ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE SUN & THE MOON {Fic exo'Chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #2 : THE SUN & THE SUN : บทที่๑ {๖๐%}

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 57


    บทที่ ๑

     

    เขาช่างสวยงามราวกับพระจันทร์จริงๆ..ดูสิแบคบอม น้องชายของเจ้าน่ารักหรือเปล่า?

                            “ขอรับ น่ารักมาก”  นายหญิงชินแย้มรอยยิ้มกว้างขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะกับคำกล่าวของบุตรชายคนโต ผินหน้ากลับมาก้มมองแก้วตาดวงใจตัวน้อยที่ตนตระคองกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างแสนรัก

                            แม่มีชื่อที่พ่อเจ้าได้ตั้งไว้ให้ เจ้าจะชอบหรือไม่เห็นลูกน้อยในอ้อมกอดมีท่าทียินดีราวกับตอบรับคำถามนั้น คนเป็นแม่อย่างนางยิ่งชุ่มชื้นหัวใจนัก ไม่ต่างกับผู้เป็นพี่  บยอนแบคบอมกวาดรอยยิ้มขึ้นเมื่อมองเห็นสีหน้าแช่มชื้นของมารดา และใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาของน้องชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก

                            ลูกแม่ ชื่อของเจ้าคือแบคฮยอน..บยอนแบคฮยอน

     

     

     

     

     

    ๑๓ ปีผ่านไป...

     

                บรรยากาศตอนเช้าวังหลวงในยามนี้ช่างดูวุ่นวายนัก ผู้คนตั้งแต่ขุนนางลงไปถึงนายทหารยศน้อย รวมทั้งนางกำนัลน้อยใหญ่พากันเดินขวักไขว่ทำหน้าที่ของตนที่ถูกวางไว้ ช่วยกันร่วมตระเตรียมงานรับบัณฑิตใหม่ให้กับเด็กหนุ่มผู้มีเกียรติและความสามรถในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้กับทุกๆปีที่เคยมีมา

    แต่ดูเหมือนในปีนี้อาจมีเรื่องวุ่นวายขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาสักเล็กน้อย...

                           

                            ร่มกันแดดสีแดงกับกล่องที่อยู่ตรงนี้หายไปไหน?

     

                            “นายหญิง น้ำผึ้งกับผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะหายไปเจ้าค่ะ!”

     

                            “นี่ เจ้าเห็นเสื้อผ้าที่อยู่ตรงนี้หรือเปล่า?

     

    วุ่นวายอยู่กับการหาข้าวของที่จู่ๆก็กลับหายไป  หากแต่ใครจะรู้ ว่าหาใช่เพียงข้าวของที่หายไปไม่..ใครบางคนก็หายไปจากตำหนักในเช่นกัน ใครบางคนที่หายไปแล้วสร้างความวุ่นวายได้มากกว่าข้าวของเล็กน้อยพวกนี้เสียอีก

     

     

                องค์รัชทายาท ทรงถึงเวลาแล้วพะยะคะ  ขันทีคิมหยุดยืนอยู่หน้าประตูตำหนักไม้ โค้งตัวลงทำความเคารพผู้ที่อยู่ภายในพลางร้องบอกให้องค์รัชทายาททราบว่าเวลานี้พระองค์สมควรที่จะออกจากพระตำหนักนั้นมาได้แล้ว

                เราเสียเวลาไปมากแล้ว ได้โปรดทรง...  คำพูดที่คิดว่าจะเอ่ยถูกกลืนหายกลับเข้าไปทันทีเมื่อสังเกตถึงความเงียบที่ผิดปกติจนเกินไปแม้แต่ลองเงี่ยหูฟัง ยังไม่รับรู้ถึงเสียงใดๆที่เล็ดลอดออกมาราวกับว่าไม่มีคนอยู่

    แอ๊ด....

                “ข้าคิดอยู่แล้วเชียว..โถ่ องค์รัชทายาท ทรงหายไปไหนกันอีกละพะยะค่ะ..

