คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 [คำใบ้แลกกับจูบ]
2
คำใบ้แลกกับจูบ
ณ สวนแห่งหนึ่ง
หญิงสาวสวมชุดสีฟ้าที่คุ้นตากำลังนั่งอยู่กลางสวน ในมือของเธอมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูเก่าถูกเปิดค้างไว้ กระต่ายตัวน้อยใส่เสื้อสูทวิ่งผ่านเธอไป อลิซลุกขึ้นเพื่อตามไปดูกระต่ายที่ดูแปลกและคุ้นตาเธอมาก กระต่ายตัวจ้อยกระโดดไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งไล่ตามมันอยู่ จนกระทั่งถึงปากโพรงของมันมันกระโจนเข้าไปในโพรงนั้น อลิซถึงกับตาค้างที่เห็นกระต่ายแปลกประหลาดนี้ เธอคอยให้เจ้ากระต่ายตัวจ้อยนั่นออกมาจากโพรง แต่ก็ไม่มีวี่แววเลยเลือกที่จะมุดเข้าไปในโพรงแทน
จากโพรงเล็กๆพอให้กระต่ายตัวจ้อยเข้าไปได้ กลายเป็นอุโมงค์กว้างพอจะให้รถสิบล้อทั้งคันเข้าไปได้ ภายในอุโมงค์เต็มไปด้วยรุปของผู้ชายหน้าตาไม่ซ้ำกันมากมายอยู่ตามผนังอุโมงค์ รากไม้ที่ยื่นออกมาจากผนังทำให้เด็กหญิงร่างบางสะดุดและหล่นลงไปอุโมงค์นี่
ถ้าไม่ใช่เพราะเหวนี้ลึกมากก็แสดงว่าอลิซคงจะตกลงไปอย่างช้า ๆ เพราะขณะที่ ตกลงไปนั้น เธอยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะเหลียวมองไปรอบ ๆ ตอนแรกเธอ พยายามมองลงไปที่ข้างล่างสุด แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะมืดเสียจนมองอะไรไม่เห็น เธอจึงเปลี่ยนมามองที่ด้านข้างและได้พบว่ามีตู้เสื้อผ้า ชั้นหนังสือและรูปผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักเต็มไปหมด บางช่วงก็มีแผนที่กับรูปภาพแขวนอยู่บนขอด้วย อลิซหล่นลงไป หล่น ลงไป ลงไป ลงไปเรื่อย ๆ มันจะมีวันจบสิ้นไหมนะ ! อลิซคิด
" สงสัยจังว่าฉันตกลง มาได้กี่ไมล์แล้วนะ" อลิซอดที่จะพูดออกมาดัง ๆ ไม่ได้
"คงใกล้ถึงกลางโลกแล้วมั้งเนี่ย ขอคิดเดี๋ยวนะ....ฉันว่าคงสักสี่พัน ไมล์ ได้ละมั้งนี่....ใช่คงจะลึกราว ๆ นั้นแหละนะ...แต่ เอ๊ะ นี่ฉันจะร่วงผ่านไปถึงโลกอีก ซีกหนึ่งเลย หรือเปล่า ! ถ้าไปโผล่ที่นั่นแล้วไปเจอคนเดินกลับหัวคงตลกดี ! เขา เรียกว่าประเทศที่อยู่ด้านปรปักษ์กันของโลกไง"
...อลิซยังคงหล่นลงไป ลงไป ลงไปเรื่อย ๆ และเมื่อไม่มีอะไรให้ทำเธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเคลิ้มหลับ เธอจึง เอื้อมมือไปคว้าหวีกับกระจกส่องหน้ามาได้
" แหมพอดีเลย กำลังว่างอยู่ทีเดียว ถ้าจะได้เจอคน หลาย ๆ ประเทศ แล้วละก็ ก็ต้องหวีผมเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อนนะ เพราะเดี๋ยวจะต้องไปอายขายหน้าเขา ด้วยผมที่ยุ่ง ๆนี่น่ะสิ ! "
หญิงสาวใน ชุดสีฟ้าที่เข้ามาปรากฏตัวอยู่ในหนังสือที่ผิดเล่มตกลงบนกองใบไม้แห้งภายในห้องโถงที่สูงใหญ่ เธอเดินวนไปรอบๆห้องโถงนั้น ห้องโถงนี้ถูกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีชมพูดสลับเหลือง พื้นถูกวางด้วยพรมหนาๆ และมีประตูเรียงเป็นแถบอยู่เบื้องหน้าของหญิงสาว
[ Alice Talk :]
หลังจากที่ฉันตกลงมาบนกองไม้แห้งทำให้ฉันไม่เจ็บมาก ใจกลางห้องโถงมีโต๊ะตัวใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องบนโต๊ะมีขวดแก้วใส่ของเหลวใสสีฟ้าเหมือนกันทั้งสองขวด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนักเพราะสิ่งที่น่าสนใจคือนายกระต่ายตรงหน้าฉันต่างหาก!!
