คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 1 จุดเริ่มต้นของ...เรื่องวุ่นๆ
CHAPTER 1 จุดเริ่มต้นของ...เรื่องวุ่นๆ
เสียงนาฬิกาปลุกเรือนเก่าคร่ำครึดังขึ้น ทำให้เด็กสาวที่เมื่อครู่นี้ยังนอนซุกกายฝันหวานอยู่ใต้ผ้าห่มสีหม่นๆ ที่มีกลิ่นประจำ-กายของเธอ ค่อยๆลืมตาขึ้น เธอขยี้ตา บิดขี้เกียจ และเก็บที่นอนเข้าที่ ดวงอาทิตย์ยังไม่ส่องแสงแดดให้ความอบอุ่นในยามเช้า เพราะนาฬิกาบนผนังบอกให้เธอรู้ว่า ‘นี่มันเพิ่งตี 3 เองนี่นา’
เธอหยิบเอาชุดนักเรียนเดินลงมาที่ห้องน้ำ กลิ่นแป้งสาลีที่ใช้สำหรับทำขนมปังหอมโชยมาจากห้องอบขนมปังที่เปิดไฟไว้ แม่คงกำลังทำขนมปังเพื่อขายสำหรับวันนี้
“ แหม...ตื่นเช้าดีจังนะ มินอา ”
“ แน่นอนค่ะแม่ ก็แม่เล่นตั้งนาฬิกาปลุกหนูตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เลยนี่นา แล้วจะไม่ให้เช้าได้ไงล่ะ ”
“ อย่าบ่นมากนักน่า อาบน้ำเสร็จแล้วก็มาช่วยแม่ด้วยล่ะกัน นึกไว้รึยัง วันนี้จะทำอะไร”
“บราวนี่ดีมั๊ย หนูทำทีไร เกลี้ยงทุกที”
“ก็ดี งั้นก็รีบแต่งตัวซะ แม่จะไปเปิดร้านก่อน”
ครู่ต่อมา คนเก่งประจำบ้านอย่างฉัน ก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อม ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วเรียบร้อย ขณะลงมือทำบราวนี่แสนอร่อย แม่ก็ถือหนังสือพิมพ์เดินเอะอะขึ้นมา
“มินอ๊า มินอา แกอ่าน น.ส.พ. นี่สิ”
“อะไรคะ เซเว่นออกอัลบั้มใหม่รึไง ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ หนูไม่ดูหรอก”
“ลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทเครือH.D.กรุ๊ป กลับจากอังกฤษ และจะย้ายมาเรียนที่นี่ ที่โรงเรียนของแกไง”
“อารายกัน<*o*>เรื่องแค่นี้ ขึ้นหน้าหนึ่งเหรอคะ นายนี่วิเศษวิโสมาจากไหนกัน”
“H.D.กรุ๊ปเป็นบริษัทที่มีกิจการหลากหลาย และมีบริษัทลูกที่เป็นสาขามากเป็นอันดับ1ของประเทศเรา และถือเป็นบริษัทที่มีทรัพย์สินมากเป็นอันดับ3 ของโลก การได้ครอบครองH.D.ก็คือการมีอำนาจทั้งทางการเงิน และ ยังเกี่ยวโยงไปถึงการมีอิทธิพลต่อการเมืองด้วย แล้วการที่เด็กคนนี้เป็นลูกชายคนเดียว ก็หมายความว่าทรัพย์สมบัติมหาศาลของ H.D.กรุ๊ปก็จะเป็นของเค้าด้วย มันก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่การเคลื่อนไหวของอนาคตประธานH.D.จะกลายเป็นข่าวหน้า1”
“โอ๊ย ฟังแล้วปวดหัว แล้วไงล่ะคะ ดูท่าแม่จะปลื้มมากเลยนะ”
“โอกาสมาถึงแกแล้วนะ”
“อะไรนะแม่”
“คนเราไม่ลองก็ไม่รู้หรอกนะ แฟนเฟินแม่ก็ไม่เคยเห็นแกจะมี แล้วถ้าแกคิดจะมีทั้งที ก็เอาดีๆทั้งปริมาณและคุณภาพไม่ดีเรอะ แกก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ใช้มารยาหญิงนิดหน่อย ก็คงจะพอมีหวังบ้างล่ะ”
“จะบ้าเรอะ แม่พูดมาได้ไงเนี่ย หน้าก็ยังไม่เคยเห็น แล้วมารยาอะไรกัน ฉันไม่มีหรอก แม่ก็น่าจะรู้ดีที่สุด บ้ากันใหญ่แล้ว แม่อย่าเพ้อฝันไปเลยน่า อยู่ธรรมดาๆของเราแบบนี้อ่ะดีแล้ว อย่าหาเหาใส่หัวเลย”
