คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : V โชคร้ายในความโชคดี
ผมยาวสีดำเงางามถักเป็นเปียเดียวแล้วม้วนเป็นมวยกลางศีรษะได้เข้ารูปพอดี ด้านหน้าหวีแสกกลางเรียบร้อยไม่โป่งพอง มีผ้าสีแดงผูกไว้แล้วทิ้งชายลงมาทั้งสองข้างไม่ต่างไปจากทาเทียน่าเลยยกเว้นผ้าสีขาวเท่านั้น มันทำให้เธอต้องปล่อยมือที่บีบไว้พลางเดินถอยห่างออกมา เมื่อเจ้าตัวรู้สึกว่าไม่มีใครมาออกแรงกดข้อแล้วจึงลดแขนลงก่อนจะหมุนตัวหันมาเผชิญหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นคือนัยน์ตาสองคู่เบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่ใครจะทันพูดอะไรออกมา คนหนึ่งก็ชูนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ ไม่ผิดหวังเพราะอีกฝ่ายก็ทำสัญลักษณ์แบบเดียวกันตอบมาพลางเดินมาหา
"แอลพีก็ย่อมเป็นแอลพี"
"กิ๊ฟว์มีไฟฟ์!" แล้วมือขวาของสองคนก็เปลี่ยนมาปรบเข้าหากันทีหนึ่ง ตามด้วยร่างที่โถมเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะดังคลอเคล้ากันไป จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็นั่งลงแล้วพับเอาผ้าคลุมสีดำปูพื้นรองข้อศอกในการประสานมือกันงัดข้อ จะดันเท่าไรก็ไม่ชนะเสียที ผลัดกันเอียงเข้าเอียงออกจนในที่สุดก็เลิกราไป
"ฮ่าๆๆ กี่ปีมาแล้วนะ สี่ปีเนอะ ไม่คิดว่าจะมาเจอกันได้ โลกกลมจริงๆนั่นแหละ"
"ก็รอสมาชิกคนสุดท้ายกลับมาน่ะเซ่"
"งี้ก็แสดงว่าคนอื่นๆก็อยู่นี่หมดอะดิ"
"ใช่แล้ว เจ๊" เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น ทาเทียน่าหันไปมองพร้อมกับรอยยิ้ม ครบแล้วสำหรับแก๊งแอลพี ลูซิเฟอร์ แฟนทัม (Lucifer Phantom)
เด็กหญิงผู้ผูกผ้าสีชมพูอ่อนเหมือนสีของเสื้อและฮาคามะสีม่วงเข้มยืนระหว่างเด็กชายสองคน คนทางซ้ายสวมเสื้อสีน้ำเงินฮาคามะสีขาว ส่วนคนทางขวาสวมเสื้อสีเขียวน้ำทะเลกับฮาคามะสีดำ เขาทั้งคู่ต่างก็คาดผ้าสีเดียวกับเสื้อรอบศีรษะและทิ้งชายไว้ด้านหลัง จุดสำคัญที่บอกให้รู้ว่านี่คือสมาชิกในกลุ่มคือปลายผ้าที่ผูกหรือคาดไว้ทั้งสองด้านจะมีสัญลักษณ์คล้ายคทาของนักบวชในวิหาร ส่วนหัวนั้นเป็นวงกลมมีดาวห้าแฉกอยู่ตรงกลางทับด้วยกากบาททั้งสองด้านซึ่งใจกลางเป็นช่องวงกลมที่มองทะลุผ่านไปได้ ด้านบนมีลวดลายสวยงามจนถึงส่วนกลางที่ปลายทั้งสองจะห้อยท่อนโลหะทรงกระบอกขนาดสั้นและยาวตามลำดับ ด้านล่างจะมีห่วงคล้องข้างละหนึ่งคู่ ล้วนแล้วแต่เป็นสีทองทั้งด้ามยกเว้นปลายด้านบนที่จะมีสีแดง
"โซระ! ซารังโย! ปอร์ชเปโชรา!" ชื่อถูกไล่เรียงตามลำดับผู้ที่ยืนจากซ้ายไปขวาโดยไม่ตกหล่นคำใดๆไปเลย เพื่อนชาวเมืองเกิดมาอยู่ที่เอเดนกันทุกคนรวมถึงเพื่อนที่เคยหายหน้าหายตาไปไม่มีแม้แต่ข่าวคราวก็ด้วย และเหมือนจะรู้สึกตัวว่ากำลังจะทิ้งเพื่อนชาวซานาร์กันด์ให้ยืนค้างอยู่นอกวง จึงชวนเข้ามาทำความรู้จักกันเสีย
