ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปลวริษยา ((รีไร้ท์))

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 5 : การตัดสินใจครั้งสุดท้าย [[100% ครบค่า]]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.67K
      8
      11 ธ.ค. 53

     

    บทที่ 5 : การตัดสินใจครั้งสุดท้าย

     

    เปลวเพลิง

    เปลวเพลิง

    เพลิง!”

    คะๆ  หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว  ขอโทษค่ะหัวหน้า

    เป็นอะไร  ฉันเห็นเธอเหม่อมาทั้งวันแล้ว

    เอ่อ  ป่าวค่ะ ไม่มีอะไร 

    มีสิ  มีมากเสียด้วย!

    ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว  แต่หน้าเธอดูซีดๆไปนะ...

    หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง  พลางก้มมองเงาสะท้อนในกระจกบานจิ๋วที่เธอพกติดตัวไว้  ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงกระวนกระวานแทบตาย  หากแต่ตอนนี้กลับปล่อยเลยไป  เพราะเธอมีเรื่องอื่นให้ต้องคิดมากพอแล้ว 

    ไปพักได้แล้วไป...

    แต่ว่างานที่เหลือ...

    ไม่มีอะไรมากแล้วนี่  เธอไปได้แล้วไป  เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง

    ขอบคุณค่ะ

    หญิงสาวเอ่ยราบเรียบ  ร่างระหงส์ที่ดูอิดโรยไม่ได้ไปพักอย่างที่ควรจะเป็น  ในเมื่อจุดหมายที่เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่นั้นมันชัดเจนแล้ว

    ตลอดทั้งวันเปลวเพลิงได้แต่ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ประดังเข้ามาจนแทบตั้งตัวไม่ติดของเธอ   ในเมื่อเธอไม่เหลืออะไรแล้ว  สมบัติชิ้นสุดท้ายที่เป็นของเธอต้องรักษามันไว้ให้ได้   คฤหาสน์อัคราธร!

    ร่างบางก้าวไปยังห้องผู้บริหารอย่างเด็ดเดี่ยว  เธอจะไม่มีวันเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้แน่นอน 


    ___ เดี๋ยวทยอยอัพต่อค่ะ  หิวๆๆ หาข้าวทานตอนเที่ยงกันด้วยนะคะ___

    ผมกำลังจะออกไปทานมื้อเที่ยงอยู่พอดี ไปด้วยกันไหม  อัคคีขยับสูทตัวเก่งให้เข้าที่  ขณะที่หญิงสาวเดินตรงมาหาเขา   ชายหนุ่มรู้สึกเอะใจกับสีหน้า  และท่าทีแปลกๆของหญิงสาว

    ฉันมีธุระกับคุณค่ะ

    ไว้หลังมื้อเที่ยงได้ไหม  ผมจ้องโต๊ะไว้น่ะ

    หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าอย่างยากเย็น  ใจเย็นเพลิง  รอเขากลับมาก็ได้  ใจเย็น!

    ค่ะ... 

    ชายหนุ่มหรี่ตา  วันนี้มาแปลก  ไม่ใจร้อนดึงดันเหมือนเก่า  แต่ก็ดูออกว่าเธอพยายามจะใจเย็นเข้าไว้

    ตกลงเราจะคุยธุระกันก่อน   ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หนังอีกครั้ง  เขาเชิญหญิงสาวนั่งลง  หากแต่เธอยังคงดึงดันว่าคุยไม่นาน  จึงเลือกที่จะยืนมากกว่า...

    คุณคงรู้เรื่องครอบครัวของเราจากพี่น้ำแล้วสินะคะ

    ใช่เขารู้  น้ำเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังแล้ว  เขารู้ว่าตอนนี้อัคราธรกำลังแย่ขนาดไหน  รู้ตั้งแต่ที่คุณทรงธรรมตัดสินใจขายหุ้นให้แก่เขาในครานั้นแล้ว

    เรายังเหลือหนี้ก้อนสุดท้ายอยู่...

    เพราะฉะนั้น...หญิงสาวสูดลมหายใจลึกยาว  ฉันต้องการจดทะเบียนกับคุณค่ะ!”

    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว  ไม่นึกเลยสิ่งที่เขาคิดเล่นๆจะง่ายดายเหมือนฝัน  น้ำเสียงและแววตาบอกได้เลยว่าหล่อนเอาจริง  ความเด็ดเดี่ยวของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มนึกชื่นชม...

