คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 8 เบื่อที่ต้องทน 1000000~%%%
บทที่ 8 เบื่อที่ต้องทน
ครืดๆ ครืดด!!!
“อื้ม.....”
ครืดๆ ครืดด!!!
“รับสิ...” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสร้างความรำคาญให้กับร่างบางที่นอนซุกอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ ถึงกับต้องยกแขนไปเปะปะหาคนใกล้ตัวที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์เสียที หากแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า เปลวเพลิงขมวดคิ้วทั้งๆที่ตาทั้งสองยังคงปิดอยู่....
“พี่คี...”
“พี่คีคะ!!”
ครืดๆ ครืดด!!!
“นายอัคคี!!”
“โธ่เว้ย!”
ครืดๆ ครืดด!!!
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ หญิงสาวจึงจำต้องลุกขึ้นมารับไอ้โทรศัพท์เส็งเคร่งที่ขัดขวางการนอนของเธอ...
หากแต่ปลายสายที่โทร.เข้านั้นทำให้เปลวเพลิงลุกขึ้นนั่งพรวด หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว
“อีน้ำ!!!”
นิ้วเรียวกดรับแทบจะทันที
“................”
“ทำไมรับช้าจังเลยฮะคี”
เปลวเพลิงเบ้ปาก
“สายป่านนี้แล้วคียังไม่ตื่นอีกหรือไง...คีตอบน้ำบ้างสิ น้ำมีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไร?”
“เพลิง!!!”
“ไม่ต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะพี่น้ำ นี่น้องสาวของพี่เอง”
“เธอรับโทรศัพท์คีได้ไง แล้วคีอยู่ไหน!”
“ใจเย็นสิคะพี่น้ำ...” หล่อนแสร้งทำเสียงหวาน “ก็...ในฐานนะ ‘เมีย’ เพลิงมีสิทธิ์จะทำอะไรกับพี่คีก็ได้ ส่วนตอนนี้พี่คีคงเข้าห้องน้ำมั้งคะ”
“ถ้าพี่น้ำมีเรื่องอะไรจะพูดกับพี่คี ก็พูดกับเพลิงแทนก็ได้นะคะ เพราะยังไงซะเพลิงก็เป็นเมียของพี่คีอยู่แล้วนี่...”
“มันจะเต็มปากไปหน่อยมั้งเพลิง...พี่ว่าอะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอก เพราะผู้หญิงอย่างเพลิงน่ะ ใครทนได้ก็สุดยอดแล้วนะจ๊ะ เผื่อๆไว้บ้างนะ” ปลายสายตอกกลับอย่างนิ่มนวล “...โดยเฉพาะผู้ชายอย่างคี”
“กรี๊ดดดดดดดด!! อีบ้า!” หญิงสาวกรีดร้องลั่น ขณะที่ปลายสายกลับหัวเราะอย่างสบายอารมณ์
“เธอมันผีบ้าเพลิง...คอยดูไปเถอะว่าคีไม่มีทางทนกับผู้หญิงที่สวยแต่รูป แต่ข้างในกลวงอย่างแน่”
---ตืดๆๆๆๆ---
“กรี๊ดดดดดดดดด!! อีๆบ้า ฉันเกลียดดๆๆๆๆๆแก”
“เพลิง!!” อัคคีทนไม่ไหวกับการแผดเสียงลั่นห้องของหญิงสาวจนต้องออกมาจากห้องน้ำทั้งๆที่ฟองสบู่ยังคงเต็มตัวของเขาอยู่ ดวงตากลมตาเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างของผู้เป็นสามีอย่างเต็มตัวโผล่พ้นประตูห้องน้ำ ใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อนหลงใหลนั้นฉายแววไม่พอใจเป็นที่สุด
“เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ!” อัคคีสาวเท้าไปหาคนตัวเล็กที่มีเพียงผ้านวมคลุมร่างน่าหลงใหลนั่น มือขาวของหล่อนกำมือถือของเขาแน่น...