"พรรคพวก มารู้จักกันและกันหน่อยนา นั่นเจ้าชายโจนาธานแห่งซานาร์กันด์ โน่นแซมมวลนักเวทฝึกหัด และนี่ธีโอดอร่า เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ทาเทียน่าบอก
"อ้าว ผู้หญิงหรอกเรอะ นึกว่าเป็นผู้ชายซะอีก" หนึ่งในนั้นพูดขึ้นอย่างเสียดายที่เทพบุตรสุดหล่อกลับกลายเป็นนางแปลงซะนี่ แต่ก็ทำให้อีกหนึ่งในนั้นมองด้วยสายตากรุ้มกริ่มซึ่งทำให้เจ้าตัวต้องเสไปมองทางอื่นด้วยความไม่พอใจ
"และนี่ เพื่อนร่วมกลุ่มก่อนจะอพยพหนีมา นี่ลาวิเนีย นั่นซารังโย นู่นปอร์ชเปโชรา และนู้นโซระ"
เฮอะ โซระ คนอะไร้ชื่อผู้หญิงชะมัด ดีนะที่ไม่นั่งตรงข้ามกัน ไม่งั้นมีหวังได้หาอะไรทำความสะอาดลูกตาแทบพลิกแผ่นดินเป็นการใหญ่แน่ๆ
อื้ม เท็ดดี้ ชื่อหมีที่น่ารักน่ากอด รู้แล้วสินะว่าสายที่ผมมองคุณเป็นยังไง เอเถอะแม่แมวป่า แล้วผมจะสอนให้คุณรู้ซึ้งถึงความเป็นผู้หญิงเลยทีเดียว
เฮ้ย ไอ้ฟ้า นายนี่มันกระตุกหนวดเสือเลยจริงๆ ไม่ง่ายอย่างที่คิดนะเฟ่ย บอกก่อน
"แล้วเป็นไงมาไงถึงได้มาอยู่นี่กันหมดล่ะ?" เธอถามเหล่าเพื่อนๆตัวดี ทำเอาทุกคนมองหน้ากันไปมาก่อนพร้อมใจกันชี้ลงตรงหน้าลาวิเนีย
"ก็เพราะคุณหญิงลาฟเธอเกิดเล่นพิเรนทร์ ไปเชื่อคำพูดของพวกหมอดูทั้งหลายว่าจะมาเจอเธอที่นี่น่ะซี พี่แกก็เลยแบ็กแพ็กแล้วลากพวกเรามา ที่ไหนได้อยู่มาเกือบสองปี เพิ่งมาเจอเอาก็วันนี้แล" ซารังโยได้ทีฟ้องความดีความชอบของเจ้าตัวที่อุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนในกลุ่ม ถึงขนาดอดใจรอไม่ไหวต้องรีบข้ามน้ำข้ามมิติมารอล่วงหน้า ซึ่งแรกๆก็สะบักสะบอมเพราะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไปๆมาๆจึงคลำเชือกถูกก็เลยกลายเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่คนถึงระดับความสามารถ
"แล้วเธอล่ะ? ไม่คิดจะเล่าอะไรให้ฟังบ้างเลยใช่มั้ย?" ลาวิเนียถามกลับด้วยความน้อยใจนิดๆ
"ก็ได้ๆ ก็หลังจากวันนั้นที่ฉันหนีมาน่ะนะ เกิดมีพวกสะกดรอยตามมา คราวนี้พี่ใหญ่กับพี่รองก็เลยสั่งสละรถหนีกระจัดกระจายกันหมด จะได้มีคนรอดถ้าถูกจับ ฉันก็วิ่งซะเหนื่อยหอบเลยล่ะ คราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี กลัวว่าจะถูกตามเจอก็เลยหาที่พักในพงไม้ชั่วคราวก่อน ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน รู้แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็มาอยู่ที่บ้านของนักบุญพ่อทูนหัวคนนี้ แล้วฉันก็ดำเนินชีวิตในซานาร์กันด์มาเรื่อยๆจนมีเหตุโดนส่งมาที่นี่ไง" ทาเทียน่าเท้าความหลังอย่างคร่าวๆ
"เรื่องตำนานกุญแจครองโลกนั่นน่ะนะ!?" ปอร์ชเปโชราอุทานลั่น
"นี่อย่าบอกนะว่าพวกนายก็รู้?"
