คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : LOST HEAVEN: The End Of The Beginning
RE-RELEASE DATE : NOVEMBER 20, 2020
---------------------------------------------------------------------------------------------
ดัดแปลงมาจากเรื่อง Paradise Lost ที่เราเคยแต่งโดยอิงมาจาก AHS: Apocalypse จ้า
- จริงอย่างมึงว่าเลยว่ะ พอแต่งฟิคคริสต์เป็นญี่ปุ่นแล้วค่อนข้างประหลาดเพราะทางนั้นไม่ค่อยนับถือคริสต์กัน ปกติญี่ปุ่นต้องแนวลัทธิเนาะ ถ้าแหวกไปแต่งทางฝั่งโฮคุโตะน่าจะญี่ปุ่นได้อยู่ แต่กูแต่งได้แค่ฝั่งไมอาเนี้ยแหละ พอ แต่โปรโมทหน่อยเถอะ อยากให้รอเรื่อง Highway to Hell มากกก กูเชื่อว่ามันจะญี่ปุ่นได้จริง มันจะเหมือนการ์ตูนสยองญี่ปุ่นเรื่องนั้นที่เราเคยอ่านตอนเด็กที่มีแม่มด เชื่อกู แต่คงอีกนานหน่อย ยังไม่ได้เริ่ม (แล้วรีบโม้ทำพรือ)
- ตามที่ได้สัญญาไว้ในตอนที่แล้วจ้ะพี่สาว กูได้เพิ่มฉากเจสซี่กระทืบทุบตีน้องสาวจนหนำใจ (หนำใจกูคนแต่ง หมั่นไส้มึงมานาน ขอสักหน่อยเถอะ ตุ้บตั้บ) แต่งเพิ่มจากฉบับดั้งเดิมมาได้ตั้งสองพันคำแน่ะ ดีใจมากเพราะมันครบถ้วนกระบวนความที่เราต้องการจากเรื่องนี้แล้ว T_T
- เซ็งว่ะ กูแต่งฟิคให้มึงด้วยเพลงลาร์คมาตั้งสามเพลง และเป็นเพลงที่กูรักมากหมดทุกเพลง มันควรเป็นกูเองป่าววะ รำคาญ ระวังเพลง Neo Universe ไว้ให้ดีเถอะ กูเตือนนะ
ตั้งแต่วันนั้น การทำร้ายไมอาก็ไม่ได้เป็นเพียงนามธรรมหรือคำเปรียบเปรยอีกต่อไป ความปราณีจากแม่ไม่ใช่ยาแก้ปวดแต่เป็นคำผรุด่า พ่อที่เคยแค่ดุด่าก็เริ่มหยิบข้าวของมาขว้างปาใส่หากไม่พอใจ ขณะที่เจสซี่ก็จะตบหน้า ตีหัว หรือฟาดหลังเธอตามชอบใจแค่เพราะเขาพอใจจะทำ แค่เพราะเธอร้องไห้ แค่เพราะเธอหลบหน้า แค่เพราะเธอไม่กินอาหาร แค่เพราะเธออ่านไบเบิลเสียงเบา แค่เพราะการมีอยู่ของเธอในสายตาเขา ไม่แค่ร่างกายที่หน่วงหนัก จิตใจที่ถูกทารุณของเธอก็ยิ่งเจ็บหนัก มันบอบช้ำ แตกสลายด้วยความทุกข์ระทม ไม่อาจเป็นดังเดิมได้แม้รอยช้ำที่ใบหน้าขาวจากวันนั้นจะหายไปจนไม่เหลือร่องรอยเก่าแล้วก็ตาม ไมอาถูกขังให้อยู่แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนนอกจากโบสถ์ในวันอาทิตย์ ทว่าไม่มีการเดินเล่นระหว่างมื้ออาหารอีกต่อไป ทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะต้องอยู่ในสายตาของใครสักคน...ผู้ศรัทธาพี่ชายเธอ...เสมอ
ไมอาถูกจับโยนให้ไปอยู่บนห้องนอนชั้นสองที่เคยเป็นของเจสซี่ บานไม้ถูกตอกปิดทับหน้าต่างไม่ให้ผู้อาศัยหลบหนี ห้องที่กว้างขวางทว่าอึดอัดทึบทึมนี้ถูกลงกลอนล็อกไว้ตลอดเวลา ไม่ผิดต่างจากการถูกจองจำในคุกที่เจ้าของห้องเก่าเคยไปเยือน และเมื่อรัตติกาลมาเยี่ยมหา ทุกลมหายใจเข้าออกของเธอก็จะนึกถึงแต่โฮคุโตะ เฝ้าภาวนาขอให้ได้พบกับเขาแค่ในฝันก็ยังดี แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น ไมอาไม่เคยนอนหลับฝันดี เธอสะดุ้งตื่นแทบทุกคืนเพราะการทำร้ายจากเจสซี่ที่ตามติดมาจนถึงในฝัน กระทั่งบางค่ำคืนที่เขาจะมายืนค้ำเตียงเธอในเงามืด จับจ้องมองเธอด้วยแววตาคู่เดียวกับในวันนั้นไม่ผิดเพี้ยน วันที่น้องสาวของเขาได้ประจักษ์กับชีวิตแท้จริง และเมื่อเจสซี่จากไป ไมอาก็จะซุกหน้าร้องไห้กับหมอนเพราะความกลัวที่สุดในชีวิตว่าเขาอาจฆ่าเธอ ทำให้เธอกลับไปเป็นน้องสาวผู้บริสุทธิ์ไร้มลทินของเขา ต่อให้เธอจะเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณในความหมายโดยเที่ยงแท้ก็ตาม
