คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter:1
Chapter:1
มาร์คยักไหล่ให้ตุ๊กตาในมือตัวเอง แล้วโยนไปที่หัวเตียงเหมือนเดิม เอาเหอะเดียวเช้าค่อยเอาไปทิ้งก็ได้ ตอนนี้เข้าเพลียเกินจะสนใจอะไรแล้ว คิดเพียงเท่านั้นมาร์คก็ล้มตัวลงนอน แล้วหลับไปในไม่ช้า...
เช้าวันใหม่ สดใสดี๊ด๊า(ผิด!!)
เช้าวันใหม่ในวันสุดท้ายของการปิดเทิอมควรจะเป็นวันที่มาร์คตื่นมาด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์จากผองเพื่อนแล้วชวนไปเที่ยวกันตามประสาวัยรุ่นทั่วไป แต่อะไรคือการที่มาร์ค ต้วนตื่นมาแล้ว เจอเด็กผู้ชายตัวตัวเล็กนอนอยู่ข้างๆเขา ผมที่บลอน์สว่างที่มาปรกตากลมยามหลับที่ถูกปิดด้วยเปลือกตาสีมุก จมูกรั้น และริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่ที่เผลอออกเล็กน้อย เฮ้ยเดียวน่ะ สรุปเด็กนี้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ
“อื้อ~~”เหมือนมาร์คจะมองนานไปจนคนที่หลับอยู่รู้ตัว ครางเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆหลี่ตาเพื่อปรับแสง ก่อนที่ตากลมโตอยู่แล้วจะเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิมเพราะเจอคนแปลกหน้า จ้องเขาอยู่ “เฮ้ย!!!”ร่างเล็กลุกขึ้นทันทีหลังจากมองเห็นคนตรงหน้าได้ชัดเจน
[Mark Part]
“คุณเป็นใคร!!”ผมมองเจ้าเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มา ที่มานอนในห้องผม แถมยังมาถามอีกว่าผมเป็นใคร
“ฉันควรเป็นคนถามนายมั้ย”ผมตอบกลับไปเสียนิ่ง ถามว่าตกใจมั้ย ตอบได้เลยว่ามากก แต่ให้ทำท่าโอเวอร์แบบเจ้าเด็กนี้ก็ไม่ใช้นิสัยผม
“บะ..แบมแบม”เด็กนั้นตอบกับมาเสียงสั่น ดูก็รู้ว่ากำลังกลัวอยู่ แต่ถ้ากลัวแล้วมาเข้าห้องผมทำไมกัน?
“แล้วนายเข้ามาห้องฉันทำไม แล้วเข้ามายังไง”
“...แล้วผมมาอยู่นี่ได้ยังไงอ่ะ”อะไรคือตอบผมมาด้วยหน้างงงวยอย่างนั้น นี่ไม่รู้จริงๆหรือต้องกันแกล้งผมกันแน่
“นายเป็นใคร...”
“ก็แบมแบมไง”แทบกุมขมับกับคำตอบที่ได้กลับมา หมอนี่ไม่รู้จักการตีความคำถามรึไง
“ฟังฉันดีๆน่ะ นาย มา จาก ไหน”พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วถามไปทีละคำ เผื่อเด็กนี่จะประมาณผลไม่ทัน
“นั้นดิ แล้วผมมาจากไหนอ่ะ?”โยนคนจากระเบียงตึกชั้นเจ็ดนี่ติดคุกกี่ปีครับ
“ฟังนะ ฉันไม่รู้หรอกว่านายเป็นใคร และมาจากไหน แต่ฉันอยากให้นายออกไปจากห้องฉันเดียวนี้”ผมดึงแบมแบมลุกจากเตียง แล้วเปิดประตูพร้อมโยนเด็กนี่ออกจากห้องทันที
“ดะ เดียวสิ แล้วผมจะไปไหนหละ”แบมแบมเอาตัวเองมากันประตูไว้ก่อนที่ผมจะปิด
“นั้นมันเรื่องของนาย”ผมพยายามดันแบมแบมออกจากห้องอีกครั้ง แต่มือเล็กนั้นกลับเกาะของประตูไว้แน่น
“อือออ ไม่เอาน่ะ ให้ผมอยู่ด้วยสิ”
“ไม่!!”แกะมือนั้นแอดแล้วรีบปิดประตูทันที
เช้าวันต่อมา
ผมตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวสำหรับการไปโรงเรียนวันแรกของเทิอม เปิดประตูเตรียมจะเดินไปลงลิฟท์แต่ต้องชะงักกับสิ่งที่เจอหน้าประตู ยังไม่ไปอีกหรอ...
