คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 12 Angry Men
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
.
- ห้าปีก่อน -
เป็นครั้งแรกที่อันยา เคลลี ได้เหยียบย่างมายังเมืองชิคาโกที่เคยรู้จักมักคุ้นแค่นาม หลังจากอาศัยอยู่แต่ในเมืองเล็กข้างกันมาหลายปีนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา และก็พอดีกับที่โรงหนังในห้างใกล้อพาร์ตเมนต์ของเพื่อนสนิทเธอมีโปรแกรมนำเรื่องแบทแมนของคริสโตเฟอร์ โนแลน กลับมาฉายบนจอไอแมกซ์ครบทั้งสามภาค หากเมื่อชวนเพื่อนนักแปลผู้งานยุ่งจนหัวหมุนไปดูแต่ไม่เป็นผล ก็ช่วยไม่ได้ที่อันยาจะต้องระหกระเหินไปดูคนเดียว
เธอออกจากห้องที่เพื่อนรักยังคงนอนหลับอุตุบนเตียงในวันพฤหัสบดีตั้งแต่เช้า หาพาสต้ากินหากาแฟดื่มที่ร้านอาหารแถวนั้น เตรียมตัวดูแบทแมนบีกินส์ที่จะเริ่มฉายมาราธอนตั้งแต่เที่ยงวัน ตามด้วยเดอะดาร์คไนท์ (แน่นอนว่าภาคที่เยี่ยมที่สุดนี้มีคนมาดูเยอะที่สุด) ก่อนปิดท้ายด้วยเดอะดาร์คไนท์ไรเซสที่จบลงตอนเกือบห้าทุ่ม และเหลือคนที่นั่งจนจบเอนด์เครดิตส์เรื่องสุดท้ายในคืนนี้แค่สามคนรวมอันยา หญิงสาวหนึ่งเดียวจำชายทั้งสองคนที่มาดูรวดตั้งแต่ภาคแรกเหมือนเธอได้ และแม้เธอกับพวกเขาจะมาใครมามัน ที่นั่งก็ไม่ได้ใกล้กัน และเธอกับพวกเขาก็ไม่ได้ทักทายกันแม้แค่ยิ้มให้ตอนเจอกันหน้าโรงหนัง อันยาก็มองหาความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาทั้งสามได้ราวกับเพิ่งออกมาจากก็อตแธมด้วยกัน เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขำไปหน่อย แต่ก็น่ายินดีไม่น้อย
ตอนที่ออกมาจากโรงหนัง ห้างก็เริ่มปิดไฟเตรียมปิดห้างแล้ว ฝีเท้าทั้งหกก้าวไปยังทิศทางของลิฟต์ก่อนเข้าไปในลิฟต์ที่ก็มีแค่พวกเขา อันยายืนตัวลีบอยู่ด้านในสุดหลังผู้ชายที่กำลังก้มหน้าง่วนกับมือถือ เธอขอให้ผู้ชายตัวใหญ่ช่วยกดปุ่มชั้นล่างสุดให้หลังจากเขากดปุ่มชั้นสาม เขาหันมาผงกหัวและยิ้มให้เล็กน้อยตอนที่เธอเอ่ยขอบคุณ จากนั้นในลิฟต์ก็มีแต่ความเงียบ
อีมส์ มาโลนีย์ ออกจากลิฟต์เมื่อมันจอดที่ชั้นสาม เพื่อขับรถที่จอดไว้บนชั้นนั้นไปทำงานต่อในบริษัทเกมที่ไม่มีตารางเวลาเข้าออกงาน บอกลาเพื่อนรักตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่บังเอิญมาเจอกัน แต่แทบไม่ได้คุยกันเพราะหนังกับมือถือที่เพื่อนเก่าดูจะยุ่งกับมันมากด้วยเรื่องงาน แต่พวกเขาก็นัดดื่มกันในวันพรุ่งนี้แล้ว เขาทันได้ยิ้มให้กับผู้หญิงในลิฟต์อีกครั้งก่อนประตูจะปิด คล้ายคลากับความรู้สึกร่วมที่มีมาด้วยกันตั้งแต่เช้าจากหนังเรื่องเดียวกัน ขณะก้าวไปยังลานจอดรถ อีมส์ก็อดคิดไม่ได้ว่าคงดีหากสักวันเขาจะได้พบเธออีกครั้ง เริ่มต้นถามเธอด้วยอะไรสุดเฉิ่มเชยอย่าง “ชอบแบทแมนไตรภาคของโนแลนด้วยเหรอครับ” มันเป็นสูตรสำเร็จที่คลิเช่เป็นบ้า แต่เขาก็รู้ว่าการทำความรู้จักใครสักคนไม่จำเป็นต้องยุ่งยากซับซ้อนเหมือนในหนังที่เขาผ่านตามามากมาย ไม่ต้องลงถ้ำค้างคาว ไปฝึกกลางหิมะยังสำนักลึกลับของราซ อัล กูล หรือต้องเป็นมหาเศรษฐีอย่างบรูซ เวย์น
เอาน่า...อย่างน้อยในชีวิตของอีมส์ ก็ไม่เคยต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ผู้หญิงที่เขารัก ต้องเลือกระหว่างคนที่รักทั้งสองคนเหมือนในเรื่องเดอะดาร์คไนท์ก็แล้วกัน
อันยาก้าวออกจากลิฟต์ที่ชั้นล่างสุดพร้อมกับผู้ชายที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านมือถือและมุ่งตรงไปยังทางออกปกติ แต่ถ้าเป็นเวลาห้างปิดจะต้องออกอีกทาง เพื่อนเธอเพิ่งบอกเธอที่ก็มาจากต่างเมืองให้ฟังเมื่อคืน อันยาจึงตะโกนบอกเขาไปว่า “คุณคะ! ต้องออกทางนี้ค่ะ!” เขาหันมองเธอก่อนเลี้ยวฝีเท้ามาเป็นทิศทางเดียวกับเธอโดยไม่ได้พูดอะไร และหลังจากความเงียบอีกครั้ง เธอกับเขาก็ออกมาถึงบริเวณหน้าห้างที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจของผู้คนและยวดยานที่ผ่านไปมา อันยาที่เดินนำเขาหยุดพักฝีเท้าและมองดูผู้ชายคนนั้นเดินก้มหน้าก้มตาผ่านเธอไป
จริงอยู่ว่าเธอไม่ได้พูดอะไรกับผู้ชายทั้งสองคนที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่หนังเริ่มยันหนังจบ แต่อารมณ์ร่วมที่เกิดขึ้นตลอดครึ่งวันก็ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ อย่างน้อยก็เป็นการกลับไปเยือนเมืองก็อตแธมที่น่าจดจำสำหรับเธอ
อันยาคิดขณะมองดูเบลค วอลเลซ โบกมือเรียกแท็กซี่สีเหลืองและก้าวขึ้นรถที่ขับจากไปจนมันพ้นสายตา โดยที่สายตาของเบลคยังจับจ้องจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ เขาเพิ่งได้รับข่าวจากฝ่ายแคสติ้งว่านักแสดงที่หมายตาไว้สำหรับหนังเรื่องต่อไปพร้อมจะตอบตกลง เหลือแค่ให้ผู้กำกับอย่างเขาไปคุยด้วยอีกครั้งก่อนเธอจะบินมาชิคาโกในคืนนี้ มันคือเหตุผลที่เบลคบินจากแอลเอมายังเมืองที่นักแสดงหญิงคนนี้อาศัยอยู่ และการได้ดูหนังไตรภาคของโนแลนในเมืองที่ถ่ายทำจริงก็เป็นเรื่องที่ดี เขาเบือนหน้าออกไปนอกรถ มองดูภาพชิคาโกในยามค่ำคืนที่ประดับประดาไปด้วยแสงสีและไฟสังเคราะห์
ขณะนึกภาพฉากในเรื่องแบทแมนบีกินส์กับเดอะดาร์คไนท์ตามไปด้วย ทั้งฉากไล่ล่า ระเบิดตูมตาม หรืออะไรก็ช่างที่เขานึกออกในตอนนั้น เบลคก็พลันคิดขึ้นมาว่ามันดูเป็นเมืองที่เหมาะจะเป็นฉากในหนังสักเรื่องของเขาในอนาคต อาจเป็นแนวที่เขาไม่เคยทำอย่าง...หนังรัก