“นายกระต่าย!!” ฉันเรียกกระต่ายตัวจ้อยที่วิ่งผ่านหน้าฉันไปตอนนั้น ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ที่มีใบหน้าหล่อเหลา โดยใบหน้าที่แสนสมบูรณ์นี้ประกอบไปด้วยตาสีแดง จมุกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากสีชมพูดั่งกลีบกุหลาบที่เข้ารับกันได้อย่างดี
“สามสิบนาที อืม...ช้าไปนิดนึงแต่ก็ใช้ได้” นายกระต่ายหยิบนาฬิกาในมือของตัวเองมาดูแล้วบ่นพึมพำในเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจ
“ที่นี่ที่ไหน? แล้วนายพาฉันมาทำไม?? ฉันจะออกไปได้ยังไง???” ฉันยิงคำถามใส่นายกระต่ายสุดหล่อนี่ไม่ยั้ง เขาพยักหน้านิดๆเชิงว่ารับรู้คำถามของฉันแต่ไม่ยอมตอบสักคำถาม
“ แกร๊ก! ” นายกระต่ายหล่อเดินไปหยิบขวดแก้วที่มีของเหลวใสสีฟ้าอยู่ข้างในมาเปิดฝาออกแล้วดื่มมันเข้าไปในปาก
“นี่!! นายกินเข้าไปได้ยังไงน่ะ!มันอันตรายรึเปล่าก็ไม่รู้นะ!!” ฉันปรี่เข้าไปหาเขาแล้วรีบดึงขวดแก้วนี่ออกจากมือของนายกระต่ายแต่ก็ไม่ทันเพราะเขาดื่มมันไปหมดแล้ว! แต่จู่ๆนายกระต่ายนี่ก็เขยิบเข้ามาหาฉัน มือที่เรียวยาวข้างซ้ายของเขาโอบรอบเอวบางของฉันที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตก มืออีกข้างที่เคยถือขวดแก้วไว้เปลี่ยนมาเชิดคางฉันขึ้นช้าๆ ริมฝีปากบางเฉียบนั่นประกบเข้ากับริมฝีปากของฉัน ของเหลวใสที่ฉันคิดว่าเขากินไปก่อนหน้านี้ค่อยๆถูกยัดเยียดให้ปากฉันด้วยลิ้นของเขา นายกระต่ายไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสขัดขืนได้เลย เขารัดร่างของฉันให้ใกล้กับเขาเพื่อให้การมอบของเหลวใสนี่เป็นไปได้ง่ายขึ้น ริมฝีปกที่ควรจะเย็นชืดเพราะของเหลวเย็นๆนี่กลับอุ่นแสนอุ่น ยิ่งเมื่อริมฝีปากของเราประกบกันทำให้ข้างในใจมันเร่าร้อนไปหมด เขาให้ความอบอุ่นฉันเต็มที่ พอเขารับรสหวานจากริมฝีปากฉันนานจนหนำใจแล้วก็เอื้อมมือไปปิดฝาขวดแก้ว แล้วผละออกจากฉัน ความเย็นของของเหลวไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกเย็นลำคอขึ้นมาแม้แต่น้อยเพราะริมฝีปากอุ่นๆนั่นของเขา นายกระต่ายหน้าหล่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเก็บขวดแก้วอีกขวกใส่กระเป๋าแล้วเดินจูงมือฉันไปที่ประตูบานแรก
“เพี๊ยะ!!” ฉันตีหลังนายกระต่ายจอมเจ้าเล่ห์นี่แรงๆ ที่บังอาจมาขโมยจูบแรกของสาวแสนสวยไร้เดียงสาที่หลงเล่มมาอย่างบังเอิญอย่างนี้!!!
