คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : I984: Super Trouper
RE-RELEASE DATE : DECEMBER 14, 2020
------------------------------------------------------------------------------------
ดัดแปลงมาจากเรื่อง Lake Dance ที่เราเคยแต่งโดยอิงมาจาก AHS: 1984 จ้า
- ตอนแรกก็กะจะให้เป็นเรื่องในญี่ปุ่นแหละ แต่ไม่อยากตัดงานโอลิมปิกแล้วก็อยากให้อยู่ในยุค80ด้วย เลยคิดว่าเอาเป็นกลุ่มคนญี่ปุ่นในฝรั่งได้นาเหวย! ไม่นานมานี้ก็เพิ่งได้แปลหนังสารคดีแอลเอยุคนั้น (Let It Fall LA: 1982-1992 เกิดมาเพิ่งได้งานยาวฉิบหายขนาดนี้จ้า) แล้วเค้าไปสัมภาษณ์คนญี่ปุ่นด้วยก็เลยคิดว่าทำไมจะญปไม่ได้ล่ะวะ!
- เรื่องนี้ตอนแรกก็คิดว่าจะเอามาแปลงได้มั้ยวะเพราะทุกตัวละครนอกจากนางเอกมีเจ้าของบทบาทเดิมอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ได้อีกแล้วว่ะแถมฉิวมาก :3 โอ๊ย ปีนี้เราต้องขึ้นรับรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลง(ข้ามประเทศ)ยอดเยี่ยมอีกกี่รอบกันนะ 55555
มันจะต้องเป็นซัมเมอร์ที่น่าเบื่ออีกปีของโยโกะ โคเซกิแน่ เธอรู้ตั้งแต่มันยังไม่มาถึงเลยล่ะ!
แม้หญิงสาวจะไม่ต้องแกร่วแซ่วไปมาพร้อมกับความน่าเบื่อมหันต์ในแอลเอที่เธอรู้จักดีมาทั้งชีวิต หรือต้องทนติดแหง็กอยู่ในเมืองช่วงที่งานนรกแตกอย่างโอลิมปิกจะเริ่มขึ้น (หึ แอลเอจะเป็นนรกของจริงจากคลื่นมหาชนนับล้าน!) แต่ร้อนนี้โยโกะจะได้หลบหนีจากความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ในเมืองมาทำงานเป็นผู้ดูแลแคมป์ฤดูร้อนจากการชักชวนของโคโคน่าเพื่อนซี้คนใหม่
โยโกะรู้จักกับโคโคน่าตอนไปเรียนเต้นแอโรบิคที่สตูดิโอสอนเต้นในเมือง หล่อนมาทักทายเธอในห้องอาบน้ำหญิงที่คอกอาบน้ำข้างกัน โคโคน่าเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี มนุษยสัมพันธ์ดี และแม้ว่าหน้าตาท่าทางของหล่อนจะเฟี้ยวฟ้าวเอาการ แต่หล่อนก็ดูจะเป็นคนนิสัยดี ถึงอัธยาศัยอันดีมากของหล่อนจะทำให้โยโกะอึดอัดอยู่บ้างในทีแรก แต่ไม่ช้าความเป็นกันเองของโคโคน่าก็กลายเป็นสิ่งที่เธอชมชอบไม่เบา
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย โคโคน่าก็พาเพื่อนใหม่ไปรู้จักกับกลุ่มเพื่อนเต้นแอโรบิคที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ตรงเคาน์เตอร์ โฮคุโตะ—หนุ่มนักกีฬารูปหล่อ ไทกะ—หนุ่มผมทองหน้าตาน่ารักร่าเริง คาร่า—หญิงสาวท่าทางเรียบร้อยรอบรู้ และเจสซี่—เจสซี่ ลูอิส (โยโกะจงใจแนะนำเขาให้พิเศษกว่าคนอื่นด้วยชื่อสกุลเต็ม) นักแสดงผู้ฝันอยากเป็นนักแสดงตัวจริง
