คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : วังวนที่ 2
รักคือ...
ความหวัง
กำลังใจ
เเละ...
ศรัทธาในกันและกัน
~…Love is… Project…~
--วังวนที่ 2--
Love is… Fiction
‘ยองแจอา... เชื่อฉันสิ แดฮยอนไม่จริงใจหรอก เลิกซะ!’
ไม่ใช่ไม่อยากรับฟัง แต่ยองแจกำลังหวัง... หวังว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดความจริง ‘จองแดฮยอนเป็นของยูยองแจ’ คำพูดแค่นั้นมันไม่พอก็จริง แต่ยองแจเองที่เป็นฝ่ายตัดสินว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ และแน่นอนว่ายองแจเชื่อมั่นสุดหัวใจ
‘ผู้ชายเจ้าชู้อย่างนั้น มันไม่ได้มีแค่แกคนเดียวหรอก!’
ไม่ว่าจะกี่คำทักท้วงแต่ยองแจก็ยังนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ถึงแม้จะเก็บมาใส่ใจอยู่บ้าง แค่ไม่หลงระเริงจนเพื่อนเอือมระอา และไม่ได้ทำตัวเฉยชาจนเพื่อนๆ เลิกคบ เพื่อนกับแฟนเส้นกั้นมันอยู่ตรงไหนยองแจรู้
‘มึงจะรู้ได้ยังว่าตอนนี้มันไม่ได้กกผู้หญิงคนอื่นอยู่?’
ไม่รู้หรอก... เส้นกั้นระหว่างคนรัก กับ คนรัก อยู่ตรงไหนยองแจก็รู้เช่นกัน ไม่ก้าวก่ายจนเกินไป เจอกันบ้างเวลาที่อีกคนว่าง และแน่นอน... ตอนนี้ยองแจกำลังสับสนกับคำพูดมากมายที่กรอกหูอยู่ทุกวัน จองแดฮยอนไว้ใจได้แค่ไหนกันเชียว
เหมือนจะเจ็บปวด...
“รักฮยองนะ”
เพราะรัก
ยองแจตกหลุมรักผู้ชายคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ทำได้แค่ภาวนาว่าวันนี้และวันต่อๆ ไป ขอให้ความรักของเราสองยังคงสวยงาม ก็แค่หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น
(...วันนี้จะไปรับนะ...)
“ครับ”
หวังว่ามันจะสวยงามดั่งในนิยาย ถึงจุดจบจะมีหลายแบบแตกต่างกันออกไป แต่ในเวลานี้ขอดื่มด่ำกับความสุขให้มากที่สุดจะได้หรือไม่... ค่อยๆ เตรียมใจที่จะเจ็บ
“ผัวจะมารับหรือไง? ยิ้มหน้าบานเชียว”
“อือ...”
เพื่อนมีหลายแบบ บางคนพูดเพราะ บางคนเป็นขวานฝ่าซาก แต่เพื่อนคนนี้แม่ง... อิมแจบอม ไม่เคยมีโมเม้นท์อ่อนหวานแบบเพื่อนคนอื่นๆ เลยซักนิด
“มึงมั่นใจนะยองแจ ถอยออกมาตอนนี้ยังทันนะ”
“ไม่... ไม่ทัน”
ตอนนี้อะไรก็ไม่ทันทั้งนั้น ยองแจส่งหัวใจให้มันเดินถลำลึกเข้าไปจนมองไม่เห็นหนทางที่จะเดินกลับ จองแดฮยอนเจ้าชู้แล้วไง?
“กูคบกับแดฮยอนมาจนจะครบปีแล้วนะ มึงเคยเห็นกูทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้หญิงรึเปล่า?”
“ก็.... ไม่เคย”
บางทีแดฮยอนอาจจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แต่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะยองแจอย่างนั้นน่ะหรอ?
“แต่มึงเป็นผู้ชาย... มึงคิดตอนจบของนิยายเรื่องนี้ไว้รึยังล่ะ?”
“ก็แค่แยกทาง... แต่ตอนนี้กูยังเดินบนทางเส้นนี้ได้อยู่”
ยองแจรู้ว่าตอนจบของปลายทางที่มืดมนนั้นคืออะไร ทางแยกที่ต่างคนต่างต้องไป ถึงเวลานั้นค่อยล่อเลี้ยงหัวใจที่แห้งเฉาเอาเองก็แล้วกัน
“ถึงเวลานั้นมึงอย่าทิ้งกูไปล่ะ อยู่เป็นเพื่อนร่วมทางของกูด้วย...”