ปิ๊ง!เสียงเตาอบดังเตือนขัดจังหวะ การสนทนาระหว่างฉันกับแม่ ทำให้ฉันนึกถึงโรงเรียนขึ้นมา
“เสร็จแล้ว... แม่จัดเข้าตู้เองนะ หนูไปล่ะ ขายดีนะคะแม่”
แม่กระชากข้อมือฉันไว้ ก่อนออกจากบ้านไป พร้อมกับยื่นกล่องบลูเบอรี่ชีสเค้กให้ฉัน ฉันรับมา แต่ก่อนที่จะถาม แม่ก็ผลักฉันออกทางประตู พร้อมพูดไล่หลัง ก่อนปิดประตูกลับเข้าร้านไปว่า
“แม่เอาจริงนะ แม่อยากให้แกลองเสี่ยงดู เค้กเนี่ย ถือเป็นการเริ่มต้นของแก ให้เป็นของขวัญต้อนรับเค้าซะ โชคดีในความรักครั้งแรกนะลูก”
‘ความรักครั้งแรก’ แม่พูดมาได้ไงเนี่ย หน้าตาหรือนิสัยก็ยังไม่รู้จัก ที่สำคัญฉันล่ะแสนจะเบื่อพวกที่ร่ำรวยหน่อย ก็ชอบทำตัวไฮโซไฮซ้อมากเกินความจำเป็นในโรงเรียน ส่วนเรื่องความรักล่ะก็ ลืมไปได้เลย ถ้าหน้าตาไม่ดีเท่า เซเว่น นักร้องยอดรัก ยอดพธูในดวงใจฉันล่ะก็ ฝันไปเถอะ ถึงแม้คนอย่างนามินอาจะไม่ได้หน้าตาดีซักเท่าไร แต่ถ้าพูดถึงความมั่นใจฉันมีเกิน100แน่นอน ดังนั้น ผู้ชายที่ตรงตามใจของฉัน จะต้องมีมาตรฐานเดียวกันกับ เซเว่น ที่รักเท่านั้น
“อรุณสวัสดิ์ย่ะ สาวๆ”
“เย้ มินอามาเช้าอีกแล้ว วันนี้ช่วยแม่ทำขนมอีกแล้วเหรอ ยายลูกกตัญญู”
“ถูกต้อง อ๊ะ! นี่ของฝาก”
“อะไรน่ะ ว้าว บลูเบอรี่ชีสเค้ก แหม รู้ได้ไงน่ะ ว่าพวกเรากำลังอยากกินอยู่พอดีเลย ยังคุยกันเลยว่า เลิกเรียนเราจะไปที่ร้านเธอกัน”
ฉันละสายตาจากสองสาวดรุณีรับอรุณ ที่เรียกอย่างนี้เพราะ ทั้งยายอันนัมและยอนี สองเพื่อนรักตั้งแต่สมัยอนุบาลของฉันมักจะมาโรงเรียนเช้า และเป็น 2 คนแรกของห้องเสมอ เรียกได้ว่าเช้าขนาดที่ว่า ยาย2คนนี้ซี้กับยามเปิดประตูโรงเรียนเลยก็ว่าได้
แต่นี่ก็ถือเป็นข้อดี เพราะการที่ทั้ง 2 คนสนิทกับยามทำให้เวลาที่ฉันมาสาย(เพราะมัวแต่ดูมิวสิควิดีโอของเซเว่น จนดึกแล้วตื่นสาย) ลุงยามก็จะเมตตาให้ฉันเข้าโรงเรียนเป็นคนสุดท้ายก่อนจะปิดประตู และนั่นก็ทำให้ฉันไม่ถูกลงโทษ แต่ก็มักถูกเพ่งเล็งจากพวกเกเรียนที่มาโรงเรียนสายแล้วโดนทำโทษ พวกนี้ชอบหาเรื่องกันหาว่าฉันเป็นเด็กเส้นบ้าง มารยาสาไถจนลุงยามใจอ่อนบ้าง แต่ช่างเถอะเพราะยังไง พวกนี้ก็มีอยู่แค่ 4-5 คน เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ฉันน่ะ top five ในตำแหน่งคุณนายสายเสมอของโรงเรียนอยู่แล้ว แต่วันนี้แปลกเป็นพิเศษ เพราะไม่ได้มีแค่อันนัมกับยอนีเท่านั้นที่มาเช้า ที่มุมซ้ายสุดของห้องเรียนฉันพบสาวน้อยถักเปีย 2 ข้าง สวมแว่นตาที่เหมาะกับรูปหน้ายาวรี และ สวยหมดจด ของเธอ กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่นั่น
“ อึนซอน! มากินเค้กด้วยกันสิ อร่อยนะ แม่ฉันทำเอง นี่ไงเยอะแยะเลย พวกเราคงกินกันไม่หมดหรอก”