หญิงสาวได้ตระหนักรับรู้แล้วว่า พระเจ้าไม่ได้ประทานโฮคุโตะมาให้เธอ หรือประทานเธอให้กับเขา
แต่พระเจ้านำพวกเธอมาพบกัน เพียงเพื่อจะพรากออกไปในรูปร่างของผู้รับใช้เขา...พี่ชายเธอ...ชายผู้ชั่วช้าที่สุด
แค่พริบตาที่ไมอากับโฮคุโตะท่องอยู่บนสวนสวรรค์ เขาก็ผลักพวกเธอลงไปในหุบเหวลึกไร้ก้น ไร้ทางออก ไร้ทางเชื่อมหากัน ไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องสว่างนำทางได้อีกต่อไป พระเจ้าไม่เพียงไม่เคยมอบอิสรภาพที่ไมอาวอนขอมาตลอดให้ เขายังกระชากสิ่งเดียวที่ล้ำค่าจากเธอไปอย่างโหดร้ายทารุณ ความเจ็บปวดทางกายนั้นเธอทนได้ แต่ความเจ็บปวดที่ใจนั้นไม่อาจเยียวยาให้หายได้ด้วยยาใด ศรัทธาของไมอาไม่เหลือให้พระเจ้าเบื้องบนอีกแม้แค่น้อยนิด
เธอต้องบูชาวอนขอต่อสิ่งใดจึงจะได้โฮคุโตะกลับมา
ต้องทำอย่างไรถึงจะได้ออกไปจากแดนสวรรค์อัปลักษณ์กับเหล่าผู้ศรัทธาที่เห็นแก่ตัวเหล่านี้ได้
เธอต้องทำเช่นไร
คืนวันอาทิตย์หนึ่งหลังกลับจากโบสถ์ที่ไมอาได้แต่นอนเหม่อจ้องเพดานอยู่บนเตียงท่ามกลางความมืดมิดในอันธการ อาการปวดหัวตาพร่าที่กลับมาเยือนทุกวันอาทิตย์เริ่มทุเลา เช่นเดียวกับรอยช้ำสดใหม่ที่ท้องเมื่อเย็นด้วยน้ำมือของเจสซี่แค่เพราะเธอร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในโบสถ์ผิดเพี้ยน จนทำให้เขาที่นั่งเล่นออร์แกนบรรเลงตรงหน้าเธอบนเวทีต้องสะดุดไปจังหวะหนึ่ง ไมอาก็พลันนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ บางอย่างที่เธอไม่เคยนึกถึงมาก่อนกระทั่งวินาทีนี้ ทั้งที่คำตอบก็อยู่ตรงหน้ามาตลอด รอแค่ให้เธอเดินเข้าไปหา ไมอาแค่มองข้ามมันไป หากเมื่อหมอกควันที่บดบังจางหายไปแล้ว เธอก็มองเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง
สิ่งใดเล่าที่ตรงข้ามกับสวรรค์ ผู้ใดกันที่เป็นปรปักษ์กับพระเจ้า
‘ซาตานจากนรก’
หญิงสาวพรวดร่างขึ้นนั่งกับความคิดนั้น ปราศจากความหวาดกลัวหรือรังเกียจที่เจสซี่ยัดเยียดให้รู้สึกทุกครั้งยามอ่านไบเบิลอีก สิ่งเดียวที่ไมอารู้สึกในตอนนี้คือความตื่นเต้นมหันต์ เหมือนการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของมนุษยชาติได้ แต่เธอไม่ได้คาดหวังอะไรใหญ่โตถึงขั้นนั้น
เธอขอแค่ได้ออกจากสวรรค์ไปอยู่กับโฮคุโตะในนรก...ตามคำเปรียบเปรย...ก็เท่านั้น
และไมอาเกิดความรู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดว่าปีศาจร้ายที่พระคัมภีร์ขีดเขียนไว้จะมอบมันให้เธอได้ ซึ่งหากหมายถึงต้องแลกด้วยวิญญาณ เธอก็ยินดี จะสำคัญเช่นไรเมื่อวิญญาณของเธอไม่ได้อยู่กับตัวมานานแล้วตั้งแต่มันออกไปตามหาโฮคุโตะว่าอยู่แห่งหนใด แม้จะไม่เคยพบหรือรู้อยู่เต็มอกว่าอย่างไรก็ไม่มีทางพบ เช่นนั้นเธอก็พร้อมสละวิญญาณให้ซาตานหากเขาต้องการ มันก็แค่การแลกเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับชีวิตเส็งเคร็งที่เธอต้องเผชิญอยู่ทุกวันไม่เว้น
ไมอากระโดดลงจากเตียงไปหยิบคัตเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ พวกเขาไม่ได้เก็บข้าวของมีคมที่เธออาจใช้ทำร้ายตัวเองได้ออกไปจากห้อง เพราะรู้ว่าต่อให้จิตใจเธอจะจมดิ่งมากมายเพียงไหน การฆ่าตัวตายก็เป็นบาปมหันต์ในศาสนาคริสต์ น่าขำที่พวกเขาคิดว่าไมอายังคงมีศรัทธาอยู่ เธอไม่ได้เกรงกลัวโทษทัณฑ์ที่จะได้รับหากเธอฆ่าตัวตายเพื่อหนีให้พ้นจากบ้านนรกนี้ เธอแค่มีชีวิตอยู่ต่อเพราะความหวังว่าจะได้เจอกับโฮคุโตะอีกเท่านั้น ไมอาถึงได้หวาดกลัวเป็นนักหนาว่าเจสซี่จะคร่าชีวิตเธอด้วยคัตเตอร์เล่มนี้ที่เขาก็เคยถือมันมายืนจ้องเธอข้างเตียง
