คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Daybreak’s Bell: II - M. Butterfly (Jesse)
RELEASE DATE : OCTOBER 29, 2020
-----------------------------------------------------------------------
ฟิค SixTONES แด่คุณยู :3 ฟิคใช้หนี้เพราะติดหนี้มึงอยู่: พาร์ท 2
ปล. ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะโผนโจนจากอีโรติกที่ตั้งใจไว้แต่เดิมไปเป็นอะไรที่มากกว่านั้นมั้ย กูตั้งใจแต่งให้ไม่มากเกินพอดีแล้ว แต่ถ้าเกินไปก็ตามนั้นฮ่ะ แบนได้เลย T v T
‘มาดามบัตเตอร์ฟลาย’ ตั้งอยู่ในย่านเขตเช่าฝรั่งเศสที่ราตรีไม่เคยหลับใหล เซี่ยงไฮ้คึกคักคลาคล่ำทุกค่ำคืนไม่ต่างจากโตเกียว นับตั้งแต่จากลาบ้านเกิดเมืองนอน ลูเอลล่าก็ไม่นิยมชมชอบการอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากอีกโดยสิ้นเชิง เพราะบางครั้งมันจะทำให้เธออึดอัดจนหายใจไม่ออก หาใช่ความอึดอัดจากมวลชนที่รายรอบ แต่เป็นความอึดอัดที่ก่อตัวบีบคั้นจากข้างใน การได้คบกับไทกะ ย้ายไปอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเขาตามคำชวน และใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบเรียบง่ายทุกค่ำเช้าด้วยกัน ก็ทำให้ชีวิตของเธอไกลห่างจากความวุ่นวายและสภาวะน่าอึดอัดทั้งปวง เพราะไทกะคือความสงบยิ่งกว่าทุกสรรพสำเนียงใดในโลกที่เคยมีแต่ความอึกทึกของลูเอลล่า
เป็นคำชักชวนกึ่งขอร้องของมาดามบัตเตอร์ฟลาย เจ้าของคลับบาร์ชื่อเดียวกันที่จัดงานปาร์ตี้ประจำเดือนขึ้นในชื่อ ‘เซเวนตีส์ ดิสโก ไนต์ ฟีเวอร์’ ตามชื่อเพลงของวงบีจีส์ที่หล่อนได้ปลื้มนักหนา หล่อนเป็นเพื่อนใหม่ในเซี่ยงไฮ้ของลูเอลล่าผ่านการแนะนำของไทกะ หญิงสาวนึกไม่ออกเลยว่าผู้หญิงที่ทั้งเฉี่ยวและปราดเปรียวอย่างมาดามบัตเตอร์ฟลาย มาเป็นเพื่อนกับคนรักผู้นิ่งขรึมพูดน้อยของเธอได้อย่างไร บ่ายวันหนึ่งที่เฮฟเว่นส์เบลล์ในวันที่ลูเอลล่าไม่ได้ทำงานแค่มานั่งดื่มกับไทกะ มาดามบัตเตอร์ฟลายก็โผล่มาร่อนบัตรเชิญให้ถึงโต๊ะ คนรักของเธอรับมาแม้จะปฏิเสธหนักแน่นแต่ต้นเพราะไม่ชอบงานพวกนี้มาแต่ไหนแต่ไร หากก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าลูเอลล่าจะอยากไปสนุกกับงานปาร์ตี้ดิสโกสไตล์ยุคเจ็ดศูนย์ที่เธอเคยบอกว่าชอบ หลังจากได้ดูหนังเรื่องแซทเทอร์เดย์ ไนต์ ฟีเวอร์ ที่มาดามบัตเตอร์ฟลายเคยขนวิดีโอพร้อมขนมนมเนยมาเปิดดูที่บ้านพวกเขา (ไทกะได้เข้าใจในตอนนั้นเองว่าหล่อนเอาหนังเรื่องนี้มาป้ายยาคนรักของเขา และมันก็ได้ผลดีเยี่ยม)
หญิงสาวนั่งแท็กซี่มาถึงอาคารสามชั้นสีน้ำตาลเข้มในสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปแต่เดิม มาดามบัตเตอร์ฟลายยืนทักทายแขกเหรื่อหน้าประตูเข้าคลับบาร์ด้านใน หล่อนโผนเข้ามาทักทายลูเอลล่าอย่างเริงร่าด้วยแก้มระบายโหนกเข้มที่แนบซ้ายขวา เจ้าของงานอยู่ในชุดกางเกงขาบานผ่าอกสีบานเย็นรัดเข็มขัดสีเงินที่เอว รองเท้าส้นตึกสีเดียวกับชุด วิกผมสีน้ำตาลฟูฟ่องทรงขอดหยิก