กระต่ายสีฟ้าบนพระจันทร์สีน้ำตาล - นิยาย กระต่ายสีฟ้าบนพระจันทร์สีน้ำตาล : Dek-D.com - Writer
×

    กระต่ายสีฟ้าบนพระจันทร์สีน้ำตาล

    ใครกันเล่าช่างจินตนาการมองรูปทรงที่ปรากฏบนดวงจันทร์กลมโตนั้น เป็นรูปกระต่ายน้อย กระต่ายหนึ่งตัวที่อาจเฝ้ารอคอยใคร...หรือสิ่งใด...

    ผู้เข้าชมรวม

    606

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    606

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ธ.ค. 52 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กระต่ายสีฟ้าบนพระจันทร์สีน้ำตาล

    "

    กระต่ายบนดวงจันทร์"

    ใครกันเล่าช่างจินตนาการมองรูปทรงที่ปรากฏบนดวงจันทร์กลมโตนั้น

    เป็นรูปกระต่ายน้อย

    กระต่ายหนึ่งตัวที่อาจเฝ้ารอคอยใคร

    ...หรือสิ่งใด...

    แต่หากเรื่องราวของกระต่ายบนดวงจันทร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการ

    แล้วใครจะเชื่อเล่าว่าบนดวงจันทร์นั้นจะมีกระต่ายน้อยอาศัยอยู่จริงๆ

    เพราะเมื่อครั้งที่มนุษย์ก้าวขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์เมื่อนานมาแล้วนั้น

    ก็ไม่เห็นมีกระต่ายน้อยออกมาเปิดบ้านต้อนรับทักทาย

    แล้วก็ไม่มีธงกระต่ายโบกสะบัดปักอยู่บนดวงจันทร์

    อันแสดงความเป็นเจ้าของแต่อย่างใด

    แต่หากจะขอบอกเล่าต่อไปว่า

    บนดวงจันทร์นั้นมีกระต่ายอยู่หนึ่งตัว

    โดยที่กระต่ายตัวนั้นรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่

    จึงไม่ได้ออกมาเปิดบ้านต้อนรับทักทายมนุษย์โลกชาวอเมริกัน

    เพราะมนุษย์ที่มาเยือนไม่ใช่สิ่งที่กระต่ายน้อยลอยคอ

     

    .ในครั้งนั้น...และรอคอย...

    เมื่อเนิ่นนาน

    ...น๊าน....นาน...

    บนดวงจันทร์นั้นมีกระต่ายอาศัยอยู่มากมาย

    หากจะให้นับแล้วก็มีอยู่ทั้งหมด

    1...2...3...4........503 ตัว (นับเร้ว เร็ว ^_^)

    โดยกระต่ายแต่ละตัวจะอาศัยอยู่ภายในห้องของตน

    บนดวงจันทร์จึงประกอบไปด้วยห้องหับ

    ของกระต่าย

    โดยสิ่งที่เรามองเห็นเป็นรูปร่างคล้ายกระต่ายที่ปรากฏอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์นั้น

    เป็นรูปทรงของห้องหับที่กระต่ายอาศัยอยู่นั่นเอง

    503 ห้อง503 ตัว

    และเหตุการณ์ที่จะปรากฏอยู่เกือบทุกวันกับชีวิตของกระต่ายทั้ง

    ก็คือ การหายตัวไปของกระต่ายทีละตัว

    โดยเริ่มต้นจากการหายตัวไปของกระต่ายห้องหมายเลข

    503 ตัว 1

    และเรียงลำดับไปเรื่อยๆ

    แต่ถึงแม้การหายตัวไปของกระต่ายจะเรียงลำดับไปเรื่อยๆ ตามเลขของห้องก็ตาม

    แต่ก็ใช่ว่าการหายตัวไปในแต่ละครั้งนั้นจะเกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน

    ระยะห่างของการหายตัวไปอาจเป็น

    แล้วแต่กรณี หรือแล้วแต่อะไรนั้นก็ไม่มีใครทราบได้

    จึงไม่มีกระต่ายตัวใดรู้แน่ว่าตนเองจะต้องหายไปจากดวงจันทร์ในวันใด

    กระต่ายทุกตัวจึงใช้เวลาร่วมกันทุกวินาทีในทุกๆวันอย่างคุ้มค่า

    1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี

    มีเพียงกระต่ายน้อยห้อง

    โดยไม่ใกล้ชิดจนเกินไปและไม่ห่างเหินจนเกินควร

    จึงทำให้กระต่ายตัวอื่นๆ มองว่า

    กระต่ายห้อง

    ไม่ได้มอบความรู้สึกดี ดี ทั้งหมดให้กับพวกเขาอย่างเต็มที่

    503 เท่านั้นที่พยายามรักษาระยะห่างของสัมพันธภาพนั้นไว้503 นั้น

    แต่ในทางกลับกันใครเล่าจะคิดบ้างว่า

    เหตุผลภายในหัวใจดวงน้อยของกระต่ายตัวน้อย ณ ห้อง

    คือการปกป้องทั้งหัวใจของเพื่อนกระต่าย

    และหัวใจของตนเองหากถึงวันที่ต้องพรากจากกัน

    ซึ่งหากความสัมพันธ์ที่ดีที่ต่างร่วมสร้างกันขึ้นมานั้น

    ได้สร้างความผูกพันเหนียวแน่นดั่งเกลียวเชือกขึ้นมาด้วยแล้วล่ะก็

    เมื่อถึงวันที่ความพลัดพรากมาฉุดกระชากลากถู

    ผู้ที่ต่างเรียกกันและกันว่าเพื่อนนั้นจากไป

    503 นั้น

    เส้นเชือกแห่งความ

    ใครเล่าจะตระหนักรู้บ้างว่า

    เส้นเชือกแห่งความผูกพันนั้น

    ยิ่งเหนียว ยิ่งแน่น ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งฟูมฟาย

    ผูกพันที่ต่างร่วมกันถักทอขึ้นมานั้น

    ดังนั้น

    กระต่ายน้อยจึงเลือกที่จะรักษาระยะห่างในความสัมพันธ์ไว้

    อันการรักษาระยะห่างไม่ใช่การไม่มอบความรัก

    แต่การรักษาระยะห่าง

    และการรักษาระยะห่างคือความรักที่ไม่

    การปล่อยให้เหล่าคนที่ตนรักเป็นอิสระทั้งจิตใจ ตัวตน และความคิด

    ย่อมเป็นสิ่งดีมิใช่หรือ

    = การมอบความรักผูกมัดและไม่พันธนาการต่างหากเล่า?

    หากการปล่อยให้เป็นอิสระนั้นมิใช่การปล่อยปละ

    แต่เป็นการปลด

    ให้เขาเหล่านั้นได้เป็นตัวตนของตนเองอย่างแท้จริง

    แต่ใครตัวใดเล่าจะเข้าใจทั้งการกระทำ และความรู้สึกนึกคิดของกระต่ายตัวน้อยนี้

    ห่วงปล่อยเยื่อใยของความรักจากหัวใจแด่ผู้ที่ตนรัก

    ทุกตัวมองเห็นเพียงความรู้สึกของผู้ที่จะต้องจากไปที่ไม่มีวันหวนกลับ

    แต่ใครเลยจะนึกถึงผู้ที่ต้องอยู่เพียงเพื่อเฝ้ารอ

    วันที่ต้องอยู่อย่างเดียวดายเล่า

    เจ้ากระต่ายน้อยรู้ดีว่า

    ผู้ที่จะต้องหายไปจากดวงจันทร์เป็นตัวสุดท้ายนั้นคือใคร

    และสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ

    แล้ววันใดกันเล่าที่จะต้องจากดวงจันทร์ดวงนี้ไป

    นั่นเท่ากับว่า

    กระต่ายน้อยห้อง

    503

    ต้องอยู่อย่างเปลี่ยวดายบนดวงจันทร์สีน้ำตาลดวงนี้

    โดยไม่สามารถรู้ได้เลยว่า

    เขาจะต้องอยู่แบบนั้นไปอีกนานแค่ไหน

    หรือต้องอยู่แบบนั้นตลอดไป

    แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดนั่นคือ

    กระต่ายน้อยต้องยืนหยัดอยู่บนความเดียวดายนั้นให้ได้ต่างหากเล่า

    ชีวิตประจำวันของกระต่ายน้อยสีฟ้าห้อง

    คือ การรู้สึกตัว

    อันเป็นสิ่งที่กระต่ายน้อยพึงกระทำอยู่ตลอดเวลา

    ซึ่งอาจเป็นการฝึกฝนเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นก็เป็นได้

    การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ

    เป็นสิ่งที่กระต่ายน้อยเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พึงระลึก

    และพึงกระทำให้มากที่สุดในทุกขณะจิต

    เพราะในท้ายที่สุดก็จะเหลือเพียงกระต่ายน้อยเท่านั้น

    ที่จะต้องอาศัยอยู่บนดวงจันทร์เป็นตัวสุดท้าย

    กระต่ายน้อยจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับตนเอง

    โดยไม่ยึดติดกับใครหรือสิ่งใด

    503 ณ ดวงจันทร์สีน้ำตาลนั้น

    สิ่งที่กระต่ายน้อยเฝ้ากระทำ

    อาจดูเหมือนเห็นแก่ตัว

    แต่ในทางกลับกันสิ่งที่กระต่ายน้อยกระทำนั้น

    กลับเป็นการแสดงถึงความมีน้ำจิตน้ำใจ

    ห่วงใยหัวใจและความรู้สึกของเพื่อนๆ เมื่อยามที่ต้องพลัดพราก

    นั่นจึงเป็นเหตุให้กระต่ายน้อยตัดสินใจกระทำเช่นนั้น

    วันเวลาของการพลัดพรากยังคงดำเนินต่อไป

    ห้อง

    498...ห้อง 499...ห้อง 500...

    ห้อง

    501...ห้อง 502...

    ระยะเวลาของการจากไปของกระต่ายแต่ละห้องก็มิอาจคาดเดาได้

    กว่ากระต่ายห้อง

    แต่เพียงแค่

    และที่น่าเสียใจที่สุดก็คือ

    แค่เพียง

    500 จะจากไปก็ใช้เวลาเกือบ 3 ปี3 วันเท่านั้นกระต่ายห้อง 501 ก็จากไป3 ชั่วโมงเท่านั้นที่กระต่ายห้อง 502

    ซึ่งเป็นพี่ชายของกระต่ายน้อยห้อง

    โดยที่ไม่มีโอกาสเอื้อยเอ่ยถ้อยคำอำลาอันใด

    503 นั้นหายวับไปกับตา

    แม้เจ้ากระต่ายน้อยสีฟ้าจะได้ตระเตรียมหัวใจ

    สำหรับช่วงเวลาที่โหดร้ายเช่นนี้ไว้แล้วก็ตาม

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างแสนรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะตั้งรับได้ทันท่วงที

    เพราะช่วงเวลาที่พี่ชายของกระต่ายน้อยจากไปนั้น

    เป็นช่วงเวลาแสนอบอุ่นเช่นทุกๆ ค่ำคืน

    ที่พี่ชายจะต้องมาราตรีสวัสดิ์ก่อนการจากลาสู่ห้วงนิทรา

    ขณะที่พี่ชายกำลังก้มลงจุมพิตหน้าผากของกระต่ายน้อย

    ริมฝีปากบางๆ ที่สัมผัสกับหน้าผากของกระต่ายน้อยที่หลับตาพริ้ม

    ช่างเป็นสัมผัสที่แสนอบอุ่น

    เมื่อกระต่ายน้อยค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากสัมผัสนั้นค่อยๆ เลือนหาย

    ภาพที่กระต่ายน้อยเห็นคือภาพพี่ชายที่ค่อยๆ เลือนราง

    ...

