ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจ..นายซุปเปอร์สตาร์

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4...บาดแผลและคำขอโทษ

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 50


    -4-

     

                    เช้าวันเสาร์ชุนวาเดินออกจากห้องเพื่อไปยังรถเบนซ์คันงามของเขา  แต่ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นมีอายืนรออยู่ราวกับเป็นเจ้าของรถซะเอง

                    " มายืนอะไรตรงนี้ " ชุนวาเอ่ยขึ้นพลางเปิดประตูรถเข้าไปนั่งที่คนขับ 

                    มีอาเดินอ้อมไปเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที  ชุนวาตกใจหันไปมองหน้าเธอ

                    "เฮ้ย!!!..นี่มันอะไรของเธอ  มานั่งตรงนี้ทำไม  ลงไปเลย " ชุนวาไล่มีอา

                    "โธ่...เจ้านาย   ทางเดียวกันก็ต้องไปด้วยกัน   ฉันกับเจ้านายไปด้วยกันจะได้ประหยัดน้ำมัน  ลดค่าใช้จ่าย...ฉันกำลังทำเพื่อชาติอยู่นะ"                  " จะบ้าหรือไงเล่า  รถเมล์ก็มีทำไมไม่ไปล่ะ  มานั่งรถฉันแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดหรอก "

                    " ก็ฉันไม่มีค่ารถเมล์แล้วนี่นา  ฉันจนนี่...เจ้านายก็น่าจะรู้แล้วฉันก็ไม่อยากนั่งรถเมล์ด้วยอึดอัดจะตาย  สู้นั่งรถเจ้านายไม่ได้...นั่งแอร์เย็นๆ ไม่ต้องเสียตังอีกต่างหาก  ของฟรี...ฉันชอบ" มีอายิ้มหวานส่งให้ชุนวา

                    ชุนวาหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์ " ถ้าปาปารัซซี่เห็นจะทำยังไง  เดี๋ยวนี้ฉันยิ่งรู้สึกว่ามีคนตามมาถ่ายรูปฉันบ่อยๆ "

                    " ถ้างั้นก็รีบไปซิ  จะได้ไม่มีใครถ่ายรูปเราไง  ฉันก็ไม่อยากตกเป็นข่าวเหมือนคราวที่แล้วหรอกค่ะ"

                    "ยัย....ตกลงเธอจะลงไปหรือเปล่า  ฉันไม่มีเวลาจะเถียงกับเธอหรอกนะ"  ชุนวาชักเริ่มฉุน

                    "ไม่ลงค่ะ " มีอาตอบอย่างไม่ต้องคิด

                    " ฉันถามอีกครั้งนะ  เธอจะลงไปหรือไม่ลง" เขาเริ่มทำหน้าจริงจัง

                    " ไม่ลง" มีอาพูดลอยหน้าลอยตา

                    คำตอบของมีอา  ทำให้ชุนวาโกรธจัดลงไปเปิดประตูรถแล้วฉุดมีอาลงจากรถอย่างแรง  ทำให้มีอาสะดุดหกล้มกับพื้นเลือดไหลออกมาซิบๆ 

                    "โอ้ยเจ็บนะ...นายทำไมใจร้ายนัก  ฉันแค่อยากติดรถไปด้วยก็เท่านั้นเอง  ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วยล่ะ" มีอาโวยวายนั่งกองอยู่กับพื้น

                    "ก็ฉันสั่งให้ลงไปแล้ว...เธอทำไมไม่ลงไปล่ะ   เธอคิดว่าตัวเองพิเศษจนสามารถนั่งรถซุปเปอร์สตาร์ได้หรือไง  ยัยบ้าเอ้ยไม่หัดเจียมตัวบ้างเลย"

                    "วะ...ว่าไงนะ  นายว่าฉันงั้นเหรอ"

                    "คิดว่าตัวเองไฮโซหรือไง  เธอเป็นแต่ผู้ติดตามเท่านั้นแหละ  แล้วทำไมฉันต้องมาขับรถให้เธอด้วยล่ะ "  ชุนวาพูดพร้อมเปิดประตูรถเข้าไป

                    " ไอ้ใจร้าย  ไอ้ใจดำ  ไอ้คนไร้น้ำใจ...ไอ้....." มีอาตะโกนด่าชุนวา 

                    ชุนวาไม่สนใจฟังขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว    มีอาลุกขึ้นยืน  มองดูแผลที่เกิดจากการล้มเมื่อครู่จากที่มีเลือดไหลนิดเดียว  ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแผลกว้างมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด  เธอรู้สึกเจ็บที่แผลและเจ็บใจที่เขาใจร้ายกับเธอได้ถึงเพียงนี้