“นาย... แบมแบม”ผมเรียกให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมา แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลุก เลยก้มลงไปเขย่าแขน แต่อุณหภูมิของตัวอีกคนทำให้ผมรีบชักมืออกมาทันที
เป็นไข้หรอ...
หรือไม่มีที่ไปจริงๆ...
ผมรีบควักโทรศัพท์มาจากกระเป๋า แล้วกดโทรหาไอ้บีทันที วันนี้ผมคงแต่งชุดนักเรียนเก่อแล้วแหละ พอดีมีเด็กให้ดูแล
(ว่า)อิม แจบอม หรือที่บังคบให้ผมเรียกว่าเจบีทักทายเสียงนิ่ง แหม่ ทำชิลจริงนะมึง
“วันนี้กูขาดนะเว้ย”
(ทำไมว่ะ ขาดตั่งแต่วันแรกเลยหรอ)
“พอดีมีปัญหานิดหน่อยว่ะ มีอะไรก็ทำแทนกูด้วยแล้วกัน”
(เออ เออ)พูดแค่นั้นแล้วมันก็ตัดสายไป ให้ทายตอนนี้มันคงอยู่กับไอ้หวังนั้นแหละ
ผมช้อนร่างของแบมแบมเข้าไปในห้อง แล้ววางเด็กนี้ลงบนเตียงทันที เป็นผู้ชายประสาอะไรตัวเบาจัง แถมยังตัวเล็กมากอีกต่างหาก หน้าก็หวานอย่างกับผู้หญิง แม่งเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาป่าวว่ะ
20%
ผมเข้าห้องน้ำไปพร้อมกะละมังและผ้าขนหนูผืนหนึ่งเพื่อจะเอาผ้ามาเช็ดตัวให้แบมแบม ถึงจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าผมเป็นคนทำให้แบมแบมป่วย เพราะฉะนั้นผมต้องรับผิดชอบ เด็กนี้หายเมื่อไหร่ค่อยไล่ไปแล้วกันเนอะ
ผมวางกะละมังที่ใส่น้ำอุ่นๆไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้ว แล้วจัดลงมือเช็ดตัวให้คนที่ป่วยอยู่ทันทีที่ แน่นอนว่าเช็ด‘ทั้งตัว’ พอผมจัดการปลดกระดุมเสื้อ2เม็ดบนเท่านั้นแหละ อือหื้อ ขาวครับ เนียนด้วย ผมนี้มือสั้นเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเห็นของใครนะ แต่ทำไมเจ้าเด็กนี่ทำให้ผมทั้งใจสั่นและมือสั่นได้ขนาดนี้ ผมคงไม่ได้เผลอถูกใจเด็กแบมเข้าแล้วใช่มั้ย
“อือ~“ครางอย่างนี้แสดงว่าจะตื่นซิน่ะ
“...”ผมก็ทำเป็นไม่สนใจครับเช็ดตัวต่อไป
“เฮ้ย!! คุณมาถอดเสื้อผมทำไมเนี่ย”
“นายป่วย”
“แล้วถอดเสื้อผมทำไมอ่ะ เช็ดนอกเสื้อก็ได้มั้ง”
“พูดมาก”
“ทำงี้แสดงว่าเป็นห่วงผมใช่มั้ยยย จะให้ผมอยู่ด้วยแล้วใช่มั้ย”อะไรคือทำหน้าตาดีใจขนาดนั้น ผมยังไม่ได้พูดซักคำ...
