คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : P[re]view : ลบ
พลันอีกฟากหนึ่งของห้อง ได้ปรากฏสิ่งประดิษฐ์รูปร่างแปลกๆ ผลุดขึ้นจากพื้น บนยอดของอุปกรณ์นั้นมีหน้าตาเหมือนดอกไม้ดอกใหญ่ ซึ่งตอนนี้แต่ละกลีบได้ผลิบานออกมาจนเห็นภายใน
คุโรซึจิ มายูริลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ แล้วใช้ก้าวพริบตาหายตัวไปโผล่อยู่ข้างดอกไม้ประหลาดเมื่อครู่
“สำเร็จ! หึๆ..” เสียงหัวเราะอยู่ในลำคอราวกับคนโรคจิตดังขึ้นน้อยๆ แต่จู่ๆ เซนส์ของหัวหน้าหน่วยจอมหวาดระแวงได้ทำงานขึ้นทันทีที่รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ
ตึก! ตึก!
“ใครน่ะ!”
แม้จะส่งเสียงก้องไปทั้งบริเวณ สิ่งที่ตอบกลับมานั้นมีแต่ความเงียบเท่านั้น หัวหน้าหน่วยสิบสองเริ่มกวาดสายตาไปทั่วห้องอย่างลนลาน ยกเว้นด้านหลังตัวเองที่มีชายปริศนายืนง้างเคียวเล่มใหญ่ไว้รอ
ฉับ!
ผู้บุกรุกออกแรงฟันลงมาที่มายูริอย่างไม่ลังเล เสี้ยววินาทีที่คิดว่าศีรษะของตนคงโดนสะบั้นหลุดออกจากบ่าแน่ ทว่าเคียวมัจจุราชกลับทะลุผ่านร่างเขาไปเฉยๆ โดยไร้ซึ่งบาดแผล
แต่ความรู้สึกที่ตามมาหาใช่ความเจ็บปวดตรงส่วนที่ต้องคมมีด แต่กลับเป็นภายในหัวของเขา
.นะ
นี่มัน ความสามารถอะไรกัน
.. ในพริบตานั้นหัวหน้าหน่วยวิจัยยังพอมีเวลานึกสงสัย ในอึกใจต่อมาความนึกคิดของเขาก็ถูกเบียดบังจนสิ้นจากความทรงจำของเจ้าตัวที่พรั่งพรูออกมาเป็นสาย
ความทรงจำตอนเจ้านายเก่าย่างเท้าเข้ามายังห้องขัง เพื่อชวนตัวอันตรายอย่างเขาในตอนนั้นให้ออกมาทำงานด้วยกัน
ความทรงจำตอนก่อตั้งกองวิทยาการใหม่ๆ ร่วมกับยมทูตตนอื่นๆ ที่กลายมาเป็นลูกน้องของเค้าในเวลาต่อมา
ความทรงจำตอนที่เขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับควินซี่ที่เขาดูถูกนักหนา
ความทรงจำเกี่ยวกับยมทูตและทุกคนที่เค้ารู้จัก
รวมไปถึงนาง
คนที่อยู่ใกล้ชิดเค้ามากที่สุดในเวลานี้
ทั้งหมด
....ได้เลือนหายไป
.กับความมืด
P[re]view : ลบ
“ไอ้ของพรรค์นี้ ถ้าเกิดระเบิดขึ้นมา มีหวังเซเรเทย์ได้พินาศแน่”
อาบาไร เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 นึกอยากกัดลิ้นตัวเองนักที่เคยพูดออกไปแบบนั้น เมื่อครั้นไปดูการก่อสร้างโรงวิจัยอณูวิญญาณกับคิระ อิซุรุรองหัวหน้าหน่วย 3
ตึกสูงที่เคยตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ของกองวิจัยวิทยการ บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มก้อนอณูวิญญาณเข้มข้นดูราวกับเมฆหมอก อีกทั้งมีอณูวิญญาณส่วนหนึ่งกลายสภาพเป็นงูยักษ์หลายหัว[ไฮดรา?]คอยโจมตีทุกอย่างโดยรอบ
สิ่งก่อสร้างในบริเวณนั้นไม่ต้องพูดถึง นอกจากจะได้รับความเสียหายตอนเกิดระเบิดครั้งแรกราวยี่สิบนาทีที่แล้ว ก็ตามมาด้วยปรากฏการณ์ประหลาด จู่ๆ บ้านเรือนบางส่วนหายวับไป แล้วไปปรากฎเหนือน่านฟ้า จากนั้นก็ล่วงหล่นไปทับบ้านเรือนเบื้องล่างจนพังเสียหายไปทั่ว ตอนนี้สภาพเซเรเทย์ใกล้จะตรงตามที่ชายหนุ่มหัวแดงว่าไว้ไปทุกที
“เอาไงดีครับรองหัวหน้า”
“ก็บุกเข้าไปซะเซ่! มัวชักช้าอะไรอยู่” เร็นจิตะโกนตอบลูกน้องจากหน่วยเดียวกัน
“ย๊ากกกกกซซซซซ์!!!!!!”