                    " ไอ้หน้าปลาทูเอ้ย.... คอยดูนะถ้านายไม่สบายอีกฉันจะไม่เช็ดตัวให้  ถ้านายหายไปอีกฉันจะไม่ตามหา  อยากจะไปตายที่ไหนก็ไป  ฮือๆๆ" มีอาร้องให้ออกมาแล้วมือที่เปลื้อนเลือดปาดน้ำตาอย่างแค้นใจ  

                    มีอาไปยังที่ทำงานทั้งที่ยังไม่ล้างหน้า  เธอดูมอมแมมมีคราบเลือดติดเสื้อผ้าเต็มไปหมด  ทุกคนที่เดินผ่านไปมาต่างหันมามอง  เธอไปถึงห้องอัดเสียงของชุนวาแล้วนั่งนิ่งอยู่ข้างนอกอย่างนั้นนานกว่าสองชั่วโมง   จนกระทั้งป้าแต๊บช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายเดินมาเห็นเข้า

                    "ต๊าย!...ตายแล้ว  เกิดอะไรกันขึ้นหรือคะ  มีเหตุการณ์สงครามนองเลือดเกิดขึ้นหรืออย่างไรคะ  ดูซิ...เสื้อผ้าแต่คราบเลือดเต็มไปหมด" ป้าแต๊บตุ๊ดแก่พูดหน้าตาตื่น

                    "ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ  ฉันแค่หกล้มก็เท่านั้นเอง" มีอาพูดอย่างซึมๆ

                    " คุณน้องไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ... ไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้เลยนะคะ  เดี๋ยวป้าแต๊บจะทำแผลให้นะ" ป้าแต๊บดึงมีอาลุกออกจากโซฟาเพื่อไปยังห้องพยาบาล 

                    ด้วยความใจดีของป้าแต๊บทำให้มีอาสนิทกับป้าแต๊บอย่างรวดเร็ว  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันแค่ตอนอยู่ที่ห้องพยาบาลก็ตาม 

                    " คุณน้องมีอาวันหลังก็ระมัดระวังด้วยละกันนะ "  ป้าแต๊บพูดขึ้นระหว่างที่กำลังเดินไปส่งมีอาที่หน้าห้องอัดเสียงของชุนวา

                    "ขอบคุณนะคะป้าแต๊บใจดีกับฉันมากๆเลย  ใจดีกว่าคนบางคนซะอีก" มีอานึกน้อยใจชุนวา

                    " ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  แต่ว่าน้องมีอาไปทำอะไรที่ห้องอัดเสียงนั่นล่ะคะ  รู้หรือเปล่าว่าที่นั่นเป็นเขตต้องห้ามของคุณชุนวาเขา"

                    " เขตต้องห้ามหรือคะ  ทำไมต้องเป็นเขตต้องห้ามด้วยล่ะ" มีอาเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย

                    "อ้าวคุณน้องไม่รู้อะไรหรือคะว่าคุณชุนวาน่ะเขาต้องการสมาธิในการอัดเสียง  หากใครเข้าไปล่ะก็มีหวังเด้งทุกรายไป" ป้าแต็บทำท่าเชือดคอให้มีอาเห็น

                    " น่ากลัวอย่างนั้นเลยหรือคะ  ถ้างั้นทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาก็เป็นของต้องห้ามหมดเลยซิคะ  ห้ามเคาะห้องเขา  ห้ามขึ้นรถเขา  ห้ามเข้าห้องอัดเสียงด้วย" มีอาพูดใจลอยไปเรื่อยเปื่อย

                    " อะไรนะคะ...ป้าแต๊บไม่ค่อยเข้าใจ" ป้าแต๊บสงสัย

                    " เปล่าหรอกค่ะ" มีอาพูดขึ้นเมื่อตั้งสติได้

                    " น้องมีอายังไมตอบป้าแต๊บเลยว่าไปนั่งทำอะไรตรงนั้นคะ" ป้าแต๊บถามขึ้นมาอีก

                    "ฉันไปรอชุนวานะคะ"

                    "รอคุณชุนวาหรือคะ  ต๊าย!!! ตายแล้วคุณน้องเป็นแฟนคลับคุณชุนวาหรือคะ  แล้วคุณน้องเข้าตึกขึ้นไปชั้นสิบเก้าได้ยังไงคะ  รู้หรือเปล่าว่าคุณชุนวาไม่ชอบให้แฟนคลับตามไปจอแจนะคะ" ป้าแต๊บตกใจเพราะคิดว่ามีอาเป็นแฟนเพลง

                    "ฉันไม่ได้เป็นแฟนคลับหรอกค่ะ  ฉันเป็นผู้ติดตามน่ะคะ  ฉันมีหน้าที่ติดตามคอยรับใช้คุณชุนวา  จะเรียกว่าเป็นทาสก็ได้นะคะ " 

