ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` Decadence Avenue .

    ลำดับตอนที่ #15 : I984: Super Trouper

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 63


    I984: Super Trouper
    RE-RELEASE DATE :
    DECEMBER 14, 2020
    ------------------------------------------------------------------------------------

    ดัด
    แปลงมาจากเรื่อง Lake Dance ที่เราเคยแต่งโดยอิงมาจาก AHS: 1984 จ้า

    - เรื่องนี้จัดเป็นตอนหนึ่งในเรื่อง I984 (ชื่อเรื่องลอกมาจาก 1Q84 อีกที) ก็คือฟิคที่แปลงมาจากฟิคที่กูเคยแต่งจาก AHS: 1984 เพราะยังมีอีกสองเรื่องที่เคยแต่งโดยเป็นตัวละครเดียวกัน สถานที่เดียวกัน เปลี่ยนแค่ตัวละครหลักผู้หญิง และแน่นอนว่ากูชอบเรื่องนี้สุดในหมู่สามเรื่องนั้นก็เลยต้องแฮปไว้เอง อิ๊อิ๊ ที่จริงแปลงเสร็จนานแล้วตั้งแต่สิ้นเดือนพ.ย. แต่ไม่รีบเพราะมีเรื่องอื่นที่ดีกว่าให้ลง...อย่างเฮลล์อินเฮฟเว่น...เป็นต้น T v T ออกตัวก่อนว่ามันไม่ได้แย่ แต่...มันดีกว่านี้ได้ (พูดเหมือนเทรเลอร์WW84)
    - ตอนแรกก็กะจะให้เป็นเรื่องในญี่ปุ่นแหละ แต่ไม่อยากตัดงานโอลิมปิกแล้วก็อยากให้อยู่ในยุค80ด้วย เลยคิดว่าเอาเป็นกลุ่มคนญี่ปุ่นในฝรั่งได้นาเหวย! ไม่นานมานี้ก็เพิ่งได้แปลหนังสารคดีแอลเอยุคนั้น (Let It Fall LA: 1982-1992 เกิดมาเพิ่งได้งานยาวฉิบหายขนาดนี้จ้า) แล้วเค้าไปสัมภาษณ์คนญี่ปุ่นด้วยก็เลยคิดว่าทำไมจะญปไม่ได้ล่ะวะ!
    - เรื่องนี้ตอนแรกก็คิดว่าจะเอามาแปลงได้มั้ยวะเพราะทุกตัวละครนอกจากนางเอกมีเจ้าของบทบาทเดิมอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ได้อีกแล้วว่ะแถมฉิวมาก :3 โอ๊ย ปีนี้เราต้องขึ้นรับรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลง(ข้ามประเทศ)ยอดเยี่ยมอีกกี่รอบกันนะ 55555
    .
    https://i.imgur.com/A0ACiL4.png

    BGM : Super Trouper
    – Mamma Mia! Here We Go Again Cast
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มันจะต้องเป็นซัมเมอร์ที่น่าเบื่ออีกปีของโยโกะ โคเซกิแน่ เธอรู้ตั้งแต่มันยังไม่มาถึงเลยล่ะ!

    แม้หญิงสาวจะไม่ต้องแกร่วแซ่วไปมาพร้อมกับความน่าเบื่อมหันต์ในแอลเอที่เธอรู้จักดีมาทั้งชีวิต หรือต้องทนติดแหง็กอยู่ในเมืองช่วงที่งานนรกแตกอย่างโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น (หึ แอลเอจะเป็นนรกของจริงจากคลื่นมหาชนนับล้าน!) แต่ร้อนนี้โยโกะจะได้หลบหนีจากความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ในเมืองมาทำงานเป็นผู้ดูแลแคมป์ฤดูร้อนจากการชักชวนของโคโคน่าเพื่อนซี้คนใหม่

    โยโกะรู้จักกับโคโคน่าตอนไปเรียนเต้นแอโรบิคที่สตูดิโอสอนเต้นในเมือง หล่อนมาทักทายเธอในห้องอาบน้ำหญิงที่คอกอาบน้ำข้างกัน โคโคน่าเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี มนุษยสัมพันธ์ดี และแม้ว่าหน้าตาท่าทางของหล่อนจะเฟี้ยวฟ้าวเอาการ แต่หล่อนก็ดูจะเป็นคนนิสัยดี ถึงอัธยาศัยอันดีมากของหล่อนจะทำให้โยโกะอึดอัดอยู่บ้างในทีแรก แต่ไม่ช้าความเป็นกันเองของโคโคน่าก็กลายเป็นสิ่งที่เธอชมชอบไม่เบา

    ลังจากแต่งตัวเรียบร้อย โคโคน่าก็พาเพื่อนใหม่ไปรู้จักกับกลุ่มเพื่อนเต้นแอโรบิคที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ตรงเคาน์เตอร์ โฮคุโตะหนุ่มนักกีฬารูปหล่อ ไทกะหนุ่มผมทองหน้าตาน่ารักร่าเริง คาร่าหญิงสาวท่าทางเรียบร้อยรอบรู้ และเจสซี่—เจสซี่ ลูอิส (โยโกะจงใจแนะนำเขาให้พิเศษกว่าคนอื่นด้วยชื่อสกุลเต็ม) นักแสดงผู้ฝันอยากเป็นนักแสดงตัวจริง