"ถ้าไม่รู้ก็คงไม่พยายามฝึกตัวเองหยั่งงี้หรอก" โซระตอบสบายๆ สายตาไม่ละไปจากใบหน้าของธีโอดอร่าเลย สำหรับซารังโยดูเหมือนว่าจะพูดอะไรๆที่สำคัญแต่ก็ทุบคอเบาๆเพื่อเรียกความทรงจำที่เพิ่งเก็บใส่ลิ้นชักไว้ออกมา คิ้วบางขมวดมุ่นดูเครียดๆกับเรื่องนี้เพราะรู้สึกว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
"เอ่อ น้องฮะ คืออยากให้น้องช่วยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนี่หน่อยนะฮะ อย่างเรื่องแผ่นยันต์อะไรนั่น" โจนาธานแทรกการสนทนาที่ดูท่าว่าหากไม่รีบขัดคงได้ขุดคุ้ยเรื่องราวตลอดสี่ปีขึ้นมาถกประเด็นกันแน่
"อ้อ ได้คับเพ่ พ้มล่ะซาบซึ่งซึ้งถึงจิตเลยทีเดียว เริ่มเลยนะฮะ โลกนี้ถึงจะดูสวยสดงดงามก็จริง แต่มันก็เป็นเหมือนเกมเกมหนึ่งเท่านั้น มีต่อสู้ มีหลบหนี มีแย่งชิง มีสะสมของ มีเสียของ และก็...ตาย" คำพูดสุดท้ายที่ปอร์ชเปโชราเอ่ยมันทำให้ผู้มาใหม่ต้องขนลุกชันด้วยความกลัว ความตาย...งั้นรึ บ่ยั่นหรอก ความจริงทุกคนเกิดมาก็ต้องตายด้วยกันทั้งนั้น ดีแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่...จะมาตายในที่แบบนี้รึ ตายอย่างโดดเดี่ยวเนี่ยนะ ไม่ได้พบหน้าค่าตาพ่อแม่พี่น้องญาติๆทั้งหลาย ไม่ได้สั่งลาอะไรสักนิดก่อนชีวิตดับสูญ ไม่ได้เล่นสนุกกับเพื่อนพ้องอีกต่อไป ไม่ได้เห็นอนาคตอันสดใสข้างหน้า และไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองปรารถนาที่จะทำให้สำเร็จ
"ต่อนะครับ ผมสังเกตเห็นว่าพวกพี่ไม่ได้สนใจกับสมุดในกระเป๋านัก แต่อย่าดูถูกนะฮะ นั่นน่ะคือสมุดใส่การ์ดหรือไพ่ทั้ง 54 ใบ เรียงลำดับตามความง่ายไปยาก จากซ้ายไปขวา หน้าไปหลัง สังเกตง่ายๆก็ตรงสีของแผ่นกระดาษที่จะกำหนดระดับพลังในการใช้ ส่วนไพ่เนี่ย 52 ใบใช้ตามชื่อที่บอกแล้วใส่ออน (ON) ลงไปข้างท้าย ซึ่งมันจะเผาตัวเองทันทีที่พลังหมดจากการถูกเรียกใช้ หมายความว่า ใบหนึ่งต่อการใช้ครั้งหนึ่ง ถ้าจะก็อปปี้ไพ่ล่ะก็อย่าหวังเพราะแทนที่จะทำได้กลับถูกดูดพลังของตนไปเสียนี่"
"ผมเป็นพยานได้ครับ" โซระเสริมบทขึ้น