    แน่ใจหรือ

    เขาถามลองเชิง

    แน่นอนว่าเขาไม่เคยรังเกียจเธอเลย  กลับกันเขาต้องตาต้องใจเธอตั้งแต่วินาทีแรกแล้วต่างหาก  และความปรารถนาที่เขามีต่อเธอมันรังแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกขณะทีเดียว  แล้วเรื่องอะไรเล่าคนที่ไม่เคยมีความรักอย่างเขา  จะทิ้งโอกาสนั้นไป  ในเมื่ออย่างไรเสียเขาก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อเขาหาให้  สู้แต่งกับแม่เพลิงพิศวาสของเขาไม่ดีกว่าหรือ...

    ฉันรู้ว่าคุณเองก็อาจไม่ชอบฉัน  พอๆกับที่ฉันเองก็ไม่ชอบคุณ  แต่นี่เป็นทางเดียวที่ฉันจะรักษาทุกอย่างเอาไว้ได้  หากคุณตกลง  ฉันยินดีที่จะเป็นเมียคุณทั้งทางนิตินัย  และพฤตินัย!”

    แน่จริงๆ! รอยยิ้มบนดวงหน้าคมคายฉายวาบ  เธอกำลังทำให้ฉันครั่งอีกแล้วนะ

    ตกลง  ชายหนุ่มยื่นมือให้หญิงสาว  เปลวเพลิงเอื้อมมือมา  แต่ชายหนุ่มกลับเบี่ยงมือหลบ

    ทันทีที่คุณจดทะเบียน  หนี้ทุกอย่างที่มีผมยินดีจะรับผิดชอบแทนทั้งหมด  แต่คุณจะต้องย้ายมาอยู่กับผม  ทุกอย่างที่เป็นของคุณจะต้องเป็นของผมเช่นกัน  รวมทั้งอิสรภาพในตัวคุณด้วย!”

    ผมให้โอกาสคุณตัดสินใจได้นะ...

    หญิงสาวจับมือชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล  ไม่ว่าทางที่เธอเลือกจะเป็นนรก หรือสวรรค์ก็ช่าง  เธอจะต้องไม่มีวันเสียใจกับสิ่งที่เธอเลือก  ไม่มีวัน!

    เพลิงทำถูกต้องแล้วใช่ไหมคะพ่อ….

    เย็นนี้เราจะไปพบคุณพ่อ คุณแม่ผมกัน

     

     

    เย็นวันนั้น  เปลวเพลิงตัดสินใจไปพบผู้ใหญ่ที่บ้านของชายหนุ่มทันที  ทั้งสองตกลงกันว่าจะแกล้งเป็นคู่รักกัน  เธอแน่นอนย่อมมีเหตุผลหลักคือ  ใช้หนี้!  ส่วนเขาคือการที่ไม่ต้องถูกจับแต่งงาน!

    พ่อครับ  แม่ครับนี้เพลิงครับ 

    หญิงสาวยกมือขึ้นไว้บิดา และมารดาของชายหนุ่มอย่างอ่อนน้อม  เย็นนี้ร่างระหงส์แต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยด้วยเดรสแขนกุดสีขาวยาวเลยเข่า  ปล่อยสยายเส้นผมสีดำขลับ ใบหน้าหวานต้องตานั้นแต่งพองามอย่างที่เขาชอบ  หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่ชินดูแปลกตาเสียจนอัคคีนึกขัน

    เราสองคนมีเรื่องต้องเรียนพ่อ กับแม่ครับ  อัคคีไม่ปล่อยให้เสียเวลา  เขาเริ่มเปิดประเด็ดขึ้น

    นั่นแม่หนูที่พ่อเจอเมื่อกลางวันนิ

    หญิงสาวแสร้งยิ้มเอียงอายไร้ที่ติสำหรับสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม

    น้องสาวน้ำน่ะครับ

    ตายจริง สวยทั้งพี่ทั้งน้องเชี่ยว  แถวกิริยามารยาทก็เรียบร้อยไม่แพ้พี่สาวเชี่ยวนะ  มารดาอัคคีชมอย่างใจจริง  หล่อนนึกเอ็นดูหนูน้ำมานานแล้ว ถึงขนาดอยากได้น้ำเป็นลูกสะใภ้เสียด้วยซ้ำไป  แต่ไม่เป็นไร  หากอัคคีจะรักชอบกับน้องสาวของน้ำแทน  หล่อนก็ยินดี  เพราะแม่หนูนี่ก็ดูกิริยาเรียบร้อยน่ารัก  แต่งตัวมิดชิดไม่ปรูดปราดเหมือนสาวสมัยใหม่..