                    มีอากับป้าแต๊บเดินมาถึงยังห้องอัดเสียง  พอดีกับที่ชุนวาออกมาจากห้องอัดเห็นผ้าพันแผลที่มือและคราบเลือดบนเสื้อของมีอา  ชุนวาตกใจกับภาพที่เห็น...สมองชุนวาสั่งให้คิดว่าอาจเป็นเพราะเขาที่ทำให้มีอาเป็นแผลเจ็บตัวอย่างนี้

                    "เกิดอะไรขึ้น" ชุนวาถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพของมีอา

                    "น้องมีอาหกล้มที่บ้านน่ะคะ  แหม...ยังอุตส่าห์ขยันมาทำงานอีก  คุณชุนวาไม่ต้องเป็นห่วง  ป้าแต๊บทำแผลให้เรียบร้อยแล้วค่ะ  นี่ยังดีนะคะ  ตอนแรกป๊าแต๊บเห็นตกใจแทบแย่  น้องมีอาหน้าตาดูไม่ได้นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องอัดเสียงเนี่ยน่ะ" ป้าแต๊บจีบปากจีบคอพูดแทนมีอา

                    " ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะ" ชุนวาถามเสียงอ่อน  มีอามองหน้าเขาอย่างโกรธๆ 

                    " ฉันทำใช่มั๊ย "  ชุนวาหันมาถามมีอา 

                    มีอาเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อยากมองหน้าเขา

                     " ฉันทำเหรอ "  เขาคาดคั้นถามอีก

                    "..." มีอาไม่พูดสักคำได้แต่นึกในใจว่าเขาแกล้งมาทำดีกับเธอทำไม

                    " ฉันทำหรือเปล่า  ใช่ตอนที่ฉันดึงออกจากรถแล้วล้มไปใช่ไหม" เพราะมีอาไม่พูดสักคำจึงทำให้เขาถามอย่างหงุดหงิดส่งเสียงดัง 

                    มีอาทนที่เขาเสียงดังไม่ได้   เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาแต่ใจตัวเองไปถึงไหน 

                    "เออ...นายเป็นคนทำ...ไอ้คนใจร้าย  ยังไม่ดีใจอีกหรอ  ฉันเจ็บนายจะได้สะใจเล่น  ฉันล้มนายก็รีบข้ามฉันเลย  ไม่ต้องสนใจฉันไอ้คนใจดำ" มีอาตะโกนออกมาบ้าง  ทำชุนวาและป้าแต๊บอึ้งไป

                    "มานี่...." ชุนวาฉุดร่างมีอาออกมาจากหน้าห้องอัดเสียง   ปล่อยให้ป้าแต๊บยืนงงอยู่คนเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                    "จะพาฉันไปไหน" มีอาถูกฉุดไปตามแรงดึงของชุนวา

                    "โรงพยาบาล"

                    "ไม่ไป" มีอาพูดพลางสะบัดแขนให้หลุดออกจากเขา

                    "ทำไม"

                    "ก็จะอะไรอีกล่ะ นายน่ะตั้งใจอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง  อยากให้ฉันเจ็บอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  อยากให้ฉันตายด้วยมั๊ย  ฉันเป็นทาสนายนี่  ฉันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ" มีอาพูดแล้วน้ำตาไหลพลั่งพลูออกมา                

                    "อะไรกัน...ระ..ร้องไห้ทำไม  ไม่มีใครอยากให้เธอตายหลอกน่า" ชุนวาเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกสำนึกผิดที่ทำเธอร้องไห้

                    " ไม่ต้องแกล้งทำแบบนี้  นายสนุกนักหรือไงที่แกล้งฉัน  ตบหัวแล้วลูบหลัง  ทำฉันล้มแล้วรักษาบาดแผลมันสนุกนักหรือไง  นายเล่นอะไรแบบนี้  ฉันไม่ตลกกับสิ่งที่นายทำหรอก  ฮือๆๆ" มีอาร้องไห้นักกว่าเดิม

                    " ฉันไม่ได้แกล้งเธอนะ  ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เหมือนกัน  ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น" เขาพูดสีหน้าสลดรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับเธอ

                    " ถ้างั้นก็ขอโทษฉันสิ " มีอาพูดพลางใช้หลังมือปาดน้ำตาเหมือนเด็ก

                    " ว่าไงนะ " 

                    " ขอโทษนะเป็นมั๊ย  พูดว่าขอโทษสิ " มีอาออกคำสั่ง

                    " ก็ฉันบอกว่าไม่ได้ตั้งใจยังไงล่ะ" ชุนวาตอบข้างๆคูๆ

                    " ก็ขอโทษฉันสิ  ถ้านายไม่ได้ตั้งใจนายก็ต้องขอโทษฉัน  แค่นายพูดเท่านั้นแหละ"

