คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 : แขกรับเชิญในที่ประชุม
บทที่ 2 : แขกรับเชิญในที่ประชุม
หลังจากงานศพของคุณทรงธรรมเสร็จสิ้นไป คฤหาสน์อัคราธรก็ยังคงดูเคร่งเครียดไม่สร่างด้วยเพราะยังมีนักข่าวที่คอยตามเรื่องการตาย การล้มละลายของคุณทรงธรรม แม้ตำรวจจะสรุปคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตาย คุณราตรี และปลายน้ำเองก็ต้องการความสงบ ไม่ต้องการสืบความต่อ และตอบคำถามนักข่าวเพียงสั้นๆ แต่เปลวเพลิงกลับตรงกันข้าม หล่อนไม่ตอบใดๆนักข่าวเลยนอก จากคุณพ่อถูกโกง คนเลวต้องได้รับกรรม และหล่อนจะเอาทุกอย่างของอัคราธรกลับมา!
“คุณเพลิงคะมีคนส่งดอกไม้มาให้ค่ะ...”
หญิงสาวเลิกคิ้ว “จากใคร...”
หล่อนรับกุหลาบสีแดงสดช่อโตจากมาลิตา
...สำหรับคนสวยของผม จาก คี...
“เอาไปทิ้งด้วยนะลิตา” หล่อนโยนช่อดอกไม้ให้มาลิตาอย่างไม่ยี่หระ “..อ๊อ กำลังจะไปมหา’ลัยหรอ งั้นไปด้วยกันเลยก็แล้วกัน ฉันจะออกไปทำธุระพอดี”
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ คุณเพลิง”
“อ้าวนั่นจะไปไหนจ๊ะหนูเพลิง..” ราตรีเดิมเข้ามาพร้อมปลายน้ำ ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวออกไปนอกประตู
“นั่นสิ ตื่นแต่เช้าเชียวนะ..” ปลายน้ำยิ้ม
“งั้นหนูเอาดอกไม้ไปทิ้งก่อนนะคะ” มาลิตารีบผละออกไปก่อน
“เพลิงจะไปทำธุระนิดๆหน่อยๆค่ะ”
“แต่งตัวสวยแบบนี้พี่คิดว่าเพลิงจะไปสมัครงานซะอีก แต่เอถ้าเพลิงเบื่อๆก็ไปช่วยพี่ที่ร้านก็ได้นะ ยิ่งวันนี้จะมีสินค้าใหม่มาลงด้วยจะได้ไปช่วยกันเลือก”
หึ ยังมีน่ามาชวนฉันอีกหรอ? ร้านเพชรที่มาจากเงินพ่อฉันน่ะนะ!
“ก็ไม่เชิงนักหรอกค่ะ เพราะวันนี้เพลิงก็ว่าจะเข้าไปที่โรงแรมสักหน่อย อย่างน้อยพวกพนักงานจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ...”
“เอ่อ หนูเพลิง...” คุณราตรีสบตากับลูกสาวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ลูกเลี้ยงของหล่อนยังไม่รู้ ราตรีคิดว่าจะปล่อยเรื่องนี้ออกไปสักพัก เพื่อให้เปลวเพลิงทำใจเรื่องพ่อของหล่อนได้ซะก่อน ก่อนที่หล่อนจะต้องมารับกับความจริงบางเรื่องอีก...
“เอ่อ เพลิง...” น้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พลางสบตาราตรี
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หล่อนรู้สึกได้ถึงความกระอักกระอ่วน นัยน์ตาคู่งามหรี่ลง ”มีอะไรที่เพลิงไม่รู้หรือเปล่า”
“เอ่อ เพลิงคือว่า...” ปลายน้ำถูกมือไปมาจนชื้น “พี่ว่าวันนี้เพลิงไปที่ร้านกับพี่ดีกว่านะ”
“ชะใช่ๆจะหนูเพลิงไปกับยายน้ำดีกว่านะ เครื่องเพชรชุดไหมสวยๆทั้งนั้นเลย ไปช่วยยายน้ำเลือกเถอะจ๊ะ”
“งั้นเพลิงจะตามไปทีหลังนะคะ”
“พี่ว่าไปตอนนี้เลยดีกว่า” น้ำยิ้มเจื่อนๆ
หญิงสาวส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ น่ารำคาญชะมัด
“ไม่ค่ะ...” หล่อนกระชากเสียง “เพลิงจะไปโรงแรมของเพลิง เดี๋ยวพนักงานจะเหลิงใหญ่ที่เจ้านายคนใหม่ไม่เข้าไปควบคุมสักที”
“เพลิงคือ....”
