ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปลวริษยา ((รีไร้ท์))

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 10 การเริ่มต้นที่หวานหอม?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.86K
      8
      3 ม.ค. 54

    บทที่ 10 การเริ่มต้นที่หวานหอม?

     

    วันเวลาที่ผ่านพ้นไปช่างรวดเร็วเสียจริง นับตั้งแต่อัคคีบินไปอิตาลี  ในความคิดของเปลวเพลิงมันคงจะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก  หากไม่เพราะนิกกี้เพื่อนสุดซี้ของเธอบินมาที่ไทย  เธอจึงมีเพื่อน  และไม่เหงา จนกระทั่งถึงวันสำคัญ

    โรงแรมอัคราธรแกรนด์โฮเตลในค่ำคืนนี้  ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนสวรรค์สถานที่แห่งรักให้แก่คู่บ่าวสาวในค่ำคืนฉลองสมรสสุดอลังการ  บรรดาแขกเกรอเริ่มทยอยกันเข้างานด้วยชุดราตรีสีสันสดใส กับเครื่องเพชรแพรวพราวบ่งบอกถึงสถานะได้เป็นอย่างดีว่าเป็นระดับผู้รากมากดีเศรษฐีทั้งนั้น 

    แสงแฟรชวูบวาบจากช่างกล้องฝีมือดีของแต่ละสำหนักข่าวต่างแข่งกันเพื่อที่จะได้ภาพที่ดีที่สุดไปประโคมข่าวกันอย่างเมามัน

    แม้บรรดาไฮโซสาวทั้งหลายจะพยายามแต่งกันสุดฤทธิ์แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถแย้งซีนเจ้าสาวคนสวยได้สำเร็จ  เปลวเพลิงในค่ำคืนนี้ช่างสง่างามราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ยืนโปรยยิ้มอยู่ข้างเจ้าบ่าวสุดหล่อและน่าอิจฉา  เพื่อเก็บภาพแห่งความทรงจำร่วมกับเพื่อนๆ และบรรดาญาติๆทั้งหลายของชายหนุ่ม

    ปลายน้ำในชุดราตรีสีโอรสเรียบหรูทำหน้าที่รับแขกคู่กับคุณราตรี พร้อมกับครอบครัวของทางฝั่งเจ้าบ่าว...

    เหนื่อยไหมเพลิง...  อัคคีก้มกระซิบหญิงสาว   หากแต่ไม่มีคำตอบนอกเสียจากในหน้าสวยหวานที่เปื้อนยิ้มส่ายไปมา  ก่อนจะหันไปยิ้มทักทายกับบรรดาแขกที่กำลังจะเข้างาน   อัคคีเองยังอดประหลาดใจไม่ได้ว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นหลุดมาจากหนังสือนิยายเล่มไหนหรือเปล่ากัน  เพราะหญิงสาวตรงหน้าช่างงดงามเสียจริงในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ราวกับมันถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ...

    แม้มันจะเป็นเพียงพันธะสัญญาที่เกิดขึ้นหาใช่เช่นเดียวกับคู่แต่งงานคนอื่นๆ  เปลวเพลิงยังอดที่จะรู้สึกตื้นตันไปไม่ได้ ในชีวิตนี้เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่าวันนี้มาก่อน  เธอกำลังจะมีชีวิตครอบครัวเป็นของตัวเอง  เธอกำลังจะมีสามีที่แสนดี...

    พ่อจ๋า..เพลิงอยากให้พ่ออยู่ตรงนี้จัง

    เพลิงคิดถึงพ่อค่ะ...

    นิ้วเรียวยกขึ้นปาดหยาดน้ำตาที่คลอเคลียเบาๆ   หญิงสาวรู้สึกราวกับฝันไปจนกระทั้งเธอกำลังยืนอยู่เคียงข้างอัคคีบนเวทีสีทอง...