                    " ฉันไม่พูดหรอก  ฉันพูดไม่เป็น " เขาพูดเสียงอ่อย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีอาเป็นผู้ติดตามเขาเหตุใดเขาต้องทำตามที่เธอสั่งด้วยเขาจึงขึ้นเสียงกับเธอ " ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอสั่งด้วยเล่า  ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ  เธอลืมไปแล้วหรือไง "

                    " ว่าไงนะ..ไหนนายบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ  แล้วทำไมไม่ขอโทษฉันล่ะ" มีอามองเขาหวังเพียงคำขอโทษสักคำ

                    " ฉัน...ฉันไม่พูดหรอก  ถ้าอยากฟังคำขอโทษต้องรอฉันตายไปก่อนนะ " เขาพูดอย่างไม่คิดอะไร

                    " ถ้างั้น...นายก็...ไปตายซะ" มีอาพูดเน้นคำสุดท้ายพร้อมสะบัดตัวเดินกลับ  ทิ้งชุนวายืนมองหลังเธอที่เดินหนีไป

                   

                    มีอาเดินโกรธกลับมาถึงห้องพักด้วยอารมณ์ฉุนๆ  เธอนั่งอยู่ที่เตียงทุบหมอนข้างอย่างแค้นๆ 

                    "ฉันจะหายโกรธนายแล้วเชียว  ถ้านายขอโทษฉันสักนิดก็จะญาติดีด้วย   แต่นายมันไอ้คนทุเรศ...อ๊ากกกก" มีอากระโดดทับหมอนข้าง   นึกเป็นหน้าชุนวาจะได้หายแค้นไปบ้าง

                    ชุนวาขับรถตามออกมา   เมื่อกลับมาถึงห้องเห็นมีอาเปิดไฟไว้จึงเดินเข้าไปเคาะห้องเธอ 

                    ก๊อกๆๆ

                    "นี่เปิดหน่อยสิ" เขาเรียกมีอาผ่านประตู  มีอารู้ว่าเป็นชุนวาจึงนอนอยู่บนเตียงไม่ลุกไปเปิด  ชุนวาเคาะเรียกมีอาอยู่นาน  เขารู้ว่าเธอยังโกรธไม่หายแน่

                    " เธออยากกินอะไรฉันจะเลี้ยง" ชุนวาถามผ่านประตู มีอายังไม่ส่งเสียง

                    " ฉันจะเลี้ยงข้าวต้มเป็นไง  เย็นๆอย่างนี้กินข้าวต้มปลาแล้วคล่องคอดีนะ" ชุนวาถามยั่วน้ำลายมีอา  แต่มีอายังไม่ตอบ

                    " หรือว่าอยากกินสปาเก็ตตี้ที่หน้าปากซอยดีหรือเปล่า  ที่นั่นเจ้าเก่านะรับรองอร่อยเหาะเลยล่ะ"  ชุนวาพูดยังไงมีอาก็ไม่ยอมออกมา

                    "ถ้างั้นอาหารญี่ปุ่นเป็นไง"

                    มีอาได้ยินก็ตัวตั้งตรงลุกออกจากเตียงเอียงหูฟังทันที  ตอนนี้มีอาหิวมาก  แล้วอาหารญี่ปุ่นเธอไม่เคยกินมาก่อนหากเขามาง้อด้วยอาหารญี่ปุ่นไม่แน่เธออาจจะยอมยกโทษให้ก็ได้

                    " ฉันจะเลี้ยงเธอไม่อั้นเลย  อาหารญี่ปุ่นดีต่อสุขภาพ  กินแล้วไม่อ้วนด้วย  เธอไม่เคยกินใช่มั๊ย" ชุนวายังคนพูดอยู่หน้าห้อง  มีอาเปิดประตูโผล่หัวออกมามองหน้าชุนวาค้อนๆเล็กน้อยเพระยังไม่หายโกรธ

                    " เลี้ยงไอศกรีมด้วยนะ" มีอาพูดบึ้งๆ

                    " ก็ได้ " ชุนวายักไหล่

                    " ไปคาราโอเกะด้วย "

                    " ได้ "

                    " เลี้ยงหนังอีกหนึ่งเรื่อง "

                    " อืม "  เขาผงกหัว

                    " ถ้างั้นหายโกรธก็ได้ " มีอายิ้มหน้าบานเอาตัวออกมาจากประตู

                    " ยัยเบ้าเอ้ย..." ชุนวายิ้มทีมุมปากนิดนึ่งมองมีอาที่หายโกรธเขาแล้ว  ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอะไรกับความรู้สึกที่แปลกไปขึ้นทุกทีและตอนนี้เขารู้สึกว่ามีอาเริ่มน่ารักขึ้นทุกวัน 

                    มีอากับชุนวาออกไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ว่ามีปาปารัซซี่แอบติดตามและถ่ายรูปพวกเขาไว้

     

                    เช้าต่อมามีอาออกมาจากห้องเตรียมที่จะไปทำงาน  เธอเห็นชุนวาที่รออยู่ที่รถควงพวงกุญแจหมุนไปมา

                    "ป่ะ" เขาพูดพร้อมเปิดประตูขึ้นรถสตาร์ท  มีอายืนเฉยมองเขา

                    " ทำไมไม่ขึ้นรถล่ะ  ฉันรีบไปทำงานนะ" ชุนวาหมุนกระจกรถเรียกเธอ

                    " ไม่ไปหรอก...รถต้องห้าม  ฉันเข็ดแล้ว  เดี๋ยวก็ทะเลาะกับนายอีก" 

                    " วันนี้ฉันอนุญาติให้เธอขึ้นมาหนึ่งวันให้เธอขึ้นรถมาได้  ไม่อยากนั่งรถแอร์เย็นๆ  มีคนขับรถขับให้เหรอ"

                    " ที่ทำแบบนี้มันแทนคำขอโทษไม่ได้หรอกย่ะ"     

                    " นี่เธอยังโกรธอยู่หรือไง  ไหนว่าจะไม่โกรธแล้วล่ะ  ฉันเสียเงินเลี้ยงข้าว  คาราโอเกะ  แล้วไหนจะเลี้ยงหนังอีกนะ" ชุนวาท้วง

                    " เออ...เออ...ไปก็ได้ " มีอาเดินขึ้นรถอย่างรำคาญใจไม่อยากฟังชุนวาร่ายยาว   แต่เธอนั่งด้านหลังคนขับ

                    " ทำไม่ไม่นั่งข้างหน้าล่ะ  เห็นฉันเป็นคนขับรถหรือไง...ลุกมานั้งข้างหน้าเลยนะ" ชุนวาขู่

                    " ก็ฉันอยากนั่งตรงนี้นี่นา  นายบอกเองว่าวันนี้จะเป็นคนขับรถของฉัน...พูดมากอยู่ได้  ขับรถออกไปได้แล้ว" มีอาพูดเชิดใส่ชุนวา  ชุนวาหมั่นไส้เธอเล็กน้อย   แต่ก็ขับรถออกจากห้องพักไป

                    ชุนวาขับรถออกจากห้องพักโดยมีมีอาที่นั่งอยู่ข้างหลังมองรถที่สวนผ่านไปไม่พูดอะไรสักคำ   ชุนวาชักอึดอัดเพราะเธอไม่ยอมพูดอะไร  เขาจึงชวนเธอคุย

                    " นี่เธอไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ"  ชุนวาถามขึ้นทำลายความสงบความเงียบ

                    " ... " มีอาไม่พูดอะไรเพราะไม่มีอะไรจะคุยกับเขา

                    " เมื่อวันก่อนเธอทำข้าวต้มปลาเหรอ  เธอไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่กินปลา" ชุนวาถามเธอกวนๆ 

                    "ฉันตั้งใจทำให้กินยังจะมาพูดมากอีก  นายไม่รู้หรือไงว่ากินปลาแล้วมีประโยชน์  เคยได้ยินหรือเปล่าว่ากินปลาแล้วจะได้ไม่โง่นะ"

                    " เธอหรอกด่าว่าฉันโง่เหรอ  ข้าวต้มของเธอดีนักหรือไง  เค็มก็เค็ม  แถมข้าวยังแข็งไม่เหมือนข้าวต้ม  แล้วอย่างนี้คนป่วยจะหายป่วยได้ยังไง" เขาเถียงเธอ

                    " แล้วนายจะกินทำไม  ถ้าไม่อร่อยก็อย่ากินเซ่  ฉันเห็นนายกินจนเกลี้ยงเลย  ตอนฉันล้างจานยังแอบดีใจคิดว่านายกินจนหมดเลย  พูดอย่างนี้มันหมายความว่ายังไง" มีอาชักอารมณ์เสียเพราะชุนวาพูดไม่เข้าหู   ทำไมเขาถึงไม่พูดดีๆกับเธอบ้างนะ

                    "  ที่ฉันกินเพราะฉันหิวต่างหากล่ะ  ถ้ามีอะไรในห้องที่ฉันกินได้ฉันก็ไม่กินข้าวต้มเค็มๆของเธอหรอก  มานึกๆดูแล้วไม่รู้ฉันกินไปได้ยังไง  ไม่รู้ว่าทำสะอาดหรือเปล่า  ให้ตายเหอะ"

                    " ไอ้หน้าปลาทู " เธอไม่รู้ว่าจะว่าอะไรเขาได้นอกจากคำนี้เท่านั้น

                    " เธอว่าฉันอีกแล้วนะ "

