คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 3 : อัคคีร้อน!
บทที่ 3 : อัคคีร้อน!
“ผมนี่แหละอัคคี วัฒนากร!”
นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้าง ผิดคาดไปเยอะ อัคคี วัฒนากรที่หล่อนคาดคิดเป็นตาแก่หัวล้าน ลงพุ ท่าทางตัณหากลับ แต่ที่อยู่ตรงหน้าหล่อนนั้นไม่ใช่! เขากลับเป็นชายหนุ่มผู้ซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาเอามากๆ คิ้วเข้มเหนือดวงตาสีน้ำตาลคมกริบมีเสน่ห์อย่างประหลาดแม้เจ้าตัวจะจ้องมองด้วยสายตาเย็นเฉียบ จมูกโด่งเป็นสันไม่แพ้พวกต่างชาติ ริมฝีปากเรียวบางเม้นเป็นเส้นตรงเมื่อหล่อนไม่ลดละให้เขา
“ผมว่าเราคงต้องไปหาที่คุยธุระอันยิ่งใหญ่ของคุณเสียแล้ว!” น้ำเสียงเย็นๆรอดริมฝีปากเรียว โดยเจ้าตัวเน้นคำว่า ยิ่งใหญ่ ที่มากพอเสียจนหล่อนอดทนรอไม่ไหวจนถึงกับต้องพรวดพราดเข้ามากลางที่ประชุมจนล้มไม่เป็นท่า!
“นี่! ปล่อยนะ” หล่อนร้องลั่น เมื่อคนตัวสูงออกแรงเพียงน้อยนิดก็สามารถลากเธอให้ไปตามเขาได้ไม่ยาก ชายหนุ่มไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของหญิงสาวที่มันทำให้พนักงานของเขาต่างลอบมองด้วยความกระหายใคร่รู้
“ห้ามใครรบกวนขณะที่ผมกำลังคุยธุระกับคุณผู้หญิงเข้าใจไหม!”
“ค่ะบอส!” เลขาสาวรับคำ หล่อนไม่กล้าสบตาของเจ้านายโดยเฉพาะยามที่เขากำลังไม่พอใจแบบนี้
ปึ้ง ง!! ประตูห้องถูกเหวี่ยงอย่างเต็มแรงจากชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระอีกครั้ง
“หัดมีมารยาทบ้างนะคะคุณอัคคี วัฒนากร!”
เรียวปากบางตวัดยิ้มเย้ยหยัน “งั้นที่คุณบุกลุกเข้ามากลางห้องประชุม เรียกว่ามีมารยาทงั้นสิ?”
“ฉันมีธุระสำคัญ...” หล่อนกอดอก เชิดใส่เขาอย่างถือดี
“มันคงสำคัญมาสินะคุณเพลิง!”
“เปลวเพลิง อัคราธร!” หล่อนสวนกลับทันที น้ำหน้าอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่าเพลิงถ้าฉันไม่เต็มใจ!
“ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะคะ...”
ชายหนุ่มผายมือเป็นเชิงให้หล่อนนั่ง หากแต่เปลวเพลิงยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่สนใจ ขณะที่ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ของเขา อัคคีลอบมองหญิงสาว วันนี้การแต่งกายของหล่อนดูเรียบร้อยกว่าทุกครั้ง กระนั้นท่าทางยโส และถือดีกลับไม่ลดน้อยลงไปเลย...
“...ฉันต้องการ อัคราธร แกรนด์โฮเตล ของฉันคืน!”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “คุณต้องการโรงแรมของผมอย่างนั้นหรือครับ?” โรงแรมที่เขาซื้อหุ้นต่อจากพ่อของหล่อนจนกลายมาเป็นเจ้าของแบบเต็มตัว และเรื่องในที่ประชุมวันนี้ก็เป็นเรื่องการเปลี่ยนชื่อโรงแรมจาก อัคราธร แกรดน์โฮเตล ให้เป็นของเขาเสียใหม่!
“โรงแรมนี้ควรจะเป็นของฉัน...ถ้าคุณพ่อไม่ถูกโกงจนจำต้องขายหุ้น”
“โอ! งั้นคุณคงต้องซื้อมันคืนแล้วล่ะ”
“แน่นอน ฉันจะขอซื้อหุ้นคืนทั้งหมด!”
“เฮ้อ...งั้นผมคงต้องขอแสดงความเสียงใจอย่างสุดซึ้งแล้วล่ะครับคุณผู้หญิง” อัคคีตีหน้าเศร้าอย่างจงใจยั่วหญิงสาวจอมถือดีตรงหน้า ขณะที่เปลวเพลิงมองตาขวาง “เพราะผมเองก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องขายซะด้วยสิ”
“นี่คุณ!!”
