คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้นของจุดจบ
ZGen
ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้นของจุดจบ
เช้าอันสดใสในโลกใบนี้ที่มีทั้งผืนน้ำและผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติคอยหยิบยื่นทุกๆอย่างกับเรา ... ทั้งอาหาร ที่อยู่ ต้นไม้ แม่น้ำ รวมทั้งความเจ็บป่วยอีกด้วย
“งั้นครูควรทำไงดีหมอ?”ชายแก่คนหนึ่งกำลังปรึกษาหมอผู้ซึ่งที่สามารถรักษาเขาได้
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ... คุณครู เดี๋ยวฉีดยาแปปเดียวเดี๋ยวก็หายแล้วครับ”ผู้เป็นหมอนั้นตอบคุณครูเก่าของเขาอย่างยิ้มแย้ม พลันหยิบเข็มสีใสข้างๆโต๊ะแล้วแกะออก
“อ้าว ... ครูไม่ฉีดได้ไหม?”คุณครูมองเข็มสีใสที่ตอนนี้มันอยู่ในมือของลูกศิษย์รักของตนแล้ว พร้อมที่จะทำการของมันได้ทุกเมื่อแต่เขาไม่ชอบมันเลย
“ก็เดี๋ยวครูก็ต้องไปสอนนักเรียนต่อไมใช่หรอครับ เข็มเดียวก็หายแล้ว ไม่ต้องมามัวกินยาตามเวลา ไม่ต้องง่วงนอนอีกด้วยนะครับครู”คุณหมอพูดให้ครูของตนเข้าใจก่อนที่เหมือนว่าครูของตนกำลังคิดตามและน่าจะยอมรับเข็มได้ ดังนั้นจึงจัดการนำเข็มเอาลมออกแล้วจิ้มเข้าในขวดยาที่ทางผู้อำนวยการพึ่งจะสั่งมาใหม่เพราะผู้ผลิตนั้นเป็นเพื่อนสนิทของผู้อำนวยการ ไม่ทันที่ครูจะทันที่ครูจะได้พูดอะไร ลูกศิษย์แสนรักก็นำสำลีที่ชุบแอลกอฮอล์ไว้ทาที่ต้นแขนทันทีพร้อมกับนำสิ่งที่ครูของเขาไม่ชอบนักไม่ชอบหนาจิ้มทันที
“โอ้ย!”คุณครูแก่ร้องออกมาทันทีที่โดนเข็มแทงเข้าไปในเนื้อหนังของตน
“เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้วครับ”หมอดึงเข็มออกมาจากผิวของครูของตนแล้วทิ้งมันลงไปในถังขยะ
“แค่นี้ใช่ไหมหมอ”ครูแก่ เก็บกระเป๋าของตัวเองก่อนที่จะเดินออกไปชำระเงิน หมอหนุ่มยิ้มให้กับความที่กลัวเข็มไม่เคยเปลี่ยนของครูของตนเองแล้วจึงเรียกให้แม่บ้านที่อยู่แถวนั้นเข้ามาในห้องเพื่อเก็บถังขยะในห้องของตนไปทิ้ง แม่บ้านชุดสีฟ้าเดินเข้ามาพร้อมกับหยิบถังขยะออกไปแล้วจึงนำไปเทไว้ที่ถังขยะรวมที่ตรงหน้าของโรงพยาบาล หนูตัวน้อยที่อยู่แถวๆนั้นจะรู้ทันทีว่าถ้ามีขยะมาทิ้งก็ต้องมีของให้มัน หนูตัวน้อยจึงวิ่งมาด้วยความเร็วสูงสุดของมัน แล้วมุดเข้าไปในถังขยะทันที พอมันเห็นสิ่งมีคมแล้ว ด้วยความฉลาดแล้วความเคยชินมันจึงออกห่างนั้นทันทีแต่ว่าสายตาของหนูน้อยมองไปเห็น ... น้ำสีม่วงที่หยดลงมานิดหน่อยจากปลายแหลมของเข็มล่อตาล่อใจมันเป็นอย่างมาก มันจึงเข้าไปดมฟุตฟิตๆที่หยดน้ำประหลาดนั้น ด้วยความอยากรู้อยากลอง ลิ้นของมันก็ตวัดเลียหยดน้ำนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหยดน้ำทั้งหมดนั้นก็หายไปอยู่ในท้องของเจ้าหนูน้อย แต่ไม่อีกกี่นาทีต่อมา ... สิ่งที่เกิดขึ้นกับมันคือน้ำลายของมันไหลออกจากปากอย่างควบคุมไม่ได้ ตัวของเจ้าหนูน้อยตัวนั้นลงไปนอนราบกับพื้นของถังขยะ ดวงตาสั่นคลอและในที่สุดเลือดสีแดงก็ไหลออกจากปากของมัน ... น่าสงสารมันนัก แม้ว่าจะตายแต่ก็ไม่มีใครสนใจมันเลย
.....