หญิงสาวเคยอ่านเจอเรื่องราวมากมายของซาตานที่ดลบันดาลความปรารถนาของผู้คนให้เป็นจริงได้ และต่อให้เขาจะเป็นปีศาจร้ายที่เจ้าเล่ห์ กลับกลอก หลอกลวง เธอก็ยินยอมพร้อมให้เขาลวงหลอกตามต้องการ ในเมื่อพระเป็นเจ้าไม่เคยมอบสิ่งใดแก่เธอนอกจากให้สาวกมาทำร้ายทารุณ เธอก็จะหันหน้าพึ่งพาหนทางอื่น แม้มันจะหมายถึงวิญญาณของเธอก็ตามที
ขอเพียงให้เธอได้พบกับโฮคุโตะอีกครั้ง เพราะเขาคือวิญญาณทั้งดวงของเธอ
แม้ในห้องจะมืดทึม แต่แสงจากจันทร์เต็มดวงก็ลอดผ่านช่องว่างของซี่ไม้เข้ามาบนพื้นกระดานในห้องได้ ไมอานั่งคุกเข่า กดเลื่อนคัตเตอร์จนใบมีดแหลมโผล่พ้นจากด้าม หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาครั้งหนึ่งเพื่อเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเผชิญ นึกถึงความทุกข์ที่เจสซี่เคยมอบให้เธอทนนับครั้งไม่ถ้วน นึกถึงรอยช้ำบนท้องที่พลันแปลบปลาบขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่โทษของเธอไม่ใช่เรื่องที่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือเลย เจสซี่ทำกับเธอเหมือนลูกหมาที่เขาเคยเก็บมาเลี้ยงตอนเด็ก นึกอยากเตะต่อยหรือจับมันฟาดกำแพงเมื่อไหร่ก็ทำ หากไมอาไม่วิ่งไปร้องไห้กอดขาอ้อนวอนก็ไม่หยุด ผิดก็แต่ในตอนนี้ไม่มีทางที่เธอจะหยุดพี่ชายได้อีก น้ำตาและคำวิงวอนของเธอก็เป็นเพียงไฟสุมฟาง เมื่อความคิดไพล่พาลไปถึงความโหดร้ายของชายผู้ชั่วร้าย ความรวนเรที่มีอยู่น้อยนิดก็วับหายไปทันใด หญิงสาวกดของแหลมสีเงินลงไปบนท้องแขนขวาโดยไม่ลังเลอีก เพราะหากลังเลแม้เพียงนิด ความเจ็บปวดก็จะยิ่งยืดเยื้อยาวนาน และมันไม่ใช่สิ่งที่เธอยินดีจะยื้อยุด
ไมอาอยากกรีดร้องออกมาเมื่อผิวหนังปริออกพร้อมกับของเหลวสีแดงข้นที่ไหลทะลัก แต่ความคิดว่าพ่อแม่กับพี่ชายที่อยู่ชั้นล่างอาจได้ยินและมาขัดขวางก็ทำให้เธออดกลั้นข่มมันไว้ได้ มากสุดที่ทำได้คือซบหน้ากับผ้าปูเตียงพร้อมน้ำตาที่รินไหลด้วยความเจ็บเหลือคณา แน่นอนว่าการถูกเจสซี่ทุบตีนั้นรุนแรง แต่เขาก็ยังไม่เคยใช้อาวุธมีคมเถือเนื้อเฉือนเธอ หญิงสาวกดใบมีดกรีดต่อไปจนสุดที่ข้อแขนก่อนถึงข้อพับ เรียบร้อยก็เปลี่ยนเป็นอีกข้าง ทำแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง แต่หนนี้ไมอาต้องกัดฟันกับผ้าปูเตียงเพื่อข่มความเจ็บที่เพิ่มพูนอีกเท่าทวี แค่ไม่กี่นาทีที่ยาวนานเหมือนชั่วกัลป์ เธอก็ปล่อยคัตเตอร์หลุดจากมือที่สั่นไม่หยุดทิ้งไปบนพื้น พยายามประคองหอบร่างลุกขึ้น เพื่อเอาฝ่ามือปาดเลือดไปวาดเป็นวงกลมบนพื้นห้องตามด้วยดาวห้าแฉกกลับหัวในวงนั้น
มันคือสัญลักษณ์ของซาตาน และใช่ สัญลักษณ์ของการปลดปล่อย
ปลดปล่อยวิญญาณชั่วร้ายจากนรก...และปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
ไมอาทรุดร่างที่อ่อนแรงลงไปคุกเข่าอีกครั้ง แล้วริมฝีปากสีแดงจากเลือดที่เธอยกมือขึ้นปาดก็เริ่มเอ่ยถ้อยประโยคที่เกลือกกลิ้งไหลลื่นออกมาอย่างน่าประหลาด ทั้งที่ก็ไม่เคยพบเห็นในตำราใดเฉกเช่นสัญลักษณ์ของซาตาน ทั้งยังฟังไพเราะรื่นหูยิ่งกว่าวรรคทองใดในไบเบิล