    ใครไม่เจอพระเดชคุณเธอไม่มีทางรู้ซึ้งหรอก!

    คืออย่างนี้ครับแม่   ผมกับเพลิงตกลงจะแต่งงานกัน  เราสองคนคบกันมาตั้งแต่ที่เพลิงเรียนที่อังกฤษแล้วครับ

    แล้วเรื่องที่ตกลงกันไว้ละว่าลูกจะแต่งงานกับลูกสาวคุณหญิงไงคี บิดาเริ่มไม่พอใจ  เขาเอะใจว่าทำไมก่อนหน้านี้ลูกชายจึงไม่ยอมบอกเรื่องคบกับหนูเพลิงอะไรนี่เลย

    อะไรกันคุณไหนเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วไง  มันหมดยุคที่จะมาคุมถุงชนกันแล้วนะคะ  อีกอย่างก็เห็นอยู่ว่าลูกมีคนรัก  คุณยังจะให้ลูกแต่งงานกับผู้หญิงอื่นอีกหรือคะ

    ก็ผมสัญญาไว้แล้วตั้งแต่รุ่นตาใหญ่นะ  จะให้ผม--

    ไม่รู้ละอย่างไรซะ  คุณก็หาทางเรียนคุณหญิงเอาเองก็แล้วกัน  ฉันไม่เกี่ยวด้วย

    อัคคีถอนหายใจเฮือกใหญ่  หันไปข้างๆก็เห็นรอยยิ้มบางๆบนดวงหน้าสวย หล่อนคงจะนึกขันพ่อกับแม่เขาเป็นแน่

    แล้วนี่จะแต่งกันเมื่อไหร่ คุณราตรีหนูรู้หรือยังล่ะ  มารดาของอัคคีไม่มีท่าทีรังเกียจหญิงสาวแม้แต่น้อย  แม้ว่าจะพอรู้มาบ้างว่าตอนนี้อัคราธรกำลังแย่เรื่องการเงิน  หล่อนเองก็เคยรู้จักมักคุ้นกับคุณราตรี  แล้วยิ่งเด็กมันรักกันก็ใช่เรื่องที่ต้องกีดขวาง  หล่อนเองก็มาจากตระกูลไม่ร่ำรวย  ที่อยู่กับพ่อตาคีได้ทุกวันนี้ก็เพราะความรัก  ไม่ใช่เพราะชาติตระกูล  หรือเงินทอง!

    เอ่อ  หนูเรียนให้แม่ทราบแล้วค่ะ ว่าเราสองคนจะแต่งงานกัน... 

    หญิงสาวหันไปสบตาชายหนุ่ม  เป็นเชิงถามว่าเมื่อไหร่

    คงต้องเร็วที่สุดนะครับแม่...  อัคคียิ้มประจบ 

    ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกจนได้นะคะคุณ  หล่อนยิ้มอย่างรู้ทัน พลางส่ายหน้าอย่างนึกขัน

    หากแต่เปลวเพลิงกลับมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ

    ก็มันลูกผมนิ ...วะทั้งแกทั้งตาใหญ่นี่มันได้เรื่องจริงๆ  เอาๆจะเอายังไงก็ตามสบายแล้วกัน  เดี๋ยวผมขอตัวไปดูงานก่อนก็แล้วกันนะ

    กี่เดือนแล้วจ๊ะหนู

    หญิงสาวขมวดคิ้ว  เดือนกว่าๆเองครับแม่

    ตายจริงท้องอ่อนขนาดนี้ต้องระวังอย่างมากเลยนะลูก แล้วตาคีพาหนูไปฝากท้องหรือยังเนี่ย

    เอ่อ... หญิงสาวอึกอัก  อีตาบ้า  โกหกอะไรไม่เคยถามความเห็นกันเลย!

    คืองี้ครับแม่  เราเพิ่งทราบเมื่อไม่กี่วันนี้เอง อีกอย่างผมว่าจะมาบอกแม่ก่อนน่ะครับ  จะได้คุยเรื่องงานแต่งเลยทีเดียว

    ผู้เป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจ เอาๆ เดี๋ยวแม่จะไปหาฤกษ์หายามเหมาะๆมาให้  จะจัดยังไงก็บอกแม่ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องแจกการ์ดเดี๋ยวเป็นหน้าที่แม่เองก็แล้วกัน

