คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ϟ SHOT XII ➣ ลองคบกันดีมั้ย?
SHOT
12
‘ ลองคบกันดีมั้ย? ’
“เป็นไงมาไงล่ะเรา”หลังจากแบมแบมขอตัวไปเปลี่ยนชุดก็ได้เวลาหนุ่มๆออกร่ายรำ อ่าวไม่ใช่
ก็ได้เวลาคุยกันของคนรู้จักลับๆไม่ใช่ใครที่ไหนก็ป๊าของแม่ของลูกกับตัวมาร์คเองนั่นแหละ
บอกแล้วไงมาร์ค ต้วนไม่ใช่คนธรรมดามาร์ค ต้วนเป็นคนหล่อ อิ
“สบายดีครับไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่เดือนคุณอาดูแจ่มใสมากขึ้นนะครับ”
“งานมันเคลียเรียบร้อยก็สบายใจขึ้นมีเวลาพักผ่อนจนได้กลับมาที่บ้านหาลูกหาเมียนี่แหละ”
พูดคุยเหมือนสนิทกันจนสงสัยกันใช่มั้ยล่ะ
คือเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อสองสามเดือนก่อนที่เขาเริ่มเตรียมตัวเกี่ยวกับการเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองไทยก็มีโอกาสได้พบกับพ่อของแบมแบมคนที่เขาได้เจออยู่หลายครั้งเพราะทำธุรกิจอยู่ที่นั่นและรู้จักมักจี่กับพ่อของเขาอีกด้วย
ล่าสุดที่เจอกันพ่อของแบมแบมมีท่าทางไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ด้วยความที่เป็นคนดีเลยเข้าไปถามสารทุกข์สุกดิบจนได้รู้เรื่องว่าท่านกำลังเครียดเรื่องงานที่มีปัญหาประเดประดังเข้ามาจนรับมือแทบไม่ไหว
ยิ่งความคิดถึงครอบครัวยามเมื่อต้องจากมาทำงานไกลบ้านตนเอง
พ่อของแบมแบมชวนเขาไปดื่มแอลกอฮอลล์ย้อมใจโดยบอกว่าไม่ถือที่มีเด็กอย่างเขามานั่งร่วมโต๊ะทั้งที่อค่กินน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลม
ความจริงมาร์คก็กินแอลกอฮอลล์มาตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่นใหม่ๆก็เพราะว่าวัฒนธรรมของต่างชาติดูไม่ค่อยจะคิดมากเท่าไหร่กับเรื่องนี้บวกกับความอยากรู้อยากลองก็เลยซัดหมดเกลี้ยงในตอนแรกจนเมาแอ๋
แต่ตอนนี้นอกเรื่องแล้ว เอาเป็นว่าเขาไม่อยากดูเป็นเด็กไม่รู้จักมารยาทกาลเทศะ จะมานั่งดื่มเหล้ากับคนที่โตกว่ามากโขแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง
“ที่บ้านคุณอาก็ดูเหงาเหมือนกันนะครับผมได้ไปกินข้าวที่บ้านคุณอาอยู่บางครั้งเหมือนกัน”
“อืมมจริงหรอ
แล้วแบมแบมเป็นยังไงบ้างสนิทกันรึยัง”
“ก็สนิทกันพอตัวแล้วครับ
แต่ว่าแบมจำผมไม่ได้”
“ไม่แปลกหรอกหน่าก็นานมาแล้วนี่
แล้วเราไม่บอกน้องเขาล่ะรออะไรอยู่”
“คือผม..เอ่อ..”จะบอกยังไงดีวะว่าจีบลูกเขาอยู่ แม่ง
“?”
“คือผมตามเอ่อ..จีบอยู่อ่ะครับ”ก้มหน้ารอฟังปฏิกิริยาของคนที่เงียบไปจนต้องเงยหน้ามามองว่าเงียบไปตะไม
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”คนโตกว่าระเบิดหัวเราะชุดใหญ่มาจนมาร์ครู้สึกหวาดกลัวนิดๆ
“ขอโทษทีพอดีอาไม่คิดว่าเราจะพูดกับอาตรงๆ”
พูดตรงก็ขำได้ด้วยหรอครับคุณอา..
“ผมแค่ไม่อยากปิดบังคุณอาเพราะเห็นว่าก็สนิทกัน”
“สงสัยต้องเปลี่ยนเป็นเรียกคุณพ่อแล้วมั้ง”
“อะไรพ่อๆนะคะ?!!”