“ข้าขอน้อมวันทาซาตาน มอบดวงวิญญาณให้แก่ท่านผู้ยิ่งใหญ่ในนรก ผู้ถูกขับไล่ออกจากแดนสวรรค์มดเท็จ ขอให้ท่านปลดปล่อยข้าจากดินแดนจอมปลอมแห่งนี้ โปรดให้ข้าหลุดพ้นจากสาวกผู้ชั่วร้ายของพระเจ้า ช่วยให้ข้าได้พบเจอและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับชายที่ชื่อมัตสึมูระ โฮคุโตะตลอดชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ข้าสาบานว่าจะเคารพบูชาท่านแต่เพียงผู้เดียวนับจากนี้ และยินยอมพร้อมมอบวิญญาณให้ท่านเมื่อข้าจากโลกนี้ไป ขอเพียงท่านทำให้ความปรารถนาของข้าสัมฤทธิ์ผล”
พูดจบก็หอบหายใจออกมาพร้อมหัวใจที่เต้นระรัวจนปวดในอก ราวกับต้องใช้ความพยายามมหาศาลในการพูดคำพวกนั้นออกมา หากเมื่อพูดจบก็แน่ใจโดยไม่มีคลางแคลงว่ามันคุ้มค่ากับทุกแรงกำลังและเลือดทุกหยาดหยดที่เสียไป แม้ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใดแต่เธอรู้ว่าซาตานได้รับฟังคำขอของเธอแล้ว
ที่เธอต้องทำก็แค่รอ
หญิงทุรยศต่อศาสนาที่ถูกยัดเยียดทอดร่างลงนอนบนพื้นไม้อาบเลือด แล้วทันใดก็หัวเราะออกมาด้วยความเริงรื่นโล่งใจอย่างที่สุด ใช่แล้ว พระเจ้าเทียมเท็จ! เยซูคือพระเจ้าเทียมเท็จ! เธอช่างโง่เขลาที่เฝ้าอ้อนวอนภาวนาต่อเขามานานโดยไม่ได้อะไรเลย ทว่าบัดนี้เธอได้รู้แจ้งไปจนถึงแก่นแล้วว่าสิ่งใดกันแน่ที่จริงแท้ เหตุใดเธอต้องเคารพศรัทธาผู้ที่จะประสิทธิ์ประสาททุกสิ่งอย่างให้เพียงคนที่ถูกเลือก...อย่างเช่นเจสซี่ หากเขาไม่อาจอำนวยพรให้ทุกคนสมประสงค์ได้ เช่นนั้นเธอก็ขอเลือกอีกเส้นทาง
ขณะครวญคิดถึงชะตาที่เคยทำให้เธอระทดท้อรวดไปกับความหวังครั้งใหม่ถึงอนาคตข้างหน้า อาจนานหรือไม่นานไมอาก็ไม่รู้ได้ เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตึงตังขึ้นบันไดมา ตามด้วยประตูห้องที่ถูกเปิดออกจนแสงข้างนอกวาบเข้ามาก่อนเป็นสว่างโร่จากสวิตช์ไฟในห้องที่ถูกเปิดตาม หญิงสาวหยัดร่างยืดตัวขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเดาได้ไม่ผิดแม้แค่ในเสี้ยววินาทีว่าผู้มาเยือนจะต้องเป็นเจสซี่ ไมอาเตรียมใจรับความรุนแรงที่เขาจะยัดเยียดให้เธอเมื่อเห็นว่าเธอทำเรื่องนรกอะไรลงไป หากเธอก็จะไม่ยอมจำนนอีกต่อไป เธอจะไม่ยอมถูกทำร้ายแต่เพียงฝ่ายเดียว เธอจะไม่ยอมตายจนกว่าจะได้พบโฮคุโตะอีกครั้ง เพราะเธอรู้ว่าซาตานจะอยู่เคียงข้างเธอ
เจสซี่ไม่ได้พูดกับเธอทันที เขาปิดบานประตูลงกลอนดังปัง จากนั้นคนที่ยังหอบหายใจแรงราวเหนื่อยหอบก็เดินตรงมาหาเธอ คว้ากระชากคอชุดนอนที่เป็นชุดกระโปรงมากำขยำและเค้นเสียงถามด้วยความเดือดดาล
“ไมอา! แกทำอะไรลงไป!”
แต่ครู่ถัดมาเจสซี่ก็ได้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นจากเลือดที่อาบย้อมบนท่อนแขนขาว สายตารวดเลยไปถึงคราบสีแดงที่แห้งเกรอะกรังอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่ามันเป็นรูปร่างของสิ่งใด มือหลุดจากคอเสื้อของน้องสาวโดยอัตโนมัติ
“แก...แกบูชาซาตาน...แกเรียกซาตานเหรอ...”
“ใช่!” แม้จะผวาหวาดหวั่นจนตัวสั่นเทิ้ม ไมอาก็ยังจ้องหน้าตอบพี่ชายอย่างพยายามอาจหาญเท่าที่ความกล้าจะอำนวยได้ “พี่เป็นคนบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เอง เพราะพี่พรากโฮคุโตะไปจากฉันไง!”
หากเมื่อสิ้นเสียงนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ใบหน้าขาวของไมอาถูกตบจนหันด้วยความแรงที่ทำให้เกิดปื้นสีแดงที่แก้มและเลือดที่มุมปาก แต่หนนี้เธอไม่ได้นิ่งเฉยยอมทนเหมือนทุกครั้งที่แล้วมาอีกเมื่อเธอยกมือขึ้นตบหน้าพี่ชายกลับ ถึงกำลังแรงจะเทียบไม่ได้แม้แต่นิดกับที่เขาเพิ่งทำไป แต่การที่น้องสาวกล้าตอบโต้เขาเป็นครั้งแรกก็ทำให้เจสซี่ที่หน้าผินไปเล็กน้อยเบิกตากว้างอยากไม่อยากเชื่อ
“แก!”