“ไอ้ห่า... กูขนลุก!!! เพื่อนร่วมทางเหี้ยอะไรวะ!”
อิมแจบอมดันใบหน้ากรุ่มกริ่มของยองแจออก ขนลุกไปทั้งตัวตอนที่เพื่อนตัวดียื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมทั้งยังทำสายตาหวานหยดย้อยอย่างนั้น
“กูล้อเล่น!! คิดอะไรกับกูก็บอก อย่าทำเป็นเขิน ฮ่าๆๆๆ”
“เขินพ่อมึ_สิ ไปเลย ผัวมารับแล้ว ไป!!”
แจบอมชี้นิ้วไปทางรถยนต์คันหรูพร้อมทั้งเอ่ยปากไล่ ใบหน้าแดงขึ้นมาเป็นเถือก ยกมือกุมหัวใจที่เต้นระรัวตอนที่ยองแจวิ่งห่างออกไป ดวงตาแดงกล่ำเอ่อน้ำใสบริสุทธิ์ ใบหน้าโศกเศร้าอย่างไม่ปิดบัง ยองแจไม่เห็นแล้ว... ความอาลัยอาวรณ์จากแววตาหมองหม่นคู่นี้
“คิดสิ... กูเองก็รักมึง ยูยองแจ...”
น้ำเสียงแผ่วเบาลอยหายไปกับสายลม มองรอยยิ้มสดใสของเพื่อนผ่านม่านน้ำตา ยองแจกำลังมีความสุขกับเส้นทางที่ตัวเองเลือก แจบอมกำลังมีความสุขกับรอยยิ้มของยองแจ แต่มันเศร้าเหลือเกินเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของจองแดฮยอน ที่ตรงนั้น... แจบอมอย่างอยู่ที่ตรงนั้น...
ที่รักของยองแจ...
..............................................................
อาหารของร้านประจำถูกเสิร์ฟวางจนเต็มโต๊ะ เป็นความเคยตัวของแดฮยอนไปซะแล้วที่จะต้องสั่งเมนูมาเยอะขนาดนี้ ต่างคนต่างจัดการอาหารของตัวเองไป วันนี้ยองแจเงียบผิดปกติ เงียบจนแดฮยอนต้องเอ่ยปากถาม
“ยองแจเป็นอะไร? ยิ้มให้ฮยองหน่อยสิ”
แดฮยอนไม่สบายใจเลย ยองแจยิ้มน้อย ใบหน้าหวานส่อแววกังวล กลุ้มใจ... ยองแจกำลังกลุ้มใจกับเรื่องบางอย่าง
“จองแดฮยอนเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ... ใช่รึเปล่าครับ?”
รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม แดฮยอนเอื้อมมือไปลูบหัวคนที่นั่งอยู่อีกฝากของโต๊ะ จากที่เรียนรู้นิสัยของกันและกันมาเกือบหนึ่งปี ยองแจไม่ใช่คนคิดมาก แต่สงสัยว่าวันนี้เด็กน้อยของเขาจะโดนเป่าหูมาเยอะพอดู
“จองแดฮยอนเป็นของยูยองแจ”
“ผมกลัว...”
ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยปกปิดความรู้สึกได้เลย แต่มันก็เป็นข้อดีเพราะอีกคนจะได้รู้
“ยองแจกลัวอะไร?”
“กลัวความเจ็บปวด”
ไม่ใช่เด็กน้อยด้อยเดียงสา แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมามันทำให้ยองแจรู้ว่ารักเป็นยังไง ผู้คนที่เคยคบหากันมาบางคนก็เคยได้หัวใจของยองแจไปครอง แต่มันไม่เหมือนกัน นั่นมันก็แค่ความรักเพียงชั่วครั้งคราว แต่กับแดฮยอนมันคือความรักบวกกับความผูกพัน มั่นใจได้เลย ยองแจเจ็บปวดหากต้องเลิกรา
“ฮยองก็กลัว...”
“?!”
แดฮยอนละความสนใจจากอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ร่างใหญ่ย้ายตัวเองมานั่งอยู่ข้างๆ ยองแจ โซฟาตัวนุ่มพนักสูงมิดหัวรองรับร่างของคนทั้งสอง แดฮยอนวาดลำแขนโอบไหล่ยองแจเอาไว้แล้วดันหัวถุยๆ ให้ซบลงตรงลาดไหล่ของตัวเอง นิ้วเรียวเกลี่ยเรือนผมหนานุ่มอย่างเพลิดเพลิน
“กลัวความเจ็บปวด...”
