ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รหัสลับซีซาร์

    ลำดับตอนที่ #3 : อุบัติเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 49


    รถแท็กซี่กำลังมุ่งหน้าสู่อุโมงค์ลอดทางแยกห้วยขวางที่ตัดกับถนนรัชดาภิเษก ทางฝั่งด้านซ้ายจะมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ที่นั่นด้วย

    จ๊อดมัวยุ่งกับการก้มดูภาพที่ถ่ายไปแล้ว เมื่อรถแท็กซี่เปลี่ยนระดับ เขาจึงเสียหลักเล็กน้อยทำให้โทรศัพท์หลุดมือหล่นลงกับพื้น จึงก้มลงไปเก็บ รถเคลื่อนไปข้างหน้าเร็วขึ้นในจังหวะที่ถนนลาดลง

    "บึม!!!!!!" เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

    "ตึงงงงงงง" มีวัตถุขนาดใหญ่กระแทกด้านหน้ารถแท็กซี่อย่างแรง

    "เอี๊ยดดดดด" รถเสียหลักวิ่งชนกำแพงด้านขวาของอุโมงค์

    "กร๊อบๆๆๆๆๆ" เสียงเศษหินที่กระเด็นเพราะแรงระเบิดล่วงหล่นลงพื้นถนน และบนรถแท็กซี่

    ในเวลานี้จ๊อดหัวคะมำลงไปที่พื้น ขาชี้ฟ้า เขางงไปหมด พยายามทรงตัวขึ้นมาให้นั่งได้ แต่เบาะนั่งด้านหลังไม่อยู่ในตำแหน่งของมันแล้ว ทุกอย่างมืดไปหมด หูก็อื้อ ได้ยินแต่เสียงหวีดวิ้งๆ ตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะเสียงระเบิดนั่นเอง แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าในเวลานั้นไม่มีรถผ่านมาเลยซักคันเดียว อย่างกับว่าเหตุการณ์นี้เจาะจงเลือกที่รถแท็กซี่คันนี้โดยเฉพาะ

    ทุกอย่างเงียบสนิท โลกเสมือนหยุดนิ่ง ในห้วงความคิดของจ๊อดตอนนี้เขาสำนึกเพียงว่านี่คือความฝันเวลาตอนนี้ดูเหมือนมันเคลื่อนไปอย่างช้าๆ

    แล้วจู่ๆ จ๊อดก็ลืมตาโพลงขึ้น สติเริ่มคืนกลับมา ใช่ เขานั่งอยู่ในรถแท็กซี่กำลังจะไปหาลุงธอมัส เขามองเห็นช่องแสง และพุ่งตัวไปที่นั่นโดยการขยับตัวทีละนิด ทีละนิด และคลานออกมาจากรถได้

    เขาต้องตะลึงอีกครั้ง รถแท็กซี่พังยับเยิน ลุงคนขับรถถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับคาที่นั่ง รถยุบไปครึ่งคันในส่วนหน้า จ๊อดรอดมาได้เพราะนั่งในส่วนหลังที่มีเบาะนั่งของคนขับบังเอาไว้พอดี ภาพเบื้องหน้าทำให้เขาหมดแรงที่จะยืนอยู่ได้ จึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น และเริ่มเรียบเรียงเหตุการณ์ที่ผ่านมา..

    "ช่ ว ย ด้ ว ย . ." เสียงร้องขอความช่วยเหลือลอยมาเบาๆ กระทบโสตประสาทสุดท้ายของจ๊อด เขารีบลุกพรวด เรี่ยวแรงมาจากไหนไม่รู้ เขาตรงไปที่ลุงคนขับรถ และพยายามหาวิธีที่จะช่วย แต่เขาก็ยังไม่เห็นหนทาง ก้อนหินนั้นใหญ่มาก อย่าว่าแต่เลื่อนออกเลย แค่ขยับก็ยังยากที่ใช้แรงของคนๆ เดียว

