให้ท่านกลับไปเฉยๆ ไม่ได้แล้วล่ะ”

     

    Event 10 : [เตรียมการ] บุกโลกมนุษย์

     

    ที่ทำการหน่วย 12

     

    หลังค่ำคืนแสนชุลมุนจากการประเมินของหน่วย 4 คอมโบกับอุบัติเหตุหมอกควันประหลาด ทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ [มั้ง] เมื่อเกือบรุ่งสางหน่วย 4 ก็รีบจรลีออกจากกองวิทยาการทันทีที่หัวหน้าหน่วยพยาบาลสั่ง โดยไม่มีใครนึกเอะใจเลยว่าสมาชิกหน่วยของตนคนนึงได้หายไปเสียแล้ว

    ฝั่งหน่วย 12 ก็กลับไปทำงานของตนต่อ  เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งแยกมาซ่อมแซมห้องทดลองที่พังเละเทะ แต่ก็หาได้สนใจในที่มา ราวกับเป็นเรื่องปกติ  เหมือนทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางแล้วเว้นเสียแต่….

     “ต้องให้ข้าสลักคำว่า กระตือรือร้น ลงสมองนิ่มๆ ของพวกแกใช่มั้ย ถึงจะเลิกทำงานชักช้า!

    “สึโบคุระ ถ้าข้าเห็นขนมซุกอยู่ข้างมอนิเตอร์อีกละก็ ข้าจะจับเจ้าดองทำเนื้อเค็มซะ!

     “พวกแก! ทำงานกันยังไงถึงได้ชุ่ยแบบนี้! ไปเป็นอาหารฮอลโลว์ซะป๊ายยย!!!!

    “เจ้าพวกงี่เง่า! ไร้สมอง! ไร้ประโยชน์!.....

     

    ทุกคำถากถาง ต่อว่า ขู่ฆ่า เท่าที่หัวหน้าหน่วยสิบสองจะสรรหามาได้ต่างพรั่งพรูออกมาไม่หยุดไม่หย่อน จนลูกหน่วยในห้องต่างหูชาไปตามๆ กัน  แม้จะรู้ดีว่าหัวหน้าพวกเค้าจะขี้บ่นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้บ่นติดต่อกันยาวนานตั้งแต่หน่วย 4 กลับไป แล้วก็ไม่ได้ขึ้นเสียงดังแปดหลอดตลอดอย่างนี้ด้วย

     

    “คุณฮิโยสุ หัวหน้าคุโรซึจิ เป็นอะไรของเค้าอีกล่ะเนี่ย - -  ลูกหน่วยนายหนึ่งเอ่ยปากถามขึ้นหลังจากหัวหน้าหน่วยสิบสองย้ายตัวเองไปห้องข้างๆ แต่มนุษย์ลักษณะคล้าย กบบกหัวกลมโตเป็นลูกปิงปอง ผิวสีเขียวซีด ยังคงนั่งพิมพ์ข้อมูลต่ออย่างไม่สนใจ

    “ค..คุณฮิโยสุ”

    “คุณฮิโยสุครับ”

    “หือ” และแล้วกบบก - -“ ก็หันมาทางคู่สนทนาพลางดึงจุกที่อุดหูไว้ออก

    “อะไรกัน …..มิน่าล่ะเวลาหัวหน้าเรียกไปต่อว่า คุณถึงฟังได้ตั้งนาน - -

    “แล้วเจ้าเรียกข้า มีอะไรล่ะ?

    “เด็กใหม่มันถามน่ะ ว่าทำไมวันนี้หัวหน้าถึงได้วีนแตกขนาดนี้ไง ฮี่ๆ” ชายผมสีแดงสด แต่ที่บริเวณกลางศีรษะกลับไม่มีผมขึ้น [หัวล้านนั่นเอง] สีหน้ายิ้มเยาะตลอดเวลาเหมือนตัวตลกพูดขึ้น

    “อาจจะหงุดหงิดเรื่องที่หน่วย 4 มาประเมินเมื่อคืนนี้มั้ยครับ” สึโบคุระ ริน ตอบ หลังจากที่เด็กหนุ่มหาที่ซ่อนใหม่ให้ขนมตัวเองได้แล้ว

