ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SEVENTEEN ] : He's gone หนียังไงคุณก็ไม่ลืมผม

    ลำดับตอนที่ #2 : - he's gone ; One

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 56



     One


                          "พี่ซูนยอง..." คนตรงหน้าผมผงะไปครู่หนึ่ง แต่ก็กลับมาทำท่าทางปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


                         "พี่ยังเหมือนเดิมเลยนะครับ ดีจัง" ฮันโซลยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรเหมือนทุกครั้ง... ยิ้มนี้แหละที่ทำให้เรื่องราวของเขาและผมได้เกิดขึ้น ยิ้มที่หลายคนพากันหลงไหล รวมทั้งผมด้วย


                        "อืม ก็คงงั้นแหละ ฉันต้องไปส่งเพื่อนน่ะ ขอตัวนะ" ผมเลี่ยงที่จะคุยกับเขาโดยใช้ไอ่จีฮุนอ้างนี่แหละ แหม่พึ่งจะมีประโยชน์ก็ตอนนี้แหละ


                        "เดี๋ยวครับ! ผมขอคุยกับพี่หน่อยสิ" ฮันโซลว่าพลางมองไปทางวอนอูเป็นเชิงให้รู้ว่าเขาต้องการคุยกับผมเพียงสองต่อสองเท่านั้น

                        วอนอูที่มันรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับฮันโซล ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ฟังคำของฮันโซล ในขณะที่จีฮุนแทบจะลงไปคลานอยู่แล้ว


                        "แกไปส่งมันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไปไม่ต้องห่วง" วอนอูที่ยังคงยืนนิ่งไม่ฟังคำผม จ้องไปที่ฮันโซลราวกับว่าเขาเป็นวายร้าย จะมาฉุดตัวเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ( หืม? 555555555 )


                       "มีอะไรก็พูดมาฮันโซล ฉันไม่ค่อยว่างเท่าไหร่"


                       "หึ...พี่ไม่เหมือนคนเดิมเลยนะ" ฮันโซลกระตุกยิ้มมุมปากก่อนเสมองไปทางอื่น คงคิดว่าเท่ห์มากสินะแก โถ่...แต่ก็เท่ห์จริงแหะ แง่มม


                      "ฉันคงกลับไปอ่อนแอเหมือนเดิมไม่ได้หรอก มันเจ็บปวดน่ะ" ผมฝืนยิ้มให้คนตรงหน้า ที่ตอนนี้เขาดูจะขำกับคำพูดของผมมากนะ มันน่าขำตรงไหนฟะ


                     "พี่ดูเกร็งๆนะ ไปหาอะไรอุ่นๆดื่มกันเถอะ" ไม่ว่าเปล่าฮันโซลก็เอามือมาพาดไหล่ผมแล้วลากผมมาร้านคอฟฟี่ช๊อปเล็กๆแถวนั้น ไอ่เราจะปฏิเสธก็ไม่ได้ไม่ใช่เพราะของฟรีหรอก แต่นานๆทีจะได้เจอกันก็สักนิดละกัน แต่เขาเป็นคนทำให้ผมเจ็บปวดนะ สักครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง


                     "นมสดร้อน2แก้วครับ" ฮันโซลสั่งเสร็จก็เดินหาที่นั่งมุมร้านที่ดูเหมือนจะเป็นมุมที่สงบที่สุดในร้าน เขาวางตัวสบายๆเหมือนว่าผมกับเขาไม่เคยมีเรื่องอะไรค้างคากันมาก่อน คงเป็นผมคนเดียวที่กลับเอาเรื่องนั้นมาคิดสินะ


                     "มีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะ เพื่อนฉันเขาไม่ไหวแล้วนะ" 


                    "โถ่พี่ซูนยอง เพื่อนพี่อีกคนเขาก็ช่วยพี่คนนั้นแล้วไง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ" ฮัลโซลพูดออกมาแบบไม่คิด จนผมแทบจะกระโจนใส่หน้าเขาอยู่แล้ว นี่พูดออกมาได้ไง ไม่คิดถึงใจคนอื่นเลยใช่ไหม? หึ เห็นแก่ตัวเหมือนเดิมเลยสินะ