    งานประจำของเจสซี่คือเป็นครูสอนเต้นแอโรบิคและเขาก็เป็นครูในคลาสที่โยโกะเพิ่งเรียนจบไปเมื่อกี้นี้ ศิษย์สาวขอสารภาพตามตรงต่อผู้ใดก็ตามที่ฟังอยู่ว่าความจริงเธอแอบปิ๊งครูคนนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว เธอละสายตาจากเขาไม่ได้และพระเจ้ารู้ว่าไม่ใช่เพราะเธอจำท่าไม่ได้ โธ่เอ๋ย พระองค์ก็รู้ว่าเพราะอะไรต่อให้เธอไม่พูด! เขาดูดีมาก หุ่นดีมาก และตอนเต้นเขาก็เซ็กซี่ เอ่อ มีเสน่ห์อย่างมาก แม้โยโกะจะรู้ว่ามันไม่ถูกไม่ควรเท่าไหร่ที่จะมาตัวร้อนวูบวาบในชั้นเรียนเต้นแอโรบิคโดยไม่ใช่เพราะการเต้นที่ทำให้เธอเหงื่อออกได้ในห้องแอร์ แต่การได้มารู้จักเขา ได้พูดกับเขา หรือได้จับมือใหญ่ของเขาที่ยื่นมาจับกับเธอตอนแนะนำตัว ก็ทำให้โยโกะร้อนวูบวาบไปทั้งตัวได้อีกครั้งทั้งที่แอร์ก็ยังเปิดแรง

    ชื่อสกุลเธอญี่ปุ่นแท้ แต่หน้าเธอยังฝรั่งจ๋ากว่าเพื่อนญี่ปุ่นที่ชื่อสกุลฝรั่งล้วนของฉันอีก” โคโคน่ายิ้มขำเมื่อได้ฟังสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นแนะนำตัวครั้งแรก “รอฉันพาเธอไปรู้จักกับเจสซี่ ลูอิสเถอะ” พร้อมกันนั้นโยโกะก็ย้อนนึกถึงคำที่โคโคน่าพูดกับเธอต่อจากนั้นตอนอยู่ในห้องแต่งตัวหญิง “ทุกคนบอกว่าฉันรุกแรงกับคนเพิ่งรู้จัก” หล่อนหัวเราะขัน “ก็มันคือแอลเอ เธอหาเพื่อนไม่ได้ เว้นแต่จะบุ่มบ่ามสักหน่อย จริงมั้ย”

    ตอนแรกโยโกะก็กระอักกระอ่วนไม่น้อยกับการเข้ามาทำความรู้จักของโคโคน่าในห้องอาบน้ำหญิง แต่ตอนนี้เธออยากขอบคุณความรุกแรงของหล่อนมากเหลือเกิน!

    เจสซี่ชวนทุกคนไปกินมื้อค่ำด้วยกันในวันนั้น เพื่อนใหม่ของกลุ่มอย่างโยโกะตอบตกลงเร็วรี่แต่แน่นอนว่าต้องเนียนเหมือนแค่ โอเค ฉันว่าง ยังไงเย็นนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เป็นเพียงการตอบรับคำชวนธรรมดา ไม่ใช่ดี๊ด๊าดีดดิ้นไปถึงไหนต่อไหนอย่างที่ใจเป็นอยู่ ทว่าดูเหมือนทุกคนจะติดธุระในเย็นวันนั้นด้วยกันทั้งนั้น และเมื่อคาร่าที่ตอบเป็นคนสุดท้ายว่าไปไม่ได้เพราะต้องทบทวนบทเรียนในฤดูกาลสอบที่ใกล้มาถึง ก็ทำให้โยโกะเข้าใจได้ว่าแผนนี้ต้องล่มแน่ ถึงจะมั่นใจว่าตัวเองเป็นสาวคุยเก่งไม่เบา เจสซี่เองก็ดูจะเป็นหนุ่มเฮฮา บทสนทนาในมื้ออาหารที่แม้จะมีกันแค่สองคนก็ต้องสนุกสนานได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็คงไม่อยากไปกินอะไรก็ช่างที่เรียกว่ามื้อค่ำแค่สองคนกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก

    ว่าชายหนุ่มคนชวนยักไหล่ หันมายิ้มให้โยโกะเมื่อพูดว่า

    “งั้นก็มีแค่เราสองคน”

    ช่ ก็อย่างที่โคโคน่าว่า เธอหาเพื่อนไม่ได้ เว้นแต่จะบุ่มบ่ามสักหน่อย...จริงมั้ย


    .