“โอ๊ย!! ฉันเจ็บนะ เบาๆหน่อยเซ่!! ” นายกระต่ายหน้าหล่อหันมาโวยใส่ฉันที่กำลังหมั่นไส้เขาอยู่เต็มประดา
“ใครใช้ให้นายลวนลามฉันฮะ!!” ฉันเบ้ปากใส่เขาที่กำลังทำท่าจะขย้ำหัวฉันเข้าไปกิน
“แล้วเธอคิดว่ามันคุ้มกับกระดาษคำใบ้นี่มั้ยล่ะ?”
ฉันมองนายกระต่ายที่ยื่นกระดาษใบเล็กๆให้ฉันดู ‘ จงเดินตามหาประตูแห่งแสงสว่าง ’ งั้นเหรอ? นี่ฉันหลงเข้ามาในหนังสือนะไม่ใช่การ์ตูนโคนันซะหน่อย = =”
“แล้วทำไมเราต้องมาเก็บไ อ้กระดาษบ้าๆนี่ด้วยเล่า!!”
“แล้วเธออยากกลับไปหนังสือเล่มเดิมมั้ยล่ะฮะ!!!” ตากระต่ายตะคอกใส่หน้าฉันเสียงดัง อั้ยหยา!
น้ำลายฝอยมาเต็มๆ T^T
“อยากกลับสิ!!ว่าแต่.... นายรู้เรื่องที่ฉันมาจากอีกเล่มได้ไงอะ!!” ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างเร็วแต่คงจะหันองศามากไปหน่อยทำให้จมูกฉันกับเขาใกล้กันมากจนทำให้ลมหายใจของเขาเป่ารดจมูกของฉันอยู่เป็นพักๆ
- / / / - ให้ตายสิ! สโลแกนฉันคือเด็กสาวไร้เดียงสานะ!! TOT
“ฉันก็โดนมาเหมือนกับเธอนั่นแหละ! แค่มากกว่าตรงที่ฉันต้องพาเธอเข้ามาในห้องโถงแล้วจูบกับเธอเพื่อแลกกับคำใบ้ตามกระดาษที่ฉันได้มาตอนแรกนั่น แล้วก็...เลิกลวนลามฉันซักที” นายกระต่ายมองหน้าฉันที่ห่างกับใบหน้าของเขาไม่ถึงคืบ ทำให้ฉันที่หน้าแดงเป็นลูกเงาะ(?)อยู่ก่อนแล้วใจเต้นไม่เป้นจังหวะเลยต้องรีบหันหน้ากลับ
“เอาไปซะ”นายกระต่ายยื่น(ยัดเยียด)ลูกแก้วสีฟ้าลูกเล็ๆให้แก่ฉัน เมื่อลูกแก้วโดนมือร่างกายของฉันอก็เกิดแสงสว่างวาบจากหญิงสาวชุดกระโปรงสีฟ้ากลายเป็นกางเกงสีฟ้าสะอาด เสื้อสีฟ้าส่วนบนถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อสูทผูกด้วยโบว์สีขาว ผมสีบลอนด์ทองถูกผูกด้วยโบว์เส้นเล็กๆที่ทำจากด้ายหลายๆเส้นมาถักรวมกัน ไม้เท้าอันเล็กๆกับหมวกสีฟ้าถูกวางลงตรงหน้าเธอ
ฉันที่กลายเป็นหนุ่มน้อยน่ารักค่อยๆเดินออกจากห้องโถง ผ่านประตูทีละบานๆ ประตูทุกบานถูกทำจากกระจกแต่ถูกปิดล็อกแต่ก็เผยให้เห็นทุกอย่างในประตูแต่ละบาน ประตูบานแรกมีคู่หญิงชายสองคนกำลังนั่งเล่นไพ่กันอย่างเมามันส์อยู่หลังประตู ฉันมองอย่างงงๆกับเนื้อเรื่องของหนังสือที่หลงมาเล่มนี้ ฉันและนายกระต่ายหน้าหล่อเดินต่อไปที่ประตูบานที่สอง เบื้องหน้าของฉันคือพื้นดิ้นกว้างๆ ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณมากมายหลากสีสัน สัตว์น้อยใหญ่พากันมากินน้ำในลำธารที่อยู่หลังประตูบานนี่