     

     

    --THE SUN & THE MOON--

     

     

     

    เกี้ยวหลังงามสองตัวถูกหามเคลื่อนเข้ามาเคียงคู่กันก่อนที่จะถูกวางลงเมื่อเข้ามาในเขตวังหลวง สาวใช้จัดการเปิดประตูเกี้ยวให้นายหญิงของตน  นายหญิงชินกวาดสายตามองไปรอบพื้นที่ รอยยิ้มบางๆประดับบนใบหน้าของสตรีที่แม้จะอายุมากขึ้นตามกาลเวลา แต่ยังคงความสวยงามไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

                แบคฮยอน แบคฮยอนอา ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมออกมา  เดินเข้าไปเปิดเกี้ยวหลังเล็กของลูกชายที่ยังอยู่ภายใน

    ครืดด...

                จริงๆเลยเจ้านี่นะ เวียนหัวหรือเปล่า”  เอ่ยแกมตำหนิเมื่อเปิดเกี้ยวแล้วพบว่าลูกชายตนยังคงยกหนังสือค้างไว้ แสดงให้รู้ว่าแบคฮยอนยังไม่วางหนังสือตั้งแต่ขึ้นเกี้ยวออกจากเรือนมาถึงเมืองหลวง

                ไม่มีเวลาแล้ว ไม่เช่นนั้นเจ้าจะพลาดการแสดงของพี่ชายเจ้านะ”  เอื้อมมือเข้าไปหยิบหนังสือที่ยกขึ้นบังหน้าบังตานั้นออกก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหา จูงมือเรียวให้ร่างเล็กของลูกชายออกมาข้างนอก  แบคฮยอนหยัดตัวออกจากเกี้ยวดวงตาเรียวเล็กกวาดมองไปทั่วบริเวณเหมือนกับที่นายหญิงชินทำก่อนหน้า  รอยยิ้มกว้างๆนั้นยิ่งทำให้ใบหน้าสดใสดูน่ารักจิ้มลิ้มขึ้นเป็นเท่าตัว

                ไปกันเถอะ

     

     

     

                “แบคฮยอน ดูตรงนั้นสิพี่ชายเจ้าอยู่ตรงนั้น”  เรียกรอยยิ้มกว้างขึ้นอีกคราเมื่อเอียงหน้ามองไปตามทิศทางสายตาของมารดา  เห็นพี่ชายในชุดรับบัณฑิตท่าทางสงบสุขุม

                ถึงจะไม่เท่าพี่ชายเจ้า แต่จื่อเทาก็ถือว่าเป็นคนเก่งทีเดียว จริงสิเจ้ายังไม่เคยเห็นเขาใช่ไหม นั่น เด็กที่อยู่ด้านนั้นคือจื่อเทา พวกเขาเป็นลูกศิษย์ของพ่อเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนทั้งสองเป็นญาติและเพื่อนสนิทของพี่เจ้าใช่ไหม”  แบคฮยอนยิ้มพลางพยักหน้ารับคำพูดของมารดา นายหญิงชินเบนสายตากลับไปมองบัณฑิตทั้งสองอีกครั้ง

                บันฑิตที่มีความสามารถทางด้านวิชาการและทางทหารเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อเจ้าทั้งหมด..อืม...ดูเหมือนคราวนี้ต้องฉลองกันเสียแล้ว” 

     

     

     

    --THE SUN & THE MOON--

     

     

     

                เมื่อครู่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่นี่แสดงว่าพระองค์ยังคงอยู่ในราชวัง ถ้าฝ่าบาททรงทราบละก็ พวกเราทุกคนถูกลงโทษเป็นแน่ รีบไปหาพระองค์เร็ว”  รีบเร่งสั่งทหารอย่างลนลาน  เหล่าทหารยศน้อยน้อมรับคำสั่ง พากันแยกย้ายออกตามหาองค์รัชทายาทตามคำสั่ง ทว่าสลายตัวกันไปได้เศษฝุ่นไม่ทันจาง เสียงกลองให้สัญญาณที่ดังขึ้นทำให้ขันทีคิมสะดุ้งจนสุดตัว

                โถ่เอ้ย องค์รัชทายาท ทรงทำอะไรไม่ปรึกษาหม่อมฉันเลย!”

