คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3...ดูแลเจ้านาย
-3-
ช่วงบ่ายชุนวาและมีอาไปยังแกลอรี่ภาพถ่ายของเตโช มีอาเดินเข้าไปดูด้วยความตื่นตาตื่นใจ
"ว๊าว!!...รูปนี้ถ่ายได้สวยมากๆเลย โอ้โห...เจ้านายดูดิว่านี่มันเป็นภาพที่มีพลัง มันเป็นภาพที่มีชีวิต" มีอาพูดพลางทำไม้ทำมือและเบิกตาโตเพราะทึ้งกับภาพถ่ายที่เห็น ชุนวามองมีอาอย่างหมั่นไส้ที่เธอทำเป็นอวดรู้
"นี่เธอดูภาพพวกนี้เป็นด้วยหรือ แต่ฉันว่าอย่างเธอคงดีแต่พูดอวดเก่งไปงั้น " ชุนวาพูดแหย่มีอา
มีอาเหลือบมองชุนวาอย่างไม่สบอารมณ์
"คนอย่างนายจะไปรู้อะไร...ชิ ฉันนะเรียนศิลปะมานะยะ ฉันมองอย่างศิลปินมองกันแต่นายมองไม่เห็นความงดงามของภาพแล้วทำมาเป็นพูดดี...นายนี่มันอวดดีทั้งที่ไม่มีดีให้อวด " มีอาว่าลอยๆไปที่ชุนวา
" รูปนี้น่ะ...เป็นภาพที่แสดงถึงความเจ็บปวดทรมานใจของคนรักที่จากไปต่างหากล่ะ ลองดูผู้หญิงในรู้ซิ เธอกอดเข่าดูโศกเศร้า ถึงจะเป็นภาพขาวดำ แม้ว่าเธอในภาพจะไม่ร้องไห้...แต่ทว่าสีหน้าของเธอแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน" ชุนวาพูดจบมีอาตาค้างจ้องชุนวาเขม็งไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ชุนวานึกขำเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ชุนวายักคิ้วให้มีอาบอกเป็นนัยว่าเขาคือผู้รู้ที่แท้จริง
"ฉันเป็นศิลปินนะ ถึงฉันจะเป็นนักร้องฉันก็ยังรู้มากกว่าเธอที่พูดไปเรื่อย เธอนี่เรียนศิลปะมาจริงๆหรือเปล่า" ชุนวาพูดไม่ทันจบเสียงปรบมือก็ดังแทรกขึ้นทำให้ทั้งชุนวาและมีอาหันกลับไปมอง
ผู้ชายร่างโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสีน้ำตาลดูสง่างาม ถ้าเทียบกับชุนวาแล้วมีอาคิดว่าเขาน่าจะหล่อกว่าชุนวาเสียอีก เขาส่งยิ้มให้ก่อนพูดขึ้น
"คุณชุนวาซุปเปอร์สตาร์หนุ่มแห่งวงการเพลงนี่เยี่ยมจริงๆ นอกจากร้องเพลงเป็นเลิศแล้ว มุมมองการมองภาพถ่ายยังเป็นเลิศอีกด้วย ต้องขอบคุณด้วยนะครับที่มาเปิดงานภาพถ่ายของผมในวันนี้" เขาพูดขึ้นท่ามกลางสื่อมวลชนที่ตามถ่ายภาพเขา
"อ้าว!!!...เตโชนั่นเอง เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่นายย้ายไปสิงค์โปร์" ชุนวาเอ่ยทักชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
"ฉันคิดว่าการกลับมาครั้งนี้จะย้ายกลับอยู่ถาวร เบื่อที่ต้องเดินทางแล้วล่ะ ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้ใครกัน...นายจะไม่แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยหรือ" เตโชหันมาทางมีอา
"ยัยนี่ชื่อมีอาเป็นผู้ติดตามฉันเอง เธอออกจะต๊องๆหน่อยนะ คนบ้านนอกก็อย่างนี้แหละ ไม่เคยมางานแบบนี้ก็เลยตื่นเต้นเป็นธรรมดา" ชุนวาพูดแขวะมีอา มีอามองค้อนกลับไปยังชุนวา
"นี่นายทำไมต้องพูดว่าฉันต่อหน้าคุณเตโชแบบนั้นล่ะ นายนี่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย"
"ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ฉันเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้านี่มาตั้งแต่อนุบาลแล้ว" ชุนวาเถียงกลับ
" โธ่...ที่แท้ก็เพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กนี่เอง มิน่าถึงได้รู้ตั้งแต่แรกว่ารูปนี้สื่อถึงอะไร...ฉันนึกว่าเก่งจริงซะอีก เมื่อกี้ไม่น่าหลงเชื่อนายเลยจริงๆ "
มีอาได้แต่เหลือบมองชุนวาแล้วหันไปคุยกับเตโชอย่างยิ้มแย้ม
"พอดีว่าฉันเพิ่งจะเข้าเรียนศิลปะน่ะคะก็เลยยังไม่รู้อะไรมาก ต้องขอโทษนะคะที่มองรูปภาพของคุณผิดไป"
"งานแบบนี้มันขึ้นอยู่กับคนมองนะครับ ใครจะมองอย่างไรก็ไม่ผิดไม่ใช่หรือครับ"
"ฉันได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วค่ะ เพิ่งจะได้เห็นหน้าเจ้าของภาพถ่ายชื่อดังก็วันนี้เอง คุณดูหล่อกว่าในรูปอีกนะคะ" มีอาพูดปนหัวเราะ
"อะไรกัน...ทีกับเตโชเธอน่ะรู้จักมานาน แต่ทีฉันเป็นนักร้องดังกว่าเธอยังไม่รู้จัก แถมยังชมว่าเจ้านั่นหล่อกว่าฉันอีก ตกลงใครเป็นเจ้านายเธอกันแน่ฮะ" ชุนวาบ่นเป็นหมีกินผึ้งที่มีอาชมแต่เตโช
"ก็มันจริงนี่นา" มีอาตาถลนใส่ " คุณเตโชเขาออกจะเป็นสุภาพบุรษ แต่นายเขาเรียกว่า....เรียกว่า..." มีอาทำท่าครุ่นคิด
"เรียกว่าอะไร นี่เธอพูดให้มันดีๆนะ ไม่งั้นฉันจะสั่งทำโทษเธอให้เข็ด " ชุนวาขู่
" จะเรียกแล้วจะทำไมฉัน ไอ้เจ้านายหน้าปลาทูแดดเดียว"
" นี่เธอกล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นปลาทู ฉันหน้าเหมือนปลาทูตรงไหนกัน "
" ทีนายล่ะมาว่าฉันเบ้าฉันยังไม่เคยเถียงสักคำ ยอมรับความจริงซะบ้างเถอะ"
มีอากับชุนวาเถียงกันอยู่ต่อหน้าเตโชทำให้เขาสงสัย
" นายเป็นแฟนกับมีอาเหรอ" เขาถามขึ้นมาขณะที่ทั้งสองเถียงกันอยู่อย่างไม่ลดละ
"เออ.." ชุนวาหลุดปากพูดไปพลางเถียงมีอาต่อ แต่เมื่อนึกขึ้นได้เขาก็ตะโกนเสียงดัง " ฮะ...เมื่อกี้พูดว่าอะไร ไอ้โช แกพูดว่าอะไร ฉันไม่ได้เป็นแฟนยัยนี่นะ เข้าใจกันผิดแล้วถ้านักข่าวได้ยินฉันเสียหายอะดิ"
"ฉันต่างหากที่เสียหาย มาเป็นข่าวกับนักร้องป่าเถื่อนอย่างคนหน้าปลาทู " มีอาพูดแทรก
" ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกหรือ" เตโชถามต่อ
" ก็เออนะสิวะ" ชุนวาเสียงดังจนเหมือนตะคอก
" มีอาเขาน่ารักดีนะ" เตโชเอ่ยปากชมพลางมองไปทางเธอ เขารู้สึกถูกชะตากับมีอาตั้งแต่แรกเห็น
" เห็นมั๊ยล่ะว่าอย่างน้อยก็มีคนบอกว่าฉันน่ารัก ไม่เหมือนคนบางคนตาถั่วมองไม่เห็นของดี " มีอาพูดพลางเหลือบมองไปยังเขา
"อุแหวะ" ชุนวาทำถ้าเหมือนจะอ๊วก
"ถ้าแกไม่ใช่แฟนมีอาฉันจะจีบเธอนะ" เตโชพูด มีอาถึงกับยืนอึ้งที่เตโชบอกชุนวาไปอย่างนั้น
" ฮ่าๆๆๆๆ " ชุนวาหัวเราะเสียงดัง จนคนหันมามอง " ถ้านายจะจีบยัยเบ้าต้องคิดนานหน่อยนะ ยัยนี่กระเปิ๊บกระป๊าบจะตาย ดูแต่งตัวเข้าสิ นายเห็นหรือเปล่าว่ายัยนี่ใส่ชุดนอนมา ฉันว่าถ้านายไม่ตาถั่วก็ต้องตากุ้งยิงแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ " ชุนวาหัวเราะไม่หยุด
มีอามองชุนวาที่หัวเราะอยู่ เธอทั้งโกรธจนตัวสั่น เธอต้องสงบสติอารมณ์จึงเดินขึงขังออกไปข้างนอกอย่างโมโห ปล่อยให้เพื่อนรักสองคนคุยกัน
เตโชเห็นมีอาออกไปข้างนอกจึงหันมาพูดกับชุนวาอย่างอารมณ์ดี
" ว่ายังไงนายลืมเรื่องนั้นได้หรือยัง " เตโชหันมาถามเขา
ชุนวาหุบหัวเราะ เขาเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว
"อย่าพูดเรื่องเครียดเลย วันนี้มันวันเปิดแกเลอรี่ของนายไม่ใช่หรือไง เราน่าจะคุยเรื่องอื่นที่มันดีกว่านี้เถอะ "
" ถ้าอย่างนั้นคุยเรื่องมีอาละกัน...เธอน่ารักดีเนอะ " เตโชเปลี่ยนเรื่องคุย
" เรื่องยัยนั้นฉันก็ไม่อยากคุย " ชุนวาเบือนหน้าหนี
" ฉันว่าเธอน่ารักดี...นายไม่ได้ชอบเธอแน่นะ " เขาถามเพื่อความแน่ใจ
" ก็เออนะซิ นายคิดจะจีบยัยนี่จริงๆเหรอ ฉันว่ายัยนี่ไม่เห็นมีดีอะไรเลย จนก็จน ฉลาดหรือก็ไม่ฉลาด " ชุนวาตอบ
" ไม่รู้สิ...แต่ฉันว่าเธอดูร่าเริงดี ถ้านายไม่ได้ชอบเธอก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะทะเลาะกับนายยังไงล่ะ "
" นายกับฉันไม่มีทางทะเลาะกันเรื่องยัยนี่หรอกน่า " ชุนวาพูดโดยไม่คิดอะไร
" สัญญาได้ไหมล่ะ...ว่าถ้าฉันจีบมีอาแล้วนายจะไม่มาขวางหรือว่าชอบเธอ "
" ก็ได้ฉันสัญญา...นายนี่มันมากเรื่องจริงๆ " ชุนวาตอบไปอย่างนั้นโดยไม่สนใจเตโชที่ดูเขาจริงจังเรื่องจีบมีอา
มีอายืนอยู่ข้างนอกหากเธอไม่ออกมาในตอนนี้เธอหยุดอารมณ์ไม่อยู่คงต้องตีเขาหัวแตกแน่ๆ
" ไอ้บ้า!!!!! " มีอาตะโกนหลังเดินออกมา "ไอ้บ้า...ทำไมฉันต้องมาคอยปรนิบัตินายด้วย ทำไมฉันต้องมาทำตามที่นายสั่ง ทำไมฉันทนให้นายมาด่าฉัน ทำไมฉันถึงต้องให้นายหัวเราะเยาะฉันด้วย ไอ้บ้าหน้าปลาทู...ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้ผีบ้า ไอ้หน้าขนุน แหกๆๆ" มีอาตะโกนเหมือนคนบ้า เธอยืนหอบอยู่สักพัก
เมื่อมีอาได้ระบายอารมณ์แล้วก็ตั้งใจจะเข้าห้องน้ำแต่มีอาต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงชุนวา
"ผมก็แค่เบื่อๆเท่านั้นเอง"
"ผมรู้...แต่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็น่าจะบอกผู้ติดตามของคุณซะก่อน " ผู้จัดการคิมพูดขิ้น ในขณะที่มีอาเอียงหูเพื่อจะฟังให้ถนัดขึ้น
" เอายัยนั่นไปกวนประสาทฉันเปล่าๆ แล้วตอนนั้นฉันก็อยากอยู่คนเดียวด้วย"
ก็เพราะชอบเอาแต่ใจตัวเองอย่านี้ไงล่ะฉันถึงได้เกลีดนายนัก... มีอาแอบฟังก็นึกด่าเขาในใจ
" ผมรู้ว่าคุณไปที่นั่น" ผู้จัดการคิมเอ่ยขึ้นทำให้ชุนวาหันมองหน้า
" ... " ชุนวาไม่พูดอะไร
" ผมรู้ว่าคุณไปหาเธอ...คุณไปหาคุณเอมมี่ที่บ้านใช่ไหม เพราะทุกครั้งเวลาที่คุณทุกข์ใจคุณจะขับรถไปจอดที่บ้านเธอ "
ไม่มีคำตอบจากชุนวาออกมา ผู้จัดการคิมเดินเข้าไปหาชุนวาแล้วตบบ่าเขาเบาๆ