“ขอบใจนะ แต่...ฉันอยากอ่านหนังสือมากกว่า” มูอึนซอน เด็กอัจฉริยะของโรงเรียนทำให้ฉันรู้สึกผิดที่ทำให้เธอเสียเวลาในการอ่านหนังสือไปเสี้ยววินาทีเพื่อตอบคำชวนไร้สาระของฉัน แต่อย่างว่า เธอไม่อยู่ฟังพวกเราเอะอะคุยเรื่อง แฟชั่น และเรื่องอื่นๆที่วัยรุ่นทั่วไปเค้าทำกัน พร้อมกับกินเค้กไปด้วยแน่นอน เธอหยิบหนังสือแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งพวกเรา 3 คนไว้กับบลูเบอรี่ชีสเค้กที่แสนอร่อย ยอนีกระซิบกระซาบเบาๆขึ้นมาว่า
“ยัยนี่ก็งี้แหล่ะ ช่วงนี้มาเช้าทุกวันเลย สงสัยจะมาหาที่สงบๆอ่านหนังสือ”
“แหงล่ะ ก็ปีนี้ยัยนั่นจะสอบเข้า ม.โซลให้ได้เลยนี่นา เฮ้อ ดีจังนะพวกฉลาดมาแต่เกิดเนี่ย”
“นี่มินอา ว่าแต่วันนี้ทำไมอยู่ดีๆเอาของอร่อยๆมาให้พวกเรากินได้ล่ะ ปกติเธอขี้เหนียวจะตาย”
“อ๊ะ จริงด้วยสิ งั้นเอาคืนมา ทำไม ฉันอยากให้พวกเธอกินต้องมีเหตุผลด้วยรึไง”
“อ่า ล้อเล่นอ่ะ ไม่ถามก็ได้ อย่าโกรธเลยนะ แต่ว่า อร่อยสุดยอดเลย”
จะให้ตอบได้ไงล่ะว่า เป็นแผนการจับผู้ชายที่แม่มอบหมายให้ฉันมาปฏิบัติภารกิจน่ะ อายเค้าตายเลย ยัย 2 คนนี้ก็ขี้สงสัยซะจริง ฉันไม่มีทางให้ของกับคนที่ไม่เคยที่แม้แต่จะเห็นหน้ากันก็ยังไม่เคยแน่นอน ถ้าฉันคิดจะมีความรักล่ะก็ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่จะต้องเป็นคนมาจีบฉันก่อน มินอาคนนี้ก็มีศักดิ์ศรีนะ คิดไปคิดมาอีกตั้ง 2 ชั่วโมง กว่าจะเริ่มเรียน ของีบแป๊บนึงก่อนละกันนะ
" มูอึนซอน "
" มาค่ะ "
" คายอนี "
" มาค่ะ "
"นามินอา"
"..............."
"นามินอา"
"นามินอ๊า!!!"
เสียงที่อาจารย์แผดเรียกมินอาดังไปทั่วห้อง สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่โต๊ะคู่หลังสุดของห้อง ที่ที่นามินอาของเราหลับอยู่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ยอนีพยายามจะปลุกเพื่อนรักของเธอโดยการขยำกระดาษเป็นก้อนเล็กๆ แล้วปาไปที่มินอา แต่สิ่งที่ช่วยปลุกเธอให้ตื่นขึ้นกลับไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นความเจ็บปวดแถวๆใบหูต่างหาก!
" โอ๊ย !ใครอ่ะ อ๊ะ! มาค่ะอาจารย์ "
" ถ้าเธอมาโรงเรียนแต่เช้า เพื่อที่จะมางีบหลับต่อในห้อง ทีหลังเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนตื่นนอนมาหรอกนะ หักแต้มความประพฤติ 2 แต้ม ท้ายชม.เก็บงานมาส่งครูที่ห้องด้วย "
' ซวยชะมัด โดนด่าแต่เช้าเลย ว่าแต่ อาจารย์อยู่หน้าห้องนี่นา แล้วไอ้หูที่เจ็บๆเนี่ย ใครกันฟะที่ดีดฉัน ??? ' ฉันคลำหูตัวเอง พร้อมกับหันไปทางหูข้างที่เจ็บจากการโดนดีด 'หมอนี่เป็นใคร ?' สายตาที่เย็นชาจ้องตอบกลับมา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายอยู่บนใบหน้าเกลี้ยงเกลา ที่มีจมูกโด่งๆ และริมฝีปากบางๆที่แดงระเรื่ออย่างคนมีสุขภาพดี
'อ๊ะ ! น้องชายเซเว่น เฮ้ๆๆ ไม่สิ ไอ้บ้านี่เป็นใคร กล้าดียังไงมาดีดหูฉัน'
ความคิดเห็น