               

     

     

    ตึง!ตึง!ตึง!

              ฝ่าบาทเสด็จ เริ่มดนตรีได้!”  เหล่ามโหรีเริ่มบรรเลงดนตรีขึ้นตามสัญญาณ  เสียงไพเราะของเครื่องดนตรีดังกังวานไปทั่วทั้งลานพิธีพร้อมกับร่างสง่างามองค์อาจผู้ราชาเข้ามาภายในพิธี  ผู้คนโน้มตัวลงต่ำจนติดกับพื้นให้ความเคารพแก่ผู้มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน

             

    พั่บ...

    เสียงกระพือปีกแผ่วเบาของสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยดังขึ้นข้างใบหู จนแบคฮยอนที่กำลังโค้งคำนับต้องเงยหน้าขึ้นมองผีเสื้อตัวน้อยสีสันสวยงามที่บินมาอยู่ติดแก้ม แต่แค่เผลอเอื้อมมือจะจับ เจ้าผีเสื้อสีสวยกลับบินจากไป

     

     

     

    ยอดบัณฑิตทางด้านวิชาการบยอน แบคบอม และยอดบัณฑิตทางด้านการทหารฮวง จื่อเทา อกกมาและรับฟังคำประกาศ

    บยอน บอนซองเหลือบสายตามองร่างของบุตรชายคนโตที่ก้าวเข้ามารับคำประกาศและหมวกบัณฑิตด้วยสายตาเปี่ยมสุข  ไม่ต่างกันกับสายตาของนายหญิงชินที่มองมาจากที่ไกล

              ดูพ่อเจ้าสิ เขามีความสุขมาก ดูสิเขายิ้มไม่หยุดเลย นั่นเป็นสีหน้าของพ่อเจ้าที่พยายามกลั้นหัวเราะด้วยความสุข..”   กล่าวขึ้นโดยสายตาที่คอยแต่จดจ้องไปยังพิธีอันเป็นเกียรติของบุตรผู้พี่ จนไม่ทันสังเกตว่าผู้น้องนั้นได้เดินตามสีสันสวยงามของผีเสื้อตัวน้อยไปตอนไหน รู้ตัวก็เมื่อยามหันหน้ากลับไปแล้วพบว่าตนนั้นยืนอยู่ผู้เดียวไร้ร่างของบุตรคนเล็ก

    แบคฮยอน แบคฮยอน..หายไปไหนกันนะลูกคนนี้” 

     

     

     

    --THE SUN & THE MOON--

     

     

     

    อา..สวยจัง” 

    เท้าเล็กๆค่อยๆเดินค่อยๆก้าวไปตามผีเสื้อที่ขยับปีกบินไปช้าๆ  ดวงตาเรียวเล็กที่คอยมองผีเสื้อไม่คลาดสายตาเป็นประกายอย่างชอบใจกับสีสันสวยงามของมัน  โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองย่ำเท้าเข้ามาในทางไหน แต่ในตอนนี้มือบางกำลังผลักบานประตูบานหนึ่งให้เปิดออกเพื่อตามผีเสื้อเข้าไปภายใน

     

                แอ๊ดดดดด..