....
...
..
.
ยัง ... มันยังไม่จบเรื่องของหนูน้อยหรอก แต่เป็นจุดเริ่มเรื่องราวทุกอย่างต่างหาก
ดวงตาของหนูน้อยตัวนั้นจากที่เคยมีสีขาว มันก็เริ่มมีเลือดไหลมาที่ตาของมันอย่างช้าๆ ลำตัวของมันเริ่มกระเพื่อมสำหรับจังหวะใหม่ของหัวใจมัน ฟันอันแหลมคมได้งอกขึ้นมาแทนที่ ขนของมันร่วงออกหมดจนเผยให้เห็นถึงผิวหนังสีเทาและหยาบกร้านราวกับสิ่งที่ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้ว ... สี่ข้าวของมันเริ่มขยับราวกับว่ากำลังอยากหัดเดิน จมูกนั้นดมฟุตฟิตไปมาเหมือนกับที่มันทำก่อนหน้านี้แต่ต่างกันแค่ว่าตอนนี้มันกำลังดมหาบางอย่างที่ไม่ใช่ขยะ
“วันนี้คนไข้เยอะจังเลย ขยะเยอะแบบนี้ฉันก็เหนื่อยละสิ!”แม่บ้านในชุดสีฟ้าเดินตรงมายังถังขยะที่เธอนั้นคุ้ยเคย เธอนำถังขยะสีเขียวใบเล็กนั้น เทลงไปในถังขยะรวมถังใหญ่แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่คุ้นกับมันเลย คือรูที่ข้างตัวถังของถังขยะถังใหญ่นี้ มันมีขนาดใหญ่พอทีหนูตัวหนึ่งสามารถเข้าออกได้อย่างสบาย
“เฮ้อ .. เหนื่อยจัง”หลังจากเทขยะหมดเรียบร้อย แม่บ้านก็กำลังจะเดินกลับไปยังห้องของคุณหมอแล้ววางมันไว้ที่เดิม แต่ระหว่างทางเดินนั้นมันช่างเหลือเกิน เพราะทุกทีโรงพยาบาลนี้มีแมวจรจัดอยู่บริเวณนี้ แต่วันนี้มันกลับหายไปไหนกันหมด
“คงออกไปหาอะไรกินเองมั้ง”แม่บ้านคนนั้นพูดกับตัวเองอีกครั้ง เธอเดินไปเกือบจะถึงตัวของโรงพยาบาลแล้วแต่ว่ากันว่ามนุษย์เรานั้นมีตารอบกายราวกับสัปรด แม่บ้านคนนั้นรู้สึกเหมือนมีดวงตาของสิ่งใดสิ่งหนึ่งคอยมองเธออยู่ และแล้วเธอก็หายสงสัยทันทีแต่กลับเป็นความกลัวที่วิ่งแล่นเข้ามาโจมตีเธออย่างจัง เพราะเมื่อเธอหันไป เธอเห็นดวงตาทั้งสองข้างอันแดงฉานแต่มีขนาดเล็กๆอยู่ที่พุ่มไม้ แม่บ้านคนนั้นไม่รีรอ เธอวิ่งอย่างสุดชีวิต ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเจ้าของดวงตาสีแดงคู่นั้นเป็นใครหรืออะไรกันแน่ แต่แล้วเธอก็พบว่าแรงที่เธอวิ่งนั้นเป็นการใช้พลังงานแบบเสียจริงๆ เพราะที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้นมันน่ากลัวกว่าในพุ่มไม้หลายเท่าตัว แม่บ้านคนนั้นขาอ่อนยวบนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ตรงหน้าของเธอมันคือสิ่งที่เธอสงสัยแต่มันค่อนค่างจะไม่เหมือนที่เธอได้คิดเอาไว้ เพราะตรงหน้าของเธอ... มันคือแมวหลายสิบตัว! แต่ทว่านัยตาของมันเป็นสีแดงฉาน ขนของพวกมันนั้นหลุดเป็นหย่อมๆ เผยให้เห็นสีผิวเทา แต่พวกมันดูเหมือนเหลือแต่กระดูก พวกมันทั้งหมดจ้องมองแม่บ้าน และทุกอย่างก็หายไปกับสายลมโดยไม่มีใครรู้เหตุการณ์ที่นี้แม้แต่คนเดียว ...