สลายวงเดี๋ยวนี้ ปฏิบัติ
“ไม่มีไรนี่”ตอบหน้ามึนแล้วทำท่าจะเดินขึ้นห้อง
“ผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ”ไหว้อย่างไทยแล้วเดินออกไปเงียบๆเหมือนแค่เข้ามาทักทายเฉยๆ
แบมแบมรีบบอกลาป๊าที่รักแล้วเดินตามอีกคนมา
“คุยไรกับป๊าแบม”ดึงเสื้อเบาๆเป็นการเค้นคำตอบ
“แค่ทักทายเฉยๆเผื่ออยากได้พี่เป็นลูกเขย”เท่านั้นแหละมือที่ดึงเสื้อก็แปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามือประทับตราทันที
เจ็บก็เจ็บแต่ทำไมปากดันยิ้มก็ไม่รู้
“พี่จีบเรามาซักพักแล้วนะ ชอบกันบ้างรึยัง”อันที่จริงมาร์คไม่เคยคิดจะเอ่ยถามคำถามนี้กับแบมแบมด้วยซ้ำ
เขาคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปแต่มันก็อดคิดไม่ได้เราจีบเขาเพื่ออยากให้เขารับรักใจมันก็ต้องหวังเป็นธรรมดาแหละ
“พี่ก็โอเคนะแต่รีบหรอถ้ารีบก็จีบคนอื่นได้นะไม่ว่า”ถึงกับแห้งเหี่ยวพูดแบบนี้ใครจะกล้าไปกันอีกอย่างก็ชอบมากซะขนาดนี้ไปไหนไม่ได้แล้วมั้งคงไม่วายกลับมาที่เดิม
“ไม่อ่ะไม่รีบถามไปงั้นแหละรอได้”
“เออพี่แต่ว่าแบมมีคนที่ชอบอยู่แล้วนะ”
“...ใคร?”
“ไม่รู้จำไม่ได้รู้แค่ว่าชอบอยากเจออยากคุยแต่ไม่รู้จะไปเจอได้ที่ไหน
ไม่รู้จักเขาเลยจำได้แค่ว่าชอบ”
นี่คือบัญญัติคำว่าชอบของแบมแบมหรอกหรอนี่
พระเจ้า
“ตลกละ”
“นี่พูดจริง เดี๋ยวต่อยเลย”
“แล้วพี่จะแทนเขาได้มั้ย”
“ก็.. ไม่รู้”
“ถ้างั้น..เรา..”
“.....”
“ลองคบกันดีมั้ย?”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ตึกตักxอีกล้านแปด
สาบานว่านี่ไม่ใช่เสียงหัวใจเต้นจริงๆนะ
ต้องเป็นเสียงยักษ์บนท้องฟ้าที่เดินอยู่แน่ๆไม่ใช่เสียงหัวใจแบมแบมหรอกหน่า
แล้วทำไมแก้มมันร้อนอย่างนี้วะเนี่ย
“เผื่อว่าแบมจะลืมคนนั้นได้ หรือไม่ก็จะได้รู้ว่าแบมชอบเขาจริงๆรึเปล่า”
“เราไม่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอพี่”
จึ้กกก.......
ปฏิเสธแล้วใช่มั้ย?
“เราอย่าลองคบกันเพื่อเหตุผลอื่น แต่ลองคบเพื่อพิสูจน์แค่แบมกับพี่ได้มั้ย”
บ้ะ....แค่ชั่ววูบเท่านั้นความรู้สึกแปลกประหลาดก็หายไปเหลือไว้เพียงแค่ความดีใจที่ปิดยังไงก็คงไม่มิด
รอยยิ้มกว้างปรากฏให้คนพูดเป็นอันต้องเขินที่ได้เห็น
แบมแบมไม่ยักจะรู้ว่าปากตัวเองก็ไม่ใช่เล่นๆนอกจากจะปากหมาแล้วยังเสี่ยวอีก
“พูดแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะ”
“ก็พูดเองจะเปลี่ยนที่ไหนล่ะ”อากาศนี่ร้อนจริงๆเลยน้า แก้มเขานี่ร้อนไปหมดแล้วพูดออกไปได้ยังไงกัน=
=
“สัญญานะ”อีกคนยื่นนิ้วก้อยมาข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“เออค่ะ”ส่งมือไปเกี่ยวด้วยใบหน้าตึง
ป่าวไม่พอใจนะนี่เก็บความเขินอยู่ ส่วนไอพี่หัวทองนี่ก็ใช่ย่อยนะ หน้านี่แดงเถือกเชียวผู้ชายนี่ก็เขินได้น่ารักเหมือนกันนะหรือว่าอยู่ที่เบ้าหน้า?