หญิงสาวหลบสายตาทันทีที่ชายหนุ่มก้าวมายืนประชิดเธอ เปลวเพลิงอึกอักอย่างไม่สมเป็นเธอเลยเมื่อเห็นสายตาร้อนๆที่ส่งมาให้อย่างคาดโทษ
“คือเพลิง...”
“แล้วนั่นมือถือของฉัน...” อัคคีกระชากโทรศัพท์ของเขาออกจากมือของหญิงสาว ชายหนุ่มรู้สึกฉุน“จำไว้ด้วยนะว่าฉันไม่ชอบให้ใครเอามือถือของฉันไปโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ความลับเยอะนักหรือไง..” หญิงสาวพึมพำ ราวกับบอกตัวเอง “อยากรู้ตายล่ะ”
แต่กระนั้นก็ไม่อาจรอดสายตาคมกริบไปได้ “จะเยอะหรือไม่เยอะฉันไม่สน แต่เธอก็ต้องให้เกียรติฉันบ้าง ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ทำตามใจ”
คนถูกบ่นถึงกับถลึงตาใส่อย่างเคืองๆ ตั้งแต่เล็กจนโตยังไม่มีใครสามารถมาบ่นเธอได้ขนาดนั้นเลย
“ก็ตะโกนจนคอจะแตกอยู่แล้วนิ พี่คีก็ไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำ เพลิงก็แค่รับแทนเท่านั้นเอง ผิดใช่ไหมฮะ~!!”
“หรอ...” ชายหนุ่มลากเสียงมองหล่อนกึ่งหยัน “ แล้วที่ร้องกรี๊ดลั่นนั่นหมายความว่าไงฮะเพลิง”
“ก็อี..เอ่อน้ำโทรมา มันเริ่มก่อนนะ เพลิงพูดดีๆแล้วแต่น้ำมันมาด่าเพลิงนิ มันว่าเพลิงเป็นผีบ้า แล้วพี่คีจะให้เพลิงทำยังไงล่ะฮะ”
ฮึ...ชายหนุ่มพ่นลมออกทางจมูก เขาอยากจะหัวเราะจนฟังร่วง แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว เขารู้จักเพื่อนสาวของเขาดี หล่อนไม่เคยว่าใครเขารู้ดี ทุกครั้งที่พูดถึงเปลวเพลง ปลายน้ำก็มีแต่จะคอยเป็นห่วงเป็นใยน้องสาวจะตาย มีแต่คนของเขาเองที่จงเกลียดจงชังพี่สาวตัวเอง ปลายน้ำคงจะเตือนเปลวเพลิงด้วยความหวังดี แต่อีกฝ่ายที่ชอบรวนคงจะเห็นความหวังดีเป็นประสงค์ร้ายล่ะมั้ง ชายหนุ่มบอกตัวเอง
“เธอกำลังตีความหวังดีของพี่สาวตัวเองเป็นประสงค์ร้ายอยู่นะเปลวเพลิง”
“หวังดี!” หญิงสาวร้องเสียงสูง “คนอย่างมันไม่มีทางหวังดีกับเพลิงแน่”
“เพลิง!”
“เพลิงไม่ต้องการความหวังดีจอมปลอมจากมันหรอก แล้วถ้าพี่คีเข้าข้างมันนักก็ไปให้พ้นๆเลยไป!”
“รู้ไหม...บางทีพี่เธออาจจะพูดถูกก็ได้นะเพลิง”
หญิงสาวชะงัก เมื่อเห็นดวงตาสีช็อกโกแลตนั้นฉายแววผิดหวังระคนเบื่อหน่าย คนตัวเล็กเผลอกัดปากแน่น
“เธอมันผีบ้าเพลิง...คอยดูไปเถอะว่าคีไม่มีทางทนกับผู้หญิงที่สวยแต่รูป แต่ข้างในกลวงอย่างแน่”
ชายหนุ่มเอือมระอากับนิสัยเสียๆของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา อัคคีจึงหันหลังให้หญิงสาวแล้วเดิมกลับเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจใยดีต่อเสียงร้องตะโกนตามหลังเขาอีก....