"ผมเลี้ยงคุณชายมาตั้งแต่เด็ก ผมจึงรู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร ผมรู้ว่าคุณอึดอัดกับเรื่องที่เกิดขึ้น การที่คุณรักใครข้างเดียวมันเหงาและเดียวดายมากนะครับ "
"ฉันรู้ นายเคยเตือนฉันมาหลายครั้งแล้ว ฉันพยามยามที่จะหักใจแล้ว แต่มันยากมากเลย ถ้าเป็นนายจะทำยังไงเมื่อคนที่นายรักเป็นคู่หมั่นพี่ชายนายเอง" ชุนวาพูดขึ้นน้ำเสียงหดหู่
"คุณชุนวา" ผู้จัดการคิมเอ่ยขึ้นด้วยความเห็นใจ เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ไปมากกว่าตบบ่าปลอบใจชุนวาเพียงเท่านั้น
มีอาแทบช็อคเมื่อรู้ความลับของชุนวาเข้า เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชุนวารักเอมมี่ คำถามต่างๆเข้ามาในสมองว่าทำไมชุนวาถึงไปรักคู่หมั่นของอุนวาพี่ชายของเขาได้ หรือเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาแข็งกระด้าง
หลังเลิกงานชุนวาและมีอาขับรถกลับมาถึงห้องพัก ชุนวาเข้าห้องก็นอนทันที มีอากลับมาถึงห้องนั่งอ่านหนังสือแต่ก็ไม่เข้าหัว เพราะใจมีอาตอนนี้สงสัยเรื่องของชุนวามากกว่า
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกมีอาตั้งแต่เช้า ผู้จัดการคิมโทรมาสั่งให้พวกเขาเข้าบริษัทเพื่อที่จะให้ชุนวาอัดเสียงเพลงชุดใหม่
ก๊อกๆๆๆ
" เจ้านาย ตื่นหรือเปล่าไปทำงานเหอะ ผู้จัดการคิมโทรมาตามแล้ว...เจ้านาย "
มีอาเคาะห้องเรียกชุนวาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ เธอลองหมุนลูกบิดพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อค มีอาตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไป เธอเห็นชุนวานอนอยู่ใต้ผ้าห่มจึงเข้าไปเขย่าตัว
"ตื่นเถอะ...เช้าแล้วนะ จะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไง พวกผู้ดีมีเงินนี่เอาใจยากจังเลย...เอ้า...ปลุกขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีกหรอ ก็ได้...นายอยากเจอดีใช่ไหม.." มีอาลุกขึ้นดึงผ้าห่มขึ้นสุดแรง "นี่ตื่น...ตื่น...ตื่นๆๆๆๆ...อุ๊ย...ตัวร้อนจังเลย...เจ้านายไม่สบายเหรอ ทำไงดีล่ะ"
มีอามองซ้ายขวาคิดว่าจะทำอะไรก่อนดี แล้วเธอก็คว้าโทรศัพท์กดหาผู้จัดการคิมเพื่อโทรบอกว่าชุนวาไม่สบาย ต่อจากนั้นมีอาหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวชุนวา มีอานั่งลงข้างเตียงค่อยๆเช็ดหน้าของชุนวาอย่างแผ่วเบาพร้อมบ่นไปด้วย
" ปลาทูเป็นไข้ได้ด้วยหรือไงกันนะ เมื่อวานก็ยังแข็งแรงอยู่ วันนี้ไม่สบายง่ายๆซะงั้น...เฮ้อ"
มีอาปลดกระดุมเสื้อออกเห็นอกขาวของชุนวาแล้วหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ เธอไม่กล้ามองจึงหันไปทางอื่นแล้วเช็ดตัวเขาอย่างเร็ว
"ฉันไม่ใช่โรคจิตมาแอบดูนายนะ ฉันแค่เช็ดตัวเฉยๆนะยะ" เธอพูดพลางเช็ดตัวเขาหันหน้าไปทางอื่น ชุนวาเริ่มเพ้อพูดบางอย่างออกมา มีอาฟังไม่ถนัดจึงเอียงหูเข้าไปใกล้ๆ และใกล้อีก
" เอม..."
" อะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน " มีอาเอียงเข้าไปอีก
"เอม.." เขาเพ้ออีก
"อะไรของนายกัน อ้อแอ้ๆ ฉันฟังไม่รู้เรื่องว่าจะเอาอะไร" มีอาพูดพลางหันหน้าไปยังเขา
ใบหน้าของเธออยู่ห่างจากชุนวาแค่เพียงคืบ เธอค่อยๆมองตาของชุนวามันปิดสนิทดูน่าหลงใหล จมูกของเขาโด่งเข้ากับรูปหน้า แก้มเขาแดงเพราะพิษไข้ ปากอมชมพูของเขาเพ้อพูดงึมงำ ตอนนี้เขาดูไม่มีพิษภัยเหมือนยามตื่น มีอาเพ่งดูหน้าของชุนวาอยู่นาน
"นายนี่ตอนนอนหลับก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ถ้าไม่ปากเสียล่ะก็ฉันอาจจะรักนายก็ได้" เธอพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีเตรียมที่จะไปเปลี่ยนน้ำเช็ดตัว
" เอมมี่" เสียงชุนวาดังขึ้นชัดเจน มีอาหันกลับมามองหน้าเขาทันที
"โธ่...ฉันนึกว่านายจะพูดอะไรซะอีก ที่แท้ก็นึกถึงแต่ผู้หญิง นี่ขนาดนอนไม่สบายยังจะฝันถึงเอมมี่อีก นายมันจะสบายเกินไปแล้วเห็นฉันเช็ดตัวทำดีด้วยหน่อยทำเป็นเหลิง...ฉันขอถอนคำพูดเมื่อกี้นะยะ...ต่อให้มีนายคนเดียวในโลกฉันก็ไม่สนหรอก ต่อให้นายหลับและเป็นไข้ทำหน้าไร้เดียงสายังไงฉันก็ไมสนนายหรอก ไอ้เจ้านายหนังหน้าปลาทู...แบร่ " เธอพูดสองคำสุดท้ายแล้วแลบลิ้น พร้อมจะลุกขึ้นจากเตียง
" เอมมี่" ชุนวาละเมอไขว่คว้าแขนมีอาดึงลงมากอด
มีอาตกใจโวยวาย " เฮ้ย ฉันไม่ใช่เอมมี่นะยะ ไอ้บ้า...ปล่อยช้านนนนนน" มีอาพยามสบัดตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งทำให้ชุนวากอดเธอแน่นกว่าเดิม
"อย่าไปเลยนะ อย่าไปเลยนะ" ชุนวาพูดเสียงสั่นเครือ
" ฉันจะไป...ไอ้โรคจิต บอกให้ปล่อยไง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะยะที่นายจะมากอดกันง่ายๆแบบนี้น่ะ...ปล่อยยยยย" เธอพูดไปดิ้นไป
"อย่าไปนะ อย่าไปไหนเลย อย่าไปฉันขอร้อง อย่าไป" ชุนวาพูดสะอื้น แล้วน้ำตาเขาก็ค่อยๆไหลออกมา
มีอาเห็นน้ำตาก็ชะงักนึกสงสารเขาจับใจ ต่อหน้าคนมากมายชุนวาอาจจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเวลาอยู่คนเดียวเขาคงจะเหงามาก มีอาค่อยปาดน้ำตาเขาอย่างแผ่วเบา ชุนวากอดมีอาให้กระชับแน่นกว่าเดิมราวกับว่าไม่อยากให้เธอหลุดไปจากอ้อมกอดของเขา