“กริ๊ด!!!”
…..
….
…
..
.
ZGen
.
..
…
….
…..
ท่ามกลางเสียงดังเอะอะโวยวายภายในห้องเรียนสี่เหลี่ยมสีขาวจัตุรัสแบบนี้ทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่าตอนนี้ภายในห้องนั้นคงจะมีแต่นักเรียน ไม่มีผู้ควบคุมอย่างคุณครูผู้สอนเลย
“ฮ้า ... วันนี้ดีจังเลย”หนุ่มหน้าตาหล่อเหลา คิม มยองซู พูดขึ้นมา พร้อมกับเอนหลังให้เข้ากับเก้าอี้ของตน กระเป๋าเรียนที่ว่าสำคัญก่อนออกจากบ้านกลับการเป็นเบะเอนเท่านั้นเอง หนังสือแต่ละเล่มที่คุณแม่บังคับให้จัดตั่งแต่ดึกก็ไม่เอาออกมาแม้แต่เล่มเดียว ผิดกับอีกคน ...
“ชีวิตนายนี้มันดีจังเลย ไม่ต้องสนอะไร”คนที่นั่งข้างๆเอ่ยทักขึ้นมา รูปร่างดูสูงและผอมบางกำลังหยิบหนังสือขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น ทำเอามยองซู ถึงกับหมั่นไส้
“นายจะแคร์อะไรกัน? … พ่อรวยแล้วหนิ อี ซองยอล แต่รวยแบบไหน ... ช่วยบอกฉันทีได้ไหม?”ซองยอลถึงกับหันหน้ามาทำหน้าตาดุด่าอย่างเคยตัว เพราะว่าคิม มยองซู ที่เป็นที่หมายปองของหญิงและชายนั้น ชอบพูดต่อว่าอาชีพของพ่อของเขาอยู่เรื่อย ว่าทำอาชีพที่ไม่สุจริจทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พ่อของเขาทำโรงงานผลิตเฟอนิเจอร์รายใหญ่ของประเทศนั้นเอง
“ถ้าจะหาเรื่องฉัน นายก็ไม่ต้องมาคุยจะดีกว่านะ”ซองยอลหันไปสนกับกองหนังสือที่อยู่ตรงหน้าของตนโดยไม่สนใจคิม มยองซูเลย
“ว้า ... แทงใจดำละสิ! พ่อของฉันกับลูกน้องของพ่อฉัน เขามีสายทั่วประเทศ แค่โรงงานของนายแอบซ่อนหรือผลิตอะไรไว้ ... พ่อฉันนี้แหลี่เข้าไปบุกโรงงานพ่อของนาย!”มยองซูยังไม่ลดละ
“นี้ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”ซองยอลลูกขึ้นยืน มองหน้ามยองซูอย่างเอาเรื่อง แต่ว่าท่าทีของเพื่อนๆในห้องกลับไม่ได้สนใจอะไรเลย ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเสียงที่ดังมากจนไม่มีใครได้ยินสองคนนั้นแต่ที่ไม่สนใจเพราะว่ามันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว คงจะมีแต่พวกที่คลั่งไคล้มยองซูเท่านั้นแหละที่คอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ส่วนมยองซูก็ทำแก้มป่องแล้วยื่นให้ซองยอลอย่างยั่วยุพร้อมกับนิ้วนั้นแตะลงแก้วตัวเองอย่างเป็นจังหวะ ทำให้ซองยอลสะกดอารมณ์ไม่อยู่