“อัคคีครับ” เขายิ้มกริ่ม “แต่ถ้าคุณอยากเป็นเจ้าของ เห็นจะมีทางเดียวแล้วสิ”
หญิงสาวหรี่ตามองเขา หล่อนไม่ไว้ใจในท่าทีของเขาเลยสักนิด
“เป็นพนักงานสิครับ ที่นี่เราถือคติว่า พนักงานทุกคนต่างก็เป็นเจ้าของคนหนึ่งที่พร้อมจะบริการลูกค้าดุจพระเจ้า..”
“สารเลว!!” หล่อนตวาด ใบหน้าสวยขึ้นสีตามแรงอารมณ์ “ฉันจะฟ้องคุณ!”
“โอ...โรงแรมนี้เป็นของผมโดยชอบธรรม” หญิงสาวกำมือแน่น “...เห็นทีคุณคงต้องคุยกับทนายแทนเสียแล้วคุณผู้หญิง”
“อาจริงสิ...เรากำลังตกลงกันอยู่พอดีว่า วัฒนากร แกรนด์โฮเตล หรือ อัคคี แกรนด์โฮเตล ชื่อไหนดีกว่ากัน คุณมีความเห็นว่าไง?” เขาแกล้งยั่ว
“ทุเรศสิ้นดี!!” หล่อนตวาด “อ๊ะแต่ฉันอยากจะลองให้คุณทบทวนดูให้ดีนะคะ โรงแรมใหญ่โตขนาดนี้ หึ ไอ้พวกที่มีแต่เงินไร้ประสบการณ์จะมีปัญญาทำให้โรงแรมรุ่งเรืองได้หรือ?”
นายยั่วฉันฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนายอัคคี!
“คุณกำลังดูถูกผมนะคุณเปลวเพลิง!”
หล่อนร้ายกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก
“น่าแปลกนะคะ...” หล่อนเอียงคอมองเขา “..อย่างคุณน่าจะไปทำงานที่ใช้รูปลักษณ์คงจะรุ่งกว่างานที่ใช้สมองนะคะ”
“เปลวเพลิง!” ชายหนุ่มลุกพรวด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่เขารู้จักจะปากร้ายเท่าหล่อนมาก่อนเลย!
“คะ....” หล่อนยิ้มหวาน
ผลัวะ!! ประตูห้องถูกเปิดออกขัดสบสนทนาอันร้อนแรงของทั้งสองจนอัคคีต้องหันไปมองดวงสายตาหงุดหงิดแกมโมโห
“ผมสั่งคุณแล้วใช่ไหม!!” ชายหนุ่มหัวเสีย ที่เลขาสาวกล้าขัดคำสั่งของเขา
“ขอโทษค่ะบอส” หล่อนละล่ำละลัก
“ไร้มารยาททั้งลูกน้องทั้งเจ้านายเลย...” เสียงหวานบ่นพึมพำ
“มีธุระอะไร!!”
“อะ เอ่อ พนักงานร้านดอกไม้เขาต้องการถามบอสให้ได้ค่ะว่ากุหลาบแดงหมด เปลี่ยนเป็นสีขาวแทนได้ไหม?”
“ไม่ต้อง!! “ เขาตวาด “ออกไปได้แล้ว!!”
ทันทีที่ร่างของเลขาสาวลับตา เปลวเพลิงก็หรี่ตามองเขาอย่างใช้ความคิด
...............
สำหรับคนสวยของผม จาก คี
.........................
หญิงสาวรู้สึกหน้าชา ช่อดอกกุหลาบสีแดงสดที่ส่งไปให้เธอทุกวันเป็นของนายอัคคี!
“คุณคือคนที่ส่งดอกไม้บ้าๆนั่น” หล่อนร้อง “คุณต้องการจะแกล้งฉันใช่ไหม!”
“ผมไปแกล้งอะไรคุณครับคุณเปลวเพลิง” เขาบอก “ผิดด้วยหรอที่ผู้ชายจะส่งดอกไม้ไปให้สาวสวย ในการ์ดนั่นผมก็ลงชื่อผมไปอย่างถูกต้องนี่ครับ”
นายจะเยาะเย้ยฉันหรือ..นายอัคคี!
เพี๊ยะ!! มือเรียวเหวี่ยงกระทบใบหน้าหล่อเหลาอย่างแรง
“สำหรับคนปลิ้นปล้อน!”
“นี่คุณ!”
เพี๊ยะ!!
“สำหรับคนหลอกลวง”
เพี๊ยะ!!
“สำหรับที่ฉันเกลียดขี้หน้าคุณ!”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!”
ไม่ทันที่มือเรียวจะได้ตบหน้าชายหนุ่มเป็นครั้งที่สี่ มือใหญ่ก็รีบฉวยยึดข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้แน่น
“ไม่มีใครกล้าตบหน้าผมได้!”
“ฉันจะถือว่าเป็นคำชมจากคุณก็แล้วกัน...หน้าหนาๆอย่างคุณมันคงจะไม่รู้สึกรู้สาสักเท่าไหร่หรือนะคะ!”
“เปลวเพลิง!!”