    เสียงผลักบานประตูทำให้ผู้ร้ายหลบหนีที่มียศเป็นถึงองชายรัชทายาทเบิกตาขึ้น เท้าที่กำลังก้าวขึ้นปีนบันไดพาดกำแพงเตรียมหลบหนีหยุดค้าง รีบหันหน้ากลับไปมองผู้เปิดประตูนั้นอย่างรวดเร็ว

    หากแต่เมื่อสายพระเนตรนั้นหันกลับมาเห็นคนตัวเล็กนั่น กลับยิ่งทำให้วางพระองค์ไม่ถูก ทั้งร่างหยุดชะงักอยู่บนขั้นบันไดไม่ขยับไปไหนราวกับโดนตอกหมุด พระหัตถ์ที่กำร่มสีแดงคันงามกลับกำแน่นขึ้นกว่าเก่า  ยิ่งยามร่างเล็กระบายรอยยิ้มสดใสยิ่งละสายตาไปทางอื่นไม่ได้  ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะจดจ่อกับผีเสื้อมากเกินไปนัก ถึงได้ไม่สังเกตว่าตนเองกลังถูกจ้องมาจากบุคคลอีกคนหนึ่งที่อยู่ ณ ตรงนี้ด้วย

    จนกระทั่งเดินมาหยุดยืนที่ปลายบันได แบคฮยอนถึงได้รับรู้การมีตัวตนของใครอีกคนเมื่อสายตาเลื่อนเข้าประสานกัน

    ตกใจและทำอะไรไม่ถูกไม่ต่างกันยามเห็นคนแปลกหน้าที่กำลังปีนกำแพงวัง แถมยังถูกเขาจ้องหน้าแบบตาไม่กระพริบเสียอีก  

    อ๊ะ..หะ เห้ย!!”   ยังไม่ทันได้ทำสิ่งใด ดวงตาเรียวเล็กของแบคฮยอนกลับยิ่งเบิกกว้างขึ้นอีก เมื่อร่างของคนบนบันไดนั้นเสียหลักและร่วงลงมาใส่ตนเองจนล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่

    ร่มสีแดงคันงามค่อยๆหล่นลงมาช้าๆตามลมที่พัดแผ่วเบา ลอยลงปิดใบหน้าของเด็กทั้งคู่ที่นอนกองกันอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนที่จะถูกพัดพาไปตามสายลม แบคฮยอนหลับตาปี๋ยามนึกถึงความเจ็บที่จะได้รับ  หากแต่ไม่เจ็บมากนักเมื่อศีรษะกลมๆถูกรองรับด้วยท่อนแขนของเด็กหนุ่มแปลกหน้า  ร่างเล็กลืมตาขึ้น พร้อมๆกับที่เจ้าของท่อนแขนเปิดเปลือกตาขึ้นมาเช่นเดียวกัน

     

    พรึบ!

     

    รีบผุดลุกขึ้นพร้อมกันแทบจะในทันที  ต่างคนต่างวางท่ายามยืนข้างกัน แต่สายตากลับคอยชำเลืองมองคนข้างๆตัวไว้เป็นระยะ

                อะ..แฮ่ม..เป็นเด็กหญิงเหตุใดถึงใส่ชุดของผู้ชาย”  สุดท้ายจึงเป็นเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เริ่มเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นมาก่อน คำถามนั้นทำเอาแบคฮยอนส่งสายตาค้อนขวับให้คนแปลกหน้าอย่างขัดเคือง

                ข้าเป็นผู้ชาย หาใช่เด็กผู้หญิง”  ยิ่งเห็นสายตาเหมือนไม่อยากเชื่อของคู่สนทนายิ่งขัดเคืองนัก

                “ชะ..ชายงั้นหรือ?..งั้นแล้วนี่เจ้าเข้ามาทำอะไรในวังหลวง”  องค์รัชทายาทยกพระหัตถ์ขึ้นถูท้ายทอยอย่างเสียหน้า ที่เผลอคิดไปว่าร่างเล็กที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มสดใสนี้เป็นหญิง

                “ข้ามางานประกาศเกียรติคุณของพี่ชายข้า ที่ได้เป็นยอดบัณฑิตด้านวิชาการ ไม่ได้เข้ามาเป็นขโมยเหมือนเจ้าแน่ ข่าจะเรียกองครักษ์มาเดี๋ยวนี้” 

    หมับ!