“ย้า!!!” กำปั้นของซองยอลที่เก็บกดมาเป็นเวลาสองนาที ตอนนี้มันได้ฝากรอยไว้บนหน้าอันหล่อเหลาของมยองซูเป็นที่เรียบร้อย
“อ้าาาาา! มันเจ็บกว่าครั้งก่อนอีกนะ ซองยอล!”กว่าครั้งก่อนหรอ ... ใช่ กว่าครั้งก่อนเพราะว่าก่อนหน้านี้ยังฝึกฝีมือมายังไม่พอ และซองยอลเองก็คิดว่ามันต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ ...ซึ่งก็น่าจะเป็นพรุ่งนี้
“ใครจะไปสน”ร่างบางนั่งลงพร้อมกับอมยิ้มให้กับรอยที่ประทับประดับลงบนหน้าหล่อๆของมยองซู แต่ออกห้องไปคงจะต้องได้มีเรื่องกับ แฟนคลับของเจ้าหมอนี้อีกตามเคย
“ลี ซองยอล ครั้งนี้มันเจ็บมากเลยนะ นายเจอดีแน่! แฟนคลับของฉัน ... ฉันแก้แค้นแทนแฟนคลับฉันเอง”พูดยังไม่ทันจะจบ มยองซูก็ลูกพรวดขึ้นมาแล้วทำการไล่ล่าซองยอลโดยการวิ่งไล่จับกัน(?)และทุกอย่างก็จะจบลงแบบนี้เสมอจนเป็นภาพที่ชินตาคนในห้องไปแล้วเช่นกัน สรุปแล้วพวกสองนี้ไม่เคยทะเละกันจริงๆซักครั้ง
“ไอ้ซาดิส อย่ามาใกล้นะ!”ทั้งที่มยองซูรู้ว่าถ้ายั่วโมโหซองยอลแล้วจะโดนอะไรบ้างแต่ก็ยังทำอย่างนั้นอยู่แทบทุกวัน ซองยอลเลยตั่งฉายาให้คิม มยองซูว่า ซาดิส แต่ดูเหมือนมยองซูยิ่งชอบแกล้งซองยอลเข้าไปใหญ่ ... นี้แหละคงจะเป็นซาดิสของจริง
“อย่าช้าลงนะ ซองยอล ไม่งั้นไอ้ซาดิส คิม มยองซูจะจับนายและต่อไปนายคงจะรู้นะว่าฉันจะทำอะไร”
“ไอ้หื่น!”
“โอ้โห ... เก่งจังเลยนะที่เดาถูก สงสัยเราสองคนคงจะเหมือนกันนะเนี้ย”มยองซูวิ่งไล่ซองยอลอยู่อย่างนั้น ไปรอบๆห้อง แฟนคลับของมยองซูต่างอิจฉาซองยอลเพราะว่าน้อยคนนักที่จะได้สนิทสนมกับคิม มยองซูมากถึงพียงนี้แม้ว่าเรื่องเริ่มต้นที่สองคนนั้นสนิทกันมันเป็นเรื่องที่ค่อยจะซักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ด้วยความสนิทกัน มยองซูจึงกล้าหยอกซองยอลเรื่องอาชีพของพ่อโดยที่ซองยอลโกรธได้
“นายไม่ต้องมาวิ่งตามฉันเลยนะ ... มันสมควรแล้วที่นายมาใส่ร้ายพ่อฉัน!”ซองยอลเบรกอย่างกะทันหันพร้อมกับนำกำปั้นของตัวเองยกขึ้นมาขู่มยองซูอีกครั้ง
“เออ ... เออ ขอโทษก็ได้”มยองซูเกือบจะเบรกตัวเองไม่ทันซองยอลเพราะถ้าเกิดล้มไปทั้งคู่คงต้องมีเรื่องกันอีกยาว
“ดี! กลับไปนั่งที่ซะที!”ร่างบางถอยหลังออกมาเพื่อจะกลับหลังหนีมยองซูได้เร็วขึ้น
“นายก็นั่งข้างๆฉันไม่ใช่หรอ?”