    จนหายวับไปโดยมิอาจคว้าไขว่เอาไว้ได้

    ภาพที่เกิดขึ้นเปรียบดั่งห้วงฝัน

    แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าสิ่งที่ปรากฏนี้ไม่ใช่เพียงแค่นิมิต

    กลับกลายเป็นเรื่องจริงที่กระต่ายน้อยอยากจะคาดคั้นให้เป็นเพียงฝัน

    ที่ถึงแม้จะเป็นฝันที่แสนร้ายเกินกว่าที่หัวใจดวงน้อยจะทานทน

    ภาพร่างกายของพี่ชายที่ค่อยๆ เลือนหายนั้น

    ทำให้กระต่ายน้อยแทบบ้าคลั่ง

    กระต่ายน้อยร้องไห้ฟูมฟาย ร้องเรียกพี่ชาย

    แต่ก็ไม่มีเสียงใด หรือผู้ใดหวนคืนมา

     

    ณ ค่ำคืนนี้บนดวงจันทร์สีน้ำตาลกลมโต

    ช่างเป็นค่ำคืนที่แสนเงียบ

    การที่ต้องอยู่ภายในห้องกลมๆ เพียงตัวเดียวนั้นก็รู้สึกเปล่าเปลี่ยวเพียงพอแล้ว

    แต่ ณ ขณะนี้เป็นเวลาที่ต้องอยู่ลำพังบนดวงจันทร์

    ที่เคยมีผู้ร่วมจันทร์ถึง

    ดวงจันทร์ดวงนี้จึงดูกว้างใหญ่เกินไป

    กว้างจนกระทั่งกระต่ายน้อยรู้สึกเคว้งคว้าง

    ...เหงา...อย่างหาใดเปรียบ502 ตัว

    สิ่งที่กระต่ายสีฟ้าตัวน้อยตัวนี้พอจะทำได้ในค่ำคืนที่แสนเหว่ว้าเช่นนี้

    คือการร้องไห้โดยไร้การโอบกอดปลอบโยนจากผู้ใด

    เพราะ ณ ที่แห่งนี้ไม่มีใคร และผู้ใดให้กระต่ายน้อยได้พักพิง และแอบอิง

    แม้เพียงเพื่อหลบหยาดฝนจากนัยน์ตาคู่เดียวก็ตามที

    แต่ถึงแม้คลื่นความทุกข์ทรมานที่ถาโถมกระทบหัวใจหนักหน่วงเพียงใด

    กระต่ายน้อยก็ได้ตกลงกับหัวใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่เสียใจให้เนิ่นนานจนเกินไป

    เพราะหัวใจจะบอบช้ำชุ่มโชกด้วยน้ำตาแห่งความโศก

    กระต่ายน้อยพร่ำบอกกับหัวใจว่า

    "

    เพียงเพราะฉันรู้สึกเหงาจนจับขั้วหัวใจ

    ผู้ที่รับรู้และเข้าใจความรู้สึกได้ดีที่สุดก็คือเธอ

    เพราะฉะนั้นฉันจะไม่

    เพราะฉันไม่อยาก

    ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอกนะ

    ฉันขอร้องไห้เพียงคืนนี้เพียง 1 โฮกใหญ่ๆ เท่านั้นเสียใจเนิ่นนานสูญเสียสิ่งสุดท้ายคือหัวใจไป...หัวใจ..."

    หากแหงนมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่แสนจะมืดมิด

    ราวกับมีใครคนหนึ่งกางขึงผืนผ้าสีดำสนิทปกคลุมไว้

    แต่หากสิ่งที่ปรากฏสะท้อนในเงาตาคือผืนผ้าสีดำจริงๆ ล่ะก็

    ผ้าผืนนั้นคงเป็นผ้าที่เก่าเก็บจนกัดกินตัวเองด้วยความเอร็ดอร่อยจนเป็นรูมากมาย

    และแสงที่เล็ดลอดตามรูเหล่านั้นก็คือดวงดาวพร่างพราย

    ที่ประดับประดาจนเต็มผืนผ้าสีดำสนิทผืนนั้น

    หากคืนใดเป็นคืนข้างขึ้น

    ผืนผ้าสีดำหนึ่งจุดใหญ่จะขาดเป็นวงกลมดวงใหญ่ที่สุด

    และส่องแสงสีนวลสวยงามเกินกว่าแสงไหนๆ จะเทียบได้ในราตรีนั้น

    หากคืนใดเป็นคืนข้างแรม

    ผืนผ้าสีดำตรงจุดสำคัญนั้นก็จะมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป

    เป็นครึ่งเสี้ยวบ้าง ตะแคงมากบ้าง น้อยบ้าง

    อันขึ้นอยู่กับอารมณ์ ความรู้สึกในแต่ละค่ำคืนของ

    (โปรดติดตามตอนต่อไป)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น