งานประจำของเจสซี่คือเป็นครูสอนเต้นแอโรบิคและเขาก็เป็นครูในคลาสที่โยโกะเพิ่งเรียนจบไปเมื่อกี้นี้ ศิษย์สาวขอสารภาพตามตรงต่อผู้ใดก็ตามที่ฟังอยู่ว่าความจริงเธอแอบปิ๊งครูคนนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว เธอละสายตาจากเขาไม่ได้และพระเจ้ารู้ว่าไม่ใช่เพราะเธอจำท่าไม่ได้ โธ่เอ๋ย พระองค์ก็รู้ว่าเพราะอะไรต่อให้เธอไม่พูด! เขาดูดีมาก หุ่นดีมาก และตอนเต้นเขาก็เซ็กซี่ เอ่อ มีเสน่ห์อย่างมาก แม้โยโกะจะรู้ว่ามันไม่ถูกไม่ควรเท่าไหร่ที่จะมาตัวร้อนวูบวาบในชั้นเรียนเต้นแอโรบิคโดยไม่ใช่เพราะการเต้นที่ทำให้เธอเหงื่อออกได้ในห้องแอร์ แต่การได้มารู้จักเขา ได้พูดกับเขา หรือได้จับมือใหญ่ของเขาที่ยื่นมาจับกับเธอตอนแนะนำตัว ก็ทำให้โยโกะร้อนวูบวาบไปทั้งตัวได้อีกครั้งทั้งที่แอร์ก็ยังเปิดแรง
“ชื่อสกุลเธอญี่ปุ่นแท้ แต่หน้าเธอยังฝรั่งจ๋ากว่าเพื่อนญี่ปุ่นที่ชื่อสกุลฝรั่งล้วนของฉันอีก” โคโคน่ายิ้มขำเมื่อได้ฟังสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นแนะนำตัวครั้งแรก “รอฉันพาเธอไปรู้จักกับเจสซี่ ลูอิสเถอะ” พร้อมกันนั้นโยโกะก็ย้อนนึกถึงคำที่โคโคน่าพูดกับเธอต่อจากนั้นตอนอยู่ในห้องแต่งตัวหญิง “ทุกคนบอกว่าฉันรุกแรงกับคนเพิ่งรู้จัก” หล่อนหัวเราะขัน “ก็มันคือแอลเอ เธอหาเพื่อนไม่ได้ เว้นแต่จะบุ่มบ่ามสักหน่อย จริงมั้ย”
ตอนแรกโยโกะก็กระอักกระอ่วนไม่น้อยกับการเข้ามาทำความรู้จักของโคโคน่าในห้องอาบน้ำหญิง แต่ตอนนี้เธออยากขอบคุณความรุกแรงของหล่อนมากเหลือเกิน!
เจสซี่ชวนทุกคนไปกินมื้อค่ำด้วยกันในวันนั้น เพื่อนใหม่ของกลุ่มอย่างโยโกะตอบตกลงเร็วรี่แต่แน่นอนว่าต้องเนียนเหมือนแค่ ‘โอเค ฉันว่าง ยังไงเย็นนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว’ เป็นเพียงการตอบรับคำชวนธรรมดา ไม่ใช่ดี๊ด๊าดีดดิ้นไปถึงไหนต่อไหนอย่างที่ใจเป็นอยู่ ทว่าดูเหมือนทุกคนจะติดธุระในเย็นวันนั้นด้วยกันทั้งนั้น และเมื่อคาร่าที่ตอบเป็นคนสุดท้ายว่าไปไม่ได้เพราะต้องทบทวนบทเรียนในฤดูกาลสอบที่ใกล้มาถึง ก็ทำให้โยโกะเข้าใจได้ว่าแผนนี้ต้องล่มแน่ ถึงจะมั่นใจว่าตัวเองเป็นสาวคุยเก่งไม่เบา เจสซี่เองก็ดูจะเป็นหนุ่มเฮฮา บทสนทนาในมื้ออาหารที่แม้จะมีกันแค่สองคนก็ต้องสนุกสนานได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็คงไม่อยากไปกินอะไรก็ช่างที่เรียกว่ามื้อค่ำแค่สองคนกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก
ทว่าชายหนุ่มคนชวนยักไหล่ หันมายิ้มให้โยโกะเมื่อพูดว่า
“งั้นก็มีแค่เราสองคน”
ใช่ ก็อย่างที่โคโคน่าว่า เธอหาเพื่อนไม่ได้ เว้นแต่จะบุ่มบ่ามสักหน่อย...จริงมั้ย
.