“เออ ...ใช่ อุ๊ย ... ขอโทษครับ”ในขณะที่ซองยอลถอยหลังอยู่นั้น เจ้าตัวก็รู้สึกถึงการชนเข้ากับใครบางคนอยู่ ซองยอลเงยหน้าขึ้นมองดู เขาคนนั้นเป็นคนที่นักเรียนทุกคนในห้องนี้ยกเว้นซองยอลไม่อยากให้มา
“กลับไปนั่งที่ได้แล้ว ... วิ่งเล่นกันเป็นเด็กๆไปได้”เสียงของคุณครูแก่สั่งนักเรียนที่ยังไม่รู้ตัวทุกคนให้กลับเข้าที่ ทำเอาเสียงเฮฮากลายเป็นตกใจไปแทนและกลายเป็นเสียงอิดออดตามมา
“อา ... ครูมาซะแล้วสิ ฝากไว้ก่อนเถอะ ซองยอล”มยองซูเดินนำหน้าไปยังข้างหลังสุดของห้อง เหตุผลที่เขาเลือกนั่งข้างหลังนั้นเป็นเพราะว่าไม่อยากอยู่ข้างหน้าให้ครูสังเกตสังการอะไร การบ้านไม่ต้องทำ หนังสือก็ไม่ต้องเอามาก็ได้ แต่ส่วนคู่อริของเขาอย่างซองยอลแล้วที่เลือกมานั่งข้างหลังก็คงเป็นเพราะตัวสูงมั้ง แต่ไม่สูงเท่าไหร่หนิ สงสัยสายตาคงจะยาว
“ขอโทษทีนะที่ครูมาช้าไปหน่อย ... พอดีว่าไม่สบายนิดหน่อยหนะ อืมม เอาหล่ะ! ต่อจากเมื่อวานเราเรียนถึงไหนกันแล้ว ...”ตอนนี้ทั้งห้องเรียนก็ตกอยู่ในสภาวะการเรียนที่เคร่งเครียดกับวิชาที่สุดเคร่งเครียดอย่างเคมี แต่ดูเหมือนมยองซูนั้นจะไม่ได้เคร่งเครียดกับมันซักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเก่งจนเรียนได้แบบสบายๆแต่มันกลับชวนงงและสงสัยคิดไปก็ปวดสมอง เลยทำให้เจ้าชายมยองซูพร้อมจะเป็นเจ้าชายนิทราได้เสมอ
“โอ้ย!”เสียงของมยองซูดังขึ้นแต่คนส่วนใหญ่ในห้องเรียนนั้นแทบจะไม่สนใจเสียงนั้นเลยคงจะเป็นเพราะว่ามันต้องมีทุกครั้งไปอย่างแน่นอน
“อย่านอน เข้าใจไหม?”ซองยอลกระซิบบอกมยองซูเบาๆ แต่มยองซูก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟังซองยอลเลยแม้แต่นิดเดียว เขายังคงตั่งหน้าตั่งตาจะหลับอยู่เรื่อย ทำเอาคนคอยห้ามใจอ่อน แต่อยู่ๆก็มีเสียงที่ไม่ได้มีทุกวันดังขึ้นมาทำเอาเรียกร้องความสนใจทุกคนในห้องได้
“แฮก แฮก”เสียงไอของคุณครูวัยชราที่กำลังสอนอยู่หน้าห้องนั้น ทำเอานักเรียนทุกคนตกใจเพราะเสียงไอนั้นมันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยถ้าเกิดว่ามันไม่มีเลือดไหลออกมาด้วย! ร่างของครูชราคนนั้นทรุดลงไปกับพื้นที่ถูกยกสูงขึ้น
“ครูครับ/ ครูค่ะ เป็นอะไรไหม?”นักเรียนทุกคนรวมถึงมยองซูที่อยากหลับวิ่งไปหาครูกันซะหมด เพราะถึงแม้ว่าครูทั้งดุด่าอย่างไรก็ยังเป็นครูของพวกเขาอยู่เสมอ พร้อมกับมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งอาสาพาครูไปห้องพยาบาล แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูห้องเรียนนักเรียนกลุ่มนั้นก็ทิ้งครูลงเสียงดังอย่างไม่ใยดี
“เฮ้ย!”เสียงของนักเรียนกลุ่มนั้นดังขึ้นพร้อมกันพร้อมวิ่งหนีมาอยู่รวมกับคนในห้องที่กำลังยืนกันเป็นกระจุก แล้วมีเสียงหนึ่งพูดตามขึ้นมา
“นี้ พวกนายโยนครูทำไม?!”เสียงของเด็กผู้หญิงดังขึ้นมาปนกับเสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นมาเหมือนกัน