ยมทูตราวยี่สิบชีวิตกู่ร้องเสียงดังเรียกกำลังใจ ก่อนตั้งต้นวิ่งเข้าหาตึกสูงตรงหน้า ทว่า
ฟู่!
งูยักษ์หัวที่ใกล้ที่สุดพ่นหมอกสีขาวออกมา ส่งผลให้ยมทูตทั้งยี่สิบนายถูกแช่แข็งไปโดยปริยาย
“
เออ ระวังเจ้างูยักษ์นั่นด้วยล่ะ” รองหัวหน้าหน่วยหกบอกกับยมทูตที่เหลือ
ช้าไปแล้วมั้ย -*-
.
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“หัวหน้าคุโรซึจิ!”
“หัวหน้า หยุดเถอะคร๊าบบบ!”
ลูกน้องใต้ชายคาหน่วยสิบสองร้องเรียกหัวหน้าตัวเองอย่างสิ้นหวัง นอกจากคนตรงไม่มีทีท่าว่าจะได้สติกลับมาเลย ยัง ‘เสียสติ’ มากกว่าเดิมเสียอีก
“อากอน ..เอาไงล่ะทีนี้ หัวหน้ากำลังบ้าได้ที่เลย โอย.. ว้อยยยย!” ชายหัวกลมเป็นลูกบอลสบถขึ้นมาเมื่อเหล่ายมทูตที่คอยหลบคมดาบของหัวหน้าสุดรักดันถอยมาเบียดโดนเขาอย่างจัง ข้างๆ กันมีชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง มีเขางอกขึ้นมาเล็กๆ ประดับหน้าผากกว้าง พอเห็นเพื่อนตกอยู่ในสภาพนั้นจึงถามออกไป
“โอเคมั้ย ฮิโยสุ”
“โออยู่ แต่รองหัวหน้าเหมือนจะไม่นะ”
อากอนมองตามที่ดวงตาเท่าลูกเทนนิสของฮิโยสุกรอกไป จนเห็นยมทูตสาวในชุดกระโปรงสั้นพยายามฝ่ากลุ่มคนที่เข้ามาห้ามเธอไม่ให้เข้าไปใกล้คนที่กำลังอาละวาดอยู่
สักพักกลุ่มคนที่ว่าก็สู้แรงของหญิงสาวไม่ไหวจนแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง เมื่อได้รับอิสระ รองหัวหน้าสาวรีบพุ่งไปข้างหน้า แต่กลับโดนมือหนามากด้วยกำลังฉุดไว้เสียก่อน
“ปล่อยข้า! ข้าจะไปช่วย....”
“เมื่อกี้ก็โดนหัวหน้าถองไปทีนึงยังไม่เข็ดอีกรึไง”
“ปล่อย
”
นอกจากจะไม่ทำตามคำขอของหญิงตรงหน้าแล้ว อากอนยังออกแรงบีบข้อมือผอมเรียวนั้นหนักขึ้น
“ขนาดหัวหน้าซาราคิยังโดนบังไคของหัวหน้าซัดกระเด็น
.อย่างเจ้าจะไปทำอะไรได้!”