    ส่วนหนูก็เหมือนกัน  เราน่ะไม่ใช่ตัวคนเดียวนะ  ทำอะไรก็ระวังหน่อยนะ  แล้วรองเท้านั่นน่ะ แม่ก็ไม่อยากให้ใส่ส้นสูง  เดี๋ยวเกิดหกล้มแล้วจะยุ่ง

    หญิงสาวได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ  อย่างเลี่ยงไม่ได้   ครอบครัวของชายหนุ่มในความคิดของเปลวเพลิง  นั้นเรียกได้ว่าไม่เลวเลยทีเดียว  ถึงแม้ว่าคุณแม่จะดูเจ้ากี้เจ้าการ  จุกจิก  หากแต่ก็เอ็นดูเธออยู่ไม่น้อยเลย  

    หลังจากการพูดคุยเรื่องงานแต่งงานที่ค่อนข้างหาข้อยุติได้ว่าคงประมาณไม่เกินสองเดือน  ส่วนเวลาที่เหลือคุณอรดี  แม่ของชายหนุ่มอยากให้หญิงสาวย้ายเข้ามาอยู่ก่อน  เนื่องจากอัคคีจะได้ดูแลว่าที่ภรรยาได้อย่างเต็มที่  ซึ่งข้อนี้หญิงสาวค่อนข้างจะไม่พอใจเสียเท่าไหร่นัก...

    หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป  ชายหนุ่มจึงได้ขอตัวขับรถไปส่งหญิงสาว  หากแต่ทันทีที่ประตูรถถูกปิด  คุณอรดีหันกลับเข้าบ้าน   อัคคีกับถึงต้องกุมขมับอีกครั้งเมื่อ...

    ไอ้บ้า!!”

    นี่คุณเบาๆหน่อยได้ไหม เราอยู่กันแค่สองคนนะ

    ไอ้ทุเรศ  นายกล้าบอกแม่นายว่าฉันท้องได้ไงฮะ!”

    เฮ้ย  ใจเย็นๆสิ  คุณจะโวยวายไปทำไม  เพราะนั่นมันทำให้งานแต่งเราเร็วขึ้นนะ  อีกอย่างพ่อผมจะได้ขัดไม่ได้ด้วย

    แต่ฉันไม่ได้ท้อง  เข้าใจไหมฮะ  ถ้าเกิดถูกจับได้ฉันไม่ตายหรือไง  อ๋อ  เค้าถึงบอกกันว่านักธุรกิจชอบทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ก็อย่างนี้นี่เอง

    นี่! ใครกันแน่ที่ชอบทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่  ผมอุตส่าห์บอกไปว่าท้องแค่เดือนกว่าๆ  เรายังมีเวลาน่า  เชื่อผมสิว่าไม่มีใครดูออกหรอก

    หญิงสาวเบ้ปาก  พลางกอดอก  อัคคีจึงแกล้งจอดรถเข้าข้างทางอย่างกะทันหันเสียงจนหญิงสาวแทบหน้าคว่ำ

    ทำบ้าอะไร!”

    อ่าว! ก็คุณกลัวไม่สมจริงไม่ใช่หรอ  ผมก็จอดรถให้เราเมคเลิฟกันที่เบาะหลังไง  เชื่อมือได้รับรองได้ผลชัวร์

    อัคคีจัดแจงเอนเบาะ พลางถอนเข็มขัดนิรภัย 

    อีตาบ้าลามก!!”  ร้องโวยวายไม่พอ แม่คุณเล่นฟาดกระเป๋าใบโตใส่เขาแบบไม่ยั้ง

    โอ้ย! !! “  อัคคีร้องคราง  พลางดึงร่างอ้อนแอ้นนั่น  แต่แม่คุณเล่นดิ้นเล้าๆสุดใจ  ผลที่ได้คือ ทั้งสองนั้นหน้าคว่ำลงไปนอนกองที่เบาะหลังราวกับจับวาง

    ดวงตาของชายหนุ่มมองหญิงสาวข้างกายที่แนบชิดใกล้กันจนเกินพอดี  ความรู้สึกแปลกๆแล่นผ่าน จนชายหนุ่มต้องแสร้งเบือนหน้าเสีย  หากเขายังคงจ้องดวงหน้านั้นอยู่  หล่อนคนต้องรู้แน่ว่าเขากำลังทรมานขนาดไหน  ทีแรกก็แค่กะหยอกคนเจ้าอารมณ์เล่น  แต่ใครจะรู้เล่าว่าเขากับกำลังเจอเสน่ห์แม่คุณเล่นงานเข้าให้เสียแล้ว