แต่งหน้าแต่งตาด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูลจัดจ้านอย่างที่แต่งอยู่ทุกวัน ลูเอลล่ารู้ว่าหญิงที่พูดกับไทกะด้วยภาษาญี่ปุ่นได้แคล่วคล่องอายุมากกว่าคนรักของเธอ หากก็เดาอายุของหล่อนไม่ถูกเลยว่าอยู่ในช่วงวัยไหน ใบหน้าของหล่อนมีส่วนผสมที่แปลกประหลาดระหว่างชาวตะวันออกกับตะวันตก ยากจะเรียกว่าสวย แต่มีเอกลักษณ์มากจนทำให้หล่อนมีเสน่ห์มาก ทว่าหล่อนไม่มีความรักหรือใคร่ต่อเพศใดทั้งนั้น แต่รอบรู้เรื่องพวกนั้นจากงานการและสังคมที่อุดมไปด้วยแสงสีกับความรักฉาบฉวย ลูเอลล่าชอบหล่อนเหมือนที่หล่อนชอบเธอ
“วันนี้เธอสวยมากเลยลูเอลล่า” ริมฝีปากกว้างสีส้มของมาดามบัตเตอร์ฟลายฉีกยิ้มกว้างจากคำชมที่ลูเอลล่ารู้ว่าเชื่อถือได้เสมอ เพราะคนอย่างหล่อนไม่เสียน้ำลายไปกับการชมใครหรืออะไรพร่ำเพรื่อ “พวกผู้ชายได้มองตามตาเป็นมันแน่ ไทกะพลาดแล้วที่ไม่ตามมาคุมเธอ คนสวยของฉัน”
ไม่ทันได้คืนคำขอบคุณหรือตอบว่ากระไรกับคำชมที่ทำให้เธอเขิน มาดามบัตเตอร์ฟลายก็จะถูกชายคนหนึ่งฉกฉวยด้วยการโอบเอวดึงไปเต้นเสียก่อน ลูเอลล่าที่ถูกทิ้งให้เก้อจึงเดินเข้าไปในงาน เสียงทึบทึมที่ได้ยินแต่ไกลเมื่ออยู่หน้าประตูฟังชัดเจนเต็มสองหู พ่วงมาด้วยเสียงเซ็งแซ่ของประชากรนับร้อยชีวิต เพลง ‘ไอ เลิฟ เดอะ ไนต์ไลฟ์’ ของแอลิเชีย บริดเจสกำลังเล่นผ่านลำโพงจากที่ไหนสักแห่ง ชายหญิงมากมายในเครื่องแต่งกายย้อนยุคทำให้ลูเอลล่ารู้สึกเหมือนหลุดมาในคลับดิสโกยุคเซเวนตี้ได้จริง พวกเขาโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานไปกับบทเพลงในจังหวะคึกคักกันสุดเหวี่ยง ขณะที่ลูเอลล่าผู้ยังไม่อยู่ในจังหวะดนตรีดี ก็ฉวยเอาค็อกเทลสีชมพูที่เธอไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรจากบริกรชายที่เดินผ่านมา เมื่อค็อกเทลรสขมอมหวานเข้าปากก็หวนนึกว่านานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้มางานปาร์ตี้ ทั้งที่ตอนอยู่โตเกียวเธอออกจะเป็นสาวปาร์ตี้ตัวจริงเสียงจริง โดยเฉพาะตอนคบควงกับคนรักชาวตะวันตกที่เป็นดีเจในไนต์คลับ
แต่แล้วทันใดดวงตาสีเข้มที่มองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้การจับจด ก็จะเห็นเงาร่างของใครคนหนึ่งที่กำลังแหวกธารมนุษย์ตรงมาทางเธอ ชายตัวสูงใหญ่ไม่เพียงเป็นจุดเด่น แต่การแต่งตัวในแบบเซเวนตีส์ที่ดูดีมากของเขาทำให้เขาโดดเด่นได้ยิ่งกว่านั้น ใบหน้าและร่างกายแบบผู้ชายที่อัดแน่นด้วยเสน่ห์เต็มเปี่ยมส่งให้เขาเป็นดาวจรัสใต้ไฟดิสโกได้ไม่ยาก
ไม่ต่างจากหลังคอนเสิร์ตเอ็ม-โฟลในไนต์คลับที่ชินจุกุเมื่อสองปีก่อน
ลูเอลล่าไม่คิดเลยว่าเธอจะได้พบเจอกับเจสซี่—คนรักชาวตะวันตกคนแรกและคนสุดท้ายของเธอในญี่ปุ่น—อีกครั้งยังประเทศเซี่ยงไฮ้
จะหลบหรือเลี่ยงก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว แม้แค่หมุนตัวก็ยังน่าสงสัย จึงทำได้เพียงยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มขณะตอกตรึงรึงฝีเท้ากับพื้นแน่น ระหว่างที่เขาเดินเข้ามาถึงตัวเธอและทักทายเธอด้วยสีหน้าตื่นเต้นระคนตื่นตกใจไม่ต่างจากเธอ ผิดก็แต่ลูเอลล่าเก็บมันไว้ข้างในแทนที่จะแสดงออกมา โดยเฉพาะในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างที่เผชิญอยู่นี้