    สายตาของเธอนั้นช่างพร่ามัว  หูทั้งสองก็อื้ออึงไปหมด  เค้กแต่งงานที่ถูกตัด  บรรดาแขกหลายร้อยคน  ก้อนน้ำแข็งสลัก  ซุ้มดอกไม้สุดหรูหรา คลอเคลียเสียงเพลงรัก ทั้งหมดนี่คือความจริงใช่ไหม  หญิงสาวเพียรถามตัวเองซ้ำไปมา จนกระทั่งเสียงหวานจากนิกกี้เพื่อนสาวคนสวยในชุดราตรีสีชมพูอ่อนเรียบร้อยที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรในงานดังขึ้น...

    เอาล่ะค่ะ  นี่ก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยกันแล้วนะคะ กี้จะขอถามคำถามเบาๆกับเจ้าสาวกันก่อนเลยดีกว่า  นิกกี้ขยิบตา  แหม  เห็นเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาบรรดาพี่ๆสื่อมวลชนคงอยากทราบว่าทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไรคะ

    เอ่อ...พี่คีเป็นเพื่อนสนิทกับพี่น้ำ  พี่สาวเพลิงเองน่ะค่ะ  เราเลยรู้จักกัน หญิงสาวแทบจะส่งสายตาอาฆาตไปหาเพื่อนตัวดีที่เริ่มถามคำถามโดนไม่ปรึกษากันก่อน  เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร  หากแต่นิกกี้ก็ได้แต่ส่งสายตาผิดหวังไปให้ เธอหวังว่าจะได้คำตอบแสบๆของเพื่อนสุดซ่าคนนี้เสียมากกว่า  ไม่ใช่ลุคคุณหนูเรียบร้อยแบบนี้...

    งั้นมาถามเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดแห่งปีกันบ้างค่ะว่าคุณอัคคีประทับใจอะไรในตัวเจ้าสาวคนนี้

    คงเป็นเพราะ...  อัคคีมองหน้าหญิงสาว  เปลวเพลิงใจเต้นแรง  เธอคาดหวังอะไรในคำตอบของเขาหรือเปล่า  ไม่เธอไม่ควรไปคาดหวังอะไรสิ

    เพลิงเป็นเพลิงแบบนี้ล่ะครับ  เป็นคนตรงๆชอบก็บอกว่าชอบ  ไม่ก็บอกว่าไม่  หลายคนคงมองเจ้าสาวของผมว่าเป็นผู้หญิงที่สวย  และเก่ง  แต่สำหรับผม ผมมองว่าเพลิงเป็นเด็ก.... 

    คนที่ถูกมองว่าเด็กหันมาค้อนเสียยกใหญ่  ก่อนจะกลับกลายเป็นกัดปาก ก้มหน้างุดเพราะความเขินเมื่ออัคคีบอกเธอว่า ...ที่ผมอยากจะดูแลตลอดไป

    เสียงร้องด้วยความเขินปนอิจฉาดังออกมาอย่างปิดไม่มิดจากบรรดาสาวๆในงาน  โดยเฉพาะปลายน้ำ เธอได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยหัวใจที่ปวดร้าว  กรที่เฝ้าสังเกตหญิงสาวเอื้อมมือมาแตะไหล่เธอเบาๆ  หากแต่หญิงสาวกลับสะบัด  ก่อนจะเดินหายออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว...

      ส่วนคำถามสุดท้ายจากกี้เองค่ะ  อยากจะรู้จริงๆว่าอัคคีกับเปลวเพลิงอะไรจะร้อนแรงกว่ากัน!”

