คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
.
เสียงจ้อกแจ้กจอแจกับบอร์ดที่ประกาศรายชื่อผู้ที่มีสิทธิเข้าเรียนในสถานศึกษา มีผลให้ได้ยินเสียงหัวใจจากคนรอบข้างที่ดูจะเต้นดังเป็นพิเศษ ในขณะที่ทุกคนกำลังจับตาไล่มองรายชื่ออย่างตั้งใจ แตกต่างกับตัวเองที่ต้องเอามือปาดเหงื่อเป็นพักๆ ยิ่งตอนนี้ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล ทำให้รู้สึกหงุดหงิดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถึงแม้อากาศจะเย็นสบาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก ที่ต้องมายืนเบียดกับคนนับร้อยที่พยายามดันตัวเองไปใกล้กับป้ายมากที่สุดโดยไม่สนใจคนอื่นสักนิด และแถมด้วยเสียงลำโพงที่ดังสนั่น ที่กำลังกล่าวต่อว่านักเรียนทุกคนไม่ให้ดันเข้าไป เพราะอาจจะเกิดความเสียหายแก่บอร์ดประกาศได้ซึ่งก็ไม่ได้มีผลสักเท่าไร ตอนนี้เขาเองก็กำลังรู้สึกคิดถึงบ้านตงิดๆ และเริ่มคิดผิดที่ตัดสินใจที่จะออกมา ทั้งๆที่รู้ว่าความหวังแทบจะเป็นศูนย์
เขาพยายามที่จะดันร่างกายของตัวเองเข้าไปหน้าบอร์ดให้ได้ สำหรับยูคิที่มีร่างกายของคนที่ไม่คิดจะแตะต้องกีฬาทุกชนิด ทำให้ร่างกายไม่มีแม้กระทั่งไขมัน หรือกล้ามเนื้อ มันทำให้ดูไม่สมชายสักนิด ไม่น่าแปลกที่ผู้หญิงในห้องมักจะนินทาเขาเสมอว่าเป็นพวกเพศที่สามหรือพวกขี้แยที่ไม่สนใจผู้หญิง
“โ อ้ย !”
เด็กหนุ่มสบถ ความเจ็บที่เท้าเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เขารู้ตัวว่า ถ้ายังหารายชื่อตัวเองไม่เจอต่อไปควรจะแทรกตัวออกไป นี่มันเวรกรรมอะไรกันนะ เค้าหันไปมองคนข้างๆที่กำลังตะโกนโหวกเหวกด้วยความดีใจ แต่เมื่อเหล่ไปอีกทาง ก็พบกับน้ำตาที่กำลังร่วงพราวลงพื้นจากเด็กสาวคนหนึ่งเป็นคำตอบว่าบนกระดานที่ไม่มีวี่แววชื่อของเธออยู่ในนั้น การที่เธอยังคงยืนร้องไห้อยู่แถวหน้านี้ทำให้คนข้างหลังเริ่มจะทนไม่ไหวและพลักออกไปด้วยความรำคาญ
เด็กหนุ่มสะบัดความคิดออกจากหัวและตั้งใจเพ่งสายตาที่รายชื่ออันน่าเวียนหัวใหม่อีกครั้ง ความหวังริบหรี่ลงเรื่อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกดีใจที่จะได้ออกไปจากที่ตรงนี้ เขาเริ่มจะทนไม่ไหวกับการที่ไม่สามารถหาตัวการที่เหยียบเท้าจนระบม ไม่แน่ คงไม่ใช่แค่คนเดียว
‘ฟุคุดะ ยูคิ’
ถึงผมจะไม่ได้คาดหวังกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่าที่ควร แต่ก็ยังหวังว่าจะได้หลุดจากชีวิตเดิมที่ไร้แก่นสาร หลังจากที่หลุดพ้นจากฝูงคนมาได้ ก็ได้ยินเสียงดนตรีที่คลอมาจากสักตึกในที่แห่งนี้
ผมที่มีใบติดต่อธุรการในมือที่กำแน่น ตอนนี้คงจะได้เริ่มชีวิตของเด็กมหาวิทยาลัยสักที ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันมาจากใคร มันเกิดมาจากพระเจ้า หรือตัวผมเองกันแน่ ทุกครั้งที่ไปศาลเจ้า แม่ก็จะสวดมนต์ให้ผมประสบความสำเร็จทุกครั้ง ถึงแม้ผมเองจะไม่เคยขออะไรก็ตาม ผมคิดว่ามนุษย์ควรจะพึ่งตัวเอง มากกว่าที่จะไปพึ่งสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องหรือพิสูจน์ได้ คำพูดของผมดูดีถึงแม้จะไม่ได้ฉลาดนัก
ความคิดเพ้อเจ้อในระหว่างที่กำลังก้าวเดิน ทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้กำลังหลงซะแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆดังออกจากลำคอตัวเองพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินไปตามทางที่เงียบสงัดจนน่าแปลกใจ แต่ก็ยังพอคิดได้ว่าตอนนี้ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าบอร์ด ตอนนี้ข้างทางมีแค่เด็กที่รู้ผลมานั่งเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ต้องขอบคุณป้ายบอกทาง ที่ถึงแม้มันจะมีบางที่พังไปบ้าง แต่ก็ยังดีที่ยังมีให้ได้เห็นบ้าง เสียงริงโทนโทรศัพท์ที่ดังขึ้นบริเวณกางเกง มันทำให้เดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นโทรมา ผมรู้สึกถึงของเหลวที่หยดใส่ลงบนใบหน้า
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตอนนี้มืดมัวไปด้วยเมฆฝน
ความคิดเห็น