“ไม่คิดว่าจะได้เจอเธอที่เซี่ยงไฮ้ ฮิเมนะ”
เจ้าของชื่อที่ไม่มีใครเรียกขานมานานฉีกยิ้มกลับไปให้เจสซี่อย่างไม่ใคร่เต็มใจนัก ผิดกับเขาที่รอยยิ้มกว้างกระจายอยู่เต็มใบหน้าอันทำให้สาวคนไหนระทวยได้ไม่ยาก ทว่าไม่ใช่แค่นั้นที่ทำลูเอลล่าประหม่า การที่เขาเรียกเธอด้วยชื่อภาษาญี่ปุ่นทั้งที่พูดคุยกับเธอด้วยภาษาอังกฤษอยู่นี้ก็ทำเธอหงุดหงิดไม่น้อย เจสซี่ย่อมรู้จักเธอเป็นอย่างดี ในเมื่อเธอกับเขาก็เคยใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะคนรักมานานถึงแปดเดือน แต่เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้รู้จักชื่อจริงของเธอจากบัตรประชาชนของเธอ
ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าแต่งแต้มสวยสดของเธอ หนึ่งเพื่อความมั่นใจ สองเพื่อให้ผู้หญิงอิจฉา สามเพื่อให้ผู้ชายมองมา แต่อย่างไรลูเอลล่าก็รู้ว่าเธอจะไม่สนใจใครมากไปกว่าไทกะ ทว่าเจสซี่คือคนที่ยืนยันได้ชัดเจนแจ่มแจ้งตรงหน้าว่าสิ่งที่เธอทำมานั้นบรรลุ ไม่ว่าจะในงานปาร์ตี้ดิสโกตอนนี้ หรือในคอนเสิร์ตเอ็ม-โฟลตอนนั้น หากไม่ใช่แค่นั้น เมื่อสายตาของเขาเลื่อนจากใบหน้าเธอ มาเป็นหน้าอกหน้าใจใต้ชุดกระโปรงแขนกุดลายตารางสีเขียวสลับน้ำเงินกับขาวอย่างจงใจไม่ปิดบัง ทั้งที่มันก็ไม่ได้เซ็กซี่เย้ายวนเกินงามเลย กระทั่งลามเลียลงไปถึงต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นกุด หรือจะเป็นมือใหญ่ของเขาที่เอื้อมมาแตะต้นแขนเปลือยของเธอ ก่อนเปลี่ยนเป็นจับมันบีบอย่างมีนัยยะ...ที่ไทกะไม่เคยแตะต้องตัวเธอด้วยนัยเช่นนี้ และเธอก็น่าจะปัดมือเขาออกหรือสะบัดตัวออก ทว่าสิ่งที่ลูเอลล่าทำก็คือยืนนิ่งราวถูกติดตรึงอยู่กับที่ ปล่อยให้คนตรงหน้าทำอย่างที่ต้องการ ไม่ได้แสดงออกแม้เพียงนิดว่าไม่ชอบใจ เพราะมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอแน่ใจว่าตนเองรู้สึก
ต่อชายผู้เป็น ‘สาเหตุ’ ให้เธอย้ายมาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
หลังจากที่เขาชวนเธอไปนั่งรถเล่นชมเมืองรอบดึกด้วยกันในคอนเสิร์ตเอ็ม-โฟลคืนนั้น ตอนที่เขาหยุดรถจอดริมทางเพื่อโอ้โลมกล่อมเธอด้วยคำกระซิบร้อนผ่าวแนบใบหูว่าชอบเธอ ตอนที่เธอยอมให้เขาจูงขึ้นห้องจนถึงเตียงได้ตามใจชอบแค่จากริมฝีปากที่มีกลิ่นของบุหรี่เมนทอล ไปถึงตอนที่เธอขนข้าวของย้ายจากห้องพักโกโรโกโสมาเป็นแมนชันหรูในรปปงงิของเขา
เจสซี่เป็นผู้ชายต่างชาติคนแรกที่ลูเอลล่าเคยคบหรือแม้แต่เคยนอนด้วย ถึงเขาจะเกิดและโตที่ญี่ปุ่น เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นมากกว่าอเมริกาบ้านเกิด แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นอย่างลูเอลล่า เขาก็คือคนต่างชาติสำหรับเธอเสมอ