    เสียงเฮลั่นดังขึ้น  นิกกี้ยิ้มร่า  เพราะฉะนั้นจูบเลย

    จูบเลย

    จูบเลย

    จูบเลย

    จูบเลย

    จูบเลย

    เสียงเชียร์ดังระงมไปทั่ว  พอๆกับที่ช่างกล้องเตรียมทำงานอย่างแข่งกัน  หญิงสาวรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะจนกระทั่งริมฝีปากร้อนๆถูกปิดลงด้วยจูบแสนเร้าร้อนของอัคคี  เปลวเพลิงเอามือยันอกชายหนุ่มไว้  หากแต่อัคคีกลับดึงให้มาคล้องคอเขาไว้หลอมๆ  ก่อนจะแทรกสิ้นอุ่นๆเขาไปในโพรงปากของหญิงสาวที่อ้ารับอย่างเต็มใจ เพิ่มดื่มด่ำความหอมหวานที่เขาแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่อย่างไม่แคร์ต่อสายตาบรรดาแขก และช่างภาพเลยทีเดียว จนกระทั่งเสียงของนิกกี้ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ยุติจุมพิต

    เอาล่ะค่ะๆ เห็นทีคงจะแยกไม่ออกซะแล้วว่าใครร้อนกว่าใคร...ๆ

     

    พ่ออยากอุ้มหลานแล้วล่ะ

    รักกันนานๆนะลูกนะ  ลูกกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา  ยังไงซะแม่ก็ขอให้ลูกของแม่ทั้งคู่อดทนนะจ๊ะ ส่วนตาคีในวันข้างหน้าแม่ก็ขอให้ลูกหนักแน่นและมั่นคง  มองหน้าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆไว้นะ  เค้าคือแม่ของลูกนะจ๊ะคี...

    อัคคีและเปลวเพลิงก้มกราบเท้าบิดามารดา

    น้าฝากน้องด้วยนะคี  รักน้องให้มากๆเหมือนกับที่คุณพ่อคุณแม่และน้ารักน้องนะจ๊ะ  ส่วนหนูเพลิง...น้าดีใจ  และภูมิใจแทนทุกๆคนในอัคราธรมาก มีความสุขมากๆนะจ๊ะลูก

    ทั้งสองก้มลงกราบแทบเท้าคุณราตรีผู้ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของหญิงสาว  ราตรีลูบเส้นผมหนาอย่างอ่อนโยน หล่อนรักและเอ็นดูเพลิงไม่ต่างจากลูกสาวในไส้ของหล่อนเลยสักนิด  หล่อนหวังเพียงว่าสักวันเพลิงคงจะเรียกหล่อนว่าแม่บ้างเท่านั้น...

    ไป...พวกเราไปกันเถอะ ปล่อยให้เด็กๆเค้าพักผ่อนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

    บุคคลสำคัญสำหรับทั้งสองค่อยๆทยอยกันออกไปจนกระทั่งห้องนอนของอัคคีเหลือเพียงเขาและเธอ  หญิงสาวเลือกนั่งลงบนโซฟาอย่างทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่ชายหนุ่มถอดสูทพาดไว้บนเก้าอี้ใกล้ตัว...

    เอ่อ... หญิงสาวพยามทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ พี่คีจะอาบน้ำไหมคะเดี๋ยวเพลิงไปผสมน้ำให้  หรือว่าจะยังไง

    ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  ก่อนจะตรงไปช้อนร่างบางในชุดเจ้าสาวแสนสวยที่เขาอยากเป็นคนถอดมันเองกับมือ  พี่ว่า...เราข้ามตรงนั้นกันไปดีกว่า

    อัคคีก้าวยาวๆเพื่อพาร่างอ้อนแอ้นไปสู่เตียงสี่เสาขนาดใหญ่ของเขา เพื่อบรรเลงเพลงรักบทใหม่ที่แสนรันจวนใจ  และตราตรึงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกว่าครั้งไหนๆ...

     

    เช้าแห่งการเริ่มต้นชีวิตคู่ดูเหมือนว่าจะราบรื่นและหอมหวานสำหรับสองหนุ่มสาวผู้ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาบรรจบเส้นทางด้วยกันมาก่อน...