"ก็เพราะไอ้ฟ้านี่แหละที่เกิดหัวใสไอเดียกระฉูดก็อปปี้การ์ดระดับสูง เลยถูกดูดออร่าตัวเองไป โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน" ปอร์ชเปโชราแกล้งถอนหายใจเสียงดังข้างเจ้าเพื่อนตัวดีทื่ทำหน้าทำตาระรื่นชื่นบาน ก็น่าอยู่หรอกนะ เพราะโซระเป็นเด็กที่นอกจากจะล่องลอยไปมาอย่างกับปุยเมฆบนอากาศกว้าง ไม่มีท่าทางว่าจะเริ่มทำอะไรแล้วเป็นอะไร ไม่เคยอยู่เฉย เดี๋ยวก็โผล่ตรงโน้นที เดี๋ยวก็โผล่ตรงนี้ทีแล้ว เขายังมีความสามารถหลายอย่างที่ซ่อนไว้แม้แต่สหายในกลุ่มยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ยิ่งเจ้าตัวเค้าไม่ค่อยจะเปิดเผยอยู่ด้วยจนกว่าจะถึงเวลา 'คับขันเข้าขั้นวิกฤตจริงๆ' เท่านั้น
"วิธีที่จะให้ได้มันมาก็มีนับร้อย ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน ขโมย ชิงจากการประลอง มีหมด แล้วแต่ว่าจะเลือก" ลาวิเนียช่วยอธิบายเพิ่มอีกแรง
"ส่วนอาวุธที่ใช้นั้น เราสามารถใช้ได้ทุกอย่างที่นำมาจากโลกเราหรือจะหาซื้อเพิ่มจากที่นี่ก็ได้"
"พวกเราคาดการณ์เอาไว้กันล่วงหน้าแล้วว่าอาจมีบุคคลมาเพิ่มอย่างมากก็ซัก 3 - 4 คน จึงสะสมเงินเอาไว้มากพอที่จะเฉลี่ยแบ่งให้คนละ 2 โรลส์รอยด์ 5 ปอร์เช่ 10 โฟล์คสวาเก้น" โซระบอกด้วยท่าทีแสดงถึงความภูมิใจ ยังไม่ทันขาดคำ เหรียญทอง เงิน ทองแดง และแสตนเลสก็ปรากฏขึ้นในอุ้งมือของผู้มาใหม่ตามจำนวนที่บอก รวมถึงค่าเงินในสมุดที่ตนเองครอบครองก็เปลี่ยนจากศูนย์เป็นเลขตามจำนวนจริง
"พวกนายไปหาจากไหนมาตั้งเยอะตั้งแยะ?" ธีโอดอร่าถามขึ้น
"ตลอดสองปีมาเนี่ย พวกกระผมก็พยายามฝึกฝนพัฒนาตัวเองจนมีระดับความสามารถและการหาเงินก็หลากหลายวิธีจนมีดังที่เห็นแหละขอรับ แม่นางน้อย" โซระปรับท่าทางให้ดูเป็นสุภาพบุรุษ นุ่มนวล อ่อนโยน วาจาที่เอื้อนเอ่ยอ่อนหวานประหนึ่งชายชาตรีพูดกับนารีที่ตนหมายปอง ทำเอาเธอหน้าบูดบึ้งด้วยความไม่สบอารมณ์ และเพื่อนในกลุ่มถึงกับสำลักชักดิ้นชักงอไปตามๆกัน