ลูเอลล่าชอบที่ได้พูดคุยกับเขาด้วยภาษาญี่ปุ่นปนอังกฤษที่เธอชอบและพูดได้ดีกว่าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มาก มาย้อนนึกก็ต้องยอมรับว่าเจสซี่ทำให้เธอเก่งภาษาอังกฤษได้ขนาดนี้ จนการใช้ชีวิตในเซี่ยงไฮ้เป็นเรื่องไม่ยากเย็นมากเกินไป หรือจะเงินของเขาที่เธอฉกฉวยมาใช้จ่ายในเมืองใหม่ได้ไม่ขัดสน ลูเอลล่าแทบไม่ต้องเหนื่อยทำอะไรเลยเพราะแฟนหนุ่มชาวตะวันตกที่ดูดีไปทุกอย่างตั้งแต่หน้าตา ฐานะ ยันการงานดีเจในไนต์คลับแทบจะยกทุกอย่างมาประเคนให้ หากก็มีบ่อยครั้งที่เธอไม่ชอบการเป็นคนสบายและเอาแต่ใจของเขา แต่ลูเอลล่าผู้ในตอนนั้นยังอ่อนต่อโลกเกินกว่าที่ตัวเองจะรู้ ก็คิดว่ามันคงเป็นอุปนิสัยแบบคนตะวันตก และเธอก็รับได้เพราะไม่ชอบความเหนียมอายหรือการมีพิธีรีตองแบบคนญี่ปุ่น การได้คบกับเจสซี่เหมือนช่วยเปิดโลกใบใหม่ให้เธอ ทั้งยังทำให้เธอได้หลบลี้หนีจากความเป็นจริงที่เคยน่าเบื่อ เพราะเขาทำให้มันไม่น่าเบื่อ
เป็นค่ำคืนที่มืดมิดยิ่งกว่าคืนไหนทันทีที่เจสซี่บอกว่าต้องบินกลับอเมริกาด้วยธุระเรื่องครอบครัว โดยไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไหร่ หรืออาจไม่กลับมาอีกเลย...อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้ ครั้นลูเอลล่าถามว่า “แล้วฉันล่ะ” เจสซี่ก็เพียงประคองใบหน้าเธอที่นั่งอยู่บนเตียงข้างกันเข้ามาเพื่อจะจูบ หากเท่านั้นก็มากพอจะทำให้ลูเอลล่ารับรู้ว่าคำตอบต้องเลวร้ายสำหรับเธอมากแค่ไหน เมื่ออนาคตของเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีเธออย่างที่เธอคิดหวังว่าจะเป็นเรื่อยไป
หญิงสาวผู้ร้าวรานขืนตัวออก จากนั้นใบหน้าและร่างกายท่อนบนของเจสซี่ที่ไม่ได้อยู่ในเสื้อกล้ามสีดำ ก็จะมีรอยข่วนจากเล็บของคนรักเท่าที่เธอจะปัดป่ายกรีดแทงลงไปได้ เขาอารมณ์ขึ้นกับการทำร้ายร่างกายของเธอที่ก็ไม่ได้ระคายผิวมากนัก จนเผลอเหวี่ยงร่างของเธอไปชนกับเหลี่ยมกำแพงจนเลือดออกหัว แต่ลูเอลล่าที่เลือดขึ้นหน้าก็ไม่ไยดีกับอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความเจ็บปวด ปากของเธอยังกรีดร้องก่นด่าไม่หยุด มือไม้ของเธอก็ยังทำร้ายเจสซี่อยู่อย่างนั้น เพราะหากเธอเจ็บ เขาก็ต้องเจ็บด้วย ไม่มีทางที่คนอย่างเธอจะยอมเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว หรือจะเป็นตอนที่เขาจับเธอจูบจนได้ในที่สุด แต่เธอก็ตอบโต้ด้วยการกัดจนได้รสเลือดจากริมฝีปากที่ประทับแนบแน่นจนไม่มีช่องว่างดั่งจะไม่มีวันแยกห่าง...เหมือนตลอดทั้งคืนนั้น
ในตอนที่เจสซี่นอนหลับสนิทไปแล้วกับลมหายใจที่แผ่วอย่างสงบ ราวกับเรื่องราวก่อนหน้าไม่ได้เกิดขึ้น ราวกับอนาคตเขาไม่ได้จะจากเธอไปแสนไกล ลูเอลล่าก็ออกมาจากที่ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านพร้อมเงินและของจำเป็นจำนวนหนึ่ง ทิ้งทุกอย่างที่เหลือไว้เบื้องหลังกับผู้ชายที่จะเป็นเพียงความหลังของเธอ โดยไม่คิดจะใช้วันเวลาที่เหลืออยู่สร้างความทรงจำที่ดีกับเขาก่อนไป เหมือนที่ได้ให้สัญญาอันไม่เคยคิดจะหมายความตามนั้น