“จะให้ข้าปล่อยท่านมายูริไว้อย่างนี้ได้ยังไงกันเล่า!”
“หลีกไป!!!”
เธอที่ไม่เคยขึ้นเสียงกับใคร บัดนี้กลับร้องแหวใส่ลูกน้องตัวเองเสียเต็มประดา ทำเอาชายหนุ่มถือวิสาสะลากมือที่เขาจับแน่นให้หันมาทางเขาพร้อมกับตะโกนใส่หน้า
“ต้องเฉียดตายซักกี่รอบถึงจะพอใจห๊ะ ยัยบ้า!”
ตูม!
หากแต่การโต้คารมระหว่างลำดับสามกับรองหัวหน้าจากหน่วยเดียวกันเป็นอันยุติลงเมื่อเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้ๆ
“ว๊ากกก!!!!”
เสียงของนักวิจัยเคราะห์ร้ายจำนวนหนึ่งดังขึ้นขณะพวกเขาปลิวไปตามแรงอัด พอฝุ่นจางลงจึงเผยให้เห็นกลุ่มคนมาใหม่ โดยมีหญิงสองคนต่างไซส์กันยืนนำอยู่หน้าสุด
“ปากบอกขอ 3 นาที นี่จะครึ่งชั่วโมงแล้วยังคืบหน้า ไม่ได้เรื่องจริงๆ เจ้าซาราคิ” ร่างเล็กผู้มีเลขสองในภาษาจีนประทับอยู่กลางหลังของชุดคลุมเอ่ยขึ้น
“ความจริงพึ่งผ่านไป 5 นาทีเอง หัวหน้าซุยฟงน่ะใจร้อนเกินไปต่างหาก ^^” อีกคนที่สวมชุดคลุมคล้ายกันหากแต่เลขที่ปรากฎคือเลขสี่ กล่าวพร้อมกับผายมือให้สัญญาณกับลูกน้องของตนให้เข้าไปพยาบาลผู้บาดเจ็บ ทางหัวหน้าหน่วยสองจึงหันมาออกคำสั่งบ้าง
“พวกคนเจ็บก็รักษาไป นอกนั้นจับตัวมันให้หมด!”
กลุ่มคนแต่งชุดกิโมโนรัดรูปสีดำโพกหัวปิดปากรัดกุมปรากฎกายจากความว่างเปล่าเข้าประชิดตัวสมาชิกทุกคนในหน่วย ด้วยความที่วันๆ เอาแต่เฝ้าหน้าจอสังเกตการณ์ พวกหน่วยสิบสองเหล่านี้จึงยอมให้จับแต่โดยดี จะขัดขืนก็มีแต่รองหัวหน้าสาว คุโรซึจิ เนม ที่ต้องมีหน่วยลงทัณฑ์มือฉมังราวสิบคนเข้าควบคุมตัว ถึงจะเอาคุณเธออยู่
.
แต่อีกด้าน หน่วยลงทัณฑ์ราวสามเท่าของเมื่อครู่กลับหมอบราบคาบเมื่อพยายามจะเข้าจับนายเหนือแห่งหน่วยสิบสอง
-*-
หัวหน้าหน่วยลงทัณฑ์ออกอาการยัวะน้อยๆ พอเห็นลูกน้องของตนถูกเล่นงาน ลำแขนบางเอื้อมไปชักดาบสั้นออกมาเตรียมจะปลดชิไค แต่กลับโดนมือเรียวสวยของหัวหน้าอีกคนห้ามไว้
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเองค่ะ ^^”
“อ้าว แล้ว
ดาบฟันวิญญาณของท่านล่ะ“ ซุยฟงพูดขึ้นเพราะเห็นว่าดาบมินาซึกิยังอยู่ที่รองหัวหน้าหน่วยสี่
“ข้าจะใช้วิธีการที่สูญเสียน้อยที่สุด
เพราะถ้าต้องรักษาคนพรรค์นั้นภายหลัง มันค่อนข้างจะเกินความสามารถ ^^
.”