โยโกะกับเจสซี่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันทันทีหลังจากมื้อค่ำคืนนั้น พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก คุยโทรศัพท์กันทุกคืนในวันที่ไม่ได้เจอหน้าหรือต่อให้วันนั้นได้พบหน้าก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหาเรื่องโทรหาอีกฝ่ายจนได้อยู่ดี ชวนกันไปดูหนังโรงหรือเช่าวิดีโอทุกคืนวันศุกร์ที่เป็นวันหยุดของเจสซี่เพื่อไปดูด้วยกันยังบ้านเช่าของใครคนใดคนหนึ่ง ขนาดที่ปฏิเสธนัดชวนไปเล่นไอซ์สเกตของโคโคน่าอยู่บ่อยครั้ง ความสนิทสนมของคนทั้งคู่มากกว่าใครในที่นั้นจนคนอื่นในกลุ่มยังต้องเปิดปากแซวทุกครั้งที่สบโอกาส
“เพราะเราเป็นเพื่อนใจเดียวกันยังไงล่ะ”
เจสซี่มักจะตอกกลับด้วยอารมณ์ขันอย่างนั้น ขณะที่โคโคน่าผู้รู้เท่าทันก็เคยหยอกเอินไปว่า
“ติดหนึบกันซะขนาดนี้ ไม่น่ามีแค่ใจแล้วมั้งที่เดียวกัน ตัวด้วยหรือเปล่า”
จนโยโกะที่ทำเป็นก้มหน้าก้มตาดื่มรูทเบียร์ต้องพ่นมันพรูด เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ไม่เว้นแม้แต่เจสซี่เอง หากก็มีน้ำใจช่วยเช็ดมันให้เธอก่อนน้ำจะเหนียวติดตัว
“โยโกะต้องเลิกมองแต่จอห์น เลนนอนได้แล้วนะ” โคโคน่ายังบันเทิงกับการหยอกเย้าไม่หยุด “โอ๊ยตายแล้ว เจสซี่ผู้แสนดี ใช่ ฉันคือเทพบุตรของเธอ” ตอกย้ำความเพลิดเพลินด้วยชื่อเพลง ‘เยส แอม ยัวร์ แองเจิล’ ของโยโกะ โอโนะอีกทอด จากนั้นก็เริ่มร้องเพลงนี้อย่างกับกลัวความสนุกจะรีบจบ เพิ่มเติมด้วยเสียงไพเราะของไทกะ และแม้โยโกะจะเคยนิยมเสียงสวรรค์ของหญิงชายสองคนนี้มากแค่ไหน แต่ในตอนนี้เธอกลับหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แถมพวกนั้นก็จำเพาะเจาะจงต้องเลือกร้องท่อนที่ว่า
‘ใช่แล้ว ใจเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างกายของเราก็ด้วย และมันรู้สึกดีมาก ทุกครั้งเลย’ พ่วงด้วยเสียงผิวปากของโฮคุโตะเหมือนบทเพลงต้นฉบับ 'เราจะอธิษฐานและทำให้มันเป็นจริงสำหรับเธอ’ ก่อนทั้งสามจะพร้อมใจกันประสานเสียงกลั้วหัวเราะดังลั่นเมื่อร้องว่า ‘ทราลาลาลา’
เมื่อนั้นล่ะที่โยโกะรู้ว่าเธอต้องรีบลุกหนีก่อนจะเก็บอาการที่เรียกว่าเขินไม่อยู่อีก ตอบเจสซี่ที่ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าแค่ว่าอยากไปล้างตัวที่ห้องน้ำโดยไม่มองหน้า ไม่อย่างนั้นความรู้สึกที่เธอเก็บไว้ข้างในจะต้องหลุดออกมาแน่ เพราะลำพังแค่น้ำเสียงที่เหมือนจะสั่นด้วยความกระดากอายไม่เบาก็ทำเธอระทึกจะตายอยู่แล้ว
เพราะอย่างนั้นโยโกะถึงเนื้อเต้นเอามากตอนที่โคโคน่ามาชวนไปทำงานเป็นผู้ดูแลแคมป์ฤดูร้อน เนื่องจากทางค่ายขาดผู้ดูแลและยังหาคนไปทำงานด้วยไม่ได้ทั้งที่ใกล้ถึงเวลาเปิดอยู่รอมร่อ เพราะเทศกาลโอลิมปิกที่กว้านเอาแรงงานจำนวนมหาศาลไปเกือบหมดแอลเอ แน่นอนว่าโยโกะตอบตกลงทันที (ได้ใช้เวลาทั้งซัมเมอร์กับเจสซี่เชียวนะ!) เหมือนทุกคนในกลุ่มที่ก็ตกลงเอาด้วยโดยไม่มีอิดออด
“ฉันไปไม่ได้นะ ช่วงนั้นฉันติดออดิชันพอดี”
ทุกคนยกเว้น...เจสซี่
“ต้องเป็นครั้งแรกแน่ที่เจสซี่กับโยโกะแยกจากกัน”