บัดนั้นสิ่งเดียวที่เหนือกว่าความรักมากมายที่ลูเอลล่าเคยมีให้เขา ก็คือความโกรธแค้นต่อผู้ชายที่เธอมองว่าเป็นตัวแทนของตะวันตก หญิงสาวได้เข้าใจในตอนนั้นเองว่าจะญี่ปุ่นหรือตะวันตกก็ล้วนทำให้เธอผิดหวัง แค้นเคือง และโกรธชัง
ก่อนที่เจสซี่จะบินไปอเมริกาในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลูเอลล่าก็มาเหยียบย่างลงบนเซี่ยงไฮ้แล้ว
แม้จะผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้ว หากเมื่อเขายืนอยู่ตรงหน้า เรื่องราวทั้งหมดก็กลับมากระจ่างชัดในความคิดของลูเอลล่า...และอาจรวมถึงกับเจสซี่ด้วย
หญิงสาวไม่สามารถหาเหตุผลอื่นนอกเหนือไปจากนั้นได้ ว่าเหตุใดถึงยอมให้คนรักเก่าจูงขึ้นบันไดมาแต่โดยดีเพื่อไปบนชั้นสองที่เธอไม่เคยเหยียบย่าง ลูเอลล่าเคยอยู่แค่ชั้นล่างกับไทกะที่บางครั้งคราวในวันที่มีแดดก็จะแวะมาเยี่ยมเยือนมาดามบัตเตอร์ฟลาย แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำห้องในสุดบนชั้นสองที่เจสซี่ไม่เสียเวลาหลังจากล็อกมันอีกด้วยการจับเธอกระแทกกับกำแพงหินอ่อนสีดำ จูบเธออย่างเร่าร้อนรุนแรงจนลูเอลล่ารู้สึกเหมือนริมฝีปากของเธอจะมอดไหม้ มือร้อนจัดของเขาลากไล้ไปตามผิวหนังของเธอราวกับเชื้อไฟที่สุมให้เธอร้อนรุ่มได้อย่างดี...เหมือนที่เจสซี่เคยทำได้อย่างดี ลมหายใจของเขายังมีกลิ่นเมนทอลเหมือนวันแรกที่เธอได้พบ จูบแรกกับเขาเคยทำให้เธอล่องลอยไปบนฟ้า แต่จูบนี้ทำให้เธอเหมือนอยู่บนสวรรค์ที่รายล้อมด้วยไฟนรก
ลูเอลล่ารู้ว่าเธอต้องหยุด เสียงหัวเข็มขัดกระทบตอนเขาปลดมันออกควรทำให้เธอได้สติ เธอควรนึกถึงไทกะที่คงอ่านหนังสือหรือไม่ก็ฟังเพลงรอเธออยู่ที่บ้าน คนรักที่บอกเธอว่า “ขอให้สนุกกับงานนะ” และจูบอ่อนโยนเนิ่นนานจากเขาที่หน้าประตูบ้านก็ทำให้ริมฝีปากสีชมพูเข้มจากลิปที่ไม่ติดทนของเธอเลอะ แต่ลูเอลล่าก็เพียงหัวเราะขณะบอกเขาว่าไม่เป็นไรก่อนไปเติมมันบนรถแท็กซี่ เพราะเธอไม่มีวันโกรธไทกะได้ลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่เพียงไหน หากเมื่อเจสซี่สอดมือเข้าไปใต้กระโปรงเธอและดึงชั้นในใต้นั้นลง เมื่อตัวตนของเขาเข้ามาเติมเต็มในตัวเธอก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมา ทั้งเพราะความเศร้าที่ได้ทำผิดต่อคนรักผู้ไม่ผิดอะไรเลย และเพราะความสุขสมที่อดีตคนรักทำให้เธอรู้สึกอยู่นี้
ลูเอลล่ากับไทกะไม่สามารถร่วมรักกันได้ เพราะในครั้งแรกที่พวกเขากำลังจะทำ เธอและไทกะเองก็ได้รู้ว่าเขาไร้สมรรถภาพทางเพศ จะพยายามปลุกปั่นอย่างไรก็ไม่เกิดผล ชายคนรักได้แต่ร่ำไห้ พร่ำขอโทษเธอไม่หยุด ขอโทษที่ทำให้เธอผิดหวัง ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นของเขาไม่ได้ เขาไม่ได้นอนกับใครมาห้าปี แต่เขาเคยมีสัมพันธ์กับใครและมันก็ใช้การได้ดี แต่ช่วงหลายปีมานี้เขามีเรื่องเครียดเก็บไว้กับตัวมากเกินไปจนตัดเรื่องพวกนี้ออกไปจากความคิด กระทั่งได้พบกับลูเอลล่าที่เรียกมันคืนมาได้อีกครั้ง