“อ๊ะ...ไม่มีผู้ชายคนไหนหันหลังให้ฉันนะ!”
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะพี่คี!!!”
“นายอัคคี..โธ่เว้ย!”
เช้านั้น อัคคีรีบออกไปทำงานแต่เช้าโดยไม่รอทานอาหารร่วมโต๊ะกับเปลวเพลิงเลย ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะง้อภรรยานิสัยเสียของเขา ปล่อยให้หญิงสาวเอาแต่นั่งๆนอนๆอยู่บนโซฟา เปิดดูนิตยสารสีฉูดฉาดไปมาอย่างหน่ายๆ
แน่นอนว่าคนอย่างเปลวเพลิงไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้ใคร เธอเกลียดปลายน้ำ อย่างไรเธอก็จะเกลียดต่อไป แม้มันจะทำให้อัคคีไม่ค่อยพอใจก็ตาม...คิดได้เท่านี้หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อนึกถึงใบหน้าเรียวยาวได้รูป ดวงตาคมกริบสีเข้มหน้าหลงใหล ริมฝีปากบางเฉียบกับจมูกโด่งเป็นสันหากแต่ไม่ได้มีความอ่อนโยนอย่างวันนั้น วันที่เขาทำให้ใจที่แข็งชานั้นเต้นรัวราวกับกลอง ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อบัดนี้ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังละคนเบื่อหน่าย
เปลวเพลิงไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองว่าเหตุใด ผู้ชายที่ชื่ออัคคี วัฒนากร ถือได้เข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเธอนัก ทั้งๆที่เดิมทีเขาคือคนที่เธออยากจะฆ่าทิ้งเสียให้พ้นๆ และแทบจะเป็นคนท้ายๆที่เธออยากพบเจอ แต่เหตุใดยามนี้ คนที่ไม่เคยนึกถึงใครนอกจากตัวเองอย่างเธอจะต้องมานึกกังวลเกี่ยวกับเขาทุกๆสามนาทีด้วยนะ หรือมันเป็นเพราะเธอกับเขาผูกสัมพันธ์ทางกายกันแล้วนะ หญิงสาวคิด หากแต่ความคิดเธอคนจะฟุ้งซ่านกว่านี้เป็นแน่ถ้าไม่เพราะสัมผัสอบอุ่นและแผ่วเบาที่ศีรษะทำให้เธอสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะพบรอยยิ้มละมัยประดับอยู่บนดวงหน้าของคุณอรดี
“คุณแม่...” หญิงสาวอุทานเบาๆ
“ไงจ๊ะหนูเพลิง ทำไมไม่ไปที่โรงแรมกับตาคีล่ะจ๊ะวันนี้”
คำถามนั้นทำให้หญิงสาวมีสีหน้ากระอักกระอ่วน จนคุณอรดียิ้มให้อย่างรู้ทัน เนื่องจากหล่อนอาบน้ำร้อนมาก่อน
“สามีภรรยาก็เหมือนลิ้นกับฟัน ย่อมมีการกระทบกันเป็นเรื่องธรรมดา”
“แต่หนู...”
“เมื่อคนหนึ่งแข็ง อีกคนก็ต้องยอมอ่อน เมื่อคนหนึ่งนำ อีกคนก็ต้องยอมตาม ไม่ใช่จะนำด้วยกันทั้งคู่นะลูก
”
“แต่ถ้าคนที่แข็งไม่ยอมฟังใครล่ะคะ บางทีที่เค้าคิดอาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้นี่...”