     
                    "เห็นแก่ตัวเหมือนเดิมเลยสินะ.." ฮันโซลแหงนหน้ามองผมที่เผลอพูดสิ่งที่คิดออกมา เขาทำได้แค่ยิ้มแล้วหันไปสนใจแก้วนมสดที่ถูกส่งมาตรงหน้า


                    กลิ่นนมสดหอมๆ ที่ทำให้คนตรงหน้าผมรีบคว้าแก้วของตัวเองไปซดดื่ม แบบเด็กๆ เขานี่เด็กจริงๆสินะ ผมเห็นเขาทำก็อยากเอาบ้าง ผมคว้าแก้วตัวเองมาแล้วค่อยๆจิบนมสดในแก้ว แต่ว่า..


                    “อ้ากกก! ร้อน!! แวะๆ มันลวกปากลวกลิ้น อ้ากกก!!!”

                   “ฮ่าๆๆๆ พี่นี่เด็กจริงๆเลยอ่ะ ดื่มยังไงให้นมลวกปาก ทำไมไม่เป่าก่อนล่ะ ไหนผมดูหน่อยสิเด็กนั่นเอี้ยวตัวขึ้นมาดูปากผมที่ตอนนี้คงจะแดงมากแล้วล่ะ แดงไม่กลัว กลัวปากบวมเจ่อนี่สิ แค่คิดก็กลัวแล้ว

                  ใบหน้าเนียนเกลี้ยง ค่อยๆยื่นใบหน้าของตัวเองมาใกล้ผมมากขึ้น จนตอนนี้มันห่างกันแค่ลมหายใจนึงเท่านั้นแหละ ก้อนเนื้อที่อยู่ฝั่งซ้ายเริ่มส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนเป็นสัญญาณบอกอะไรบางอย่าง ดวงตาตรงหน้าที่ตอนแรกจ้องมองดูริมฝีปากของผมตอนนี้กลายเป็นว่า มาสบตากับผมซะงั้น อ่า..ทำไงดี อีกนิดผมกับเขาก็จะ..จูบ กันแล้วสินะ ไม่ไม่เหตุการณ์แบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นกับผม

                   ผมผลักฮันโซลออก ก่อนที่อะไรๆมันจะมากไปกว่านั้น ฮันโซลเองก็ดูเหมือนจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ แม้ความจริงมันจะยังไม่เกิดถึงขั้นนั้น แต่เกือบๆไปแล้วนี่

                   “ฉันว่าบรรยากาศมันชักจะร้อนๆแล้วแหะ นายว่าไหมผมเอ่ยทำลายบรรยากาศที่เงียบขรึมที่เกิดขึ้น

                   “เมื่อกี้ผมขอโทษนะฮันโซลพูดขึ้น หลังจากที่ผมพูดจบไม่กี่วินาที ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นี่หว่า


                   “ช่างมันเถอะ แล้วเรื่องที่นายจะพูดตอนแรกคืออะไรล่ะ?”



                   "คือ...ผม...ผมอยาก...อยาก"


                   "อยาก?" ผมทวนคำคนตรงหน้า ทำไมต้องตะกุกตะกักขนาดนี้ด้วยนะ นี่ถ้าไร้สาระแม่จะตบคว่ำเลย เห่ยเดี๋ยวผมเป็นผู้ชายจะตบได้ยังไงต้องต่อยสิ เออพ่อจะต่อยคว่ำเลย


                   "ผมแค่อยากจะรู้ว่าพี่คิดถึงผมไหม" 


                   "!!!!"


                   "ถ้าเราจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิม เริ่มต้นใหม่ พี่จะว่าอะไรไหม? ผมแค่อยากบอกว่า ผมคิดถึงพี่มาตลอด1ปีนะ...พี่ซูนยอง"


                   ห้ะ? เขาพูดว่าคิดถึงผมงั้นหรอ? เขาจะมาไม้ไหนอีก? ผมควรจะเชื่อคำแบบนี้จากเขาอยู่อีกงั้นหรอ.. ผมที่ช็อคคำพูดของคนตรงหน้าจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเงียบ จนคนตรงหน้าถอนหายใจ กับสิ่งที่เขาได้พูดไป ใบหน้าของเขาตอนนี้เหมือนคนที่รู้สึกผิด แต่ไม่สิเขารู้สึกผิดไม่เป็น เขาคงแค่อยากเรียกร้องความสนใจจากผมก็เท่านั้น


                  “ผมว่าแล้วว่าพี่ต้องเป็นแบบนี้ พี่คงระแวงผมมากสินะ.__.”

