ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic BTS KookJin ; It's you

    ลำดับตอนที่ #6 : 6 100%

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 57


    6

     

    JIN Part

     

    “ อื้อออ ”   

    นี่มันที่ไหนอีกหละครับเนี่ย 

    ช่วงนี้ผมตื่นมาแต่ละครั้งมักจะไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองซักทีเลย  ผมจำได้ว่าเมื่อวานผมอยู่ที่บ้านของจองกุก ใช่แล้ว จองกุก

    ผมหันมองไปรอบๆห้อง อ่า นี่มันห้องของจองกุกนี่นา  ดูที่รูปติดผนังนั่นสิ เป็นรูปเขาทั้งนั้น  แต่ว่า....

    “ ฉันมานอนบนเตียงหมอนั่นได้ยังไงกัน ก็เมื่อคืน...”

       เมื่อคืนผมขอตัวออกมาตอนที่ทานอาหาร ผมรู้ว่าค่อนข้างเสียมารยาท แต่จะให้ผมทำยังไงหละครับ ถ้าผมนั่งอยู่ตรงนั้น น้ำตาผมต้องไหลออกมาแน่ๆ

    จองกุกเล่าเรื่องของผมให้พ่อแม่เขาฟัง ผมก็นั่งฟังโดยไม่ได้ติดใจอะไร แต่จู่ๆ ผมก็คิดถึงอดีตทั้งตอนที่เจอจองกุกคนนี้และจองกุกที่เป็นแฟนเก่าผม ผมเลยต้องลุกออกไปห้องน้ำเพราะกลัวจะร้องไห้ต่อหน้าพ่อและแม่เขา  อีกอย่างเขาบอกว่าจองกุกเป็นเพื่อนของผม ไม่ใช่แฟน  มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

     

    หลังจากที่ผมไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำแล้ว ผมก็เดินไปที่ห้องซ้อมเลย  ผมคงไม่มีกะจิตกะใจไปนั่งมองหน้าจองกุกให้เศร้าใจเล่นหรอกครับ 

     ผมซ้อมหลายรอบ จนมานั่งพักเหนื่อยที่โซฟา แล้วผมก็เผลอหลับไป

    แต่ตอนนี้..

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

    “ อ่า นี่มันตีห้ากว่าแล้วนี่นา” 

    เสียงนาฬิกาปลุกผมดังขั้น ทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้มันค่อนข้างจะสายสำหรับผมแล้ว  ว่าแต่จองกุกอยู่ไหนกันนะ?  ผมต้องรีบไปปลุกเขาก่อนที่เราจะไปโรงเรียนสาย

    “  หมอนั่นคงไม่ได้อยู่ซ้อมจนเช้าหรอกนะ”

    ผมหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะซ้อมถึงเช้ารึเปล่า แต่ที่ผมมั่นใจคือหมอนั่นเจ็บข้อเท้าชัวร์  เพราะตอนกลางวันที่ล้มข้อเท้าเขาบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ   อต่ผมเลือกที่จะเงียบไว้  ถ้ายิ่งเขารู้ว่าผมรู้ หมอนั่นก็คงยิ่งกังวลไปอีก

     

    ผมเดินออกจากห้องนอนไปที่โถงทางเดิน แล้วผมก็พบว่าห้องนอนของเขาอยู่ห่างจากห้องซ้อมแค่สองห้องเอง

      ครืดดด

    ผมเปิดประตูห้องซ้อมเข้าไป พบว่าจองกุกนอนหลบอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่ผมเผลอหลับเมื่อคืน

      “  นี่นาย ตื่นได้แล้วนะ”

    ผมเรียกของกุกหวังให้เขาตื่น แต่หมอนี่ก็ไม่ยอมตื่น ผมเลยต้องเขย่าตัวเขาดู

    “ นี่ นาย ตื่นได้แล้วนะ เราต้องไปโรงเรียนกันนะ”  ผมเขย่าตัวเขาแรขึ้นและเรียกเสียงดังขึ้น แต่หมอนี่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย

    “ ย๊า จอน จอง กุก  ถ้านายไม่ยอมตื่นฉันจะกลับบ้านแล้วนะ!”  ผมตะโกนใส่หูเขาอย่างเหลืออด

    “ ตื่นแล้วๆ หูย นี่กะจะเอาให้หูบอดเลยหรือไงกันฮะ คุณผู้จัดการ”

    “ ฉันก็แค่ปลุกนายตามหน้าที่ผู้จัดการแค่นั้นแหละ อีกอย่าง หูหนะ”

    “ หูอะไร??”