- สิบแปดเดือนก่อน -
เป็นครั้งแรกที่ไลรา ไซโตะ ได้มาร่วมงานเกมที่จัดขึ้นในชิคาโกที่เธอมาอยู่ได้กว่าห้าปีแล้ว แม้จะเป็นงานที่ไม่ได้ใหญ่โตมากมายด้วยจัดแค่ในฮอลล์ขนาดกลาง แต่ก็มีคอเกมมาร่วมงานไม่น้อย ไลราไม่ได้ชวนใครมาด้วยเพราะไม่เห็นว่ามันจำเป็น ยิ่งพาคนที่ไม่ได้มีใจรักเหมือนกันมาด้วยก็ยิ่งน่าเบื่อตายชัก หญิงสาวจึงมาเดินเฉิดฉายอยู่กลางงานเกมคนเดียวในบ่ายวันศุกร์เช่นนี้
และไลราคิดถูกว่าการมางานนี้คนเดียวไม่ได้แย่เลยสักนิด เพราะเรื่องสนุกในการมางานอีเวนท์แบบนี้คือเราสามารถผูกมิตร สานสัมพันธ์ หรือชวนคนแปลกหน้าคุยได้โดยแทบไม่ต้องเก้อเมื่อต่างก็ใจเดียวกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทักกันเพื่อจะได้รู้จักกันทั้งชีวิต แค่ช่วงเวลาหนึ่งก็เก็บเป็นเรื่องราวที่ดีได้แล้ว และมันจะยิ่งง่ายมากโดยเฉพาะเมื่อมาคนเดียว อย่างที่ไลราผู้เดินเล่นรอบงาน ตื่นตาตื่นใจกับเกมมากมายหลายหลากที่เหล่านักพัฒนาเกมและค่ายเกมขนกันมา ก่อนหยุดยืนกอดอกเพื่อดูภาพเทรเลอร์เกมที่ฉายวนมาแล้วหลายรอบบนจอใหญ่ยังเวทีใหญ่กลางงาน จะได้รู้จักกับคนซื้อขายหนังของบริษัทหนังค่ายหนึ่งที่มายืนข้างเธอและชวนเธอคุย
พวกเขาเริ่มคุยกันจากเรื่องงานนี้ (เธอกับเขายืดแขนโชว์ที่รัดข้อมือสำหรับคนที่ซื้อตั๋ววีไอพีของงานให้กันดู) ไปถึงเรื่องเกม (ที่เธอกับเขาตื่นเต้นกับเกมเรสสิเดนท์อีวิลทูรีเมคที่จะมาเปิดตัวในงานนี้ที่สุดเหมือนกัน) ร่วมกันร้องเฮและปรบมือตอนชายหน้าบูธเกมเททริสเอฟเฟคต์ของเครื่องเพลย์สเตชันร้องตะโกนออกมาว่า “เคลียร์แล้วโว้ย!” กระทั่งบทสนทนาที่ไหลลื่นเป็นธรรมชาติระหว่างพวกเขาจะไปถึงการงานของชายที่คงอยู่ในวัยเดียวกับเธอ
“หนังเรื่องเดอะเวลิงเป็นความภูมิใจหนึ่งของบริษัทเราที่นำเข้าเลยนะครับ”
เขาพูดขึ้นเมื่อบทสนทนาหักเลี้ยวไปทางหนังเอเชีย หลังจากเพิ่งพูดถึงหนังเรื่องสไปเดอร์แมนที่เวอร์ชันเกมก็จะมาเปิดตัวในงานนี้ด้วย
“ปกติฉันไม่ชอบหนังเกาหลีนะคะ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดของฉันเลยค่ะ!” เธอร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะดังเกินไปเพราะยังไงในงานก็อึกทึกวุ่นวายจนแทบต้องเพิ่มเสียงคุยกันอยู่แล้ว ขนาดที่บางทีเธอกับเขาก็ต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้กัน และมีหลายครั้งที่เธอกับเขาจะพูดกับอีกฝ่ายว่า “เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะ/ครับ”
“งั้นบริษัทของผมก็ต้องขออนุญาตรับความดีความชอบไปด้วยส่วนหนึ่งนะครับ” แล้วเธอกับเขาก็หัวเราะ