โคโคน่ากระเซ้าเย้าหยอก ทุกคนต่างหัวเราะร่วมไปด้วยไม่เว้นแม้แต่ตัวต้นเหตุอย่างเจสซี่จนโยโกะต้องทำเป็นหัวเราะตามทั้งที่น้ำตาตกในจะแย่ ก่อนจะแอบทำหน้าห่อเหี่ยวเมื่อยกน้ำอัดลมขึ้นดื่มอย่างช่วยไม่ได้ และขืนเธอพลั้งปากหลุดบอกความในใจออกไปว่า “มีหวังทั้งซัมเมอร์นี้ ฉันคงคิดถึงนายแย่” ก็รับรองเลยว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอคิดยังไงกับเจสซี่ แม้ว่าที่จริงโยโกะก็อยากกู่ร้องออกไปให้ทั้งโลกได้รู้แล้วรู้รอดว่าเธอมีใจให้เขา เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบหน้าทำความรู้จัก ไม่มีวันไหนที่เธอไม่อยากเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงเขา แต่ไม่มีทางที่โยโกะผู้หวาดกลัวความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงจะยอมเผยความในใจจากปากตัวเองเป็นแน่
“โยโกะคงคิดถึงเจสซี่แย่เลยสิท่า”
โคโคน่าโพล่งขึ้นระหว่างนั่งรถแวนที่ไทกะเป็นคนขับเพื่อไปยังแคมป์เร้ดคามีเลียน จนโยโกะที่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับโฮคุโตะโดยมีโต๊ะกลมคั่นกลางพ่นโคล่ากระป๋องที่เพิ่งดื่มออกไปโดยไม่ตั้งใจ โฮคุโตะร้องออกมาว่า เวร! เมื่อน้ำดำจากในปากโยโกะกระเด็นไปโดนเขา คาร่าที่นั่งเบาะหลังข้างโคโคน่ารีบดึงทิชชูข้างตัวเธอออกไปให้เช็ด ขณะที่ไทกะกับโคโคน่าระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น
“พวกเธอทุกคนก็คิดถึงเขาเหมือนกันแหละน่า!” โยโกะรีบพูดกลบเกลื่อน ใช้หลังมือเช็ดน้ำที่เลอะรอบปากขณะโบกมือไหวปฏิเสธทิชชูจากคาร่า
“ไม่ต้องเขินหรอกน่า” โคโคน่าเย้าต่ออย่างอารมณ์ดี “พวกเราทุกคนรู้กันหมดแหละว่าเธอชอบเจสซี่”
“พูดบ้าอะไรของพวกเธอ!” โยโกะขึ้นเสียงจนมันยิ่งแหลมสูง เธอรู้ว่าหน้ากำลังแดงเห่อและมันต้องลามไปถึงหูด้วยแน่ ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเป็นเอกลักษณ์ของโคโคน่า หญิงผู้กระดากอายก็รู้ได้ว่าตนปิดไม่มิดแถมยังเปิดเผยให้ยิ่งโจ่งแจ้งเข้าไปอีก
“เหอะน่า” ไทกะละสายตาจากถนนข้างหน้ามาเป็นโยโกะ “เราเป็นเพื่อนกันนะ จะมาโกหกกันทำไม”
“ฉันไม่ได้โกหกนะ! ฉันกับเจสซี่เป็นแค่เพื่อนกัน! พวกเธอเห็นเราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยก็เลยเข้าใจไปเรื่อย!” โยโกะยังคงค้านเสียงแข็งหัวชนฝา แต่เสียงที่พูดออกมากลับแปร่งจนน่าขัน ทั้งยังรู้สึกว่าคำแก้ตัวพัลวันนั้นเหมือนเธอพล่ามอะไรไม่รู้ยาวยืด
“เธอเป็นเพื่อนเรา เธอจริงใจกับเราได้” โฮคุโตะที่ยังใช้ทิชชูเช็ดหน้าอยู่เสริมบ้าง
“จริงใจเหรอ โฮคุโตะ ได้! งั้นนายก่อนเลย! บอกเรามาอย่างจริงใจสิว่านายใช้สเตียรอยด์ตอนคัดตัวลงแข่งฟิกเกอร์สเกตในโอลิมปิก!” โยโกะยอกย้อนกลับไปทันควัน เพื่อในวินาทีถัดมาโคโคน่ากับไทกะจะได้พร้อมใจกันหัวเราะดังลั่นจนกลบเสียงบ่นงึมงำของโฮคุโตะได้สนิท
“ไม่คุยเรื่องนี้กันแล้ว! ไม่งั้นฉันไม่คุยด้วยแล้ว!” โยโกะตัดบทก่อนรีบเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ
“แต่น่าเสียดายชะมัด รู้งี้เราน่าจะบังคับให้เจสซี่มาด้วยให้ได้ ฤดูร้อนนี้จะได้ยิ่งสนุก ช่างหัวออดิชันสิ!” โคโคน่าหยุดหัวเราะแล้วและเริ่มบ่นไปเรื่อยโดยไม่เจาะจงคนตอบ หญิงที่เหมือนถูกพาดพิงทางอ้อมทำเป็นไม่สนใจด้วยการทอดสายตาจับจ้องป่าเขาทั้งที่รู้ว่าก็ไม่ได้เนียนนักหรอก
เพราะยังไงทุกคนบนรถก็รู้ว่าโยโกะก็คิดเหมือนที่โคโคน่าพูดนั่นแหละ!