    “ เขาใช้คำว่าหูหนวก ไม่ใช่หูบอด รู้ไว้ด้วยนะ ซุปเปอร์สตาร์ ถ้าไม่อยากขายหน้าคนอื่นเรื่องภาษา”

    ผมเหน็บแหนมจองกุกเล็กน้อย ก็แหม เขามาเหน็บผมเรื่องผู้จัดการก่อนเองนี่

    “  โอเคๆ ยอมละ ว่าแต่นายไม่อาบน้ำแต่งตัวหรอ?” 

    “ แน่สิ ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า งั้นเจอกันที่โรงเรียนก็แล้วกัน”

    “ เดี๋ยว  รอฉันก่อน ” 

    ไม่ทันที่ผมจะได้เดินพ้นขอบประตูออกไป จองกุกก็เรียกผมไว้

    เรียกทำไมอีกหละเนี่ย เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนช้าหรอก

    “  จะให้ฉันรออะไรอีก ? ”

    “  เดี๋ยวไปพร้อมกันเลยจะได้ไม่เสียเวลา นายลงไปรอข้างล่างเลย เดี๋ยวฉันตามไป”

    ไม่ให้ผมได้ค้านอะไร จองกุกก็วิ่งออกจากห้องซ้อมไป  ทำให้ผมต้องยืนปลงในความเอาแต่ใจของเขาอยู่สักพัก ค่อยเดินลงไปรอข้างล่างตามคำขอเขา

    ไม่นานจองกุกก็วิ่งลงมาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่

      เอิ่ม... จะย้ายบ้านหรือไงกันนะ

    “ นี่  นายจะย้ายบ้านหรือไงฮะ”  ผมถามอย่างสงสัย

    “ ถ้านายอนุญาต ฉันก็ไม่ปฏิเสธนะ ฮะๆ” หมอนั่นพูดก่อนจะกระโจนขึ้นรถ

    “ นายฝันอยู่หรอ!

    ผมเอ็ดเขาเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถตามไป

     

    ผมบอกทางมาบ้านผมให้จองกุก  หมอนี่ไม่เคยมาเลยซักครั้ง เพราะผมขึ้นรถเมลกลับมาตลอดตั้งแต่ที่ไปซ้อมที่บ้านเขา  หรือไม่ก็ให้เขาส่งที่ไกลๆจากบ้าน  ไม่ใช่ว่าผมอายที่บ้านเล็กหรืออะไรหรอกนะ แค่ผม...ช่างเถอะครับ

    แต่ว่ากว่าเราจะมาโรงเรียนได้นี่เกือบเจ็ดโมงเลยนะ  ใครจะไปรู้ว่าจองกุกจะอาบน้ำนานเป็นบ้า  ผมว่าผมอาบนานแล้วนะ  เจอหมอนี่เข้าไปนี่ยิ่งกว่า   สำอางสุดๆเลยหละครับ  พวกดาราดังจะอาบน้ำนานเหมือนกันทุกคนมั๊ยนะ

     

    หลังอาบน้ำแต่ตัวเสร็จ เราก็ไม่มีเวลามาทำอาหารเช้ากินเองหรอก ผมสั่งให้จองกุกรีบขับรถมาโรงเรียนทันที  มากินที่โรงเรียนออกจะสะดวกกว่าเยอะ  