มันเป็นบทสนทนาที่เป็นไปในทิศทางนั้นตลอดสิบห้านาทีที่พวกเขาคุยกัน อย่างที่ได้บอกไป แม้จะเป็นการพูดคุยที่สนุกมากแค่ไหน ก็ใช่ว่าต้องทำความรู้จักกันต่อจากนี้ ไลราไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของหนุ่มที่เธอเดาจากสำเนียงว่าเขาคงเป็นชาวอังกฤษ มองย้อนกลับไป เธอก็จดจำใบหน้าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีครั้งหนึ่ง
เหมือนที่นีล เอมเมอริช ก็ไม่ได้รู้จักเธอมากไปกว่าในช่วงเวลานั้น แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไปคุยด้วยระหว่างแกร่วรอเพื่อนที่เข้าไปต่อแถวเล่นเกมดราก้อนเควสท์ และเมื่อนึกย้อนกลับไปในวันนั้น ก็มีบ้างที่เขาคิดว่ามันน่าเสียดายที่ปล่อยให้เธอจากไปโดยไม่ได้ขอเบอร์โทรไว้ แต่คนเราก็ย่อมต้องเคยทำเรื่องผิดพลาด เรื่องที่เราเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ทำ สำหรับนีล เรื่องของผู้หญิงคนนั้นคือเรื่องหนึ่ง คงดีถ้าเขาจะได้พบกับผู้หญิงที่นึกถูกชะตาคนนั้นอีกครั้ง
เพื่อนใหม่ของไลราขอตัวกับเธอเมื่อผู้คนทยอยมาหน้าเวทีเพื่อดูตัวอย่างเกมใหม่ที่ไลราก็คือหนึ่งในนั้น เธอร่วมโห่ร้องอย่างตื่นเต้นไปกับคนแปลกหน้าคอเดียวกัน พลันก็นึกเสียดายที่จะไม่ได้ร่วมยินดีกับผู้ชายคนนั้นเมื่อเทรเลอร์เกมเรสสิเดนท์อีวิลทูรีเมคถูกปล่อย ไลราออกเดินไปรอบงานอีกครั้งเพื่อดูว่ามีเกมอะไรที่น่าสนใจบ้าง ก่อนจะมาหยุดที่หน้าบริษัทเกมค่ายหนึ่ง ‘ดิฟเฟอร์เอนท์’ ที่เล่นคำกับคำว่าดิฟเฟอเรนท์ โดยเติมจุดคั่นไว้ระหว่างคำว่าดิฟเฟอร์กับเอนท์ เธอเหมือนจะคลับคล้ายคลับคลากับชื่อนี้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่ารู้จักจริงหรือเปล่า คงจะเป็นค่ายเกมอินดี้ ตอนนั้นบูธของค่ายนี้เพิ่งมีคนเดินออกไป ไลราจึงก้าวเข้าไปยืนหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แทนที่เพื่อจะลองเล่นตัวเดโมของเกมที่มีชื่อว่า
“แวลูย์” เธออ่านชื่อเกมที่ปรากฏอยู่บนจอ พร้อมกับที่ผู้ชายซึ่งยืนประจำอยู่จะพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ลองเล่นได้เลยครับ มีข้อผิดพลาดตรงไหนก็บอกได้ เราจะได้เอาไปพัฒนา”
ไลราก้มมองดูป้ายที่ห้อยคล้องอยู่ที่คอเขา ‘นักพัฒนา’ ในฟอนท์ตัวพิมพ์ตัวหนาอย่างเป็นทางการ ด้านบนเป็นลายมือที่เขียนด้วยหมึกดำว่า ‘ไนเจล เคน’ ปิดท้ายด้วยลายเส้นที่วาดเป็นรูปการ์ตูนใส่แว่นเหมือนเจ้าของมัน ไลรายิ้มให้เขาที่ก็ยิ้มกลับมาให้ ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับหน้าจอและแป้นคีย์บอร์ดอีกครั้ง
แวลูย์เป็นเกมไขปริศนาที่เหมือนย้อนไปในยุคสมัยที่เกมคอมพิวเตอร์เคย...เจ๋งกว่านี้