    เปลวเพลิงตื่นนอนแต่เช้ากว่าทุกครั้ง  ร่างบางสวมใส่เดรสสีหวานดูเรียบร้อยแปลกตา  ใบหน้าสวยหวานยิ่งดูอ่อนเยาว์กว่าครั้งในๆเนื่องด้วยไร้เครื่องสำอางเผยผิวเนียนขาว  เรือนผมนุ่มถูกรวบเป็นหางม้าอย่างหลวมๆ  หญิงสาวถือถาดกาแฟ  และขนมปังที่ส่งกริ่มหอมกรุ่มเข้ามา  ก่อนจะวางลงบนโต๊ะเบาๆ  หญิงสาวส่ายหน้าให้คนขี้เซาช้าๆ

    เปลวเพลิงยืนกอดอกมองแสงแดดสีทองรำไรที่สาดส่องโอบไล้เรือนร่างกำยำที่ยังคงอยู่ในห้วงนิทรา  ใบหน้าคมสันยามหลับช่างแลดูอบอุ่นและน่าหลงใหล  คิ้วเข้มเหนือดวงตาคู่คมที่ปิดสนิท  จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบที่เพียรมอบจุมพิตแสนร้ายกาจ แผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามชวนสัมผัสขยับขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอตามห้วงหายใจ

    น่าแกล้งชะมัด...

    รอยยิ้มฉายวาบบนดวงหน้าสวย  ก่อนที่เปลวเพลิงจะกระโดดลงไปคร่อมร่างหนา หวังจะคว้าหมอนมากดใบหน้าหล่อๆนั่นซะ  แต่ดันกลายเป็นว่าคนขี้เซาดันรู้สึกตัวทะลึ่งพรวดดันร่างบางให้หงายผึ่งราบไปกับเตียง

    อ้าย!! หญิงสาวร้องออกมาอย่างตกใจ

    พี่คีปล่อยเพลิงนะ

    ชายหนุ่มยิ้ม  ก่อนจะจูบหนักๆใบบนริมฝีปาดอวบอิ่มอย่างรวดเร็ว

    มอร์นิ่งคิส  อัคคีปล่อยร่างบางออกจากตัว  ชายหนุ่มปิดปากหาววอด เพราะยัยตัวแสบนี่แหละที่เล่นทำเอาเขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืน  มือหนาเกาหัวแครกๆจนเส้นผมสีเข้มยุ่งเหยิงดูเท่แปลกตา  เขาเพิ่งสังเกตว่าเพลิงแต่งตัวเรียบร้อยกว่าทุกครั้ง 

    เพลิงแต่งแบบนี้น่ารักดีนะ

    คนที่ถูกชมไม่ทันได้ตั้งตัว  เบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย  พลางเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ

    กาแฟค่ะพี่คี  หญิงสาวรินกาแฟใส่ถ้วยกระเบื้องเคลือบชั้นดี  ก่อนจะดันมันใส่มือชายหนุ่มไวๆจนอัคคีหัวเราะร่วน

    ฝนจะตกไหมเนี่ยที่ได้ดื่มกาแฟที่เมียตัวเองมาเสิร์ฟถึงเตียง

    บ้า...!”

    ก๊อกๆๆ

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น  หญิงสาวจึงอาสาไปเปิดเอง  แต่ก็จัดแจงดันร่างสูงให้เข้าไปอาบน้ำเสียที  เพราะเปลวเพลิงอยากจะชวนชายหนุ่มไปซื้อของสักหน่อย

    ขอโทษที่รบกวนค่ะ  พอดีว่ามีคนส่งของมาให้ค่ะ

    สาวใช้ยื่นกล่องของขวัญที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีเลือดหมูเป็นมันวาวติดโบว์สีทองดูโดดเด่น

    จากใครหรอ?