“อะไรคะพี่น้ำ ถ้าไม่มีอะไรเพลิงขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวเพลิง...” นัยน์ตาสีดำสนิทเหลิบมองมือของพี่สาวต่างมารดาที่ยึดมือของหล่อนไว้
“เพลิงคือ...” น้ำถอนหายใจ “...ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย ท่านได้ขายหุ้นโรงแรมทั้งหมดไป เพื่อจะนำเงินก้อนนั้นมาใช้หนี้...”
“โรงแรมอัครธรรอลูกอยู่นะจ๊ะเพลิง...เพลิงต้องรีบเรียนให้จบไวๆ แล้วกลับมาทำงาน กลับมาอยู่กับพ่อ และกลับมาดูแลโรงแรมของลูกนะคะคนดี...”
หญิงสาวนิ่งค้าง ราวกับกำลังฟังเรื่องตลกร้ายกาจ
“เพลิงคือ...” น้ำถอนหายใจ “...ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย ท่านได้ขายหุ้นโรงแรมทั้งหมดไป เพื่อจะนำเงินก้อนนั้นมาใช้หนี้...”
ไม่มีทาง...เป็นไปไม่ได้ พ่อไม่เคยบอกฉันสักคำ ไม่มีทาง!!
“โรงแรมอัคราธรนั่นมันของเพลิง!” หล่อนตวาด
“ใจเย็นๆก่อนหนูเพลิง”
“ไม่ค่ะ ทำไมทุกคนไม่ยอมบอกเพลิง!”
“เพลิงพี่ว่า....”
“ทำไมทุกคนทำกับเพลิงแบบนี้ เพลิงกลับมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ไม่มีใครเอ่ยปากสักคำ ทำไมคะ ต้องรอให้เพลิงไปหน้าแตกต่อหน้าพนักงานหรือไง และที่สำคัญ....!!” หล่อนกระทืบเท้า “คุณพ่อสัญญากับเพลิงแล้ว โรงแรมนั่นเป็นของเพลิง!”
“ฟังนะเพลิง ตอนนี้โรงแรมไม่ใช่ของเราแล้ว แต่พี่สัญญาว่าเราจะหาเงินมาซื้อหุ้นคืนทั้งหมดให้ได้”
อะไรที่มันเป็นของฉัน ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้!
“เดี๋ยวเพลิง!” น้ำรีบวิ่ง “เพลิงจะไปไหนเพลิง”
“น้ำอย่าลูก” ราตรีรีบวิ่งมารั้งลูกสาวไว้ “แม่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่ามีอะไรให้บอกหนูเพลิง แล้วเป็นไง เป็นเรื่องจนได้”
“เราจะทำอย่างไรกันดี เรื่องหนี้ที่เหลือน่ะลูก ควรจะบอกหนูเพลิงอย่างไรดี?”
“เราต้องหาทางออกได้แน่จ๊ะแม่ แม่ใจเย็นๆนะเดี๋ยวหนูจะรีบไปตามน้องกลับมาไงคะ”
“ไม่ต้องเลย ตอนนี้ไม่ว่าใครจะพูดอะไรน้องไม่ฟังหรอก ทางทีดีลูกรีบโทรไปบอกคีซะว่าน้องจะเข้าไป...”
“ค่ะแม่...” เธอตอบรับเสียงอ่อน พลางหันหลังให้รถสปอร์ตสีแดงคันหรูเคลื่อน ออกไปด้วยความเร็ว
“อ้าว!” มาลิตาวิ่งหน้าตื่นออกมา “คุณเพลิงรอลิตาด้วย คุณเพลิง!”
“ไม่ทันแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่งก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณผู้หญิง เดี๋ยวหนูไปรถเมล์ได้ค่ะ”
เสียงยางรถสปอร์ตคันหรูบดถนนดังลั่น ก่อนจะจอดลงที่หน้าโรงแรมห้าดาวสุดหรูอันดับต้นๆของประเทศไทย บรรดาแขกและพนักงานต่างหันมามองเป็นตาเดียวทันทีที่รถคันหรูจอดสนิท
“คุณผู้หญิงครับ จอดรถขวางประตูทางเข้าอย่างนี้ไม่ได้นะครับ!” พนักงานต้อนรับรีบกระวีกระวาด มาอธิบาย ก่อนที่เขาจะมีความผิด
กึก!