    ต้นแขนเล็กถูกจับไว้ในทันทีที่ตั้งท่าหมุนกายจะเดินออกไป แบคฮยอนเอียงหน้ากลับมามองคนแปลกหน้าที่กำลังละล่ำละลักแก้ตัว

                ราชองครักษ์หรือ นี่เจ้าจะมากล่าวหาข้าว่าขโมยของจากในวังไปงั้นรึ”  ร่างเล็กไม่ตอบ หากแต่เบือนสายตาลองไปมองกระเป๋าผ้าเนื้องามที่ตกอยู่บนพื้น

                ข้า..ข้าเพียงแต่หาทางออก ข้าเองก็มางานของพี่ชายข้า ยอดบัณฑิตด้านการทหาร

    กล่าวแก้ตัวพร้อมกับมือที่ค่อยๆเอื้อมหยิบกระเป๋าขึ้นมาช้าๆ  แต่เหมือนชะตาจะไม่เข้าข้างกับการโกหกครั้งนี้เท่าไรนัก ข้าวของในกระเป๋าจึงพากันหล่นร่วงออกมา  แบคฮยอนหรี่ตามองคนโกหก ก่อนที่จะเริ่มตะโกน

                ขโมย!! มีคนขโมยอยู่ที่นี่! อื้อ!”  ส่งเสียงร้องอู้อี้ทันทีที่โดนมือหนาปิดปากของตัวเองไว้ไม่ให้ส่งเสียง ท่อนแขนยาวตวัดร่างคนตัวเล็กเข้ามาชิดตัว

                ใคร ใครอยู่ตรงนั้น!”  ทหารองครักษ์ที่เดินผ่านมาได้ยินเสียงพร้อมเร่งฝีเท้าย่ำเข้ามาใกล้

                “เจ้านี่จริงๆเลย!”  ได้รับเสียงเข้มๆแกมดุกลับมาครั้งหนึ่งก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกดึงให้วิ่งปลิวติดมือของคนแปลกหน้าไปอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนถูกพาวิ่งลัดเลาะไปทั่ว หลบหลีกการพบเห็นของทหารองครักษ์จนในที่สุดคนแปลกหน้านั้นถึงได้พาตนมาหยุดอยู่ที่ตำหนักแห่งหนึ่ง

                เพราะเจ้าคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้!”

                “ทำไมเจ้าถึงพูดจาไม่มีสัมมาคารวะ!” แบคฮยอนสะบัดข้อมือจนหลุดจากการเกาะกุม หันหน้าไปกลับต่อคำกับคนแปลกหน้าอย่างไม่พอใจ

    เจ้านั่นแหละต้องมีสัมมาคารวะ เจ้าอายุน้อยกว่าข้า

    เจ้าแน่ใจได้ยังไงว่าข้าอายุน้อยกว่าเจ้า เจ้าอายุเท่าไร

    ข้าหรอ? น้อยกว่าเจ้าสองปี

    งั้นเจ้าก็อายุสิบเอ็ดน่ะสิ ทำไมถึง..

    อ่า..เจ้าอายุสิบสามปีหรือ เห็นมั้ยข้าแก่กว่าเจ้าตั้งสองปี นั่นเจ้าจะไปไหน!” รีบคว้าต้นแขนเล็กนั่นไว้แทบไม่ทันเมื่อเห็นเมื่อเห็นอีกคนทำท่าจะเดินหนีออกไปอีกครั้ง

    ข้าบอกแล้ว ข้าจะไปเรียกราชองครักษ์ถ้าท่านยังไม่พูดความจริงกับข้า

    ก็ข้าเป็นน้องชายของยอดบัณฑิตทางการทหาร ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วไงเล่า

    เขาเป็นสหายสนิทของพี่ชายข้า และเท่าที่ข้ารู้มา เขาไม่มีน้องชาย

    ระ..เหรอ..เขาไม่มีน้องชายหรอ..ตกลง! ข้าเข้าใจแล้ว! ข้าจะบอกเจ้า!”  รีบเร่งบอกอย่างยอมจำนน  แบคฮยอนมองคนแปลกหน้าที่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมทรุดตัวลงนั่งกับขั้นบันไดของตำหนัก

    ความจริงแล้ว ข้าแค่อยากจะพบพี่ชายข้า...