"เอ่อ...คุณลาวิเนียครับ โปรดมองตาผม มองลึกสุดเข้าไปข้างใน คุณจะเห็นว่าหัวใจผมมีแต่คุณเท่านั้นนะครับ" ทาเทียน่าดัดเสียงเอ่ยล้อโดยจับเพื่อนที่นั่งข้างๆเป็นตัวแสดงแทนทอมบอยหัวเงิน ซึ่งก็ตีบทแตกต่อกันคือไม่แม้แต่จะชายตามามอง
"โธ่ ลาฟครับ อย่าให้ 'ลิเวอร์พูลยิงลูกเดียวยังเข้าชิง ผมซิยิงหมดใจได้แต่มอง' เลยนะครับ มันเจ็บไปถึงข้างใน" คราวนี้เหล่าบรรดาคนฟังต้องทำท่าอาเจียนเอาความเลี่ยนออกมาจากกระเพาะเสียให้ได้ ไม่น่าเชื่อว่าสี่ปีที่ผ่านมา เด็กที่ขึ้นชื่อว่าติ๋มๆหงิมๆที่สุดในกลุ่มจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
"ไม่น่าเชื่อนะว่าคำพูดแนวนี้จะออกมาจากปากธิดาคิงแห่งอัสรานเนีย นี่ถ้าเป็นผู้ชายแล้วอายุมากกว่านี้ซัก 5 6 ปีนะ ถูกขึ้นบัญชีทำเนียบเพลย์บอยแหงๆ" ลาวิเนียหมดอารมณ์ต่อบทกับเจ้าตัวไปดื้อๆ พลางนึกสภาพตามที่ตนบอกไป แต่แล้วซารังโยก็โพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ โดยมีกุญแจนำทางเป็นคำบางคำในประโยคเมื่อครู่อันนำมาสู่การไขเปิดลิ้นชักความจำตอนหนึ่งออกมา
"เป็นอะไรไปโย?" ปอร์ชเปโชราถามคนที่นั่งข้างๆอีกฝั่งหนึ่ง
"ฉันนึกออกแล้วว่ามีเรื่องอะไรจะบอกกับทาทา เสียแต่ลืมไปพักนึง ดีที่ลาฟช่วยสะกิดเตือนให้ ฟังดีๆนะ เรื่องของเรื่องก็คือเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ ฉันปลีกตัวไปแวะร้านร้านหนึ่งระหว่างทาง จำได้มั้ย? ระหว่างที่ตามมาสมทบบังเอิ๊ญได้เห็นเข้าพอดี ทีแรกก็คิดว่าตาฝาดไปละมั้ง พอลองตามด้อมๆมองๆดูอีกที คราวนี้แหละของแท้ ได้ยินแล้วอย่าเอ็ดเสียงดังไปล่ะ" ระดับความดังเริ่มหรี่ลงเป็นเพียงเสียงกระซิบ ทำให้เจ็ดคนที่เหลือต้องเขยิบเข้ามาใกล้ๆ เพื่อกันไม่ให้ตนพลาดโอกาสที่จะรับรู้สิ่งต่อนี้ไป
"แทสมัน ชาร์ลสโลวิช มาร์เซยแยส เจ้าชายรัชทายาทองค์ปัจจุบันแห่งอัสรานเนีย อยู่ที่นี่น่ะซี" เพียงเท่านี้ก็ทำเอาขวัญของแต่ละคนแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ทุกคนมองหน้าซารังโยแล้วพร้อมใจกันหันมาดูท่าทีของทาเทียน่า นัยน์ตาสีเทาจ้องเขม็งที่พื้นหญ้าอันอ่อนนุ่มคล้ายจะเฉือนออกเป็นชิ้นๆด้วยคมแวววาวประหนึ่งเพชรน้ำเอกแห่งเหมืองเบโลเซอรสก์ แทสมัน เด็กชายผู้เกิดวันเดือนปีและเวลาเดียวกันกับเธอ แต่ทว่าความคิดรวมไปถึงอุปนิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน อาจจะมีนานๆครั้งที่ตรงกันเช่นสายน้ำสองสายไหลมาบรรจบเป็นหนึ่งเดียว เขาคือคนที่เธอแพ้ทางมากที่สุดและแทงใจในสิ่งที่เธอกลัวหรือเกลียดที่สุดเมื่อครั้งยังเด็ก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาเธอได้ยินชื่อแม้แต่พยางค์เดียวจึงรู้สึกอาฆาตแค้นได้ถึงเพียงนี้
"แทสมัน ใคร?" แม่ทอมบอยเอ่ยถาม แต่กลับได้รับคำตอบเป็นสายตาดุและมือที่ลอยมาปิดปากแทน แอลพีเหลือบไปมองเธออีกครั้ง
"ช่างเถอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คงต้องเจอกันสักวันแน่ เอาล่ะ เท็ดดี้ แซมด้วย ฟังให้ดีล่ะ ฉันจะย้อนเล่าไป 2 รุ่น คือ ท่านปู่ฉัน ท่านมีลูกชาย 2 คนคือ ท่านลุงหรือกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และท่านพ่อ เมื่อ 20 กว่าปีก่อนท่านพ่อได้ครองบัลลังก์เพราะตามหากุญแจนั่นเจอแล้วนำกลับมา แต่พอวันที่สวมมงกุฎก็เกิดหายไป ท่านแต่งงานกับแม่แล้วมีลูก 4 คน ตามกฎเค้าว่า ถ้าคิงองค์ปัจจุบันมีโอรสให้ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารนั่นคือพี่ใหญ่ของฉัน แทนใครก็ตามที่ดำรงตำแหน่งนี้อยู่เดิมก็คือท่านลุง ซึ่งก่อนหน้านั้นท่านลุงได้แต่งงานกับเลดี้ไดอาน่า ผู้หญิงที่นับว่าสวยที่สุดในราชสำนัก แล้วก็มีเจ้าหญิงเจนนิเฟอร์หลังพี่ใหญ่พี่รองเกิดได้เดือนเดียว แต่อยู่ๆท่านลุงก็ไปมีชายาอื่นซึ่งก็คือ คามิลล่า ปรากฏว่า 3 ปีต่อมาก็ได้เด็กแฝดคู่หนึ่งคือเจ้าหญิงรีเบกก้ากับเจ้าหญิงริเวียร่า และในปีที่ฉันเกิด คามิลล่าก็ให้กำเนิดแทสมัน แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มอำนาจให้นางมากกว่าเดิม ยิ่งวันที่ท่านลุงขึ้นเป็นคิง แทสมันก็ได้ตำแหน่งของพี่ฉันไป เป็นการยกระดับคามิลล่าให้เทียบเท่าควีนไดอาน่าโดยนัยหนึ่งเลยทีเดียว ที่ฉันเล่าไปถูกต้องตามนี้ใช่มั้ย ลาฟ?"