.
ไทกะขับรถพาทุกคนมาถึงแคมป์เร้ดคามีเลียนในตอนบ่ายที่พระอาทิตย์อ่อนแรงไปมากแล้ว ผู้หญิงใส่แว่นหน้าดุที่กำลังผ่าฟืนเข้ามาแนะนำตัวกับพวกเธอทันทีที่รถจอด หล่อนชื่อแคททารีน เป็นเจ้าของแคมป์ แคททารีนพาเด็กใหม่ไปเดินทัวร์รอบแคมป์เพื่อทำความรู้จักสถานที่พร้อมบอกเล่ากฎระเบียบจุกจิกที่ทำให้พวกเขาพากันบ่นระงม (ตัดคาร่าผู้ไม่เคยเรื่องมากไปได้) ทว่าโยโกะกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับกฎเกณฑ์ชวนประสาทกินพวกนั้นกระทั่งในตอนที่แคททารีนบอกว่า
“บ้านพักของผู้หญิงกับผู้ชายแยกกัน ผู้หญิงสีแดง ผู้ชายสีน้ำเงิน อย่าได้คิดจะผสมเป็นสีม่วง”
และโฮคุโตะแย้งว่า “คุณจะให้เราครองพรหมจรรย์ตลอดซัมเมอร์เหรอ!” หึ พ่อนักกีฬา คิดจะแอ้มโคโคน่าในแคมป์นี้ล่ะสิท่า
โยโกะก็ไม่ได้ตอบโต้หรือร่วมคัดค้านแม้แต่นิดเดียว
เพราะยังไงสีน้ำเงินที่เธออยากผสมด้วยก็ไม่ได้มาที่แคมป์นี้ในซัมเมอร์นี้อยู่ดี
พระเจ้า!—(ที่แคททารีนเคารพรักนักหนา) โยโกะคิดถึงเจสซี่กับผมสีแดงของเขาที่เหมือนชื่อแคมป์ชะมัด!
แคมป์เร้ดคามีเลียนนั้นยอดมาก บรรยากาศดีเยี่ยม อากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายเพราะอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่รายรอบล้อมด้วยต้นไม้มากมาย แน่นอนว่ามันจะปลอดโปร่งกว่าในแอลเอที่ตอนนี้มีผู้คนนับล้านจากทุกมุมโลกเข้ามาแย่งอากาศหายใจ อีกทั้งในแคมป์ก็มีกิจกรรมสนุกสนานมากมายให้ทำ เมื่อกี้พวกเธอก็เพิ่งเดินผ่านฐานยิงธนูที่ทำให้โฮคุโตะกับโคโคน่าตื่นเต้นกันมาก คงยิ่งสนุกถ้ามีเจสซี่อยู่ด้วย คนที่จะจับธนูมาง้างและต้องเล่นมุกตลกแน่ว่าจะเป็นเจ็ดเซียนซามูไร...คนที่เธออยากใช้เวลาด้วยที่สุด
หลังจบการแนะนำสถานที่ของแคททารีน โยโกะก็แยกจากกลุ่มเพื่อนที่ไปพักผ่อนกันในบ้านพักหญิงมานั่งคนเดียวที่ท่าน้ำ เธอถอดถุงเท้ากับรองเท้าผ้าใบไว้ข้างตัว เอาเท้าเปล่าจุ่มลงไปในทะเลสาบพลางเตะเท้ากับน้ำไปเรื่อย แคททารีนบอกว่ากิจกรรมทางน้ำมีให้พายเรือแคนูกับเรือบด เด็กทุกคนต้องมีคู่ถ้าจะลงน้ำ
คงดีถ้าคู่ของเธอในค่ายฤดูร้อนนี้...ทั้งซัมเมอร์นี้...จะเป็นเจสซี่
มันเหมือนทุกคนมีคู่ของตัวเองอยู่แล้ว โคโคน่ากับโฮคุโตะ คาร่ากับไทกะ โอเค เดี๋ยวก่อน แคททารีนบอกว่าไม่ผสมสี งั้นเอาใหม่ โคโคน่ากับคาร่า ไทกะกับโฮคุโตะ แต่ไม่ว่าทางไหนโยโกะก็เป็นเศษ เพราะคู่ของเธอไปออดิชันเพื่อเป็นนักแสดงซิตคอม ใช่จะไม่อยากให้เจสซี่ได้งานนี้ แต่อีกใจที่เห็นแก่ตัวก็หยุดคิดไม่ได้เลยว่าอยากให้เขามาอยู่ด้วยตลอดฤดูร้อนนี้
ฤดูร้อนในซัมเมอร์แคมป์ไม่น่าเบื่อหรอก เรื่องนั้นเธอรู้
แต่ฤดูร้อนในซัมเมอร์แคมป์ต้องน่าเศร้ามากแน่ เรื่องนั้นเธอมั่นใจ
โยโกะเตะเท้าแรงกว่าเดิมด้วยความหงุดหงิดที่โถมเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ น้ำกระเซ็นกระซ่านมาโดนตัวและทางเดินไม้ที่เธอนั่งอยู่ แต่โยโกะผู้ไม่ชอบให้ตัวเปียกปอนโดยเสียเปล่าก็ไม่สนใจ กลับยิ่งเตะเท้าแรงกว่าเดิมจนฝอยน้ำซ่านเซ็นมาเป็นฝนขนาดย่อม ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นหลังจากอาบน้ำทะเลสาบจนหนำใจแล้ว มันลื่นนิดหน่อยแต่ก็ยังพอทรงตัวได้ จากนั้นคนที่รู้สึกเหมือนน้ำช่วยชำระความคิดให้กลับไปเป็นเด็กก็ป้องปากร้องตะโกนออกไปว่า
“ซัมเมอร์สุดห่วย!”