ฝังปลายจมูกโด่งเข้าไปในกลุ่มผมสูดดมความหอมจนเต็มปอด
“แต่ตอนนี้ยองแจเชื่อใจฮยองได้มั้ย จองแดฮยอนมีแค่ยูยองแจคนเดียว”
ยองแจเงยหน้าขึ้นมาสบกับสายตาหนักแน่น ใบหน้าหวานพยักขึ้นลงพร้อมกับริมฝีปากที่แย้มยิ้ม กำลังใจคือสิ่งสำคัญสำหรับความรัก คำพูดและรอยยิ้มของแดฮยอนก็คือกำลังใจของยองแจ แม้ไม่มีอะไรมารับประกันแต่หัวใจมันเชื่อฟังโดยไม่มีเหตุผล จุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปาก โอบกอดร่างหอมหวานเอาไว้เต็มรัก
ทางเดินจะเต็มไปด้วยคำถากถางก็ไม่หวั่น แค่คุณกอดผมไว้ก็พอ...
ที่รัก
........................................................
(...อยู่บ้านคนเดียวอีกแล้วหรอ บ่อยไปแล้วนะช่วงนี้...)
“ก็แม่ต้องไปพบลูกค้าอ่ะ พ่อไม่อยากให้ไปคนเดียว”
(...แต่ยองแจต้องอยู่บ้านคนเดียว...)
“ไม่เป็นไร ผมเป็นผู้ชาย”
(...ยองแจเป็นผู้หญิงของฮยอง...)
“ฮึ~”
ปลายนิ้วขีดเขียนลายเส้นต่างๆ ลงไปบนกระจกหน้าต่างที่มีไอความเย็นเกาะอยู่ ปากอิ่มแย้มยิ้มกับคำพูดเอาแต่ใจ ‘ผู้หญิงของฮยอง’ ปลายสายยังคงบ่นไม่หยุดตามประสาคนเริ่มมีอายุ... เอ่อ... อายุย่างเข้าเลขสามนั่นแหละ
(...มานอนกับฮยอง...)
“ฮยองนิม~ ผมโตแล้ว”
(...เก็บของซะ จะไปรับเดี๋ยวนี้แหละ...)
“ห๊ะ? เดี๋ยว! ฮยอง ฮยอง!”
ไม่ทันซะแล้วก็ปลายสายรีบจบการสนทนาด้วยการตัดสายไปซะดื้อๆ ยองแจลุกจากเก้าอี้ข้างหน้าต่างไปเก็บหนังสือเรียนวิชาต่างๆ ลงกระเป๋า ส่วนเสื้อผ้า... ไม่ต้องเอาไปหรอกที่นู้นมีเยอะแล้ว
“เอาแต่ใจอ่ะ เฮ้อ~”
เดินตรวจเช็คความเรียบร้อยจนรอบบ้านก่อนจะจัดการล็อกประตูรั้วเป็นอย่างสุดท้าย ร่างแบบบางในชุดนอนขายาวทิ้งตัวลงบนม้านั่งหน้าบ้าน ถอดรองเท้าแตะยกขาขึ้นนั่งชันเข่ากอดกระเป๋าหนังสือเอาไว้ ลืมเอาเสื้อคลุมออกมาซะได้แต่ก็ช่างเถอะ ขี้เกียจเกินไปที่จะเปิดประตูเข้าไปเอา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นฆ่าเวลา ขยับตัวบ้างเวลาที่มียุงบินมาเกาะแขนเกาะขา
“ไอ้ตัวดี ออกมารอนอกบ้านทำไม?”
ยองแจสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงตำหนิ เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหยๆ ไปให้ ทำไมต้องหัวเสียขนาดนั้น ตอนนี้มันก็แค่สี่ทุ่มเอง
“ไม่ต้องมายิ้ม”
“ฮยองนิม~”
ไม่รู้หรอกว่าแดฮยอนมายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไร มัวแต่สนใจอีคุกกี้ที่วิ่งปรู๊ดปร๊าดอยู่ในโทรศัพท์จนลืมสนใจสิ่งรอบข้างไป ยองแจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าซุกเท้าใส่อีแตะลุกขึ้นยืนตัวตรงราวกับลูกเสือสามัญรอรับการลงโทษ
“หนาวมั้ย?”
“อือ...”