‘คุณอยู่หน้าประตูอพาร์ตเมนต์ที่เคยอยู่กับแฟนเก่าของคุณ บานประตูที่คุณคุ้นเคยดี แต่ตอนนี้มันล็อก’
หน้าจอคอมพิวเตอร์ในเกมพิมพ์รัวมาอย่างนั้น ที่ผู้เล่นต้องทำก็คือพิมพ์กลับไปว่าจะทำอะไร ผู้ชายที่ไลราคิดว่าชื่อไนเจลบอกว่า “คีย์เวิร์ดคือพวกคำง่ายๆครับ อย่าง ‘ไปที่’ ‘ใช้’ ‘มองหา’ อะไรพวกนั้น”
‘หากุญแจ’ เธอพิมพ์ลงไป
‘คุณจำได้ว่าคนรักเก่าซ่อนกุญแจไว้ที่กระถางต้นไม้หน้าห้อง คุณเจอกุญแจแล้วหยิบมันมาไขเข้าไป ห้องมืดสนิท คุณมองไม่เห็นอะไรเลย แต่คุณจำได้ว่ามีสวิตช์ไฟอยู่แถวประตู’
‘เปิดไฟ’
‘อพาร์ตเมนต์ก็ยังเหมือนครั้งสุดท้ายที่คุณจำได้ เหมือนก่อนที่เขาจะบอกเลิกกับคุณ เหมือนก่อนที่คุณจะทิ้งเขาและห้องนี้ไป กระทั่งคุณได้รับจดหมายจากเขาที่คุณกำมันไว้ในมือแน่นจนชื้นเหงื่อ’
ไลราติดอยู่ที่ประโยคนี้สักพัก เธอลองพิมพ์ไปหลายประโยคแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า คอมพิวเตอร์ในเกมได้แต่ตอบกลับมาว่า ‘ขอโทษ ฉันไม่เข้าใจ’ อยู่อย่างนั้น จนชายที่ยืนอยู่ข้างเธอพูดขึ้นว่า
“ลองอ่านจดหมายดูสิครับ”
ไลรานึกถึงคำพูดในประโยคที่ละม้ายคล้ายกันได้ว่า “ได้อ่านจดหมายของผมแล้วใช่มั้ย” ก่อนที่คนรักหกเดือนของเธอหลังจากงานเกมวันนั้นจะขนข้าวของออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เขาย้ายเข้ามาอยู่กับเธอ และมันคือความทรงจำหนึ่งของไลรากับไนเจลที่พวกเขาต่างก็ยังจดจำได้เป็นอย่างดี
- เปลี่ยนชื่อพี่ทอม ฮาร์ดี้ จากทอมัสเป็นอีมส์ เพราะอยากได้ชื่อนี้จากในอินเซปชัน รักเขามาก T_T เม้าท์เว้ย ที่จริงตอนแรกสุดบทพี่เค้าจะมาเป็นตัวประกอบ ชื่อทอมัสก็เอามาจากทอม ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้ชอบอะไรมาก แต่พอมาเป็นตัวละครหลักแล้วก็ต้องเลือกชื่อที่รักมากสิวะ!
- ทำใจตัดบทเจเดอไดห์นานมากกกก มากแบบมากกก ตอนพิมพ์อยู่นี้ก็ยังตะเตือนไต T-T เตรียมชื่อตอนตัวBกับCให้เค้าแล้ว ทั้งBohemian RhapsodyกับCitizen Kane (ที่ก็กะจะเอามาพ้องกับนามสกุลเคนของไนเจลด้วย Orz) อยากได้พี่รามีบทผู้กำกับมากแม่งเอ๊ย แต่ดูInceptionที่กลับมาเข้าโรงIMAXใหม่แล้วชอบโมเมนท์ตอนพี่ทอมฮาร์ดี้อยู่กับโจเซฟกอร์ดอนและคิลเลียนมาก (ดิฉันยังจำฉาก 'kick มันต้องอย่างนี้' แล้วอีมส์ก็เตะเก้าอี้อาร์เธอร์จนเกือบล้มได้ไม่ลืม ที่สุด T_T) เลยยอมตัดใจเพราะอยากให้พี่เค้าทั้งสามเป็นเพื่อนกันและเด่นด้วยกันหมด T-T Barry Keoghanในเรื่องดังเคิร์กก็ตายเพราะพี่คิลเลียน วะซั่น ก็คู่ควรกับการอยู่เป็นมาร์ตินต่อไป 555 และบทเลคคีธที่เปลี่ยนมาเป็นร็อบ เพราะไม่อยากตัดบทนี้ และเรามองหาคนอื่นในจักรวาลหนังโนแลนมาเล่นแทนร็อบไม่ออก lol ส่วนบทจอห์นตัดออกได้ตั้งแต่ย้ายบททอมัส(แต่เดิม)มาเด่น แต่ก็ยังขอบคุณจอห์นเสมอเพราะถ้าไม่มีจอห์น ฟิคชิคาโกก็คงจะไม่เกิดตั้งแต่ต้น อ้อ และไนเจลใส่แว่นบ้างไม่ใส่แว่นบ้างนะ 555