เจสซี่โกรธจัดจนขยุ้มกลุ่มผมสีแดงของน้องสาวที่เหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยนเพื่อลากตัวเธอไปกระแทกกำแพง จับศีรษะเธอโขกกับผนังไม้เนื้อแข็ง ไมอาพยายามยั้งด้วยการใช้สองมือจับข้อมือของพี่ชายแต่ก็ไม่เกิดผล เขาตอกหัวเธอโขกไม้ทุกครั้งที่ผรุคำด่าทอ
“แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง! แกมันชั่ว! พระเจ้าจะไม่ต้อนรับแกเข้าประตูสวรรค์! แกจะตกนรกหมกไหม้! หลังจากฉันจัดการแก ฉันรับประกันกับแกได้เลยว่าแกจะได้ไปหาโฮคุโตะที่รักของแก! พวกแกจะได้ไปเจอกันในนรก พวกแกไม่มีวันจะได้เจอกันบนนี้ ต่อให้มันจะอยู่ใกล้กับแกแค่เอื้อม แค่ชั้นล่างของบ้านเราที่มันเพิ่งพาพวกห่ะบุกเข้ามา!”
“อะไร...โฮ...โฮคุโตะ...อยู่...อยู่ที่...”
หากเธอก็ไม่ทันได้เอ่ยคำถามจนจบ เมื่อหัวสมองที่เจ็บระบมจากการถูกกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะได้พักครู่หนึ่งเพื่อมือใหญ่จะเปลี่ยนมากอบกุมที่ลำคอเล็กแทน ไม่ใช่แค่มือเดียวแต่เป็นสองมือที่ทำให้คำพูดของไมอาขาดช่วง สติขาดห้วง หมดเรี่ยวแรงปัดป่าย ทำได้เพียงปล่อยให้น้ำตาหลั่งรดรินไหลไม่ขาดสายในช่วงสุดท้ายของชีวิตพร้อมกับความสิ้นหวังว่าจะได้พบโฮคุโตะอีกครั้ง
แต่ในตอนที่ไมอาคิดว่าชีวิตของเธอกำลังจะถูกปลิดปลงโดยมีใบหน้าของเจสซี่กับดวงตาไร้แววของเขาเป็นภาพสุดท้ายก่อนตาย ฉากเบื้องหน้าเธอก็หายไปจากแนวสายตาเมื่อมือแข็งแกร่งของเขาหลุดออกพร้อมร่างใหญ่โตของเขาที่ร่วงลงไปแทบเท้า และคนที่หญิงสาวได้เห็นแทนที่ก็คือ
โฮคุโตะ
ดวงตาเย็นเยือกสีดำสนิทของชายหนุ่มจับจ้องอยู่เหนือร่างที่เขาเพิ่งเอามีดปักลงไปที่หลังดั่งมองดูแมลงสาบตัวหนึ่ง และอาจเป็นเช่นนั้นจริงเมื่อเขายื่นมือขวามาให้ไมอาจับเพื่อก้าวข้ามร่างที่นอนกองแทบเท้ามาหาที่อีกฟากฝั่ง ก้าวออกจากธรณีของสวรรค์ชั่วช้าเดินดินไปเป็นนรกวิลาสบนดิน วินาทีนั้นหากไมอาร่วงหล่นลงไปยังหลุมลึกที่ตรงดิ่งสู่นรกานต์ เธอก็ไม่เสียดายหรือเสียใจแม้แต่น้อย
“โฮคุโตะ ฉันคิดถึงคุณ”
ไมอากอดโฮคุโตะที่โอบรับเธอ ทุกหยาดหยดน้ำตาของเธอหาใช่เพราะโศกาอาดูรกับสิ่งที่เขาทำต่อเจสซี่ ไยเธอต้องรู้สึกอะไรโง่เง่าตื้นเขินเช่นนั้นต่อชายผู้มอบเพียงความทุกข์ระทมให้กับเธอ ทั้งยังไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดที่ถูกเขากระทำ มันกลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีความสำคัญอันใดอีกต่อไป สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกในตอนนี้ก็คือความดีใจที่ได้พบกับชายคนเดียวที่เฝ้ารอเท่านั้น
โฮคุโตะไม่ได้มองหญิงที่เขาก็รอคอยในทันทีเมื่อสายตามุ่งไปยังดาวห้าแฉกเลือดบูดเบี้ยว เขาจับไหล่ดันร่างเธอออกจากอกเล็กน้อยเพื่อเธอจะได้มองเห็นมุมปากของเขาที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนโฮคุโตะจะคุกเข่าลง จับแขนซ้ายที่เลือดเริ่มแห้งกรังแต่ก็ยังไม่หยุดไหลสนิทดีเพราะการใช้กำลังเมื่อครู่ของเธอขึ้นมา จากนั้นก็แลบลิ้นเลียของเหลวสีชาดโดยที่ดวงตาคมกริบก็จับจ้องมองเธอไม่กะพริบตลอดเวลานั้น ไมอารู้สึกโหวงหวิวมวนท้องรุนแรง ทั้งจากความเสียวแปลบที่ปากแผลและความเสียวซ่านจนหวามวาบ หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นกับเธอนานแค่ไหน อาจแค่ไม่กี่วินาทีหรือล่วงเลยไปเป็นหน่วยนาที ก่อนโฮคุโตะจะปล่อยแขนเธอ ยิ้มอ่อนโยนให้เธอด้วยรอยยิ้มเหมือนเมื่อแรกพบ