    ไม่นานหลังจากที่จองกุกขับรถเข้ามาในเขตโรงเรียน  ก็ตกเป็นเป้าสายตาอีกตามเคย  มันจะดีมากถ้าไม่ได้มองมาที่ผมด้วย  ถึงผมจะค่อนข้างชิน แต่ว่าแบบนี้มันมากเกินไป   สายตาทุกคู่ต่างมองมาที่ผม ก่อนจะซุบซิบนินทา  หาว่าผมคิดจะคบกับหมอนี่เพราะเหมือนแฟนเก่า  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ

    “นายไปกินข้าวเถอะ ฉันไม่หิว ”  ผมบอกจองกุก ก่อนจะเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์เสีย

    “ อ่าวเฮ้ย ไปด้วยกันสิจิน”

    ผมไม่สนจองกุกที่ตะโกนไล่หลังมา 
    50%

     

    จินเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์เสีย ปล่อยให้จองกุกมองตามไปอย่างงงๆ

    “  นี่ฉันไปทำอะไรให้โกรธรึเปล่าเนี่ย?”

    จองกุกพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปโรงอาหารท่ามกลางสายตาของทุกคู่ ที่มองอย่างเคลือบแคลงใจในความสัมพันธ์ของเขากับจิน

    “  หมอนั่นไม่กินเพราะไม่หิวจริงๆหนะหรอ?” 

    เขาคิดกับตัวเองหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อแซนวิชกับนมไปให้จิน เผื่อว่าจินจะหิว

    “ นายผู้จัดการ ฉันมาแล้ว อะ อ่าว”

    จองกุกเดินเข้าห้องมาหาจินอย่างอารมณ์ดีปรากฏว่าไม่มีคนที่เขาตามหาอยู่ในห้อง

    “ เอ่อ..  เห็นจินมั๊ย?”

    จองกุกถามนักเรียนหญิงที่นั่งอยู่หลังจิน  แต่เธอบอกว่าเห็นจินเอากระเป๋าเข้ามาเก็บก่อนจะเดินออกไปเลย

    “ ไปไหนของเขานะ ” 

    จองกุกถามตัวเองก่อนที่เตรียมจะเดินออกห้องไปตามหาจิน  แต่ต้องกลับเข้าที่เพราะอาจารย์ได้เข้ามาสอนคาบแรกแล้ว

    “  อ่าว  จินไปไหนหละ”

    “ จินออก...”

    “  หมอนั่นไม่ค่อยสบายครับ  เลยนอนพักอยู่ห้องพยาบาล”   เขาพูดแทรกก่อนที่เพื่อนร่วมห้องคนนึงจะได้พูดจบ  ขืนบอกว่าออกไปไหนไม่รู้คงโดนหักคะแนนแน่  บอกไปว่าไม่สบายซะยังดีกว่า  เพราะจินรักคะแนนซะขนาดนั้น

    เพื่อนร่วมชั้นมองจองกุกอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อเช้า เขาเป็นคนถามเองนี่นาว่าจินอยู่ไหน  แต่ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าอยู่ห้องพยาบาลได้หละ

    ตลอดภาคเช้า จินไม่ลงมาเรียนเลย ช่วงพักจองกุกมีเวลาออกไปตามหา แต่หาได้ไม่นานก็หมดช่วงพัก โทรหาจิน เขาก็ไม่รับ  ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ  

    “  หรือว่ากลับบ้านไปแล้วนะ ”

    จองกุกพูดขณะกำลังเดินออกจากห้องไปกินข้าวเที่ยง

    ไม่ทันที่จองกุกจะได้สงสัยอะไรอีก จินก็เดินเข้าห้องเรียนมา หลังจากที่หายไปนาน

    “ นี่ นายหายไปไหนมาหา!  โทรไปก็ไม่รับ ” 

    จองกุกคว้าแขนจินที่กำลังเดินผ่านเขาไป  

    เสียงที่ดังของจองกุกทำให้ทั้งคู่เป็นที่สนใจของคนในห้องอีกครั้ง

    จินหันมองดูเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่มีท่าทีสนใจ ก่อนจะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของจองกุก   ตรงไปยังโต๊ะเรียนเพื่อหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ในกระเป๋านักเรียนออกไป

    “  เดี๋ยวสินายผู้จัดการ รอก่อน”

    จองกุกรีบเดินตามจินไป  ระหว่างทาง ทั้งคู่ยังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโรงเรียน ยิ่งทำให้ข่าวซุบซิบแพร่เร็วยิ่งกว่าไวรัส ถึงหูใครบางคน....