“แล้วเราเลือกที่จะยอมอ่อนหรือเปล่าล่ะ ถ้าต่างคนต่างแข็งมันก็หักกันพอดี...” อรดีลูกศีรษะลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ “การที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกัน ประคับประคองกันนั้นต้องหนักแน่นให้พอ ถึงจะอยู่กันได้ยืด แม่ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น แต่แม่อยากให้หนูลองคิดทบทวนดูสิ่งต่างๆที่เราทำ ทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น มันถูกต้องหรือเปล่า เรื่องบางเรื่องมันไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลตัดสินเสมอไป แต่มันอยู่ที่ความรู้สึกต่างหาก”
เปลวเพลิงถอนหายใจ แน่นอนว่าเธอรู้ว่าเธอผิดที่ตะคอกใส่อัคคี ก็ในเมื่อปลายน้ำมันหาเรื่องเธอ แต่เขากลับเข้าข้างมันอีก เฮ้อ
ฉันจะทำไงดีเนี่ย...เพลิงต้องง้อพี่จริงๆหรือคะพี่คี
ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงเล็กๆก็ดังขึ้น
“คุณย่าขา....”
เปลวเพลิงหันไปมองตามต้นเสียงใสๆ เจ้าของเสียงคือเด็กหญิงตัวน้อยวัยห้าขวบ ใบหน้าของเด็กน้อยนั้นแต้มรอยยิ้มจนคนที่มองเห็นได้แต่เอ็นดูเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ได้ไม่ยาก อรดีเดินเข้าไปหอมแก้มหลานรักเสียฟอดใหญ่
“ผมฝากยายแคทหน่อยนะครับแม่ พอดีผมต้องรีบไปทำธุระกับสา”
อรดีพยักหน้าให้กับลูกชายคนโตของเขา
อรรถพล วัฒนากร คือลูกชายคนโตของตระกูล เขารีบชิงแต่งงานไปก่อนที่จะต้องถูกจับคู่อย่างที่รู้ๆกับนั้น ปัจจุบันเขาเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ของประเทศไทย เปลวเพลิงมองใบหน้าที่ดูละม้ายคล้ายผู้เป็นสามีเธอ หากแต่อัคคีนั้นดูคมเข้ม และร้อนแรงกว่า รวมทั้งสรีระ เพราะอรรถพลนั้นดูเป็นชายหนุ่มใจดีตัวสูงๆผอมๆ ยิ่งถ้าได้แว่นสายตากับแต่งตัวเชยๆ หญิงสาวลงความเห็นว่าเขาจะดูเนิสได้ไม่ยากทีเดียว
เปลวเพลิงยกมือไหว้อรรถพลพลางยิ้มให้ตามมารยาท
“นี่แฟนไอ้คีสินะฮะ...” ชายหนุ่มถามมารดาที่พยักหน้าให้ ก่อนจะสนทนาอย่างออกรสตามประสาแม่ลูกที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน
หลังจากที่สองแม่ลูกสนทนากันอยู่สักพักอรรถพลก็ขอตัวลามารดา ก่อนที่เขาจะของฝากนางฟ้าตัวน้อยๆของเขาไว้ที่นี่
“อย่าดื้อนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นๆพ่อมารับนะคะคนดี” ชายหนุ่มจุ๊บลูกสาวอย่างรักใคร่
“ค่ะ น้องแคทน่ะไม่ดื้อยู่แล้วเน๊อะคุณย่า”
พอลับหลังผู้เป็นบิดา ดวงตากลมโตก็จ้องเป๋งมาที่เปลวเพลิงอย่างสงสัยใคร่รู้
“นี่ใครหรอคะคุณย่า น้องแคทไม่เคยเห็นหน้าคุณน้าเลย”
คุณน้า หญิงสาวถึงกับเบ้ปาก ให้ตายเถอะ ฉันแค่ยี่สิบสามเองนะยะยายเด็กแก่แดด!
“แฟนน้าคีน่ะลูก...”