หากเมื่อเธอเงียบก็ได้ยินเสียงสะท้อนคำพูดของตัวเองก้องมาจากป่าทึบที่อีกฝั่งของทะเลสาบ มันเป็นเรื่องสนุกอย่างที่โยโกะรู้ว่าเจสซี่จะต้องเพลิดเพลินกับเรื่องพรรค์นี้กว่าใคร เธอครุ่นคิดลังเลอยู่ครู่ว่าจะพูดประโยคที่คิดในใจออกมาให้มันครบจบสมบูรณ์ดีมั้ย แต่แคบินที่พวกนั้นไปกระจุกกันอยู่ก็ห่างจากท่าน้ำมาก พวกเขาไม่มีทางได้ยินอะไรก็ตามที่โยโกะพูดเมื่อกี้...หรือจากนี้...อยู่ดี
“ทุกอย่างมันห่วยเพราะไม่มีเจสซี่อยู่ด้วย!”—เหมือนที่เจสซี่ก็ไม่มีทางได้รู้
“จริงเหรอ”
คำนั้นย่อมไม่มีทางใช่เสียงสะท้อนประโยคที่โยโกะไม่ได้พูดจากป่าอีกฝั่ง เธอรีบหันไปโดยว่องเหมือนที่ทุกอย่างจากนั้นเกิดขึ้นไวมาก คำว่า “เจสซี่” หลุดออกจากปากทันทีที่ได้เห็นเจ้าของชื่อ พร้อมกันนั้นเท้าเปล่าของโยโกะก็ลื่นพรืดทั้งจากน้ำที่ฝ่าเท้าและทางเดินบนฝั่ง แล้วเธอก็ได้ตระหนักในชั่วขณะนั้นเองถึงคำเตือนที่แคททารีนได้บอกไว้กับสาเหตุที่เด็กทุกคนต้องลงน้ำเป็นคู่
‘การจมน้ำคือสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์’
โอ้ พระเจ้า! โยโกะกำลังจะได้เป็นศพแรกของสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในแคมป์เร้ดคามีเลียน!
เว้นแต่เจสซี่ที่ดูออกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในเสี้ยววินาทีจะรีบวิ่งมาดึงเธอไว้ไม่ให้ตกน้ำ และเขาก็ทำได้ดีมากด้วย...อาจมากเกินไป เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมันโคตรน้ำเน่าอย่างกับโซปโอเปร่าตอนบ่ายที่โยโกะชอบดู เมื่อตอนนี้เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเจสซี่—ระยะที่ใกล้ที่สุดที่เธอเคยใกล้กับเขา เมื่อเธอหน้าแดง เมื่อเธอใจเต้นกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเจสซี่ตอนเงยมองเขาที่ก้มมองเธอ และละครน้ำเน่าเรื่องเก่าคงต้องชิดซ้ายชิดขวาแหวกทางให้พระนางคู่ใหม่ของเรื่องใหม่ เพราะคนที่ขยับตัวเพื่อจะออกจากฉากที่ทำให้เธอเขินอายมากเกินไปนี้ก็ยังงี่เง่าลื่นน้ำบนพื้นอีกครั้งได้
และตอนนี้ สาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์ก็จะมีเพิ่มอีกศพในเร้ดคามีเลียน!