     

    JK part

    จินหายไปไหนมาไม่รู้ฮะ ตั้งแต่คาบแรก ผมโทรไปก็ไม่รับ  ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ  กลับบ้านไปแล้วคงไม่ใช่  เพราะกระเป๋านักเรียนยังอยู่ที่โต๊ะ

    พอหมดคาบเช้าขณะที่ผมกำลังจะออกไปกินข้าว จินก็เดินสวนเข้าห้องมา  หน้าตางี้บูดเชียวแหละ

     “ นี่ นายหายไปไหนมาหา!  โทรไปก็ไม่รับ ” 

    ผมคว้ามแขนจินเพื่อถาม แต่เอ่อ.. ผมว่าผมเสียงดังไปหน่อย

    หมอนี่แทบจะไม่มองหน้าผมเลย  หันไปมองรอบๆแล้วสะบัดแขนหนีผมเฉย

    ไปโกรธใครมารึเปล่าเนี่ย  หรือว่าโกรธผม

    “  เดี๋ยวสินายผู้จัดการ รอก่อน”  

    ผมรีบเดินตามไปเมื่อเห็นว่าจินเดินออกห้องไปแล้ว

    “ นี่  เป็นอะไรไป  โกรธฉันหรอ?”

    “  เห้  อย่าเงียบแบบนี้สิ ”

    “ หรือว่านายโกรธที่ฉันอาบน้ำช้า? ”

    “ พูดกับฉันหน่อยสิ  นี่มันจะถึงโรงอาหารแล้วนะ”

    “ จิน!!

    ผมพยายามถามจินตลอด ระหว่างที่เราเดินไปโรงอาหาร  แต่หมอนี่ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลย  จนผมแทบทนไม่ไหว  ตะโกนเรียกชื่อจินกลางโรงอาหารเลยแหละ

    ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ผม ทุกคนสนใจผมยกเว้น จิน  ไม่เคยมีใครไม่สนใจผมได้ขนาดนี้เลย

    “ นี่ นายโกรธอะไรฉัน   อย่าลืมนะตอนบ่ายเรามีสอบเต้น ถ้าเกิดนายโดด นายก็ไม่ผ่านวิชานี้นะ  เพราะฉะนั้นถ้าจะโกรธ ไว้หลังวันนี้ก็แล้วกัน”    

    ยิ่งผมพูดก็เหมือนจะยิ่งโกรธไปใหญ่ เดินไปซื้อข้าวเฉยเลย   ผมก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ ไปกินข้าว

    “ นี่ แก ดูสิ ขนาดจองกุกตามต้อยๆ  รุ่นพี่ยังไม่สนใจเลยอะ”  หญิงหนึ่ง

    “ นั่นดิ สงคนนี้ เป็นอะไรกันรึเปล่า” หญิงสอง

    “ ถ้าเกิดยัยนั่นรู้เข้าหละก็...” หญิงสาม  

    “ บรึ๋ยย ”

     สามสาวโต๊ะตรงข้ามซุบซิบนินทาผม ไม่ใช่แค่ทั้งสาม แต่แทบจะทุกคนที่ผมเดินผ่าน ว่าจินบ้างหละว่าผมบ้างหละ แต่ผมไม่สนใจหรอก จินก็คงจะ..ไม่สนใจ.... หรอก(มั้ง)

     “ จินคร้าบ  คุยกันก่อนได้...มั๊ย” 

    ผมตั้งใจจะพูดกับจินอีกครั้งแต่หมอนี่ก็ลุกหนีผมไปดื้อๆ  ทำให้ผมที่ยังกินข้าวไม่เสร็จต้องรีบตามไป