อืม..แต่ท่าเกี่ยวก้อยสัญญานี่คุ้นจัง
“ไปเรียนเถอะ”มาร์คพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเลทคาบเรียนมาซักพักแล้วทั้งคู่เดินไปทางตึกเรียนของตัวเองด้วยกันก่อนจะแยกเมื่อถึงชั้นเรียนของแบมแบม
บอกลากันนิดหน่อยแผ่นหลังบางจึงเดินต่อไปเพื่อเข้าห้องเรียน
ส่วนตัวคนพี่ที่ควรจะเดินขึ้นบันไดต่อไปยังห้องของตัวเองที่อยู่ถัดไปอีกชั้นเหมือนกับแบมแบม
แต่เขากลับก้มมองหน้าจอโทรศัพท์แถมรอยยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าไม่ยอมเดินไปไหน
รูปแผ่นหลังเล็กน่าทะนุถนอมแต่ก็ดูไม่อ่อนแอทีเดียวในเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายชุดนักเรียนคือสิ่งที่ทำให้มาร์คยืนยิ้มอยู่กับมือถือในตอนนี้
ใช่..เขาแอบถ่ายด้านหลังของแบมแบมตอนที่เจ้าตัวกำลังเดินไปตามทางแต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก
รูปนี้มันเป็นรูปล่าสุดในอัลบั้มที่เขาสร้างขึ้นโดยเฉพาะมาตั้งนานแล้วต่างหากถ้าจะให้นับนี่ก็คงตาลายอยู่เหมือนกัน
“สายเชียวมึง”แจ็คสันเอ่ยทักเพื่อนทันทีที่อีกคนนั่งเก้าอี้ประจำที่ตัวเองแล้ว
มาร์คหันมาพยักหน้านิดหน่อยแล้วหันไปตั้งใจฟังอาจารย์หน้าห้องต่อ
ไม่งั้นคงต้องโดนด่าแหงเข้าห้องก็สายแถมไม่ตั้งใจเรียน
“เออกูมีข่าวดีมาบอก”เมื่อจบคาบเพื่อนตัวสั้นก็เอ่ยปากพูดสิ่งที่เขาได้รับมอบหมายให้มาบอกตั้งแต่เมื่อเช้า
“ว่า?”
“จารย์มารศรีบอกกูเมื่อเช้าว่าไม่ต้องเรียนเสริมแล้ว
พวกเราเก่งขึ้นจนตามเพื่อนเริ่มทันเลยถือว่าเป็นอันจบคลาสเรียน เยสสสสสส”
“ดีว่ะ จะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงง่วงๆของจารย์แกแล้ว”แจ็คสันพยักหน้าเห็นด้วยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดีใจเกินเหตุจนมาร์คสงสัย
เห็นมันบ่นงุ้งงิ้งอยู่คนเดียวมาซักพักแล้วว่าไม่มีเวลานู่นนี่นั่น
“ไอแจ็คกูกับแบมแบมลองคบกันแล้วนะ”ตัดสินใจบอกเพื่อนที่นั่งข้างๆด้วยเสียงเบาสุดชีวิต
เขาไม่อยากให้ใครรู้แต่ก็ไม่อยากปิดบังแจ็คสันไหนๆก็เป็นเพื่อนกันมาเกือบจะเดือนแล้วสนิทกันพอสมควรจนคุยมึงกูกันขนาดนี้
“เชี่ย!!จริงอ้ะะะะะะ?!”แต่ไอสั้นนี่ดั้นไม่เสียงเบากับเขาด้วยนี่สิ
เพื่อนเวร ทั้งห้องมองหมดเลย;-;
“สัสเบาๆ”มันตบบ่ายิ้มๆบอกขอโทษแล้วเว้นให้เขาเล่าต่อ
มาร์คเล่าคร่าวๆถึงเรื่องเมื่อเช้านี้เพราะระหว่างเขากับแบมแบมตลอดตั้งแต่แรกแจ็คสันมันรู้เรื่องทั้งหมดแล้วยกเว้นแค่เรื่องเมื่อก่อนเท่านั้นที่มาร์คไม่ได้เล่าแบมแบมรู้ก่อนเขาถึงจะค่อยบอกเพื่อนสนิทคนนี้ได้
“แล้วมึงจะทำยังไงให้เปลี่ยนจากลองคบเป็นคบจริงแทนวะ”
“ก็คงเหมือนเดิมแบบที่กูเป็น
จะให้กูทำไรวะ- -”
มาร์คคิดแบบนี้จริงๆจะให้เขาทำยังไงล่ะเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับทั้งเขาและแบมแบมว่าเราจะเข้ากันได้มั้ยส่วนเรื่องการปฏิบัติตนก็แค่เป็นในแบบที่เราเป็นอยุ๋ทุกวันจะให้มันมาสวยๆตั้งแต่แรกก็คงจะดูเว่อร์วังไปหน่อยมาร์คไม่อยากให้มันสดชื่นตอนเริ่มแล้วค่อยแห้งเหี่ยวตอนสุดท้ายหรอก
กับแบมแบมน่ะมาร์คอยากเสมอต้นเสมอปลายไปตลอดชีวิตมากกว่า
หล่อสัสอ่ะครับมาร์ค ต้วนฮริ้งงง
ปัง!