    โยโกะกับเจสซี่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันทันทีหลังจากมื้อค่ำคืนนั้น พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก คุยโทรศัพท์กันทุกคืนในวันที่ไม่ได้เจอหน้าหรือต่อให้วันนั้นได้พบหน้าก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหาเรื่องโทรหาอีกฝ่ายจนได้อยู่ดี ชวนกันไปดูหนังโรงหรือเช่าวิดีโอทุกคืนวันศุกร์ที่เป็นวันหยุดของเจสซี่เพื่อไปดูด้วยกันยังบ้านเช่าของใครคนใดคนหนึ่ง ขนาดที่ปฏิเสธนัดชวนไปเล่นไอซ์สเกตของโคโคน่าอยู่บ่อยครั้ง ความสนิทสนมของคนทั้งคู่มากกว่าใครในที่นั้นจนคนอื่นในกลุ่มยังต้องเปิดปากแซวทุกครั้งที่สบโอกาส

    “เพราะเราเป็นเพื่อนใจเดียวกันยังไงล่ะ”

    เจสซี่มักจะตอกกลับด้วยอารมณ์ขันอย่างนั้น ขณะที่โคโคน่าผู้รู้เท่าทันก็เคยหยอกเอินไปว่า

    ติดหนึบกันซะขนาดนี้ ไม่น่ามีแค่ใจแล้วมั้งที่เดียวกัน ตัวด้วยหรือเปล่า”

    นโยโกะที่ทำเป็นก้มหน้าก้มตาดื่มรูทเบียร์ต้องพ่นมันพรูด เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ไม่เว้นแม้แต่เจสซี่เอง หากก็มีน้ำใจช่วยเช็ดมันให้เธอก่อนน้ำจะเหนียวติดตัว

    โยโกะต้องเลิกมองแต่จอห์น เลนนอนได้แล้วนะ” โคโคน่ายังบันเทิงกับการหยอกเย้าไม่หยุด “โอ๊ยตายแล้ว เจสซี่ผู้แสนดี ใช่ ฉันคือเทพบุตรของเธอ” ตอกย้ำความเพลิดเพลินด้วยชื่อเพลง เยส แอม ยัวร์ แองเจิล ของโยโกะ โอโนะอีกทอด จากนั้นก็เริ่มร้องเพลงนี้อย่างกับกลัวความสนุกจะรีบจบ เพิ่มเติมด้วยเสียงไพเราะของไทกะ และแม้โยโกะจะเคยนิยมเสียงสวรรค์ของหญิงชายสองคนนี้มากแค่ไหน แต่ในตอนนี้เธอกลับหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แถมพวกนั้นก็จำเพาะเจาะจงต้องเลือกร้องท่อนที่ว่า

    ใช่แล้ว ใจเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างกายของเราก็ด้วย และมันรู้สึกดีมาก ทุกครั้งเลย พ่วงด้วยเสียงผิวปากของโฮคุโตะเหมือนบทเพลงต้นฉบับ 'เราจะอธิษฐานและทำให้มันเป็นจริงสำหรับเธอ ก่อนทั้งสามจะพร้อมใจกันประสานเสียงกลั้วหัวเราะดังลั่นเมื่อร้องว่า ทราลาลาลา

    เมื่อนั้นล่ะที่โยโกะรู้ว่าเธอต้องรีบลุกหนีก่อนจะเก็บอาการที่เรียกว่าเขินไม่อยู่อีก ตอบเจสซี่ที่ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าแค่ว่าอยากไปล้างตัวที่ห้องน้ำโดยไม่มองหน้า ไม่อย่างนั้นความรู้สึกที่เธอเก็บไว้ข้างในจะต้องหลุดออกมาแน่ เพราะลำพังแค่น้ำเสียงที่เหมือนจะสั่นด้วยความกระดากอายไม่เบาก็ทำเธอระทึกจะตายอยู่แล้ว

    พราะอย่างนั้นโยโกะถึงเนื้อเต้นเอามากตอนที่โคโคน่ามาชวนไปทำงานเป็นผู้ดูแลแคมป์ฤดูร้อน เนื่องจากทางค่ายขาดผู้ดูแลและยังหาคนไปทำงานด้วยไม่ได้ทั้งที่ใกล้ถึงเวลาเปิดอยู่รอมร่อ เพราะเทศกาลโอลิมปิกที่กว้านเอาแรงงานจำนวนมหาศาลไปเกือบหมดแอลเอ แน่นอนว่าโยโกะตอบตกลงทันที (ได้ใช้เวลาทั้งซัมเมอร์กับเจสซี่เชียวนะ!) เหมือนทุกคนในกลุ่มที่ก็ตกลงเอาด้วยโดยไม่มีอิดออด

    ฉันไปไม่ได้นะ ช่วงนั้นฉันติดออดิชันพอดี”

    ทุกคนยกเว้น...เจสซี่

    “ต้องเป็นครั้งแรกแน่ที่เจสซี่กับโยโกะแยกจากกัน”