     

    ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องสอบเต้นแล้ว  พวกเราทยอยเดินไปทีห้องดนตรี จินก็เป็นหนึ่งในนั้น

    หลังจากที่ขึ้นห้องมา หมอนี่ก็มัวแต่อ่านหนังสือ ไม่ก็ฟังเพลงเท่านั้นแหละครับ

    “ เอาหละ วันนี้ทุกคนรู้ใช่มั๊ยว่าเป็นวันอะไร”

    “ คร้าบบบ/ค่า”

    “ ถ้ารู้ก็ดี นั่งเป็นคู่แล้วส่งตัวแทนออกมาจับฉลากเลือกอันดับ  เราจะทำเหมือนกำลังจะออดิชั่น เพราะว่า..เรามีคณะกรรมการจากค่ายเพลงมาดูด้วย”

    “ โห จารย์ทำไมไม่บอกล่วงหน้าครับ”

    “ นั่นสิคะ พวกเราจะได้เตรียมตัวมาดีกว่านี้”

    “  แหม แสดงว่าพวกเธอไม่ได้ตั้งใจสอบหละสิ  เอาหละ ขอแนะนำ คุณโฮซอกและคุณยุนกิ ”

     

    คุณครูแนะนำให้พวกเรารู้จักกรรมการที่จะมาออดิชั่น   เอ่อ... ประธานค่ายผมเองฮะ  แต่ผมพึ่งรู้วันนี้เหมือนกันว่าจะมีออดิชั่นผ่านการสอบนี่   ประธานชอบเซอร์ไพร์สอะไรแบบนี้ตลอดแหละ

    ผมเหลือบมองจินที่นั่งข้างๆ ดูเหมือนจะตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ  แต่ก็แสดงออกไม่มาก

    “ เราได้ที่เท่าไหร่? ” 

    “ เรา เอ่อ... ที่ 9  

    ผมบอกจินที่หันมาถามลำดับการสอบ   นี่เป็นประโยคแรกเลยนะเนี่ยที่จินยอมพูดกับผม  ถ้าไม่มีเรื่องให้ถามเลยไม่พูดใช่มั๊ย

    “ นั่นประธาน ส่วนนั่นรองประธานเป็นหัวหน้าประธาน ” 

    ผมชี้ให้จินดูประธานโฮซอกกับรองยุนกิ  

    จินหันหน้ามามอง พยักหน้า ทำท่าอึกอักเหมือนจะพูด แต่ก็เงียบไป

     “ รองประธานยุนกิเป็นแฟนกับประธานหนะ ฮะๆ”  

    จินนพยักหน้า ผมเลยเล่าเรื่องของประธานให้จินฟัง

                ประธานกับรอง ทั้งคู่เริ่มจากการเป็นศิลปินคู่ดูโอ้ เริ่มทำเพลงเองเรื่อยๆ  จนเริ่มก่อร่างสร้างตัวตั้งบริษัทขึ้น ที่แรกเป็นบริษัทเล็กๆ ปั้นศิลปินคนนึงขึ้น จนตอนนี้โด่งดังไปทั่วโลก ค่ายก็เริ่มรับเด็กเทรนมากขึ้นๆ   ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  ประธานจะคอยมาดูและสอนเทคนิคต่างๆ ส่วนรองก็ใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ  ทำให้เรารู้ว่าเราความจะปรับตรงไหน เน้นตรงไหน

    “  สวัสดีนะทุกคน อ่า  คงตกใจกันนิดหน่อยหละสิที่ฉันมาวันนี้   ฉันเห็นว่าเด็กโรงเรียนนี้มีความสามารถ ฉันเลยอยากมาเห็นกับตา อ๋อ  อีกอย่างนะ ฉันอยากจะมาดูเด็กในสังกัดของฉันว่าไม่ได้อู้ มาเรียนแล้วไม่ขยันซ้อมอะนะ จองกุก ” 