มันน่าเข้าไปเหลือเกิน >< .... แต่ในเมื่อประตูถูกล็อกก็ต้องหากุญแจมาไข ก่อนที่ฉันจะโดนนาย
กระต่ายเดินหน้าต่อไปเพื่อหากุญแจมาไขประตูบานนั้น ฉันก็เห็นข้อความที่ประตูที่มีกระดาษติดไว้ว่า ‘กุญแจของเวนิสคือทางออก ’
“นี่ นายดูนั่นสิ” ฉันดึงแขนเสื้อของนายกระต่ายให้หยุดดูแผนป้ายเล็กๆที่มีข้อความแปลกๆ
“เจ๋งดีนี่คำใบ้สมัยนี้ รีบๆเดินสิยัยเตี้ย” นายกระต่ายบ่นพึมพำตามเดิมแล้วหันมาเร่งฉันที่แทบจะต้องวิ่งตามเขามากกว่าเดิน
“แกร๊ก”
นายกระต่ายเปิดประตูบานสุดท้ายออกอย่างไม่ตื่นเต้นสักนิด ราวกับเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าประตูบานนี้ไม่ได้ล็อก เขาเดินอุ่ยๆโดยไม่สนใจฉันที่อุตสาห์เสียสละจูบเพื่อแลกกับคำใบ้สักนิด ฮึ่ย!!
สองข้างทางที่ฉันกับเขาเดินผ่านเต็มไปด้วยพวกคนที่ใส่ชุดแปลกๆ -0- ใส่เป็นชุดไพ่บ้างล่ะ ชุดหนอนบ้างล่ะ ชุดผีเสื้อบ้างล่ะ นี่มันวันคอสเพลย์แห่งชาติรึไงกัน = =^
“โอ๊ย!!” ฉันร้องโอยออกมาดังๆแล้วลูบหัวป้อยๆ
“ตาบ้า!! นี่นายหยุดทำไมเนี่ย!!”
“ถึงที่พักแล้วเธอจะไม่พักรึไง - -“ เขาส่ายหัวอย่างระอาให้กับฉันที่ดูเป็นคนปัญญาอ่อนในสายตาของเขามาก
ไม่ทันที่จะได้ว่าเขาต่อ นายกระต่ายก็เดินดุ่มๆเข้าบ้านพักไปฉันที่ดูเป้นคนเอ๋อที่ไม่เคยเข้าเมืองบ้าๆบอๆนี้มาก่อนจึงมีทางเลือกเดียวคือเดินตามเขาเข้าไป - -‘
“กรุ๊งกริ๊ง!”
เสียงกระดิ่งที่ถูกติดไว้กับบานประตูดังขึ้นเมื่อฉันเปิดประตูเข้ามา บ้านหลังนี้เป็นบ้านสีเขียวที่ดูเหมือนจะถูกทำจากเถาวัลย์มาผูกกันแน่นๆแล้ววางทับๆกันเป็นชั้น โอ้วพระเจ้า!นี่มันดินแดนบ้าๆบอๆจริงๆเลย
“ สวัสดีครับ สาวน้อยJ” บรรดาหนุ่มๆสองสามคนที่แสนจะหล่อแต่ยิ้มแสนจะร้ายส่งเสียงทักฉันที่ดูเหมือนจะกลายเป็น ... “ ลูกหมาน้อยๆของพวกหมาป่า!!! “ ให้ตายเถอะ!ชีวิตสาวน้อยแสนสวยอย่างฉันหนีพวกผู้ชายร้ายกาจไม่พ้นจริงๆสินะ !!!
.. To Be Contien ..
ความคิดเห็น