    ยังจะเอายอดบัณฑิตทหารมาพูดอีกหรือ!”

    ไม่ใช่เสียหน่อย!...พี่ข้ากับข้ามีบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาและเขาดีกับข้ามาก ถึงแม้เข้าจะเก่งทั้งด้านวิชาการ และด้านทหารเขาก็ไม่อาจไปสอบเป็นบัณฑิตได้..ถึงแม้ว่าเขาจะเคารพรักท่านพ่อ แต่เขากลับไม่เคยได้ความรักจากท่าน แม้ว่าเขาจะได้รับความรักจากผู้คนรอบข้าง แต่เขาก็ไม่สามารถ ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนได้ เป็นเพราะข้า..ท่านพี่จงได้มีชีวิตอยู่แบบนั้น เขาคงกลัวจะถูกท่านพ่อต่อว่า เขาจึงไม่มาหาข้าสักพักแล้ว ข้าเลยอยากจะออกไปหาท่านพี่เอง ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรอยัง

    ทำไมท่านถึงได้โทษตัวเอง เจ้าเป็นบุตรชายของภรรยาหลวง ส่วนพี่ของเจ้าเป็นบุตรนอกสมรส มันไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้ ทำไมท่านถึงได้โทษตัวเองล่ะ สุภาพบุรุษจะไม่โทษทุกอย่างกับผู้อื่น

    นี่เจ้า...อ่านตำราขงจื๊อหรือเปล่า?

    ชาวนาจะไม่โทษผืนดิน เช่นเดียวกับนักดนตรีจะไม่โทษเครื่องดนตรี..มันเป็นปัญหาของเจ้าเองไม่ได้ขึ้นกับใคร..ถ้าพี่ของเจ้ารักเจ้าจริงๆละก็เขาอาจจะไม่โทษท่านก็ได้ เพราะฉะนั้น เจ้าก็ไม่ควรจะโทษตัวเองเช่นกัน และก็ไม่ควรจะโทษคนอื่นด้วย  องค์รัชทายาทได้แต่มองเสี้ยวหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังพูดปรัชญาขงจื๊อออกมาได้อย่างนุ่มนวลไม่ติดขัดพร้อมกับรอยยิ้ม พระพักตร์คอยพยักรับกับคำพูดของคนตัวเล็ก

    ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าข้าไม่ได้เป็นขโมยใช่ไหม           

    ข้าไม่รู้ สิ่งของด้านหลังท่าน ท่านเอามาจากไหน ของพวกนั้นเป็นของหายากที่จะนำไปเป็นของขวัญ

    เจ้าดูแล้วเป็นคนน่ารัก ทำไมถึงอยากรู้อยากเห็นถึงเพียงนี้ ทำไมถึงเงียบ เจ้าจะไม่พูดจากับข้างั้นหรือ! ข้าคือประเทศโชซอน!!”

    “….”

                “เอ่อ...ข้าคือ...ประเทศโชซอน..ข้าคือข้าราชการ ได้แต่พูดแก้ตัวอย่างติดขัดเมื่อสำนึกได้ว่าตนเองนั้นพูดพลาดไปเสียแล้ว องค์รัชทายาทกลอกสายพระเนตรไปมาพลางมองหน้าของเด็กน้อยขี้สงสัยที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นมองอย่างจับผิด จะถูกจับได้เสียแล้วหรือเรา..

                แบคฮยอน แบคฮยอน!!” 