ปัง!!
“เอ่า ฟังหน่อยๆ”หัวหน้าห้องตบโต๊ะเรียนของใครซักคนเรียกสติเพื่อนร่วมห้องให้หันมาฟังตนเอง
“คือนี่ก็ผ่านมาจะครึ่งเทอมแล้วใช่ป่ะมันก็ต้องเริ่มเตรียมเรื่องกีฬาสีแล้วแต่ว่ามอหกมันไม่ต้องไปยุ่งอะไรมากมายเพราะเราต้องเตรียมเข้ามหาลัย
แล้วคือปีนี้อาจารย์ดันอยากให้เรามีส่วนร่วมว่ะ”
เสียงโห่กึกก้องไปหมดจนคนพูดต้องเงียบไว้ก่อน
เป็นอันรู้กันว่าโรงเรียนที่พวกเขาเรียนอยู่มาตั้งนานนี้ใส่ใจกับกีฬาสีเกินไปหน่อยต้องเริ่มหาลีดซ้อมแสตนตั้งแต่กลางภาคเรียนของเทอมแรกยาวจนถึงวันกีฬาสีที่จะจัดขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่สองของการเปิดภาคเรียนที่สอง
ฉนั้นจึงไม่อยากมีใครเสียเวลาไปกับมันหรอกเอาเวลาไปเตรียมตัวเข้ามหาลัยดีกว่าเยอะ
ซึ่งทุกปีอาจารย์จะอนุญาตให้มอหกไม่มีส่วนร่วมในกีฬาสีได้ยกเว้นคนที่อยากเป็นดรัม
ถือป้ายสี เป็นลีดหรือคนคุมแสตนนู่นนี่นั่นอันนี้ก็ไม่ว่ากัน ทว่าเทอมนี้อาจารย์ดันเปลี่ยนใจซะงั้น
ตลกมั้ยล่ะ
“ใจเย็นฟังกูก๊อนนนนน!คือมันก็ไม่ได้ขนาดนั้นเว่ยแค่แบบในพาเหรดอ่ะอยากให้ส่วนใหญ่เป็นมอหกไงเลยจะมาถามว่าใครจะเป็นมั้ยให้มาลงชื่อเดี๋ยวไอป๊อปมันจะมาเรียกไปคัดเอง”
หมดประโยคต่างคนก็ต่างซุบซิบปรึกษาหารือกันบ้างก็เดินไปลงชื่อในสิ่งที่อยากเป็นบ้างก็ก้มหน้าทำสิ่งที่ค้างไว้ต่อไม่มีทีท่าว่าจะสนใจซึ่งก็รวมมาร์คและแจ็คสันไว้ในนั้นด้วย
ที่เขาไม่สนใจไม่ใช่เพราะไม่ให้ความร่วมมือหรอกแต่เป็นเพราะระยะเวลาต่างหาก
เขาอยู่ที่นี่ถึงแค่จบเทอมหนึ่งเท่านั้นแอบเสียดายเล็กน้อยที่จะไม่ได้อยู่เห็นงานที่ดูท่าว่าจะสนุกไม่น้อย
ส่วนแจ็คสันรายนี้ดูไม่ค่อยจะใส่ใจตั้งแต่เกริ่นว่าเป็นกีฬาสีแล้วมันบอกว่าตั้งแต่โรงเรียนเก่าที่เห็นมาก็งั้นๆทั้งนั้นเห็นบอกว่าเคยเป็นดรัมไม้หนึ่งเหนื่อยชิบหายไม่มีวันจะทำอีก
มาร์คเลยไม่ขัดหรือแกล้งเพื่อนโดยการแอบไปลงชื่อให้มัน
แต่เมื่อพูดถึงกีฬาสีก็แอบจะนึกไปถึงอีกคนที่อยู่ชั้นล่าง
รายนั้นเขาสายกิจกรรมท่าทางคงจะได้ทำอะไรซักอย่างที่เจ้าตัวชอบแน่ๆ