“ก็พวกแกก็ดูเองสิ”หนึ่งในกลุ่มที่ทิ้งครูลงอย่างไม่ใยดีได้ชี้ไปทางครูชราที่กำลังนอนดิ้นอย่างทุรนทุรายอยู่ แต่นั้นไม่ได้ทำให้นักเรียนทุกคนตะลึกเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมๆกันมันน่ากลัวยิ่งกว่ามากเพราะตอนนี้ ผมสีขาวปนดำของครูชราได้ร่วงหล่นจนเกือบจะล้าน เล็บของครูชราเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเทาและยาวขึ้นอย่างหน้ากลัว เขาค่อยๆงอตัวทีละนิดแต่ทุกครั้งก็มีเสียงเหมือนกระดูกลั่นตลอดเวลา ร่างกายนั้นเริ่มเหี่ยวแห้งลงเรื่อยๆราวกับโดนสูบของเหลวในร่างการจนหมดสิ้น ผิวหนังที่เปลี่ยนเป็นสีเทาอมเขียวหุ้มกระดูกจนเห็นเป็นโครงร่างตามในหนังสือชีววิทยา ดวงตานั้นเริ่มเหมือนมีลิ่มเลือดเข้ามาปรกคลุมจนสีขาวสีดำของตานั้นได้หายไปเหลือแต่สีแดงฉานที่ดูน่ากลัว นักเรียนทุกคนต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ทุกคนต่างยืนมอง ขาสั่นไปตามๆกัน ร่างที่ดูเหมือนศพมากกว่าคนของครูชราได้ลูกขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย เสียงกระดูกก็ดังทันทีที่ร่างนั้นขยับกายของมัน ตาสีแดงราวกับเลือดนั้นจ้องมองมายังกลุ่มนักเรียนที่ยืนดูอยู่อย่างหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะวิ่งออกจากกลุ่มเพราะการกระทำแบบนั้น ทุกคนรู้ดีว่าย่อยตกเป็นเหยื่อของมันอย่างแน่นอน แต่ร่างการที่เหมือนศพนั้นเดินเข้ามาอย่างช้า
อย่างช้าๆ
เริ่มเป็นปรกติ
มันเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้น
มากขึ้น
มันวิ่งตรงมายังพวกเขาอย่างรวดเร็ว!!!
ตอนนี้นักเรียนทุกคนต่างวิ่งแตกตื่นกันหมด บางคนก็วิ่งออกไปเลย บางคนก็ยังเก็บของอยู่ ... แน่นอน ลี ซองยอลต้องเก็บหนังสือก่อนแน่นอน มยองซูที่กำลังจะวิ่งออกไปเหลือบไปเห็นซองยอลที่เก็บหนังสือพร้อมๆกับร้องให้ไปด้วยเหมือนคนบ้า มยองซูจึงรีบวิ่งไปช่วยซองยอลทันที
“อ้า!!!” เสียงโหยหวนของนักเรียนชายสองคนดังขึ้นพร้อมๆกัน ซองยอลที่สะพายกระเป๋าเป้ออกมาพร้อมกับมยองซูและคนอื่นๆหันไปดู ทั้งหมดนั้นทั้งตกตะลึกพร้อมกับอารมณ์เสียใจ เพราะตอนนี้ ร่างของนักเรียนชายทั้งสองนั้นถูกนิ้วยาวๆจิกหัวเอาไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา ร่างของครูชราที่ตอนนี้ราวกับเป็นศพที่เดินได้กำลังเลียเลือดที่ไหลออกมาอย่างชอบใจ มันจิ้มลงไปให้ลึกกว่าเดิม ทำให้ของที่เหมือนวุ้นสีเหลืองปนแดงไหลออกมา พร้อมกับดวงตาที่ข้างอย่างน่ากลัวของนักเรียนของทั้งสองนั้น นักเรียนทั้งสองถูกเจ้าศพตัวนั้นกัดแทะอย่างอเร็ดอร่อยท่ามกลางความแตกตื่นของนักเรียนทั้งหมด แต่ว่าร่างของทั้งสองคนไม่ถูกกินจนหมดสิ้นราวกับบางสิ่งบางอย่าง
“กริ๊ด!!!” เสียงของเด็กผู้หญิงที่น่าจะมาจากชั้น2หรือไม่ก็ชั้น3ดังขึ้นมา ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครที่กล้าขึ้นไปแม้แต่คนเดียว ยังไม่ทันที่ขาจะหายสั่น ร่างศพตัวนั้นก็เดินเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง ตอนนี้นักเรียนต่างวิ่งออกมายังนอกตัวอาคาร แต่สิ่งที่น่ากลัวนั้นคือนักเรียนที่สายตาสั้น กำลังหาแว่นของตัวเองอยู่ใกล้กับบริเวณเจ้าศพตัวนั้น ทุกคนต่างตะโกนเรียกของนักเรียนคนนั้นแต่ไม่ทันเสียแล้ว...