ขณะคนสองคนที่เจ็บปวดที่สุดบนโลกในคืนนั้นกอดปลอบและร้องไห้กันตลอดทั้งคืน ลูเอลล่าก็ได้รู้และเข้าใจจากก้นบึ้งของหัวใจว่าเธอ ‘รัก’ ไทกะมากแค่ไหน
แต่ความรักกับความใคร่อยู่คนละส่วนกัน มันเป็นอย่างนั้นเสมอสำหรับลูเอลล่าคนนั้นในโตเกียว ยามที่ความใคร่ครอบงำโดยสมบูรณ์ ความรักก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป ร่างกายที่เหมือนจะปริแตกเป็นเสี่ยง ความเจ็บจนแทบจะตายจากผู้ชายที่ลูเอลล่าแน่ใจว่าเขารู้ว่าเธอไม่ได้นอนกับใครมาพักใหญ่ เพราะเขาเคยรู้จักตัวตนของเธอดีเหมือนเป็นตัวเขาเอง และเขาไม่ยอมให้เธอได้ปรับตัว ถึงตรงนั้นของเธอจะเปียกแฉะก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะพร้อมรับเขาเข้ามาได้ในทันที แม้จะเคยคุ้นกันดีก็ตามที แต่เจสซี่ก็ไม่สนใจแม้แต่น้อยต่อให้ลูเอลล่าผู้เจ็บเจียนตายจะกรีดเสียงออกไปว่า
“ไอ้เจสซี่! ไอ้ชั่ว! ไอ้สารเลว! หยุดนะ! แกกำลังจะฆ่าฉัน!”
เธอเอามือทุบไปที่อกของเขา กระทั่งตบและข่วนไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ทว่าเจสซี่ก็ไม่ไยดีหรือคิดจะหยุด เขายังบีบต้นขาของเธอแน่น กระแทกกระทั้นเข้าไปในตัวเธอไม่หยุดโดยไม่ผ่อนแรงแม้เพียงนิด ขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนขึ้นไปเป็นคอเธอ และเริ่มกดถ่ายน้ำหนักลงไปจนลูเอลล่าต้องจับมือของเขาแทนเพื่อช่วยยั้งมัน ไม่แค่นั้น เจสซี่ยังปิดช่องทางหายใจที่เหลืออยู่น้อยนิดของเธอ ด้วยริมฝีปากที่กดลงไปบนกลีบปากสีชมพูที่ลิปจางหายไปหมดแล้ว
ลูเอลล่าตัวสั่นเทิ้มอยู่ใต้การควบคุมของเขา และความรู้สึกที่พุ่งทะยานจนเกินยั้งในช่องท้องของเธอก็ค่อยคลายลงได้เมื่อรู้สึกถึงการระเบิดในตัว มือแกร่งเหมือนคีมที่อยู่บนคอเธอเริ่มอ่อนแรงลง ลูเอลล่ารู้ว่าเขากำลังจะถึงฝั่งตามเธอเพราะเจสซี่จะให้เธอถึงก่อนเสมอ เซ็กซ์เป็นเรื่องหนึ่งที่ผู้ชายคนนี้เคยทำได้ยอดเยี่ยม...และยังทำได้ดีเยี่ยม หลังจากปลดปล่อยในตัวเธอ เจสซี่ก็เอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ที่อยู่ข้างโถเพื่อสอดมันเข้าไปเช็ดคราบเหนียวใต้กระโปรงให้เธอ จากนั้นก็บอกให้เธอนั่งลงปัสสาวะเพื่อจะได้ไม่เป็นโรค
มันเป็นหนึ่งในข้อดีของเจสซี่ที่ทำให้ลูเอลล่าฉงนใจในทีแรก ทว่านานไปก็ได้เข้าใจว่าเขาก็มีความละเอียดอ่อนและอ่อนโยนในแบบของเขาเอง หลังจากบทรักอันดุเดือดเลือดพล่านที่ทำให้เธอหายใจไม่ออก ทำให้เธอทรมานเหมือนจะตาย แต่ความสุขสมที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดนั้นก็คุ้มค่า รอคอยให้เธอเรียกร้องที่จะได้ปลดปล่อยอารมณ์อีกครั้ง...อีกครั้ง...แล้วก็อีกครั้ง
ขณะจัดผมเผ้าและเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยเข้าที่ เจสซี่ที่ผละไปยืนพิงกับกำแพงอีกฝั่งแล้วก็กอดอกถามว่า “ยังฉีดยาคุมทุกสามเดือนอยู่มั้ย”