“ยังไม่ได้บอกว่าจะให้อยู่ด้วยนิ”เช็ดท่อนบนเสร็จแล้ว ผมก็วางผ้าขนหนูไว้ที่ขอบกะละมัง ท่าทางคงไม่ได้เป็นอะไรมากก คงไม่ต้องเช็ดตัวลดไข้แล้วหละ
“นะ นะ ให้แบมอยู่ด้วยเถอะ ให้แบมทำงานบ้านก็ได้ ให้น้องแบมอยู่ด้วยน่า~~”น้องแบม? อะไรคือเด็กแบมโหมดมุ้งมิ้ง มีน้องบ่งน้องแบมถึงมันจะว่ามันจะ..น่ารัก ก็เถอะ แต่ไม่ เพ่มาร์คต้องใจแข็งครับ อะไรคือพี่มาร์คต้องเลี้ยงเด็กอ่ะ
“ไม่”
“นะ นะ นะ น้องแบมสัญญาน้องแบมจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซนด้วย”พี่มาร์คโดนแอคแทคอะทุกคน
“ฉันไม่ได้มีเงินเลี้ยงนายขนาดนั้นน่ะ”เบือนหน้าหนี้สิครับงานนี้ โดนเด็กแอคแทคเราต้องไม่มอง
“น้องแบมสัญญาน้องแบมจะไม่รบกวนเงินพี่มาร์คเลย เดียวน้องแบมหางานทำก็ได้”นี้ผมเริ่มใจอ่อนละน่ะ ผมเกลียดนิสัยแพ้ลูกอ้อนของตัวเองที่สุด เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองแพ้ลูกอ้อนตอนเจอเด็กนี้เนี่ยแหละ
“อือ...”บางที ลองเลี้ยงเด็กซักคนคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ
“จริงนะ!!! คุณใจดีที่สุดอ่ะ”มาอีกและท่าทางโอเวอร์แอคติ้ง อะไรคือการสองมือแล้วกระโดดบนเตียงผมขนาดนั้น เหมือนเด็กๆจริงๆเลย
“มาร์ค..”ผมบอกชื่อตัวเองไปเบาๆ ผมไม่ชอบให้แบมแบมเรียกคุณๆสักเท่าไหร่
“อืม...?”
“เรียกฉันว่า พี่มาร์ค”
“ครับ พี่มาร์ค”ให้เรียกเฉยๆทำไมต้องยิ้มจนตาปิดขนาดนั้นด้วย
@ร้านอาหารJYP
19:00น.
ผมพาแบมแบมมาทานข้าวเย็นหลังจากนอนเล่นกันบนห้องทั้งวัน จนเจ้าตัวบ่นว่าหิว แถมยังมีรีแอคชั่นลูบท้องโชว์อีกต่างหาก เดือดร้อนผมต้องพามากินข้าวข้างนอกอีกแหละครั้นจะต้มรามยอนให้กินก็กลัวจะขาดสารอาหาร ไหนบอกจะไม่ทำให้เดือดร้อนไง เฮอะ
“จะกินอะไรก็สั่งแล้วกัน”ผมยื่นเมนูที่พนักงานส่งมาให้แบมแบม
“อ้าว แล้วพี่มาร์คอ่ะ ไม่กินอะไรหรอ”
“เดียวฉันสั่งเองแหละ นายสั่งไปเหอะหน่า”
“พี่ครับ น้องแบมเอาอันนี้ อันนี้ อันนี้ด้วย อันนี้ก็น่ากินอ่ะ อันนี้ด้วยๆ แล้วก็...”
“กินหมดหรอนั้นหน่ะ”แบมแบมละสายตาจากเมนูอาหารแล้วหันมามองหน้าผมแทน
“ก็น้องแบมเห็นพี่มาร์คไม่สั่งอ่ะ เลยสั่งเพื่อที่มาร์คด้วย พี่มาร์คจะเอาอะไรอีกมะ”ทำไมต้องทำตัวน่ารักด้วยว่ะ
“ไม่ได้บอกว่าจะกินซักหน่อยจะสั่งเผื่อทำไม”ผมตอบกลับไปเสียงนิ่ง
“อ้าวหรอ...”อ้าวๆ ทำไมต้องทำหน้าหงอยด้วยอ่ะ อย่างงี้ผมก็รู้สึกผิดน่ะ ผมไม่ได้ผิดซะหน่อย
“พอยังอะ เดียวกินเป็นเพื่อนด้วยก็ได้”นี้ผมกลายเป็นคนขี้ใจอ่อนตั่งแต่เมื่อไหร่กัน
“อือ พอแล้ว แบมสั่งมาเยอะมากเลยอ่ะ”
รอสักพักอาหารก็ทยอยมาเสริฟ์ คือไม่ใช่อะไรนะครับ เห็นอาหารที่แบมแบมสั่งมาแล้วรู้สึกเหมือนจะกระเป๋าฉีกเลยครับ อย่างงี้คงต้องใช้การ์ดดำที่แม่ทำไว้ให้ซะแล้ว พอหันไปเห็นเด็กตรงข้ามกินไปยิ้มไปก็ทำใจดุไม่ได้ เอาเหอะครับยอมๆไปวันหนึ่ง ผมว่าผมต้องหางานให้คนแถวนี้ทำซะแล้วซิ
“พี่มาร์คไม่กินหรอ น้องแบมกินคนเดียวไม่หมดหรอกน่ะ”เงยหน้าจากอาหารแล้วมาคุยกะผม แหม่สั่งซะเยอะขนาดนี้..
ความคิดเห็น