“ซาตานชี้ทางให้ผมมาหาคุณ”
เขาลุกขึ้นแตะปากกับแก้มของเธอและจูบซับน้ำตาที่ยังรินไหลของคนที่ยิ่งตัวสั่นมากขึ้นเมื่อพูดว่า
“และซาตานก็นำพาคุณมาหาฉัน”
ไมอาได้ยินเสียงฮึมฮัมตอบรับในคอ ก่อนโฮคุโตะจะเลื่อนจากแก้มเปียกแฉะมาเป็นริมฝีปากที่สั่นเทิ้ม มอบจูบที่เธอเฝ้าโหยหาอีกครั้งให้ดั่งปรารถนา หญิงสาวไม่สนใจของเหลวที่แขนอีกตอนยกมันขึ้นโอบคอเขาให้ยิ่งชิดใกล้ และเธอรู้ว่าโฮคุโตะจะไม่ว่าอะไรที่ผมหรือคอของเขาจะเลอะสีเลือด มันก็แค่การปาดป่ายสีสันความงดงามของเขาให้เด่นชัดขึ้นเท่านั้น รสชาติของเลือดเธอที่ติดอยู่บนปลายลิ้นเขาเป็นรสชาติของสนิม แต่ความหวานล้ำนั้นไม่อาจต้านทานได้เหมือนแอปเปิลลูกนั้น
หากได้ลิ้มรสผลไม้ต้องห้ามแม้เพียงครั้ง ต่อให้ผลไม้เลิศรสที่สุดบนพื้นพิภพก็กลายเป็นไร้รสชาติ ไมอาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดมันถึงถูกเรียกว่าผลไม้ต้องห้าม เพราะเธอจะโหยกระหายแต่มันโดยไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีก และอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอเข้าใจถ่องแท้ก็เพราะเธอต้องการจะเก็บมันไว้กินคนเดียว
แอปเปิลที่โฮคุโตะให้เธอในวันนั้นคือผลไม้ต้องห้ามในสวนสวรรค์
จูบที่โฮคุโตะให้เธอในวันนั้นคือบัตรผ่านเข้าสู่ดินแดนที่ถูกเรียกขานว่านรกภูมิ
แต่ไมอาก็ยินดีอยู่ในขุมนรกของซาตานผู้ทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงได้
ก่อนเธอกับเขาจะต้องผละจากจูบที่ต่อให้มากแค่ไหนหรือนานเท่าไหร่ก็ไม่พอ จูบที่กลืนกินไม่เพียงร่างกายแต่เป็นจิตวิญญาณที่ไมอาสละให้โฮคุโตะก่อนจะยกให้ซาตานเมื่อความตายมาเยือน คนทั้งคู่หันไปยังบานประตูที่เปิดอ้าออกและได้เห็นปรากฏตัวของชายหญิงสองคนที่ประตูหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดมา มันเป็นพื้นไม้จึงช่วยไม่ได้ที่จะเกิดเสียงดังมากไปหน่อย
“เราฆ่าสองคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ท่านโฮคุโตะ” ฝ่ายหญิงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแย้มรอยยิ้มกว้างราวเพลิดเพลิน
ไมอาหันมองชายที่ยืนอยู่ข้างเธอ
“คุณหมายถึง...พ่อกับแม่ของฉันเหรอ”
โฮคุโตะยิ้ม คำตอบที่ได้รับน่าจะทำให้หญิงสาวหวั่นกลัว โกรธเกรี้ยว หรือเศร้าสลด แต่ไม่เลย สิ่งเดียวที่ไมอารู้สึกคือความว่างเปล่า เหมือนเป็นเรื่องของคนไกลตัวที่เธอไม่รู้จักมักจี่ ไม่ได้ยินดีแต่ก็ไม่ได้เสียใจกับการจากไป และเมื่อมองย้อนถึงสิ่งที่พวกเขาให้เธอเผชิญมาทั้งชีวิต เธอก็ไม่แปลกใจหากตัวเองจะคิดคดเช่นนั้น
“ยังเหลือพิธีกรรมสุดท้าย”
ชายอีกคนพูดขึ้น สายตาลดมองที่ร่างชายตัวใหญ่บนพื้น เมื่อไมอามองร่างที่นอนตายตาไม่หลับของเจสซี่ ก็ได้แต่ฉงนใจว่าชายผู้นี้หรือที่เคยขัดขวางความรักของเธออย่างบ้าคลั่งด้วยศาสนาไม่จริงแท้ บัดนี้เขาก็แค่ก้อนเนื้อไร้ชีวิตที่ไม่อาจทำอันตรายเธอหรือใครได้อีก ร่างไร้ชีวาของเขาอาจเป็นสิ่งที่ผู้ศรัทธาจะร่ำไห้บูชา แต่ไมอาจะไม่มีวันทิ้งเศษซากร่างเขาให้หลงเหลืออยู่บนโลกนี้ ต่อให้ไฟจะชำระเขามอดจนเหลือเพียงเถ้าก็ยังไม่สาสมกับความแค้นของเธอ
โฮคุโตะดึงไมอาให้คุกเข่าลงเหมือนชายหญิงทั้งคู่ที่มาล้อมอยู่รอบร่างของเจสซี่แล้ว จากนั้นก็ดึงมีดที่ปักมิดคาหลังอดีตบาทหลวงออก ศพที่แข็งเกร็งขยับไปตามแรงกระชาก เขาเอามีดยาวแหลมกริบเล่มนั้นกรีดเสื้อยืดสีดำจนเห็นอกขาวซีดข้างใต้ ก่อนคมมีดจะกดลงไปที่ผิวหนังอย่างไม่ชะงักลังเล ไมอาเสียวไส้ แต่ทั้งสามชีวิตก็จับจ้องมองดูทุกการกระทำของเขาโดยไม่อาจละสายตาได้ กระทั่งโฮคุโตะทิ้งมีดลงบนพื้นแล้วล้วงมือเข้าไปในอกที่เปิดอ้าของผู้รับใช้พระเจ้าเพื่อเอาหัวใจที่ยังเต้นออกมา