    “พวกนั้นมันมากันหลายครั้งแล้ว หัวหน้าน่าจะปรอทแตกไปก่อนหน้านี้ ….คงเป็นเรื่องอื่นมากกว่า” ชายผมสีเข้มเอ่ยเสียงเบาพร้อมกับใช้พัดที่อยู่ในมือป้องปากไว้

    “ว่าไปแล้ว เจ้าอากอนไปไหนฟร่ะ รองหัวหน้าเนมก็ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วด้วย”

    พอฮิโยสุพูดขึ้น ก็เรียกความสนใจแก่ทุกคนในวงเมาท์ยิ่งนัก ซึ่งทั้งหมดต่างรู้อยู่แก่ใจว่า รองฯเนมนั้นตามประกบหัวหน้ามายูริเสมอเพื่อห้ามไม่ให้หัวหน้าฆ่าคนจนหมดหน่วย แล้วก็มีอากอนตามประกบเนมอีกที เพื่อห้ามไม่ให้หัวหน้าลงมือแยกส่วนนางเป็นชิ้นๆ ทุกครั้งที่เนมทำงานไม่ได้ดั่งใจ
    การที่ทั้งคู่ไม่อยู่ บวกกับสภาพของมายูริตอนนี้ มันชวนคิดนัก

     

    …..

    “ข้าว่า หนีตามกันไปแล้วละมั้ง”

    ?!

     

    ทุกหัวต่างหันขวับไปหาที่มาของเสียง ก็พบกับสาวเทียมโนตมล้นเสื้อกราวน์ขาวประจำหน่วย [ที่ว่าเทียม เพราะมีคนซ่อนอยู่ข้างในคอยขับขี่ - -] ผมเป็นลอนสีดำยาวถึงกลางหลัง กำลังถือแฟ้มเดินผ่านไปอีกฟาก เด็กใหม่เลยรีบถามขึ้น

    “จริงหรอครับคุณโทรุเอะ!

    “ถ้าเจ้ารู้เรื่องอะไรก็อย่าปิดเงียบไว้คนเดียวสิ ฮี่ๆ”

    โทรุเอะหันไปตอบชายหน้าเหมือนตัวตลกว่าตนแค่พูดลอยๆ ไปอย่างนั้นเอง แต่หารู้ไม่ว่ายมทูตบางตนที่ตั้งใจฟังอยู่ถึงกับจินตนาการถึงนิทานที่มีอากอนเป็นเจ้าชาย แล้วไปช่วยเจ้าหญิงเนมที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้าย เอ้ย พ่อเลี้ยง ขังอยู่ หลังจากฆ่าพ่อเลี้ยงตาย ก็หนีไปครองรักด้วยกันสองต่อสอง….

     

    “ถ้าหนีกันไปจริงๆ พวกเจ้าคงไม่ได้มานั่งคุยทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจอย่างนี้หรอก แยกย้ายไปทำงานกันซะ เดี๋ยวหัวหน้าจะเดินกลับมาแล้ว”  ฮิโยสุกล่าวปิดท้าย ถือเป็นอันสิ้นสุดของวงสนทนา

     

    “อ๊า.. ข้าก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าทำไมหัวหน้าถึงเป็นแบบนี้” เด็กใหม่บ่นอุบ

    “อยากรู้ก็เข้าไปถามเจ้าตัวเองซะสิ” ชายที่ใช้พัดป้องปากตัวเองเอ่ย พลางบุ้ยใบ้ไปทางประตูซึ่งคุโรซึจิ  มายูริกำลังยืนพิงพักเหนื่อย เพื่อเริ่มต้นว๊ากต่อ เด็กใหม่จึงรีบส่ายหน้าหงึกๆ คิดในใจว่า ถ้าอยากรู้ความจริงจนถึงกับต้องเอาชีวิตเข้าแรก สู้เก็บงำความสงสัยไว้ตลอดไปดีกว่า

     

    ทว่าเหตุการณ์ต่อมานั้นทำให้คนทั้งห้องระทึก เมื่อสาวน้อยผมสีดำมัดแกละสั้นๆ สองข้างระดับด้วยสายโซ่เส้นเล็กๆ จนดูสะดุดตา  รูปลักษณ์อ่อนวัยเหมือนเด็กทั่วไป แต่กลับเป็น 1 ในบรรดายมทูตผู้อยู่มานานตั้งแต่ตอนที่กองวิทยาการตั้งขึ้นมาใหม่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว บัดนี้ได้ยืนประจันหน้ากับนายเหนือแห่งหน่วยวิจัยที่อยู่ในโหมดพร้อมแจกตั๋วทัวร์นรกแบบไปแล้วไม่กลับ

     

    “ว่าไง?