                    " ถ้าหากอยากให้อร่อยนักก็ให้คนนั้นมาทำให้ซิ "  เธอเสียงดัง

                    " เธอพูดถึงใคร " ชุนวาถามอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่มีอาพูด

                    " เอมมี่ยังไงล่ะ  ที่ตอนไม่สบายยังเพ้อแต่เอมมี่...เอมมี่ "  มีอาหลุดพูดออกมาอย่างลืมคิด

                    ชุนวาตกใจกับชื่อที่มีอาเอ่ยขึ้นมา  เขาเบรกรถทันที  มีอานั่งอยู่ข้างหลังหน้าทิ่ม  หัวชนกับพนักพิงหน้ารถ 

                    " อุ้ย...เจ็บนะ  เบรกรถทำไมไม่บอกเล่า...อุ้ย " มีอาครางพลางลูบหน้าผากที่เจ็บ 

                    " ใครบอกเธอ " ชุนวาหันไปเบาะหลังถามเธอเสียงเข้มหน้าขมวด

                    " อะ...อะไร...ใครเหรอ" มีอาพูดเลิ่กลั่ก

                    " เรื่องของเเอมมี่ไง  เธอไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร  ใครบอกเธอ " ชุนวาเค้นถาม

                    " ฉะ...ฉัน...เอ่อ...ฉันแค่แอบดะ..ได้ยิน...เท่านั้นเอง  ตะ..แต่ว่าฉันไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้ใครฟังนะ" มีอาตอบตะกุกตะกัก

                    " เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมารู้ดีเรื่องของฉัน  เธอชักรู้มากเกินไปแล้วนะ" เขาว่าเธอเสียงดัง

                    " ฉันแค่ได้ยินมาเท่านั้นเอง  นายจะโมโหอะไรกันนักกันหนา  คุณเอมมี่เขาเป็นคู่หมั้นของพี่ชายของนายนะ  นายน่าจะปล่อยเธอไปซะ  ในเมื่อเธอมีทางเลือกที่ดีกว่า " 

                    "นั่นมันเรื่องของฉัน  ฉันจะชอบใคร  หรือจะรักใคร  แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย...เธอเป็นแม่ฉันหรือไงถึงได้มาสอนฉัน  เธอนี่มันเจ๋อชะมัด " ชุนวาพูดอย่างโมโห

                    " นายว่าฉันงั้นเหรอ...นายจะว่าฉันก็ได้...ยังไงฉันหวังดีนะ "

                    " ลงไป" ชุนวาไล่เธอลงไม่ฟังเสียงเธอ

                    " อะไรกัน  นี่มันกลางถนนนะ  นายจะทิ้งฉันลงตรงนี้ไม่ได้"

                    " ลงไป!!! " ชุนวาตะโกนจนสุดเสียงทำมีอาสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าเขาจะโกรธขนาดนี้  

                    มีอาลงจากรถหน้าจ๋อย  ชุนวาขับรถออกไปอย่างรวดเร็วมองยังกระจกข้างรถ  ใจชุนวาคิดสงสารมีอาอยู่เหมือนกันแต่ก็โกรธที่คนอย่างมีอามาสั่งสอนเขา

                    รถขับออกไปแล้วมีอายืนอยู่ข้างถนนคนเดียว

                    " ไอ้บ้า!!! ฉันไม่ง้อนายหรอก...ไอ้หน้าปลาทู...ไอ้คนเอาแต่ใจ... " เธอตะโกนด่าตามหลังเขาไปอย่างโมโห 

                    ชุนวาขับรถด้วยความเร็วจนมาถึงกองถ่าย    เขาเดินมาด้วยความหงุดหงิด   ป้าแต๊บเห็นชุนวาเข้ามาจึงถามถึงมีอา

                    " น้องมีอาไม่มาด้วยหรือคะน้องชุนวา "

                    ชุนวาหันมามองป้าแต๊บสายตาดูโกรธจัด   ป้าแต๊บหน้าเสียทันที

                    " ป้าไม่ถามก็ได้ค่ะ " ป้าแต๊บหน้าเจือนอย่างเกรงๆ

                    ทุกคนในทีมงานเตรียมพร้อมกับการถ่ายมิวสิกวีดีโอ   ยกเว้นชุนวาที่กำลังแต่งหน้า   ไม่ว่าใครจะทำอะไรไม่ดีนิดหน่อยเขาก็จะหงุดหงิดไปหมด

                    มีอาเดินมาถึงกองถ่ายที่ทำมิวสิกวีดีโอของชุนวาจนได้   สิ่งแรกที่เธอคว้าคือน้ำดื่มที่กองถ่ายเตรียมไว้ 