คนทั้งคู่พากันร้องเหวอด้วยความตกใจเมื่อหญิงสาวฉุดชายผู้โชคร้ายให้ลงน้ำไปด้วยกันโดยไม่ตั้งใจ เพราะสาบานต่อพระเจ้าว่าถ้าโยโกะจะตาย เธอจะไม่ยอมให้เจสซี่ต้องตายไปด้วยเป็นแน่ แต่ตอนที่เธอกับเขาโผจากน้ำขึ้นมาลอยคอได้ก็ต่างมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
“ไหนบอกว่าไปออดิชัน” โยโกะเริ่มต้นถาม “ทำไมถึงมาอยู่ที่แคมป์”
“นึกว่าอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยซะอีก ไหนว่าทุกอย่างมันห่วยเพราะไม่มีเจสซี่อยู่ด้วย”
โยโกะรู้สึกว่าผิวแก้มของเธอร้อน หน้าก็ต้องแดงแน่เมื่อถูกเขายอกย้อนชนิดเก็บทุกเม็ดจนต้องทำเป็นวักน้ำขึ้นมาลูบหน้า ไม่รู้เพื่อให้มันเย็นขึ้นจนช่วยลดสีบนแก้มลงได้ หรือเพราะมันจะทำให้เจสซี่ไม่เห็นใบหน้าที่ต้องพยายามกลั้นยิ้มเขินอายให้ได้อย่างสุดความสามารถกันแน่
“นั่นก็เพราะฉันสนิทกับนายที่สุดไง คิดว่านะ” โยโกะงึมงำในคำพูดท้ายด้วยไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เพราะเธออาจคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว แม้พักหลังมานี้เธอกับเขาจะตัวติดกันอย่างกับอะไรดี แต่เจสซี่ก็เป็นผู้ชายที่มนุษยสัมพันธ์ดีเป็นเลิศ ย่อมไม่แปลกหากที่จริงเขาอาจสนิทกับใครคนอื่นมากกว่าเธอ...ที่ก็ไปแย่งตำแหน่งนี้มาจากพวกโคโคน่าอีกที
“แล้ว...” แต่เจสซี่ดูจะไม่ได้คิดมากเหมือนเธอ เขายิ้ม พูดต่อว่า “ฉันคิดไปเองด้วยหรือเปล่าว่า...เธอชอบฉัน”
“แน่นอน!” โยโกะตอบเสียงดังอย่างเร็วรี่กับคำที่เธอก็รู้ดีแก่ใจว่าแท้จริงมันหมายความว่ายังไง แม้จะไม่คิดว่าเจสซี่จะพูดคำนี้จากปากจริงในวันหนึ่ง หากก็ใช่ว่าจะไม่เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่คิดว่าอาจเกิดขึ้นได้ “ก็นายคือเพื่อนสนิทของฉันนี่!”
“ไม่ใช่แบบนั้นสิ” เจสซี่พูดกลั้วหัวเราะขำด้วยรู้ว่าคนถูกถามจงใจเลี่ยงไม่ตอบ ก่อนจะว่ายเข้ามาใกล้จนโยโกะต้องรีบลอยตัวถอยไป ทั้งเพราะตกใจด้วย เขินด้วย และเธอก็เริ่มคิดว่าการอยู่ในน้ำชักจะไม่ปลอดภัย ไม่แค่อันตรายต่อตัวเธอที่ว่ายน้ำไม่แข็ง แต่เจสซี่ยังทำให้การอยู่ในน้ำกับเขาไม่ดีต่อหัวใจของเธอด้วย คนที่กำลังเผชิญกับภยันตรายหลายทางจึงคิดจะขึ้นไปบนฝั่ง แต่คนก่ออันตรายรู้ทันจึงเอาตัวมาขวางหน้าและบอกว่า
“ตอบฉันมาก่อน แล้วเราค่อยขึ้นฝั่งด้วยกัน”
โยโกะรู้สึกว่าหน้าเธอแดงยิ่งกว่าเดิม และการถูกต้อนในพื้นที่จำกัดยากจะหนีไปไหนได้ก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะมากขึ้นทุกที แต่หญิงสาวก็ยังหาข้ออ้างมาโต้เพื่อจะเลี่ยงคำถามให้ได้ เพราะคนที่อยู่ในอันตรายก็ไม่ใช่ใครเลยนอกจากเธอ
“ถ้าฉันเป็นตะคริวแล้วจมน้ำตายจะทำยังไง! รู้มั้ยว่าการจมน้ำคือสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในแคมป์เลยนะ!”