    ร่างเล็กตัวสั่นน้อยๆ ทันทีที่ถูกถามด้วยน้ำเสียงดุดัน เมื่อสะกดกั้นความกลัวได้จึงเอ่ยปากถามออกไป

    “ท่านหัวหน้าคะ ….รองหัวหน้าคุโรซึจิ กับ คุณอากอน หายไปไหนหรอคะ”

    “พวกนั้นไปทำงานให้ข้าอยู่”  มายูริตอบเสียงเรียบ ในใจของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องนั้น หวังอยู่ลึกๆ ว่าอีกฝ่ายจะไม่เซ้าซี้ถามอะไรต่อ

     

    “งงาน?…..หัวหน้าคงไม่ได้ทำอะไรกับพวกเค้าใช่มั้ยคะ

     

    คนทั้งห้องสะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยมิได้นัด ถึงใจในใจทุกคนจะนึกถึงสองคนนั้นอยู่หน่อยๆ ทำนองว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะถามโต้งๆ เหมือนยมทูตตัวน้อยตนนั้น ซึ่งต่อมาเธอก็บีบให้หัวหน้าหน่วยวิจัยต้องเล่นบทโหดจนได้

    “จะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า! ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้าที่จะต้องรู้ไปซะหมด!

     

    นอกจากจะตวาดใส่เสียงดังแล้วหนำซ้ำยังปล่อยแรงดันวิญญาณออกมาด้วย 

    นั่นก็เพื่อทำให้ลูกหน่วยของเค้าคนนี้หวาดกลัวจนเลิกสนใจเรื่องนี้เสียที

     

    “มะ….เมื่อคืนก็เกิดเรื่อง ..แล้วมาถึงตอนนี้ กะก็ยังไม่เห็นทั้งสองคนนั่น”

    เพราะโดนแรงดันวิญญาณคุกคามจนหายใจติดขัด สาวน้อยจึงเอื้อนเอ่ยแต่ละคำอย่างยากลำบาก

    ขะข้าก็กลัว วว่าพวกเค้า…..จะได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า..

    …….

    …..ข้าเป็นห่วงพวกเค้า…. 

     

    เด็กหญิงพูดไปสะอื้นไป ดวงตากลมโตอาบไปด้วยน้ำตา เผลอลอบมองผ่านกรอบแว่นหนามาสบดวงตาสีเหลืองทองที่กำลังเบิกกว้าง

    “เจ้าพวกนั้นจะเป็นจะตาย มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย ยัยแว่น!” ถึงลูกน้องตรงหน้าจะทำงานอยู่กับมายูริมานานตั้งแต่เขายังไม่ขึ้นเป็นหัวหน้า ก็ไม่ได้ช่วยให้มายูริรู้สึกเมตตารึสงสาร

     

    ก็พวกเค้าเป็นพวกพ้องของข้านี่นา

    “เจ้า!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไปคือความชุลมุนล้วนๆ เมื่อเหล่านักวิจัย และนักสู้ไร้อันดับราว 50 คน ทิ้งชีวิตไว้เบื้องหลังแล้วพากันกรูเข้ามาล็อคตัวมายูริที่พุ่งตัวหมายไปทำร้ายฝ่ายตรงข้าม โดยมีฮิโยสุกับรินเอาตัวมากันเด็กสาว[แว่น] ให้ออกห่าง แต่พอมายูริสะบัดมือสองสามทียมทูตรอบกายทั้งห้าสิบนายก็ลงไปกองกับพื้น

     

    “กล้าดียังไงถึงตีตัวเสมอรองหัวหน้าของข้า! ……อีกอย่างเพื่อนมันไม่จำเป็นสำหรับยัยนั่นสักนิด

    มายูริพูดพลางตวัดสายตากวาดมองไปทั่วห้อง

    “กลับไปทำงานต่อซะ
    !  ถ้ากลับมาแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้าละก็ ...ข้าจะฆ่าให้หมด!