                    " อ้าวคุณน้องมีอาเดินมาหรือไงคะ  ดูซิเหงื่อท่วมเลย" ป้าแต๊บเข้ามาทักทายมีอาที่เดินเข้ามายังกองถ่าย

                    มีอามองไปยังชุนวาที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แต่งหน้าอย่างค้อนๆ   แต่ชุนวาทำท่าทีไม่สนใจเธอ

                    " ฉันวิ่งมาเพราะกลัวไม่ทันงานน่ะคะ  พอดีว่ามีปลาทู...เอ้ย  คนขับรถเมล์นะซิคะไปกินหมามาจากไหนก็ไม่รู้อยู่ๆก็โมโหจอดรถกระทันหัน  ผู้โดยสารอย่างฉันก็เลยต้องเดินมาอย่างนี้แหละค่ะ   ฉันล่ะเกลียดจริงๆเลยไอ้พวกคนขับรถที่ชอบเอาใจตัวเอง...มันน่าจะเอาใจเขามาใส่ใจเราซะบ้าง...นี่ถ้าฉันมีรถสักคันล่ะก็...จะไม่ง้อเลย "  มีอาพูดประชดเหลือบตามองไปทางชุนวาอย่างชิงชัง   

                    ชุนวาได้ยินแล้วหันไปจ้องหน้าเธอ   " ป้าแต๊บแต่งหน้าเร็วๆหน่อย"  ชุนวาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงต่อหน้าคนเยอะๆจึงพูดตะโกนดักคอ  ป้าแต๊บวิ่งแจ้นเข้าไปแต่งหน้าให้ชุนวาอย่างร้อนรน    มีอามองค้อนยกกำปั้นทำปากจู๋ใส่ชุนวา

                    ชุนวาถ่ายทำมิวสิกวีดีโอไปเรื่อยๆ  มีอานั่งคอยดูอยู่ห่างๆ  บางทีชุนวาหันมามองเธอและสบตากันแต่ทั้งคู่ต่างก็เมินหน้าหนี

                    " โอ๊ย...เบื่อจังเลย  ดูหนังหน้านางเอกเอ็มวีสิคะ  ป้าอยากจะบ้าตาย  สงสัยจะใช้เส้นเข้ามาหน้าตาถึงได้ขี้เหร่ขนาดนี้   สู้น้องมีอาของพี่ก็ไม่ได้...เชอะ" ป้าแต๊บบ่นพรางทำหน้าเบะไปยังนางเอกมิวสิกวีดีโอที่กำลังถ่ายทำฉากนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์

                    " ฉันไม่สวยขนาดเป็นางเอกได้หรอกค่ะ  แต่เป็นคุณเอมมี่ก็ไม่แน่ " เธอพูดเพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ

                    " นั่นนะซิ  ป้าแต๊บคิดว่าน้องเอมมี่น่าจะมาเป็นนางเอกเอ็มวีซะเองท่าจะดี   เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน   ไม่ต้องไปจ้างนางเอกหน้าใหม่หน้าตาไม่ผิดแผกไปจากชะนี...ต๊าย!!!..ดูยัยนั่นซิน้องมีอา...ยัยนั่นกอดคุณชุนวาใหญ่เลย " ป้าแต๊บวีนแตกชี้ไปทางชุนวา 

                    มีอามองไปยังชุนวาที่โดนกอดอยู่  เธอรู้สึกแปลกๆ  ใจมันหวิวๆเมื่อมองไปยังภาพที่เห็น  เธอไม่พูดอะไร   ได้แต่มองไปอย่างนั้นอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้ด้วย

                    " เชอะยัยหน้าหนอน  คิดจะใช้เต้าไต่หรือไงยะ  หล่อนคิดว่ากอดคุณชุนวาแล้วเขาจะหวั่นไหวหรือยะ  ถ้าไม่ใช่คุณเอมมี่ล่ะก็ให้จ้างอย่างไรคุณชุนวาไม่มีใจให้หรอก...เชอะ" ป๊าแต๊บพูดบ่นขมุมขมิบคนเดียวแต่เสียดใจมีอาอย่างจัง

                    " ถ้าไม่ใช่คุณเอมมี่ล่ะก็ให้ทำอย่างไรชุนวาไม่มีใจให้หรือคะ  ชุนวารักเอมมี่มากขนาดนั้นเลยหรือคะ" เธอทวนคำป้าแต๊บอย่างสงสัย

                    " ต๊าย!!! น้องมีอาไม่รู้หรือคะ  ป้ามองแว๊บเดียวก็รู้แล้ว  เวลาที่คุณชุนวามองคุณเอมมี่น่ะเหมือนกับว่ารักเธอมากแต่ต้องหักห้ามใจไว้  เพราะคนที่คุณเอมมี่รักคือคุณฟาวส์พี่ชายของคุณชุนวา  แหม...มันช่างเป็นความรักที่แสนเศร้านะคะ" ป๊าแต๊บพูดเพ้อไม่มองมีอาที่กำลังรู้สึกแปลกที่ใจ

