คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : องค์หญิงสี่กับความฝันอันเรียบง่าย
** เนื้อหาในนิยายแต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน
1
ความฝันในชาตินี้ของข้านั้นเรียบง่าย เพียงใช้ชีวิตไปจนสิ้นอายุขัยก็เพียงพอแล้วกระมัง
ท่ามกลางทิวไผ่ในฤดูวสันต์ช่างหนาวเหน็บแต่ก็งดงามในเวลาเดียวกัน บรรยากาศรอบ ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว จากทารกน้อยในวันนั้น องค์หญิงสี่หรือ หมิงเตียวเสี้ยน บัดนี้อายุได้สามขวบปีแล้ว แก้มกลมขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยอากาศที่เย็นจัด เด็กน้อยชอบหิมะเป็นอย่างมากจึงได้ออกมานั่งชมป่าไผ่ด้านหลังจวนพร้อมเล่นหิมะอยู่เป็นนิจ จิ่วอันและเข่อเจียนางกำนัลทั้งสองห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง
“โถ่ องค์หญิงเพคะ เข้าไปประทับด้านในเถิดนะเพคะ”จิ่วอันพูดขึ้นโดยมีเข่อเจียเสริมทัพตามมา
“อากาศแบบนี้หม่อมฉันกลัวเหลือเกิน ว่าองค์หญิงจะประชวรเอาได้นะเพคะ”
องค์หญิงของพวกนางนั้นเลี้ยงดูง่ายดาย ไม่เคยร้องไห้แม้เพียงสักครั้ง เป็นเด็กพูดน้อย และดูโตกว่าเด็กวัยเดียวกันอยู่มากทางด้านสติปัญญา แลความคิด ในช่วงขวบกว่าที่องค์หญิงน้อยเริ่มพูดคล่อง เนื่องจากเด็กวัยนี้ควรรับสารอาหารเพียงพอ แต่ด้วยเบี้ยหวัดที่ติดตัวมาแต่เดิมก่อนย้ายมายังตำหนักห่างไกลนั้นร่อยหลอลงเรื่อย ๆ แลไม่มีท่าทีว่าทางการหรือราชวงศ์พระองค์ใดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
เด็กวัยขวบครึ่งอย่างพระองค์ จึงไหว้วานให้จิ่วอันและเข่อเจียนำสินที่มีในตำหนักไปขายเสีย เมื่อได้ทุนมาแล้วก็ให้พวกนางซื้อพืชผลมาปลูกไว้ข้างตำหนักโดยทำเป็นแปลงอย่างมีระเบียบ ยิ่งตอกย้ำว่าถึงสติปัญญาของพระองค์ที่เฉียบแหลมตั้งแต่เล็ก ทำให้นางกำนัลสองคนปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ความเป็นอยู่ของพวกนางแม้ไม่ได้ดีมากมายแต่พระองค์ก็ไม่เคยปล่อยให้ความลำบากเข้ามาแผ้วพาน
จะมีก็แต่เรื่องฝึกลมปราณและฝึกยุทธ ในแคว้นเว่ยแห่งราชวงศ์หมิงนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นคนแคว้นเว่ย อย่างไรก็ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ ไม่แบ่งหญิงชาย รวมถึงชาวบ้านธรรมดาก็ต้องมีวรยุทธไว้ติดตัว แคว้นเว่ยนี้ผู้ใดมีกำลังกายมากและมีวรยุทธเก่งกล้า ถือว่าเป็นที่นิยมชมชอบ
ในปัจจุบันแคว้นถูกแบ่งเป็นสี่แคว้นใหญ่ ๆ มี แคว้นเว่ย แคว้นฉิน แคว้นย่ง และแคว้นหยาง