พูดจบ หัวหน้าหน่วยสี่ใช้ก้าวพริบตาไปปรากฎตรงหน้าตัวการของเรื่อง ทำเอาชายสวมหน้ากากผงะเล็กน้อยแต่พอตั้งหลักได้ก็เข้าฟาดฟันอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
คนอื่นที่เหลือได้แต่เฝ้ามองการต่อสู้ของทั้งคู่เงียบๆ แต่ดูเหมือนจะสู้อยู่เพียงฝ่ายเดียวมากกว่า และถึงมายูริจะจู่โจมมาอย่างดุดัน ฝ่ายหัวหน้าหน่วยสี่ยังคงขยับตัวหลบด้วยท่าทางสบายๆ สวนทางกับอิซาเนะ โคเท็ตสึรองหัวหน้าจากหน่วยเดียวกันที่ยืนลุ้นใจหายใจคว่ำทุกครั้งที่เห็นอาชิโซงิ จิโซเกือบโดนหัวหน้าเธอ
“หัวหน้าคุโรซึจิ นี่ข้าเอง
“
“เคี๊ยยยยกกกย๊ากกกซซซซ์!!!!!! =[]= ” [มยุรินโหมดดับเครื่องชน]
“ข้า อุโนะฮานะ เร็ตสึ หัวหน้าหน่วยสี่ หน่วยพยาบะ
”
ฉับ!
ปลายดาบสีทองเฉี่ยวเข้ากับเปียผมของหัวหน้าหน่วยพยาบาลจนแหว่งออกเล็กน้อย ลูกน้องจากหน่วยเดียวกันรวมทั้งอิซาเนะถึงกับอ้าปากค้าง
..ซวยแหล่ว =[]=
..
หัวหน้านักวิจัยหาได้รู้ว่ามีภัยของจริงมาถึงตัว จนกระทั่งคนตรงหน้าเริ่มตอบโต้
โดยการใช้มือเปล่าๆ ปัดดาบออกพร้อมกับจ้วงเข้าหาเพือโจมตีกลับ
มือเปล่าปะทะชิไค เทพเกินไปแล้ว! =[]=
..
ทุกคนคิดเป็นเสียงเดียวกัน ยกเว้นเนมที่กำลังอาศัยจังหวะนี้หนีจากพันธนาการมนุษย์ พอร่างบางออกแรงขัดขืนไม่ทันไรก็โดนเสียงเข้มจาก 1 ในบรรดาคนที่จับเธอพูดเตือนขึ้น
“อยู่เฉยๆ เหอะครับ
โอ๊ย!” พูดไม่ทันขาดคำ รองฯหัวหน้าสาวก้มหัวกัดส่วนหนึ่งของร่างกายของใครสักคนที่ใกล้ปากตนมากที่สุด เหมือนจะไปโดนแขนของคนที่กำลังพูดอยู่พอดีจนชายฉกรรจ์คนนั้นร้องลั่นพร้อมกับสะบัดตัวหนีแต่ท่อนแขนใหญ่ดันพลาดไปฟาดหน้าเนมอย่างจัง
“กรี๊ด”
เสียงเล็กแหลมดังขึ้น มันจะไม่มีความสำคัญอะไรเลย ถ้ามันไม่ได้ทำให้หัวหน้าหน่วยสิบสองที่กำลังต่อสู้อยู่ชะงักแล้วลอบหันไปดู จนเกิดช่องว่าง
ซวบ!
“!!!!”
ถึงอุโนะฮานจะชกเข้าที่ท้องธรรมดาๆ แต่กลับรุนแรงเสียจนอีกฝ่ายจุกจนร้องไม่ออก ร่างของนักวิจัยสติเฟื่องทรุดลงไปกับพื้นช้าๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับน้ำลายที่เริ่มฟูมปากหน่อยๆ หากเป็นคนธรรมดาน่ากลัวว่าจะกระอักเลือดไปแล้ว
“ท่านมายูริ!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องจนสุดเสียงดังกึกก้อง นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่นักวิจัยสติเฟื่องรับรู้ ก่อนสติจะดับวูบลง
ความคิดเห็น