“ทำไมคะ จะตบหน้าฉันหรือไง” หล่อนยื่นหน้าไปใกล้เขาอย่างไม่ลดละ “เอาเลยซี่ เค้าจะได้รู้กันว่าผู้ชายอย่างคุณมันน่าตัวเมีย! กล้าแม้กระ--”
ชายหนุ่มไม่ปล่อยใหญ่คนปากกล้าต่อปากต่อคำเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว มือใหญ่ดุจคีมเหล็กกระชากร่างบางตรงหน้าเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้หล่อนขัดขืนได้...
ริมฝีปากร้อนประกบปากที่เขานึกอยากสัมผัสมันอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากของหล่อนอย่างไม่ปราณีหมายจะให้สาสมแกการกระทำที่เป็นการดูถูกเขา
ผู้ชายในโลกก็เหมือนกันหมด ดีแต่ใช้วิธีสกปรก! หญิงสาวนึก ฉันไม่ใช่นังพวกอ่อนแอพวกนั้น ขอให้รู้ไว้ซะด้วย!
ร่างบางขยับใกล้ชิดชายหนุ่ม จนอกอวบอิ่มเบียดเสียดกับแผงอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว หล่อนดูดลิ้นของชายหนุ่มที่แทรกเขามาจนอัคคีรู้สึกวาบหวาม การลงทันต์ในตอนแรกกลับการเป็นความเร่าร้อน หอมหวาน เขากำลังลุ่มหลงไปกับจุมพิตร้ายกาจของหญิงสาว มือใหญ่ที่เคยตรึงยึดข้อมือทั้งสองกลับเผลอปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ เขาลูบไล้ไปบนเรือนร่างน่าหลงใหลทุกสัดส่วนของเธอเยี่ยงเด็กสอดรู้ ขณะที่มือเรียวขยี้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่มจนยุ่งไปหมด ก่อนที่หล่อนจะลูบไล้ใบบนแผ่นหลังแข็งแกร่งไปด้วยกล้ามเนื้อ และไล่ลงมาเรื่อยๆ เรื่อยๆจนกระทั่ง...!
............................
..............
ซ่า า!!
น้ำเย็นจัดถูกเทราดอย่างไม่ปราณี เส้นผมสีน้ำตาเข้มเปียกลู่ใบบนใบหน้าคมคาย ในขณะที่หญิงสาวก้าวถอยห่างอย่างกลัวว่าน้ำเย็นฝีมือหล่อนจะเปียกชุดสวยของหล่อน ใบหน้าสวยมองดูอัคคีที่จ้องหล่อนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อด้วยสายตาเฉยเมยราวกับว่าหล่อนไม่ได้ทำอะไรเลย...
“กล้ามากนะ!”
“ก็พอๆกับคุณนั่นแหละค่ะ...” หล่อนยิ้มหวาน
“ไม่นะ...!” อัคคีถึงกับหน้าถอดสี เมื่อมือเรียวของเปลวเพลิงคว้าแก้วกาแฟร้อนที่เข้าดื่มทิ้งไว้เพียงครึ่ง “อย่านะเปลวเพลิง!”
ซ่า!! กาแฟดำถูกสาดไปที่เป้ากางเกงของชายหนุ่มเต็มๆจนเจ้าตัวเผลอร้องเสียงหลงเพราะความร้อน มือใหญ่กุมเป้ากางเกงไว้มิด พลางมองหล่อนอย่างไม่ไว้วางใจ
“ฉันเห็นคุณดูกระหาย..” หล่อนวางแก้วอย่างจงใจยั่วเขา “...ฉันก็เลยหวังดี อยากจะดับกระหายให้น่ะค่ะ”
“ยายตัวแสบ!!”
ชายหนุ่มจะคว้าร่างบางตรงหน้าที่ทำแสบกับเขามาก หากแต่เปลวเพลิงกลับเบี่ยงตัวหลบอย่างมีชั้นเชิง
“เอาสิคะ ฉันจะได้ร้องให้ลั่นห้องว่าคุณปล้ำฉันจนต้องสาดน้ำใส่เพื่อป้องกันตัว” หล่อนยิ้มอย่างเหนือชั้น “ในเมื่อหลักฐานมันชัดเจนอยู่ขนาดนี้”
อัคคีได้แต่กำหมัดแน่นอย่างสงบสติอารมณ์ ในขณะที่หญิงสาวค่อยๆก้มเก็บกระเป๋ากุชชี่ของหล่อนที่ตกอยู่กับพื้นอย่างใจเย็น
“เห็นทีวันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะค่ะ....” หล่อนยิ้มหวานเจือยาพิษ “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ก็แล้วกันนะคะคุณอัคคี วัฒนากร!”
หล่อนหันหลังให้เขาแล้วก้าวเดินอย่างสบายอารมณ์ พลางฮัมเพลงจนชายหนุ่มนึกหมั่นไส้
“ฝากไว้ก่อนเถอะยายตัวแสบ!!”
“อะไรนะคะฉันฟังไม่ถนัด...”
แก้ไขคำผิดครั้งที่ 1
ความคิดเห็น