กระเป๋าหนังสือถูกแดฮยอนแย่งไปถือก่อนที่อีกคนจะวาดแขนขึ้นโอบไหล่กระชับร่างของยองแจเข้าไปใกล้ชิด เท้าสองคู่เดินเคียงข้างกันไปอย่างไม่เร่งรีบ ลมหายที่เย็นเฉียบเริ่มอุ่นขึ้นเมื่อตกอยู่ในอ้อมกอด แดฮยอนไม่ได้ดุเพราะความโกรธ แต่เพราะเป็นห่วงยองแจต่างหาก
“หายหนาวรึยัง?”
“อือ...”
แผ่นหลังแนบชิดกับตัวรถ ริมฝีปากบดเบียดส่งมอบไออุ่น ยองแจยกแขนขึ้นคล้องคอคนตัวใหญ่เอาไว้ นิ้วเรียวสางเข้าไปในกลุ่มผมสีสว่าง แขนแกร่งรั้งร่างยองแจเข้ามาแนบชิดลำตัว ใบหน้าปรับองศาลิ้นร้อนเกี่ยวพันจนแทบจะเป็นปม ความโจ่งแจ้งคืออะไรนับวันยองแจแทบจะไม่รู้จัก
“รัก...”
แผ่วเบาแนบริมฝีปาก กายบางอ่อนเปลี้ยทุกคราที่ได้ฟัง ‘รัก’ ไม่ลืมที่จะตอบกลับไปให้อีกคนได้ชื่นใจ ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งดื่มดำอย่างไม่รู้จักพอ เสพย์ติดคำว่ารักจนเลิกไม่ได้ คงลงแดงตายหากความรักนี้หายไป...
“ยอโบ~”
รัก...
...........................................................
ขอให้ความรักของเรายาวนานกว่าชีวิต
ขอให้ความสุขมีมากกว่าความเจ็บปวด
แม้ลมหายใจจะหมดลงแต่รักยังสลักอยู่ใจ
ขอให้ผมได้เป็นคนของคุณตลอดไป
ความรักของคุณ
“ฮยองนิม~”
กอดผมเอาไว้จนกว่าร่างกายจะมลายสิ้น
“รัก...”
บอกรักผมจนกว่าโสตประสาทของผมจะดับไป
“อื้ม...”
จูบผมเถอะนะ อย่าให้ริมฝีปากนี้ต้องแห้งผาก
“แดฮยอนอา”
มองตาผมสิ ข้างในนี้มันมีแค่คุณ
สวยงาม เพ้อฝันราวกับอยู่ในโลกแห่งนิยาย เรื่องราวที่มีเพียงเราสองคน รัก... ปรารถนาให้มั่นคงอยู่อย่างนั้น รักตลอดไป... มั่นคงกว่าสิ่งใดบนโลกใบนี้
“ผมเป็นของคุณ... รักคุณ”
น้ำเสียงแหบพร่าสั่นไหวยามเรือนร่างถูกกระทบ ดวงตาทอประกายสุขล้นจนปิดไม่มิด ริมฝีปากระบายลมหายใจอุ่น เรือนกายเสียวสะท้านเมื่อถูกจับต้อง แว่วเสียงครางสุขสมมีมนต์สะกดคล้ายกับเสียงเพลง
“แดฮยอนอา...”
วังวนที่ดูดกลืนความรู้สึกทุกอย่างให้ดำดิ่งลงไป ความรักอยู่ในวังวนนี้ ความสุขอยู่ตรงนี้ แม้แต่ความเจ็บปวดก็เช่นกัน มันอยู่ในนี้ ออกไปไม่ได้ ต่อต้านไม่ไหว เพียงแค่ปล่อยตัวและหัวใจให้คล้อยตามได้กับความรักที่ไหลกราด อารมณ์เชี่ยวราวกับสายน้ำดึงดูดทุกๆ อย่างให้ดำดิ่งลงลึกสุดใจ
ความศรัทธา...
“เชื่อฮยอง... ยอโบ~”
“ช.. เชื่อ อื่อ...”