                    หลังเลิกกองผู้จัดการคิมรายงานคิวของชุนวาในวันต่อไปให้เขาได้รู้

                    "วันพฤหัสนี้มีแถลงข่าวอัลบั้มชุดใหม่ที่จะวางแผงนะครับ  งานแถลงข่าวในคราวนี้เป็นงานที่ใหญ่   นักข่าวไปกับเยอะมาก  อีกอย่างเรื่องของคุณมีอา " ผู้จัดการคิมเอ่ยพร้อมมองไปยังมีอา

                    "ฉันเหรอ" มีอาตกใจคิดว่าทำอะไรผิด                 

                    " คุณมักแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์เสมอหรือครับ "

                    " ฉันมีชุดอยู่แค่นี้  ฉันไม่มีเงินซื้อหรอก  ทำงานที่นี่ได้แค่ไม่กี่วันเงินเดือนก็ยังไม่ออก  ใช้งานอย่างกับทาส  ฉันจะมีเวลาที่ไหนไปซื้อของล่ะ" มีอาพูดบอกคิมไปอย่างนั้น

                    " ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาไปซื้อเสื้อผ้าเอง" ชุนวาเอ่ยขึ้นมา

                    " จริงเหรอ  นายจะซื้อให้ฉันเหรอ" มีอาพูดพลางส่งยิ้มหวานมาให้ชุนวา

                    " ฉันจะหักเงินเดือนเธอต่างหาก  เธอน่าจะมีชุดใหม่ๆได้แล้ว  เดี๋ยวคนอื่นเขาจะดูถูกฉันได้เข้าใจมั๊ย" ชุนวาพูดขึ้นเยาะเย้ย

                    " โธ่เอ้ย....นึกว่าจะใจดีซื้อให้ฉันซะอีก" มีอาหุบยิ้มพูดอย่างเสียดาย

                    หลังเลิกจากองถ่ายชุนวาพามีอาไปเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ร้านหรูแห่งหนึ่ง  มีอาเห็นราคาแทบจะเป็นลม  มีอาชวนชุนวาออกไปร้านอื่นแต่เขาไม่ยอม  ชุนวาเลือกซื้อของให้มีอาถือจนพะรุงพะรัง 

                    "ฉันไม่อยากได้ของแบบนี้  นายรู้หรือเปล่าว่ามันแพงขนาดไหน    เอาไปคืนเขาเหอะ  เงินซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ฉันใช้ได้สามเดือนสบายๆเลยนะ " มีอาพูดหลังจากหิ้วของขึ้นรถ

                    " ไม่เป็นไรซะหน่อย "

                    " ไม่เป็นไรได้ยังไง  นายต้องหักเงินเดือนฉันไม่ใช่หรอ แล้วนี่จะพอใช้เดือนนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ " มีอาพูดแล้วถอนหายใจเสียดายเงิน

                    " ถือว่าฉันซื้อให้แล้วกัน  ฉันไม่หักเงินเดือนเธอหรอกน่า "

                    " หา !!! " มีอาทำตาโต "นะ...นายไม่หักเงินฉันใช่ไหม" มีอาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

                    " อืม...ฉันตั้งใจซื้อให้   ที่ฉันพูดไปก็แค่ล้อเล่น  ฉันไม่หักเงินเดือน  เธอไม่ต้องคิดมากไปหรอกน่า  เธอน่าจะรู้ว่าฉันรวยขนาดไหน  แค่ซื้อของให้ทาสแค่นี้ไม่ทำให้ฉันจนหรอก"  ชุนวาพูดจบมีอาก็ยิ้มหน้าบานต่างจากเมื่อครู่

                    " เจ้านายฉันนี่ใจดีสุดๆเลย " มีอาพูดพลางยิ้มแก้มแทบแตก

                    " เพิ่งรู้หรือไงว่าฉันใจดี  ที่จริงฉันเป็นคนใจดีมาตั้งนานแล้ว  แต่เธอน่ะทำยั่วโมโหทำให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย "  ชุนวาบ่นแล้วหันไปมองหน้ามีอา

                    มีอาไม่พูดอะไรเอาแต่ยิ้มให้ชุนวาอย่างเดียว  ชุนวาเห็นรอยยิ้มมีอาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง  หากวันไหนเขาไม่ได้ทะเลากับมีอาแล้วทำให้เธอหายโกรธแล้ว...เขาคงนอนไม่หลับแน่   เขารู้สึกดีกับเธอขึ้นมาอีกนิดนึงแล้วล่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×