“นายควรถามก่อนจะเอาฉันไม่ใช่หรือไง” คนถูกถามเงยหน้ามองด้วยรอยยิ้มมุมปาก ไม่ใช่แค่ต้องการเยาะหยันเขาหากรวมถึงตัวเองด้วย “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดจะมีลูกกับนายหรอก ไม่ว่าจะเมื่อสองปีก่อน...หรือตอนนี้” หาได้ตอบคำถามของเขาตามตรง ทว่าคำตอบก็ชัดแจ้งในตัวมันเอง “แล้วนายแน่ใจมั้ยว่าปลอดภัยไม่ได้แถมโรคมาด้วย”
“เธอควรถามก่อนจะให้ฉันเอามากกว่ามั้ง” สีหน้าของคนที่ถูกย้อนถามอย่างประชดประชันเคืองขุ่นไปเล็กน้อย “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เอาใครไม่ใส่ถุงพร่ำเพรื่อหรอก”
“งั้นก็ดี” ลูเอลล่าตอบรับแค่นั้น เธอตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ก็ไม่ทันเจสซี่ที่รวบร่างเธอเข้าไปจนแผ่นหลังระผมสีม่วงแนบกับแผงอก ลูเอลล่าไม่เคยหลงใหลได้ปลื้มการโอบกอดจากด้านหลังจนถึงกับขนลุก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่าก่อนจะได้รู้จักกับไทกะ บ่อยครั้งที่เจสซี่ทำให้เรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นข้อยกเว้นของเธอได้ เพราะเธอเคยรักเขาตั้งมากมาย
“ดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้งนะ ฮิเมนะ รู้มั้ยว่าฉันคิดถึงเธอมาตลอด”
คำพูดของเขาทำให้ลูเอลล่างันไป อดีตคนรักที่ทิ้งเธอไปอเมริกาโดยไม่แม้แต่จะถามไถ่ความเห็นจากเธอ เหตุใดถึงหน้าด้านกล้าดีมาพูดคำนั้นกับเธอ หากเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดแนบแน่นของเขา ได้ฟังเสียงของเขาที่แนบชิดติดใบหู ลูเอลล่าก็ได้เข้าใจว่าแท้จริงเธอเองก็คิดไม่ต่างกัน แต่ก็ปฏิเสธที่จะพูดหรือแค่แสดงท่าที หญิงสาวขืนตัวออกจากเขาก่อนที่อดีตคนรักจะเข้าไปในความคิดคำนึงของเธอได้ เธอหมุนลูกบิดประตูแล้ววิ่งออกไป สวนทางกับผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาและดูตกใจเมื่อเห็นผู้ชายเดินตามออกมาจากห้องน้ำห้องเดียวกัน แต่หล่อนจะรู้ว่าเธอกับเขาเพิ่งทำอะไรกันมาหรือไม่ก็ช่าง ลูเอลล่าไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว ทั้งคนแปลกหน้าที่ก็เป็นแค่เพียงตัวประกอบฉาก ทั้งเจสซี่ที่เธอไม่ควรจะได้พบอีกครั้ง
ฝีเท้าในรองเท้าบู๊ตส้นสูงสีขาววิ่งฝ่าฝูงชนที่กำลังดิ้นกันในบทเพลงของเอิร์ธ วินด์ แอนด์ ไฟร์ บรรยากาศเริงรื่นครึกครื้นนี้ราวกับเรื่องระหว่างเธอและเจสซี่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ความทุกข์ของเธอเป็นเพียงสิ่งที่เธอคิดไปเองบนโลกอีกใบที่ไม่มีเรื่องเศร้าใดจะกล้ำกรายได้ ลูเอลล่าวิ่งผ่านมาดามบัตเตอร์ฟลายที่ร้องทักเธอจากหลังเคาน์เตอร์ ผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร อาจเป็นความรู้สึกผิดที่วิ่งตามเธอมาทุกย่างก้าวเหมือนชนักที่ปักติดหลัง ลูเอลล่ารู้แค่เธอต้องวิ่ง ให้พ้นจากห้องน้ำห้องนั้น ให้พ้นจากงานปาร์ตี้นั้น ให้พ้นจากเจสซี่ที่จูบและสัมผัสของเขายังคงแผดเผาฝังอยู่ทั่วร่างของเธอ ให้พ้นจากตัวเองที่น่าขยะแขยง ให้พ้นจากการกระทำที่ชั่วร้ายเกินอภัยของตัวเอง