ปลายนิ้วลากไล้สัมผัส กายบางตอบรับอย่างเคลิบเคลิ้ม ไม่มีแดฮยอน ไม่มียองแจ ตอนนี้มีเพียงกันและกัน ทุกอย่างเป็นหนึ่งเดียว
“บอกรักหน่อยสิ... คนดี”
น้ำเสียงกระเส่ากระซิบข้างใบหู สะโพกมนถูกยกขึ้นสูงจนแทบจะไม่ติดกับเตียง เอ่ยออกมายากเหลือเกินคำว่ารัก แรงรักถี่กระชั้นทำให้เส้นเสียงไม่คงที่ แค่จะพูดกลับกลายเป็นเสียงครวญคราง
“อื่อ... รัก... ด... แดฮยอนน อ๊า~”
แขนสองข้างถูกยกให้คล้องไว้กับลำคอ เรียวขาเกี่ยวรัดรอบเอว มือหนาสอดประคองอยู่ใต้แผ่นหลัง เรือนร่างขาวเนียนแอ่นสะโพกรับแรงอารมณ์ที่หนักหน่วงเมื่อคำว่ารักสิ้นสุดลง
“ร.. รัก...”
ต้องการจะโหมไฟหรืออย่างไร ยิ่งบอกรักมากเท่าไรสติก็ยิ่งจะขาดสะบั้น อยากจะปิดกั้นริมฝีปากนั้นซะแต่เสียงหวานที่แว่วออกมาทำให้ตัดใจไม่ลง ยังคงอยากได้ยิน...
“ฮะ.. ฮยอง อ๊า~ รัก... นะ”
“ย.. ยองแจ อึก~”
เหงื่อกาฬเปียกชื้นไปทั่วร่าง ที่นอนเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ ความชื้นแฉะทำให้อยากจะฉุดความต้องการให้หลุดพ้นซักที เสียงกรีดร้องหลุดออกจากริมฝีปากเมื่อคราที่คนบนร่างสาดเทแรงอารมณ์ถี่ระรัว ไม่ไหวแล้ว ยองแจเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ช้า... ช้ากว่านี้....
“มะ... ไม่!! อ๊ะๆ ช้า... อึก... เบา.. เบากว่านี้!”
ดังเสียงคำรามของราชสี วงแขนเกี่ยวรัดร่างยองแจราวกับงูตัวใหญ่ ทำได้แค่ร้องห้ามพรางขยุ้มเส้นผมของแดฮยอนจนแน่นตึง ทำไมบทรักอ่อนหวานมันถึงกลายเป็นดุเดือดไปได้
“เบาสิ...”
ขอร้อง...
แดฮยอนผ่อนแรงราวกับเป็นคนละคน สายตาคมจ้องมองอย่าสำนึกผิด เกือบแล้ว แดฮยอนเกือบจะกลายเป็นหมาป่าเพียงแค่เห็นเหยื่อที่เย้ายวน เมื่อกี้ยองแจไม่รู้ตัวรึไงว่าตัวเองยั่วขนาดไหน
“ขอโทษ...”
“อือ... ที่รัก~”
อีกแล้ว... เพราะอย่างนี้ไงแดฮยอนถึงได้กระหาย ริมฝีปากอิ่มไม่ว่าจะเอ่ยคำใดออกมาก็ดูยั่วเย้าไปซะหมด อย่ามากกว่านี้อีกเลย สติของแดฮยอนจะขาดผึ่งอยู่แล้ว
เมามัวจนเสพย์ติด
วังวนรักดูดกลืนทุกสิ่งอย่าง
รวดเร็วและรุนแรงจนไม่ทันได้ตั้งตัว
ยูยองแจ...
วังวนของแดฮยอน
จองแดฮยอน...
วังวนของยองแจ
.............................................................
ขอให้รักมั่นคง
เชื่อในตัวผมนะ... ที่รัก
พระเอกนิยายหรอ... แดฮยอนไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นหรอกนะ ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่เพิ่งรู้จักกับความรัก ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยอมทิ้งสันดารเก่าๆ เพราะความรักที่อยู่ตรงหน้า ก็แค่คนๆ หนึ่งที่รัก ยูยองแจ
(...ถ้าวันนี้มึงไม่มาเราขาดกัน!!...)
“ขาดกับมึงมรดกกูก็คงไม่ได้ซักบาทสินะ”
(...ตลกหรอ? กูจริงจังนะ ถ้ามึงไม่มากูจะพาแพะภูเขาไปเฉาะหัวมึง...)
“พามาสิ กูจะต่อยให้ฟันแม่งร่วงหมดปาก”
ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเซเลปหรอกนะ ถึงขนาดให้เพื่อนโทรมาเว้าวอน ขอร้องให้ออกไปปาร์ตี้ ไม่ใช่เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนแดฮยอนคงจะไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขาไปไม่ได้จริงๆ
ก็ตอนนี้กำลังจัดปาร์ตี้กับยองแจอยู่น่ะสิ
(...สรุปแล้วมึงจะไม่มา? ได้~ มึงถูกตัดออกจากกองมรดก!...)