- แคสต์คงจะมีเพิ่มอีกเพราะอยากขนมาทั้งจักรวาลโนแลน รักมาก รักทุกคน จริง แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจก็เอามาเท่าที่แน่ใจไปก่อน
ปล. ยังเป็นบ้าเป็นบอกับชื่อเจเดอไดห์และเลคคีธมาก เดี๋ยวจะขนเอาไปเล่นเรื่องอื่นอีก กระพ้มจะไม่หยุด T-T
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
First Release Date : JUNE 30, 2020
- ขอบคุณพี่ยูผู้เป็นconsultantให้เรากับรายละเอียดงาน Play Station Experience 2018 SEA ที่เอามาดัดแปลงเป็นงานเกมในตอนนี้ (ให้กูมาแบบจัดเต็มมากจนเอาไปแต่งเป็นตอนยาวอีกตอนได้ 555) ฉากในตอนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอีเวนท์ที่เกิดขึ้นจริง ทั้งฉากลงลิฟต์ตอนดูแบทแมนไทรโลจีจบที่มีจริง หรือฉากไปงานเกมและได้คุยกับคนที่ติดต่อซื้อหนังมาฉายก็มีจริง (มึงเล่าให้กูฟังง่ะ) แต่เหตุการณ์พวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เราไม่ได้พบรักในลิฟต์หรือในงานเกมกันจริง 555
- สารภาพตรงนี้ว่าดูแบทแมนไทรโลจีมาจะสิบปี แต่เพิ่งรู้เมื่อปีสองปีก่อนว่าเค้าถ่ายทำกันที่ชิคาโกก็ตอนฟังรายการเอนนานาที่จอห์นเล่าให้ฟัง (แบทแมนบีกินส์กับเดอะดาร์คไนท์ถ่ายที่ชิคาโก แต่เดอะดาร์คไนท์ไรเซสย้ายไปถ่ายที่นิวยอร์กจ้า)
- อยากให้โลกจารึกว่ามันเป็นอะไรที่เราแต่งเสร็จ เกลาเสร็จ ทำคาแรกเสร็จในวันเดียว ทุกอย่างคือทำเสร็จในวันนี้ มันไหลมาเทมา แบบเราrelatedกับทุกอย่างในเรื่องนี้ได้จริง เรื่องหนังเรื่องรักเรื่องงานก็ชิลล์ เรื่องเกมก็เดินไปถามคอนซัลแตนท์ได้ 555 เพลงที่เอามาใส่ในตอนนี้อยู่กับเรามาตั้งแต่สมัย J Walkers แล้วแต่ไม่ทันได้ใช้ ไปอ่านเนื้อเพลงเหอะ ชอบมาก แบบโยนไปให้คู่ไนเจลกับไลราได้เลย (แม้กระทั่งเพลง Circles หน้าบทความเราก็เอามาเป็นพล็อตให้คู่นี้แหละ)
- ถ้าจำเรื่อง J Walkers ได้ (ที่มึงด่าซะกูเสียหมาเลย แต่กูย้อนอ่านก็ด่าผสมโรงไปด้วยจริง ห่วยจริง 555) เราใช้ชื่อตอนเป็นชื่อหนังหมด เรียงตาม alphabetical (แต่งไปถึงตัว R 'Requiem For A Dream' แล้วด้วยนะเฟ้ย!) มันจะกลับมาอีกครั้งในเรื่องนี้ หนังทุกเรื่องคือหนังโปรดเราจริง! ไม่ได้แค่ลักชื่อมาใช้ ไม่ปลอม ไม่แอ๊บ (แต่ดัดจริตจริง) ประเดิมด้วย 12 Angry Men ที่เรารู้ว่าตัวละครเกินแล้วก็ไม่ได้แองกรี้อะไร แต่มันคือหนังโปรดเราแบบฉิบหาย และเราจะใช้เพื่อเปิดตัวเรื่องนี้อย่างยิ่งใหญ่ /ปูพรมแดง
ความคิดเห็น