" ก็ได้ฉันไม่ไปก็ได้ ฉันจะยอมให้นายเรียกฉันว่าเอมมี่ก็ได้ นายก็คิดซะว่าฉันคือเอมมี่ละกัน แต่วันเดียวเท่านั้นนะ...ฉันจะยอมให้นายกอดฉันแค่วันเดียวนะยะ " มีอาพูดขึ้นพลางโอบเขากลับ
"เอมมี่...เอมมี่...เอมมี่" ชุนวาเพ้อแล้วหอมแก้มมีอาไปฟอดใหญ่
มีอาแก้มแดงขึ้นมามากกว่าเดิม เธอหน้าชาไปหมดที่ชุนวาหอมแก้ม... หัวใจเธอเริ่มเต้นรัวเร็วและแรงขึ้นทุกที
นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ มีอาคิดในใจ
กลิ่นตัวอ่อนๆทำชวนให้เธอเคลิ้มไป หน้าของเขาห่างจากเธอเพียงไม่กี่เซ็นต์เธอมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้นจนผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขาอย่างอบอุ่น
ชุนวารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนสี่โมงเย็น เห็นอาหารวางไว้บนโต๊ะพร้อมกระดาษโน๊ต เขาหยิบมันขึ้นมาอ่าน
-ฉันจะกลับตอนสี่ทุ่ม ยังไงก็กินข้าวต้มซะนะ ~ มีอา-
เมื่ออ่านจบชุนวาเหลือบไปมองยังอาหารที่วางไว้ มันเป็นข้าวต้มปลา
" ยัยบ้า...ฉันบอกว่าให้ไปเรียนรู้ไม่ใช่หรือไงว่าฉันชอบอะไรไม่ชอบอะไร...แล้วปลาเนี่ยฉันกินได้ที่ไหนเล่า...โธ่เอ๊ย...ยัยนี่คงจะโง่จริงๆ" เขาบ่นพึงพำกับตัวเองพลางมองไปยังข้าวต้มปลาที่วางอยู่บนโต๊ะ
ชุนวานอนเล่นอยู่ในห้องมองไปเห็นผ้าชุบน้ำที่วางไว้นึกขึ้นว่ามีอาต้องเป็นคนคอยดูแลเขาแน่ๆ ข้าวของเก็บเป็นระเบียบหลังจากที่เมื่อวานเขาทำมันรกอีก ชุนวาคิดในใจเพียงว่ามีมีอาอยู่ใกล้ๆก็ดีเหมือนกัน
สองทุ่มชุนวาลูบท้องเพราะหิวขึ้นมา เขาเดินวนไปมาภายในห้องแล้วเหลือบไปยังข้าวต้มปลาที่มีอาทำวางไว้ ถึงเขาไม่ชอบกินปลาแต่ว่าด้วยความหิวอย่างมากแล้วข้าวต้มก็วางยั่วไว้เขาก็อดใจไม่ไหว
"เอาวะ กินก็กิน ถ้าไม่กลัวอดตายฉันไม่กินของเธอจริงๆ ไม่รู้ว่าวางยาถ่ายไว้หรือเปล่า " ชุนวาเขี่ยปลาออกจากถ้วยแล้วตักข้าวต้มขึ้นมากิน แต่ก็ทำหน้าบูดเบี้ยวเมื่อชิมคำแรกเข้าไป
" ยัยนี่ทำอาหารไม่ได้เรื่องเลย...ข้าวต้มบ้าอะไรเค็มปี๋" ชุนวาบ่นพลางตักเข้าปากกิน เมื่อนึกว่ามีอาเป็นคนทำอาหารให้ก็ทำให้ชุนวารู้สึกดีอย่างน้อยก็มีมีอาที่คอยห่วงเขา...ถึงแม้เขาและเธอจะไม่เคยพูดกันดีๆสักครั้ง ชุนวานึกพลางตักข้าวต้มกินจนหมดเกลี้ยง
ความคิดเห็น