กุญแจรถถูกขว้างลงกับพื้น จนพนักงานลนลาน
“อยากจอดตรงไหนก็เอาไปไป!”
หญิงสาวก้าวเดินเข้าประตูโรงแรมบานหรูด้วยความรวดเร็ว เสียงรองเท้าส้นสูงปรี๊ดดังกระทบพื้นตามจังหวะการก้าวเดินจนแขกหันมามอง
“สวัสดีค่ะไม่ทราบวะ”
“ห้องผู้บริหารอยู่ชั้นไหน...”
“เอ่อ...”
“ฉันถามว่าห้องผู้บริหารอยู่ชั้นไหน!”
“บะบะบนสุดค่ะ”
“สวัสดีค่ะ” เลขานุการสาวเอ่ยทักทันทีที่เห็นเปลวเพลิงตรงไปหาหล่อน “มาฝึกงานใช่ไหมคะ เชิญหรอกใบสมัครก่อนนะคะ”
“อัคคี วัฒนากรเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ใช่ไหม!”
“เอ่อ ใช่คะ”
“เอ๋ เดี๋ยวสิคะคุณ ห้ามเข้าไปนะคะ บอสสั่งห้ามคนนอกเข้าไปค่ะ โดยเฉพาะตอนที่บอสไม่อยู่”
ใบหน้าสวยจัดจาดหันมามองเลขาที่พยายามห้ามหล่อน “ไปไหน?”
“อะอะเอ่อ”
“ฉันถามว่าไปไหน!”
“ประประชุมค่ะ บอสติดประชุม”
“อ๊ะ คุณจะไปไหนคะ ไม่ได้นะคะคุณ”
เปลวเพลิงไม่สนใจ หล่อนก้าวฉับๆตรงไปยังห้องประชุม โดยไม่สนเสียงร้องห้าม และสายตาของพนักงานที่เริ่มยื่นมองหล่อน
“ไม่ได้นะคะ ขอร้องล่ะค่ะ อย่า”
ผลัวะ !! ประตูห้องประชุมถูกเปิดตามแรงเหวี่ยง
“ขอโทษจริงๆค่ะบอส หนูห้ามแล้วนะคะ แต่คุณผู้หญิงเค้าไม่ฟังค่ะบอส”
ทุกคนในห้องประชุมต่างมีสีหน้ามึนงงไม่ต่างกัน บางคนถึงกับซุบซิบๆกันอย่างไม่เกรงใจประธานของเขาเสียแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาของอัคคีฉายวาบไปด้วยความไม่พอใจ นัยน์ตาสีน้ำตาเข้มคมกริบมองไปยังคนไร้มารยาทที่กล้าทำให้เขาเสียหน้าในที่ประชุม
ดวงหน้าสวยจัดจ้านบึ้งตึง ร่างระหงส์ใส่เดรสสีขาวรับรูปคาดเข็มขัดหนังเส้นใหญ่สีดำยืนเชิดอย่างไม่เกรงใคร “ฉันต้องการพบคุณอัคคี วัฒนากร!” หล่อนกวาดสายตาไปยังเหล่าชายอ้วนสูงวัย
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมขอปิดประชุมเพียงแค่นี้” ร่างสูงใหญ่ยืนขึ้น ก่อนที่คนอื่นๆจะทำตาม พวกเขาก้าวออกจากห้องประชุมไปด้วยความงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปรับตัวไม่ค่อยทัน และมองตรงไปยังผู้หญิงที่เข้ามาใหญ่เป็นตาเดียว
“ฉันต้องการพบคุณอัคคี!” หล่อนกระแทกเสียงเมื่อเห็นเหล่าชายแก่ที่น่าจะเป็นอัคคีในความรู้สึกของหล่อนก้าวออกไป
“บอสคะ..”
“ออกไปก่อนไป..”
ทันทีที่เลขาสาวก้าวออกจากห้อง มือใหญ่ก็ดึงแขนของเปลวเพลิงจนหญิงสาวหันมามองด้วยสายตาไม่พอใจ
“ผมนี่แหละอัคคี วัฒนากร!”
ความคิดเห็น