    หนูก็ไม่ทราบค่ะ  แต่เค้าบอกว่าเป็นของขวัญแต่งงานของคุณๆค่ะ  ฝากมาขอโทษเพราะเมื่อคืนลืมหยิบไปค่ะ

    เปลวเพลิงไม่ได้คิดอะไรคงจะเป็นแขกในงานที่ลืมให้ล่ะมั้ง  หญิงสาวจึงรับมาถืออย่างงงๆ  ร่างบางตรงเข้าไปนั่งบนเตียง  มือเรียวฉีกกระดาษดังแควก  อยากรู้เสียจริงว่ามันคืออะไรกันน้า...!

    ก๊อกๆ !

    ไม่ทันที่เธอจะแกะของขวัญเสร็จ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง  หญิงสาวขมวดคิ้ว  ก่อนจะพบว่าเป็นสาวใช้คนเดิม...อะไรกันนักหนานะ!

    เอ่อ ขอโทษค่ะ  พอดีว่ามีโทรศัพท์ถึงคุณเพลิงค่ะ

    หญิงสาวพยักหน้าอย่างเซ็งๆ  ก่อนจะเดิมตามแม่สาวใช้ออกไปอย่างเสียไม่ได้

     

    อัคคีเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดเรือนร่างหน้าหลงใหลไว้  เส้นผมสีเข้มเปียกลูกโดยที่เขาใช้ผ้าขนหนูอีกผืนเช็ดมันเบาๆ  ร่างสูงพยายามมองหาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย  แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า  อัคคียักไหล่  ก่อนจะรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว   เขาเลือกสวมเสื้อโปโลสีดำกับกางเกงสีครีมขาห้าส่วนสบายๆทำให้เขาดูเด็กกว่าอายุจริงมาก  ชายหนุ่มคว้าขนมปังเข้าปาก ก่อนที่สายตาจะไปสบกับกล่องของขวัญที่ยังแกะไม่เสร็จวางอยู่บนเตียง  คิ้วเข้มขมวดเป็นปม  ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา...

    ของขวัญแต่งงาน  เมื่อคืนเพลิงยังแกะไม่หมดอีกหรอ

     

     

    ทางด้านหญิงสาว เปลวเพลิงตามมารับโทรศัพท์บ้านด้วยความงุนงง  ว่าปลายสายเป็นใครกันนะถึงได้โทรเข้าเบอร์บ้านแบบนี้

    ฮัลโหล...

    ไงน้องรัก...

      ใบหน้าสวยหวานแปรเปลี่ยนเป็นเรียบตึงทันทีที่รู้ว่าปลายสายนั้นเป็นใคร

    น้ำ!!”

    อย่าเย็นชากับพี่อย่างนี้สิจ๊ะน้องรัก

    ต้องการอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันกำลังจะออกไปช้อปปิ้งกับพี่คี

    พี่แค่จะมาถามว่าได้รับของขวัญที่ส่งไปให้หรือยังจ๊ะน้องรัก...

    อะไร  แกส่งอะไรมา!!”

    รับรองว่าต้องถูกใจเธอแน่  ดีไม่ดีอาจจะถูกใจคีด้วยก็ได้น้า...

    แก...  หญิงสาวกำหมัดแน่น  กระแทกโทรศัพท์ลงอย่างแรง  ก่อนจะใจหายวาบเมื่อนึกได้ว่าเธอได้วางกล่องของขวัญนั้นไว้บนเตียง  ไวเท่าความคิด  ร่างบางรีบสาวเท้าไปยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว  ในใจก็ได้แต่ร้องภาวนาขออย่าให้ชายหนุ่มเปิดมันออกเลยก็ที่เธอจะไปเจอด้วยเถิด....

    เปลวเพลิงกระชากประตูกเปิดอย่างแรง  ร่างบางหอบแฮกๆเพราะแรงวิ่ง  แต่พอหญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคู่คม  หัวใจที่เต้นแรงก็กระตุกวูบ...!


    ____เม้นๆๆๆเป็นกำลังใจให้ไร้เตอร์หน่อยน้า__
    เนื้อเรื่องกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จนหนูเพลิง
    แทบตั้งตัวไม่ติดแล้วนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×