ภาพหัวใจมนุษย์ที่เคยเห็นแต่ในสารคดีทางทีวีทำให้ไมอาต้องกลืนน้ำลายอย่างแรง โฮคุโตะเหมือนจะรู้ถึงความหวั่นเกรงของเธอจึงเงยหน้าขึ้นบอกว่า
“ดูที่หลังหูขวาของผม”
แม้ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด ไมอาก็ทำตามที่เขาพูดโดยไม่ถามให้มากความ เธอยืดตัวขึ้นเพื่อจะได้สูงกว่าเขาเล็กน้อย จากนั้นก็แหวกผมสีดำเหมือนถ่านที่ใบหูของเขาออก ก่อนจะอ้าปากค้างและผงะถอยไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ
มีรอยนูนที่เหมือนกับรอยจารึกตั้งแต่เกิดอยู่ตรงนั้น ตัวเลข 666
“คุณ...คือซาตานเหรอ”
“ไม่ใช่ ซาตานคือพ่อของเขา” ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามตอบ
“และเมื่อไหร่ที่ท่านโฮคุโตะทำพิธีแบล็ค แมสส์ กินหัวใจของบาทหลวง” ผู้หญิงเสริม “พลานุภาพของพ่อก็จะถูกส่งผ่านมาให้เขา และเขาจะมีอำนาจดุจดั่งซาตานบนโลกนี้”
“คุณสัญญาว่าจะมอบอะไรให้พ่อผมล่ะ”
โฮคุโตะถามด้วยรอยยิ้มมุมปาก หากไม่ได้ต้องการคำตอบเมื่อเขากัดกินหัวใจในมือทันที ชายหญิงสองคนนั้นพร้อมใจกันเอ่ยว่า “ซาตานจงเจริญ! ซาตานจงเจริญ!” ซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดดั่งท่องบทสวดอวยชัย ทว่าสิ่งเดียวที่ไมอาทำได้คือมองจ้องหน้าโฮคุโตะที่สบตาเธอนิ่งทั้งที่ก็กัดกินหัวใจที่เต้นไม่หยุดไปด้วย ราวกับย้อนไปในวันนั้นที่เขามองดูเธอกัดกินแอปเปิล มันมีสีแดงสดเฉกเฉดเดียวกัน
เมื่อหัวใจที่ไม่เคลื่อนไหวแล้วถูกทิ้งไปบนพื้น ชายหญิงทั้งคู่ก็ออกไปพร้อมลากศพของเจสซี่ไปด้วยเหมือนร่างมนุษย์นั้นเป็นเพียงขยะที่พวกเขาจะเอาไปทิ้ง ปล่อยให้ไมอากับโฮคุโตะได้อยู่ในห้องเพียงลำพัง ห้องที่เคยเป็นคุกของเธอ แต่บัดนี้ไม่มีสิ่งใดจะกักขังเธอได้อีก ไมอาเหลือบมองท่อนแขนของตน เลือดจับตัวเป็นลิ่มแล้ว สีของมันแดงฉานเหมือนใบหน้าเลอะเลือดของโฮคุโตะ ชายผู้ก็แปดเปื้อนเหมือนกับเธอ
“ผมไม่เคยลืมวันนั้นที่ถูกพรากจากคุณเลย แม่ของคุณบอกว่าผมเป็นปีศาจ พี่ของคุณบอกว่าผมเป็นงูพิษ และเขาขับไล่ผมออกจากสวรรค์ของเขา” เทวารูปงามใช้มือลูบกลุ่มผมสีแดงของไมอาขณะพูดกลั้วเสียงหัวเราะเย้ยเยาะมนุษย์ที่ต่างก็หมดลมหายใจไปแล้ว “ผมเห็นพี่ชายของคุณทำร้ายคุณ ผมถูกทำร้ายจนนึกว่าตัวเองจะตาย ผมสับสนไปหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าไม่ช่วยผม ทำไมไม่ช่วยคุณ ความศรัทธาที่เป็นความหมายของชื่อโบสถ์มีให้เพียงผู้ศรัทธาไม่นอกรีตอย่างนั้นเหรอ” เขาพ่นลม ใบหน้าแต้มรอยยิ้มหยัน “จนพวกเขามาเจอผม พาผมเข้าโบสถ์บูชาซาตาน ให้ผมเข้าร่วมลัทธินอกรีต และผมก็ได้รู้ว่าตัวเองคือลูกของซาตาน...พ่อของผมช่วยผมไว้”
ไมอามองจ้องหน้าเขาด้วยประกายชื่นชมที่อาบเต็มหน้าหลังจากได้รับฟังเรื่องราวปาฏิหาริย์อัศจรรย์จริงแท้
“ครั้งหนึ่งซาตานก็เคยถูกจับโยนลงมาจากสวรรค์” หญิงสาวพูดถึงเรื่องราวปรัมปราที่ถูกจารึกไว้ในไบเบิล “ฉันอุทิศชีวิตให้กับพ่อของคุณแล้ว...ให้กับคุณ”