"อื้ม เธอนี่เชื่อมเหตุและผลเก่งชะมัด แต่มีเรื่องน่าสนุกกว่านั้นอีก ก็ท่านเจ้าชายแทสมันน่ะซีดันปฏิบัติตัวไม่เป็นที่ถูกใจพระมารดา ท้าวเธอเล่นสุภาพอ่อนน้อมมีสัมมาคารวะและอยู่กับควีนท่านเป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่เพียงเท่านี้นะ ยังเคารพเจนนิเฟอร์ยิ่งกว่ายัยแฝดนรกนั่นเสียอีก เลยทำให้ใครๆที่ได้เห็นพลอยนึกว่าแทสมันเป็นโอรสสุดประเสริฐในควีนท่านซะอีก"
"ยังๆ ยังมีอีกนะ ได้ข่าวมาว่าแทสมันก็เข้ากับคัลลิแนน เจ้าชายองค์น้องในควีนท่านที่อายุพอๆกับแพททริคได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย เหมือนว่าควีนท่านรับเป็นลูกคนกลางก็ได้ จนเมื่อวันไหนวันหนึ่งก่อนที่เราจะมาเจอเธอก็ได้ข่าวคราวมาว่า เขาไปขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีพระบรมราชโองการ...ยังไงดีล่ะ ก็เหมือนๆกับว่า ประกาศให้เขาเป็นโอรสในควีนท่าน ไม่ใช่คามิลล่าน่ะนะ ฮิๆๆๆ สมน้ำหน้าชะมัด" ซารังโยหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ผิดกับอีกหนึ่งสาวและสองหนุ่มที่เหลือในแอลพี
"แปลก" โซระเอ่ยขึ้น
"ใช่ แปลกๆ" ปอร์ชเปโชราต่อ
"อีกแล้ว พอพูดเรื่องนี้ทีไร นายสองตัวก็พูดแบบนี้ทุกที นับได้เกือบร้อยครั้งแล้วมั้ง"
"แต่ฉันก็เห็นด้วยนะโย เรื่องนี้มันทะแม่งๆยังไงชอบกล"
"มองโลกในแง่ลบอีกแล้ว นี่ ฉันขอเถอะนะ ไอ้นิสัยพรรค์นี้เนี่ย ลบออกไปจากตัวเธอได้มั้ย?" ซารังโยบอกไปตามความรู้สึกของตนที่ไม่อยากให้เพื่อนจมอยู่ในบ่อแห่งความเคียดแค้น
"ฉัน..." ทาเทียน่าเริ่มสับสนในความคิดของตน เมื่อเป้าหมายเริ่มสั่นคลอนเพราะคำพูดของเพื่อนรัก
"ฉัน..."
"สัญญากับฉันได้มั้ย?"
"ฉัน..."
กลัวเหรอ หญิงทาทา...
เด็กหญิงหันไปมองรอบๆคล้ายจะหาเจ้าของเสียงนี้ แต่กลับไม่พบใคร ไม่เห็นแม้แต่คนเดียว! มีเพียงความมืดที่รายล้อมตัวเธอเอาไว้
แล้วยังไงล่ะ เธอจะทำยังไงต่อไป อยู่ตัวคนเดียว ฮะๆๆ อุตส่าห์ทำตัวเฮฮาบ้าบอได้ขนาดนี้ สุดท้ายก็ไม่เหลือเพื่อนสักคน น่าสงสารนะ ว่ามั้ย หญิงทาทา
ทาทา ฉันไม่ชอบเธอ
ขอร้องล่ะ ช่วยอยู่ห่างๆหน่อยได้มั้ย ไปไกลๆเลยก็ได้ถ้าจะกรุณา
อย่ามายุ่งได้มั้ย!
นึกว่าเป็นเจ้าหญิงแล้วเราจะกลัวหรอกนะ ไปให้พ้นๆหน้าเลยไป
เสียงหลายเสียงดังตีกันไปมาจนแทบฟังไม่ออก ล้วนกดดันและเสียดแทงใจเธออย่างยิ่ง มีภาพเพื่อนพ้องทั้งที่เธอสนิทด้วยและไม่สนิทด้วยลอยไปมาเต็มไปหมดซึ่งมองเธอด้วยความสมเพช ท้ายที่สุดเธอก็เห็นแทสมันเดินมาหาเธอที่นั่งกอดเข่า
เธอมันคนอ่อนแอ คนอ่อนแอไม่สมควรมีชีวิตอยู่ เธอต้องตาย ตายอย่างเงียบๆโดดเดี่ยวไม่มีใครรู้ เพราะไม่มีใครเห็นเธอเป็นเพื่อนเธอสักคน!
"หยุดนะ...!!!"
ความคิดเห็น