แคว้นที่มีอำนาจมากที่สุดคือ แคว้นย่ง ว่ากันว่าเป็นแคว้นที่ผู้คนมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง มีพลังปราณแข็งแกร่ง รูปร่างสูงใหญ่
แคว้นฉิน นั้น เด่นดังเรื่องโอสถ และบัณฑิต ส่วน แคว้นหยาง น้อยคนนักจะพบคนจากแคว้นนี้ เรียกได้ว่าเป็นแคว้นที่มีแต่ชื่อ ดั่งดินแดนลึกลับ
ไม่เคยมีใครเข้าไปแล้วกลับออกมาเล่าให้ฟัง ว่าด้านในแคว้นนั้นเป็นเช่นไร
แม้ในปัจจุบันนี้แคว้นทั้งหลายจะตั้งตนเป็นพันธมิตรมีโรงเรียนฝึกสอนแตกแยกแต่ละแขนงออกไป ไม่ได้บังคับว่าต้องศึกษาสิ่งที่แคว้นตนเองเด่นแต่วิถีชีวิตเดิมยังถูกยึดโยงไว้อยู่ อีกทั้งองค์หญิงสี่เป็นถึงราชวงศ์ หากจะไร้วรยุทธก็ดูไปจะน่าขัน นี่จึงเป็นเหตุให้สองสาวใช้อย่างพวกนางหมายมั่นว่าจะต้องกรวดเข็นองค์หญิงน้อยทันทีเมื่อถึงเวลาอันสมควร
กลับมาที่ปัจจุบัน ณ ทิวไผ่หลังตำหนักไป๋อวี้
องค์หญิงน้อยนั่งหลังตรงไม่พูดไม่จากับใคร กำลังส่งกระแสจิตคุยกับจิ้งจอกหมื่นปีที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้
“เสี่ยวเฮย เจ้านำมันมาให้ข้ารึไม่” องค์หญิงน้อยส่งคำถามผ่านกระแสจิต
“กระหม่อมมิกล้าลืมหรอกพะยะค่ะ เดี๋ยวกระหม่อมจักนำไปมอบให้ท่านเมื่อตะวันลาฟ้าไป”
“อืม ขอบใจเจ้า” ของที่ว่านั้นเป็นบันทึกเกี่ยวกับแคว้นเว่ยและแคว้นอื่น ๆ ที่ครอบคลุมทั้งประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์
เมื่อเสร็จธุระแล้วนางก็ลุกจากเก้าอี้พระที่นั่งเดินเขาตำหนักทันที จะกล่าวว่าข้าเป็นเด็กหญิงทีชื่นชอบหิมะอย่างนั้นรึ ข้าเพียงแต่อยู่ในตำนักแล้วระคายอารมณ์เพียงเท่านั้น
แม้ว่าตำหนักไป๋อวี้จะเป็นตำหนักที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันสั่งสร้างและควบคุมเอง แต่เมื่อถูกปล่อยปะละเลยมานาน นอกจากความสวยงามภายนอกแล้วก็ล้วนไม่มีข้อดีอันใดอีก ทั้งผนังทรุดโทรม ทั้งรูรั่วที่ทำให้นางลำบากทุกฤดูฝน ล้วนแล้วแต่เกิดจากการทอดทิ้งของคนในวังหลวงทั้งสิ้น สภาพแบบนี้ไม่เหมาะแก่เป็นที่เจริญเติบโตของเด็กอย่างนางแม้แต่น้อย
กระนั้นองค์หญิงน้อยก็ไม่ได้คิดจะซ่อมแซมมัน เพราะยิ่งพวกที่เกลียดนางรู้ว่านางลำบากเท่าไหร่พวกมันก็จะยิ่งไม่สนใจนางเท่านั้น หากแสดงท่าทีสะดวกสบายมีหวังต้องมานั่งรับมือพวกคนชั่วช้าไม่หวาดไม่ไหวเป็นแน่ ปล่อยให้เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว
ข้าขอเพียงกินอิ่ม มีที่ซุกหัวนอนเท่านั้น บอกแล้วอย่างไรเล่า
ความฝันในชาตินี้ของข้านั้น ช่างเรียบง่าย
ความคิดเห็น