    ประธานพูดกับนักเรียนก่อนจะหันมาเหน็บผมเบาๆ เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นได้เป็นอย่างดี

    “ แน่นอนอยู่แล้วน่า  ใครกันแน่ที่อู้ ”   ผมพูดเบาๆกับตัวเอง

    “ เอาหละ ใครได้หมายเลขหนึ่งออกมาเลย ”

    คุณครูเรียกหมายเลขหนึ่งออกไป เป็นคู่ชายหญิง  ผมว่าสองคนนี้มันต้องมีอะไรกันแน่ๆหละ  เพลงที่เลือกก็เป็นเพลงแนวคู่รัก ท่าเต้นด้วย  

    แต่ละคู่ที่ออกมาก็ค่อนข้างจะซ้ำๆ  ถ้าเป็นผู้หญิงก็ออกแนวสดใสหน่อยๆ  ถ้าชายคู่ก็เป็นพวกฮิพฮอพแข็งๆ  แมนๆ

    “  ว้าวว นี่ผ่านมาแล้วแปดคู่ โรงเรียนนี้มีนักเต้นที่ไม่ใช่เลยๆเลยนะครับเนี่ย ” รองยุนกิชม

    “ ลำดับที่เก้าออกมาได้ ” 

    เมื่อครูประกาศลำดับ ผมกับจินมองหน้ากันก่อนจะลุกขี้น 

    “  คู่นี้เป็นที่หน้าจับตามองจริงๆ  ”   ประธานพูดก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม  ผมเลยยกไหล่กลับไปให้อย่างกวนๆ

    “  พร้อมนะ ”

    “ อื้อ ”       

    ผมหันหน้าถามจิน  หมอนั่นพยักหน้าก่อนจะพูดเสียงแผ่ว  คงจะกังวลไม่น้อย  ผมเอื้อมมือไปบีบไหล่จินเบาๆให้กำลังใจ

    เสียงเพลงดังขึ้น ผมค่อยๆขยับร่างกายตามจังหวะ รวมทั้งจินด้วย

    Yes I do I do  do I do 

    Yes  I do I do  อุอู่

    ทุกคนต่างตกใจที่ผมกับจินเลือกเพลงนี้ ก็แน่หละครับ เพลงที่ผมเลือกเป็นเพลงผู้หญิงนี่นา  คนก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา แต่ผมแอบเห็นประธานหัวเราะด้วยแหละ ทุกคนกำลังคิดว่าพวกเราเต้นท่าผู้หญิงอยู่หละสิ บอกไว้เลยว่าคุณคิดผิด  ผมเอาท่ามาดัดแปลงนิดหน่อย ทำให้เป็นท่าที่ผู้ชายเต้นได้แบบไม่น่าเกลียดอะนะ

    ในช่วงสุดท้ายผมเกิดเสียหลักในท่าหมุนตัวเพราะข้อเท้ายังไม่หายดี ชนจินจนล้มลง กลายเป็นว่าท่าจบของพวกเรากลายเป็นว่าผมล้มตัวลงครอบจินอยู่ซะได้

    หน้าของเราห่างกันเพียงไม่ถึงคืบทำให้ผมมองหน้าจินได้อย่างชัดเจนรวามทั้งริมฝีปากรู้กระจับที่แสนยั่วยวนนั่นแล้ว  อึก  ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเพียงเพราะร่างกายแนบชิดกับคนตรงหน้า..

    “  เป็นอะไรที่พวกเราคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว  ไม่คิดว่าจองกุกจะมาเต้นเพลงผู้หญิงแบบนี้ ”

    เสียงประธานเรียกสติผมให้กลับมา  ผมลุกขึ้นโดยไม่ลืมที่จะดึงจินขึ้นมาด้วย   สัมผัสเมื่อกี้คงทำให้ผมทำตัวไม่ถูกไปอีกนาน  สับสนจริงๆ โว้ย!

     

    talk :  อัพแล้วๆ  อย่าหายไปไหนกันน้ารีดเดอร์   มีอะไรติชม เม้นได้เลยน้า > <

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×