    โคโคน่ากระเซ้าเย้าหยอก ทุกคนต่างหัวเราะร่วมไปด้วยไม่เว้นแม้แต่ตัวต้นเหตุอย่างเจสซี่จนโยโกะต้องทำเป็นหัวเราะตามทั้งที่น้ำตาตกในจะแย่ ก่อนจะแอบทำหน้าห่อเหี่ยวเมื่อยกน้ำอัดลมขึ้นดื่มอย่างช่วยไม่ได้ และขืนเธอพลั้งปากหลุดบอกความในใจออกไปว่า “มีหวังทั้งซัมเมอร์นี้ ฉันคงคิดถึงนายแย่” ก็รับรองเลยว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอคิดยังไงกับเจสซี่ แม้ว่าที่จริงโยโกะก็อยากกู่ร้องออกไปให้ทั้งโลกได้รู้แล้วรู้รอดว่าเธอมีใจให้เขา เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบหน้าทำความรู้จัก ไม่มีวันไหนที่เธอไม่อยากเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงเขา แต่ไม่มีทางที่โยโกะผู้หวาดกลัวความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงจะยอมเผยความในใจจากปากตัวเองเป็นแน่


    “โยโกะคงคิดถึงเจสซี่แย่เลยสิท่า”

    โคโคน่าโพล่งขึ้นระหว่างนั่งรถแวนที่ไทกะเป็นคนขับเพื่อไปยังแคมป์เร้ดคามีเลียน จนโยโกะที่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับโฮคุโตะโดยมีโต๊ะกลมคั่นกลางพ่นโคล่ากระป๋องที่เพิ่งดื่มออกไปโดยไม่ตั้งใจ โฮคุโตะร้องออกมาว่า เวร! เมื่อน้ำดำจากในปากโยโกะกระเด็นไปโดนเขา คาร่าที่นั่งเบาะหลังข้างโคโคน่ารีบดึงทิชชูข้างตัวเธอออกไปให้เช็ด ขณะที่ไทกะกับโคโคน่าระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น

    พวกเธอทุกคนก็คิดถึงเขาเหมือนกันแหละน่า!” โยโกะรีบพูดกลบเกลื่อน ใช้หลังมือเช็ดน้ำที่เลอะรอบปากขณะโบกมือไหวปฏิเสธทิชชูจากคาร่า

    ไม่ต้องเขินหรอกน่า” โคโคน่าเย้าต่ออย่างอารมณ์ดี “พวกเราทุกคนรู้กันหมดแหละว่าเธอชอบเจสซี่”

    พูดบ้าอะไรของพวกเธอ!” โยโกะขึ้นเสียงจนมันยิ่งแหลมสูง เธอรู้ว่าหน้ากำลังแดงเห่อและมันต้องลามไปถึงหูด้วยแน่ ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเป็นเอกลักษณ์ของโคโคน่า หญิงผู้กระดากอายก็รู้ได้ว่าตนปิดไม่มิดแถมยังเปิดเผยให้ยิ่งโจ่งแจ้งเข้าไปอีก

    เหอะน่า” ไทกะละสายตาจากถนนข้างหน้ามาเป็นโยโกะ “เราเป็นเพื่อนกันนะ จะมาโกหกกันทำไม”

    ฉันไม่ได้โกหกนะ! ฉันกับเจสซี่เป็นแค่เพื่อนกัน! พวกเธอเห็นเราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยก็เลยเข้าใจไปเรื่อย!” โยโกะยังคงค้านเสียงแข็งหัวชนฝา แต่เสียงที่พูดออกมากลับแปร่งจนน่าขัน ทั้งยังรู้สึกว่าคำแก้ตัวพัลวันนั้นเหมือนเธอพล่ามอะไรไม่รู้ยาวยืด

    เธอเป็นเพื่อนเรา เธอจริงใจกับเราได้” โฮคุโตะที่ยังใช้ทิชชูเช็ดหน้าอยู่เสริมบ้าง

    จริงใจเหรอ โฮคุโตะ ได้! งั้นนายก่อนเลย! บอกเรามาอย่างจริงใจสิว่านายใช้สเตียรอยด์ตอนคัดตัวลงแข่งฟิกเกอร์สเกตในโอลิมปิก!” โยโกะยอกย้อนกลับไปทันควัน เพื่อในวินาทีถัดมาโคโคน่ากับไทกะจะได้พร้อมใจกันหัวเราะดังลั่นจนกลบเสียงบ่นงึมงำของโฮคุโตะได้สนิท

    ม่คุยเรื่องนี้กันแล้ว! ไม่งั้นฉันไม่คุยด้วยแล้ว!” โยโกะตัดบทก่อนรีบเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ

    แต่น่าเสียดายชะมัด รู้งี้เราน่าจะบังคับให้เจสซี่มาด้วยให้ได้ ฤดูร้อนนี้จะได้ยิ่งสนุก ช่างหัวออดิชันสิ!” โคโคน่าหยุดหัวเราะแล้วและเริ่มบ่นไปเรื่อยโดยไม่เจาะจงคนตอบ หญิงที่เหมือนถูกพาดพิงทางอ้อมทำเป็นไม่สนใจด้วยการทอดสายตาจับจ้องป่าเขาทั้งที่รู้ว่าก็ไม่ได้เนียนนักหรอก

    พราะยังไงทุกคนบนรถก็รู้ว่าโยโกะก็คิดเหมือนที่โคโคน่าพูดนั่นแหละ!