“อ้า!!!” ซองยอลน้ำตาไหลพรากด้วยความกลัวจับใจ ตอนนี้มีเพียงคนข้างๆเท่านั้นที่ทำให้ซองยอลอุ่นใจได้ ร่างของนักเรียนชายคนนั้นเพียงแค่ถูกเล็บยาวๆของมันฟาดไปที่กลางหลัง แต่เลือดนั้นไหลออกมาไม่หยุด ร่างของครูชราที่เป็นเหมือนศพเดินได้ตนนั้น ก้มลงไปเลียเลือดที่ไหลออกมาอย่างหิวกระหาย
“ไม่เป็นไร ... แค่นายอยู่ข้างๆฉันก็พอ ลี ซองยอล”เสียงนั้นกระซิบข้างหูของซองยอล น่าแปลกที่คำพูดของคู่อริทำให้จิตใจของซองยอลเย็นลงได้ขนาดนี้
ทุกอย่างมันยังไม่จบ เพียงแค่นั้นยังไม่จบหรอก ร่างไร้วิญญาณของเพื่อนในห้องรวมทั้งร่างไร้วิญญาณของคนทั้งอาคารก็เหมือนจะขยับร่างนั้นได้ราวกับมีคนมาชักใยเอาไว้ ร่างทั้งหมดนั้นเริ่มแสดงอาการออกมาทีละนิด ทำให้คนที่เหลืออยู่ ถึงกับหน้าซีดไปหมด เพราะศพพวกนั้นกำลังมีอาการเหมือนกับที่ครูชราคนนั้นที่ตอนนี้กลายเป็นปีศาจไปแล้ว
“ทุกๆคน ... หนีเร็ว!”เสียงของมยองซูดังขึ้น ทุกคนต่างวิ่งหนีอย่างไว้คิดชีวิต พวกศพเดินได้ทั้งหลายก็เดินเบียดกันลงมาอย่างเบียดเสียดกัน มือของมยองซูจับมือของซองยอลเอาไว้แน่น ความรู้สึกอบอุ่นจากมือของมยองซูทำให้ซองยอลสบายและคิดที่จะตามมยองซูไปอย่างแน่นอน
“มยองซู ... ขอบคุณ”ซองยอลเอ่ยขอบคุณมยองซูขณะที่วิ่งหนีฝูงตัวประหลาด ตอนนี้พวกเขาวิ่งอยู่นำหน้าทุกคนแต่ซองยอลนั้นเป็นคนที่วิ่งช้ามากแต่เขาแทบจะไม่เหนื่อยเลย
“อะไร? … เป็นบ้าหรือไงเนี้ย มาขอบคุณอะไรตอนนี้ ไว้เดี๋ยวถ้ารอดไปก็หย่าลืมเลี้ยงข้าวฉันหล่ะ”ทั้งสองนั้นวิ่งไปด้วยความเร็วที่เท่ากัน ลมหายใจของทั้งสองนั้นประสานกัน และพวกเขาก็หวังว่าจะรอดไปด้วยกัน
ZGen------------------------------------ZGen----------------------------------------ZGen
สวัสดีเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกๆคนครับผม มาเปิดตัวนิยายใหม่(ทั้งที่นิยายเก่ายังไม่ถึงไหนเลย) ผมพยายามหาแนวที่มันแตกต่างจากอันเดิมให้มากๆครับ หวังว่าทุกคนจะชอบกัน (มีหลายคู่มากอ่ะ!) ยังไงนิยายเก่าก็พยายามต่อให้ได้ครับ เพราะตอนนี้ปิดเทอมแล้ว ยิปปี้! ยังไงถ้าอยากจะด่าผมเรื่องลงนิยายช้าก็ด่ามาเลย! (ด่าในใจนะ อิอิ) ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้มนอ้อมอกอ้อมใจแม่ยก myungyeol หรือคู่อื่นๆด้วยนะครับ (เช่น HaeEun Sudo ใน infinite ใน SJ ใน EXO ก็อีกเยอะเลยนะ) ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะครับ
ใจของคนอ่าน : มันเก่งจุงเบย เขียนคำปิดท้าย ยาวกว่านิยายอีก เอาเวลาไปแต่งเรื่องเก่าให้จบดีกว่าไหม?!
ความคิดเห็น