โฮคุโตะแตะแก้มของเธอด้วยมือชุ่มเลือด ไมอาแน่ใจว่าใบหน้าของเธอจะเปรอะเลือดเหมือนเขา แต่คนทั้งคู่ต่างก็ไม่สนว่าเลือดจะเปรอะเลอะจนกรังไปทั่วร่างอีกมากแค่ไหน ต่อให้มือของเขาจะจับไหล่เธอเพื่อดันตัวเธอให้นอนลงบนพื้นที่อาบทั้งเลือดเก่าจากตัวเธอเองหรือเลือดใหม่จากร่างของเจสซี่ ระหว่างความระทึกตื่นใจกับสิ่งที่โฮคุโตะกำลังจะกระทำต่อเธอ เขาก็เลิกชุดกระโปรงของเธอขึ้น และประกายโกรธเกรี้ยวก็วาบขึ้นในดวงตาและใบหน้าแม้จะแค่ครู่ก็ตามเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ใต้นั้น รอยช้ำสดใหม่ที่กลายเป็นสีม่วงคล้ำวงใหญ่จากฝีมือของเจสซี่เมื่อบ่าย มันคือบาดแผลภายนอกที่ใหญ่ที่สุดที่ไมอาเคยได้รับจากพี่ชาย พลันก็รู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่ห่างหายไปพักใหญ่ ก่อนโฮคุโตะจะโน้มใบหน้าลงมาชิดใกล้กับใบหน้าเธอจนไอร้อนรดริน ดั่งต่อลมหายใจให้กับชีวิตของเธอ ดั่งความเจ็บปวดทุเลาบรรเทาจนแทบเรียกได้ว่าหายสนิท
“เขาจะไม่มีวันทำร้ายคุณได้อีก จะไม่มีใครทำร้ายคุณได้อีก”
แม้สุ้มเสียงของโฮคุโตะจะแผ่วเบาเพราะเขาเพียงกระซิบ แต่ราวกับมันเป็นคำพูดประกาศิตหนักแน่นที่ไมอารู้ว่าเธอวางใจได้ เพราะมันฟังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าบทสวดใดที่เธอได้เคยเปล่งวาจาขับขานออกมาตลอดชีวิตนี้ หญิงสาวรู้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยคำใดเพื่อตอบรับ แม้แค่การกระทำก็ไม่ เพราะก่อนที่โฮคุโตะจะทาบประทับริมฝีปากที่มีเลือดกรังกับเธอ ก่อนเขาจะให้เธอได้ลิ้มรสของบาปที่ชักพาเธอกับเขาให้จมดิ่งสู่เกเฮนนาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีเปลวเพลิงใดจะแผดเผาไมอาได้อีก นอกจากความร้อนรุมที่โฮคุโตะเป็นคนจุดจนลุกโพลงยิ่งกว่าไฟนรกขุมไหน และไมอาก็รู้ว่าเขาจะช่วยดับมันให้เธอจนสนิทได้ไม่ว่าเธอจะเรียกร้องอีกกี่ครั้งกี่ครา หรือต่อให้มันจะเป็นเปลวเพลิงที่โชติช่วงไม่มีวันดับชั่วนิรันดร์กาลในบึงไฟก็ตาม ก่อนที่ทุกความเจ็บปวดในร่างกายเธอด้วยฝีมือของเจสซี่จะหายไป แทนที่ด้วยความเจ็บปวดครั้งใหม่จากผู้ชายตรงหน้าที่เธอพร้อมรับไปตลอดกาล หญิงสาวซึ่งเคยต้องติดตามทูตสวรรค์ผู้ชั่วช้ารับรู้ว่าจากนี้เธอจะตามติดบุตรซาตานที่จะทำให้เธอได้อยู่บนจุดสูงสุดของโลก พาเธอลอยล่องไปสูงกว่าสวรรค์ชั้นใดเหมือนที่เขากำลังจะทำ โฮคุโตะก็เอ่ยบอกไมอาด้วยคำพูดที่จะติดตรึงอยู่กับเธอไปชั่วชีวิตว่า
“ขอต้อนรับสู่ทาร์ทารัสของผม”
狂しいまでに恋慕う
いつまでもそばにいて離れられぬように
(ฉันโหยหาเธออย่างบ้าคลั่ง
อยู่เคียงข้างฉัน อย่าแยกจากกันตลอดกาล)
- ช่วงที่แต่งเรื่องนี้เหมือนจะดูซีรีส์ Watchmen แล้วมีฉากหนึ่งในเรื่องที่พูดถึงทาร์ทารัส พอเห็นก็กรี๊ด ไม่ได้ ต้องเอามาใส่ ทีนี้พอเอามาแปลงเป็นฟิคญี่ปุ่นก็ขนลุกเลยค่ะ เรารู้จักคำนี้ครั้งแรกจากการ์ตูนเรื่องโรงเรียนนักสืบคิว ริวคุงฉบับคนแสดงก็ยามาดะก๊ะชอบตัว กรี๊ด เด็กจอห์นนี่! (เคลเบรอสในการ์ตูนของกูค่ะ อย่าแย่ง) แต่ก็อยากใส่เนื้อเพลงfinaleด้วย เพราะไปนั่งอ่านคำแปลแล้วสะพรึงมาก เป๊ะกับเรื่องนี้มากเวอร์ (เดี๊ยนเลือกเพลงนี้มาตั้งแต่ต้นก่อนจะได้อ่านคำแปลฮ่ะ) ขอบคุณคำแปลภาษาญี่ปุ่นเพลงนี้จากคุณยู มึงมีประโยชน์ก็แค่นี้แหละ แปลมั่วหรือเปล่าก็ไม่รู้
- พูดกันตรงนี้เลยว่าแต่งไปแต่งมากูก็ชอบบทเจสซี่มากถึงจะโฉดชั่ว อยากโดนทำร้าย ตบตี กระทืบ ทารุณ (แค่ในฟิคค่ะ ชีวิตจริงใครจะบ้าอยากโดนซ้อม) ขอบคุณค่ะ สวัสดี T/\T ว่าไปถ้าเล่าเรื่องย้อนอดีตของเจสซี่ คงจะออกแนวชินจูกุสวอน โลนชาร์คอะไรอย่างนี้ปะ 555 และโฮคุโตะก็ยังคงเดิมว่ะ คือกว่าจะได้ออก แต่เพราะเค้าเป็นพระเอกตัวจริงไงคร้าฟฟฟ อิ๊_อิ๊
ความคิดเห็น