                “ท่านแม่”  แบคฮยอนหันหลังกลับไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ใบหน้าเผยรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นมารดาย่ำเท้าเข้ามาหา องค์รัชทายาทถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งพระทัย  แต่เมื่อสายตาเหลือบกลับไปเห็นทหารที่เดินตามหลังมารดาของเด็กน้อยขี้สงสัยมา พระเนตรก็กลับเบิกกว้างขึ้นทันที

                “โอลูกแม่ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา

                อย่าขยับ อย่าขยับ..อย่าพูดอะไรเลยนะ ถ้าเจ้าพูด ข้าจะสั่งทำโทษเจ้า.”  อาศัยจังหวะที่เด็กน้อยละความสนใจไปหามารดาเข้าไปหาทหารยาม กระซิบบอกให้ทำตามที่ตนต้องการ

                นี่!”

                “ข้ายอมรับผิดและรายงานกับทหารด้วยตัวเองแล้ว เจ้าพอใจรึยัง สิ่งที่ข้าขโมยไปทั้งหมดอยู่ที่อึมวอลกักดังนั้นข้าจะพาท่านไปที่นั่น..ไปเร็ว..ไปสิ!”  กัดพระโอษฐ์กระซิบให้เสียงเล็ดรอดออกมาอย่างเบาที่สุดพลางผลักดันทหารยามให้เดินนำหน้าตนไปออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเพียงความสงสัยให้กับเด็กน้อยที่อยู่เบื้องหลัง

                อะไรของเจ้ากันนะ...

     

     

     

    --THE SUN & THE MOON--

     

     

     

     

                “กรุณารอสักครู่เจ้าค่ะ! ครู่เดียว!”  นางกำนัลสาววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังเกี้ยวที่กำลังจะเคลื่อนตัวจากไป รีบยื่นซองผ้าในมือส่งให้กับเด็กชายทันทีที่ม่านเกี้ยวถูกเปิด แบคฮยอนมองนางกำลังด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจนัก

                มีคนบอกให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้ท่านเจ้าค่ะ

                “ใครหรือขอรับ?

                “เขาบอกว่า หากเอ่ยถึงนายน้อยของอึนวอลกักท่านจะทราบได้

                “หรือจะเป็นเจ้า..แต่นี่มันอะไรล่ะ?

                “นายน้อยบอกว่า..ถึงข้าจะอยากพูดตั้งหลายเรื่องแต่ข้าก็พูดไม่ได้ ยิ่งคิดข้าก็ยิ่งโกรธเลยจะบอกเขาแบบนี้..เขาเป็นเด็กฉลาด จะรู้ได้ว่านี่มีความหมายว่าอย่างไร แล้วก็ให้ข้านำมาให้ท่านเจ้าค่ะ

                “เขาไม่พูดอะไรอย่างอื่นเลยหรือ?

                ยังบอกอีกว่า..ต่อไปให้ระวังเวลาเดินตามท้องถนนยามค่ำคืน..นายน้อยว่าอย่างนั้นเจ้าค่ะ

                “ถ้าเขาบอกให้ข้าระวังเช่นนั้น เขาคงไม่ใช่คนเลวร้ายนัก”  มือเล็กยื่นออกมาเพื่อรับซองผ้านั้นไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงเพื่อขอบคุณ ใบหน้าน่ารักแย้มรอยยิ้มสดใสให้นางกำนัลก่อนที่จะปิดม่านเกี้ยวไว้ดังเก่า  นางกำนัลนั้นหยุดยืนมองเกี้ยวที่ถูกยกผ่านไปก่อนที่จะเอ่ยรำพึงเบาๆกับตนเองอย่างไม่เข้าใจนัก

     

    เห้อ..อะไรของพระองค์กันนะเพคะองค์ชายชานยอลถึงใช้ให้ข้าทำราวกับแอบฝากสารรักอย่างนั้นแหละ

























    ขันทีคิม...คิมจงแด..เค้าเจอกันแล้ว เม้นเค้าหน่อยได้มั้ย บรัยส์....






     

     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×