ไร้สาระน่า มรดกอะไร ไม่เคยขอเงินมันใช่ซักหน่อย แดฮยอนโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาก่อนจะเดินเข้าห้องครัวมองแผ่นหลังของคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหาร
ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้มีปาร์ตี้กับยองแจ...
1st Anniversary วันครบรอบหนึ่งปีของความรัก อันที่จริงก็ไม่ได้เป็นผู้ชายโรแมนติกที่ต้องมาคอยจดจำวันต่างๆ แต่ว่าวันนี้มันสำคัญจริงๆ ครบรอบหนึ่งปีแล้วที่เขามียองแจ
“หอมจัง มันจะอร่อยเหมือนยองแจรึเปล่าน้า~”
ว่าพรางชะโงกไปมองเสี้ยวหน้าของคนตัวเล็กกว่า มุมปากของยองแจแต้มยิ้มบางเบา หน้าตาของอาหารช่างน่าดึงดูดเหมือนหน้าตาของคนทำ
“ยองแจอร่อยกว่า”
ก็ไม่ได้ปฏิเสธ...
“งั้นกินยองแจเลยได้รึเปล่า?”
อาหารอย่างสุดท้ายถูกยกไปวางรวมกับเมนูก่อนหน้า ยองแจฉีกยิ้มกว้างพรางนั่งลงบนเก้าอี้ ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความคิดที่แสนจะไม่เข้าท่าของแดฮยอน
“ยองแจต้องกินก่อนนอนถึงจะอร่อยที่สุด”
“งั้นไปนอน”
“แล้วอาหารฝีมือยองแจล่ะ?”
“นั่นสินะ...”
เล่นบอกวิธีการกินซะขนาดนี้มีหรือจะอดใจไหว... แต่ก็ต้องอดอยู่ดี แทนที่จะได้อุ้มยองแจเข้าห้องแต่ต้องพาตัวเองไปนั่งลงข้างๆ คนหน้าหวาน
“งั้นอาหารฝีมือยองแจ ก็ต้องให้ยองแจป้อนถึงจะอร่อยที่สุด”
“ใครบอก?”
“หัวใจมันบอกมาอย่างนั้น”
“แหวะ~”
“แพ้ท้องหรอ?”
“สองเดือนแล้ว”
นับวันยองแจก็ยิ่งหน้าหมั่นเขี้ยว แดฮยอนดึงคนน่ารักเข้ามากอดแถมด้วยจุ๊บที่ริมฝีปากไปเบาๆ ก็มีแฟนน่ารักอย่างนี้ไง เพื่อนหน้าโหดทั้งหลายเลยถูกทอดทิ้ง ถ้าจะโทษก็โทษยองแจแล้วกันที่ทำให้แดฮยอนหลงหัวปักหัวปำ
“อยากได้ลูกผู้หญิงน่าตาสวยๆ แบบเนี๊ยะ”
ว่าพรางลากนิ้วไปตามโครงหน้าของยองแจ เสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่วเบากับความคิดประหลาดๆ
“ก็เอาสิ...”
“ตกลงว่าให้กินยองแจแล้ว?”
“กินข้าวก่อน...”
ก็ได้...
=_=)*
ขอแค่เชื่อมั่นในตัวผม...
ผมรักคุณ
................................................................
JJ: ฟิคช่างบอกแนวทาง นี่สินะตัวตนของเรา ไม่ใสๆ เอาซะเลย ><) ฟิคใสๆ รอโปรเจคหน้านะ ตอนนี้เสพย์ติดความหื่นไปก่อนก็แล้วกัน แดแจแบบนี้หาอ่านยากจริงๆ สนองนี๊ดตัวเองคงไม่ผิด พาร์ทนี้แค่วาบหวิวนะครัช เอ็นซีมันยากกลัวว่าฉากจะซ้ำ =,.=)
คำบรรยายไม่ได้เข้าใจยากใช่มั้ย? เรากลัวว่าคนอ่านจะงง ;__;) นี่พยายามให้มันเข้ากับอารมณ์ฟิคนะ จับแนวทางของเรื่องนี้ได้รึยัง? ความกลัวที่หลบซ่อนอยู่ในความรักน่ะ หากไม่สะกดกลั้นมันก็จะล้นทะลักออกมา #สปอยล์ตะไม? #ไปดีกว่า ฮริ๊งค์~
ความคิดเห็น