    "อึ๊บบบบบบ" จ๊อดออกแรงดันก้อนหินสุดแรง แต่หินก็ไม่ขยับ

    "ช่ ว ย ด้ ว ย . ." เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้ง จ๊อดพยายามมาดูส่วนหน้ารถด้านคนขับ เพื่อดูอาการจากหน้าคนขับ

    "ช่ ว ย ด้ ว ย . ." จ๊อดประหลาดใจว่าเสียงนี้ไม่ได้มาจากรถแท็กซี่ แต่มันมาจากที่อื่น เขามองหาต้นเสียงไปทั่ว

    ภาพที่เห็นนั้นแย่กว่าที่จ๊อดจะคาดคิดถึงเสียอีก

    ผนังอุโมงค์ด้านซ้ายกลายเป็นรูกว้างขนาดคนมุดเข้าไปได้ เขาจึงเดาว่าเสียงต้องมาจากตรงนั้นแน่ๆ จ๊อดจึงหันเดินไปตามเสียงที่ร้องขอความช่วยเหลือ เขากำลังจะเดินมาถึงปากทางเข้าอุโมงค์

    "Joy to the World The Lord is Comes.." เสียงริงโทนจากโทรศัพท์ดังขึ้น จ๊อดมองหาโทรศัพท์

    ริงโทนในสมัยนี้มาแทนที่เสียงเรียกเข้าแบบธรรมดาซึ่งเป็นเพียงเสียงกระดิ่ง ผู้ออกแบบโทรศัพท์คนแรกหากเขามาอยู่ในยุคนี้คงจะทึ่งในพัฒนาการของมนุษย์ เดี๋ยวนี้ยังสามารถใช้เสียงของตัวเองก็ได้ หรือเสียงของดาราดังที่กลายเป็นธุรกิจทำเงินไปเสียแล้ว บางคนก็ชอบให้เป็นเสียงตะคอกเหมือนด่าตัวเองก็มี..

    แล้วยังมีการโหลดเพลงตอบรับสายเรียกเข้าอีกด้วย ซึ่งคนโหลดไม่ได้ฟัง คนฟังไม่ได้โหลด แต่ถึงอย่างไรคนให้โหลดก็ได้ตังค์..

    "อ้าว" จ๊อดอุทาน โทรศัพท์มาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายกโทรศัพท์ขึ้นและกดปุ่มรับสาย

    "ฮัลโหล นั่นใครน่ะ" เสียงของเขาแหบแห้งถามผู้โทรเข้ามา ทั้งๆ ที่เขาก็สามารถดูเบอร์ที่โชว์ก็รู้แล้วว่าใครโทรมา แต่สภาพการณ์แบบนี้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด

    "ผม หยุ่นครับพี่ พรุ่งนี้พี่ว่างไหมครับ ผมจะเข้าไปหา" ผู้โทรเข้าเริ่มบทสนทนาทันที

    "เฮ้ย หยุ่น พี่ถูกรถชนว่ะ" จ๊อดพยายามเล่าเรื่อง

    "หา! ถูกชนที่ไหนพี่" เสียงของหยุ่นตกใจ

    "ไม่ ๆ ๆ ไม่ได้ถูกชน มัน.. รถแท็กซี่พังเลย.. มีระเบิด.." จ๊อดงงๆ ที่จะเล่าเรื่องให้ต่อเนื่อง หากเป็นสภาพปกติ เขาคงจะเล่าได้ดีกว่านี้

    "พี่ ๆ ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปหา"

    "เออ ดีๆๆๆ เดี๋ยวนะดูก่อนว่าที่ไหน" จ๊อดยังงงๆ เดินเซไปมา และมุดเขาไปในช่องกำแพงของอุโมงค์ที่พังทะลุ และโผล่หน้าเข้าไปดูในช่องนั้น

    "ฮัลโหล ฮัลโหล" สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไป จ๊อดพยายามโทรกลับ แต่สายไม่ว่าง