“แฟนน้าคี” เด็กหญิงทวนคำอย่างแก่แดดแก่ลม “น้องแคทคิดว่าแฟนน้าคีคือพี่น้ำสุดสวยซะอีก” เด็กหญิงจีบปากจีบคอพูดไม่หยุด “เพราะว่าพี่น้ำชอบซื้อขนมมาฝากน้องแคท แถมยังเล่านิทานให้น้องแคทฟังด้วยค่ะคุณย่า แล้วอย่างนี้คุณน้าคนนี้จะซื้อขนมมาฝากแคทไหมคะ”
หญิงสาวได้แต่นึกต่อว่าเด็กน้อยอยู่ในใจ ยัยเด็กปากผี แหม! อีน้ำเนี่ยนะแฟนพี่คี แหวะ แต่สิ่งที่หลุดออกมาก็มีเพียงแต่รอยยิ้มบางๆที่เปลวเพลิงพยามปั้นส่งไปให้
กระนั้นร่างเล็กๆของเด็กน้อยก็ตรงเข้าไปหาหญิงสาวราวกับสนิทสนมกันมานาน มือน้อยๆฉุดแขนเปลวเพลิงให้ก้มลงมาหา ก่อนที่เด็กหญิงจะกระซิบกระซาบกับเธอ
“...แต่ในฐานะที่คุณน้าสวยกว่าพี่น้ำ น้องแคทจะบอกความลับให้นะคะว่าน้าคีน่ะชอบทานคุ้กกี้ข้าวโอ๊ดม้ากมากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนที่พี่น้ำทำอร่อยมากๆเลยน้องแคทยังชอบเลยค่ะ...”
เด็กหญิงบอกพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ขณะที่หญิงสาวกำลังพะวงอยู่กับการหาสูตรคุ้กกี้ข้าวโอ๊ดนั่น!
ติ้งง! !!
เสียงยืนยันว่าคนอย่างเปลวเพลิงที่เคยแต่ทำบะหมี่ ไม่ก็ไข่ลวกง่ายๆนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว เมื่อหญิงสาวไปขอร้องให้คุณอรดีสอบเธอทำคุ้กกี้เพื่อหวังจะเอาใจอัคคี แต่งานนี้ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อต้องให้คนใจร้อนไม่ชอบคอยอะไรอย่างเธอต้องมาทนกับการผสมแป้ง คนๆกวนๆ ตักๆวางๆ ใส่เตาอบและนั่งๆเดินๆ รอให้เสียงสวรรค์ดัง
ไม่รีรอเปลวเพลิงรีบปรี่เข้าไปเปิดเตาอบ และทันทีที่หญิงสาวเปิดเตาอบออก กลิ่นหอมฉุยก็ลอยแตะจมูกจนคนทำยิ้มจนแก้มปริออกมาแทบจะทันที
“หอมจังเลยค่ะ...” หญิงสาวอุทาน ขณะยกถาดคุ้กกี้ออกมาวาง ด้านคุณอรดีก็ยิ้มให้กับลูกศิษย์คนเก่งอย่างเอ็ดดู “ตาคีคงยิ้มไม่หุบซะละมั้งเนี่ย”
เปลวเพลิงยิ้มรับ ก่อนจะลงมือจัดแจงนำคุ้กกี้หน้าตาน่ารับประทานใส่โหลแก้วสองใบ หญิงสาวตั้งใจให้กับน้องแคท หลานสาวคนเก่งของอัคคีเนื่องจากที่เป็นทั้งกองเชียร์ที่ทำให้ครัวขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่ขาดเสียงหัวเราะเลย และเป็นคนบอกความลับนี้ให้
“ขอบคุณค่ะคุณน้า” เด็กน้อยยิ้มรับอย่างดีอกดีใจที่ได้คุ้กกี้แสนอร่อยไปรับประทานฝีมือคุณน้าคนสวยของเธอ
“แล้วหนูเพลิงจะไปหาตาคีเลยหรือป่าวจ๊ะเนี่ย”
แทบจะรอไม่เหวเชียว....
“ค่ะ...”
“งั้นเดี๋ยวแม่บอกคนขับรถให้นะลูก...”
Marry X-Mas !!! น้าค้า ขอให้มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆน้า
จุฟฟฟฟ เดี๋ยวมามอัพต่อค่ะ เม้นสักนิดน้า จุฟๆๆ-3-
ความคิดเห็น