แอบเสียดายที่จะไม่ได้อยู่ดูจังหลังจากจบเทอมนี้มาร์คก็คงต้องกลับไปรีบเรียนให้จบมาช่วยที่บ้านทำธุรกิจต่อคงยากที่จะหนีมาในวันที่มีงานได้
ร้องไห้ กระซิกๆ
สำหรับหน้าที่ของมาร์ค
ต้วนหนุ่มหล่อที่ใครๆก็เหลียวหลังมองเวลาเจ้าตัวเดินผ่านเป็นทุกครั้งไปทั้งที่ก็อยู่มาแค่ไม่เท่าไหร่ในเย็นวันนี้ก็คือมาเฝ้าแฟนของเขาคัดตัวลีดของสีชมพูนั่นเอง
ใช่แล้ว
แบมแบมเลือกที่จะเป็นลีดเดอร์ที่ใครๆก็ต่างบอกเป็นคำเดียวว่าโคตรจะเหนื่อยแถมชุดยังแพงแถมมีแต่คนหาว่าสวยไปวันๆอีกเพราะไม่มีใครได้เห็นตอนซ้อมไหนจะต้องเจียดเวลางานของตัวเองไปให้กับการซ้อมอีก
ทั้งที่มีคนมาทาบทามตัวของอีกคนไว้ให้เป็นดรัมไม้หนึ่งเดินนำพาเหรดสีรองจากผู้ถือป้ายที่จะให้พี่มอหกเป็นคนถือแต่แบมแบมกลับปฏิเสธไปบอกว่าตัวเองเลือกแล้ว
มาร์คก็ถามย้ำแล้วเพราะกลัวอีกคนจะเหนื่อยยิ่งช่วงนี้ใกล้ถึงช่วงที่ตารางงานแน่นหลังจากที่เจ้าตัวรับไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้วอีก
ทว่าเขากลับต้องยอมเมื่อแบมแบมเอ่ยบอกกับเขาว่าตัวเองชอบการทำกิจกรรมแบบนี้แถมยังสนุกอีกได้เต้นได้ออกกำลังกายสุดท้ายก็เป็นอันต้องมามองร่างบางที่เขาหลงใหลยืนตั้งกาดท่ามกลางแดดตอนเย็นให้รุ่นพี่มหาลัยและคนคุมลีดมาจ้องเพื่อคัดตัวนี่แหละ
“เฮ้ยนั่งด้วยนะ”
เพื่อนผู้หญิงในห้องที่เขารู้มาว่าเป็นลีดเก่าเอ่ยถาม
มาร์คพยักหน้าแล้วมองแบมแบมต่อโดยไม่พูดอะไร
ส่วนคนข้างๆก็หันมองสลับมาร์คกับแบมแบมไปมาราวกับสงสัยอะไรบางอย่างรู้สึกคันปากอยากถามแต่ก็ไม่กล้าเดี๋ยวหาว่าเสือก
“แกกับน้องแบมเป็นอะไรกันวะ”
นี่แหละที่เรียกว่าไม่กล้า..
“เอ่อ..คือปะ..เป็น”
“เป็นแฟนกันค่ะพี่บิ๋ม”
เขาเป็นแฟนกันแล้วแกฮือดีใจ
ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้าเกือบเดือนแหนะ
เราตื้อมากเลยกลัวแต่งออกมาไม่ดีด้วย
แต่ทุกตอนก็ไม่ได้ดีไปซักเท่าไหร่หรอกเอาจริงๆ-
-
55555555เจอกันตอนหน้าน้ารักส์
เอนจอยรี้ดดิ้งแอนท์สะดิ้งวิทพี่หัวทอง
#ห่ามเกิร์ล
ความคิดเห็น