    จริงซิ จ๊อดคิดได้ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้เป็นกล้องด้วย สัญชาตญาณของช่างภาพสมัครเล่นจึงเริ่มขึ้น เขาเลือกโหมดโทรศัพท์ให้กลายเป็นกล้อง และเริ่มถ่ายภาพบริเวณนั้น

    หลังจากที่เขามุดเข้าไปในอุโมงค์ก็พบว่า ตัวเขาอยู่ในช่องทางลงของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แม้จะมีเศษหินเต็มไปหมด แต่ก็พอมองออกว่านี่คือบันไดเลื่อนทางลงสู่ใต้ดิน ซึ่งน่าจะเป็นต้นตอของระเบิด และที่น่าประหลาดใจก็คือแรงระเบิดไม่ทำให้ไฟฟ้าที่นั่นดับ มันยังทำงานอย่างปกติ ซึ่งช่วยให้จ๊อดมองเห็นทาง

    เขาถ่ายภาพไป และเคลื่อนตัวไปข้างล่างอย่างทุลักทุเล จนถึงล่างสุด และพบต้นตอของเสียง เขาพบคนหลายคนอยู่ทั่นั่น บางคนก็นอนไกลออกไป ดูจากเครื่องแต่งกายก็เดาได้เลยว่าคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นั่น

    ส่วนเจ้าของเสียงร้องอยู่ใกล้ที่สุด เพียงอึดใจเดียวจ๊อดก็ไปถึงตัวของเขา

    "ช่ ว ย ผ ม ด้ ว ย . ." ชายเจ้าของเสียงร้องพยายามขยับตัว เมื่อเห็นมีคนมาช่วย จ๊อดรีบเข้าไปใกล้ และก้มลงปัดเศษหินและฝุ่นที่อยู่บนใบหน้าชายคนนั้น จ๊อดดึงชายคนนั้นให้ลุกขึ้น แต่มีอะไรบางอย่างติดอยู่ จ๊อดสำรวจดูอีกครั้งก็รู้ว่าขาของชายคนนี้มีก้อนหินทับอยู่ จ๊อดออกแรงยกก้อนหิน แต่มันไม่ขยับ

    "ทำไมมันหนักอย่างนี้" เขาออกแรงหลายครั้ง

    "ไม่ต้องหรอก" ชายคนนั้นห้ามจ๊อด เขาพยายามออกแรงยกมือตัวเอง และยื่นของบางอย่างให้จ๊อด และจ๊อดก็รับอย่างไม่รู้ตัว

    "ช่วย แม่ ผม ด้วย" แล้วชายคนนั้นก็คอพับไป เขาสิ้นใจคามือของจ๊อด

    ((นี่มันเรื่องอะไรนะ)) จ๊อดคิด มีคนมาตายต่อหน้าต่อตาเขาสองคนแล้ว จ๊อดเหลือบมองดูวัตถุที่ได้รับ มันมีขนาดเท่าฝ่ามือของเขาพอดี

    เขาสังเกตดูทั้งด้านหน้าด้านหลัง และพบว่ามันเป็นเหรียญสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ที่ด้านหน้าเป็นรูปช้างหันหัวไปทางด้านขวา และมีตัวอักษรอยู่ใต้ภาพด้วย


                "ซีซาร์! (CAESAR)" จ๊อดอ่านออกเสียง แล้วความคิดวูบหนึ่งก็แล่นเขามาทำให้หยิบกล้องโทรศัพท์มาถ่ายเหรียญตรานี้เอาไว้

    จากนั้นเขาก็สำรวจหาคนที่ยังรอดชีวิต เผื่อจะช่วยใครได้บ้าง เขาเดินลุยเศษหินที่กระจัดกระจายที่พื้น ใหญ่บ้างเล็กบ้าง จนพบร่างอีกร่างหนึ่ง เป็นผู้หญิง