    หญิงสาวล้มหน้าคะมำทับร่างสูงใหญ่นั่น  จนร่างทั้งสองแนบสนิทเสียจนรับรู้ได้ถึงทุกสัดส่วน  เปลวเพลิงเบือนหน้าหนีอย่างคนไม่กล้าสู้หน้า ดวงหน้าสวยร้อนผ่าวในความมืด  หญิงสาวแทบไม่อยากจะจินตนาการต่อเลยว่าหากที่นี่มีแสงเพียงสักนิด  เขาคงจะมองเห็นได้ว่าหน้าหล่อนแดงถึงเพียงใด

    บ้าฉิบ...! หญิงสาวสบถในใจ  ก่อนจะพยายามยันร่างหล่อนขึ้น  หากแต่ศีรษะเจ้ากรรมดันไปกระแทกเบาะหน้า  ซึ่งก็ทำให้ร่างบางถึงกับร่วงมาทับชายหนุ่มอีกรอบเสียจนเจ้าตัวร้องคราง...

    เวรกรรมอะไรวะเนี่ย...ซวย เกิดเผลอปล้ำคนที่นอนอยู่บนตัวเขาขึ้นมาจะทำยังไง

    จะลุกก็ลุกดีๆ  ไม่ต้องมายั่วผมก็ได้

    บ้า!”  ก็คนมันลุกไม่ขึ้นนิ  เธออยากเถียงใจจะขาด  ใครยั่วนาย

    ผมนับถึงสิบ  ถ้าคุณไม่ลุกออกไปจากตัวผมละก็  ผมจะถือว่าคุณอยากเมคเลิฟกับผม

    ใครจะไปทำบ้าอะไรกับนาย!!”

    หนึ่ง!”

    โอ้ย! สร้อยมันพันกัน

    สอง!”

    สาม!”

    อ้า! อย่ากระชากสิ

    นายก็อยู่นิ่งๆไม่ได้หรือไง  หญิงสาวแหวใส่

    อื้อ..ไม่ออก

    ห้า

    ออกแล้ว!”

    กรี๊ดดดด!”

    ผลัวะ! !!

    คุณครับคุณนี้มันที่สาธารณะนะครับ!”

    ตำรวจจราจรที่เฝ้าสังเกตการณ์คงจะหมดความอดทน  ถึงกับเดินมาเปิดประตูของทั้งสองออก  นั่นก็ส่งผลให้หญิงสาวที่แกะสร้อยคอได้สะดุ้งพรวดหงายหลัง  ดีนะที่อัคคียังมือไว้ลุกขึ้นมาคว้าตัวไว้ได้ทัน  ก่อนที่แม่ตัวดีของเขาจะลงไปนอนแทบเท้านายจราจร 

    ขอโทษที่เสียมารยาท  ผมเคาะกระจกพวกคุณตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีใครได้ยิน  ผมจึงต้องเปิดประตู

    เอ่อ  คือว่าไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ  หญิงสาวพยายามจะแก้ตัว  ในขณะที่ชายหนุ่มกุมขมับ กูลืมล็อกรถอีกแล้ว

    ในฐานะที่คุณสองคนก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว   ผมก็จะขอตักเตือนในสิ่งที่คุณทำว่าคราวหน้าคราวหลังก็อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อนัก  มันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน

    คือเรากำลังแกะสร้อยที่พันกันอยู่ต่างหาก  ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดสักหน่อย

    นายจราจรถอนหายใจยาว  งั้นคราวหน้าก็ช่วยไปแกะสร้อยกันในโรงแรมนะครับไม่ใช่เบาะหลังอย่างคราวนี้

    ครับๆ  คราวหลังผมจะไม่ทำอย่างนี้อีกครับ  ขอโทษด้วยนะครับ

    ลับหลังนายจราจร  หญิงสาวก็หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ  เพราะใคร ฉันถึงต้องโดนด่าอย่างนี้  น่าอายชะมัด

    ก็เพราะคุณนั่นแหละ  ถ้าไม่ดิ้นเราก็ไม่ต้องมากองอยู่ข้างหลังแบบนี้หรอก

    เอ๊ะ! นายอัคคี นายหาว่าเป็นความผิดฉันหรอ

    ก็ใช่น่ะสิ  ใครใช้ให้คุณมายั่วผมก่อนล่ะ

    อ๊ะ  ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ  มีแต่นายนั่นแหละที่สมองมีแต่เรื่องต่ำๆ ทรามๆ  ถึงว่า  เมื่อกี้ทำไมใจเต้นแรงนัก ที่แท้นายก็คิดแต่เรื่องแบบนี้

    นี่คุณผมเป็นผู้ชายนะ  อยู่ๆมีผู้หญิงเอาหน้าอกมาแนบขนาดนั้นถ้าไม่คิดอะไรก็แปลกแล้ว  อ้อ  อีกหน่อยคุณก็จะเป็นเมียผมแล้วนิ  งั้นก็ช่วยรู้ไว้ด้วยนะว่าในหัวผมคิดเรื่องอย่างว่าทุกสามนาทีเชียว

    ทุเรศ!”