                  เงียบ

                 “พี่อย่าเงียบสิ ถ้าพี่ไม่ให้คำตอบผมนะผมจะ..”

                 “จะอะไรคนตรงหน้าถึงกับเผลอยิ้มที่ผมพูดออกมา มันน่าดีใจขนาดนั้นเลยรึไง

                 “ผมก็จะ…”  ผมว่าเขาคงจะสนุกมากที่ได้แกล้งผมสินะ-_- ไม่ยอมบอก ก็ไม่ต้องบอก ไม่ง้อเว้ย

                 ผมลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินออกจากร้าน จนคนตรงหน้าตกใจรีบลุกขึ้นจะตามผม หึ..ให้มันได้อย่างนี้สิตาใครตามัน ผู้หญิงที่ว่ามีมารยาร้อยเล่มเกวียนแล้ว เจอซูนยองเข้าไปมารยาจะหดเอานะครับ หึหึ เพราะผมน่ะมียิ่งกว่าร้อยเล่มเกวียน!

                 “ฝากจ่ายค่านมสดด้วยนะ ฉันไปล่ะง่วงจะตายอยู่แล้ว

                 หมับ!

                 ได้ยินอย่างนั้นมีหรือฮันโซลจะปล่อยให้หนีหาย ผมขอใช้มารยาของผมให้เต็มที่นะครับ อย่างนี้มันต้องถอน! อย่างนี้มันต้องถอน!

                 “ย๊า! พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะ

                  “ก็นายก็บอกมาสิว่า นาย-จะ-ทำ-ไมคนตรงหน้าผมเริ่มมีท่าทีเลิ่กลั่ก เห้ยหรือว่ามันจะยังไม่ได้เตี้ยมมานะ แบบเอามาพูดขู่ขวัญ กระทำชำเราผมอะไรอย่างนี้อ่ะ โถ่เด็กน้อย ไม่ดีนะไม่ดี

                  “ได้ ถ้าง่วงก็ไปนอนก่อนเลยเถอะ ฝันดีครับว่าจบเขาก็เดินออกจากร้านค๊อฟฟี่ช๊อปไป ทิ้งให้ผมยืนหน้าเหวออยู่คนเดียวหน้าร้าน อ่าวอะไรของเขานะ พอจะไปก็ไปง่ายเหลือเกิน แต่เดี๋ยวนะค่านมสดล่ะ ใครจ่าย

                  “ย๊า! พ่อหนุ่ม ค่านมสดสองแก้วล่ะนั่นไงเสียงสวรรค์ แหม่พึ่งนึกถึงแปปเดียวก็มาเลยนะ

                  “นี่ครับค่านมสดสองแก้วผมจ่ายค่านมสดให้คุณน้าเจ้าของร้านก่อนจะรีบชิ่งออกมาดูนอกร้านเผื่อว่า ฮันโซลจะยังคงรอผมอยู่ แล้วหัวเราะคิกคักที่ได้แกล้งผม แต่ผมว่าผมคงคิดผิดแล้วล่ะ เพราะพอผมออกมา ถนนสองทางหน้าร้านกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของร่างไหน เห้อ โดนหลอกอีกแล้วสินะเรา


                     let's talk มาคุยกันเถอะ
    ตอนที่หนึ่งมาแล้วววว มาแบบตะกุกตะกัก555555555
    เชื่อว่าหลายคนคง งง ใช่ป่ะ? ติดตามต่อไปสิคะแล้วคุณจะไม่งง ปิ้ง*0*
    ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะ จุ้บๆ เดี๋ยวจะแจกหัวใจไปให้ คิคิ
    อยากให้เมนต์กันเยอะๆ-.,- คิคิ ให้กำลังใจเค้าด้วยนะ<3

     

     

    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×