    .


    ไทกะขับรถพาทุกคนมาถึงแคมป์เร้ดคามีเลียนในตอนบ่ายที่พระอาทิตย์อ่อนแรงไปมากแล้ว ผู้หญิงใส่แว่นหน้าดุที่กำลังผ่าฟืนเข้ามาแนะนำตัวกับพวกเธอทันทีที่รถจอด หล่อนชื่อแคททารีน เป็นเจ้าของแคมป์ แคททารีนพาเด็กใหม่ไปเดินทัวร์รอบแคมป์เพื่อทำความรู้จักสถานที่พร้อมบอกเล่ากฎระเบียบจุกจิกที่ทำให้พวกเขาพากันบ่นระงม (ตัดคาร่าผู้ไม่เคยเรื่องมากไปได้) ทว่าโยโกะกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับกฎเกณฑ์ชวนประสาทกินพวกนั้นกระทั่งในตอนที่แคททารีนบอกว่า

    “บ้านพักของผู้หญิงกับผู้ชายแยกกัน ผู้หญิงสีแดง ผู้ชายสีน้ำเงิน อย่าได้คิดจะผสมเป็นสีม่วง”

    และโฮคุโตะแย้งว่า “คุณจะให้เราครองพรหมจรรย์ตลอดซัมเมอร์เหรอ!” หึ พ่อนักกีฬา คิดจะแอ้มโคโคน่าในแคมป์นี้ล่ะสิท่า

    โยโกะก็ไม่ได้ตอบโต้หรือร่วมคัดค้านแม้แต่นิดเดียว

    พราะยังไงสีน้ำเงินที่เธออยากผสมด้วยก็ไม่ได้มาที่แคมป์นี้ในซัมเมอร์นี้อยู่ดี

    ระเจ้า!—(ที่แคททารีนเคารพรักนักหนา) โยโกะคิดถึงเจสซี่กับผมสีแดงของเขาที่เหมือนชื่อแคมป์ชะมัด!


    คมป์เร้ดคามีเลียนนั้นยอดมาก บรรยากาศดีเยี่ยม อากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายเพราะอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่รายรอบล้อมด้วยต้นไม้มากมาย แน่นอนว่ามันจะปลอดโปร่งกว่าในแอลเอที่ตอนนี้มีผู้คนนับล้านจากทุกมุมโลกเข้ามาแย่งอากาศหายใจ อีกทั้งในแคมป์ก็มีกิจกรรมสนุกสนานมากมายให้ทำ เมื่อกี้พวกเธอก็เพิ่งเดินผ่านฐานยิงธนูที่ทำให้โฮคุโตะกับโคโคน่าตื่นเต้นกันมาก คงยิ่งสนุกถ้ามีเจสซี่อยู่ด้วย คนที่จะจับธนูมาง้างและต้องเล่นมุกตลกแน่ว่าจะเป็นเจ็ดเซียนซามูไร...คนที่เธออยากใช้เวลาด้วยที่สุด

    หลังจบการแนะนำสถานที่ของแคททารีน โยโกะก็แยกจากกลุ่มเพื่อนที่ไปพักผ่อนกันในบ้านพักหญิงมานั่งคนเดียวที่ท่าน้ำ เธอถอดถุงเท้ากับรองเท้าผ้าใบไว้ข้างตัว เอาเท้าเปล่าจุ่มลงไปในทะเลสาบพลางเตะเท้ากับน้ำไปเรื่อย แคททารีนบอกว่ากิจกรรมทางน้ำมีให้พายเรือแคนูกับเรือบด เด็กทุกคนต้องมีคู่ถ้าจะลงน้ำ

    คงดีถ้าคู่ของเธอในค่ายฤดูร้อนนี้...ทั้งซัมเมอร์นี้...จะเป็นเจสซี่

    มันเหมือนทุกคนมีคู่ของตัวเองอยู่แล้ว โคโคน่ากับโฮคุโตะ คาร่ากับไทกะ โอเค เดี๋ยวก่อน แคททารีนบอกว่าไม่ผสมสี งั้นเอาใหม่ โคโคน่ากับคาร่า ไทกะกับโฮคุโตะ แต่ไม่ว่าทางไหนโยโกะก็เป็นเศษ เพราะคู่ของเธอไปออดิชันเพื่อเป็นนักแสดงซิตคอม ใช่จะไม่อยากให้เจสซี่ได้งานนี้ แต่อีกใจที่เห็นแก่ตัวก็หยุดคิดไม่ได้เลยว่าอยากให้เขามาอยู่ด้วยตลอดฤดูร้อนนี้