“รู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอจมน้ำตาย แต่ถ้าเธอมัวยึกยักไม่ยอมตอบ ฉันก็คงเป็นตะคริวไปด้วย แล้วทีนี้เราก็จะได้จมน้ำตายไปด้วยกัน”
“เจสซี่ นี่ไม่ตลกนะ!” โยโกะพยายามจะขึ้นฝั่งให้ได้และมือของเธอก็กำลังจะคว้าจับไม้ทางเดินได้แล้ว แต่เจสซี่เร็วกว่าเมื่อเขาเอาตัวมาขวางและพูดว่า “อ๊ะๆๆๆ อย่าขี้โกงสิ”
โยโกะมองหน้าเจสซี่ก่อนรีบหลบตาเพราะเขากำลังทำให้ความคิดของเธอไม่คงที่ หญิงสาวขบริมฝีปากครุ่นคิดว่าจะทำยังไงกับผู้ชายตรงหน้าดี มันตั้งแต่ตอนไหนกันนะ เธอทำพลาดตรงไหน ทุกคน...กระทั่งเจสซี่...ถึงได้รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา
“ถ้านายจะมาอยู่ที่แคมป์นี้กับเรา งั้นนายก็รู้ใช่มั้ยว่ามีเวลาจะเค้นคำตอบนั้นจากฉันทั้งซัมเมอร์”
“โยโกะ เธออยากให้ซัมเมอร์นี้ผ่านไปโดยที่พวกเราเอาแต่เล่นบทคนที่แอบปิ๊งกันเหมือนที่ผ่านมาน่ะเหรอ” ทว่าคำพูดที่เหมือนเขาก็มีใจเรียกให้โยโกะต้องหันมองอย่างประหลาดใจ แม้ว่าเธอจะอยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่ไม่กล้ามาตลอดก็ตาม “เธอไม่อยากใช้เวลาอย่างคู่รักกับฉันตลอดซัมเมอร์ที่แคมป์นี้เหรอ”
“แต่แคททารีน...คุณอาซามิ...เอ่อ ฉันหมายถึงเจ้าของแคมป์ ไม่อนุญาตให้ชายหญิง...”
กระนั้นคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังปฏิเสธจะเข้าข้างตัวเองก็ดึงดั้นรั้นต่ออยู่ดี หากเจสซี่ที่คงไม่อยากเสียเวลาฟังเธอพล่ามพัลวันจนลิ้นพันกันอีกก็ปิดปากคนพูดมากด้วยริมฝีปากและสองมือที่ประคองแก้มเธอไว้ โยโกะได้แต่เบิกตากว้างมองหน้าคนที่หลับตาจูบเธอ และหญิงสาวก็ไม่รู้เลยว่าที่เธอได้แต่นิ่งงันอย่างนั้นเพราะอึ้งกับการกระทำกะทันหันไม่คาดคิดของเขา หรือเพราะทึ่งที่ได้มีจูบแรกกับคนที่เฝ้าฝันมาตลอดในที่สุด
“เป็นจูบแรกที่ไม่เลวเลยนะ สำหรับซัมเมอร์นี้ของเรา”
เจสซี่พูดกลั้วเสียงหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าที่ยังตะลึงงันไม่หายของคนตรงหน้า ขณะที่โยโกะรู้สึกว่าร่างของเธอปวกเปียกแล้วก็จมลงไปในน้ำที่ยังคงเป็นประกายจากดวงอาทิตย์ใกล้ลับลาที่อาบย้อมท้องฟ้าเป็นสีส้ม
โยโกะ โคเซกิอาจกำลังจะเป็นศพแรกของ ‘สาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันในแคมป์’ รับซัมเมอร์นี้ และข่าวการตายของเธอก็จะถูกกลบมิดด้วยงานโอลิมปิกสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในแอลเอ แต่ถ้าเธอรอดมาได้ มันก็จะเป็นซัมเมอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เธอเคยมีมาทั้งชีวิตเลยล่ะ!
So I’ll be there
when you arrive
The sight of you
will prove to me I’m still alive
And when you take
me in your arms and hold me tight
I know it’s gonna
mean so much tonight
‘ฉันจะอยู่ตรงนี้เมื่อเธอมาถึง
การได้เห็นเธอจะช่วยยืนยันได้ว่าฉันยังมีชีวิต
และเมื่อเธอดึงฉันเข้าไปกอดแน่นในอ้อมแขน
ฉันก็รู้ว่าคืนนี้จะเปี่ยมด้วยความหมาย’
- เดิมเรื่องนี้มีชื่อว่า Lake Dance และเพลงประกอบแรกก็ไม่ใช่ Super Trouper แต่ตอนหาเพลงมาประกอบแล้วชัฟเฟิลมาเพลงนี้ก็กรี๊ดชอบมากจะเอา! พออ่านเนื้อเพลงก็โอ๊ยเหมาะมากจนต้องขอเปลี่ยนชื่อเรื่องและแทรกเนื้อเพลงท่อนที่เหมาะควรเข้ามาปิดเรื่องด้วยเทอญ
ปล. สปอยล์ ตอนหน้าไทกะ พล็อตน่ารักและใสมากเหมือนน้ำในทะเลสาบ / ตอนสุดท้ายโฮคุโตะ ใบ้ให้ว่าร้อนแรงเหมือนชื่อแคมป์ :p 555
ความคิดเห็น