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าทำผิดต่อไทกะมากแค่ไหน แต่กลับรู้สึกแย่เพราะรู้สึกดีกับสิ่งที่ได้ทำลงไป เป็นเนิ่นนานในครั้งแรกที่ได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง แถมยังจากคนรักเก่าที่เลิกร้างกันไปด้วยไม่ดี แต่ที่ลูเอลล่าโกรธจนอยากกรีดร้องออกมาให้สุดเสียงแทนที่จะมีแค่น้ำตาที่ไหลออกมา หวังว่ามันจะก้องดังไปถึงที่ไหนสักแห่งที่พระเจ้ากำลังรอลงทัณฑ์หญิงชั่วร้ายผู้นี้ให้สาสม เพราะส่วนลึกของใจเธอรู้ดีว่าอยากพบกับเจสซี่อีกเพื่อทำเรื่องแบบนั้นกับเขาอีก แทนไทกะที่ไม่อาจให้มันกับเธอได้
ในเซี่ยงไฮ้ที่กว้างใหญ่ รุ่งเรือง ทันสมัย และเป็นสากล อุดมไปด้วยตึกสูงมากมายที่พากันเบียดเสียดพุ่งทะยานเพื่อไปถึงฟ้า ระยิบระยับด้วยแสงไฟนีออนที่สว่างไสวเป็นประกายวาววับจนตาพร่า ไม่เพียงทำให้หญิงผู้นัยน์ตามืดบอดลืมญี่ปุ่นไปได้ แต่ยังทำให้เธอลืมคนรักชาวญี่ปุ่นไปได้แค่ด้วยแรงปราถนาที่มีต่อร่างกายของอดีตคนรัก
หรือแท้จริงลูเอลล่าก็อาจหนีจากญี่ปุ่นไม่พ้นเลย นับตั้งแต่ได้มีความรักอีกครั้งในเซี่ยงไฮ้กับไทกะที่เป็นคนชาติเดียวกันกับเธอ ได้กลับมาพบกับเจสซี่อดีตคนรักชาวตะวันตกที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันในโตเกียว
เพราะเธอก็เป็นแค่สาวญี่ปุ่นตัวเล็กจ้อยที่ไม่มีวันหนีอะไรได้พ้นท่ามกลางมหานครที่กว้างใหญ่นี้
“ชาวตะวันออกจะยอมจำนนให้กับอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ”
— กัลลิมาร์ด (มาดาม บัตเตอร์ฟลาย)
- ได้แอบใส่hintไปในทอล์กตอนที่แล้วว่ามันคือ EAST meets WEST และถ้าเราจะไม่ให้ฝรั่งมาเด่นก็คงไม่ได้ จริงมั้ยครัฟพี่น้องครัฟขอเสียงหน่อยครัฟ และใช่ค่ะ กูไม่กล้าบอกมึงว่ามันคือเจสซี่เพราะเดี๋ยวมึงด่าว่าอิสัสโฮคุโตะก็ยังไม่มา แล้วอะไรคือเจสซี่ ฮิ้ง แต่ไม่ไหวว่ะ มันต้องมีฝรั่ง(แท้จ้ะ ไม่เก๊) เพราะมันคือประเด็นหลักประเด็นหนึ่งด้วย แล้วฝรั่งอะมึง กูก็คิดบาป เลยเอางี้แหละ เจสซี่นะ ก็ต้องอย่างงี้แล้วล่ะ ทุนนิยมมันเฮี่ยมากขรั่บ
- เพลง I Love The Nightlife ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเจอตอนไล่หาเพลงยุค80sฟัง ฟังไปก็โอ๊ยไม่ไหวต้องเอามาลงสักเรื่อง มันคือที่มาของฉากงานปาร์ตี้ในเรื่องเองแหละ และอย่าคาดหวังว่าจะออกมาเป็นกลางคืนในโทนเพลงยามะพีแบบที่มึงชอบ เพราะตอนหน้าก็เพลง Daybreak's Bell แล้วจ้า คิดดู กูยอมสละเพลงที่กูรักมากเพลงนี้เพื่อแต่งให้โฮคุโตะเลยนะ กูไม่ได้เกลียดอะไรเค้าหรอก แค่หยอกงิ T v T
- มาดามบัตเตอร์ฟลายเรานึกภาพเป็นคิโกะ และชื่อมาดามบัตเตอร์ฟลายก็มาจากหนังชื่อ M. Butterfly เดือนก่อนเพิ่งอ่านประวัติผกก.โครเนนเบิร์กมา พอแต่งอะไรเป็นจีนแล้วชื่อนี้มันแว้บขึ้นมาพอดีเลยอยากใช้อิอิ ก่อนจะได้รับอิมเมจลูน่าที่ก็มีเพลงบัตเตอร์ฟลายอีกนะจ๊ะ :3 เฮ้ย เพิ่งไปหาเจอ เรื่องที่โครเนนเบิร์กคนพ่อทำ ชื่อ M. Butterfly แต่มีเรื่อง Madame Butterfly ที่เป็นเรื่องของเกอิชากับทหารยูเอสว่ะ หรือว่าพระเอกต้องเป็นฝรั่งวะ!
ความคิดเห็น