                    ทีแรก จ๊อดนึกว่าเป็นแม่ของชายคนแรก แต่ผู้หญิงคนนี้ยังดูสาว และหน้าตาดี เมื่อเทียบกับชายเมื่อตะกี้ที่ดำและตัวเล็ก จึงไม่น่าจะเป็นแม่ลูกกันได้ จ๊อดก้มลงเพื่อจะช่วยพลิกตัวเธอที่นอนตะแคงอยู่

                    "เหวอ!" จ๊อดต้องปล่อยมือออกจากร่างเธอทันที เมื่อพลิกร่างเธอให้นอนหงาย จ๊อดเบือนหน้าหนีชั่วครู่ แต่ก็ต้องหันมามองอีกครั้ง เธอผู้นี้เหลือร่างเพียงด้านเดียว อีกด้านเป็นรอยไหม้ จ๊อดเดาได้เลยว่าเธอคงโดนระเบิดเป็นแน่

                    "โอย.. ไม่เอาแล้ว" จ๊อดทนไม่ได้กับภาพที่เห็น เขารีบลุกขึ้น และออกจากบริเวณนั้น

                    เขามุดออกจากช่องระเบิดที่ทะลุออกมาที่ถนน เขาได้สูดหายใจอย่างเต็มปอดอีกครั้ง และเดินตามทางที่ขึ้นสู่ด้านบน ทางด้านหน้าเต็มไปด้วยก้อนหิน เขาต้องหาทางอื่น ก็พอดีมีช่องหินที่แตกแยกออกของผนังอุโมงค์ เขาจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปด้านบน ในขณะที่ปีนไปเกือบจะถึงข้างบน

                    "Joy to the World The Lord is Comes.." เสียงริงโทนจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง จ๊อดต้องเอาเหรียญตราที่มือสอดวางเข้าไปในช่องหินแตก เพื่อจะใช้อีกมือรับสายโทรศัพท์

                "คลิก" จ๊อดรับสาย

                    "พี่ๆ ผมหยุ่นนะ พี่เป็นไงบ้าง ตกลงพี่อยู่ที่ไหน"

                "ถนนรัชดาภิเษก" จ๊อดพูดไปปีนไปจนถึงด้านบน และมองหาจุดสังเกตเพื่อจะบอกหยุ่นว่าเข้าอยู่บริเวณไหนของถนนรัชดาภิเษก

                    "แถวๆ เอ่อ มีตึกนึงชื่อ เอ่อ เดี๋ยวนะ.. เอ่อรู้แล้ว.. ซี ซาร์.." แล้วจ๊อดก็อึ้ง "ซีซาร์เหรอ"

                    "ฮัลโหล ฮัลโหล ว่าไงนะครับพี่ อะไรนะครับ"

                    จ๊อดมองดูอาคารที่อยู่เบื้องหน้าเขา เขามองเห็นสัญลักษณ์เป็นรูปสลักแบบนูนต่ำของ "จูเลียส ซีซาร์" ผู้นำคนสำคัญของอาณาจักรโรมันโบราณ มีชีวิตอยู่ในช่วงปีที่ ๑๐๐-๔๔ ปีก่อนคริสตกาล หรือ ๒๐๐๐ กว่าปี เขาเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์โลก และเรื่องของเขาก็ถูกเขียนเป็นหนังสือสารคดี นิยาย ภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่น เรื่องการที่เขาถูกลอบสังหารยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้

                    ((ตะกี้โพไซดอน เทพเจ้าแห่งกรีก ตอนนี้ จูเลียส ซีซาร์ เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ถูกยกย่องดุจดังเทพเจ้า ถูกตั้งชื่อเป็นเพียงสถานบันเทิงอีกแล้วหรือนี่)) จ๊อดคิดในใจ

                    "พลั่ก!" มีของแข็งมากระทบที่ศีรษะของจ๊อดอย่างแรงทางด้านหลัง

    จากนั้นสติสัมปชัญญะของจ๊อดก็ดับวูบ..

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×