    ดูร้อนในซัมเมอร์แคมป์ไม่น่าเบื่อหรอก เรื่องนั้นเธอรู้

    แต่ฤดูร้อนในซัมเมอร์แคมป์ต้องน่าเศร้ามากแน่ เรื่องนั้นเธอมั่นใจ

    โยโกะเตะเท้าแรงกว่าเดิมด้วยความหงุดหงิดที่โถมเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ น้ำกระเซ็นกระซ่านมาโดนตัวและทางเดินไม้ที่เธอนั่งอยู่ แต่โยโกะผู้ไม่ชอบให้ตัวเปียกปอนโดยเสียเปล่าก็ไม่สนใจ กลับยิ่งเตะเท้าแรงกว่าเดิมจนฝอยน้ำซ่านเซ็นมาเป็นฝนขนาดย่อม ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นหลังจากอาบน้ำทะเลสาบจนหนำใจแล้ว มันลื่นนิดหน่อยแต่ก็ยังพอทรงตัวได้ จากนั้นคนที่รู้สึกเหมือนน้ำช่วยชำระความคิดให้กลับไปเป็นเด็กก็ป้องปากร้องตะโกนออกไปว่า

    “ซัมเมอร์สุดห่วย!”

    หากเมื่อเธอเงียบก็ได้ยินเสียงสะท้อนคำพูดของตัวเองก้องมาจากป่าทึบที่อีกฝั่งของทะเลสาบ มันเป็นเรื่องสนุกอย่างที่โยโกะรู้ว่าเจสซี่จะต้องเพลิดเพลินกับเรื่องพรรค์นี้กว่าใคร เธอครุ่นคิดลังเลอยู่ครู่ว่าจะพูดประโยคที่คิดในใจออกมาให้มันครบจบสมบูรณ์ดีมั้ย แต่แคบินที่พวกนั้นไปกระจุกกันอยู่ก็ห่างจากท่าน้ำมาก พวกเขาไม่มีทางได้ยินอะไรก็ตามที่โยโกะพูดเมื่อกี้...หรือจากนี้...อยู่ดี

    ทุกอย่างมันห่วยเพราะไม่มีเจสซี่อยู่ด้วย!”เหมือนที่เจสซี่ก็ไม่มีทางได้รู้

    “จริงเหรอ”

    คำนั้นย่อมไม่มีทางใช่เสียงสะท้อนประโยคที่โยโกะไม่ได้พูดจากป่าอีกฝั่ง เธอรีบหันไปโดยว่องเหมือนที่ทุกอย่างจากนั้นเกิดขึ้นไวมาก คำว่า “เจสซี่” หลุดออกจากปากทันทีที่ได้เห็นเจ้าของชื่อ พร้อมกันนั้นเท้าเปล่าของโยโกะก็ลื่นพรืดทั้งจากน้ำที่ฝ่าเท้าและทางเดินบนฝั่ง แล้วเธอก็ได้ตระหนักในชั่วขณะนั้นเองถึงคำเตือนที่แคททารีนได้บอกไว้กับสาเหตุที่เด็กทุกคนต้องลงน้ำเป็นคู่

    การจมน้ำคือสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์

    อ้ พระเจ้า! โยโกะกำลังจะได้เป็นศพแรกของสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในแคมป์เร้ดคามีเลียน!

    ว้นแต่เจสซี่ที่ดูออกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในเสี้ยววินาทีจะรีบวิ่งมาดึงเธอไว้ไม่ให้ตกน้ำ และเขาก็ทำได้ดีมากด้วย...อาจมากเกินไป เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมันโคตรน้ำเน่าอย่างกับโซปโอเปร่าตอนบ่ายที่โยโกะชอบดู เมื่อตอนนี้เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเจสซี่—ระยะที่ใกล้ที่สุดที่เธอเคยใกล้กับเขา เมื่อเธอหน้าแดง เมื่อเธอใจเต้นกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเจสซี่ตอนเงยมองเขาที่ก้มมองเธอ และละครน้ำเน่าเรื่องเก่าคงต้องชิดซ้ายชิดขวาแหวกทางให้พระนางคู่ใหม่ของเรื่องใหม่ เพราะคนที่ขยับตัวเพื่อจะออกจากฉากที่ทำให้เธอเขินอายมากเกินไปนี้ก็ยังงี่เง่าลื่นน้ำบนพื้นอีกครั้งได้

    และตอนนี้ สาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์ก็จะมีเพิ่มอีกศพในเร้ดคามีเลียน!