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตัดมาทางซุยฟงและอุโนะฮานะ

     

    หัวหน้าหน่วย 2 ตัดสินใจเอื้อมเอาซึซึเมะบาจิจากด้านหลังตนเพื่อเตรียมรับมือ ทว่ากับถูกหัวหน้าอุโนะฮานะจับมือไว้ทั้งสองข้าง แล้วกึ่งฉุดกึ่งลากไปยังห้องว่างข้างๆ  ซุยฟงได้แต่แปลกใจตัวเองที่เป็นถึงหัวหน้าหน่วยลงทัณฑ์ เหตุใดจึงสู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้เลย

     

    “ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้ด้วย”

    ซุยฟงเปิดประเด็นทันทีที่อุโนะฮานะปิดประตูห้องแล้วหันมาประจันหน้าตน

     

    “เจ้ารู้อยู่แล้วนิ ว่าเราไม่มีทางใช้หนี้คุณอุราฮาร่าทัน

    “ถึงกับต้องทำถึงขนาดนี้เชียว แล้วทำไมต้องดึงหน่วย 12 มาเอี่ยวด้วย”

    “ข้าต้องการให้หัวหน้าคุโรซึจิไปจากโซลโซไซตี้สักพัก เพื่อตัดทอนรายจ่ายจากกองวิจัยวิทยาการ”

    นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาแล้วชี้ไปที่หัวหน้าหน่วยร่างเล็ก

    แล้วก็เพื่อตัวท่าน”

    ?!

    พอเห็นสีหน้าตื่นแกมสงสัย อุโนะฮานะจึงอธิบายต่อไปอีกว่า

    “ทั้งที่ท่านเองก็มีความดีความชอบ ก็ไม่ได้อะไรตอบแทน…. ข้ากับหัวหน้าใหญ่ก็คิดอยู่นานว่าจะตบรางวัลท่านเช่นไร”

    “ข้าก็นึกรางวัลนี้ขึ้นมาได้ ถึงเป็นเพียงรางวัลทางใจ ท่านคงไม่รังเกียจ….

    “ยังไง?

    “การที่อุราฮาร่าเป็นหญิง ท่านก็มีส่วนอยู่หน่อยๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการลงโทษ….ข้าขอใช้อำนาจของหัวหน้าใหญ่สั่งให้ท่านไปคุ้มครองอุราฮาร่า คิทสึเกะและพักพวกที่โลกมนุษย์ ดูแลไม่ให้คลาดสายตาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จนกว่าเขา[เธอ]จะกลับเป็นปกติ”

    พอฟังจนเข้าใจ หัวหน้าหน่วยสองก็ตาเป็นประกาย

     

    “ขข้าจะได้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับท่านโยรุอิจิ -///-

     

    ซุยฟงพึมพำกับตัวเองอย่างเขินอาย โดยมีหัวหน้าอุโนะฮานะคอยพยักหน้าอยู่ใกล้ๆ

    ตอนที่เจ้าไปอยู่ ข้าขอวานอะไรสักอย่างได้มั้ย หัวหน้าซุยฟง”

    หัวหน้าร่างเล็กทรุดตัวลงเพื่อนั่งคุกเข่ารอรับคำสั่ง บัดนี้เธอเห็นคนตรงหน้าเปรียบเสมือนเทพีก็ไม่ปาน

    “ท่านคงจะได้ยินที่พวกเราคุยกันบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นระหว่างที่ท่านพำนักอยู่….

    “กรุณาทำหน้าที่ของท่านอย่างสุดความสามารถด้วยนะคะ”

    ใจความที่อุโนะฮานะต้องการสื่อ >>>>        

     

    “กรุณาขัดขวางคุณอุราฮาร่า ไม่ให้ปรุงยาสำเร็จทีนะคะ ^^

     

    “รับทราบค่ะ นายหญิง - -+

    ++++++++++++++++++++++++
    ทำไมบทแกเยอะจังวะ มายูริ  me//เขม่น -*-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×