     

    คุณเพลิงคะ  จริงหรือป่าวคะที่บอสกำลังจะแต่งงานน่ะ  แจนถามขึ้น  ขณะที่หญิงสาวกำลังดูเอกสาร

    ใครกันน้าจะเป็นผู้หญิงที่โคตรโชคดีคนนั้น  รู้ไหมคะว่าพนักงานสาวๆนะเสียใจกันใหญ่เลยค่ะ

    ขนาดนั้นเชียว  หญิงสาวเลิกคิ้ว

    ค่ะ  ก็บอสน่ะทั้งหล่อ  ทั้งรวย  แถมชาติตระกูลก็ดี  ใครหาได้แบบนี้ก็สบายไปทั้งชาติ  นั่นแหละน้าเค้าถึงบอกว่าจะแข่งอะไรก็แข่งได้  แต่แข่งบุญแข่งวาสนานี้ยาก ขนาดแจนยังอิจฉาผู้หญิงคนนั้นเลยค่ะ

    แล้วเธอไม่เคยรู้เรื่องผู้หญิงคนก่อนๆบ้างเลยหรอ

    ก็มีบ้างน่ะค่ะ   หญิงสาวยิ้ม  แต่ก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอกนะคะ  เพราะว่าบอสไม่ค่อยพามาที่นี่

    ใครว่าเล่า เค้าบอกว่าแม่พวกนั้นน่ะแค่คู่ควงเล่นๆทั้งนั้นแหละ  พนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาอย่างออกรส  อย่างยายนางแบบนั่น  ไม่ถึงอาทิตย์ก็เลิก  ฉันล่ะสะใจจริงๆเลย  เออนี่พวกเธอ  รู้หรือเปล่าว่าเค้าลือกันทั่วไปหมดว่าว่าที่เมียบอสน่ะแกล้งป่องหวังจับบอสนะแก

    จริงหรอ  ถึงว่าฉันไม่เห็นผู้หญิงที่บอสจะแต่งงานด้วยเลยสักครั้ง

    ใช่ไหมล่ะ  ร้ายจริงๆคงหวังจะสบายทางลัดน่ะสิ

    นี่! กรุณาคุยกันเงียบๆหน่อย  นี่มันเวลางานนะ  เปลวเพลิงขัดขึ้นก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์  จนพนักงาน โดยเฉพาะแจนถึงกับงงจัด

    อะไรวะ  ทีแรกยังถามเราอยู่เลยนี่หว่า  เฮ้อ...

     

     

    เปลวเพลิงรีบเดินออกจากที่ตรงนั้น  ก่อนที่ตัวเองจะระเบิดอารมณ์ออกไป  หวังจับนายนั่นนะหรือ! หญิงสาวเบ้ปาก  คนอย่างหล่อนไม่มีทางจับใครแน่   ถ้าหล่อนไม่หมดหนทาง  คนอย่างเปลวเพลิงไม่มีทางที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว

    หญิงสาวก้าวฉับๆ  ตรงเข้าไปยังห้องผู้บริหารอย่างถือวิสาสะ(อีกแล้ว)  

    ทันทีที่ร่างบางก้าวตรงเข้ามาเกือบประชิด  ชายหนุ่มจึงเงยหน้าจากกองเอกสาร  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง  สายตาคมกริบจ้องมองดวงหน้าสวยที่บึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์

    คุณลืมมารยาทอีกแล้วนะ...

    ฉันรีบ  หล่อนบอกปัด  อัคคียิ้ม  รู้สึกคุ้นๆประโยคนี้นะ

    หญิงสาวไม่สน  หล่อนตรงไปยังเก้าอี้หนังประจันหน้าชายหนุ่ม  เรียวขางามยกขึ้นไขว่กันอย่างยโส

    เราสองคนมีเรื่องต้องตกลงกัน!


    ______________________________
    _______________
    ครบ 100% แล้วค่ะ เม้นๆๆกันหน่อยน้า จุฟฟฟ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×