    ทั้งคู่พากันร้องเหวอด้วยความตกใจเมื่อหญิงสาวฉุดชายผู้โชคร้ายให้ลงน้ำไปด้วยกันโดยไม่ตั้งใจ เพราะสาบานต่อพระเจ้าว่าถ้าโยโกะจะตาย เธอจะไม่ยอมให้เจสซี่ต้องตายไปด้วยเป็นแน่ แต่ตอนที่เธอกับเขาโผจากน้ำขึ้นมาลอยคอได้ก็ต่างมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา

    ไหนบอกว่าไปออดิชัน” โยโกะเริ่มต้นถาม “ทำไมถึงมาอยู่ที่แคมป์”

    นึกว่าอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยซะอีก ไหนว่าทุกอย่างมันห่วยเพราะไม่มีเจสซี่อยู่ด้วย”

    โยโกะรู้สึกว่าผิวแก้มของเธอร้อน หน้าก็ต้องแดงแน่เมื่อถูกเขายอกย้อนชนิดเก็บทุกเม็ดจนต้องทำเป็นวักน้ำขึ้นมาลูบหน้า ไม่รู้เพื่อให้มันเย็นขึ้นจนช่วยลดสีบนแก้มลงได้ หรือเพราะมันจะทำให้เจสซี่ไม่เห็นใบหน้าที่ต้องพยายามกลั้นยิ้มเขินอายให้ได้อย่างสุดความสามารถกันแน่

    นั่นก็เพราะฉันสนิทกับนายที่สุดไง คิดว่านะ” โยโกะงึมงำในคำพูดท้ายด้วยไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เพราะเธออาจคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว แม้พักหลังมานี้เธอกับเขาจะตัวติดกันอย่างกับอะไรดี แต่เจสซี่ก็เป็นผู้ชายที่มนุษยสัมพันธ์ดีเป็นเลิศ ย่อมไม่แปลกหากที่จริงเขาอาจสนิทกับใครคนอื่นมากกว่าเธอ...ที่ก็ไปแย่งตำแหน่งนี้มาจากพวกโคโคน่าอีกที

    แล้ว...” แต่เจสซี่ดูจะไม่ได้คิดมากเหมือนเธอ เขายิ้ม พูดต่อว่า “ฉันคิดไปเองด้วยหรือเปล่าว่า...เธอชอบฉัน”

    แน่นอน!” โยโกะตอบเสียงดังอย่างเร็วรี่กับคำที่เธอก็รู้ดีแก่ใจว่าแท้จริงมันหมายความว่ายังไง แม้จะไม่คิดว่าเจสซี่จะพูดคำนี้จากปากจริงในวันหนึ่ง หากก็ใช่ว่าจะไม่เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่คิดว่าอาจเกิดขึ้นได้ “ก็นายคือเพื่อนสนิทของฉันนี่!”

    ไม่ใช่แบบนั้นสิ” เจสซี่พูดกลั้วหัวเราะขำด้วยรู้ว่าคนถูกถามจงใจเลี่ยงไม่ตอบ ก่อนจะว่ายเข้ามาใกล้จนโยโกะต้องรีบลอยตัวถอยไป ทั้งเพราะตกใจด้วย เขินด้วย และเธอก็เริ่มคิดว่าการอยู่ในน้ำชักจะไม่ปลอดภัย ไม่แค่อันตรายต่อตัวเธอที่ว่ายน้ำไม่แข็ง แต่เจสซี่ยังทำให้การอยู่ในน้ำกับเขาไม่ดีต่อหัวใจของเธอด้วย คนที่กำลังเผชิญกับภยันตรายหลายทางจึงคิดจะขึ้นไปบนฝั่ง แต่คนก่ออันตรายรู้ทันจึงเอาตัวมาขวางหน้าและบอกว่า

    “ตอบฉันมาก่อน แล้วเราค่อยขึ้นฝั่งด้วยกัน”

    โยโกะรู้สึกว่าหน้าเธอแดงยิ่งกว่าเดิม และการถูกต้อนในพื้นที่จำกัดยากจะหนีไปไหนได้ก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะมากขึ้นทุกที แต่หญิงสาวก็ยังหาข้ออ้างมาโต้เพื่อจะเลี่ยงคำถามให้ได้ เพราะคนที่อยู่ในอันตรายก็ไม่ใช่ใครเลยนอกจากเธอ

    ถ้าฉันเป็นตะคริวแล้วจมน้ำตายจะทำยังไง! รู้มั้ยว่าการจมน้ำคือสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในแคมป์เลยนะ!”

    รู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอจมน้ำตาย แต่ถ้าเธอมัวยึกยักไม่ยอมตอบ ฉันก็คงเป็นตะคริวไปด้วย แล้วทีนี้เราก็จะได้จมน้ำตายไปด้วยกัน”

    เจสซี่ นี่ไม่ตลกนะ!” โยโกะพยายามจะขึ้นฝั่งให้ได้และมือของเธอก็กำลังจะคว้าจับไม้ทางเดินได้แล้ว แต่เจสซี่เร็วกว่าเมื่อเขาเอาตัวมาขวางและพูดว่า “อ๊ะๆๆๆ อย่าขี้โกงสิ”

    โยโกะมองหน้าเจสซี่ก่อนรีบหลบตาเพราะเขากำลังทำให้ความคิดของเธอไม่คงที่ หญิงสาวขบริมฝีปากครุ่นคิดว่าจะทำยังไงกับผู้ชายตรงหน้าดี มันตั้งแต่ตอนไหนกันนะ เธอทำพลาดตรงไหน ทุกคน...กระทั่งเจสซี่...ถึงได้รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา

    ถ้านายจะมาอยู่ที่แคมป์นี้กับเรา งั้นนายก็รู้ใช่มั้ยว่ามีเวลาจะเค้นคำตอบนั้นจากฉันทั้งซัมเมอร์”

    โยโกะ เธออยากให้ซัมเมอร์นี้ผ่านไปโดยที่พวกเราเอาแต่เล่นบทคนที่แอบปิ๊งกันเหมือนที่ผ่านมาน่ะเหรอ” ทว่าคำพูดที่เหมือนเขาก็มีใจเรียกให้โยโกะต้องหันมองอย่างประหลาดใจ แม้ว่าเธอจะอยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่ไม่กล้ามาตลอดก็ตาม “เธอไม่อยากใช้เวลาอย่างคู่รักกับฉันตลอดซัมเมอร์ที่แคมป์นี้เหรอ”

    แต่แคททารีน...คุณอาซามิ...เอ่อ ฉันหมายถึงเจ้าของแคมป์ ไม่อนุญาตให้ชายหญิง...”

    กระนั้นคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังปฏิเสธจะเข้าข้างตัวเองก็ดึงดั้นรั้นต่ออยู่ดี หากเจสซี่ที่คงไม่อยากเสียเวลาฟังเธอพล่ามพัลวันจนลิ้นพันกันอีกก็ปิดปากคนพูดมากด้วยริมฝีปากและสองมือที่ประคองแก้มเธอไว้ โยโกะได้แต่เบิกตากว้างมองหน้าคนที่หลับตาจูบเธอ และหญิงสาวก็ไม่รู้เลยว่าที่เธอได้แต่นิ่งงันอย่างนั้นเพราะอึ้งกับการกระทำกะทันหันไม่คาดคิดของเขา หรือเพราะทึ่งที่ได้มีจูบแรกกับคนที่เฝ้าฝันมาตลอดในที่สุด

    เป็นจูบแรกที่ไม่เลวเลยนะ สำหรับซัมเมอร์นี้ของเรา”

    เจสซี่พูดกลั้วเสียงหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าที่ยังตะลึงงันไม่หายของคนตรงหน้า ขณะที่โยโกะรู้สึกว่าร่างของเธอปวกเปียกแล้วก็จมลงไปในน้ำที่ยังคงเป็นประกายจากดวงอาทิตย์ใกล้ลับลาที่อาบย้อมท้องฟ้าเป็นสีส้ม

    โยโกะ โคเซกิอาจกำลังจะเป็นศพแรกของ สาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์รับซัมเมอร์นี้ และข่าวการตายของเธอก็จะถูกกลบมิดด้วยงานโอลิมปิกสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในแอลเอ แต่ถ้าเธอรอดมาได้ มันก็จะเป็นซัมเมอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เธอเคยมีมาทั้งชีวิตเลยล่ะ!

    So I’ll be there when you arrive
    The sight of you will prove to me I’m still alive
    And when you take me in your arms and hold me tight
    I know it’s gonna mean so much tonight

    ฉันจะอยู่ตรงนี้เมื่อเธอมาถึง
    การได้เห็นเธอจะช่วยยืนยันได้ว่าฉันยังมีชีวิต
    และเมื่อเธอดึงฉันเข้าไปกอดแน่นในอ้อมแขน
    ฉันก็รู้ว่าคืนนี้จะเปี่ยมด้วยความหมาย’

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    .
    - redในชื่อแคมป์มาจากแคมป์เร้ดวู้ดใน AHS: 1984 ส่วนchameleonมาจากชื่อเพลง Karma Chameleon หนึ่งในเพลงดังยุค80ที่ใน AHS: 1984 ก็พูดถึงด้วย ตอนแรกใช้ว่าคามีเลียเว้ย แต่เอาไปเอามาเพลงนี้มันวนเวียนในหัว เลยเอาวะ คามีเลียนก็ได้โว้ย! กลัวแต่ก็ใช้ได้ว้อย!!
    - เดิมเรื่องนี้มีชื่อว่า Lake Dance และเพลงประกอบแรกก็ไม่ใช่ Super Trouper แต่ตอนหาเพลงมาประกอบแล้วชัฟเฟิลมาเพลงนี้ก็กรี๊ดชอบมากจะเอา! พออ่านเนื้อเพลงก็โอ๊ยเหมาะมากจนต้องขอเปลี่ยนชื่อเรื่องและแทรกเนื้อเพลงท่อนที่เหมาะควรเข้ามาปิดเรื่องด้วยเทอญ
    ปล. สปอยล์ ตอนหน้าไทกะ พล็อตน่ารักและใสมากเหมือนน้ำในทะเลสาบ /
    ตอนสุดท้ายโฮคุโตะ ใบ้ให้ว่าร้อนแรงเหมือนชื่อแคมป์ :p 555
    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×