ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` Rosa Mystica .

    ลำดับตอนที่ #4 : EPISODE 1 : American Honey (20%)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 62


    http://pa1.narvii.com/6566/063d8c82cf9624c9db6d5727395651545cd7cce4_hq.gif
    https://data.whicdn.com/images/314873248/original.gif

    BGM :
    Through The Cellar Door
    – Lanterns on the Lake
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เดียร์ดรี คาร์สัน กำลังตื่นเต้นกับวิชาบทกวีในวันนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจารย์เทียร์นีย์ให้การบ้านเป็นการหาบทกวีที่ชอบ เพื่อเอามาท่องให้ทุกคนฟังในสัปดาห์ถัดมา แม้นักศึกษาในห้องนี้จะมีแค่ยี่สิบกว่าคน แต่เดียร์ดรีก็ไม่เคยทำใจให้ชินกับการต้องทำอะไรต่อหน้าคนหมู่มากได้สักที เพราะมันเป็นนิสัยติดตัวเธอมาแต่ไหนแต่ไร อาจตั้งแต่จำความได้ อีกประการหนึ่งคือเธอไม่มีเพื่อนสนิท—หรือแม้แต่เพื่อนสักคน ที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยให้หายประหม่าได้

    แต่อย่างหนึ่งที่เดียร์ดรีอยากให้ทุกคนได้รู้...คือเธอ เชื่อ ว่าตัวเองไม่แคร์

    นักศึกษาคนแล้วคนเล่าเริ่มอ่านบทกวีจากที่นั่งตามลำดับที่อาจารย์บอก เดียร์ดรีจะได้อ่านต่อจากผู้ชายคนหนึ่ง ยิ่งรู้ว่าใกล้ถึงคิว ความตื่นเต้นก็ยิ่งเท่าทวี แต่ก็แปลว่าอีกไม่ช้าความตื่นเต้นที่ทำให้มวนท้องก็จะหายไปด้วยเช่นกัน เธอถอนหายใจออกมา ก่อนเอี้ยวตัวหันมองชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้ขนาบทางเดินอีกข้างในตำแหน่งเยื้องกับเธอ

    เขาเป็นคนที่ได้อ่านบทกวีก่อนหน้าเธอ ชายหนุ่มเริ่มจากแนะนำบทกวีที่มีชื่อว่า ให้มันโอบกอดเธอ1 ของชาร์ลส์ บูคาวสกี (มือซ้ายของเดียร์ดรีจดชื่อบทกวีลงในสมุด เธอชอบชื่อของมัน) ก่อนจะก้มหน้าอ่านบทกวีนั้น

    เดียร์ดรีประทับใจกับโคลงท่อนหนึ่งมากจนต้องจดมันไว้ (เธอจดได้ไม่ครบ แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปหาอ่านอีกทีในห้องสมุด)

    ...ฉันจะยอมให้ตัวเองมีความสุขบ้างเป็นครั้งคราว

    ฉันพบเจอช่วงเวลาสงบใน...(ในไหนนะ? เธอมัวแต่จดจนไม่ทันฟังไปพักหนึ่ง)

    ...หรือฟังเสียงฝนท่ามกลางความมืด

    ยิ่งต้องการน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นสุขมากเท่านั้น

    บทกวีของเขาค่อนข้างยาว และมันก็น่าจะทำให้เธอเบื่อหรือไม่ก็หงุดหงิดได้ เพราะแปลว่าความตื่นเต้นของเธอต้องขยายออกไปอีก แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อเดียร์ดรีมองหน้าเขาที่ท่องมันด้วยรอยยิ้ม กับบทกวีที่เธอเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เพราะถึงจะเป็นคนไทยที่ย้ายมาอยู่อเมริกาได้กว่าห้าปีแล้ว เรื่องภาษาก็ไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว แต่บทกวีก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าใจได้แค่เพียงรู้ภาษา มันยังต้องอาศัยการตีความต่อให้เป็นบทกวีภาษาบ้านเกิดของเธอก็ตาม แต่เดียร์ดรีกลับพบว่าอยากให้มันยืดยาวออกไปมากกว่านั้น เพียงเพื่อจะได้มองดูหน้าเขาได้นานยิ่งขึ้น

    เธอชอบผมสีน้ำตาลเข้มที่หยิกเป็นขอดของเขา ชอบใบหน้าน่ารักจนอาจถึงกับเรียกว่าหล่อได้ ชอบที่ได้เจอกับเขาในวิชาบทกวีเพราะแสดงว่าเขามีความสนใจในเรื่องนี้เหมือนเธอ แต่สิ่งที่ดึงดูดใจเธอได้มากที่สุดจากความดีงามทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็คือรอยยิ้มของเขา ไม่เพียงน่ามอง ดึงดูด แต่ยังสะกดเธอได้ราวกับเป็นเวทมนตร์ที่ไม่จำเป็นต้องร่ายคาถาออกมา

    หัวใจของเดียร์ดรียังเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ท้องก็ยังโหวงหวิวจากความรู้สึกเดียวกัน ผิดแค่มันไม่ใช่เพราะการบ้านจากอาจารย์เทียร์นีย์ แต่เพราะผู้ชายคนนั้น ก่อนหน้านั้นเดียร์ดรีมัวแต่กระวนกระวายจนไม่ได้จำชื่อของเขา เขาชื่อว่าอะไรนะ? นิโคไล? นิโคลัส? นึกหงุดหงิดขึ้นมาแวบหนึ่งเพราะเรื่องนั้น แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

    เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เดียร์ดรีไม่แน่ใจชื่อเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเมื่อท่องจบในที่สุด ทุกคนรวมถึงเธอปรบมือให้ และในชั่วครู่หนึ่งนั้น เขาก็บังเอิญหันหน้ามาทางเธอ และสบตากับเธอ ชายหนุ่มส่งยิ้มกลับไปให้หญิงสาวต่างเชื้อชาติที่ยังคงมองเขานิ่งค้างอยู่อย่างนั้น โดยไม่รู้ว่าเธอไม่อาจหรือกระทั่งไม่อยากละสายตาจากใบหน้านั้น

    ความวุ่นวายโอบกอดชีวิตของเดียร์ดรีมาเนิ่นนาน มากเกินพอจนเธอเลือกจะปิดกั้นตนเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องพบเจอกับความรู้สึกที่เป็นภัยต่อตัวเองอีกไม่ว่าจะทางไหน มันถึงเป็นปณิธานของเดียร์ดรีเองว่าเธอจะใช้ชีวิตเพียงเพื่อมาร์ติน เรเชล กับตัวเองเท่านั้น ทว่าในชั่วพริบตานั้น ผู้ชายคนนี้ก็ทำให้เธอทอดทิ้งความตั้งใจแรงกล้าของตัวเองได้

    เดียร์ดรี คาร์สัน อยากให้เขาเข้ามาเป็นความวุ่นวายในชีวิตที่ว่างเปล่าของเธอ


    นิค เชส หายตื่นเต้นเมื่ออ่านบทกวีจบในที่สุด ช่วงขณะหนึ่งระหว่างท่องมัน เขาก็อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงเลือกบทกวียาวเหยียดมาอ่าน ทั้งที่มีบทกวีที่สั้นกว่านี้ให้เลือกตั้งมากมายหลายบท แต่มันเป็นบทกวีโปรดที่สุดของเขา การได้ถ่ายทอดมันให้คนอื่นได้รับรู้หรือรับฟัง แม้จะแค่ไม่กี่คน ก็เหมือนได้เป็นการระบายความรู้สึกของตัวเอง

    บทกวีของผู้หญิงที่ได้อ่านต่อจากเขามีชื่อว่า ลำนำของแองกัสผู้ร่อนเร่2 ของเยตส์ เขามีสมาธิจดจ่อกับการรับฟังหลังจากความกังวลของตัวเองจางหายไปหมดแล้ว เวลาฟังแต่ละคนอ่านบทกวี นิคจะเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าทำไมคนคนนั้นถึงเลือกบทกวีนั้น มีเหตุผลอะไรที่ชอบ แต่เขาแน่ใจว่าคนอื่นก็คงคิดเหมือนเขา

    เขาวางมือสองข้างประสานกันบนโต๊ะ เอนตัวไปข้างหน้า ขณะนั่งฟังเด็กสาวผมสีทองอ่านบทกวีของเธอ

    มีคนร้องเรียกชื่อฉัน

    ก็คือเด็กสาวที่ส่องประกายวาววับ

    ดอกแอปเปิลติดอยู่บนผมเธอ

    เธอร้องเรียกชื่อฉันแล้วก็วิ่งหนีไป

    และเลือนหายไปท่ามกลางแสงจ้า’

    แล้วเธอก็จะหายไปด้วยหรือเปล่านะ? นิคคิดขณะมองดูเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอที่มองเห็นได้จากตรงนี้ เขาจำชื่อของเธอไม่ได้ซะด้วย เพราะดูเหมือนชื่อจริงของเธอจะฟังแปลกหู และหน้าตาของเธอก็ไม่ใช่คนอเมริกัน แม้ผมสีทองจะทำให้เธอดูกลมกลืนกับคนในประเทศของเขาอยู่ไม่น้อยก็ตาม

    เขาคิดว่าเธอน่ารักดี


    เดียร์ดรีตรงดิ่งไปที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยหลังเลิกคาบเรียนของอาจารย์เทียร์นีย์ เธอมองเห็นแผ่นหลังที่สะพายกระเป๋าเป้ของผู้ชายคนนั้นออกไปจากห้องเรียน ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปทำความรู้จัก แต่ยังไม่มีความกล้าพอที่จะทำแบบนั้นในตอนนั้น หากก็หวังว่าเธอเองจะมีความกล้าเข้าไปทักทายเขาได้สักวันหนึ่ง ยังไงเธอกับเขาก็ยังได้มีเวลาเจอกันในคาบเรียนนี้อีกหลายสัปดาห์

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 

    [1] Let It Enfold You – Charles Bukowski (http://bukowskiquotes.com/2018/11/charles-bukowski-poem-let-it-enfold-you-featured-in-movie-beautiful-boy/)
    [2] The Song of Wandering Aengus - W.B. Yeates (https://www.poetryfoundation.org/poems/55687/the-song-of-wandering-aengus)

    -----------
    -------------------------------------------------------

    First Published : October 12, 2019
    - แต่งทิ้งไว้ตั้งแต่เดือนกุมภา แล้วก็ได้แค่2หน้า แต่เผอิญย้อนไปอ่านแล้วชอบ เป็นหนึ่งในฟิคที่เคยแต่งที่รักบรรยากาศในเรื่องมากที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้แต่งต่อแล้วก็ตาม T_T
    - ใน
    เรื่อง Beautiful Boy จะมีฉากที่พระเอกอ่านบทกวีของบูคาวสกี เราเลยเอามาใส่เป็นแก่นของเรื่อง และสำหรับตัวเราผู้ไม่นิยมบทกวีใดแม้ในภาษาใด ต้องขอขอบคุณซีรีส์ The Leftovers ที่เอาบทกวีของเยตส์มาใส่ในเรื่อง (แม้จะไม่ใช่บทกวีลำนำของแองกัสฯนี้ก็ตาม) เราเลยได้มีบทกวีที่เหมาะกับเดียร์ดรี...ให้เดียร์ดรีได้อ่าน T_T
    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×